ความคิดเห็นที่ 1 ลากสายไฟขึ้นภูกระดึง เอามั๊ยอ่ะ... จากคุณ : @สนสามใบ@ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 11:56:43

ความคิดเห็นที่ 2 เอาเป็นเดินสายใต้ดินแทนปักเสาไม่ได้เหรอ  วิน วิน จากคุณ : แก่ กรุงเก่า เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 12:11:31

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่องอนุรักษ์ธรรมชาติเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ชาวบ้านเค้าต้องการไฟฟ้า และไฟฟ้าก็เป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่เค้าสมควรได้รับ น่าจะมีวิธีที่ทำให้ชาวบ้านมีไฟฟ้าใช้โดยไม่รบกวนสิ่งแวดล้อมนะครับ อย่างเช่น ใช้ solar cells หรือพลังงานทดแทนจากธรรมชาติอื่นๆ เช่น พลังงานคลื่นลมทะเล จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 12:31:01

ความคิดเห็นที่ 4 มันควรไปตั้งหมู่บ้านบนเกาะหรือ อดีตก็ไม่มีไฟฟ้าแล้วมาอยู่กันทำไม อยากใช้ไฟฟ้าราคาเท่าคนอื่นก็ควรกลับมาอยู่แผ่นดินใหญ่ จากคุณ : Cigarette Smoking Man เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 12:48:38

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วชาวบ้านจริงๆแต่เดิมพี่ท่านอยู่กันอย่างไรหละครับ ทำไมร้านค้าถึงเยอะขึ้น? ทำไมชาวบ้านเยอะขึ้น? ตอไปไม่เป็นแบบเสม็ดเลยเหรอครับ ที่เหรอหาดไม่กี่หาดเท่านั้นที่ยังน่าเที่ยว จากคุณ : thepthana เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 12:55:34

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นเรื่องความล่าช้าของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่มองว่าทุกๆ เรื่องที่ประสานงานไป จะเร่งด่วนหรือข้อหารือทางกฎหมายแบบไหน ได้รับการพิจารณาอย่างล่าช้าเสมอภาคทัดเทียมกัน โดยไม่มีการชี้แจงกลับว่า อยู่ขั้นตอนใด และมีปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง จนชาวบ้านต้องเลือกใช้บริการของนายกรัฐมนตรีที่เขาเห็นว่ารวดเร็วกว่า ไฟฟ้า ถ้าปักเสาขึงสายไม่ได้ ก็ทำเป็นเคเบิลลงใต้ดิน ไปโผล่ที่บริเวณหมู่บ้านที่เข้าใจว่ากันพื้นที่ออกนอกเขตอุทยาน แล้วเดินสายตามปกติจ่ายกระแสไฟให้ชาวบ้านต่อไป ไหนๆ  หากแก้ไขปัญหามีข้อตกลงกันเรื่องระบบไฟฟ้าในเขตอุทยานฯ นี้ได้  กฟภ.ต้องลากเคเบิ้ลมุดลงใต้ทะเลอยู่แล้ว จะลากใต้ดินต่อไปที่หมู่บ้านอีกสักหน่อย จะเป็นไรไปครับ ? แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 53 13:23:30 จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 13:21:34

ความคิดเห็นที่ 7 ค่าไฟฟ้าที่นั่น เมื่อห้าหกปีก่อน หน่วยละ 15-17บาท ตอนนี้น่าจะกว่านั้น เพราะโรงไฟฟ้าของเอกชนเป็นเครื่องดีเซล ค่าไฟจะแปรผันตามค่าน้ำมัน จากคุณ : เสือห้าว เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 13:29:17

ความคิดเห็นที่ 8 ที่ที่เรานั่งเล่นเน็ตกันอยู่นี้ เดิมทีก็ไม่ได้มีไฟฟ้าใช้เหมือนกัน เราอยูในเมือง ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายมากมาย ซึ่งก็แลกมากับทรัพยากรที่ถูกล้างผลาญไปแล้วไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ พอมีเวลาว่าง ถึงได้ออกไปท่องเที่ยวที่ต่างๆ ที่ยังมีธรรมชาติสวยงามอยู่ แต่พอคนที่อยู่ไกล เขาเห็นเรามี อยากได้แบบเราบ้าง แค่ระดับพื้นฐานอย่างไฟฟ้า ในราคาที่เหมาะสม เรากลับบอกให้เขาอยู่แบบเดิม เพราะกลัวกันว่าเราจะไม่มีที่สวยๆ ให้เที่ยว อย่างนั้นหรือครับ ผมว่าควรหาวิธีให้ชาวบ้านได้ใช้ไฟฟ้าในราคาที่เหมาะสมเหมือนแต่ไม่กระทบบรรยากาศการท่องเที่ยวมากนัก อย่างเคเบิลใต้ดินที่หลายๆ ท่านบอกมานั่นแหล่ะ แต่จะไปบอกให้ชาวบ้านเขาอยู่แบบเดิมๆ ทำไม่ได้หรอกครับ จากคุณ : มะพร้าวปั่น เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 13:33:37

ความคิดเห็นที่ 9 มันอยู่ที่ว่าชาวบ้านโวยกันจริง ๆ หรือว่านายทุนมาให้ชาวบ้านโวย เห็นที่บนเขาต้นไม้ถูกตัดบุกเข้าไปในแนวเขามากขึ้นเรื่อย ๆ แบบนี้เท่าไรก็ไม่พอใช้กัน ผมเคยเห็นภาพถ่ายเกาะพีพีเมื่อ 20 ปี ก่อน แล้วมาเทียบกับปัจจุบัน มันแตกต่างกันมากเลย ต้นไม้บางตาลงไปทุกวัน อีกไม่กี่ปีก็หมดสภาพ จากคุณ : Exitbox เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 14:09:57

ความคิดเห็นที่ 10 มีไฟฟ้า เดี๋ยวได้แห่กันมาเละเทะ เหมือน สมุยเอาไหมล่ะ ผมเห็นด้วยกับอุทยาน จากคุณ : c10uf เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 14:11:43

ความคิดเห็นที่ 11 พูดอย่างคนอยู่เกาะ...ถึงจะไม่ใช่เขตอุทยานแต่จะว่าไปก็คล้ายกัน......... ขอแยกเป็นหลายประเด็นหน่อยนะครับ.... อยากมีไฟใช้ทำไมไม่อยู่แผ่นดินใหญ่? ตอบง่ายครับอยู่แผ่นดินใหญ่แล้วเบื่อคนใจแคบ....อยู่เกาะชาวบ้านใจดีอยู่แล้วสบายใจกว่าครับ.... ร้านค้าเยอะขึ้นก็เป็นเรื่องของการหารายได้เสริมของเขาครับ....จะให้อยู่อย่างมอแกนหาปลากินแบบดั้งเดิมเวลาลำบากเจ็บป่วยไม่สบายหรือมีหนี้มีสินอะไร.....ไหนลูกเต้าต้องเรียนหนังสืออีก.... ไม่มีใครมาช่วยหรอกครับ......หรือถ้าใครจะช่วยก็ยินดีนะครับ... ท่านเดวิดครับ....โซล่าเซลล์หรือพลังงานลม....ส่วนใหญ่จะใช้ได้เฉพาะแสงสว่าง...ซึ่งเอาเข้าจริงๆผลที่ได้ก็คือตอนกลางคืนมองลายมือตัวเองยังไม่ค่อยเห็นเลยครับ.....อีกทั้งต้นทุนในการผลิตหรือสั่งซื้อก็ค่อนข้างแพง...คนบนเกาะผมเขาล้อกันว่า....เป็นงบสะอาด....คือกินกันสะอาดเลยครับ... เพราะฉนั้นแล้วไม่ต้องถามถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า......ไฟปั่นเป็นไฟที่ไม่เสถียร...จ่ายมาทีกระชากกำลังไฟซะจนเครื่องใช้ไฟฟ้าเจ๊งบ๊งกันเป็นแถบๆ...บางทีซ่อมก็ไม่คุ้มต้องทิ้งกลายเป็นปัญหาทางมลภาวะขยะไปอีก... เรื่องชาวบ้านหรือนายทุนสั่งมาโวยก็คงไปล้วงลึกอะไรไม่ได้เพราะไม่มีข้อมูล.... แต่ปัญหาของคนอยู่ตามเกาะส่วนใหญ่เองก็มีความต้องการที่จะใช้ไฟฟ้าเหมือนๆกับคนกรุงเทพนั่นละครับ.....คนเขาก็อยากดูหนังดูละครเหมือนกัน..นอนกลางคืนบางทีก็ทั้งร้อนทั้งยุงเหมือนกัน.......จะให้อยู่กระต๊อบแล้วพวกคุณมาชื่นชมเสร็จแล้วก็กลับไปกินสตาร์บัคนั่งเล่นไอแพดที่กรุงเทพอย่างนั้นหรือครับ.... การอนุรักษ์ธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งที่ดีและประเสริฐ....แต่เราควรตั้งอยู่ในพื้นฐานแห่งความจริงที่ว่ามนุษย์นั้นย่อมหนีไม่พ้นการพัฒนาและความเปลี่ยนแปลง.....รวมทั้งการพัฒนาองค์ความรู้ต่างๆให้ทราบอย่างทั่วถึงกัน...มิใช่การกล่าวว่าอนุรักษ์แล้วไปบังคับให้ผู้อื่นยอมรับในชะตากรรมในขณะที่ตนเองมีความเป็นอยู่สุขสบาย.... อย่างนี้มันจะไหวหรือครับท่านพระครู?...... จากคุณ : คุณภาค เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 14:46:38

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าอยากให้ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ชาวบ้านเองกจะได้ผลพลอยได้ที่ดีไปชั่วลูกหลาน ลองดูตัวอย่างการจัดการจากต่างประเทศที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เขามีแหล่งท่องเที่ยวที่ดีเขาจัดการเรื่องพวกนี้ มาหลายที่หลายวิธีการ จากคุณ : กินปลากระป๋องมองเครื่องบิน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 15:47:03

ความคิดเห็นที่ 13 ผมไม่มองว่า  "ผมเป็นพ่อพระ  หรือ พระครู" ผมมองด้านการจัดการระบบ  หาผู้รับผิดชอบ สถานการณ์ตอนนี้คือ  "กฎหมายสิ่งแวดล้อม"  บ้านเราไม่ศักดิ์สิทธิ์  ไม่เคยเอาผิดข้าราชการได้สักที  มีแต่แพะ เพราะฉะนั้น  ถ้าไฟฟ้ามา  แล้วสภาพธรรมชาติถูกทำลาย  จะถูกอ้างว่าเป็นฝีมือชาวบ้าน  จับมือใครดมไม่ได้ตามเคย  ตัวอย่างที่เห็นชัดมากๆ คือ **  สปก 4-01  ***  (ขนาดไม่มีไฟฟ้า  ที่ดินธรรมชาติถูกถางเละเทะ  นับประสาอะไรถ้าไฟฟ้ามา  เครื่องมือพร้อม) แต่ถ้าไฟฟ้าไม่มา  สภาพธรรมชาติยังอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติ  ถ้าสภาพป่าถูกทำลาย  ยังตามหา  "คนรับผิดชอบ"  ได้ดีกว่า ความเห็น 11  ครับ   สงสารชาวบ้าน  ทำไมไม่รีบทำอะไรให้มันถูกต้องเป็นระบบ  ก็เหมือนคุณโยนข้าว  โยนเสื้อผ้า  โยนของกินให้คนไม่มีตังค์  คุณคิดว่า  เขาจะดูแลข้าวของที่คุณให้เขาได้ดีแค่ไหน   ทำไมไม่จัดสภาพแวดล้อมให้มันดีสำหรับเขาล่ะครับ   เขาจะได้รู้ว่า  เขาควรจะหากินในขอบเขตได้ขนาดไหน  รายได้เขาถึงจะยั่งยืน  ไม่ใช่พอขาดอะไร  ก็เอาของรอบตัวไปขาย  แลกข้าวแลกเงิน ผมมองของผมแบบนี้นะ  ถึงเห็นว่า อุทยาน  ควรดูแลต่อไป แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 53 18:01:43 จากคุณ : หนุ่มน้อย ณ บาบิโลน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 18:00:35

ความคิดเห็นที่ 14 เอ่อ จริงๆ แล้วชาวบ้านไปตั้งร้านค้า โรงแรม บ้านเรือนในเขตอุทยานได้ไงอ่ะ มาโวยวายแบบนี้ น่าจะไปเดินขบวนไล่ออกไปทั้งเกาะเลยดีไหม พีพีจะได้กลับมาสวยเหมือนเดิม จากคุณ : BankBD เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 19:50:37

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยกับอุทยานครับ เกาะเป็นของคนไทยทั้งชาติ ไม่ได้เป็นของใคร กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทีนี้ หากอยากได้ ไฟฟ้า ก็เอาเคเิบิล ลงดินครับ ดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 21:53:52

ความคิดเห็นที่ 16 คุณคิดว่าผมเป็นนายกฯหรือไงครับ.... บอกอยู่โต้งๆว่าผมเป้นฃาวบ้านธรรมดาที่มาอาศัยเขาอยู่....และพยายามอธิบายสภาพแวดล้อมที่ได้พบเห็นให้ฟัง.... คุณเล่นจับแพะชนแกะเอาประเด็นมามั่วกันแบบนี้กี่วันถึงจะคุยกันรู้เรื่อง....สปก.เป็นเรื่องนักการเมืองเอาที่ดินมาแจกคนจนแล้วมีการเนียนจนรัฐบาลต้องล้มไป.... เกี่ยวอะไรกับประโยชน์ทางสาธารณูประโภคที่ชาวบ้านเรียกร้องครับ? เขาก็อยู่กันมาแต่ปู่ย่าตายาย...จนวันหนึ่งธุรกิจท่องเที่ยวเข้ามา...บางพวกอยากอยู่ต่อก็อยู่ไป...บางพวกไม่...ก็ย้ายถิ่นฐาน...พวกอยู่ต่อก็อาจจับงานทางด้านค้าขายไปด้วย.... พวกคุณเอาแต่เรียกร้องอนุรักษืธรรมชาติหน้าบอร์ด...ความจริงสภาพเป็นอยู่ที่แท้จริงเป็นไงไม่รู้...จะไปเดินขบวนเรียกร้องไล่เขาออกจากเกาะ... เชิญตามสบายครับ....ถ้าไม่ต้องว่ายน้ำกลับมาจากพีพีเองอย่ามาโทษใคร...เหมอๆก็ได้เป็นประการังเทียมแถวนั้นนั่นแหละ.... แล้วคุณแน่ใจได้อย่างไรว่าอยู่ในความควบคุมของอุทยานแล้วจะอยู่รอดปลอดภัย? แน่ใจเหรอว่าใครจะไม่ฮั้วกัน.... คุณความเห็น13คุณพูดอย่างกับชาวบ้านเป็นอะไรในสวนสัตว์ถึงได้เที่ยวไปโยนอะไรให้....มากไปไม๊ครับ? หัดรู้ว่าของจริงๆเขาเป็นยังไงกันบ้างน่าจะดีนะครับ...ไม่ใช่เที่ยวโทษโน่นนี่ตามความเข้าใจของตัวเอง.... จากคุณ : คุณภาค เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 10:42:34

ความคิดเห็นที่ 17 การสร้างสายเคเบิลใต้ดิน ค่าก่อสร้างและอุปกรณ์ 100 เมตร ราคาอย่างน้อยประมาณ 1,700,000 บาท - ไม่ทำให้ภูมิทัศน์เปลี่ยน ถ้าเดินสายบนเสา กิโลเมตรละล้านบาท - อาจดูรกหูรกตาบ้าง (ถ้าไม่มีสายโทรศัพท์มาเอี่ยว) แต่ลงทุนน้อยกว่าเยอะ ยังไม่รวมต้นทุนในการลากสายเคเบิลใต้น้ำไปจากแผ่นดินใหญ่ (ต้องมีอยู่แล้ว) ต้นทุนของแบบบนดินกับใต้ดินต่างกัน แต่มีไฟใช้เหมือนกัน ราคาที่คนบนเกาะซื้อ เท่ากับคนบนแผ่นดินใหญ่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และความพอดี ยิ่งใช้มาก มีเท่าไหร่ก็ไม่พอ แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 53 11:14:36 จากคุณ : joodjook เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 10:47:20