ความคิดเห็นที่ 1 23 ตุลาคม 2553 - วันที่ 4 (ปาย) เสียของผมเปล่งออกมาด้วยความเหนื่อยล้า มือหนึ่งถือถุงของไข่ลวก 4 ใบที่มีบางส่วนแตกออกมา "จากนี่ไปยังตัวเมืองปายอีกไกลไหมครับ" "อีก 6 กิโลเมตรครับ เลี้ยวไปทางขวาไปตามทางเรื่อยๆ ก็ถึงเมืองแล้วล่ะครับ" "ถนนเส้นนี้ชันมากไหมครับ เพราะผมมาคนเดียวแล้วขาผมปวดมากๆ เลยครับ" "ไม่ค่อยชันแล้วนะครับ แต่ทางขึ้นก็ยังมีอยู่" หนึ่งนาทีผ่านไปตามบทสนทนา... "ค่อยๆ ไปเรื่อย โชคดีนะครับ" และแล้วผมก็หายไปโดยไม่รู้ว่าจะกลับไปถึงที่หรือต้องหยุดสังขารไว้กลางทางอย่างสิ้นหวัง... เมื่อคืนผมก็นอนไม่ค่อยเต็มอิ่มเท่าไรครับ เพราะอาจจะตื่นเต้นที่จะได้เข้าตัวเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตา บวกกับได้ร่ำลาเมืองเก่าไปตามหน้าที่ ผมก็ได้ตื่นขึ้นมาตอนตีห้าครึ่ง อากาศก็ค่อนข้างหนาวได้ที่เพราะมีผ้าห่มบนตัวผืนเดียว ในวันนี้ 23 ตุลาคม 2553 วันปิยมหาราชและวันออกพรรษาในวันเดียวกัน จะมีงานตักบาตรใหญ่บนพระธาตุดอยกองมูครับ ถือว่าเป็นประเพณีที่มีมายาวนานและตระการตามากๆ ที่ผมรีบตื่นขนาดนี้ก็เพราะว่าผมจะจับรถหวานเย็นไป ปาย ครับออกแต่เช้า แต่ผลออกมาฝนตกอีกแล้วครับ ตั้งแต่เช้าเลย ผมก็เลยนอนๆขดๆตัวไปจนกระทั่งได้เวลาหกโมงเช้า จึงรีบออกมา ข้างนอกยังไม่สว่างเลยครับ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:00:52

ความคิดเห็นที่ 2 เนื่องจากผมไม่มีของตักบาตรเลย ผมก็เลยจัดการซื้ออาหารกระป๋อง น้ำ กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็น 31 บาทแรกของวันนี้ เสร็จแล้วก็เดินไปยังบันไดขึ้นพระธาตุดอยกองมูครับ ผมก็มองแหงนไปข้างบน หมอก หมอก และหมอก รวมถึงผู้คนมากมายที่จะมารอตักบาตรครับ สำหรับคนที่มาตักบาตรนั้น เส้นทางที่พระจะเดินมาก็จากดอยข้างบนเลยครับ เดินลงมาตามทางเดินบันไดจนกระทั่งถึงจุดล่างสุด พระที่มามีประมาณ 100 รูป จากทั่วแม่ฮ่องสอนเลยครับ ถ้างานไม่ใหญ่พอก็ไม่จัดแบบนี้หรอกครับ สำหรับผมก็ขึ้นไปจุดสูงสุดครับ เพราะผมไม่มีเวลาแล้ว สำหรับทางขึ้นผมก็ตัดสินใจซื้ออาหารชุดอีกที "ซาวบาท" ครับ สำหรับอันต่อไป ระหว่าทางขึ้น จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:02:36

ความคิดเห็นที่ 3 มองไปด้านล่าง จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:03:39

ความคิดเห็นที่ 4 คนมารอกันเยอะมาก จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:04:37

ความคิดเห็นที่ 5 ผมก็ค่อยๆขึ้นมาครับ หลายครั้งที่ผมทำท่าจะลื่นเพราะฝนตก ก็เลยต้องเกาะขอบทางเดินไปบางช่วง ตอนนี้โชคดีครับผมไม่ตกแล้ว ก็ยังเดินไปเรื่อยๆ บางคนก็อยู่ที่กลางทางหละครับแล้วรอพระเดินมา แต่ผมก็ขึ้นจนถึงจุดสูงสุด ซึ่งแตกต่างจากวันที่ 21 มากๆ ครับ คนแออัดมากๆ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:05:50

ความคิดเห็นที่ 6 พระธาตุดอยกองมู หมอกลง จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:06:51

ความคิดเห็นที่ 7 ผมก็จัดการไหว้พระบรมสารีริกธาตุไปก่อนรอให้พิธีเริ่มมา จากนั้นไม่รอช้า ผมต้องใช้วิธี "แทรก" ครับ คือคนเยอะมากๆ แล้วทุกคนก็ต่อแถวหมดแล้ว รอ 30 นาทีปรากฏก็ยังไม่มา สรุปก็ต้องไปที่แออัดกว่าเดิมนั่นคือต้นทางซะเลย ผมก็ไปยืนรออยู่จนถึงเวลาเกือบๆ เจ็ดโมงครึ่ง ก็เริ่มมีขบวนออกมาแล้วครับ แต่ผมก็โดนตัดหน้าอยู่ดี ผมก็เลยไม่ได้ตักบาตรสักที สุดท้ายทนไม่ไหวก็เลยจัดการมุดแถวไปอยู่ตรงข้างหน้าเลยครับ คนที่เบียดผมมาก็ต้องหลบไปตามระเบียบ หลังจากที่ได้ตักบาตรไปผมก็ขึ้นไปถ่ายตัววัดที่อยู่ขึ้นไปอีก แล้วลงมากราบลาเมืองแม่ฮ่องสอนแห่งนี้ครับ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:07:30

ความคิดเห็นที่ 8 คนก็เยอะอย่างที่เห็นหละครับ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:08:26

ความคิดเห็นที่ 9 ผมก็รีบตรงดิ่งมาที่ที่พักเลย ได้เวลา 08.00 แต่ผมยังไม่ได้เช็คเอาท์เลยครับ ซึ่งรถผมจะออก 08.30 แล้ว ดีครับที่สวนกับเจ้าของเกสต์เฮาส์ ก็เลยได้เช็คเอาท์ ผมก็เดินมาสะพายเป้ใหญ่ที่ห้องพัก แล้วมุ่งหน้าไปสู่สถานีขนส่งเลยครับ สำหรับที่พักก็หมดไป 330 บาท (150+150+30อาหารเช้า1มื้อ) ผมก็เพิ่งมารู้ว่าสองคนข้างห้องผมก็ออกจากที่นี่ด้วย แต่ทั้งคู่ไปลงเชียงใหม่เพื่อเที่ยวภาคใต้ต่อครับ และพวกเขาก็ขึ้นรถตู้ 09.00 ครับ ก็เลย say nice to meet you...goodbye อย่างปลอดภัย วันนี้ก็ไม่ได้ทานอาหารเช้าไป อาศัยขนมปังที่แจกบนรถทัวร์เมื่อวันก่อนแทนอาหารมื้อๆ พอมาถึงผมก็เดินสอบถามตารางรถ เพื่อแน่ใจว่ารถบัสมา 08.30 จริง คนขับก็บอกเดี๋ยวมาแล้ว ไม่ถึง 1 นาที รถบัสก็มาแล้วครับ หวานๆ เย็นๆ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:09:29

ความคิดเห็นที่ 10 ข้างๆ ก็มีรถตู้ไปปาย+เชียงใหม่ด้วยครับ นั่ง 3 ชั่วโมงซึ่งเร็วกว่าบัสอยู่ 30 นาที แต่ผมเอารถบัสครับ เพราะจะได้ไม่เมารถ+เห็นวิวได้ตลอดทาง ถ้าเป็นรถตู้ มีคนบอกว่าไม่เมาก็หลับล่ะครับ ผมก็เลือกตำแหน่งด้านหน้าๆ เพื่อสะดวกในการถ่ายภาพ (แต่ผมก็เลือกผิดฝั่งเอาจนได้ ไปเลือกฝั่งขวาของรถซึ่งไม่ค่อยมีวิว) ถ้าอยากจะดูวิว+ถ่ายรูป จากแม่ฮ่องสอนไปทางเชียงใหม่เลือกฝั่งซ้ายนะครับ ด้านนี้จะมีจุดชมวิวด้วย แต่รถตู้+บัสไม่จอด จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:10:00

ความคิดเห็นที่ 11 เข็มสั้นชี้ระหว่างเลข 8 กับ 9 และเข็มยาวชี้เลยๆ เลข 6 มานิดก็ได้ออกเดินทาง 3 ชั่วโมงครึ่งครับ คนขับก็เปิดเพลงตลอดทาง คราวนี้ผมไม่หนวกหูแล้วครับ เพราะผมก็ไม่เมารถ จึงไม่อยากหลับครับ รถโดยสารก็รับคนระหว่างทางครับ ที่ว่างก็ยังเหลืออยู่มาก ก็นึกถึงคนท้องที่ที่แบกสัมภาระ เลือกที่นั่งแล้วเดินทางแล้ว ได้สัมผัสกับชีวิตความเป็นอยู่คนต่างจังหวัด ก็รู้สึกสุขใจขึ้นมาทันทีทันใด ข้ามเขาลูกแล้วลูกเล่า โค้งแล้วโค้งเล่า อากาศก็เย็นลงๆๆ ผ่านจุดชมวิวกิ่วลมไปแล้ว นั่งไป 1548 โค้ง ในที่สุดก็ถึง อ. ปางมะผ้าแล้วครับ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:10:43

ความคิดเห็นที่ 12 ใกล้ถึงปางมะผ้า จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:11:14

ความคิดเห็นที่ 13 รถก็จอกแวะพักที่นี่บวกกับให้ผู้โดยสารขึ้นลง ทันใดนั้น กองทัพคนที่จะมาขึ้นมากันขโยงเลยครับ ทีนี้เอาไงดีเนี่ย จากรถว่างๆ กลายเป็นมีคนยืนทันทีทันใด ผมก็แย่สิครับ ต้องแบกกระเป๋า 42 ลิตรไปตลอดทางหรอนี่ และยิ่งไปกว่านั้น รถตู้ที่ออกหลังจากผม 30 นาีทีดันมาทันและจอดที่นี่อีก ผมก็ได้เจอกับสองคนที่พักข้างห้องผมกับอีกแล้ว แต่เวลาไม่มากครับ ก็จะต้องขึ้นไปต่อ อ. ปาย ตอนนี้ก็มีผู้โดยสารเป็นกองทัพแออัดบนรถ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:13:38

ความคิดเห็นที่ 14 ถ่ายรูปมาเรื่อยจนพอใกล้ถึงปาย ฝนก็ตกลงมาอีกสักพัก สังเกตได้จากความดำของเมฆ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:15:20

ความคิดเห็นที่ 15 จากนั้นก็เห็นป้ายท่าอากาศยานปาย เป็นสิ่งที่แสดงว่ามาถึงเมืองปายกันแล้ว ก็เข้าที่พักที่จองไว้ครับ บ้านแสงเฮือนราคา 300 บาทต่อคืน เป็นบ้านเดี่ยวๆ มีห้องน้ำในตัว ข้างในบรรยากาศค่อนข้างดีครับ และที่สำคัญ เดิน 5 นาทีจากสถานีรถถึงที่พักแล้วสะดวกครับ และแล้วผมก็ได้รวบรวมความกล้าที่ผมได้สะสมมาก่อนมาที่นี่ออกโรงเที่ยวแล้วครับ บริเวณท่ารถ อ.ปาย จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:16:12

ความคิดเห็นที่ 16 ที่พักของผม บรรยากาศถือว่าดีทีเดียว จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:17:01

ความคิดเห็นที่ 17 ในห้อง จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:17:29

ความคิดเห็นที่ 18 เวลาต่อจากนี้ ผมได้วางแผนไว้ว่าผมจะปั่นจักยานรวมระยะทางทั้งสิ้น 28 กิโลเมตรเพื่อเที่ยวรอบๆ เมืองปายและรอบนอกด้วยครับ! และก็เป็น 6 ชั่วโมง ที่ทรมานที่สุดและโง่ที่สุด โง่ตั้งแต่ที่ผมไม่ตัดสินใจกินอาหารกลางวันก่อนเที่ยวเลยครับ ระทึกแต่แรก กะจะไปหากินที่กลางทางเอา เอ้าในเมื่อกล้าตัดสินใจ ผมก็เดินออกมาจากที่พัก แล้วมองไปที่วัดป่าขามก่อนครับ เป็นวัดทรงไทใหญ่ที่อยู่ติดที่พักของผม แต่ผมทำเวลาครับวันนี้ก็ได้แต่ชะโงก และแล้วก็พาตัวเองเข้าร้านเช่าจักรยานใกล้ๆ ที่พัก ก็มีจักรยาน 50 กับ 70 บาทครับ ผมก็เลือ 70 บาทเพราะจะลุย+ถึกคงไม่เอาถูกๆ ไปแน่ๆ ผมก็ถามร้านเช่าครับว่าขี่จักรยานไปเส้นทางไหนดี พี่ผู้หญิงของร้านก็แนะนำให้ครับว่ามี 2 เส้นทางหลักๆ ที่จะไป ก็คือ 1. ไปทางวัดน้ำฮู แล้วมุ่งไปยังหมู่บ้านสันติชล เป็นหมู่บ้านจีนยูนนาน ออกจากปายประมาณ 5 กิโลเมตร 2. ไปทางแม่ฮี้ เป็นเส้นทางผ่านทางขึ้นพระธาตุแม่เย็น ไปทางน้ำพุร้อนท่าปาย ระยะทางไปก็ 6 กิโลเมตรครับ "ทั้งสองเส้นทางไม่ค่อยชันมากค่ะ ขี่ได้สบายๆ เลย แต่ก็หยุดพักบ้างก็ดีนะคะ ระวังเป็นตะคริว" ก็จัดแจงครับ เลขหลักเดียว ง่ายสิครับ คิดในใจ "แล้ว 28 กิโลเมตรมันเพิ่มจากไหนเยอะแยะหละครับ เลขที่เจ้าของแนะนำมามันหลักเดียวหนิ อะไรกัน" และนี่คือเส้นทางที่ผมจะไปครับ ที่ผมจะเป็นเสือภูเขาชั่วคราว 1 วัน คงตอบได้ว่ามันเพิ่มมาจากไหนเยอะแยะมากมาย ปัญหาก็คือร้านที่ผมไปจองแผนที่ดันหมด ผมก็เลยต้องกลายเป็นแบกหนังสือเที่ยวไทยหนักๆ ไปแทน ก็ไม่เป็นไรครับ ถือว่าหนักนิดหน่อยไม่กังวลอะไร และแล้วกระผมได้รวบรวมสมาธิทั้งหมดไว้ในเท้าทั้งสองของผม ทุกอย่างในตัวผมต้องนี้มีแต่การเที่ยวรอบๆตัวเมือง และแล้วในที่สุด เท้าทั้งสองได้เริ่มออกเดินทางปั่นจักรยานเป็นเสือภูเขา ค่อยๆ ออกไปจากเมืองปายไปเรื่อยๆ และลับหายไปกับถนนและภูเขา จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:19:15

ความคิดเห็นที่ 19 สถานที่ทั้งหมดที่ผ่านในการปั่นจักรยาน 1. วัดน้ำฮู ทางปั่นทางแรกที่ผมจะไปดูก็คือไปเส้นทางหมู่บ้านจีนยูนนานครับ ซึ่งทางที่ผ่านไปยังหมู่บ้านจีนยูนนานนั้นก็จะมีวัดชื่อดังวัดหนึ่งใน อ. ปาย ซึ่งก็คือวัดน้ำฮู วัดน้ำฮูเป็นวัดที่อยู่ห่างจากตัวเมืองเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร ทางตะวันตก ในวัดก็จะมีสิงศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชื่อว่าหลวงพ่ออุ่นเมืองครับ วัดน้ำฮู้ซึ่งมีพระพุทธรูปที่ชาวเมืองเรียกกันว่าหลวงพ่ออุ่นเมือง ซึ่งไม่เหมือนกับพระพุทธรูปใดๆ เพราะยอดพระเกศสามารถยกขึ้นได้เหมือนฝาผะอบ ตัวพระเศียรเองภายในกลวง แค่นี้ยังไม่แปลกหรอกครับ ของจริงที่ว่าก็คือในเศียรของหลวงพ่ออุ่นเมืองน้ำขังอยู่ด้วยครับ โดยได้เคยมีการพิสูจน์กันมาแล้วว่า หลังจากที่ได้มีการตัดน้ำ ออกจากพระเศียรของท่านจนหมดแล้ว ทำการปิดวิหาร ห้ามเข้าออก เมื่อมาเปิดดูในพระเศียรของท่านก็จะมีน้ำ ก็เลยเป็นที่มาของชื่อวัดน้ำฮูแห่งนี้ครับ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:19:32

ความคิดเห็นที่ 20 ผมก็ได้ออกจากร้านเช่าจักรยานไปทางตะวันตก (โรงพยาบาลปาย) ก็ได้เจอกับป้ายอันโด่งดังครับ "สถานที่ถ่ายทำ ปายอินเลิฟ" พร้อมรูโบ๋ตรงกลางสำหรับคน ซึ่งสตั้งอยู่บนสี่แยกมีชื่อว่า "ปายหนาว" ครับ (ไม่รู้ว่ามีมานาน หรือคนมาแต่งให้กันแน่) และเป็นที่ตั้งของร้าน Starbuck's Coffee ปายอีกด้วย จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:20:20

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่รอช้าก็ไปกันต่อครับ ตอนแรกก็ไม่นึกว่าจะลำบากแสนเข็ญอะไร แต่เมื่อผ่านโรงพยาบาลไป พระเจ้าช่วย ทางชันขึ้นตลอดเลยครับ! อุตส่าห์ไม่คิดมาก แต่ดันเจอทางลาดชันพอสมควร เกียร์ต่ำสุดผมยังขับช้ามากๆ เลย (ไม่ได้ฝึกซ้อมมาครับ) เลยต้องค่อยๆ ปั่นไป เอาเป็นดูวิวไปแทนละกัน จะได้ชดเชยกับความเมื่อยที่เริ่ม และแล้วก็มีเหตุอัศจรรย์มาอีกรอบครับ ระหว่างที่สองขาปั่รนและสองตาชมภาพ ในขณะนั้น... พระเจ้าช่วย ฝนตกลงมาแรงเลยครับ! ตัวใครตัวมันละทีนี้ เหลือระยะทางประมาณกิโลเดียว แต่ดันตกลงมา คนข้างทางก็จ้องมองผมด้วยความงงละทีนี้ "ทำไมฝนตกเจ้านี่มาขี่จักรยานอ่ะเนี่ย" สรุป วิวข้างทางอดดูครับ เมื่อยก็เมื่อยครับ แถมตัวเปียกแบบสุดยอดๆ เปียกทั้งตัวจริงๆ ครับ แต่ก็ต้องทำเวลา ก็ได้มาถึงวัดอย่างยากเย็น จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:20:44

ความคิดเห็นที่ 22 ระหว่างทางผ่าน วัดหัวนา แต่ก็ไม่ได้เข้าไปดู จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:21:42

ความคิดเห็นที่ 23 ผมก็ไปไหนไม่ได้ละคราวนี้ ก็อาศัยในวัดนั่นหละทำให้ตัวแห้ง รอมาสักพักฝนก็หยุดตก ก็ได้กราบไหว้พระพุทธรูปหลวงพ่ออุ่นเมืองประจำวัดน้ำฮู โดยได้ขอให้ผมทำ "ภารกิจ" ของผมให้สำเร็จลุล่วงครับ ซึ่งจะปั่นให้ได้ครับ 28 กิโลเมตรในวันปิยมหาราช จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:22:37

ความคิดเห็นที่ 24 แต่นี่เพิ่งมาได้แค่ 3 กิโลเมตรนะครับ เมื่อยซะแล้ว ฝนตกลงมาก็แล้ว ทำอย่างไรได้ครับ เมื่อทุกอย่างพร้อมผมก็ได้เวลาไปต่อที่ที่ต่อไป ลืมไปมีพระนเรศวรฯ ด้วยนะครับ อยู่ในศาลาแห่งนี้ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:23:39

ความคิดเห็นที่ 25 2. หมู่บ้านสันติชล (ศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน) ผมก็ได้ปั่นต่อไปอีก 2 กิโลเมตร มายังที่ต่อไปนั่นก็คือหมู่บ้านสันติชลหรือหมู่บ้านจีนยูนนานนั่นเอง แต่ก่อนพื้นที่นี้ไม่มีอะไร เป็นแค่ชาวยูนนานที่อพยพมายังเมืองปาย แต่หลังจากที่ปายเริ่มได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากขึ้น หมู่บ้านก็ได้ปรับปรุงขึ้นจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโดยปริยาย สถาปัตยกรรมก็จะ เหมือนกับที่หมู่บ้านรักไทยที่ได้ไปเที่ยวเมื่อวาน ใช้วิธีก่อเรือนเหมือนกันคือดินผสมฟาง ผมก็ได้พาจักรยานไปอีก แต่ทางก็เหมือนเดิมครับ ขึ้นเขาตลอด ขึ้นเขาจนผมต้องถามคนพื้นที่เลยครับว่าอีกไกลเท่าไร (เผื่อจะตัดใจ 555) ไม่นานนักผมก็ถึงหมู่บ้านจีนยูนนานครับ ผมก็จัดการหาที่จักรยานจอดแล้วเดินผ่านรถมอเตอร์ไซค์บ้าง รถส่วนตัวบ้าง รถตู้นำเที่ยวบ้าง รวมไปถึงร้านขายของฝากด้านหน้า ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านขายลูกชิ้นปิ้งหมูยอ (มาด้วยหรือ) ไปถึงด้านหน้าหมู่บ้านครับ ก็จัดการถ่ายรูปด้านหน้าแล้วบริเวณรอบ อันนี้ด้านหน้าหมู่บ้าน แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 53 10:26:57 จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:24:57

ความคิดเห็นที่ 26 ป้ายใหญ่ๆ ซึ่งผมอ่านไม่ออก สังเกตว่าแสงในรูปจะกระเจิงซึ่งเป็นผลมาจากเลนส์กล้องเปียกฝน จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:26:09

ความคิดเห็นที่ 27 เดินเข้าไปข้างในผมก็ได้รู้เลยครับว่านักท่องเที่ยวนิยมมากขนาดไหน มองทางซ้ายเป็นร้านอาหารจีนโปร่งอากาศ มองทางขวาเป็นร้านของฝากอลังการ บรรยากาศ อีกรอบ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:30:21

ความคิดเห็นที่ 28 มองไปตรงกลาง ชิงช้าของยูนนานตั้งสูง เป็นของเล่นของชาวยูนนานครับ ชิงช้าที่ใช้แรงคนเพียงไม่เท่าไร จะมีก็เสียงเจ้าหน้าที่เอะอะดึงดูดลูกหลานให้มาเล่นครับ ผมแนะนำว่า ควรเล่นเจ้าชิงช้าสูงๆ นี้ก่อนที่อาหารจะลงท้องนะครับ มิฉะนั้นจะเสียวทั้งตัวและท้อง ไม่รับประกันความปลอดภัย จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:30:42

ความคิดเห็นที่ 29 ถัดมาก็ไปดูร้านของฝากยูนนานครับ ก็เป็นร้านที่ขายลูกปัด สร้อย ที่ห้องโทรศัพท์ต่างๆ และจี้หยกจี้มงคลต่างๆ ใกล้ๆ ก็จะมีชาให้ชิมและซื้อครับ (แต่แพงเอาการ) สุดท้ายที่ผมชื่นชอบมากที่สุดก็คือผลไม้ยูนนานครับ ที่ผมชอบไม่ใช่ว่ามันอร่อยอย่างเดียวและมีชื่อแปลกๆ เช่นบ๊วยความรัก บ๊วยสมหวัง บ๊วย ฯลฯ (กินแล้วคงเป็นจริง) แต่ผมไม่ได้กินอาหารกลางวันมา มือขวาของผมก็จัดการ หยิบชิมๆๆ หยิบไปตลอดไม่เกรงใจร้านเลย และดีสุดๆ ที่มีชาชิม กินไปดื่มไป นี่ไงครับของฟรีมีในโลก! (คนอื่นรู้แล้วอย่าทำนะครับ มันเป็นการเสียมารยาทมากๆ เป็นการอุดหนุนร้านโดยที่เราไม่เสียเงินแม้แต่แดงเดียว) จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:32:02

ความคิดเห็นที่ 30 มีที่หยอดโปสต์การ์ดด้วย จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:33:02

ความคิดเห็นที่ 31 ถัดมาก็เป็นร้านอาหารยูนนาน แต่ผมไม่กินครับ ไม่ใช่เพราะผมสวมบทบาทนักชิมมากเกิน แต่ผมก็ไม่อยากเสียเงินไปมากครับ ใกล้ๆก็จะมีร้านขายผลไม้โดยเฉพาะ แต่รอบนี้คงเพราะสำนึกผิดได้ ผมอุดหนุนบ๊วยความรักไปถุงละ 80 บาท บวกกับของฝากเพื่อนๆ ญาติๆ รวมแล้วจ่ายไป 200 จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:33:30

ความคิดเห็นที่ 32 นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอย่างอื่นอีกมากมายครับ เช่น การแสดงต่างๆ ขี่ม้า และพักเกสต์เฮาส์ครับ ใครสนใจก็อาจจะมาติดต่อกันได้ อันนี้คือบริเวณเกสต์เฮาส์ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:34:54

ความคิดเห็นที่ 33 บริการขี่ม้า จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:35:28

ความคิดเห็นที่ 34 ผมก็ได้เสร็จภารกิจไปอีกที่หนึ่ง ก็ได้เวลาบอกลาเจ้ามังกรพันหลักหน้าหมู่บ้านแล้วกลับเข้าเมืองต่อ จากที่ผมได้ลำบากตรากตรำขี่ขึ้นเข้ามา คราวนี้สบายเลยครับ เป็นทางลงตลอด ปล่อยสองเท้า ยืดได้ตามสบาย แตะเบรกเป็นระยะ ระหว่างทางก็ถ่ายรูปเหมือนเดิม เพิ่มเติมนิดหนึ่ง น้ำตกหมอแปงก็อยู่ในเส้นทางนะครับ แต่เลยหมู่บ้านไปอีกไกลและทางก็ขึ้นเขาชันเหมือนเดิม ผมก็เลยไม่ตัดสินใจไป เพราะเวลาของผมไม่ทันเที่ยวที่อื่น ในที่สุดก็ผ่านวัดน้ำฮู กลับมายังแยก ปายหนาว ตั้งแต่เริ่มมารวมทั้งสิ้น 10 กิโลเมตรจาก 28...ไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:36:30

ความคิดเห็นที่ 35 3. Coffee in Love "ขอโทษครับ ไปทางสะพานประวัติศาสตร์ อีกไกลไหมครับ" "ไกลมากนะหนู จากนี่ก็อีกประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นทางที่ไปเชียงใหม่นะ" "..." บทสนทนาข้างต้นเกิดขึ้นหลังจากที่ผมเลี้ยวขวาที่แยกปายหนาวเพื่อลงใต้ไปทางสะพานประวัติศาสตร์ที่ถามป้าขายร้านก๋วยเตี๋ยว คำพูดจากป้าทำให้ผมตัวสั่นมากๆ เพราะผมเริ่มเหนื่อยจากการปั่นขึ้นเขาเส้นทางศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน และก็เริ่มรู้สึกแข็งๆ ที่ขาบ้างแล้ว ในแวบนั้นผมก็ตัดสินใจ เอาไงก็เอากัน ยกเลิกก็ได้ ไปแค่ Coffee in Love ไปดื่มโกโก้ร้อนชมวิวข้างบนสักแปป แล้วกลับมาในเมืองก็ได้ ซึ่งตัดสินใจจากสภาพกายภายนอกของผม ผมก็ได้มุ่งหน้าไปยัง Coffee in Love เป็นที่ต่อไป ใช่ครับ ผมจะปั่นไปเชียงใหม่เลยครับ เอาไงเอากัน ไปกันเลย... จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:37:05

ความคิดเห็นที่ 36 ไปเชียงใหม่.. จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:44:28

ความคิดเห็นที่ 37 ผ่านทางแยกเมืองปายด้านใต้มา แรกๆ ก็ไม่หนักใจ ทางลงเขาตลอดเหมือนที่ผ่าน ก็สบายครับ ขับไม่ต้องใช้แรงมาก ผ่านรีสอร์ท ผ่านหมู่บ้านต่างๆ แต่พอจะถึงละครับ ทางขึ้นทันทีเลยครับ และปัญหาก็คือทางชันกว่าเดิมครับ ผมก็ปั่นไม่ไหวอีกแล้ว แต่คราวนี้มาจริงครับ นาทีระทึกที่ผมปั่นไม่ได้ ผมเริ่มเปลี่ยนตัวเองจากสิงห์นักปั่น นักปั่นเสือภูเขา เป็นเสือพ่อค้าใส่เท้ากีบเลยครับ! คือผมต้องลากจักรยาน เบอร์ 46 ไม่ทราบยี่ห้อรุ่นราคา 70 บาท/วัน ขึ้นเขาร่วมๆ เกือบกิโลเมตร เพื่อไปยังร้าน Coffee in Love ที่อยู่สูงขึ้นไป จาก Cycling กลายเป็น Hiking ขึ้นยางมะตอยในชั่วพริบตาเดียว จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:44:53

ความคิดเห็นที่ 38 มารอดูต่อจากภาค1ครับ สวยดีครับ ^^ จากคุณ : poom7099 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:47:58

ความคิดเห็นที่ 39 และแล้วก็มาถึงจนได้ ก็จัดการจอดจักรยาน ถ่ายรูป "บ้าน" ที่มีวิวทุ่งหญ้าและภูเขาเป็นฉาก และผมก็จะมาถ่ายป้าย Coffee in Love ใหญ่ๆ แบบสวยๆ แต่หารู้ไม่ มีคนเพียบ ผมก็อยากจะถ่ายมุมดีๆ เป็นคล้ายๆ ภาพวิวลงนิตยสาร แต่คนกลุ่มหนึ่งออกไป อีกกลุ่มก็เข้ามาทันที ผมก็เลยจำใจถ่ายไปแบบติดคน จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:48:21

ความคิดเห็นที่ 40 ป้าบใหญ่ๆ กับนักท่องเที่ยวมากมาย จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:53:00

ความคิดเห็นที่ 41 และที่ข้องใจมากๆ คือเรื่องของ "หลักกิโลเมตร" เป็นธรรมดาที่ทุกคนแห็นหลักกิโลเมตรแปลกๆ ย่อมถ่าย แต่ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเมืองสามหมอก ทำหลักกิโลเมตรไว้หลากหลายมากๆ ทุกขนาด แถมของฝากก็ยังทำเป็นหลักกิโลเมตรพวงกุญแจ กระปุกออมสิน ฯลฯ โด่งดังมากๆ ครับจังหวัดนี้กับหลักกิโลเมตร จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:53:45

ความคิดเห็นที่ 42 ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นร้านอาหารจีนยูนนานโปร่งลมซึ่งคนที่มาแวะที่ Coffee in Love จะได้กินอาหารจีนกันด้วย จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:54:35

ความคิดเห็นที่ 43 ผมก็ได้เข้าไปในตัวร้านครับ สั่งโอวัลตินร้อนมา 40 บาท ค่อยๆ ดื่มและมาพิจารณาอีกทีว่าจะไปถึงสะพานประวัติศาสตร์ดีไหม ระหว่างนั้นได้พักผ่อนใจเต็มที่ แต่ 40 บาทดื่มสักพักก็หมดครับ ผมก็จัดการต่อ ข้างๆ ผมมีที่กดน้ำเย็น ผมก็เอาเลยครับ กดมาอยู่ 2 แก้วเต็มๆ ได้เพิ่มเวลาพักผ่อนไปในตัว ต่อจากนั้นได้เดินชมอีกรอบก่อนที่จะไปที่ใหม่ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:55:21

ความคิดเห็นที่ 44 ถ่ายจากบริเวณร้าน จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:56:43

ความคิดเห็นที่ 45 4. กองแลน (Pai Canyon) "ไปสะพานประวัติศาสตร์ อีกกี่กิโลเมตรครับ ทางเป็นแบบไหน" "อีกประมาณ 7 กิโลเมตรครับ แต่ทางส่วนใหญ่เป็นลาดลงนะ แต่ขึ้นก็มีบ้าง ขับดีๆ ละกัน" จากยามหน้าร้าน Coffee in Love ในตอนแรกที่ผมบอกกับตัวเองว่า ไปถึง Coffee in Love แล้วกลับเมืองดีกว่า ก็เลยได้คิดอีกว่า เลยมาถึงเส้นทางก็ให้มันจบๆ ไปเลย ก็เลยเป็นที่มาของการไปต่อ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:57:08

ความคิดเห็นที่ 46 ขาผมก็อยู่ในสภาพที่ดีแล้วครับ ได้เวลาไปต่อในเส้นทางสะพานประวัติศาสตร์ 7 กิโลเมตรจากตัวเมืองคือกองแลน หรือหุบเขาปาย อันนี้คือระหว่างทาง วัดพระธาตุจอมแจ้ง จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:59:17

ความคิดเห็นที่ 47 ระหว่างทางที่ไปต่อผมก็อาศัยขี่เป็นระยะ ลากเป็นระยะ โดยรวมจะขี่ตอนลงเขาและลากตอนขึ้นเขา สรุปก็คือ จักรยานสำหรับผมเป็นเครื่องทุ่นแรง+เวลาตอนลงเขา ส่วนตอนขึ้นเขา ก็กลานเป็น Hiking ไปอย่างเต็มตัว โดยต้องลากจักรยานไปด้วยนี่สิ แล้วจะเช่ามาทำไม จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:00:11

ความคิดเห็นที่ 48 ง่ายๆ ครับ กอง คือ กองดิน หรือทางดินสัญจร แลน คือตัวตะกวด ชื่อมาประกอบกันเป็น กองแลน แปลว่าสถานที่ที่ตัวตะกวดสัญจรไปมา สำหรับธรรมชาติของที่นี่เกิดจากการกัดกร่อนของดิน และการทรุดตัวโดยธรรมชาติก่อให้เกิดทางเดินที่ดินรอบข้างเป็นเหวลงไป ซึ่งเป็นสถานที่ที่งดงามมากครับถ้าใครได้มาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ (สถานที่คล้ายๆ ก็จะมี แพะเมืองผี จังหวัดแพร่) บริเวณที่จอดรถ ที่ขายของฝาก ทางขึ้นไปยังกองแลน จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:02:04

ความคิดเห็นที่ 49 ป้ายยินดีต้องรับ...เอ่อ ยังไงอยู่นะ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:03:29

ความคิดเห็นที่ 50 ผมมาถึงก็ต้องเดินขึ้นไปยังบริเวณหุบเขาครับ  ซึ่งไม่ค่อยไกลมากเท่าใด ผมก็ได้มาเจอป้าย "สถานที่ถ่ายทำ ปายอินเลิฟ" เป็นครั้งที่ 2 ระหว่างทางขึ้น จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:08:07

ความคิดเห็นที่ 51 ป้ายหฤหรรษ์ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:08:33

ความคิดเห็นที่ 52 เอ่อ...อีกแล้วหรือเนี่ย จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:09:12

ความคิดเห็นที่ 53 ตอนขึ้นมาก็มีคนขึ้นมาอยู่แล้วแต่ตอนนี้จะน้อยครับ เพราะยังไม่ถึงเวลาพระอาทิตย์ตก โดยกิจกรรมด้านบนก็จะมีการเดินไปตามหุบเขาปายครับ แต่สภาพอากาศคงไม่เป็นใจเท่าใดนัก เพราะยังร้อนระอุอยู่มาก ฤดูหนาวก็ยังไม่มี ผมก็เลยไม่ได้เดินครับ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:10:35

ความคิดเห็นที่ 54 ทิวทัศน์มองไปยังโป่งน้ำร้อนท่าปาย (จุดหมายอีกจุกที่จะไป) จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:12:17

ความคิดเห็นที่ 55 หุบเหวที่เกิดจากการทรุดตัวและการกัดกร่อนของลม ฝน ฯลฯ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:13:32

ความคิดเห็นที่ 56 โดดเดี่ยวเดียวดายท่ามกลางแสงอาทิตย์ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:14:54

ความคิดเห็นที่ 57 อยู่ไม่นานลงมาด้านล่างบริเวณที่จอดรถแล้วถามถึงคนที่อยู่ด้านล่าง ก็ได้ความมาว่า สะพานประวัติศาสตร์อยู่ไม่ไกลจาก Pai Canyon เลยครับ อีกแค่ประมาณ 2 กิโลเมตรก็จะถึงตัวสะพานกันแล้ว ข่าวดีสุดๆ ของผมก็คือเป็นทางลงหมดเลยครับ ไปต่ออย่างไม่กังวล จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:15:20

ความคิดเห็นที่ 58 5. สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย ในที่สุดผมก็มาถึงจุดหมายที่ผมตั้งใจไว้แล้วครับ ขี่จักรยานมาถึงด้านล่างซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำปาย มีร้านค้า ร้านของฝาก และรถทัวร์ รถส่วนตัวจอดอยู่เต็มเลยครับ สถานที่ที่มีชื่อเสียงมากด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างสมฐานะ 10 กิโลเมตรจากปายไปทางใต้บนทางหลวงหมายเลย 1095 กิโลเมตรที่ 88 สะพานประวัติศาสตร์ท่าปายแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง โดยกองกำลังทหารจากญี่ปุ่น ซึ่งตอนนั้นทำสัญญากับกับไทยว่าจะใช้ประเทศไทย เป็นทางผ่านลำเลียงอาวุธไปยังพม่าโดยข้ามแม่น้ำปาย (คล้ายๆ กับทางรถไฟสายมรณะข้ามแม่น้ำแควในจังหวัดกาญจนบุรี) และหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองก็ถือว่าเป็นประตูสู่เมืองปาย ด้วยความเก่าแก่ของสะพานนี้ บวกกับเมืองปายเป็นเมืองท่องเที่ยว ทำให้มีสะพานคอนกรีตสร้างขึ้นมาทดแทน แต่อย่างไรก็ตามสะพานนี้ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ไปแล้วครับ (เจอสะพานถ้ามาจากเชียงใหม่เข้าปายนะครับ มาจากแม่ฮ่องสอนอย่างผมจะเจอเมืองก่อน) จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:16:56

ความคิดเห็นที่ 59 ผมก็ได้เจอป้ายหฤหรรษ์อีกแล้วครับ "สถานที่ถ่ายทำ ปายอินเลิฟ" 3 ครั้งในวันนี้ แต่ปัญหาก็คือ ยิ่งตกเย็นคนก็ยิ่งมาก ตอนนี้บนสะพานคนอยู่เยอะมากๆ ทำให้เสียรสไปหน่อย แต่ถ้าลองมองข้างทางให้ดีจะพบกับแม่น้ำปายตัดกับขุนเขาและชายฝั่งสุดจะบรรยายครับ ใครหามุมถ่ายรูปอยู่ก็ลองมาแถวนี้ แต่คนจะมากหน่อยถ้าเป็นฤดูท่องเที่ยว (ผมไม่ได้ถ่ายป้ายหฤหรรษ์จากที่นี่เลยครับ เพราะคนไม่ขยับออกให้ผมถ่ายแค่ป้ายเลย ก็เลยไม่ได้นำมา) จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:19:24

ความคิดเห็นที่ 60 ตัวสะพานประวัติศาสตร์ ทอดตัวข้ามลำน้ำปาย จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:20:42

ความคิดเห็นที่ 61 ภาพแม่น้ำปาย จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:21:19

ความคิดเห็นที่ 62 ในที่สุดผมก็ถึงจุดหมายที่ตั้งไว้ครับกับสะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย 19 กิโลเมตรจาก 28...ทางกลับต่อจากนี้??? จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:21:55

ความคิดเห็นที่ 63 6. โป่งน้ำร้อนท่าปาย สถานที่นี้เกิดขึ้นมาเพราะว่ามันอยู่ในทางกลับครับ แล้วนักท่องเที่ยวก็มากันพอสมควร ผมก็ได้โอกาสแวะเข้าไปดูด้านในก่อนที่จะกลับเข้าเมืองต่อไป เวลา 16 นาฬิกาตรง ผมได้กลับมาเอามือจับจักยานอีกรอบ อ้อมขาขึ้นคร่อมตัวจักยาน ขาหนึ่งนำขึ้นมายังตัวถีบ อีกขาหนึ่งส่งแรงให้ตัวผมทรงตัว แล้วผมก็ได้เท้าทั้ง 2 ส่งแรงจากเท้าไปยังตัวถีบ มุ่งหน้าสู่ทางกลับอีกเส้นทางหนึ่งที่ชันน้อยกว่าเดิมและเงียบลงกว่าเดิม ก่อนที่ผมจะเข้าถนนเล็กๆ ซึ่งเป็นทางกลับไปเมือง ขาผมก็รู้สึกแปลกๆ แข็งทื่อ ไม่มีแรง กล้ามเนื้อทุกส่วนตรงต้นขาตีกันจนผมปั่นต่อไปไม่ไหว และแล้ว ตะคริวที่ต้นขาก็ได้กินผมทั้ง 2 ข้าง ทำให้ผมต้องหยุดลง ทรุดตัวลงกับพื้น ข้างๆ ถนนสายเชียงใหม่-ปายในสภาพอากาศที่แดดแรงและร้อนเผา และผู้คนที่นั่งอยู่บนรถต่างๆ ไม่มีโอกาสได้หยิบยื่นมือผมช่วยแม้แต่น้อย ผมจะกลับถึงที่พักได้ไหม ตัวผมตอนนี้อยู่คนเดียว... จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:22:33

ความคิดเห็นที่ 64 ใช่ครับ ผมเป็นตะคริวที่ต้นขาทั้ง 2 ข้างเลยทีนี้ ผมลุกไม่ไหวแล้ว เดินไปไหนไม่ได้ ยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่ได้ติดมา ผมก็เลยรอเวลาครับ นวดขาๆๆ ด้วยตัวเองไม่มีใครช่วย นั่งอยู่หลายนาทีได้ ทีนี้ผมห่างจากตัวเมืองมามากและอยู่ด้วยตัวเอง และจะต้องขึ้นลงเขาอีกมาก ถึงตอนนี้ก็ต้องก้มหน้า เดินเข้าไปในถนนเล็ก พร้อมกับจูงจักรยานไปร่วมๆ 2 กิโลเมตรเพื่อเข้าสู่โป่งน้ำร้อนท่าปายแห่งอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:26:47

ความคิดเห็นที่ 65 โป่งน้ำร้อนท่าปายแห่งนี้ สภาพแวดล้อมทั่วไปเป็นป่า จะมีบ่อน้ำซึ่งมีอุณหภูมิสูงถึง 80 องศาเซลเซียส ที่สามารถลวกไข่ไปกินกันได้เลย และจะมีลำน้ำที่มาจากโป่งน้ำร้อนบริเวณเดียวกันที่ไหลมาจากป่าให้ผู้คนได้ลงไปเล่นน้ำ แช่น้ำอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ยังมีที่กางเต็นท์บริการ อีกอย่าง ตรงด้านหน้่าทางเข้าโป่งน้ำร้อนก็มีบ่อน้ำร้อนด้วยนะครับ แต่อย่าลงไปแช่ของฟรีนะครับ ไม่งั้นเดี๋ยวสุกกันหมด พอถึงทางเข้าสถานที่เท่านั้นละครับ กล้องถ่านหมด คราวนี้เป็นตะคริวไม่พอ ถ่านกล้องมาหมดกลางทางอีก ผมว่าตัดสินใจกลับที่พักแล้วนอนดีกว่า งานหนักขนาดนี้ทั้งที ผมก็ได้จ่ายเงินเข้าโป่งน้ำร้อนราคา 20 บาท เข้าไปก็มีคนลงเล่นน้ำกันอยู่มากมาย แต่ถ้าจะไปลวกไข่ที่บ่อ 80 องศาจะต้องเดินเข้าไปอีก 500 เมตร ไข่ผมก็จัดการซื้อที่บริเวณร้านค้าในราคา 20 บาท เป็นไข่ไก่ 4 ฟองแถมน้ำจิ้มให้ รูปถ่ายผมก็เลยต้องอาศัยมือถือเอา จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:27:16

ความคิดเห็นที่ 66 ผมเดินผ่านบริเวณที่คนเล่นน้ำไปยังบ่อ 80 องศาครับ ผมก็ได้ถามคนที่มาลวกไข่ ก็ได้ว่าต้องเอาถุงไข่ไปแขวนกับไม้ที่เตรียมไว้ ถ้าเป็นไข่ไก่ก็รอ อย่างน้อย 15 นาทีครับ พอได้เข้าใจก็หย่อนถุงไข่ลงไปในบ่อน้ำร้อนโดยไม่ได้มัดปากถุง คนอื่นมัดแบบมีระเบียบครับ ผมมาถึงตุ้งแช่น้ำเข้าถุงหมดเลย รอไป 15 นาทีอย่างต่ำ ผมก็เอามันขึ้นมาครับ ตัดสินใจเปิดกล้องของผมมาอีกที ปรากฏว่าใช้ได้อีกแล้วครับ แต่เป็นแบบโหมดประหยัด ก็เลยถ่ายรูปชุดสุดท้ายก่อนกลับ บริเวณบ่อ 80 จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:28:54

ความคิดเห็นที่ 67 นี่หละครับ มีอุณหภูมิบอก จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:29:14

ความคิดเห็นที่ 68 การลวกไข่ในน้ำร้อน สังเกตถุงที่อยู่ทางขวาสุด ไม่ได้มัดปากถุงแต่เอาไปแช่ ของใครก็ไม่รู้ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:30:45

ความคิดเห็นที่ 69 ได้เวลาที่ผมกลับเข้าที่พักในเมืองกันแล้ว อาหารเย็นผมจะเอาไข่ที่ลวกได้มานั่นหละ 20 บาทแต่ได้สารอาหารครบ และที่ป้อมจำหน่ายค่าเข้าชม "จากนี่ไปยังตัวเมืองปายอีกไกลไหมครับ" "อีก 6 กิโลเมตรครับ เลี้ยวไปทางขวาไปตามทางเรื่อยๆ ก็ถึงเมืองแล้วล่ะครับ" "ถนนเส้นนี้ชันมากไหมครับ เพราะผมมาคนเดียวแล้วขาผมปวดมากๆ เลยครับ" "ไม่ค่อยชันแล้วนะครับ แต่ทางขึ้นก็ยังมีอยู่" หนึ่งนาทีผ่านไปตามบทสนทนา... "ค่อยๆ ไปเรื่อย โชคดีนะครับ" ตอนทางกลับนี่หละครับเป็นเรื่องขึ้นมาทันที นอกจากถ่านกล้องหมดและเป็นตะคริวแล้ว ผมต้องกลับให้ทันก่อนมืดด้วยครับ เพราะเวลาก็ใกล้ 18.00 แล้ว ผมก็มาตามทางเรื่อยๆ ทางไม่ค่อยชันมาก มีลาดลงนิดหน่อย แต่พอมาถึงทางลัดชันขึ้นที่ดูเหมือนไม่โหดมาก ตะคริวมารอบ 2 อีกแล้วครับ แต่รอบนี้ทำการบ้านมาดีเพราะนวดไว้ ก็เลยไม่เจ็บมาก นวดสักพักก็ไปเข้าเมืองปายต่อ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:31:07

ความคิดเห็นที่ 70 ทว่า 6 กิโลเมตรที่แสนยากเย็นมันยาวใกล้เหลือเกิน อีกไม่เท่าใดก็จะถึงแล้ว คิดแบบนั้นผมก็นึกถึงไข่ 4 ใบที่ได้ลวกมา ตอนนั้นไม่ไหวแล้วครับ ปวดขาเป็นระยะ เลยตัดสินใจหยุดกลางถนนที่มีมุมสวยๆ พื้นหลังงามๆ นังพักบนพื้นถนนพร้อมกับมาดูผลงานของไข่ไก่ 4 ใบและดูเหมือนไม่ได้เรื่องเอาเลย ใบแรก มันแตกนิดหน่อยแล้ว แต่พอหยิบขึ้นมาแตกในถุงเลยครับ โชคดีที่เป็นถุงและแตกเป็นวงไม่กว้าง ก็เลยเอาเปลือกไข่ครับตักขึ้นมากิน ใบที่ 2 สภาพดี ตอกไข่เสร็จ มันหายไปไหน เจออีกทีมันอยู่บนพื้นซะงั้น ใบที่ 3 เป็นผลพวงจากใบก่อนหน้า ตอกเสร็จ จัดแจงให้เป็นระเบียบให้มันมีรูปร่างคล้ายๆ แก้ว แล้ว ใส่ปากเรียบร้อยเข้าท้องภายในวินาทีเดียว ใบที่ 4 อันนี้ตอกมาแตกบางส่วนแต่ค่อนข้างเละ ก็เลยกินบางส่วน และบางส่วนที่เละๆ ไม่กันมัน ส่วนน้ำจิ้ม อ่าว เรากินไปหมดแล้วนี่นา แล้วอันนี้ผมจะเอาไปทำอะไรอ่ะ สุดท้ายก็ต้องทิ้งไปยังข้างทาง เสร็จแล้วครับอาหารเย็นพร้อมน้ำตาแห่งความเจ็บปวด กับภาพระหว่างหยุดพัก จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:32:05

ความคิดเห็นที่ 71 ไม่รอช้าไปต่อเพื่อไม่ให้มันค่ำก่อนถึงตัวเมือง ตอนนี้ก็ได้ผ่านไปผ่านมาสบายแล้วครับ เพราะได้พักเต็มที่ แต่ที่คนบอกว่าไม่ค่อยชันนี่ผมชักจะลังเล เพราะผมไปเจอกันสะพานข้ามห้วยและเบื้องหน้าเป็นทางที่ชันสุดยอดเลยครับ ทางขึ้นไม่พอ เป็นทางสามแยกแบบไม่มีป้ายบอกทางอีก ผมก็เลยอาศัยปรัชญา ทางหลักไปถึงที่หมายใหญ่ๆ ก็เลยเลือกทางขึ้นชันๆ และผมก็ปวดหัวอีกรอบ มันขึ้นตลอดเลยนี่นา หรือเรามาผิดทางกันแน่ พอดีมีมอเตอร์ไซค์ผ่านมา จะทำอะไรได้นอกจากโบกหละครับ ผมก็โบกๆๆ ให้หยุด แต่ไม่ใช่ขอติดรถแล้วทิ้งจักรยานนะครับ จะขอถามทางว่ามันใช่ทางนี้หรือไม่ เขาก็ต้องมาว่าใช่ และอีกประมาณ 1 กิโลเมตรเอง ผมก็ลองไปดูครับ ในที่สุดมันเป็นทางลงแล้ว ทางลงไปหาเมืองแล้วครับ ทีนี้ผมก็เลยรอดจากการโดนทิ้งแล้ว เลี้ยวไปตามป้ายที่บอก ในที่สุดก็เจอสะพานข้ามแม่น้ำปาย ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำปายที่เมืองปายเสร็จแล้ว เลี้ยวเข้าถนนคนเดิน ไปยังจุดเช่าจักรยานเป็นที่เรียบร้อย ณ เวลา 18.00 จบแล้วครับ 28 กิโลเมตรที่แสนเหนื่อย ขึ้นเขาลงเขามาตลอด ได้ตะคริวกับถ่านกล้องหมดมาเป็นรางวัลปลอบใจ จบแล้วผมก็จัดการคืนจักรยาน สิ้นสุดการเดินทางรอบๆ เมืองปายไว้เพียงเท่านี้ พอมาถึงที่พักผมก็นอนเล่นๆ พักผ่อน เพื่อเตรียมตัวไปเดินถนนคนเดินในค่ำคืนนี้ ซึ่งก่อนไปเดินก็ได้จัดแจงถามหาเวลาของรถที่จะไปเชียงใหม่พรุ่งนี้ และสถานที่ท่องเที่ยวในปายที่เป็นไปได้อีกในตอนเช้าก่อนขึ้นรถไป ผมก็ได้ตารางเวลาออกมาเป็นรถหวานเย็นเหมือนเคย ออก 09.00 จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:32:45

ความคิดเห็นที่ 72 7. ถนนคนเดินเมืองปาย จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:34:35

ความคิดเห็นที่ 73 ผมก็ได้มาเดินถนนคนเดินพร้อมกันดูวิถีชีวิตในเมืองปาย พบว่าในเมืองนี้ก็คล้ายกับเป็นถนนข้าวสารที่มีผับบาร์สงบกว่าแต่ร้านขายของฝากมากกว่า ที่สองข้างทางมีร้านอาหารฝรั่ง กับบริษัทนำเที่ยวซึ่งก็เริ่มหานักท่องเที่ยวกันแล้ว มีบริษัทหนึ่งที่มีเชื่องเสียงในปายนะครับที่ฝรั่งแนะนำ ก็คือที่ aYa Service ที่เป็นบริษัทที่ให้บริการอย่างเช่นซื้อตั๋วจากเชียงใหม่มาปาย เช่ามอเตอร์ไซค์ เช่ารถตู้ บริการรถตู้พร้อมไกด์ นอกจากนี้ก็มีรับทำวีซ่า ทำทัวร์รอบๆ ปายทั้งวันเดียวและหลายวัน แม้กระทั่วทัวร์ไปลาว ไปกัมพูชา ยังมีเลยครับ ครอบคลุมมากๆ สำหรับฝรั่งถือว่าเป็นบริษัทที่ดีมากๆ เลยทีเดียว แต่คนไทยผมไม่รู้นะครับว่าจะถูกใจมากเท่าใด จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:35:57

ความคิดเห็นที่ 74 ผมก็ได้กินผัดขี้เมาหมูเพิ่มไป 30 บาทข้างทาง เพราะความเหนื่อย ได้คุยกับคนพื้นที่ก็บอกว่าคนพื้นเมืองจริงๆ ส่วนใหญ่จะไม่อยู่ทำงานในเมืองปายแล้วนะครับ จะแยกย้ายไปทำงานรอบๆ มากกว่า เพราะที่ปายนักท่องเที่ยวมาแต่ละคนไม่ค่อยรักษาวัฒนธรรม และแม้แต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวก็จริง สภาพแวดล้อมวุ่นวายมากกว่าตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ใครที่ไปก็ระวังกันหน่อยนะครับ อย่าให้มันเลยเกิน เดี๋ยวจะไม่มีปายให้เห็นในอนาคตก็ได้นะครับ 30 บาทอันแสนอร่อย... จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:37:05

ความคิดเห็นที่ 75 ถนนคนเดินเมืองปาย จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:37:55

ความคิดเห็นที่ 76 สุนัขปาย!!! จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:38:39

ความคิดเห็นที่ 77 ปั่นจักรยานเก่งจังค่ะ    แต่ป้าขอขับรถตามไปเที่ยวก็แล้วกัน จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:39:29

ความคิดเห็นที่ 78 ที่ขายของบริเวณหน้าสถานีขนส่งอำเภอปาย จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:40:28

ความคิดเห็นที่ 79 นั่งดูจนเพลินครับ ลืมทักทาย........ จากคุณ : Hero11147 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:41:21

ความคิดเห็นที่ 80 ลานเบียร์ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:41:36

ความคิดเห็นที่ 81 ส่วนตัวผมก็เดินไปเจอคุณตำรวจเล่นกีต้าร์ อุดหนุนบ้างก็ดี จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:42:15

ความคิดเห็นที่ 82 แล้วเจอคนยืนนิ่งๆ ให้ทุกคนทาสีตามใจโดยบริจาคให้ "หุ่น" คนนั้น จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:42:43

ความคิดเห็นที่ 83 ผมก็ได้ซื้อของฝากเล็กๆ น้อยๆ ซื้อหนังสือในร้านหนังสือฝรั่งที่ชอบเอามาทิ้งกัน ถูกมากๆ เล่มละเฉลี่ย 100-300 บาท จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:44:00

ความคิดเห็นที่ 84 รูปนี้พิเศษครับ เป็นบริเวณนอกถนนคนเดิน จะเห็นได้ว่า "ปาย" ที่แท้จริงเงียบขนาดไหน สงบ มีความสุขมากเพียงใด ซึ่งหายากขึ้นเรื่อยๆ ครับ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:45:44

ความคิดเห็นที่ 85 และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ โปสการ์ดจากปายครับ ผมก็ได้เขียนไปเกี่ยวกับวันทรหดแล้วส่งโดยหยอดตู้ไปรษณีย์ในวันนั้นเลย แล้วผมก็มารู้ทีหลังว่าผมไม่ได้ติดแสตมป์ส่งไป ผมเลยโดนปรับ 4 บาทฟรีๆ ตอนมันกลับมา เจอแต่เรื่องตลอดทั้งวันเลยเรา ในที่สุดได้เอนตัวลงที่พัก นอนหลับพร้อมกับความประทับใจในวันนี้ที่จิตใจผ่านมาได้แต่ร่างกายต้องปรับปรุงกันสักนิด จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:47:11

ความคิดเห็นที่ 86 ตามมาจากกระทู้แรกค่ะ จขกท อึดมากๆ เป็นเรา คงปั่นจักรยาบเที่ยวได้ไม่ทั่วอย่างนี้แ่น่ๆเลย จากคุณ : loveleklek เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 12:52:53

ความคิดเห็นที่ 87 ตามมาเที่ยวปายต่อครับ ^_^ เห็นด้วยว่าคุณจขกท.ปั่นเก่งมากๆเลยครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 20:28:00

ความคิดเห็นที่ 88 คุณ poom7099 >> ขอบคุณครับที่ติดตามมาเรื่อยๆ คุณ ป้าฟู >> จริงๆ ผมก็อยากขับนะครับ แต่ไม่เป็นแม้มอเตอร์ไซค์ 55 คุณ Hero11147 >> อ่าไม่าเป็นไรครับ ได้อ่านผมก็ดีใจแล้ว loveleklek >> เอาจริงๆ ผมก็เกือบไม่ไหว ไหวแต่ใจหละครับ ไม่ได้ซ้อมร่างกายสักนิด tataweb >> อ่าครับ ขอบคุณเช่นกันที่ติดตามมาตลอด จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 21:02:28

ความคิดเห็นที่ 89 มาเริ่มกันต่อเลยนะครับ พอดีไปเที่ยวห้างดูเต็นท์มาเพื่อทำทริปภูกระดึง วันสุดท้ายที่จะได้เที่ยวในทริป ตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะทำสิ่งที่ไม่ได้ทำในเมืองปายในเมื่อวาน นั่นก็คือ เดินในเมืองนั่นเอง หลังจากเมื่อวานที่ปั่นจักรยานรอบๆ บริเวณเมืองปายโดยที่ไม่มีเวลาเดือนภายในเมือง วันนี้ก่อนไปเชียงใหม่ก็เลยเดินในเมืองเพื่อจะได้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านบริสุทธิ์ ตื่นขึ้นมาก็ถ่ายรูปว่าที่พักของผมเป็นอย่างไร (หลังนี้ไม่ใช่ของผมนะครับ อันนี้ดูหรูกว่าผมหลายเท่า) จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 21:08:03

ความคิดเห็นที่ 90 สิ่งที่ผมเห็นไปต่างจากค่ำคืนก็คือ เมืองนี้เป็นเมืองที่เงียบสงบครับ บรรยากาศตึกรามบ้านช่องเก่าๆ เล็กๆ ที่แสดงถึงการอนุรักษ์รูปแบบไว้อย่างดี จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 21:08:56

ความคิดเห็นที่ 91 เดินออกมารอบๆ เมืองก็จะมีผู้คนรอตักบาตรพระที่บิณฑบาตอยู่ในตอนเช้า และมีเสียงบทสวดมนต์จากข้างๆ ที่พักผม ทำให้สนใจในเสียงแล้วพบว่า มีวัดอยู่ข้างๆ ที่พักผมที่ผมไม่ได้เดินเข้าไปในวันก่อน ผมก็เลยจัดการขยับสองขาไปยังต้นกำเนิดเสียง ผมได้เข้าไปยังบริเวณวัดป่าขาม ซึ่งอยู่ซอยเกสต์เฮาส์ของผมพอดี ผมก็เข้าไปชมและถ่ายภาพเหมือนกับที่อื่นๆ ตอนหลังรู้มาว่าผู้คนกำลังสวดมนต์อุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับอยู่ครับ ผมก็ดันไปถ่ายรูปลบหลู่ไปอีก ผมก็ลบและออกมาจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว ทางเข้าหน้าวัด จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 21:09:53

ความคิดเห็นที่ 92 เจดีย์ไทใหญ่ ศูนย์กลางของวัดเชื้อสายไทใหญ่ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 21:10:36

ความคิดเห็นที่ 93 ระหว่างนั้นผมก็ไปที่ร้านเช่าจักรยานร้านเก่า เพื่อที่จะถามถึงระยะทางไปวัดพระธาตุแม่เย็น ซึ่งสามารถดูภาพรวมของเมืองปายได้จากที่สูง แต่เจ้าของร้านก็บอกว่าเดินไป 3 กิโลเมตร และผมก็ดันคืนจักรยานไปแล้ว ดังนั้นผมก็พลาดโอกาสไปสักการะพระธาตุแม่เย็นแห่งเมืองปาย เสร็จแล้วก็เดินไปต่อที่วัดกลางที่อยู่ถัดจากที่พักไปไม่ไกลเท่าใดเช่นกัน ซึ่งเป็นวัดไทใหญ่เช่นเดียวกัน แต่วัดนี้จะต่างจากวัดอื่น ตรงที่เจดีย์ใหญ่เป็นแบบไทใหญ่เหมือนเดิม แต่เจดีย์รอบๆ จะใช้สถาปัตยกรรมของมอญแทนครับ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 21:11:49

ความคิดเห็นที่ 94 ถ่ายตัวเองซะหน่อย จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 21:14:05

ความคิดเห็นที่ 95 ถัดมาก็จะเป็นวัดหลวง วัดที่อยู่ตรงกิโลเมตรที่ 98 ของทางหลวง 1095 ซึ่งบ่งบอกว่าปาย 0 กิโลเมตร ข้างหน้ามีพระกำลังเตรียมบิณฑบาตกันอยู่ วัดนี้ก็ถือได้ว่าตั้งอยู่ในศูนย์กลางเมืองปายเลยทีเดียว สามารถเดินไปยังสถานที่อื่นๆ ในเมืองได้อย่างสะดวก จากหลักกิโลเมตรที่นิยมหนักหนา ถ้าเป็นช่วงงานเทศกาลและวันสำคัญทางศาสนา ผู้คนท้องถิ่นเมืองปายก็จะมารวมกันใน "ศูนย์กลาง" แห่งนี้ครับ จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 21:20:45