|
พูดยากครับเรื่องนี้ เพราะมันกลายเป็นกระแสท่องเที่ยวไปแล้ว สำหรับกิจกรรมนี้ของธรรมกาย
คนส่วนใหญ่ผมว่าร้อยละ 80 เลยด้วยซ้ำที่เข้าไปเพราะอยากเห็นการปล่อยโคมแบบอลังการณ์ โดยไม่สนใจเรื่องพิธีอะไรมากมาย ไม่ว่าจะมาถ่ายรูป, สัมผัสบรรยากาศ, พบปะเพื่อนฝูง
ในขณะที่คนส่วนน้อยกลับกลายเป็นคนที่เข้ามาร่วมกิจกรรมทางธรรม ดังนั้นมันก็ต้องมีข้อเคืองใจ ระหว่างคนสองกลุ่มนี้อย่างแน่นอน
ถามว่าปัญหาเรื่องคน, รถติด, การแต่งกาย จะแก้ไขได้อย่างไร
เรื่องการแต่งกายผมว่ายากมากถึงมากที่สุด เพราะมันเป็นหนึ่งในกระแสยี่เป็งเชียงใหม่ไปแล้ว ว่ามาเที่ยวลอยกระทง ต้องมาปล่อยโคมที่นี่ ไม่งั้นก็เหมือนว่ามาไม่ถึง
ถามว่าทางธรรมกายรู้ไหม แน่นอนว่าย่อมรู้ ไม่งั้นปีนี้จะห้ามเอาโคมด้านนอกเข้าในงานหรือ ส่วนสาเหตุว่าทำไมถึงห้าม อันนี้ผมไม่กล่างถึง
แต่ปัญหาเรื่องรถติด และระบบจัดการของงาน ผมว่ายังไม่ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย
เรื่องรถติด ง่ายที่สุดคือห้ามเอารถยนต์เข้ามาในบริเวณงาน จัดรถรับส่งไปเลย แล้วคิดค่าขึ้นรถซะ ให้รถยนต์ที่เข้างานได้มีแค่รถรับส่งเท่านั้น จะทำให้เบาไปได้เยอะ ส่วนมอร์เตอไซต์ก็ให้จอดขนานไปกับถนนเส้นคันคลอง ก็น่าจะพอไหว เพราะที่รถติดส่วนใหญ่เป็นเพราะรถยนต์ที่จอดแล้วทำให้ถนนแคบมากกว่า
ถ้าผมเป็นเด็กแม่โจ้ รับรองว่าจะไม่มานั่งขายโคมลอยหรอกครับ จัดคิวมอร์เตอร์ไซต์เป็นเรื่องเป็นราว วิ่งรับส่งคน ได้เงินเยอะกว่าเห็นๆ เก็บค่าวิ่งส่งงานรอบละยี่สิบก็สบายๆ แล้ว ได้กันทั้งสองฝ่าย
เรื่องระบบทางเข้า ควรจัดให้มีทางเข้าหลายๆ ทางหน่อย ไม่งั้นคนก็แออัดกันอย่างที่เห็น แถมสะพานก็มีน้อยมาก จนทำให้คนข้ามเยอะและพังจนมีคนบาดเจ็บอีก
ปีหน้าทำสะพานเพิ่มสักสิบอันเถอะครับ มันไม่ได้แพงอะไรหรอก ระดับธรรมกายแล้ว ผงธุลีมาก
สรุปว่างานนี้มันกลายเป็นกระแสท่องเที่ยวยี่เป็งเชียงใหม่ไปแล้ว และก็ต้องทำใจยอมรับได้แล้ว กับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมันจะเกิดขึ้นทุกปี เพราะภาพสวยๆ มันกระตุ้นให้คนอยากมา ดังนั้นต้องแก้ไขระบบ โดยเฉพาะคิวรถรับส่ง และระบบทางเข้าออก รวมไปถึงสะพานข้ามฝั่งด้วย ซึ่งจะช่วยระบายคนได้ดีขึ้น คนก็จะไม่อัดกันเป็นปลากะป๋องแบบนี้
จากคุณ |
:
Mr. Forever
|
เขียนเมื่อ |
:
วันลอยกระทง 53 12:48:18
|
|
|
|
|