|
ความประทับใจในตัวเจ้าหน้าที่ +++ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน ++ ดาวสวยมาก
|
|
ผมมีเรื่องความประทับใจหลังจากกลับจากที่นี่ครับ และผมตั้งใจเลยว่าจะต้องมาโพสเล่าเรื่องความประทับใจนี้ให้เพื่อน ๆ
เมื่อคืนวันที่ 24 ธ.ค.53 ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปดอยภูคาแบบไม่ได้ตั้งตัว เพราะไปทำงานแล้วเลยขึ้นไปหาที่นอนที่นั่น สรุปได้นอนที่บ้านเกวียน ซึ่งกว่าจะขึ้นไปถึงดอยก็ประมาณ 2-3 ทุ่ม แถมพอตอนเช้าตื่นมา 6 โมงกว่าก็ต้องรีบลงไปอ.ปัว เพื่อไปทำงานต่อ เลยทำให้ไม่ได้รับธรรมชาติอย่างเต็มที่ แต่สิ่งหนึ่งที่รับได้เลยคืออากาศดีมาก ๆ และคนน้อย ซึ่งทำให้ประทับใจ จนคิดว่าหากมีโอกาสจะต้องมาอีกให้ได้
เมื่อวันที่ 20 ม.ค.54 ผมได้มีโอกาสไปแถวนั้นอีก แล้วผมก็ไม่พลาดที่จะขึ้นไปนอนที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา แต่ครั้งนี้ก็ไม่ได้เตรียมตัวมาเหมือนเดิม แถมยังลืมเอากล้องมาอีก โดยได้บ้านพักในราคา 560 บาท จากราคาเต็ม 800 บาท (เนื่องจากวันธรรมดาลดราคา 30%) ผมไปทริปนี้นอนคนเดียว ไม่มีเพื่อน ทำให้ตอนแรกก็งง ๆ แอบเหงาเหมือนกัน ไม่รู้จะทำอะไร พอตอนไปสั่งข้าวผมก็จำได้ว่าที่นี่มีเครื่องดูดาว (ร้านอาหารด้านบน) ผมก็เลยถามว่าเครื่องอยู่ไหน ขอดูหน่อยได้ไหมครับ ซึ่งแม่ค้าก็ใจดี พาไปบอกนี่เลย ๆ กำลัง SET เครื่องอยู่ ผมก็รีบถามเลยว่า "เสียค่าใช้จ่ายไหมครับ" แม่ค้าก็บอก "ฟรี ๆ จ๊ะ" พอเดินไปก็มีพี่คนหนึ่งยืน จัดการกับเครื่องดูดาวอยู่ แกก็ยิ้มให้ผมบอกว่า รอเดี๋ยวนะครับ พอแกจัดการเครื่องเรียบร้อย ทีนี้แกก็จะเรียกผมมาดูดาวดวงนั้นดวงนี้ แล้วก็จะสอนตลอด อธิบายตลอดว่าดาวดวงไหนชื่ออะไร สอนวิธีการดูดาว ซึ่งในระหว่างนั้นจะมีนักท่องเที่ยวที่มานั่งทานอาหาร จะสนใจมายืนมุงดูที่เครื่องดูดาว และฟังพี่เขาอธิบายอย่างสนใจกันหลายคน โดยจะมีพี่ทั้งหมด 3 คน มาทราบตอนหลังว่ามี 1 ท่านเป็นหัวหน้าอุทยาน และมีพี่ที่คุมเครื่อง (จบคณะป่าไม้) และอีก 1 ท่านน่าจะเป็นลูกจ้างชั่วคราวของอุทยาน โดยระหว่างที่พี่ ๆ หัวหน้าอุทยานกับพี่ที่คุมเครื่องคอยสอนการดูดาวนั้น บอกตรง ๆ เกิดมาผมเพิ่งเคยดูดาว และหลายๆคน หรือทุกคนในที่นั้นก็น่าจะไม่เคยดูดาวมาก่อน แถมพี่ ๆ เขาจะอธิบายอย่างดีมาก ๆๆๆ เพราะพี่เขาเป็นคนที่รักในการดูดาว โดยจะมีมุกตลกสอดแทรกตลอด * ผมก็เลยถามว่าเครื่องนี้พี่ซื้อมาเท่าไหร่เหรอครับ พี่เขาก็ตอบว่าไม่ใช่ของพี่ แต่เป็นของงบ ททท.จัดซื้อมาให้ ราคาแสนกว่าบาท * ผมก็ถามว่าปกติพี่ดูดาวทุกวันไหมครับ (จริง ๆ ผมมาครั้งแรกผมก็เห็นพี่แกดูดาวอยู่ แต่คนเยอะมาก ๆ ผมเลยไม่ได้เข้าไปดูด้วย) พี่ก็ตอบว่า ดูเกือบทุกวันเลย เพราะช่วงนี้ยังอยู่ในประกันด้วย หากเครื่องมีปัญหาจะได้แก้ไขในประกัน *มีนักท่องเที่ยวบางคนถามพี่เขาว่า พี่ดูจนถึงกี่โมง พี่เขาก็บอกว่าดูจนกว่าร้านจะปิดแหละครับ แต่พอร้านปิด แต่คนยังดูดาวกันอยู่ ผมก็เห็นพี่เขาสอนอยู่ อิอิ ในระหว่างคุยกันนั้น นอกจากจะคุยกันเรื่องดูดาว คุยกันอย่างไรก็ไม่รู้ ผมกับน้องผู้หญิงอีกคนหนึ่งก็ชวนพี่เขาคุยกันเรื่อง "ธรรมมะ" ซึ่งจากแนวคิดต่าง ๆ บอกตรง ๆ สุดยอด........................ จากที่ฟังพี่เขาจะเป็นคนถ่อมตัวมาก ๆๆ และเป็นคนปล่อยวาง จนผมกับน้องแซวเลยว่า คุยเสร็จพรุ่งนี้สงสัยไปบวช ^_^ ในระหว่างดูดาว พี่เขาจะมีจอ LCD คอยเปิดให้ดูด้วย บอกตรง ๆ มืออาชีพมาก ๆครับ ตอนเช้าผมก็ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ปรากฎว่าไม่เจอทะเลหมอก พี่เขาก็เดินมาเลย แล้วก็เสียบปลั๊กเปิด LCD เปิดรูปที่แกไปถ่ายไว้ เป็นรูปทะเลหมอก (บอกตรง ๆ ผมประทับใจเจ้าหน้าที่มาก ๆๆๆ) (แกน่าจะนอนที่ร้านอาหารข้างบน เพราะแกเดินออกมาจากในนั้น)
กล่าวคือ
+ อยากฝากบอก ททท.ว่างบประมาณที่จัดสรรซื้อกล้องดูดาวให้กับอุทยานแห่งชาติดอยภูคานั้น คุ้มค่ามาก ๆ ครับ นักท่องเที่ยวได้ประโยชน์มาก ๆ
+ อยากฝากบอกกรมป่าไม้ว่า ท่านมีหัวหน้าอุทยานที่เก่ง มีความรู้ความสามารถ และดูแลให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวด้วยหัวใจ + อยากฝากบอกกรมป่าไม้ว่า ท่านมีข้าราชการที่มีจิตใจดีมาก ๆ และรักในป่าและธรรมชาติอย่างแท้จริง รวมไปถึงยังมีหัวใจที่ดูแลให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ซึ่งจากความจริงแล้ว เวลาช่วงกลางคืนอย่างนี้ เป็นเวลานอกราชการ เจ้าหน้าที่,หัวหน้าอุทยาน ไม่จำเป็นที่จะต้องออกมาพบกับนักท่องเที่ยวก็ได้ + ในระหว่างสนทนา พี่เขาหยอดมุกด้วยว่า "หากรักธรรมชาติ อยากทำงานเพื่อธรรมชาติ มาสมัครเป็นข้าราชการกรมป่าไม้ก็ได้" "เงินเดือนไม่แพง" ^_^ eiei
--------------------
รายละเอียดของสถานที่
- ทะเลหมอกจะมีช่วงเวลาประมาณเดือน พฤศจิกายน จะมีเยอะมาก
- ดอกชมภูพูคาตอนนี้ดอกยังไม่บาน จะบานประมาณช่วงเดือน กุมภาพันธ์ (เร็ว ๆ นี้)
- เส้นทางการเดินทางไปดอย นั่งรถทัวร์ไปลง จ.น่าน แล้วต่อรถสองแถวไป อ.ปัว จากนั้นต้องเหมารถสองแถวขึ้นไปดอยภูคา (น่าจะคนละประมาณ 50 บาท เที่ยวล่ะ 200 บาท) หรือหาโบกรถเอาก็ได้ครับ เห็นมีหลายคนโบกรถกัน มีกลุ่มหนึ่ง 11 คน โบกรถขึ้นมา (ผมว่าคนเยอะอย่างนี้น่าจะเหมาเนอะ อิอิ)
- ห้องพักสะอาด สะดวกครับ จะกางเต๊นท์ก็ได้ จะนอนแบบบ้านก็มี หากอยากเท่ห์ก็นอนบ้านเกวียนเหมือนผมคืนแรกครับ
- อุณหภูมิเย็นมากกกกกครับ ตอนเช้าพูดควันออกปากเลย เหอะๆ
- น้ำใจคนไทยยังมีครับ เห็นคนโบกรถกันหลายคนเลย อย่างตอนผมไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ผมก็พานักท่องเที่ยวขึ้นไปดูด้วยกัน แล้วก็พาลงมาที่ อ.ปัว (ลงจากดอย) ผมรู้ว่าน้องคนนั้นต้องเข้ามาอ่านเจอกระทู้นี้แน่ ๆ เพราะน้องแกขาโบกเลยครับ 55+ แถมชอบมาอ่านกระทู้ในห้องอย่างเดียว ไม่ยอมรีวิวซักที "คุณน้องทิพย์กับน้องปลา"
- จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นต้องต่อรถไปจากที่พักของอุทยานประมาณ 8 กม.
- ยังมีจุดน่าสนใจอีกหลายจุดครับ แต่ผมมีเวลาน้อย เลยกะว่าเดี๋ยวกุมภาพันธ์นี้ หากมีโอกาสจะขึ้นไปอีกครับ
- ในเดือนกุมภาพันธ์ จะมีนักท่องเที่ยวเยอะกว่าเดิม ควรจองล่วงหน้า
- ลิ้งค์ติดต่อดูข้อมูลนะครับ http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp?npid=220&lg=1
- หากเพื่อน ๆ ท่านไหนยังไม่มีโปรแกรมจะไปไหน ผมขอเสนอแนะเลยครับ
ผมอาจจะเขียนแบบไม่น่าอ่าน บางทีอาจจะดูวกวนไปบ้างต้องขออภัยนะครับ เนื้อหาอาจจะเยอะไปหน่อย แต่แค่นี้ยังมีอีกหลายเรื่องความประทับใจของตัวผมที่มีต่ออุทยานแห่งชาติดอยภูคา และพี่เจ้าหน้าที่เลยครับ ก่อนกลับผมก็ได้เขียนในสมุดบันทึกตรงที่คืนกุญแจห้องแล้วว่า ชื่นชมพี่เจ้าหน้าที่อุทยานที่คอยสอนดูดาว
จากคุณ |
:
คนไม่พิเศษ "ซาคุ"
|
เขียนเมื่อ |
:
22 ม.ค. 54 23:55:49
|
|
|
| |