ความคิดเห็นที่ 1 กฏหมายบ้านเขาดีจริงๆแหะ จากคุณ : คนลาดพร้าว71 เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 22:46:40

ความคิดเห็นที่ 2 ขอเเสดงความเห็นนะครับ เท่าที่อ่านย่อหน้าเเรกเข้าใจว่า จขกท เเน่ะนำให้ไม่ต้องพก กล้องถ่ายรูป หรือคอมพิวเตอร์ไป โดยไปซื้อเอาที่นู้น แล้วพอใช้เสร็จค่อยเอาไปคืน ในแบบที่ว่าเราไม่พอใจของๆเค้า อันนี้ การที่เค้ากำหนดให้สามารถคืนของได้ จะเห็นว่า กฏหมายเค้าคุ้มครองผู้บริโภคอย่างมาก แต่การทำอย่างที่บอก ผมว่าเป็นการหาช่องโหว่ของกฎหมาย ซึ่ง ผมว่า  ..เป็นการทำ "นิสัยที่ไม่ดี" ครับ และผมคิดว่าที่สถานการณ์บ้านเมือง ของเราลำบากกันมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา ก็เพราะมีคน "หาช่องโหว่ของกฎหมาย" เนี่ยละครับ ดังนั้นเเล้วผมคิดว่า ขอให้อย่าทำเลยครับ หากมีลูกหลานก็สอนให้อย่าทำเลยครับ จากคุณ : Tuk Tukga เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 22:55:09

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ^ เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ จากคุณ : sa_bkk เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 23:16:28

ความคิดเห็นที่ 4 แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 54 23:24:37 จากคุณ : อุสมันกาโบนิก เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 23:18:41

ความคิดเห็นที่ 5 ให้กีบไม่ได้ แต่ผมก็รู้สึกเช่นเดียวกับคุณ Tuk Tukga ครับ ไปๆมาๆเดียวก็มีกฏหรือเงื่อนไขอะไรมากขึ้น เดี๋ยว็มาบ่นอย่างนู้นอย่างนี้อีกครับ จากคุณ : Alderwood เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 23:19:46

ความคิดเห็นที่ 6 ขอคิดต่างนะคะ ถ้าร้อยละห้าสิบของผู้บริโภคซื้อของ แล้วเอามาใช้เสร็จก็เอาไปคืน ร้านค้าจะอยู่ยังไงคะ ที่หนักสุดก็เป็นโรงงานเพราะโดนเคลมจากร้านค้าซึ่งเป็นตัวกลาง ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยคืนของนะคะ แต่เราจะคืนในกรณีที่จำเป็นเช่น ซื้อของให้แฟนแล้วเค้าไม่ชอบ แต่สินค้ายังเป็นสินค้าใหม่ทีสามารถนำกลับไปวางขายได้ค่ะ หรือพึ่งเห็นว่าของชำรุดตอนมาถึงบ้านค่ะ ส่วนเรื่องมือถือ คุณบอกว่าใช้ชื่อญาติซื้อแบบมีคอนแทคแล้วสามารถนำกลับไปใช้ในเมืองไทยได้ คุณสามารถนำกลับไปได้ค่ะ แต่ราคาแต่ละเดือนที่ญาติจะต้องจ่ายในระยะเวลาที่อยู่ในคอนแทคน่าจะมากกว่าราคามือถือซะอีกค่ะ โดยเฉพาะพวกที่ต้องใช้พวก data service อย่างพวก ไอโฟน แบลคเบอรี่ หรือ พวกโทรศัพย์ไฮเทคทั้งหลาย พวกนี้ก็จะเสียเพิ่มอีกประมาณสามสิบเหรียญต่อเดือน รวมๆแล้วก็ประมาณร้อยเหรียญต่อเดือน (อาจถูกกว่านิดหน่อย หรือ แพงกว่าแล้วแต่เครือข่าย)หรือว่าถ้าทางญาติอยากจะยกเลิกคนแทคก็ต้องเสียค่าธรรมเนียม ซึ่งก็เป็นเงินไม่ใช่น้อยค่ะ จากคุณ : MA เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 23:20:07 A:71.192.181.91 X: TicketID:170366

ความคิดเห็นที่ 7 เอ่อ ... ของโทษ จขกท. ครับที่มีความเห็นต่าง ผมเห็นด้วยนะครับที่ว่าการคืนของเป็นเรื่องปกติของคนที่นั้น แม้ว่าที่ไทยเองการคืนของหากไม่พอใจก็เป็นเรื่องปกติสำหรับร้านค้าใหญ่ๆ ครับ แต่ประเด็นที่ผมคิดต่างอยู่ที่ว่า การ จขกท บอกว่า "ผู้ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวเอง  ไปเยี่ยมญาติ  หรือไปดูงาน"  นั้นไปซื้อของไปใช้ก่อน 14 วัน 30 วัน เเล้วค่อยเอาไปคืนเท่านั้นเอง  เพราะเห็นว่าไม่ได้อยู่ในข้อกำหนดที่ว่า ไม่พอใจในสินค้าเลยครับ ปล. จขกท ลบความเห็นที่ต่อว่าผมอย่างรุนเเรงไปแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 54 23:30:40 จากคุณ : Tuk Tukga เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 23:28:11

ความคิดเห็นที่ 8 ดิฉันเห็นด้วยกับคุณ Tuk Tukga (คห.2) แต่ไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของ จขกท. ที่แนะนำให้คนไทยทำนิสัยอย่างนั้น จริงอยู่ว่าเราสามารถจะคืนสินค้าและรับเงินคืนจากผู้ขายได้เต็มจำนวน แต่นั่นเป็นเพราะ กม. ของเค้าต้องการคุ้มครองผู้บริโภคในแง่ที่ว่าผู้บริโภคไม่ได้รับความพึงพอใจกับคุณภาพของสินค้านั้นๆ หรือว่าสินค้านั้นๆ ไม่ได้มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการของลูกค้า สมัยที่ดิฉันร่ำเรียนอยู่ที่ USA ก็ขอคืนสินค้าอยู่บ่อยครั้ง ขอยกตัวอย่างเช่น ซื้อเสื้อผ้ามาแล้วใส่ไม่พอดี ดิฉันก็ขอคืนสินค้า หรือว่าไปซื้อของมา แล้วอีกสองวันต่อมาพบว่ามีการลดราคาสินค้านั้น ดิฉันก็จะเอาสลิปไปขอคืนส่วนต่าง รุ่นพี่ดิฉันเคยซื้อกล้องถ่ายรูปที่ใช้ฟิล์ม APS รุ่นเดียวกับที่ดิฉันซื้อเพื่อใช้ถ่ายตอนไปเที่ยว แต่เค้าใช้ไม่เป็นเลยถ่ายรูปออกมาไม่ดีจึงไปขอคืนสินค้า หลังจากนั้นรุ่นพี่มาเห็นรูปที่ดิฉันถ่ายจึงให้ดิฉันอธิบายการใช้งานต่างๆให้ หลังจากนั้นเค้าก็ไปซื้อกล้องรุ่นเดิมนี้มาไว้ครอบครองอีก........แสดงให้เห็นว่าพวกเราคนไทยไม่ได้มีเจตนาจะซื้อของเพื่อนำไปใช้แล้วนำมาคืนเมื่อหมดภารกิจอย่างที่ จขกท. กำลังแนะนำให้ใครอีกหลายๆคนฟัง การที่มี กม. แบบนี้ก็เพื่อปกป้องคุ้มครองผู้บริโภคจากสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อผู้ผลิตผลิตของที่ไม่ได้มาตรฐานเค้าก็จะขายของไม่ได้ ต้องมีการพัฒนาสินค้าอยู่สม่ำเสมอเพื่อให้ตรงใจผู้บริโภค กรุณาอย่าทำให้ชื่อเสียงของคนไทยต้องดูตกต่ำไปมากกว่านี้เพราะพฤติกรรมของคนเพียงบางกลุ่มเลยค่ะ ขออภัยหากพูดไม่ตรงใจใคร ปล. ครั้งนี้พิมพ์ยาวที่สุดตั้งแต่เล่นพันทิพย์มา จากคุณ : FherFah เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 23:28:20

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยกับคุณ Tuk Tukga และคุณ FherFah กับทุกความเห็นที่ไม่เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ จากคุณ : xebec เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 23:46:12

ความคิดเห็นที่ 10 ล่อเป้าซะงั้น..... อืม ลบเถอะครับ กระทู้นี้หน่ะ ถ้าตอนก่อนโพสท์นึกไม่ถึง ตอนนี้น่าจะคิดได้แล้วหล่ะมั้งครับ ลบก่อนที่จะมีคนมาด่าอีกเถอะครับ... จากคุณ : oKtoberfesT เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 00:05:28

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่เห็นมีแนะนำอะไรเลย แต่พออ่านความเห็นข้างล่าง พอเข้าใจว่าเป็นเรื่องอะไร อืม ก็ ใจเขาใจเราครับ กฎหมายบ้านเขาดีแล้ว ดีกว่าบ้านเรามากมาย แต่เราอย่าไปทำให้เขารู้สึกว่าเราไปเอาเปรียบเขาเลยครับ เพราะผมคิดมาตลอดเวลาอยู่เมืองไทยว่า เราผู้บริโภคโดนเอาเปรียบจากร้านค้ามามากมาย จากคุณ : คน ไกลบ้าน เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 10:43:40

ความคิดเห็นที่ 12 คนไทยเรา ถูก..ดูถูก...อย่างมากในหลาย ๆ ประเทศ ก็เพราะสาเหตุแบบนี้เป็นส่วนหนึ่ง อย่าทำอีกเลยครับ  พฤติกรรม แบบนี้น่ะ สงสารลูกหลานของเราในอนาคตด้วยเถอะครับ จากคุณ : วิทยา (กันยายน) เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 11:55:03

ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อก่อนไม่เคยมีเก็บ Repackage fee , restocking fee มันมีที่มาที่ไปเเบบนี้เเน่ๆเลย จากคุณ : remy&chanel เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 14:37:04

ความคิดเห็นที่ 14 Abuse Abuse Abuse จากคุณ : กินนรเริงร่า เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 21:32:34

ความคิดเห็นที่ 15 เพราะอย่างนี้นี่เอง ทำให้พวกเราที่ิอยู่ข้างหลัง...ลำบากไปด้วย ขอแถมเคยมีร้านอาหารทะเลในเมืองที่เราอยู่ เวลาสั่งอาหารเราต้องจำว่าเรากินสั่งอะไรมากิน พนักงานเค้าจะจดออร์เดอร์ไว้บนกระดาน และลบทิ้งเมื่อรับอาหารมาแล้ว...เมื่อถึงเวลาจ่ายเราจะบอกพนักงาน (คนละคนกะที่จดรายการอาหาร)คิดเงินว่าเรากินอะไรบ้าง เค้าก็จะคิดตามที่เราบอก ... แล้ว นร.ไทยก็ไปทำให้เสียชื่อ...เพราะบอกไม่ครบ คนเก็บเงินเค้าดูออกค่ะ ว่ากลุ่มใหญ่ขนาดนี้...กินเท่าไร เค้าไม่พูด แต่เมื่อเราคนไทยไปกิน เค้าจับตามองเลยค่ะ... อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะคะ จากคุณ : ป้าหมูอี๊ด (เบื่อคาวบอยแพ้อีกแระ) เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 21:41:18

ความคิดเห็นที่ 16 อยากอ่านบ้างจัง เข้ามาช้าไปหน่อย ลบไปหมดซะแล้ว จากคุณ : ก้อนเมฆสีขาว เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 08:33:44 A:58.137.113.215 X: TicketID:287195

ความคิดเห็นที่ 17 มาอ่านไม่ทันนะครับ แต่เท่าที่อ่านมาก็พอทราบคร่าว ๆ แล้วละว่า จขกท.มาแนะนำอะไร   ไม่แปลกใจอะไรเลยถ้าคนไทยไปไหนก็มีชื่อเสียงที่ไม่ดี เรียกว่าฉาวโฉ่ แนะนำอย่างงี้ ยังเรียกเป็นคำแนะนำดี ๆ ได้     คนทีมีปัญญาไปเที่ยวอเมริกาได้ ผมว่าแค่ซื้อของพวกนี้คงไม่มีปัญหาหรอกครับ ทำไมผมถึงบอกอย่างนี้ ถ้าคุณไปเที่ยวค่าตั๋วอย่างต่ำ 5 หมื่น ค่าวีซ่าอีก 5 พัน ค่าเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ อีก มีเงินขนาดนี้ไปทำอย่างนี้ทำไมไม่ทราบ จากคุณ : ZOFFY เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 12:28:21

ความคิดเห็นที่ 18 สุดยอดง่ะ นิสัยคนไทย จากคุณ : ross reel เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 14:56:01

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่ใช่นิสัยคนไทย แต่เป็นนิสัยคนไม่ดี จากคุณ : majia เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 23:09:10