ความคิดเห็นที่ 1 ข่าวครับ ================ ภูเก็ตเตรียมชง"รถไฟฟ้ารางเบา"เสนอรัฐบาลใหม่ โดย ผู้จัดการรายวัน 3 ตุลาคม 2549 18:51 น. ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ภูเก็ตเตรียมเสนอผลการศึกษา โครงการการก่อสร้างรถไฟฟ้าขนาดเบารอบเกาะภูเก็ต ต่อรัฐบาลใหม่เพื่อหาผู้ร่วมลงทุน หลังบริษัทที่ปรึกษาได้ข้อสรุป 3 เส้นทางหลักในการพัฒนาแล้ว จากการประชุมคณะกรรมการกำกับการศึกษา โครงการศึกษาความเป็นไปได้ การก่อสร้างรถไฟฟ้าขนาดเบารอบเกาะภูเก็ต และเส้นทางสนามบิน ครั้งที่ 6/2549 เมื่อเร็วๆนี้ ที่ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดภูเก็ต(POC) โดยมีนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน คณะกรรมการฯ กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบไปด้วย บริษัทพีระมิด ดีเวลล็อปเมนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท อีโคซิสเต็ม เอ็นจิเนียริ่ง คอนซันแตนท์ จำกัด และศูนย์วิจัยและพัฒนาการจราจรและขนส่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เข้าร่วมประชุม สำหรับการประชุมครั้งนี้ เป็นการสรุปผลการศึกษาการคัดเลือก แนวเส้นทางและรูปแบบระบบขนส่งสาธารณะ ตามที่บริษัทที่ปรึกษาได้ศึกษา เพื่อคัดเลือกระบบขนส่งสาธารณะ ที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับการพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวของเกาะภูเก็ต "จังหวัดจะส่งรายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาความเป็นไปได้การก่อสร้างรถไฟฟ้าขนาดเบารอบเกาะภูเก็ต สำนักงานนโยบายและแผน การขนส่งและการจราจร เสนอต่อรัฐบาลใหม่เพื่อหาผู้ลงทุนทันที เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว" สำหรับ ผลจากการศึกษาที่บริษัทที่ปรึกษาเสนอให้พัฒนาระบบรถไฟฟ้าในพื้นที่ ได้เสนอให้พัฒนา 3 เส้นทาง คือ เส้นทางสายที่ 1 ใช้สำหรับเดินทางระหว่างสนามบินนานาชาติภูเก็ต และห้าแยกฉลองโดยพัฒนาเป็นรถไฟฟ้าระบบล้อยางแบบระดับดิน โดยมีระบบควบคุมการจัดการที่ทางแยก 2 ระบบ คือ ทางเลือกที่เป็นระบบปิด ซึ่งเป็นการจัดช่องจราจรเฉพาะให้กับรถไฟฟ้า และทางเลือกที่เป็นระบบเปิด หมายถึงการจัดช่องจราจรให้รถไฟฟ้าโดยกำหนดให้รถชนิดอื่นใช้เส้นทางร่วมด้วย ผลจากการวิเคราะห์ความเหมาะสมของโครงการพบว่า การพัฒนาให้มีรถไฟฟ้าเส้นทางสายที่ 1 จะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 7,064 ล้านบาท และมีผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ 78,720 ล้านบาท เส้นทางสายที่ 2 ใช้สำหรับเดินทางระหว่างป่าตองและอำเภอเมืองภูเก็ต โดยพัฒนาเป็นรถไฟฟ้าระบบล้อยางแบบระดับดิน โดยมีระบบควบคุมการจัดการที่ทางแยก 2 ระบบ คือ ทางเลือกที่เป็นระบบปิดบางช่วงและระบบเปิดบางช่วง ผลจากการวิเคราะห์ความเหมาะสมของโครงการ พบว่า การพัฒนาให้มีรถไฟฟ้าเส้นทางสายที่ 2 จะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 2,844 ล้านบาท และมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 39,805 ล้านบาท เส้นทางสายที่ 3 ใช้สำหรับเดินทางระหว่าง สามแยกบางคู และห้าแยกฉลอง โดยพัฒนาเป็นรถไฟฟ้าระบบล้อยางแบบระดับดิน โดยมีระบบควบคุมการจัดการที่ทางแยก 2 ระบบ คือ ทางเลือกที่เป็นระบบปิด ช่องจราจรแบบเปิด คือให้รถชนิดอื่นใช้เส้นทางร่วมด้วย ผลจากการวิเคราะห์ความเหมาะสมของโครงการ พบว่า การพัฒนาให้มีรถไฟฟ้าเส้นทางสายที่ 1 จะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 2,908 ล้านบาท และมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 32,640 ล้านบาท หากมีการพัฒนารถไฟฟ้าสามเส้นทางไปพร้อม ๆ กัน จะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 12,816 ล้านบาท และมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 181,405 ล้านบาท จากการรวบรวมความเห็นของประชาชน ทั้ง 3 ส่วนดังกล่าวข้างต้น พบว่า ประชาชนและผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับการสร้างรถไฟฟ้ารอบเกาะภูเก็ต และได้ร่วมกันเสนอแนะแนวคิดในการออกแบบ และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับชุมชน และประชาชนที่มีอาชีพเกี่ยวกับการเดินรถของคนในพื้นที่ พร้อมทั้งมาตรการลดผลกระทบจากการดำเนินโครงการ เช่น จัดสร้างจุดจอดรถโดยสาร บริเวณสถานีรถไฟฟ้าหลัก เพื่อขนถ่ายผู้โดยสารไปยังเป้าหมายการเดินทาง พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะย่อย เช่น ตุ๊กตุ๊ก รถสองแถว เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว และประชาชนในการเข้ามาใช้บริการ และเป็นการกระจายรายได้ให้แก่ผู้ประกอบอาชีพสาธารณะเดิม ฯลฯ จากคุณ : phuket เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 16:07:34 A:147.83.129.130 X: TicketID:275195

ความคิดเห็นที่ 2 ++แต่พอมาปี2550 ก็ศึกษากันต่อไป ** โดย ผู้จัดการรายวัน 29 สิงหาคม 2550 18:11 น. ศูนย์ข่าวภูเก็ต -สนข.ให้งบ 10 ล้านบาท จ้างศูนย์วิจัยและพัฒนาการจราจรและขนส่ง ทำ "แผนปฏิบัติการเร่งด่วนด้านการจราจรและขนส่งเมืองภูเก็ต เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสนับสนุนการพัฒนาเมืองน่าอยู่" หวังแก้ปัญหาจราจรของภูเก็ต รองรับการเติบโตในอนาคต นายประสิทธิ์ รักษายศ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมระบบการขนส่งและจราจรในภูมิภาค สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า สนข.ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 10 ล้านบาท ในการว่าจ้างศูนย์วิจัยและพัฒนาการจราจรและขนส่ง (TDRC) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นที่ปรึกษาดำเนินการจัดทำ "แผนปฏิบัติการเร่งด่วนด้านการจราจรและขนส่งเมืองภูเก็ตเพื่อส่งเสริมการ ท่องเที่ยว และสนับสนุนการพัฒนาเมืองน่าอยู่" เพื่อจัดทำแผนงานการแก้ไขปัญหาการจราจรและขนส่ง ในพื้นที่ที่มีปัญหาด้านจราจรของจังหวัดภูเก็ตให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถนำไปดำเนินการได้ทันที นอกจากการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนด้านการจราจรแล้ว ยังดำเนินการวางแผนการแก้ไขปัญหาการจราจรและขนส่งในระยะต่อเนื่อง เพื่อการพัฒนาระบบการจราจรและขนส่งเพื่อส่งเสริมการเดินทาง การท่องเที่ยว และการเป็นเมืองน่าอยู่ของจังหวัดภูเก็ตด้วย เช่น การจัดทำฐานข้อมูลและแผนปฏิบัติการ 5 ปี การจัดทำแผนงานพื้นที่นวัตกรรมเพื่อการแก้ไขปัญหาการจราจร เป็นต้น ทั้งนี้ คณะที่ปรึกษาได้ดำเนินการศึกษาทำแผนมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2550 ใช้เวลาในการดำเนินการทั้งสิ้น 8 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดการดำเนินการในเดือนตุลาคม 2550 นายประสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาการจราจรของภูเก็ต จำเป็นที่จะต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน เพราะหากปล่อยให้การจราจรมีปัญหาอย่างนี้ต่อไปจะส่งผลกระทบในหลายๆเรื่อง ซึ่งจากผลการศึกษาของคณะที่ปรึกษาพบว่าภูเก็ตมีปัญหาวิกฤตจราจรอยู่หลายจุด ด้วยกัน โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครภูเก็ตที่ถนนบางสายในช่วงเช้าและเย็นการจราจรติดขัด มาก ตามสี่แยก สามแยกนอกเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น รวมทั้งที่หาดป่าตอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสี่ยง การแก้ปัญหาจราจรของภูเก็ตที่คณะที่ปรึกษานำเสนอมีหลายแนวทาง เป็นแนวทางที่ไม่ต้องอาศัยการสร้างโครงข่ายถนนให้มากขึ้น แต่เป็นการแก้ปัญหาให้ตรงจุด เช่น การทำทางลอด หรือทางยกระดับในบริเวณสี่แยก สามแยกนอกเมือง ที่มีการจราจรหนาแน่นหรือการแก้ปัญหาด้วยระบบสัญญาณไฟจราจร ส่วนในตัวเมืองที่มีปัญหาจราจรติดขัดมากในช่วงเร่งด่วน ทั้งตอนเช้าและตอนเย็นจะแก้ปัญหาเป็นจุด เช่น การแก้ปัญหาจุดที่เป็นคอขวด จุดจอดรถที่ไม่เหมาะสม ระบบสัญญาณไฟจราจรตามจุดต่างๆ การจัดทำเป็นทางเดินรถทางเดียว ส่วนที่หาดป่าตองอาจจะมีการทำเป็นเส้นทางเดินทางเท้าให้มากขึ้น เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ผลการศึกษาแล้วเสร็จในเดือนตุลาคมนี้ คิดว่าการแก้ปัญหาจราจรของภูเก็ตจะมีความชัดเจน และเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพราะทางคณะที่ปรึกษาจะต้องจัดทำเป็นโมเดลการแก้ปัญหาในแต่ละจุด เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นนำไปดำเนินการแก้ปัญหาได้ทันที http://www.citiservice.net/forum/index.php?topic=11906.0 จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 16:09:44 A:147.83.129.130 X: TicketID:275195

ความคิดเห็นที่ 3 ++++นักลงทุนจีนสนใจลงทุนรถไฟฟ้าภูเก็ต+++++ ขียนโดย ข่าวคมนาคม วันจันทร์ที่ 02 สิงหาคม 2010 เวลา 19:42 น. เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2553 ที่ห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ชั้น 2 ศาลา กลางจังหวัดภูเก็ต นายเรวัติ อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ นำตัวแทนบริษัทลงทุนจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าพบนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อสอบถามถึงนโยบายของจังหวัดภูเก็ตเกี่ยวกับการผลักดันให้เกิดรถไฟฟ้า เส้นทางสนามบิน – ตัวเมืองภูเก็ต พร้อมทั้งขอข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดทำโครงการทั้งหมด โดยบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่ลงทุนก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน และมีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนรถไฟฟ้าในจังหวัดภูเก็ต หลังจากรับทราบข้อมูลแล้วก็จะได้ส่งตัวแทนเข้ามาศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดอีก ครั้ง ก่อนที่จะนำเสนอรูปแบบกับทางจังหวัดในโอกาสต่อไป ทั้ง นี้นายเรวัติ อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตัวแทนบริษัทลงทุนจากจีนต้องการที่จะเข้ามาศึกษาการลงทุนรถไฟฟ้าในภูเก็ตใน ลักษณะเทิร์นคีย์ หลังจากนี้อีกประมาณหนึ่งเดือนก็จะกลับมาพบกับผู้ว่าฯ อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทางจังหวัดได้มอบผลการศึกษารถไฟฟ้ารางเบาเส้นทางสนามบิน – ตัวเมืองภูเก็ตที่ทางจังหวัดภูเก็ตได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาไว้เมื่อปี 2549 เพราะ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ามีความจำเป็นสำหรับระบบขนส่งมวลชนของจังหวัดภูเก็ต เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะปัจจุบันจากการเติบโตของเมืองซึ่งส่งผลกระทบต่อการจราจรค่อนข้างมาก การสร้างรถไฟฟ้าจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการแก้ปัญหาดังกล่าว ขณะ ที่นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตจำเป็นที่จะต้องมีรถไฟฟ้าเชื่อมระหว่างสนามบินกับตัวเมืองและ แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เพราะปัจจุบันภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาปีละประมาณ 5 – 6 ล้านคน และขณะนี้ท่าอากาศยานภูเก็ตยังได้งบอีกประมาณ 6,000 ล้านบาท ในการขยายท่าอากาศยานให้สามารองรับผู้โดยสารได้ปีละ 12 ล้านคนในอีก 4 – 5 ปี ข้างหน้า รวมทั้งการจัดทำโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติซึ่งขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนของการออกแบบ ประกอบกับทางจังหวัดภูเก็ตได้เสนอตัวที่จะเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์เอกซ์โปร์ ในปี 2020 ดังนั้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในกระบวนการขนส่งสำหรับภูเก็ตมาก จากคุณ : phuket เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 16:17:21 A:147.83.129.130 X: TicketID:275195

ความคิดเห็นที่ 4 ภูเก็ต, ทุนฮ่องกง-สิงคโปร์ทาบลงทุนรถไฟฟ้าที่ภูเก็ต ( ข่าวภูเก็ต ) นักลงทุนฮ่องกง-สิงคโปร์สนใจลงทุนรถไฟฟ้าที่ภูเก็ต ขอเวลาศึกษาข้อมูล 3 เดือนก่อนตัดสินใจว่าจะลงทุนหรือไม่และลงทุนในรูปแบบใด ด้านจังหวัดตอบรับนำเสนอข้อมูลผลการศึกษามีเส้นทางเร่งด่วน 3 เส้นทางจากสนามบิน-ห้าแยกฉลอง เส้นทางป่าตอง-เมืองภูเก็ต และสามแยกบางคู-ห้าแยกฉลอง ใช้เงินลงทุนประมาณ 12,000 ล้านบาท นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วย หอการค้าจังหวัดภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ สภาอุตสาหกรรม โยธิการและผังเมืองภูเก็ต แขวงการทางภูเก็ต องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมประชุมหารือกับ ดร.Allina Salim กรรมการผู้จัดการ กองทุน Jade Trust Fund International เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารอบเกาะภูเก็ต ณ.ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ เนื่องจากทางกองทุน Jade Trust Fund International ซึ่งเป็นกองทุนที่จดทะเบียนในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่บริหารกองทุนโดยนักลงทุนในประเทศฮ่องกงและประเทศสิงคโปร์ มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนรถไฟฟ้าที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งการมาประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัด ภูเก็ตครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะมารับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อ สร้างรถไฟฟ้ารอบเกาะภูเก็ต ก่อนหน้านี้ ทางจังหวัดภูเก็ตได้ใช้งบผู้ว่าฯซีอีโอ จ้างทางสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีทำการศึกษาโครงการความเป็นไปได้ใน การก่อสร้างรถไฟฟ้ารอบเกาะภูเก็ต ซึ่งผลการศึกษาสรุปว่าเส้นทางเร่งด่วนที่จะต้องลงทุนก่อนมี 3 เส้นทางหลักด้วยกัน คือ เส้นทางสนามบินภูเก็ต-ห้าแยกฉอลง ระยะทาง 41.40 กิโลเมตร พัฒนาเป็นรถไฟฟ้าระบบล้อยางแบบระดับดิน โดยมีระบบการควบคุมการจัดการที่ทางแยก 2 ระบบ คือ ทางเลือกที่เป็นระบบปิดโดยการจัดช่องจราจรเฉพาะให้กับรถไฟฟ้า และทางเลือกที่เป็นระบบเปิดคือใช้ร่วมกับรถชนิดอื่นๆ โดยเส้นทางนี้จะใช้เงินลงทุนประมาณ 7 พันล้านบาท มีผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ 78,720 ล้านบาท เส้นทางที่สอง ป่าตอง-อ.เมืองภูเก็ต เพื่อที่จะมาต่อกับเส้นทางสนามบิน-ฉลองในการขนนักท่องเที่ยวต่อไปยังหาดป่า ตอง พัฒนาเป็นรถไฟฟ้าระบบล้อยางแบบระดับดินเหมือนเส้นทางแรก ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 2,844 ล้านบาท และมีผลต่อแทนทางเศรษฐศาสตร์ 32,640 ล้านบาท และเส้นทางที่ 3 สามแยกบางคู-ห้าแยกฉลอง โดยเส้นทางนี้จะเข้ามาในตัวเมืองภูเก็ตแล้วไปบรรจบกับเส้นทางหลักที่ห้าแยก ฉลอง ซึ่งจะใช้รถไฟฟ้าระบบล้อยางเหมือนกับเส้นทางที่หนึ่งและเส้นทางที่ 2 ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 2,908 ล้านบาท ทั้งนี้ หากมีการพัฒนารถไฟฟ้าทั้งสามเส้นทางพร้อมๆกัน จะใช้งบประมาณในการลงทุนทั้งสิ้น 12,816 ล้านบาท และมีผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ 181,405 ล้านบาท การศึกษาความเป็นไปได้ที่จะให้มีรถไฟฟ้าเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตก็ เพื่อที่จะเพิ่มความสะดวกในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น ตลอดทุกปีและประชาชนชาวภูเก็ต รวมถึงการแก้ปัญหาการจราจรของภูเก็ต ที่ในปัจจุบันต้องประสบปัญหารถติดมากในชั่วโมงเร่งด่วนไม่แพ้เมืองอื่นๆ จากปัญหาถนนที่มีอยู่ค่อนข้างคับแคบ แต่ปริมาณรถยนต์และรถจักรยานต์กลับเพิ่มสูงขึ้นทุกๆปี นายวิชัย ไพรสงบอ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทางจังหวัดภูเก็ตยินดีที่จะให้นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวเข้ามาลงทุนโครงการ รถไฟฟ้ารอบเกาะภูเก็ต ตามที่ทางจังหวัดภูเก็ตได้เคยศึกษาไปแล้ว เพื่อเป็นการรองรับการขนส่งนักท่องเที่ยวในภูเก็ตที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปีและ แก้ปัญหาการจราจรด้วย ซึ่งทางจังหวัดพร้อมที่จะผลักดันให้โครงการนี้เกิดขึ้น ขณะที่ภาคเอกชนก็เห็นด้วยที่จะให้มีรถไฟฟ้าเกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ต แต่จะต้องให้มีความสะดวกในการใช้บริการของนักท่องเที่ยว และสามารถเข้าถึงแหล่งที่พักของนักท่องเที่ยวได้ ถึงจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ใช้บริการได้มาก เพราะภูเก็ตมีระบบการขนส่งนักท่องเที่ยวจากสนามบินไปถึงโรงแรมที่พักในขณะ นี้หากเป็นรถแท็กซี่ หรือรถลีมูซีนก็จะอยู่ที่ 800-900 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ไม่สูงมากนัก นักท่องเที่ยวสามารถจ่ายได้ ซึ่งแตกต่างจากฮ่องกงที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้รถไฟฟ้าไปสนามบิน เพราะราคาค่ารถแท็กซี่สูงมากไป-กลับตกประมาณ 4-5 พันบาท และรถไฟฟ้าในฮ่องกงมีความสะดวกและรวดเร็ว เข้าถึงแหล่งที่พัก แหล่งช้อปปิ้ง และแหล่งธุรกิจได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ดร.Allina Salim กรรมการผู้จัดการ กองทุน Jade Trust Fund International กล่าวว่า ทางกองทุนสนใจที่จะเข้ามาลงทุนรถไฟฟ้าที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งทางกองทุนมีประสบการณ์การลงทุนมาในหลายๆเมืองแล้ว ก่อนที่จะเดินทางมาหารือร่วมกับทางจังหวัดภูเก็ตได้มีการหารือร่วมกันแล้วใน ส่วนของกองทุน ก็พร้อมที่จะเข้ามาลงทุน การเดินทางมาในวันนี้ก็เพื่อที่จะมารับทราบข้อมูลในเบื้องต้นและทราบว่า ภูเก็ตมีการศึกษาโครงการนี้ไปแล้ว โดยทางเราจะนำข้อมูลที่ได้ศึกษาไปแล้วไปทำการศึกษาอีกรอบหนึ่ง โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 30 วันได้ข้อสรุปว่าจะเข้ามาลงทุนในรูปแบบใดทั้งในรูปแบบของเทิร์นคีย์ ร่วมลงทุน หรือเงินกู้ ซึ่งจะกลับมาหารือกับทางจังหวัด ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์ http://www.andamanguide.com/andaman_news/andaman_news_1_1526.html จากคุณ : phuket เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 16:20:09 A:147.83.129.130 X: TicketID:275195

ความคิดเห็นที่ 5 จากข่าว >>>หากเป็นรถแท็กซี่ หรือรถลีมูซีนก็จะอยู่ที่ 800-900 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ไม่สูงมากนัก นักท่องเที่ยวสามารถจ่ายได้ คนที่จ่ายได้น่าจะมีคนไทยส่วนน้อยที่อยากจ่ายค่า taxi 800-900 ถ้าไปสอง สามคนก็ อาจจะำำำพอไหว ถ้าคนเดียวไม่ไหวนะครับ ตอนนี่เท่าที่ทราบจาก สนามบินไปป่่าตอง 650 บาท 800น่าจะไป กะตะ มีทางเลือก ผลตอบแทนระยะยาวดีกว่านะครับ จากคุณ : phuket เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 16:28:51 A:147.83.129.130 X: TicketID:275195

ความคิดเห็นที่ 6 http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=49 จากคุณ : หม่องวิน มอไซ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 17:21:56

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้ารัฐบาล สนใจเรื่องระบบรถไฟฟ้า มากเท่าๆกับสนใจเรื่อง 7 คนไทยในเขมร ป่านนี้....ชาติเจริญไปนานแล้ว..... จากคุณ : มาตรฐานชายไทย เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 17:36:40

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณครับคุณ หม่องวิน มอไซ คุณภูเก็ต อบจ อบต ต้องช่วยกันละครับ ทำเป็นตัวอย่าง เมืองน่าอยู่ แล้วกระจายต่อ ขนส่ง เดินทาง ิสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย ควา่มาสะอาด เพิ่ม สวนสาธารณะ ี่รายได้ ภาษีเยอะก็ ปรับปรุงให้ดีหน่อย จากคุณ : phuket เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 17:55:25 A:147.83.129.130 X: TicketID:275195

ความคิดเห็นที่ 9 อยากให้มีทั่วประเทศเลย รถไฟฟ้าเนี่ยะ.. ถ้า ภุเก้ต นำร่องได้ น่าจะเป้น แบบอย่างที่ดี..... จากคุณ : tuman47 เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 19:17:04

ความคิดเห็นที่ 10 โอ้ววว อยากให้มีเหมือนกันค่ะ ภาวนาทุกวันให้บ้านเรามีกะเค้าซักที การเดินทางท่องเที่ยวจะได้ยิ่งเฟื่องฟู แต่ก็นั่นหละ จะฝ่าด่านแท็กซี่ ตุ๊กๆ มาเฟียได้เร๊อะ!!! จากคุณ : LinGio เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 19:48:32

ความคิดเห็นที่ 11 รถไฟฟ้ารางบนดิน ค่าใช้จ่ายถูก ภูเก๊ตสามารถสร้างได้บนงบของตัวจังหวัดเองสบายๆ แถมคืนทุนเร็วมากอีกด้วย จากคุณ : x เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 21:11:59 A:210.246.72.228 X: TicketID:052378

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นเชียงใหม่ก็ประชุม ทำประชาพิจารณ์ไปตั้งนานแล้ว ก็ยังไม่คืบหน้าไปไหน จากคุณ : tee-aun เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 22:15:09

ความคิดเห็นที่ 13 - Taxi ก็ยังมีได้ทีสนามบิน - ตุ๊กๆ ไปรอรับตามสถานีใหญ่ๆ เ่ช่น lotus , central ฉลอง และ อื่นๆ พาไปส่งต่อ ได้ - ยังไงมีทางเลือกไว้ก่อนดีกว่านะครับยังทำมาหากินไ้ด้อีกเยอะ ปรับตัวกันนิด เหมือน กทม ม ี bts ก็มีคนนั่ง taxi เหมือนกัน จะไม่นั่งน่าจะมีรถไฟฟ้า 20 สาย มัง ที่ กทม ถึงอาจจะไม่อยากใช้taxi - ชอบ ถ้าเชียงใหม่มีด้วย รถราง จากคุณ : phuket เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 23:26:32 A:147.83.20.246 X: TicketID:275195

ความคิดเห็นที่ 14 อีกข่าว เพื่อ support รถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ตคืบ จังหวัดเตรียมรับฟังความเห็นท้องถิ่นอีกครั้ง ด้าน สส. ทศพรชี้เส้นทางสนามบิน-ห้าแยกฉลองเหมาะก่อสร้าง เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมปรึกษาหารือแนวทางการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าขนาด เบารอบเกาะและเส้นทางสนามบิน รวมทั้งการแก้ไขปัญหาการขนส่งและจราจรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายทศพร เทพบุตร สส. ภูเก็ต นายประณต สุริยะ รอง ผอ. สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งจราจร นายชัยอนันต์ สุทธิกล นายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ นายมาโนช พันธ์ฉลาด นายก อบต. เชิงทะเล พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม นายวิชัย กล่าวภายหลังการหารือว่า ทางจังหวัดจะเชิญอนุกรรมการจราจรจังหวัดภูเก็ต ท้องถิ่น ประชุมหารือเพื่อใช้มติว่าต้องการรถไฟฟ้ารางเบาหรือไม่ หลังจากนั้นจะนำเสนอรัฐบาลถึงผลสรุปความต้องการของประชาชนแล้วจะแจ้งต่อไป ยังสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งจราจรทราบต่อไป ส่วนเรื่ององค์กรที่จะเข้ามาบริหารจัดการเทคโนโลยีที่จะใช้รูปแบบใดขึ้นอยู่ กับรัฐบาล ด้านนายทศพร เทพบุตร สส. ภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตมีความเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจสูงมากโดยเฉพาะด้านการท่อง เที่ยว จึงถึงเวลาแล้วต้องมีรถไฟฟ้าที่สำคัญภูเก็ตจะมีการขยายสนามบินนานาชาติ ภูเก็ต ใช้งบประมาณกว่า 5 พันล้านบาทในการก่อสร้างรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 12 ล้านคน นอกจากนี้จะมีการก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติที่ท่าฉัตรไชย ต. ไม้ขาวด้วย ระบบขนส่งมวลชนที่ได้มาตรฐานต้องรองรับ 2 โครงการดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ดีจากการศึกษาของจังหวัดเมื่อปี 2549 มี 3 เส้นทางประกอบด้วยเส้นทางที่ 1 สนามบิน – ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 41.4 กม. งบประมาณก่อสร้าง 7,064 ล้านบาท เส้นทางที่ 2 ป่าตอง – เมืองภูเก็ต ระยะทาง 18.4 กม. งบประมาณ 2,874 ล้านบาท และเส้นทางที่ 3 บางคู – ห้าแยกฉลองระยะทาง 16.8 กม. งบประมาณก่อสร้าง 2,908 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในส่วนตัวตนเองเห็นด้วยในเส้นทางที่ 1 คือเส้นสนามบินภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ซึ่งเส้นทางดังกล่าวหากมีการก่อสร้างจะช่วยแก้ปัญหาจราจรภูเก็ตได้ ที่สำคัญนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจะได้ใช้ระบบขนส่งมวลชนที่ได้มาตฐาน มากยิ่งขึ้น นายมาโนช พันธ์ฉลาด นายก อบต. เชิงทะเล กล่าวว่า ท้องถิ่นเอง พร้อมสนับสนุนและพร้อมพูดคุยกับประชาชน ทั้งนี้ต้องมีเจ้าภาพหลักก่อน ซึ่งธรรมดาการเปลี่ยนแปลงต้องมีผลกระทบ ภูเก็ตเราปล่อยตามยถากรรมมานาน ทำให้ไม่มีทางเลือก การเกิดรถไฟฟ้ารางเบาถือเป็นทางเลือกใหม่ของระบบขนส่ง อย่างไรก็ดี รัฐบาลควรเริ่มต้นก่อนเพื่อความชัดเจนของโครงการ นายชัยอนันต์ สุทธิกุล นายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ กล่าวว่า ตนเองเห็นด้วยกับการเกิดรถไฟฟ้ารางเบา ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชนที่มีมาตรฐาน เราไปท่องเที่ยวประเทศที่เจริญแล้ว จะเห็นระบบดังกล่าวมีทุกเมือง แต่ก่อนจะเกิดจำเป็นต้องรับฟังเสียงประชาชนด้วย เพื่อไม่ให้ระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น ข้อมูลจาก :: ส.ปชส.ภูเก็ต จากคุณ : phuket (naist) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 01:47:37