ความคิดเห็นที่ 1 เนปาลมีเมืองหลวงคือกรุงกาฎมัณฑุ ตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีภูเขาล้อมรอบทุกด้าน เป็นที่ราบคล้ายแอ่งกระทะ มีชัยภูมิเหมาะสมในการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนมาหลายพันปี มีวัฒนธรรมโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ซึ่งผสมผสานอิทธิพลจากศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืนแน่นแฟ้น เราจะพบรูปแกะสลักเทพเจ้าฮินดู กับพระโพธิสัตว์หรือพระพุทธเจ้าอยู่เคียงกันตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วไป ไม่ได้ขัดแย้งแบ่งแยกเหมือนในหลาย ๆ ประเทศ บริเวณรอบกาฏมัณฑุเป็นที่ตั้งของโบราณสถานที่สำคัญมากมาย แต่ที่โดดเด่นมากจนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก้มี 7 แห่งด้วยกัน ซึ่งเราจะตามไปเที่ยวด้วยกันครับ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 20:48:01

ความคิดเห็นที่ 2 แห่งแรกคือวัดสวยัมภูนาถ (Swayambhunath Temple) ตั้งอยู่บนเขาลูกเล็ก ๆ ทางตะวันตกของกรุงกาฏมัณฑุ เป็นวัดซึ่งเชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในหุบเขากาฏมัณฑุ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 20:49:20

ความคิดเห็นที่ 3 ตัวสถูปเป็นครึ่งทรงกลมคว่ำสีขาว สถูปในพุทธศาสนาในประเทศเนปาลส่วนใหญ่จะเป็นทรงนี้ มีขนาดเล็กใหญ่ต่างกัน จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 20:49:55

ความคิดเห็นที่ 4 เหนือสถูปเป็นบัลลังก์ รูปร่างเหมือนกล่องสี่เหลี่ยม มีจุดเด่นคือภาพวาดเป็นรูปดวงตาแห่งธรรมที่จ้องมองไปทั้งสี่ทิศ (all-seeing eyes) จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 20:51:56

ความคิดเห็นที่ 5 เหนือบัลลังก์เป็นปล้องไฉนมี 13 ปล้อง แสดงถึงขั้นตอนในการไปสู่นิพพาน ๑๓ ขั้น ถัดขึ้นไปเป็นฉัตร ด้านบนสุดเป็นปลียอด  รอบสถูปประดับด้วยธงภาวนา เป็นธงผืนเล็กมีสีต่าง ๆ บนผืนธงเขียนบทสวดมนตร์ เชื่อว่าเมื่อธงโบกสะบัดจะช่วยพัดพามนตราไปกับสายลมจนถึงสวรรค์ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 20:52:45

ความคิดเห็นที่ 6 สถูปที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสวยัมภูนาถคือสถูปโพธนาถ  ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของกรุงกาฏมัณฑุ  อยู่บนเส้นทางการค้าโบราณที่เชื่อมต่อกับทิเบต  จึงเป็นที่เคารพสักการะของพ่อค้าที่กำลังจะเดินทางไปค้าขายหรือที่เพิ่งเดินทางกลับซึ่งต้องผ่านเทือกเขาหิมาลัยอันยิ่งใหญ่และอันตราย  เป็นที่จาริกแสวงบุญของชาวพุทธโดยเฉพาะจากทิเบต จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 20:53:38

ความคิดเห็นที่ 7 สถูปโพธนาถเป็นสถูปขนาดใหญ่ทรงเดียวกับสถูปสวยัมภูนาถ  ในขณะที่สถูปสวยัมภูนาถเป็นสถูปที่เก่าแก่ที่สุดในหุบเขากาฏมัณฑุ แต่สถูปโพธนาถเป็นสถูปที่ใหญ่ที่สุดในหุบเขาแห่งนี้เช่นกัน จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 20:54:43

ความคิดเห็นที่ 8 เหนือสถูปตรงบัลลังก์วาดเป็นรูปดวงตาเห็นธรรมเช่นเดียวกัน จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 20:56:16

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ไกลจากวัดโพธนาถ เรามาถึงมรดกโลกอีกแห่งชื่อว่าวัดปศุปตินาถ (Pashupatinath) เป็นวัดฮินดูที่สร้างถวายแด่องค์พระศิวะ หนึ่งในสามเทพสูงสุดของชาวฮินดู ซึ่งประกอบด้วยพระพรหม พระวิษณุหรือพระนารายณ์ และพระอิศวรหรือพระศิวะ  ถือเป็นวัดฮินดูที่สำคัญที่สุดในเนปาล ริมฝั่งแม่น้ำหน้าวัดเป็นที่เผาศพกลางแจ้ง (เหมือนที่เมืองพาราณสี ริมฝั่งแม่น้ำคงคาในอินเดีย) ซึ่งเมื่อเผาเสร็จแล้วจะโกยขี้เถ้าลงแม่น้ำเพื่อให้กลับคืนสู่ธรรมชาติ เตือนใจคนที่ยังมีลมหายใจถึงสัจธรรมแห่งชีวิต จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 20:58:30

ความคิดเห็นที่ 10 ในหุบเขากาฏมัณฑุ มีเมืองที่เป็นศูนย์กลางและโดดเด่นทางศิลปวัฒนธรรมอยู่ 3 เมือง ถือว่าเป็นเมืองพี่เมืองน้อง แต่เป็นพี่น้องที่ทะเลาะเบาะแว้งแข่งขันชิงดีชิงเด่น จนบ้านเมืองอ่อนแอ  ในที่สุดถูกยึดครองจากกองทัพภายนอกหุบเขา  เมืองทั้งสามที่ว่าคือกาฏมัณฑุ ปาตัน และภัคตะปูร์  ในช่วงที่รุ่งเรืองต่างก็สร้างปราสาทราชวัง วัดวาอาราม แข่งกันอย่างสุดฝีมือ ทั้งสามเมืองมีศูนย์กลางที่เรียกว่าจัตุรัสพระราชวัง หรือ Durbar Square ซึ่ง Durbar Square ทั้งสามเมืองต่างได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก้ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 20:59:51

ความคิดเห็นที่ 11 จัตุรัสเดอร์บาร์แห่งกาฎมัณฑุอัดแน่นไปด้วยวัด เทวาลัย และพระราชวัง ตลอดจนบ้านเรือนเก่าแก่ที่กลายมาเป็นร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 21:00:44

ความคิดเห็นที่ 12 สถาปัตยกรรมที่พบในเนปาลส่วนใหญ่เป็นอาคารทรงมณฑป มีฐานเป็นสี่เหลี่ยม หลังคาซ้อนกันเป็นชั้น ๆ มีตั้งแต่ ๑ ชั้นจนถึง ๕ ชั้น เดิมสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ต่อมาอาจสร้างด้วยหินแต่เลียนแบบเครื่องไม้เพื่อความคงทนถาวร จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 21:01:31

ความคิดเห็นที่ 13 เทวรูปสลักพระศิวะภาคไภราวะ (Bhairava) องค์ดำ เป็นพระศิวะภาคดุร้าย เป็นที่เคารพมากในประเทศเนปาล  สวมพวงมาลัยกะโหลกมนุษย์ เหยียบบนซากศพมนุษย์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนอวิชชาของมนุษย์  เชื่อกันว่าใครที่โกหกต่อหน้าพระพักตร์ของเทวรูปนี้จะต้องตาย จึงใช้บริเวณนี้เป็นที่ตัดสินคดีในสมัยก่อน จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 21:02:15

ความคิดเห็นที่ 14 พระพักตร์ของพระไภราวะขาว ปกติไม่เปิดให้ชมยกเว้นในช่วงเทศกาลอินทรายาตราในเดือนสิงหาคม-กันยายน  คนไทยรับพระไภราวะมาและเรียกว่าพระพิราพ เป็นบรมครูยักษ์ที่เป็นที่ยกย่องสูงสุดในวงการนาฏศิลป์ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 21:03:07

ความคิดเห็นที่ 15 ข้าง ๆ จัตุรัสเดอร์บาร์เป็นที่ตั้งของตำหนักกุมารี (Kumari Bahol)  ชาวเนปาลเชื่อว่ากุมารีคือเทพเจ้าที่ยังมีชีวิตอยู่ในร่างเด็กหญิง กุมารีจะได้รับการคัดเลือกจากเด็กหญิงอายุ 4-5 ปีจากตระกูลศากยะที่นับถือศาสนาพุทธ (ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับพระพุทธเจ้า)  ที่มีลักษณะดีครบ ๓๒ ประการถูกต้องตามตำรา และผ่านการทดสอบต่าง ๆ จนมั่นใจ  กุมารีจะทำหน้าที่เทพนารีจนกระทั่งมีเลือดไหลออกจากร่างกายไม่ว่าจากสาเหตุ ใดก็ตาม ซึ่งโดยทั่วไปมักจะเป็นโลหิตจากระดูครั้งแรก จากนั้นจึงจะมีการคัดเลือกกันใหม่ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 21:04:39

ความคิดเห็นที่ 16 สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราหากได้เห็นกุมารีโผล่หน้ามาทางหน้าต่างชั้นบน เพียง 5 วินาที ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว  แต่ห้ามถ่ายภาพกุมารีโดยเด็ดขาด นอกจากในงานเทศกาลอินทรายาตรา ที่จะมีการแห่กุมารีไปรอบเมือง จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 21:05:17

ความคิดเห็นที่ 17 เมืองมรดกโลกแห่งที่สองคือเมืองปาตัน ซึ่งอยู่เพียงข้ามแม่น้ำบักมาติเหมือนกรุงเทพฯ กับธนบุรี ในปัจจุบันเขตชานเมืองของทั้งกาฏมัณฑุและปาตันขยายตัวจนเชื่อมเมืองทั้งสอง จนเหมือนเมืองเดียวกันไปแล้ว เมืองปาตันมีอีกชื่อว่าลลิตปูร์ (Lalitpur) หรือลลิตปุระ มาจากคำว่าลลิตา สมาสกับปุระซึ่งแปลว่าเมือง รวมแล้วจึงแปลว่านครอันงดงาม จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 21:07:35

ความคิดเห็นที่ 18 ศูนย์กลางของปาตันอยู่จัตุรัสเดอร์บาร์ ซึ่งอัดแน่นไปด้วยโบราณสถาน เทวาลัย วัด และพระราชวัง  สิ่งก่อสร้างชิ้นเอกในจัตุรัสเดอร์บาร์คือวัดกฤษณะหรือกฤษณะมัณฑิระ (Krishna Mandir) เป็นอาคารทรงสิกขร (อ่านว่าสิกขะระ) ซึ่งแปลว่าภูเขา เป็นทรงที่ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย วัดนี้โดดเด่นสะดุดตาตัดกับอาคารอื่น ๆ ที่เป็นทรงมณฑปตามแบบประเพณีนิยมเนปาล  สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระกฤษณะ ซึ่งเป็นอวตารหนึ่งของพระนารายณ์  ด้านหน้ามีเสายอดเป็นครุฑ ซึ่งเป็นพาหนะของพระนารายณ์ (ที่แห่งนี้เองที่มาถ่ายทำละครเรื่องธาราหิมาลัย โดยสมมติว่าเป็นประเทศปรวัตร) จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 21:08:58

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่ไกลจากจัตุรัสเดอร์บาร์ในปาตัน มีวัดทั้งในศาสนาพุทธและฮินดูมากมาย  วัดพุทธแห่งหนึ่งที่น่าสนใจคือวัดมหาพุทธะ (Mahabuddha Temple) ที่ซุกซ่อนตัวอยู่หลังตึกแถว มีทางเข้าเล็กนิดเดียว เป็นเจดีย์ทรงสิกขร มีต้นแบบมาจากมหาเจดีย์ที่พุทธคยา  ผนังสร้างเป็นช่องเล็ก ๆ จำนวนมากมาย แต่ละช่องประดิษฐานพระพุทธเจ้าไว้ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 21:10:50

ความคิดเห็นที่ 20 เมืองโบราณอันดับสามในหุบเขากาฏมัณฑุคือภัคตะปูร์ (Bhaktapur) ภัคตะคือภักดี ปูร์หรือปุระคือเมือง ภักตะปูร์จึงเรียกแบบไทย ๆ ว่าภักดีปุระ แปลว่าเมืองแห่งความภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้า เมืองภัคตะปูร์มีจัตุรัสใหญ่กลางเมืองที่สำคัญอยู่สามแห่งเชื่อมด้วยถนน คนเดินซึ่งเป็นเส้นทางการค้าโบราณ  จัตุรัสแห่งแรกคือจัตุรัสเดอร์บาร์ เป็นที่ตั้งของพระราชวังและวัดสำคัญ ๆ หลายวัด จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 21:11:40

ความคิดเห็นที่ 21 เดินเลยจัตุรัสเดอร์บาร์มานิดเดียว จะพบจัตุรัสกว้างอีกแห่งที่มีจุดเด่นคืออาคารทรงมณฑป 5 ชั้น ชื่อว่าวัดนยาทาโปลา (Nyatapola Temple) แปลตรงตัวว่าวัด 5 ชั้น  ตั้งอยู่บนฐานเขียงอีก 5 ชั้น ทำให้สูงโดดเด่นเป็นสัญลักษณ์ของภัคตะปูร์  เป็นวัดที่สูงที่สุดในเนปาล จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 21:12:38

ความคิดเห็นที่ 22 สองข้างบันไดเป็นรูปหินแกะสลักต่าง ๆ เป็นคู่ ๆ วัดขนาดใหญ่ที่อยู่อีกด้านของจัตุรัส ชื่อว่าวัดไภราพนาถ สร้างอุทิศถวายแด่พระไภราวะ ซึ่งคือภาคดุร้ายของพระศิวะ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 21:13:21

ความคิดเห็นที่ 23 ภัคตะปูร์อยู่ห่างจากกาฏมัณฑุประมาณ 30 กิโลเมตร ห่างไกลพอที่ทำให้ยังคงรักษาสภาพแบบบ้านเรือนดั้งเดิมได้มากที่สุดในสาม เมือง  วิถีชีวิตที่นี่เปลี่ยนแปลงน้อยมากจากเมื่อหลายร้อยปีก่อน ชาวบ้านยังคงดำรงชีพด้วยการผลิตงานหัตถกรรม เช่นการปั้นหม้อ โอ่ง ไห แจกัน แล้วนำมาตากแดดกลางลาน จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 21:14:12

ความคิดเห็นที่ 24 วัดสำคัญของพระนารายณ์อีกแห่งชื่อว่าวัดพุธนิลกัณฑะ (Budhanilkantha Temple) ซึ่งมีรูปแกะสลักพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ แต่ไม่ใช่รูปนอนตะแคงที่คุ้นเคย ที่นี่เป็นรูปพระนารายณ์นอนหงายอยู่กลางน้ำจริง ๆ บรรทมอยู่บนหลังพญาอนันตนาคราช 11 เศียร มีน้ำล้อมรอบอยู่ในสระ เปรียบเสมือนทรงประทับอยู่ในเกษียรสมุทร พระหัตถ์ทั้งสี่ถือคทา จักร สังข์ และดอกบัว  เชื่อว่าสลักจากหินก้อนเดียวและมีอายุเก่าแก่กว่า 1500 ปี จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 21:15:02

ความคิดเห็นที่ 25 จุดชมวิวเทือกเขาหิมาลัยที่ใกล้กาฏมัณฑุที่สุดจุดหนึ่ง สามารถเห็นวิวได้รอบด้านเป็นมุม 180 องศาคือที่ นาการ์กอต (Nagarkot) ซึ่งอยู่บนเขาสูง 2165 เมตร  เดิมเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ บนเส้นทางการค้าระหว่างทิเบตกับกาฏมัณฑุ  เมื่อเนปาลเปิดรับนักท่องเที่ยวในทศวรรษที่ 60 นาการ์คอตได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระ อาทิตย์ตกเหนือเทือกเขาหิมาลัย จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 21:16:13

ความคิดเห็นที่ 26 เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับสองในเนปาลคือเมืองโพคารา (Phokara) เป็นจุดชมเทือกเขาหิมาลัยที่ใกล้ที่สุด เป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทางเพื่อชมเทือกเขาแอนนาปูรนะ (Annapurna) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยฝั่งตะวันตก จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 21:19:57

ความคิดเห็นที่ 27 ยอดเขาที่สวยงามเหมือนยอดพีระมิดคือยอดมัจฉาปูชเร (Machapuchre) แปลว่าเขาหางปลา ถือเป็นเขาศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู จึงไม่อนุญาตให้ปีน เก็บไว้ให้ทุกคนได้ชื่นชม  จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดคือที่เซรางกอต (Serangot) สามารถเห็นวิวได้รอบด้าน จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 21:23:22

ความคิดเห็นที่ 28 จบแล้วครับ คอยติดตามชมกระทู้รีวิวละเอียดในห้องใหญ่นะครับ มาโพสปลายเดือนนี่เพื่อน ๆ ยังมีกิฟต์เหลือแจกหรือเปล่าครับเนี่ย จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 21:25:17

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณพี่เชอร์ ที่นำเรื่องราวดีๆ และโปสการ์ดสวยๆ มาแบ่งปันครับ จากคุณ : gotland เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 13:32:46

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณคุณเชอร์ที่นำเสนอเรื่องดีๆนะคะ โปสการ์ดสวยดีค่ะ ถูกใจหลายใบเชียว ^^ อยากไปๆเนปาลบ้างค่ะ จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 15:28:58

ความคิดเห็นที่ 31 ได้รับโปสการ์ดจากเนปาลแล้วค่ะ ขอบคุณคุณเชอร์มากๆนะคะ และจะรออ่านรีวิวที่ห้องใหญ่ค่ะ จากคุณ : OKANEMOCHI เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 15:29:59

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะพี่เชอร์ จากคุณ : arakanji เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 15:48:36

ความคิดเห็นที่ 33 ระยะเวลาไล่ๆกับที่ได้รับโปสการ์ดจากทริปนี้ของพี่เชอร์ ได้พลิกอ่าน..มนตราหิมาลัย ของคุณอรสม สุทธิสาคร ในคลินิกหมอ  ขณะรอลูกๆพบหมอฟันตามกำหนดนัด ยังเสียดาย..ที่อ่านไปได้ไม่กี่สิบหน้า ขอบคุณพี่เชอร์ที่มาแบ่งปันข้อมูล แล้วจะตามไปเก็บที่ห้องใหญ่อีกรอบนะคะ จากคุณ : ป้าพาฝัน เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 17:48:57

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณที่พาไปเที่ยวเนปาลครับ จากคุณ : nayroysoydao เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 20:30:20

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันนะคะ จากคุณ : น้องหนูพันธุ์ดุ เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 22:06:05

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณสำหรับข้อมูลและที่พาเที่ยวเนปาลค่ะพี่เชอร์ จากคุณ : ก้านกล้วยสีสด เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 22:09:42

ความคิดเห็นที่ 37 เอ ยังไม่เคยได้ โปสการ์ดจาก เนปาลเลย รวมทั้ง postcrossing ยังไม่เคยหลง มาสักกะใบ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : เอ (ladybook) เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 20:51:20

ความคิดเห็นที่ 38 เข้ามากดเก็บเข้าคลังกระทู้เหมือนเดิมค่ะ ^__^ จากคุณ : prettyguide เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 16:12:36

ความคิดเห็นที่ 39 ชอบจังเลยเทือกเขาหิมาลัย จากคุณ : กระดาษเปื้อนยิ้ม เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 18:29:54