 |
สายการบิน VS เอเยนซี........สงครามมหาชน
|
 |
ระอุขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด สำหรับสงครามช่วงชิง ผู้โดยสารระหว่าง สายการบิน กับ เอเยนซี
ตลอดระยะเวลาล่วงเข้าปีที่ ๒ สายการบินหลายๆ สายทั้งฝั่งอเมริกา และยุโรป ได้เปิดสงครามการเอาผู้โดยสารกลับคืนจากเอเยนซี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "เว๊บไซต์"
Orbitz เปิดสงครามกับ American Airlines เป็นสมรภูมิแรก และแน่นอนวันนี้ AA ถอนรายละเอียดของตนออกจาก Orbitz ไปแล้ว
ชนวนก่อสงครามครั้งนี้ เกิดจาก "การเล่นไม่ซื่อ" ของ เอเยนซี ที่ไม่ได้จบแค่ ผู้โดยสาร แต่กลับ เอารายละเอียดของผู้โดยสารนั้น ไปสร้าง บริษัท พาร์ทเนอร์ หรือ บริษัทลูก แล้วก็มาหาผลประโยชน์กับทางสายการบิน ที่เป็นรูปธรรม และเด่นชัดที่สุดคือ
การให้ พาร์ทเนอร์ ไปจองตั๋ว ออนไลน์ จากเว๊บไซต์ของสายการบิน แล้วเอามาขายต่อ เพราะค่าตั๋วในเว๊บไซต์ ทั้งในส่วนของสายการบินฝั่งเมกา และยุโรป ต่างก็มีราคาที่พอรับได้อยู่แล้ว และบางครั้ง ตั๋วของเอเยนซีก็แพงกว่า
เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังนี้ เอเยนซี ก็ไปบีบให้ สายการบิน "เพิ่มส่วนแบ่ง" หรือ "ลดค่าโสหุ้ย" ระหว่างทั้งสองฝ่ายลง ด้วยข้อหาที่ว่า "ตั๋วขายไม่ได้" แต่ เอเยนซี มี "โปรไฟล์ของลูกค้า" ซึ่งนี่ทำให้สายการบิน ต้องยอมอ่อนข้อให้ ในอีกทาง เอเยนซี ได้ผูกระบบการเงินของบัตรเครดิต และผูกระบบการจองห้องพักเข้าไปอยู่กับตัวเองมากกว่าที่สายการบินทำได้ ทำให้สายการบิน ไม่สามารถพูดอะไรได้
และผู้ที่ได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ คือ "เอเยนซี" นี่คือ ข้อกล่าวหาระหว่าง AA และ Orbitz
จนวันนี้ สายการบินยักษ์ใหญ่ฝั่งเมกาประมาณ ๖๐ เปอร์เซนต์ เริ่มยุทธวิธี "ปล้นกลางแดด" เอาลูกค้ากลับคืน
จาก Orbitz มาถึง Expedia ไล่มาจนวันนี้ CheapOAir, Onetravel และ BookIt ต่างโดนเทกระจาดซึ่งหน้าจากสายการบินทั้ง American Airlines, Delta, United
รวมทั้ง Air France/KLM ของฝั่งยุโรป ก็กำลังพิจารณามาตรการขั้นเด็ดขาดในเรื่องนี้เช่นกัน
เมื่อมองลงไปแล้วจะพบว่า เอเยนซี ยังคงได้เปรียบมาก เพราะ มีทุกอย่างที่สำคัญที่สุด ของการขายและได้มาซึ่งรายได้เป็นกอบเป็นกำ นั่นทำให้ การตัดสินใจ "ทางใครทางมัน" ของสายการบิน นั้น ได้รับความบอบช้ำมากทีเดียว
เพราะ กรณีแบบนี้ สายการบิน ไม่สามารถฟ้องร้อง ดำเนินคดี กับ เอเยนซี ได้ เนื่องจาก ก็เป็นสายการบินเอง ที่จรดสัญญาแต่งตั้งให้ เอเยนซี เหล่านั้น มารับช่วง พาร์ทเนอร์ ด้วยตัวเอง และสุดท้าย ก็เป็นฝ่ายสายการบินที่ "ฉีกสัญญา" ทั้งฉบับ ทิ้ง ด้วยมือตัวเอง
แน่นอนว่า สายการบิน จะต้อง พัฒนา เว๊บไซต์ ให้ได้มาตรฐานและดีขึ้น แต่ การสร้าง พาร์ทเนอร์ หรือ เครือข่ายของตวเองขึ้นมานั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ สายการบินต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด
และที่สำคัญ ถึงแม้จะยกเลิกสัญญาไป แต่ เงินรายได้ ที่ ขังตัวเอง อยู่กับ เอเยนซี ก็จะเป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่เอเยนซีจะเอาไปทำอะไรก้ได้ตามสะดวก เพราะ เอเยนซี ซึ่งสามารถฟ้องกลับได้ แต่เขาจะไม่ทำ เพราะมันจะเสียเวลามาก และค่าเสียหาย อาจจะได้น้อยกว่า รายได้ ก้อนที่ว่านี้เสียอีก
สายการบินจะได้เปรียบในอีกส่วนหนึ่ง นั่นคือ สายการบิน มี Tools ที่ทรงพลังที่สุด ที่เอเยนซีไม่มี นั่นคือ การสร้างคอมมิวนิตี้ ขึ้นมาใน Social Network เอารายละเอียดทั้งหมดไปใส่ไว้ในนั้น และเมื่อใครที่สนใจ ก็คลิก ลิงก์ ที่อยู่ในนั้น กลับมายังหน้าเว๊บของตนเองได้
เพราะความเชื่อมั่นของผู้โดยสารยังคงมีอยู่ ไม่ว่าผู้โดยสารจะเดินทางอย่างไร เขาจะสนใจ "ชื่อของสายการบิน" เป็นอันดับแรก
เอเยนซี ทำแบบนี้ไม่ได้ เพราะ เขาจะขายได้อย่างเดียว
ยุคของตัวแทน ทั้งขายตรง เอเยนซี เซลล์ กำลังดับมอดลง เพราะ ทุกฝ่ายเล็งเห็นแล้วว่า ไม่จำเป็นต้องมี ก็ดำเนินธุรกิจได้ ขอแค่มีผู้โดยสารเข้ามาอยู่เป็นครอบครัวได้ ก็เพียงพอ
เพราะการบอกต่อ พูดคุยระหว่างผู้โดยสารด้วยกัน และจาก พนักงานของสายการบิน คือ การประชาสัมพันธ์ที่ทรงพลานุภาพมากที่สุด
และมนุษย์ถูกสร้างมาให้มี Action และมันต้องมี Activities ควบคู่กันด้วย
เหมือนที่ "บุญช่วย" ใน บุญชู ๑๐ กล่าวไว้ว่า
"ธรรมชาติ สร้างให้มนุษย์ไม่สามารถเกาหลังได้ถึง เพื่อที่จะหาใครซักคนมาเกาหลังที่คันให้
ดังนั้น มนุษย์ ไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว"
พิเชษฐสุนทรีย์นิรันดร์กาลปฏิทิน จงมีแด่ท่านทุกผู้ เทอญ
| จากคุณ |
:
เด็กคน   
|
| เขียนเมื่อ |
:
28 ธ.ค. 53 21:17:30
|
|
|
| |
