ความคิดเห็นที่ 1 ตามมาติดๆเลยค่ะ จากคุณ : ชื่นชีวา เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 17:53:39

ความคิดเห็นที่ 2 1.เครื่องบินเสียหรือต้องเปลี่ยนอะไหล่ ครับตามนั้นเลยครับ คือคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบตรงนี้โดยตรงก็คือฝ่ายช่าง จะจัดการซ่อมแซม หรือหาอะไหล่สำรองมาเปลี่ยน ที่ผมเคยเจอมาบ้างคือบางทีอาจจะเป็นเรื่องทีสำคัญมากๆเช่น ไฟฉุกเฉินบริเวณทางเดินในเคบินไม่ทำงาน จะเป็นไฟนำทางให้ผู้โดยสารออกจากเครื่องในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ระบบเอ็นเตอร์เทนเม้นต์บนเครื่องไม่ทำงาน ส้วมตันบ้าง สารพัดปัญหาครับ โดยทางทีมช่างจะเป็นฝ่ายประัเมิณว่าจะใช้เวลาในการซ่อมแซมเท่าไหร่ แล้วจะประสานงานเพื่อให้ข้อมูลกับผู้โดยสารอีกทีนึง บางเคสเครื่องอาการหนัก อาจจะต้องถึงกับเปลี่ยนเครื่อง ถ้ามีเครื่องสำรองอยู่ก็อาจจะดีเลย์ไม่มาก หรือไม่ดีเลย์เลย แต่ถ้าไม่มีก็อาจจะต้องรอเครื่องขาเข้าลำใหม่มาซึ่งทำให้เสียเวลาค่อนข้างมาก .... จากคุณ : Ralphael เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 17:55:23

ความคิดเห็นที่ 3 ตามมาด้วยคน จากคุณ : mementototem เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 17:55:55

ความคิดเห็นที่ 4 2.สภาพอากาศ ฝนตกหนัก หมอกลงจัด หรืออากาศที่ไม่เื้อื้ออำนวยต่อการเดินทางและการโดยสาร ซึ่งการเกิิดผลเสียหายร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพสินของผู้โดยสารได้ ยกตัวอย่างเมื่อไม่นานมานี้ ได้เกิดภูเขาไฟระเบิดที่ฟินแลนด์ น่านฟ้าเกือบทั้งหมดของยุโรปต้องชะงัก เป็นไปไม่ได้เลยที่เครื่องบินจะบินได้อย่างปลอดภัยเพราะว่าตะกอนของภูเขาไฟส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์ อาจจะทำให้เครื่องดับกลางอากาศได้ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเหนือการควบคุมครับ ..... ต้องรอให้สภาวะอากาศเอื้ออำนวยแต่เพียงอย่างเดียว ถึงจะทำการบินต่อได้ จากคุณ : Ralphael เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 18:02:01

ความคิดเห็นที่ 5 3.เครื่องบินขาเข้าล่าช้า... "ท่านผู้โดยสารโปรดทราบค่ะ ทางสารการบิน.... มีความจำเป็นต้องเรียนให้ท่านผู้โดยสารทราบว่าเที่ยวบินที่ .... มีความจำเป้นต้องล่าช้าเนื่องมาจากเครื่องบินขาเข้าล่าช้า ทางสายการบิน... จึงขออภัยในความไม่สะดวก" คุ้นๆใช่มั้ยครับ หวังว่าคงได้ยินประกาศทำนองนี้มาบ้าง แต่ละสายการบินจะมีแผนกควบคุมการบินอยู่ เป็นต้นว่าเครื่องขาเข้ามา่ลำนี้ จากหาดใหญ่ จะใช้บินต่อเป็นไฟลท์ไปเชียงใหม่ต่อ แต่เครื่องขาเข้ามาจากหาดใหญ่เข้ามาล่าช้า อาจจะเป็นเพราะเสีย หรือมีเหตุขัดข้องอื่่น จึงทำให้ไฟลท์ที่ต่อไปเชียงใหม่ดีเลย์โดยปริยายครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวน fleet ของสายการบินด้วยถ้ามีเครื่องบินสำรองก็โอเคไป (ทั้งนี้เครื่องบินสำรองต้องเป็นเครื่องบินรุ่นเดียวกันหรือไกล้เคียงที่สุดด้วย) รวมไปถึงการจัดการของฝ่ายควบคุมการบินนั้นๆด้วย จากคุณ : Ralphael เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 18:09:58

ความคิดเห็นที่ 6 นึกว่าเครื่องบินติด(แบบรถติด) ^^ ขอบคุณครับ จากคุณ : ไผ่พริ้ว (PyDE) เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 18:10:57

ความคิดเห็นที่ 7 4.การสับเปลี่ยนหมุนเวียนของนักบินและลูกเรือ ในเครื่องบินแต่ละไฟลท์จะมีจำนวนของนักบินและลูกเรือกำหนดเอาไว้ ถ้าขาดไปอาจจะส่งผลไปถึงความปลอดภัยและการบริการบนเครื่องของเที่ยวบินลำนั้นได้ ผมเคยเจอกรณีที่นักบินไฟลท์นึงยังไม่มาที่เครื่อง (คือขาดงานนั่นเอง) ทางสายการบินต้องเรียกนักบินคนอื่นซึ่งได้ทำการ standby ไว้เรียกเข้ามาทำหน้าที่แทน นักบินคนดังกล่าวต้องขับรถมาที่สนามบินเพื่อจะมาทำการบินไฟลท์นั้น ซึ่งใช้เวลาพอสมควรเลยทีเดียว เพราะเครื่องบินก็บินไม่ได้ถ้าไม่มีคนขับ จากคุณ : Ralphael เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 18:19:33

ความคิดเห็นที่ 8 รอ  ผดส. very important person  อาจจะเป็น  ผู้ใหญ่ในรัฐบาล   นักการเมืองใหญ่  ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่  แม่ทัพนายกอง   หรือ ผู้ใด ก็สุดแล้วแต่  ) จากคุณ : amadillo เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 18:19:36

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ครับ จากคุณ : P J เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 18:28:32

ความคิดเห็นที่ 10 5.มีผู้โดยสารต่อเครื่องลำดังกล่าวเป็นจำนวนมาก.... ยกตัวเพื่อให้เข้าใจง่ายๆครับอย่างเช่นไฟลท์ภูเก็ต ออกเวลา 16.00 น. ผู้โดยสารทั้งหมด 300 คนเต็มลำ แต่ 50 คนจาก 300 นั้นเข้ามาจากไฟลท์ London และไฟลท์ Londonเจ้ากรรมดัน ลงเวลา 15.45 น. ซึ่งในวันนั้นเองไฟลท์ภูเก็ตไฟลท์ถัดๆไปก็เต็มเกือบทั้งหมด ทางสายการบินจึงไม่สามารถลอยแพผู้โดยสารจำนวน 50 คนนั้นได้จึงจำเป็นต้องทำการเปลี่ยนเวลาเครื่องออกใหม่จากเดิม(ก็คือดีเลย์นั่นแหละครับ) 16.00น. เป็น 16.45 น. เพื่อรอผู้โดยสารที่มาจาก London ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทางสารการบินด้วยว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร อาจจะ เปลี่ยนแปลงให้ผู้โดยสารไปขึ้นเครื่องของสายการบินอื่นๆ เป็นต้น จากคุณ : Ralphael เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 18:29:49

ความคิดเห็นที่ 11 ผมว่าปัญหาเหล่านี้น่าจะเป็นข้ออ้างมากกว่าครับ ไม่มีสายการบินไหนในโลก เขามา check ความพร้อมก่อนออกบิน 2 ชม. หรอกครับ ( หรือว่ามีแต่ผมไม่รู้ ) ซึ่งในความเป็นจริงมันควรจะพร้อมก่อนออกบินประมาณ 1 วันเป็นอย่างน้อย ไม่นับพวกที่บินมาถึงเมืองไทยเช้า แล้วบ่ายต้องบินกลับไปอเมริกาเลย อะไรทำนองนั้นก็ว่าไปอย่าง ถ้าเป็นดังที่ จขกท กล่าวมาจริง ก็แสดงว่าเครื่องบินในเมืองไทยคุณภาพต่ำเหมือนกันหมด เพราะเกือบทุกสายการบินมันก็ Delay เกือบทั้งนั้น ไม่รู้ที่ประเทศอื่นเค้าจะ Dealy เหมือนเราหรือเปล่า แต่เท่าที่ฟังๆ มา เห็นทุกคนบอกสายการบินของเมืองนอกค่อนข้างมาตรงเวลา หรือถ้าจะบอกว่าประเทศเพื่อนบ้านก็ Late เหมือนกัน งั้นขอถามกลับว่าทำไมเราจะต้องไปแย่ตามเขา ทำไมเราไม่สร้างชื่อว่าสายการบินเราดีที่สุดใน Asia สนามบินนานาชาติของเราก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหล่อะไรที่จะต้องไปทำตามอย่างเขา หรือไม่งั้นถ้าเครื่องมันมีปัญหาก่อนออกเดินทางจริงๆ พอจะมีนโยบายเปลี่ยนเครื่องให้ลูกค้าเลยไหม แทนที่จะให้ลูกค้าต้องมานั่งรอช่างซ่อมเครื่อง แล้วเกิดซ่อมไม่เสร็จหรือไม่เรียบร้อยตามเวลาว่าที่กำหนด ลูกค้าต้องรอต่อไปเรื่อยๆ ไหมจนกว่าช่างจะซ่อมเครื่องเสร็จ   หรืออาจจะรู้สึกเหมือนคนไทยคิดกัน รอซ่อมแป๊บ เอาแบบพอบินได้ก็พอ ระยะทางแค่นี้เองคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง อากาศก็ไม่ได้เลวร้าย อะไรทำนองนี้ แล้วแบบนี้คุณภาพชีวิตของผู้โดยสายจะเอาไปฝากไว้กับใครละครับ ตายไปประกันก็จ่ายจบ คุณภาพการบริการมันก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้ดีขึ้นเป็นลำดับ มี 2 ทางให้เราเลือกคือ ย่ำอยู่กับที่ กับ ถอยหลังเข้าคลอง ประเทศไทยเราไม่มี choice อื่นให้เลือกแล้ว และอีกเรื่องขอบอกว่า QC เมืองไทย ห่วยมาก ต่อให้มาตะโกนหรือแปะป้ายบอกว่า มาตรฐานสากล หรือ มาตรฐานอเมริกา ไอซง ไอโซ่ อะไร บลาๆๆ  พอมาจับหรือบริหารในมือคนไทยก็กากี่นั้ง หยวนๆ มันก็ไม่ได้น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ เหมือนที่ฝรั่งเขามองเราว่า ชุ่ย หรือ มักง่าย จากคุณ : หนุ่ย (ryanman007) เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 18:30:13

ความคิดเห็นที่ 12 ส่วนเรื่องสภาพอากาศความจริงไม่ควรเอามาอ้าง เพราะถ้าทัศนวิสัยการบินไม่ดี หรือบินไม่ได้อันนี้เขาก็เข้าใจก็ทั้งโลกเป็นเหมือนกันหมด ก็เข้าใจก็มันบินไม่ได้นี่ แต่ไอ้ประเภทพนักงานมาไม่ครบนี่ซิ ที่ผู้โดยสารมาไม่ครบด่าแล้วด่าอีก ทีพนักงานมาไม่ครบรอจนรากงอก หรือคุณค่าของพนักงานมีมากกว่าผู้โดยสารละ ถึงจะบอกว่ามาไม่ครบจริง มีคนอื่นแทนไหมละ แล้วเกิดวันนั้นไอ้คนนั้นมันไม่มาจริงๆ ทำไง ก.มันไม่มากรูก็ไม่ไป ข.สุดท้ายแล้วมันไมมากรูก็ต้องไป ค.เฮ้ย มันมาไม่ครบเครื่องก็ไม่ปลอดภัยหน่ะซิ ช่าง Meng ง.แล้วมันจะต่างอะไรกับ Mung ไปตั้งแต่ได้เวลาเดินทาง ป่านนี้ก็ถึงละ ไม่ต้องมานั่งเถียงกัน จ.แล้วถ้ามันไม่มาจริงๆ ละ แต่ยังก็ต้องให้ครบ เชื่อเหอะว่ามันต้องมีสำรอง บริษัทใหญ่ขนาดนี้ไม่มีแผนสองก็บ้าละ เอ๊ะ หรือว่ามันไม่มีหว่า มันถึง Dealy ประจำ จากคุณ : หนุ่ย (ryanman007) เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 18:42:58

ความคิดเห็นที่ 13 6.ดีเลย์ในส่วนของผู้โดยสาร อาจจะแปลกใจกันซักนิดว่าเกี่ยวกันอย่างไร ต้องขอบอกว่าเกี่ยวครับ ตัวแปรที่สำคัญคือ "สัมภาระ" ของผู้โดยสารคนนั้นๆครับ จำได้ใช่มั้ยครับ เวลาเราจะไปขึ้นเครื่องที่เค้าเตอร์ check-in ผู้โดยสาร พนักงานจะถามเราว่า "มีกระเป๋าโหลดรึเปล่าคะ?" 1.มีโหลด 2.ไม่มีโหลด เวลาเครื่องไกล้จะได้เวลาเครื่องออก ทางสายการบินจะทำการเช็คว่ามีผู้โดยสารคนใดบ้างที่ขาด ซึ่งในรายละเอียดของผ้โดยสารแต่ละคน จะสามารถบอกได้ว่าคนที่ขาดนั้นมีสัมภาระอยู่ใต้ท้องเครื่องหรือไม่? ถ้ามีการ offload หรือ "ตัด" ผู้โดยสารที่ขาดนั้น ไม่ใช่ตัดเฉพาะผู้โดยสารครับ ต้องนำกระเป๋าที่โหลดไปน่ะ ออกมาจากเครื่องบินด้วย (ทั้งนี้ทางสายการบินไม่สามารถบินไปโดยที่มีสัมภาระที่ไม่ระบุเจ้าของไปด้วยเนื่องจากทำเพื่อความปลอดภัย เข้าใจใช่มั้ยครับว่าผมหมายถึงอะไร) ในขั้นตอนการหากระเป๋านี้จะกินเวลานาน ถ้าคนที่ขาดมีจำนวนสัมภาระมาก หรือตำแหน่งในการจัดเรียงกระเป๋าอยู่ลึกและกระจัดกระจาย  ......อาจจะกินเวลาเป็น 20-30 นาทีเลยทีเดียว จากคุณ : Ralphael เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 18:46:20

ความคิดเห็นที่ 14 แล้วจะมาต่อนะครับ ขอตัวไปทานข้าวก่อน ชะแว้ป.......!! จากคุณ : Ralphael เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 18:47:41

ความคิดเห็นที่ 15 ได้ความรู้ใหม่ ขอบคุณจขกท.ค่ะ จากคุณ : นมสดกับช็อคโกแลต เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 19:05:14

ความคิดเห็นที่ 16 รออ่านต่อไปเถอะค่ะ หรือไม่ก็ลองอ่านหนังสือเกี่ยวกับการบินพวกเรื่องสั้นก็ได้ ดิฉันไม่ได้ทำงานด้านนี้ แต่มีความอยากรู้ในหลายอาชีพ เลยลองซื้อหนังสือมาอ่านดูบ้าง อ่านหนังสือ บินแหลก หรือ ฉันแน่ๆ แอร์ สจ๊วต และอีกหลายๆ เล่มก็ให้ความรู้คราวๆ พอเข้าใจเขาเข้าใจเราประดับสมองตัวเองได้บ้างน่ะคะ ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากเลยค่ะ ได้ความรู้อีกแล้ววว รออ่านต่อไปนะคะ สู้ๆ ^_^ แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 54 19:16:00 จากคุณ : sugar_least เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 19:15:32

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณจขกท.เช่นกันค่ะ โหวตเรียบร้อย :)) แก้ไขข้อความค่ะ ขอโทษคุณ คห.11 นะคะ :)) แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 54 08:20:38 จากคุณ : shane_vant เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 19:16:49

ความคิดเห็นที่ 18 เรียนคุณ shane_vant ครับ ผมไม่ได้คิดตำหนิ จขกท เพราะผมมองว่า จขกท ก็พนักงานคนนึง ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ถึงผมจะมาตอบกระทู้นี้หรือไม่ ผมก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรอยู่แล้ว เพราะผมมองว่าปัญหาที่ท่าน จขกท เล่ามา มันก็คือความจริงที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวัน ซึ่งผมมองว่าคนที่บินบ่อยๆ ก็น่าจะทราบปัญหานี้ดี ส่วนคนที่ยังไม่ได้เคยบิน ก็โอเค อ่านเอาเป็นความรู้ แต่ที่ผมติงคือ ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาใหม่ มันเป็นปัญหามานานมาก น่าจะนานพอๆ กับการที่เรามีการบินในเมืองไทย ผมจึงทราบแค่ว่าเมื่อไหร่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปสักที หรือให้มันเหลือน้อยกว่านี้ได้ไหมละ สิ่งที่ผมอยากทราบคือวิธีการแก้ปัญหา ไม่ใช่สาเหตุของปัญหา หรือเราทุกคนอยากให้คำพูดนี้เป็นประโยคประจำชาติ เครื่องบินออกไม่ตรงเวลาหรอก มันจะ Delay 2 ชม. เครื่องบินยังมาไม่ถึงหรอก ต้องอีก 2 ชม. กว่าจะมา จากคุณ : หนุ่ย (ryanman007) เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 19:26:47

ความคิดเห็นที่ 19 #4 เรื่องสภาพอากาศ จากประสบการณ์จริง เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 17 เดือนที่แล้ว สายการบิน K...M ไปอัมสเตอร์ดัม ต่อไปอังกฤษ เครื่องออก 23.55 เกิดเหตการณ์ Over book ขึ้น ทำให้ไม่สามารถไปได้ ก็ต้องไปกับสายการบินอื่น ตอนตี 2 เลยขอไปอีกวันแทนในคืนวันเสาร์แทน อีก 20 นาทีกำลังจะขึ้นเครื่องมีประกาศจากสายการบินว่า สภาพอากาศย่ำแย่ สายการบินที่อัมสเตอร์ดัมปิด ถ้าคุณต่อเครื่อง เขาแนะนำว่า อย่าขึ้นเครื่องเลยเพราะว่าคุณจะไปตกค้างอยู่ที่สนามบินทันที และยังให้ที่พัก อาหาร รถรับ-ส่งให้เราถึง 2 วันเต็มๆ แถมเงิน 1 พันบาทสำหรับวันศุกร์เป็นค่าเสียเวลา วันที่ 4 ได้เดินทางแต่ไปลงที่แฟรงเฟริต แต่ลงไม่ได้ก็ไปรอสนามบินใกล้ๆ 4 ชม แล้วค่อยมาลงที่แฟรงเฟริตเหมือนเดิม เมื่อมาถึง สภาพอากาศย่ำแย่เหลือทน แต่สนามบินและสายการบินก็ดูแล ยกเว้นเรื่องเดียวคือบุคลากรในการทำงานที่ไม่พอต่อผู้โดยสาร แต่ก็เข้าใจเพราะคนมันเยอะมาก สรุปได้นอนที่สนามบิน 1 คืน โดยมีบริการ เตียงผ้าใบ ผ้าห่ม น้ำ ขนมปัง และซุปให้ ได้บินสมใจไปลงลอนดอนแทน (ตอนแรกจะลงเมืองตอนเหนือจ๊ะ) ทั้งนี้ทั้งนั้นจากประสบการณ์ไม่โกรธ เหนื่อยนิดหน่อย สนุกน้อย และเข้าใจเพราะมันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆ ก็เข้าใจและเห็นใจ ระหว่างที่ไปนั่งๆ นอนๆ ที่สนามบิน มองดูคนนั้นคนนี้ กับเห็นใจคนทำงานมากกว่า คิดดูคนตั้งเยอะตั้งแยะ บางคนก็ถือตัวว่าฉันถือตั๋ว VIP อยู่นะ บางคนก็จะอ่ะนะไม่รู้จะพูดไงอ่ะ ก็ได้แต่เห็นใจแล้วกันค่ะ ^_^ จากคุณ : sugar_least เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 19:39:47

ความคิดเห็นที่ 20 เค้าอาจจะเรียกว่าปัญหาเฉพาะหน้าหรือเปล่าคุณ ปัญหาเฉพาะหน้า ถ้ารู้ก่อนก็ไม่เฉพาะหน้า แล้วก็คงไม่มีปัญหา ซึ่งความเป็นจริงมันจะเป็นไปได้เหรอ ??? ปล. รอ very important person อันนี้มีเคืองนะ ถ้า very important person มากๆๆ ก็ไปบินเครื่องบินส่วนตัวเถอะท่าน จากคุณ : TIGERLAND เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 19:43:24

ความคิดเห็นที่ 21 #6 เรื่องกระเป๋าเคยดูในรายการทีวีเหมือนกันค่ะ ยังไงเป็นกำลังใจให้คนทำงานในสายการบินนะคะ ชีวิตเมื่ออยู่บนฟ้าเราฝากไว้กับท่าน และได้ทั้งการบริการที่ดีและเอาใจใส่มากในแต่ละการเดินทาง รวมถึงคนทำงานภาคพื้นดินที่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี เยี่ยมนะคะ สู้ๆ จากคุณ : sugar_least เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 19:45:45

ความคิดเห็นที่ 22 เป็นกำลังใจให้ จขกท.ครับ จากคุณ : bugble เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 20:20:59

ความคิดเห็นที่ 23 7.  รอผู้ทรงเกลียด จากคุณ : CocoaChocolate เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 20:25:41

ความคิดเห็นที่ 24 ยังไม่หมดไช่ปะครับ จากคุณ : gigaboyz เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 20:58:29

ความคิดเห็นที่ 25 ขออนุญาตเสริมคุณเจ้าของกระทู้นะครับ 1.เครื่องบินเสียหรือต้องเปลี่ยนอะไหล่ อันนี้เรียนนะครับว่า ที่บอกว่าเครื่องเสียนั่นหมายความว่าเครื่องบินลำนั้นไม่สามารถให้บริการได้จนกว่าช่างจะสามารถแก้ปัญหาหรือซ่อมให้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้นจะถือว่าผิดกฎหมาย (พูดง่ายๆ) เครื่องบินทุกลำในโลกและทุกสายการบิน จะมีคู่มือประจำเครื่องอยู่เล่มหนึ่ง (Minimum Equipment List) คือ จะบอกว่าต้องมีอุปกรณ์ใช้ได้อย่างน้อยกี่ตัว กี่ระบบ จากที่มีอยู่เท่าไหร่ เช่น คิดง่ายๆ ถ้าเครื่องบินมีแอร์สองตัว เสียไปตัวนึงยังถือว่าบินได้ (ตามระบุไว้ในคู่มือ) แต่ถ้าเสียสองตัวพร้อมกัน อันนี้จะไปไม่ได้ทันที ต้องซ่อมให้ได้ก่อน บางคนอาจจะสงสัยว่าน่าจะรู้เป็นวันสองวันก่อนหน้านี้ อันนี้เข้าใจผิดครับ ยกตัวอย่างเช่น วันนี้เครื่องบิน ก. ถูกวางแผนให้บิน ไปหาดใหญ่ตอนแปดโมงเช้า กลับมากรุงเทพ แล้วต้องไปบินต่อเชียงใหม่ตอนเที่ยง (อันนี้เค้าแพลนมาเป็นวันๆอยู่แล้ว แล้วจะเหมือนกันทุกสายการบิน เป็นการ utilize เครื่องให้เกิดประโยชน์สูงสุด) ถ้าเครื่องไม่มีปัญหาก็จะกลับมาบินเชียงใหม่ได้ตามเวลา แต่ ถ้าบินไปถึงหาดใหญ่แล้ว แอร์ดันเสียสองตัว จึงมีความจำเป็นต้องจอดซ่อมที่หาดใหญ่ จึงทำให้ไฟลทถัดไปที่ต้องใช้เครื่องนี้บินดีเลย์ตามลำดับ แต่ถ้าโชคดีมีเครื่องเหลือจอดอยู่ก็สามารถเอาไปบินเชียงใหม่แทนได้เลยโดยไม่ดีเลย์ จากคุณ : Co-jorn เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 21:10:29 A:131.203.111.6 X: TicketID:302097

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณ ครับ ในข้อมูล ที่นำมาบอก ขอแก้นิด ภูเขาไฟระเบิด น่าจะเป็นที่ ไอซ์แลนด์ กระมังนะครับ หรืออาจจะมี ที่ฟินแลนด์ ร่วมด้วย อันนี้ ผมไม่ทราบ ;-) จากคุณ : บางคนเรียกผมว่า (lexusman) เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 21:20:32

ความคิดเห็นที่ 27 2. สภาพอากาศ อันนี้ไม่มีใครอยากเจอรวมถึงผู้ปฏิบัติหน้าที่เอง บางทีฝนตกหนัก หิมะ หรือหมอกลงจนกระทั่งไม่เห็นทางวิ่ง ก็ไม่สามารถทำการบินได้ครับ เครื่องบินแต่ละเครื่องก็จะมีค่าการมองเห็นต่ำสุดที่วิ่งขึ้นได้ ถ้ามันมองไม่เห็นจริงๆ รอเถอะครับ ปลอดภัยกว่า ถ้าวันไหนฝนตก หมอกลงจัด กัปตันประกาศดีเลย์เนื่องจากสภาพอากาศ แล้วคุณแอบเห็นเครื่องลำอื่นออกไป จงดีใจเถอะครับที่ท่านปลอดภัยกว่าแน่นอน แค่เสียเวลารอเอง จากคุณ : Co-jorn เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 21:21:29 A:131.203.111.6 X: TicketID:302097

ความคิดเห็นที่ 28 เจอดีเลย์บ่อยๆ ค่ะ  ไม่ว่าจะสายไหนในโลกนี้...ทั้งยุโรปทั้งของเมกา   ชินแล้ว   เดี๋ยวนี้จะบินทีก็จะเตรียมพร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิตมีติดตัวไว้ตลอด  เช่น เสื้อผ้าอย่างน้อยหนึ่งชุดเอาไว้เปลี่ยนเผื่อต้องรอข้ามวัน... จะดีเลย์ยังไงก็เข้าใจค่ะ....  ขออย่างเดียวอย่าให้ตกก็แล้วกัน...อิอิอิ ขอบคุณ จขกท. นะคะที่ให้ข้อมูลมาประดับความรู้ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 21:33:03

ความคิดเห็นที่ 29 เอางี้ดีกว่า เหตุผลที่เจ้าของกระทู้บอกมานั้น ส่วนใหญ่เกิดจากเหตุการณ์เฉพาะหน้า ซึ่งอาจจะพูดได้ว่าช่วยไม่ได้ แต่ยังมีบางเคสครับที่น่าปวดใจ ซึ่งหลายๆท่านอาจจะคิดไม่ถึง จากที่ผมศึกษามานะครับ A.รอผู้โดยสารคนสองคนสุดท้าย คนอื่นขึ้นเครื่องหมดแล้ว และถึงเวลาต้องออกแล้ว แต่คนสองคนนี้ก็ยังไม่มา จะด้วยสาเหตุ หาเกตไม่เจอ หลงทาง หรือช๊อปปิ้ง แต่อย่างที่คุณเจ้าของกระทู้บอกครับ อีกประมาณห้านาทีก่อน departure time ถ้ายังไม่เจอตัว ต้องเริ่มค้นกระเป๋า คราวนี้แหละดีเลย์แน่นอน คุณเชื่อไม๊ครับ ถ้าเป็นไฟลทบินไปยุโรปที่ออกกลางคืน การที่เรารอผู้โดยสารแค่คนสองคนแล้วทำให้เครื่องออกตามเวลาไม่ได้ เราอาจจะดีเลย์เป็นชั่วโมงได้นะครับ สืบเนื่องจากตอนกลางคืนเครื่องที่บินเข้ายุโรปทุกสายการบินต้องจัดคิว และต้องออกตามเวลา ถ้าทำตามเวลาไม่ได้ก็ต้องไปต่อคิวใหม่ทันที ซึ่งถ้าโชคดีมีคิวว่างก็ดีเลย์นิดหน่อย แต่ถ้าโชคไม่ดีก็จอดรอเฉยๆเป็นชั่วโมงชวนให้หงุดหงิดทั้งผู้โดยสานและพนักงานครับ หลักการง่ายๆครับ อันนี้ไม่รู้เรียกว่าสุดวิสัยป่าว จากคุณ : Co-jorn เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 21:34:15 A:131.203.111.6 X: TicketID:302097

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ กระจ่างขึ้นเยอะเลย จากคุณ : กล่องดนตรีสีชมพู เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 21:40:18

ความคิดเห็นที่ 31 บ้านเราอาจจะเพิ่ม "ดีเลย์หรือยกเลิกด้วยเหตุผลทางการพาณิชย์"(ขอสงวนสิทธิ์โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า) เข้ามาอีกอย่างหนึ่งครับ ตีความกันเอาเอง... จากคุณ : Ethanol เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 21:48:13

ความคิดเห็นที่ 32 "ไม่มีสายการบินไหนในโลก เขามา check ความพร้อมก่อนออกบิน 2 ชม. หรอกครับ ( หรือว่ามีแต่ผมไม่รู้ ) ซึ่งในความเป็นจริงมันควรจะพร้อมก่อนออกบินประมาณ 1 วันเป็นอย่างน้อย" สายการบินในประเทศไทยที่มีตารางบินเป็นประจำวัน (TG, FD, PG) เหล่านี้ เค้าใช้เครื่อง ในการบินตลอดวันนะครับ แบบว่า พอเช้ามาก็บินออกไป ไม่กี่ชั่วโมงก็กลับมา สุวรรณภูมิอีก พักไม่กี่ชั่วโมง ก็บินออกไปอีก... ไปเรื่อยๆ ดังนั้น เหตุการณ์การขัดข้องแบบไม่คาดคิด ของเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลานะครับ จากคุณ : CharliePapa เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 23:01:41

ความคิดเห็นที่ 33 เพิ่มให้อีกสาเหตุ 8. รอขายตั๋วหน้าเคาเตอร์ให้ได้ (ประมาณพวกสองแถวหรือคิวรถตู้ คนเต็มแล้วค่อยออก) เรื่องนี้มีจริงครับ ไม่งั้นที่อเมริกา ไม่ออกกฎสามชั่วโมงออกมาหรอกครับ ออกกฎมา สายการบินหายดีเลย์ไปเยอะเลยครับ จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 23:34:49

ความคิดเห็นที่ 34 ขออนุญาตเสริมด้วยคน 1. กรณีเครื่องเสียอย่างไรก็ต้องรอซ่อม หรือไม่ก็รอเครื่องบินมาเปลี่ยน ซึ่งก็คือนโยบายเปลี่ยนเครื่องที่ความคิดเห็นข้างบนๆ บอกนั้นแหละ ถ้ามีเครื่องสำรองก็อาจไม่ต้องรอนานมาก แต่โดยมากถ้าไม่รอจนซ่อมเสร็จก็ต้องรอเครื่องไฟลท์ถัดไปบินมา เครื่องสำรองไม่ค่อยมี ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อาจเนื่องมาจากค่าใช้จ่ายด้วยส่วนนึง ทำธุรกิจก็ต้องอยากจะให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด ใครจะอยากเอาเครื่องมาจอดทิ้งไว้เฉยๆ ค่าจอดเครื่องบินไม่ใช่ถูกๆ ชั่วโมงนึงน่าจะเป็นหมื่นอยู่ คนที่เป็นช่างก็ซ่อมไป คนที่เป็นground ก็ดูแลผู้โดยสารไป ถ้าดีเลย์ไม่มากก็อาจมีแจ้งผู้โดยสารไป มีน้ำมีแซนวิชให้ ถ้าดีเลย์มากก็ติดต่อเปลียนไฟลท์ให้ผู้โดยสาร หรือจองรร ให้ผู้โดยสารพักผ่อน ระหว่างรอซ่อม 2. กรณีพนักงาน เชื่อว่าทุกสายการบินเหมือนกัน ตารางบินจะออกล่วงหน้าเป็นเดือน และจะต้องมี standby list เสมอ เผื่อใครขาดลามาสาย ก็ต้องมีให้เรียกใช้คนที่อยู่ใน standby list ซึ่งคนที่เป็น standby ก็ต้องมีกฎว่าต้องสามารถติดต่อได้และมาถึงบริษัทได้ภายในเวลาที่กำหนด แต่มันก็ยังมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ ซึ่งเชื่อว่าไม่ใช่ข้ออ้าง เพราะเรื่องดีเลย์ ไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก ผู้โดยสารก็เซ็ง พนักงานก็เหนื่อย สายการบินเองก็เสียภาพลักษณ์และอาจสูญเสียรายได้อีกต่างหาก จากคุณ : อดีตเคยทำงานสายการบิน เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 23:58:02 A:218.102.110.124 X: TicketID:050112

ความคิดเห็นที่ 35 ถูกต้องทุกข้อที่กล่าวมาค่ะ สามีเราเป็นนักบินบางทีเวลาเครื่องเสียทางcxก็จะโทรมาบอกก่อนว่าเครื่องเสียให้standby. รอที่บ้านก่อนเพราะดีเลย์หรืออาจจะต้องยกเลิกเที่ยวบิน พอช่างซ่อมเสร็จบินได้ปลอดภัยจึงโทรมาบอกให้ไปทำงานค่ะ วันก่อนที่ลอนดอนหิมะตกสนามบินปิดเครื่องบิน ผู้โดยสารและพนักงานโดนลอยแพกันหลายวันเราก็สงสารเพื่อนนักบินเราก็อยากกลับบ้านเหมือนกันเรายังบอกกับสามีเลยว่าเครื่องดีเลย์ผู้โดยสารคงบ่นกันน่าดูแต่ถ้าจะให้เครื่องออกตรงเวลาได้อย่างไรในเมื่อสนามบินทางนู้นยังไม่เปิดรับ ออกตอนนี้ไปยังไงก็ลงไม่ได้ต้องเบี่องไปสนามบินอื่นอยู่ดี เราก็เข้าใจผู้โดยสาร อยากให้ผู้โดยสารเข้าใจพนักงานด้วย นักบินเค้าก็เหนื่อยก็อยากบินไปให้ถึงที่หมายโดยปลอดภัยและรวดเร็วเหมือนกันค่ะ จากคุณ : Chaopor เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 00:29:10

ความคิดเห็นที่ 36 สามีทำงานสายการบินแห่งหนึ่งในอเมริกาค่ะ .... ตอบคุณ คห.11 ... รู้แต่ว่า ที่อเมริกาเครื่องดีเลย์บ่อยค่ะ ส่วนมากบ่อยจนเค้าชิน ไม่โวยวาย แต่ก็มีบ้างก็งี่เง่า ... ที่ว่างี่เง่านี่คือ ช่วงที่เค้าดีเลย์ส่วนมากจะเป็นช่วงหน้าฝนและหน้าหนาวค่ะ เท่าที่สังเกตมาเดือนธันวาคมและมกราคมจะเป็นช่วงที่ดีเลย์มากๆ ถ้าไม่ใช่ช่วงมรสุม จะดีเลย์น้อยมากๆ ค่ะ ... เพราะฉะนั้น สภาพอากาศในอเมริกาหรือต่างประเทศที่มีหิมะ และเป็นช่วงฤดูนั้นๆ ไม่ค่อยมีใครโวยวายหรอกค่ะ เพราะเค้ารู้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ... ยิ่งเจอไฟล์ cancel วันเป็นร้อยๆ ไฟล์ เมื่อไม่นานมานี้ที่อเมริกา ก็เพราะสภาพอากาศ .. ถึงเครื่องบินจะเสียต้องหาอะไหล่และซ่อมด่วน เค้าก็ไม่สามารถเปลี่ยนเครื่องให้คุณใหม่ได้ เพราะเครื่องทุกลำ นำมาใช้งานหมด ... นอกเสียจากจะมีไฟล์ถัดไปที่ไปที่เดียวกัน แต่มีที่นั่งเหลือ เค้าอาจจะถ่ายผู้โดยสารไปเครื่องลำันั้นๆ แทน หรือจะเป็นปัญหาที่มาจากเครื่องล่าช้ามาจากที่อื่น มันก็เลยดีเลย์มาเป็นทอดๆ ... แต่ที่เมืองไทย ที่เครื่องดีเลย์ๆ นั้นดิฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเพราะอะไรกันแน่ ยอมรับว่าของเจ้าหนึ่งในไทย ดีเลย์บ่อยมากๆ คนมักบ่น แต่ไม่ใช่จากสภาพอากาศแน่ๆ ... ** ถามคุณจขกท ** ทำไมที่ไทยนี่ เวลานักบินหรือแอร์ ที่เค้ารู้ตัวว่าต้อง Standby ทำไมไม่มารอที่สนามบินคะ .... เพราะที่อเมริกา และดูไบ(เพื่อน ญ ของดิฉันทำงานที่ EK อยู่ดูไบ) -- ที่อื่นไม่ทราบนะคะ ... เวลาเ้ค้าต้องไป Standby เค้าต้องไปรอที่ office ของสายการบินซึ่งอยู่ใกล้กับสนามบิน ... คือเข้างานไปตอกบัตรนั่นล่ะคะ ... คุณสามีดิฉันเวลาต้องไป Standby เค้าก็ต้องไปนั่งๆ นอนที่ office เค้า บางทีไปตั้งแต่ ตี4 ถึงบ่าย 2 ถ้าไม่มีบินก็กลับบ้าน ..... เลยแปลกใจกับเมืองไทยว่าทำไมต้องรอ Standby ที่บ้าน ... ถ้าบ้านคนอยู่ไกล รถก็ติด อีก 1-2 ชม ถึง ผู้โดยสารมิต้องรอกันนานเลยหรือคะ .... หรือว่าที่เครื่องดีเลย์บ่อยๆ เพราะต้องรอแอร์กับนักบิน standby ที่มาจากบ้านคะเนี่ย จากคุณ : Mommy&Daddy เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 01:39:38

ความคิดเห็นที่ 37 เข้ามาอ่านเอาความรู้เฉยๆครับ จะมาม่าอีกไหมเนี่ย ช่วงกระทู้มาม่าเกี่ยวกับสายการบินมันเยอะจิงๆ จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 03:44:03

ความคิดเห็นที่ 38 สวยก็คือสาย ไม่เปนไร รอได้ จากคุณ : คน ไกลบ้าน เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 04:32:08

ความคิดเห็นที่ 39 ผมสงสัยมากว่า งวงช้างที่สุวรรณภูมิมีเท่าไหร่ ทำไมออกนอกประเทศ 60% (ของที่ผมและเพื่อนเดินทาง) และในประเทศเป็นเกทลงท้าย A ได้ขึ้นบัสทุกที จากคุณ : วาริน เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 10:20:47 A:58.9.144.192 X: TicketID:212898

ความคิดเห็นที่ 40 ปัญหาทุกปัญหาที่ว่ามา ผมว่า มันยอมรับกันในหากเป็นเหตุสุดวิสัยจริง ๆ และคงจะไม่มีผู้โดยสารติดใจอะไรมากมายหรอกครับ ถ้ามีการประชาสัมพันธ์กันให้เข้าใจในเหตุผล ด้วยสาเหตุที่ยอมรับได้ และผู้โดยสารจะไม่ติดใจอะไรเลย หากสายการบิน รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่ผิดพลาดอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งบางที สิ่งที่จะรับผิดชอบให้ผู้โดยสาร อาจจะไม่ต้องเสียอะไรเลย หากผู้โดยสารเต็มใจ ทั้งยังนำพามาซึ่งความรู้สึกดีที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเครื่องบินตรงเวลาซะอีก "เมื่อมีปัญหา....สารการบิน ไม่ทอดทิ้งเรา" จากคุณ : SuperTee (itCrazy) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 11:54:19

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : bremstrahlung เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 13:30:31

ความคิดเห็นที่ 42 ขออนุญาต จขกท นะครับ คห 11 ทำไมถึงคิดว่าสายการบินเมืองนอกเค้า delay น้อยกว่าไทยเหรอครับ? จากประสบการณ์ผม ไม่ได้ต่างกันเลย การ delay ที่ผมเกลียดที่สุด คือการที่เราต้องรอผู้โดยสารไม่กี่คน อยากให้สายการบินประกาศไปเลยว่า "ขออภัยผู้โดยสารทุกท่านด้วย เนื่องจากเรากำลังรอผู้โดยสาร ณ ที่นั่ง ... อยู่ ทำให้เครื่องไม่สามรถออกได้" จะได้ประจานกันไปเลย คนจะได้ไม่กล้าอีก เพราะผมเคยเจอ คือคนแถวหน้าๆเค้ามาช้า ทำให้ผู้โดยสารคนอื่นต้องรอ เจ้าตัวนี่ไม่ได้ทุกข์ร้อนเลย ออกแนวสนุกสนานมากกว่าที่มาช้า เห็นหัวเราะคิกคักกันใหญ่ คนที่เห็นก็จะมีไม่มาก คือคนที่นั่งแถวหน้าๆ แหมมม อยากใหคนเค้ารู้ทั้งลำจริงๆ ว่าที่ delay เนีย่ รอใครอยู่ แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 54 21:40:41 จากคุณ : เจ้าแตงกวาดอง เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 14:46:46

ความคิดเห็นที่ 43 ดีจังเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ส่วนมากเหตุผลที่ได้ยินบ่อย ๆ ก็คือ เนื่องจากขาเข้าล่าช้า แล้วราก็อดถามต่อ (ในใจ) ไม่ได้ว่า แล้วทำไมขาเข้าล่าช้าล่ะค้า เยังไงก็ตาดีเลย์เพราะเครื่องยนต์เสีย จนต้องเปลี่ยน ทำเราเสียวไส้หนะ กลัวไปเสียซ้ำซากระหว่างอยู่ข้างบน.. (ทำไมบางคอมเมนท์ เหมือนจะมีจิตหงุดหงิดกับอะไร เหมือนโกรธ จขกท.. เอ่อ อย่ามาโกรธเราหละ) ปล. จากดิฉัน คนเป็นโรคกลัวการบินขึ้นสมอง แต่ยังต้องบินอยู่บ้าง เห็นด้วยว่า ดีเลย์อยู่ข้างล่าง ดีกว่าตกจากข้างบนนะ แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 54 21:20:30 จากคุณ : ดอกลินสีด เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 21:14:13

ความคิดเห็นที่ 44 เข้ามาเพลียกับคุณryanman007 ค่ะ เพราะสิ่งที่ จขกท พูดมามันคือความจริง แล้วคุณเอามาจากไหนว่าสายการบินต่างประเทศดีเลย์น้อยกว่าบ้านเรา คิดได้ไงเนี่ย แต่ละอย่าง เพลียจริงๆ จากคุณ : เขียนบน iPhone (Jumbo@Tgang) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 22:04:25

ความคิดเห็นที่ 45 และดีเลย์เพราะลูกเรือมาไม่ทันนั้นเกิดขึ้นน้อยมากกกกกกกค่ะ คิดเป็น 0.0001% ต่อหลายปีค่ะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (Jumbo@Tgang) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 22:07:24

ความคิดเห็นที่ 46 คห.8 ผมเคยเจอกับตัวเอง ต้องนั่งรอบนเครื่องเกือบชั่วโมง กับการตามหาคนที่เช็กอินแล้ว โหลดกระเป๋าแล้ว แต่ไม่แสดงตัวบนเครื่องบิน ทั้งที่พนักงานที่gate ตรวจบอร์ดดิ้งพาสแล้วด้วย แต่ไม่อยู่บนเครื่อง ประกาศหาบนเครื่องหลายรอบ นับจำนวนผู้โดยสาร อีกหลายรอบ จนสุดท้ายต้องไปค้นหากระเป๋าที่โหลดใต้เครื่องออก เพื่อให้บินได้ สรุป กลับถึง กท.ตี1 (ของเดิมถึงกรุงเทพ ห้าทุ่มกว่า) จากคุณ : beeaui15 เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 23:09:05

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณ จขกท ครับ แต่เหนื่อยใจกับ ข้อความ บางข้อความจริงๆ จากคุณ : e21kmd เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 13:59:55

ความคิดเห็นที่ 48 เรียนคุณ เขียนบน iPhone ผมไม่เคยค้านว่า จขกท พูดไม่จริง ผมเพียงแต่บอกว่าสิ่งที่ จขกท เล่ามามันคือสิ่งที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว เพียงแต่ผมต้องการทราบแค่ว่าเมื่อไหร่ปัญหาพวกนี้มันจะถูกแก้สักที เพราะถ้าระบบมันถูกแก้ไขให้ดีขึ้น คุณจะไม่ต้องมานั่งเพลียเลย ทุกอย่างมันลงล๊อคเป๊ะๆๆ จบ แล้วที่ผมบอกบอกว่าเมืองนอกโดยมาก เครื่องจะ Delay น้อยกว่าเมืองไทย คุณก็เสริมมาว่ารู้ได้อย่างไรว่าเมืองนอก Delay น้อยกว่า ผมก็ได้ลงท้ายไว้ด้วยว่า ทำไมเราต้องไป Delay ตามเขา ผมถึงบอกไงว่าทำไมเราไม่ทำของเราให้เป็นที่หนึ่ง ทำไมเราถึงไม่ทำให้มัน Delay น้อยลงกว่าที่เป็นอยู่ ไอ้เรื่องปัญหาดินฟ้าอากาศ หรือ ปัญหาคน ผมไม่พูดถึง เพราะทุกสายการบินต้องเจอกันอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่แก้ไขลำบาก แต่... ปีๆ นึงมีคนสมัครทำงานสายการบินตั้งมากตั้งมาย ทุกคนล้วนแล้วแต่ตั้งใจอ่านหนังสือมาสอบ ดังนั้นสายกินบินถึงได้มีแต่คนมีคุณภาพ แต่ความตั้งใจมันก็ขึ้นแค่ตอนสอบ พอสอบได้ ชั้นได้เป็นแล้วโว้ย ทุกอย่างทิ้งหมด ความรักในงานบริการ การที่จะเอาความมีคุณภาพของตนเองมาพัฒนาสายการบินให้มันดีขึ้นเป็นลำดับ แต่ตรงกันข้าม เปล่าเลย ทุกคนแค่ชื่อชมใน FRom ของตัวเองว่าทำงานสายการบิน หรือบางทีหนักเข้าก็ดูถูกผู้โดยสารเหมือนกระทู้อื่นๆที่เอามา Post ๆ กัน หรือคุณต้องการให้มันเป็นแบบนี้ มีความสุขที่ได้เห็นความเดือดร้อนของผู้โดยสาร สุดท้าย!!! โปรดฟังอีกครั้ง ผมต้องการรู้แค่แนวทางแก้ไข มิใช่สาเหตุของปัญหา  เพราะเท่าๆ ที่อ่านมา ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าปัญหามันคืออะไร แต่ทุกคนยังไม่รู้แนวทางแก้ปัญหา อย่างเช่น ปัญหาคน เด็กคนหนึ่งชอบมาโรงเรียนสาย ขอถามหน่อยว่า ทาง รร.ก็ต้องปล่อยให้เด็กคนนั้นมาสายไปตลอดใช่หรือไม่ เพราะมันคือปัญหาคน มิใช่ปัญหาของระบบ รร. ทำไมผมถึงต้องฝืนนิสัยตัวเอง ที่ออกมาท้วงติง  ทั้งที่ผมเป็นคนเงียบๆ ไม่อยากมีเรื่องมีราว เพราะผมมองว่าค่าตั๋วบินที่พวกคุณตั้งขึ้นไม่ใช่ถูกๆ ทำไมพวกเราต้องเอาเงินก้อนไปแลกกับการบริการห่วยๆ ด้วย แค่อยากนั่งติดกันก็ต้องเสียตังค์เพิ่ม ทำไมโรงหนังไม่เห็นต้องเสีย แต่ก็ได้นั่งใกล้กัน ถ้าเป็นแบบนี้จะมีการ Book ตั๋วไปทำไม ไม่ต้องจองล่วงหน้า ไปถึงก่อนซื้อตั๋วหน้า Counter แล้วไปเลือกที่เอาเลย ใครช้าอด แบบนี้จะดีกว่าไหม สบายใจทั้งคนขาย ทั้งคนซื้อด้วย ใครมาช้าอด ภาษานี้ผมว่าเป็ฯภาษาที่คนไทยเข้าใจกันหมดแบบไม่มีข้อโต้แย้งด้วย จากคุณ : หนุ่ย (ryanman007) เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 14:17:23

ความคิดเห็นที่ 49 เพราะคนขายล็อตเตอรี่ครับ ตะโกนขาย พรุ่งนี้ออก พรุ่งนี้ออก นักบินเลยสับสน ออกวันนี้หรือพรุ่งนี้กันแน่เนี่ย จากคุณ : takbai เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 14:49:01

ความคิดเห็นที่ 50 #48 เข้าใจในสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อ และ รับรู้ถึงความปรารถนาดีเลยครับ เพียงแต่วิธีการพูด กับ ข้อมูลที่คุณมี มันอาจจะไม่ถูกต้อง และ ทำให้คุณใช้คำพูดแรงไป เลยทำให้คนอื่นต่อต้าน เช่น ทำไมเครื่องบินไม่พร้อมล่วงหน้า 1 วัน เพราะเครื่องบินเป็นพาหนะที่แพงครับ ไม่มีใครจอดทิ้งไว้เป็นวันๆ gound time ต่อเครื่อง อย่างมากสุดก็ 6 ชม.ครับ ซึ่งการตรวจเช็คทุกครั้ง ถ้าอุปกรณ์ไม่ทำงาน หรือ มีปัญหา มันก็เวลาค่อนข้างกระชั้น หรือพวกเครื่องที่ต้อง stop over ก็หลีกเลี่ยงปัญหานี้ไม่ได้เช่นกัน ทางแก้ไขคือ เผื่อเครื่องไว้สำรองเสมอ ก็เพิ่มต้นทุน เพิ่มราคาตั๋วโดยสาร ทุกคนก็ไม่แฮปปี้อยู่ดีครับ จริงมั๊ย? หลายๆเรื่องก็แก้ได้ ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ครับ ส่วนเรื่องลูกเรือมาไม่พร้อม แก้ไขได้ด้วยการ stand by ที่ออฟฟิศ ไม่ใช่ที่บ้าน แต่ถ้าสายการบินเป็น low cost ก็อาจจะให้ stand by ที่บ้านแทน เพราะเข้าออฟฟิศ จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า เป็นต้น เพราะฉะนั้นหลักคือมันต้องดู cost ด้วยครับ แต่ที่พวกเราช่วยกันได้คือ การแก้ปัญหา delay ของผู้โดยสาร ถ้าทุกคนมีวินัย ปัญหาก็จะลดน้อยลง 1 ข้อ แน่ๆครับ :) สรุปแล้วอยากให้เข้าใจว่า ปัญหาเนี่ยใครๆเขาก็อยากแก้ครับ แต่อาจจะแก้ไม่ได้ หรือ แก้แล้วเกิดผลกระทบต่อผู้โดยสาร(ราคา) ก็ต้องคอยดูครับ ว่าจะมีวิธีใดๆในอนาคตมั๊ย จากคุณ : geefa เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 16:44:23

ความคิดเห็นที่ 51 ^ ^ ^ ถ้าพนักงานสายการบินรู้จักตอบคำถามลูกค้าแบบที่คุณตอบผม ปัญหามันก็น่าจะน้อยลงไปอีก 1 ข้อ ^_^ จากคุณ : หนุ่ย (ryanman007) เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 16:49:17

ความคิดเห็นที่ 52 เพิ่งได้ตามมาอ่านค่ะ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:05:58

ความคิดเห็นที่ 53 โอว ว้าว.... ไม่คิดว่าจะมีคนมาติดตามกระทู้ของผมขนาดนี้ ขอบคุณจริงๆครับ ขอโทษที่มาตอบช้าเพราะว่าทำงาน (ในสนามบิน) นั่นแหละ ขออนุญาตเสริมนะครับ @ คุณ amadillo มีครับ แต่ก็น้อยจริงๆ ส่วนใหญ่ท่านเหล่านั้นจะเดินทาง domestic ซะมากและผู้หลักผู้ใหญ่ นักการเมืองหลายคนก็น่ารัก มาตรงเวลาดีครับ @คุณ ryanman 007 ผมต้องขออภัยด้วยครับ ถ้า "ประสบการณ์" หรือ "information" ที่ผมนำเสนอไปทำให้คุณไม่สบอารมณ์ เพราะผมถ่ายทอดจากที่ผมรู้เห็นมา 5-6 ปี ไม่ได้มีเจตนาอื่นจริงๆครับ ยังงัยติ-ชมได้ครับ ยินดีรับฟังทุกความเห็น @คุณ Co-jorn ความรู้ใหม่ของผมเช่นกันครับ ลึกซึ้งมากๆ @คุณ lexusman ใช่ครับ ขอโทษที่ผมข้อมูลผิดพลา่ดและขอบคุณที่แก้ให้ครับ @คุณ Ethanol ยอมรับว่ามีจริงๆครับ ผมไม่ชอบและไม่อยากให้เกิดขึ้น เหมือนกัน เช่นไฟลท์ไป เชียงใหม่ ออก 13.00 น. มี booking ของผู้โดยสารน้อยมากประมาณ 10-20 คน ซึ่งทางสายการบินเห็นสมควรว่าบินไปก็ไม่คุ้มทุน จึงผนวกผู้โดยสารไฟลท์ออกบ่ายโมงไปรวมกับไฟลท์บ่าย 2 เป็นต้น ผมเป็นผู้โดยสารโดนแบบนี้ไปก็จุกเหมือนกันครับ ฝ่ายผมก็ต้องทำงานกันไป ตัดสินใจอะไรไม่ได้ ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์จะดูแลลูกค้าโดยโทรศัพท์หรือ sms ไปบอก น่าเห็นใจคนที่มีธุระจำเป็นครับ @คุณ David_kop ใช่ครับแต่ทางสายการบินจะทำการประเมินเวลาก่อนว่าผู้โดยสารจะทำให้เครื่องดีเลย์หรือไม่ เริ่มตั้งแต่ตอนขายตั๋วเลยแหละครับ ถ้าดูแล้วไปไม่ทันสายการบินก็ไม่ขายครับ หรือผู้โดยสารที่มี booking อยู่ถ้ามา check-in ช้าเกินกว่าที่ทางสารการบินกำหนด ทางสายการบินก็มีสิทธิที่จะปฎิเสธการเดินทางของผู้โดยสารได้ครับ สัมภาระของผู้โดยสารก็มีส่วนในการประเมินครับ เพราะสัมภาระต้องผ่านกระบวนการตรวจเช็คโดยเครื่อง x-ray ของสนามบินก่อนซึ่งจะทำให้ต้องบวกเวลาเข้าไปอีก @คุณ Mommy@Daddy เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ที่ลูกเรือรวมไปถึงนักบินควรจะมา standby ที่สนามบินจะช่วยได้มากถ้าเกิดกรณีฉุกเฉิน แต่เดี๋ยวผมขอลองไปหาข้อมูลจากคนไกล้ตัวแล้วจะมาเล่าสู่กันฟังอีกทีนะครับ..... ทางส่วนของเค้าก็น่าจะมีเหตุผลรองรับอยู่ ขอบคุณที่เสนอแนะและแชร์ความคิดเห็นครับ จริงๆแล้วอาจจะมีสาเหตุอื่นๆ อีกแต่ตอนนี้ผมนึกออกเท่าน้และเป็นเรื่องที่เจอกันบ่อย.... จากคุณ : Ralphael เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 08:42:02

ความคิดเห็นที่ 54 เรื่องstand by จากประสบการณ์ที่คนใกล้ตัวเป็นแอร์สายการบินต่างชาติสายหนึ่ง เค้าจะมีทั้งรอสแตนบายที่บ้าน กับสแตนบายที่บริษัท (ซึ่งบริษัทก็อยู่ในสนามบินนั่นแหละ) ถ้าสแตนบายที่บ้าน วันนั้นคุณห้ามออกจากบ้านไปไหนเลย รอรับโทรศํพท์เรียกบินทั้งวัน ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรออยู่ที่บ้าน ในเมื่อโทรศัพท์มือถือก็มี ความเห็นส่วนตัว ผมคิดว่าน่าจะเป็นกรณีไม่เร่งด่วน เช่น บริษัทอาจจะโทรมาตอนเช้า เพื่อเรียกไปบินไฟล์บ่าย อะไรประมาณนี้ ส่วนสแตนบายที่บริษัท .... อันนี้พนักงานจะแต่งชุดฟอร์ม พร้อมแพคกระเป๋าเหมือนไปทำงานจริงๆเลย ...... แต่ไปนั่งๆนอนๆที่บริษัท หากมีเหตุฉุกเฉินก็จะสามารถขึ้นบินแทนได้ทันที กรณีนี้เป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก(แต่ได้เบี้ยเลี้ยงนะ) เพราะต้องรอจนกว่าไฟล์ที่ได้รับมอบหมายในวันนั้นบินออกจากน่านฟ้าประเทศไทยไปซะก่อนถึงจะกลับบ้านได้ ผิดถูกประการใดรอ คห. ต่อไปมาเพิ่มเติมครับ ^^ จากคุณ : KMnO4 เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 21:37:23