ความคิดเห็นที่ 1 ผมเห็นด้วย กับบทความนี้ จากคุณ : Mr.k (teerasay) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 01:03:39

ความคิดเห็นที่ 2 ชอบแบบเก่าธรรมชาติอย่างเดิมมากกว่า ไม่ใช้ใหม่ทำเก่าอ่ะ จากคุณ : 6E6W3T6A เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 01:11:28

ความคิดเห็นที่ 3 อ่านแล้วเข้าใจเลยครับ จากคุณ : ทักษะ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 01:26:23

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นด้วยครับ จากคุณ : babidy เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 01:30:42

ความคิดเห็นที่ 5 เพื่อนไม่ได้ซื้อที่ดินไว้ทำรีสอร์ต ตอนคุณแนะนำหรือเปล่า ถึงได้หงุดหงิดขนาดนี้ ถ้าซื้อไว้ทัน คงต้องบอกว่า "มาเที่ยวกันเยอะๆ เลย เชียงคาน" จากคุณ : mamao เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 01:32:32

ความคิดเห็นที่ 6 ใครจะเป็นผู้โชคร้ายรายต่อไป จากคุณ : หมดระยะบางเขน เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 01:33:17

ความคิดเห็นที่ 7 ที่ต่อ ไป คือ ปัว หรือปล่าว แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 01:47:58 จากคุณ : giwgaw16 เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 01:47:42

ความคิดเห็นที่ 8 อัมพวา ปาย เชียงคาน ?? จากคุณ : Devilot เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 01:50:13

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยอย่างแรงครับ  คนส่วนใหญ่ไปเพราะกระแสมากกว่า จากคุณ : nara114 เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 02:48:01

ความคิดเห็นที่ 10 "แรก ๆ คนเชียงคานก็ดีใจที่นักท่องเที่ยวมาก่อให้เกิดรายได้  บ้านที่อยู่อาศัยก็ดัดแปลงเป็นเกสต์เฮ้าท์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก  แต่พอนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ชักไม่ไหว" อีกมุมนึงก็คือคนพื้นที่เลือกเองด้วย แต่พอรับไม่ได้ก็.... ตอนนี้ ปาย เป็นยังไง สักวัน เชียงคาน ก็คงไม่ต่างกัน ดีที่ ปางอุ๋ง เป็นพื้นที่ควบคุมปริมาณไม่งั้นก็คงไม่ต่างกัน ปล.ผมไม่เคยไปเชียงคาน และไม่คิดจะไป เพราะอำเภอผมปัจจุบันก็มีบ้านไม้เรียง ๆ ๆ กันเป็นตับอยู่พอสมควร หนังไทยย้อนยุคยังชอบมาถ่ายอยู่เรื่อย ๆ จากคุณ : MlCHAEL เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 03:43:23

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ ใครไม่โดนไม่รู้สึกหรอกครับ จะไปดูวิถีชีวิตอันสงบของเขาแต่กลับเอาความวุ่นวายไปให้อย่างนี้ผมก็ไม่อยากได้ครับ ปล่อยให้ชาวเชียงคานเขามีความสุขแบบเดิมนะดีแล้ว ผมหลับตาเห็นทันทีเมื่อสามสิบกว่าปีมาแล้วพอวันหยุดก็แห่กันไปเที่ยวน้ำตกเอราวัณ ไปจอดรถกันในตัวเมืองกาญจน์ตอนประมาณตี1-4 รถบัสเป็นนับสิบคัน(ถ้าเป็นวันหยุด)แล้วคนนับร้อยนับพันกินเหล้ากัน ตีกัน เยี่ยว-อึ กันแถวหน้าร้านค้านั่นแหละ เห็นแล้วสังเวสใจจริงๆจนร้านค้าทนไม่ไหวต้องจ้างนักเลงหัวไม้มาดูแล ถ้ายังเป็นเช่นนี้อยู่ผมว่าเชียงคานอีกไม่เกิน5ปีเละแน่นอนซ้ำรอยปายอีกแห่ง ...โหวตกระทู้นี้ครับ จากคุณ : ลุงเชย เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 05:53:15 A:124.121.33.202 X: TicketID:247703

ความคิดเห็นที่ 12 ตกลงครับรับปากเลยครับว่าจะไม่ไปเชียงคาน จากคุณ : ต้อย (half-and-half) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 07:40:55

ความคิดเห็นที่ 13 ดีใจที่ไปสมัยยังดิบกว่านี้ ให้ไปตอนนี้ไม่อยากแล้วนึกภาพออก จากคุณ : นู๋จี๊ดกะพี่เดอร์ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 09:00:23

ความคิดเห็นที่ 14 ผมเอง ได้แฟนเป็นคน อ.สังคม ห่างจากเชียงคานประมาณ 100 กม.ซึ่งก็ เคยไปมาหลายครั้ง เพราะมีบ้านญาติอยู่ที่นั่น ช่วงที่เชียงคานบูม ใหม่ๆ ก็ยังสงสัย ปนๆ กังวลใจว่า ...เขามาเที่ยวดูอะไรกัน ที่เมืองเล็กๆแค่นี้.. ...แล้วต่อไป จะกลายเป็นแบบ "ปาย" หรือเปล่า... แต่ก่อนนี้ ช่วงวันหยุด ถ้าเว้นจาก แก่งคุดคู้แล้ว ก็ไม่เห็นว่า จะมีใครมาเที่ยวอะไรกันมากมายนักหนา... ถึงตอนนี้ ก็ได้แต่มองดูความ"เสื่อม" ทีค่อยๆ เกิดขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่า จะเกิดจาก คนท้องถิ่น หรือ คนนอก  ที่มองเห็นแก่ธุรกิจอย่างเดียว ..หรือ จาก นักท่องเที่ยว ที่คงลืมไปว่า จะมาเที่ยวเมืองแบบนี้ ควรจะทำตัวอย่างไร ..ซึ่งส่วนมาก ก็มีอะไรแปลกๆ ให้เห็นเสมอ เช่น .. ..หนาวจะแย่ แต่ ใส่ กางเกงขาสั้นๆ(มาก) แล้วก็ สวมเสื้อแขนยาว ไม่รู้มันเข้ากันตรงไหน(บางคนใส่เสื้อแขนกุดอีกต่างหาก แล้วก็ยืนคางสั่นกึกๆๆเพราะอากาศเย็น) ตื่นมาใส่บาตรตอนเช้า แต่แต่งตัว ไม่เหมาะสมเลย ทำอะไรหกเรี่ยราด ให้พระ เณรดูซะงั้น(โดยเฉพาะผู้หญิงวัยรุ่น และไม่รุ่นบางคน)...แอคชั่นถ่ายรุปที ก็กรี้ดๆๆ ไม่รู้จะกรี้ดไปทำไม...ฯลฯ.. ทำตัวเหมือนจะอาร์ต..ออกแนวติสๆ..ชอบความสงบ ...แต่พอตกค่ำ ตั้งวงกินเหล้า ส่งเสียงดังซะงั้น... ..แค่บ่นนะ่ครับ... แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 54 11:05:28 แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 10:10:34 จากคุณ : ทะเมนชัย (ทะเมนชัย) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 10:02:42

ความคิดเห็นที่ 15 ผมภาวนาว่า เมื่อไหร่ตำบลบ้านผมจะมีคนมาเที่ยวเยอะๆบ้างเหมือนกันครับ จะได้มีพวกห้างค้าปลีกมาเปิดบ้าง ทุกวันนี้ต้องไปบิ๊กซีกับโลตัวอำเภอข้างๆตลอดเลยครับ จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 10:16:59

ความคิดเห็นที่ 16 ที่บ้านผมที่ชุมพรเช่นกัน พอความเจริญเข้ามา ความวุ่นวาย ก็ตามมาทันทีเหมือนกัน ...!!! จากคุณ : ต้นไผ่ (tjanpranot) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 10:38:51

ความคิดเห็นที่ 17 พอเริ่มธุรกิจมากขึ้น ก็ไม่ใช่แล้ว ร้านโปสการ์ด ร้านกาแฟไปถึงที่ไหน ก็ใกล้จะจบมนต์สเน่ห์แบบเดิมๆ ชาวบ้านที่นั่น คิดกันหลายแบบหลายกลุ่มค่ะ เราเคยได้ยิน คนที่อยู่เชียงคาน รักเชียงคานบอกว่า ก็เห็นไม่ตรงกันเท่าไหร่ บางคนก็อยากให้คนมาเยอะๆรวยไวๆ แต่หลายคนอยากให้มาเที่ยวกัน แต่รักษาแบบดั้งเดิมไว้ แต่ก็คงต้านทานไม่ไหว เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ก็ต้องการอะไรที่ไม่มีที่เชียงคาน ผู้ขายก็สนอง ต่อไป มันก็เหมือนๆกันทุกที่ ดีใจที่ไปมาแล้ว ยังพอเห็นอะไรบ้านๆบ้าง ถ้าไม่ไปพักริมน้ำ ก็ยังสงบอยู่นะ จากคุณ : ทำไมต้องล็อกอิน เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 10:53:33

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นใจน่ะแต่ว่าพวกคุณคุณทั้งหลายก็พร้อมใจกันที่จะเป็นเกสต์เฮ้าท์ไม่ใช่หรอ เพราะงั้นต้องเตรียมตัวเตรียมใจอยู่แล้วว่าคนที่ไปพักไม่ใช่บุคคลในบ้าน ความเกรงใจหรือการถนุถนอมของใช้ในบ้านก็จะไม่เหมือนบุคคลในบ้าน เพราะเขาเหล่านั้นเขาคิดว่าเขาจ่ายตังค์แล้วบางทีอาจจะหละหลวมไปบ้างกับการเดินเข้าเดินออกภายในบ้าน เพราะเขาคิดว่ามันคือที่พักอ่ะ อันนี้คนที่ทำเกสต์เฮ้าท์ก็ต้องทำใจเพราะในสังคมมนุษย์ก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี มีทางแก้ถ้าเราไม่ชอบนักท่องเที่ยวมาวุ่นวายภายในบ้านของเรา เราก็ปิดเกสต์เฮ้าท์ของเราซะแล้วใช้ชีวิตแบบปรกติของเราไป คนในเชียงคานเองก็มีทั้งชอบและไม่ชอบนักท่องเที่ยวและค่ะคนที่ชอบเพราะเขามีรายได้ขึ้นมาจากนักท่องเที่ยวทำให้เขาเหล่านั้นไม่ต้องไปทำงานต่างถิ่น ส่วนคนที่ไม่ชอบก็เพราะว่ามันวุ่นวายไม่สงบนั่นเอง นานาจิตตังเราจึงได้แต่ทำใจค่ะ *สำคัญคือ*คนในท้องถิ่นเองอย่าขายบ้านหนี เพียงแค่ว่าได้ราคาดีจงอยู่ และควบคุมดูแลลูกหลานในบ้านให้ดำเนินชีวิตตามวิถีชีวิตที่คนในท้องถิ่นเป็นอยู่ อย่าให้บุคคลภายนอกเข้ามาทำลายวิถีชีวิตและวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของคนเชียงคานเอง ไม่มีใครมาทำลายเราได้นอกจากตัวเราเอง นักท่องเที่ยวก็แค่นักท่องเที่ยว เขาเข้ามาทำลายเราไม่ได้หรอกถ้าเราเข้มแข็งซะอย่าง จงอยู่อย่างภาคภูมิใจว่านี้แหละบ้านฉัน คงความเป็นอยู่แบบเดิมๆนี่แหละเสน่ห์ที่แท้จริงของเชียงคาน เพราะเราเองก็ผูกพันกับเชียงคานพอสมควรเพราะตั้งแต่เล็กจนโตมีโอกาสมาเชียงคานบ่อยๆและเห็นน้ำใจของคนที่นี่แบบที่ไม่ค่อยได้จากที่อื่นเลย แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 54 11:55:54 แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 54 11:54:53 จากคุณ : บ้านฉันอยู่ศรีเชียงใหม่ (ต้นโมกกับโยกเยก) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 10:54:18

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยกับบทความ แต่ถ้าจะทำให้รักเชียงคานน้อยลงคงไม่ได้ ยังอยากจะบอกดัง ๆ ว่าอยากจะไปอีก เพราะอย่างไร ก็ยังเชื่อมั่นว่า พื้นฐานคนเชียงคานจริง ๆ มีน้ำใจไมตรีเพียงไร ร้านค้าหลาย ๆ ร้านที่แข่งกันตั้ง แข่งกันขายของทีระลึก ซึ่งพอได้ถามจากปากคนเชียงคานจริง ๆ เจ้าของร้านเหล่านั้น กลับเป็นคนต่างถิ่นไปเสียได้ แต่เนื้อแท้คนเมืองนี้เป็นอย่างไร หลาย ๆ คนทีหลงรักเชียงคานเหมือนกันก็คงรู้ดี ว่าเรา ไม่ได้รักเชียงคานที่แสงสี หรือร้านขายของที่ระลึก แต่เรารักความสงบ และน้ำใจคนเชียงคานมากกว่า มันขึ้นอยู่กับพวกเรามากกว่า ที่จะช่วยกันดึงเวลาของเชียงคานให้ช้าลงได้แค่ไหน เพราะฉะนั้น ... ก็มาช่วยกันดีกว่าค่ะ อย่ามาบอกให้เลิกไปเชียงคานเลยค่ะ เราทำไม่ได้จริง ๆ ... จากคุณ : SeeScape @ ทำมาหาเที่ยว (prophetdoll) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 10:56:12

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นแต่ป้ายประกาศขายที่ขายบ้าน หลักล้าน ถึงหลายล้านทั้งนั้นครับ ... ต้องถามตัวคนไปแหละครับ ว่าจะดูอะไร ... ถ้าจะดูร้านขายโปสการ์ด อัมพวาครับ ใกล้ดี จากคุณ : Certain_Shade_of_Green เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 11:09:11

ความคิดเห็นที่ 21 ไปมาเมื่อหลายปีก่อน เชียงคานน่าไปมาก ได้ข่าวมาว่าปีที่ผ่านมา เชียงคานกลายร่างไปเป็นเมืองแนว Indy เอาอะไรที่ไม่ใช่วิถีเชียงคานเข้าไป การไปเที่ยวเชียงคานไม่ใช่ไปเที่ยวแบบสะดวกสบาย แต่ไปเพราะไปพักใจจริงๆ เพราะคนเชียงคานจิตใจดี มนต์เสน่ห์เชียงคานคือได้คุยกับคนพื้นที่ ได้คุยกับยาย (ผมได้คุยกับยายศรีพรรณ เดี๋ยวนี้คนไปเที่ยวคงไม่ได้คุยกับยายแล้วมั้ง) จากคุณ : Impetus เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 11:37:18

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยค่ะ...อยากให้หาวิธีแก้ปัญหาแบบนี้ คือคนเที่ยวก็ได้ไปเที่ยวไปดูอะไรที่มันเป็นวิถีชีวิต (ไม่ใช่ไปเปลี่ยนวิถีชีวิต) คนอยู่ก็ให้ดำเนินชีวิตอย่างที่เคยเป็น จากคุณ : HANEUN เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 11:42:12

ความคิดเห็นที่ 23 ผมไปนอนที่เชียงคานมา 9 คืน เท่าที่คุยกับคนที่นั้น ส่วนหนึ่งจะเป็นคนต่างถิ่นเข้าไป เปิดร้านค้า เพื่อรองรับการท่องเที่ยวกันนะครับ บางร้าน จะเปิดเฉพาะช่วงวันหยุด ที่มีนักท่องเที่ยว วันธรรมดาก็กลับมากรุงเทพฯ เขาบอกว่าเชียงคานเป็นที่นิยม มีคนมาเที่ยวอย่างก้าวกระโดดมาก แค่ปีกว่าๆก็มีอะไร เกิดขึ้นอย่างมากมาย บ้านเก่าๆก็ประกาศขายกันแพงมากๆ อาหารการกินก็แพงขึ้นมาก บางส่วนก็บอกว่าดี แต่บางส่วนก็บอกว่าไม่ดี ผมสังเกตเห็นว่า มีการก่อสร้าง ปรับปรุงบ้านเก่าๆ ไม่ต่ำ 10 แห่ง และที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ก็อาจจะเป็นเพราะการเรียกร้องของนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบาย แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 11:54:31 จากคุณ : นิสิต เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 11:53:06

ความคิดเห็นที่ 24 เราเคยอยากไป แต่นั่นก็นานมาแล้ว พอได้ไปที่ที่หนึ่งก็รู้สึกว่า ไม่ต่างกัน แถมยังสงบกว่ามากๆ อากาศก็ดี คนก็น้อย ยิ่งนานวันยิ่งเห็นข่าวความเหมือนระหว่างเชียงคานและปาย ยิ่งไม่อยากไป เพราะตอนไปปายเมื่อหลายปีมาแล้วนั้น ไม่ประทับใจเลยซักนิด จากคุณ : a pinky pig เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 12:08:39

ความคิดเห็นที่ 25 เฮ้อ อ อ.... จากคุณ : photo Good เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 12:56:51

ความคิดเห็นที่ 26 สงสัยต้องมีกฏหมายเฉพาะกาลแล้วมั้งค่ะ กำหนดพื้นที่ควบคุม และ ปริมาณ นุ้นนี้ บลาๆๆๆๆๆๆ เพื่อรักษาความสวยงามและสิ่งดีๆของเมืองนั้นๆไว้ๆ จากคุณ : Fate_Cz เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 13:00:43

ความคิดเห็นที่ 27 การแต่งกายของนักท่องเที่ยว อย่างที่คุณทะเมนชัยบอกไว้ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง นอกจากเรื่องการแต่งกาย ขอแถมเรื่องมารยาทและกาลเทศะด้วยครับ  อย่างพลอดรักกันแบบประเจ้อนี่ก้อเพลาๆกันหน่อย อยากทำอย่างงั้นก้อควรไปแถวพัทยา ภูเก็ต อายพ่อเฒ่า แม่แก่ ท่านบ้างก้อดีครับ จากคุณ : colly เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 13:11:15

ความคิดเห็นที่ 28 จะไม่ไปเหยียบอีกเลยครับ จะแนะนำเพื่อนด้วยครับว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปครับ อย่าหวังว่าจะได้เงินจากผมเลยครับ จากคุณ : ยุ่งจิง เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 13:16:26

ความคิดเห็นที่ 29 เราไม่เห็นด้วยกับบทความนี้ เท่าที่อ่านก็แค่ตอกย้ำว่าคนนอกนั่นแหละที่ทำให้เชียงคานเป็นเช่นนี้ แต่หากคิดกลับกันคนเชียงคานมิใช่หรือที่อ้าแขนรับสิ่งเหล่านี้เข้าหาตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นบ้านช่องที่แปลงเป็นเกสเฮาส์ ที่ดินที่พวกคุณขายกัน ราคาที่พวกคุณเลือกที่จะขึ้น หรือวิถีชีวิตที่คุณยอมให้เปลี่ยนแปลง ดังนั้น  มันคงห้ามอะไรไม่ได้ ที่สังคมเชียงคานยังไม่เข้มแข้ง ดังนั้นคุณต้องเริ่มที่ตัวคุณเองกันก่อน เช่น รักษาเวลาการนอน ที่คุณอยากให้เป็น จัดการตักบาตรที่ตักแต่ข้าวเหนียว แล้วถวายอาหารที่วัด ต่อต้านการมีร้านสะดวกซื้อจากนายทุน งดการแต่งกายไม่สุภาพในเมือง (พวกสั้นถึงก้นเลิกบ้างก็ได้ โชว์กันถึงไหน)  คุณรณรงค์กันได้ ถ้าอยากให้เป็นเช่นนั้น สรุป  เราก็ยังคงจะไปเมืองเล็กๆเมืองนี้อยู่ดีนะคะ เราเชื่อว่าคงยังมีบางที่ที่ยังคงความเป็นตัวเอง และรักษาสิ่งเดิมๆได้ แต่ไม่ใช่คงความเป็นเชียงคานไว้ จากคุณ : Nainame เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 13:16:56

ความคิดเห็นที่ 30 ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น ความเจริญหรอกครับ มี 2 ทาง คือปิดกับยอมรับ เท่านั้น จากคุณ : maxoutda เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 13:26:12

ความคิดเห็นที่ 31 เวลา เจอสถานทีที่ไปแล้วสวย หรือ ชอบมากๆ แบบไม่ค่อยมีใครรู้จัก ผมไม่ค่อยจะบอกคนอื่นเพราะแบบนี้ละ   เคยไปเกาะทางภาคใต้ เกาะหนึ่ง  เงียบสงบ สวยมากๆ ไปอยุ่ วันแรกๆ ไม่ค่อยมีอะไร ได้แต่ เล่นน้ำ นอน กิน เล่นน้ำ นอน   วันต่อๆ ชักสงบ สบาย จนไม่อยากกลับ  จากที่จะนอน2 คืนจนกลายเป็น 5 คืน   เจอนักท่องเที่ยวชาวสวีเดน  มาอยุ่ที่นี่ 3เดือนแล้ว ค่อยกลับบ้าน   บอกว่า  เค้าไม่บอกใครหรอกว่ามีที่สวยๆอยู่ที่นี้ เดียวบอกไปแล้วคนจะมาเยอะ แล้วทุกอย่างจะไม่เหมื่อนเดิม     ที่สวยๆกว่าเชียงคานเยอะแยะ  แต่ไม่ไปกันเอง   ที่ไปเชียวคานเพราะ อะไรกัน   อยากไปดูความสวยงามแบบบ้านๆ  อำเภออื่นเยอะแยะ  ชาวบ้านล้วนๆ แต่ไม่มีใครไป   เพราะมันนอนไม่สบาย ใช่มั้ยละ ไม่มีสถานที่ถ่ายรูปสวยๆที่เค้าจัดไว้ให้ ใช่หรือป่าว  ลองคิดกันดู จากคุณ : TumG5 เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:40:50

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นด้วยอย่างแรง ไปเที่ยวเชียงคานก่อนปีใหม่ที่ผ่านมา คิดว่าถ้าจะกลับไปอีกครั้ง จะไปเที่ยวตอนที่คนเลิกฮิตกันแล้ว รอให้คนเชียงคาน..กลับมาเหมือนเดิม หรือ เลือกไปที่อื่น (ที่ไม่ดังเป็นพลุแบบนี้ พลุดังครั้งเดียวแล้วดับยาว) จากคุณ : สิตา เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:43:18

ความคิดเห็นที่ 33 เมืองน่าน ก็เริ่มเป็นครับ จากคุณ : เลิศศักดิ์ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:50:06

ความคิดเห็นที่ 34 ชิพ หายแล้ว สถานี้ต่อไปบ้านผมแหงๆ เลย..ซวยแล้ว จากคุณ : บุรี เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:50:41

ความคิดเห็นที่ 35 เอาเป็นรณรงค์ให้ไปแบบมีจิตสำนึกดีกว่ามั๊ยครับ... อย่าถึงกับห้ามกันเลย...ชาวบ้านที่เค้ามีรายได้จากนักท่องเที่ยวเค้าจะเดือดร้อนเอา.. จากคุณ : Natchaphon เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:58:12

ความคิดเห็นที่ 36 ผมไปปายครั้งแรกเมื่อ 9ปีก่อน ยังบริสุทธิ์มากๆ Backpack ไปกับเพื่อน 2คน นอนกระต๊อบหลังคามุงจากคืนละ 250บาทแถว รพ.ปาย ผมกลับไปอีกทีเมื่อ 3ปีที่แล้วกับภรรยา อะไรเนี้ยะ เมืองนี้มันไม่ใช่ปายแล้ว และคงจะไม่กลับไปอีก ผมไปเชียงคานเมื่อ 2ปีที่แล้ว พักอยู่ 1คืน ยังถือว่าเป็นเมืองที่ยังสงบมาก ณ.ตอนนั้น มีร้านขายโปสการ์ดและร้านกาแฟแค่ 1แห่งเท่านั้น แต่วันนี้เท่าที่ฟังข่าวและอ่านข่าวมา คิดว่าคงจะไม่ได้กลับไปเยี่ยมอีกเพราะทำใจเห็นเชียงคานเป็นแบบปายไม่ได้ ส่วนเมืองน่าน ผมได้แต่ผ่านไปยัง อำเภอปัว เพื่อขึ้นไปเที่ยว และปีนดอยภูแวเมื่อ7ปีก่อนครับ ผมกลับไปน่าน โดยไปพักที่อำเภอปัว เมื่อปีใหม่ปี2553 กับภรรยา อำเภอปัวค่อนข้างเจริญมากครับ มีตลาด มีร้านค้าทันสมัยสุดๆ ผมว่าเมืองนี้เจริญแล้วครับ สำหรับเมืองที่ดีๆที่ประทับใจตอนนี้มี 2แห่งครับ ที่แรกก็คืออำเภอแม่สะเรียง ผมเคยไปพักที่แม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน1คืนเมื่อหลายปีก่อน ผมว่าที่นี่บรรยากาศใช้ได้เลยครับ ชาวบ้านยังรักษาวิถีชีวิตเดิมๆไว้ 7-11มีแห่งเดียวคืออยู่ในปั้ม ปตท.ที่อยู่นอกเมือง2กม. และที่สำคัญไม่มีขายเหล้า เบียร์ที่7-11ครับ แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง อีกที่นึงก็คืออำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ครับ ผมไปครั้งแรกเมื่อเกือบ10ปีที่แล้วเพื่อไปปีนดอยหลวงเชียงดาวกับเพื่อน 2คน ปีใหม่ที่ผ่านมานี้ ผมเพิ่งกลับไปอีกรอบ โดยไปพักที่ไร่ดาวเดือนอีกรอบ ยังประทับใจที่ตัวอำเภอไม่ได้เปลี่ยนไปมากกว่า10ปีที่แล้วเลยครับ ตลาดเช้าที่อำเภอก็ยังเหมือนเดิม ผมพยายามเรียนรู้ว่า การเป็นนักท่องเที่ยวที่ดี ไม่เป็นนักท่องเที่ยวตั้กแตนคือการที่เราไปที่ใด เราต้องยอมรับ และแปลงตัวเองให้เข้าเป็นส่วนหนึ่งในสถานที่ วัฒนธรรมในเมืองนั้นๆครับ ไม่แอคอาร์ท ไม่ทำติสท์ ไม่บ้าถ่ายรูปแล้วกรี้ดกร้าด  ฯลฯ เคารพท้องถิ่นและผู้คนที่นั่นให้สมกับการเป็นผู้มาเยือนครับ แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 23:58:28 แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 16:09:42 จากคุณ : จิงกะโบ๋ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:58:33

ความคิดเห็นที่ 37 เชียงคาน ยังไม่ใช่ที่สุดท้ายแน่ๆ !!! ยังจำการรุมโทรม เกาะช้างได้ไหม ตอนนั้นเอะอะไรก็ เกาะช้าง เกาะช้าง หลังจากปัญหาและความเจริญราคาแพง โหมกระหน่ำเกาะช้างแบบตั้งตัวไม่ติด ฝูงตั๊กแตนก็เริ่มได้กลิ่น ปาย และมันหอมหวลยวนใจอย่างรุนแรง ถนนทุกสายมุ่งหน้าสู่ปาย จนเกิดปรากฎการณ์ "ปายแตก" น้ำมันหมดเมือง หน้าเทศกาลแย่งกันกิน แย่งกันอยู่ ราวกับว่า "วันหยุดนี้ ถ้าฉันไม่ได้ไปปาย มันคือความผิดบาปอันใหญ่หลวง" รีสอร์ทใหม่เกิดขึ้นทุกวันหลังอาหารเช้า หนัง, นิตยสารท่องเที่ยว, รายการ TV, กิจกรรมเท่ๆของคนที่เรียกตัวเองว่า อินดี้ชน   คือตัวเร่งชั้นดี และมันก็ลุกไหม้และลามไปทั่วจนอิ่มตัว ตั๊กแตนฝูงเดิมเริ่มมองตากันปริบๆ  ด้วยอารมณ์อัดอั้น มันต้องมีที่ไหนสักที่แหละน่า ที่จะสนอง Need พวกเราได้ และนั่นคือเวลา "จุติ"(ที่แปลว่า ตาย) ของ เชียงคาน จึงเริ่มขึ้น จากเมืองเล็กๆ ผู้คนใจดี ความสงบที่ใครๆก็หลงรัก และใครก็ตามที่มองเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้ ต่างร้องเป็นเสียงเดียวกันว่า ขอให้เหมือนเดิม แต่ขอบอก ตั้งแต่วินาทีนี้  พูดได้แต่เพียงว่า....เจ้าอย่าหวัง !!! ตอนนี้จมูกจิ้งจอกของผม  เริ่มได้กลิ่นหอมน้ำต้มกระดูกจากเมืองเหนือเล็กๆที่ชื่อ น่าน แล้วครับ ขอภาวนาว่าก่อนฝูงตั๊กแตนจะตั้งพิกัด GPS มาที่ N18 46.476 E100 46.297 ขอให้ชาวเมืองนี้ ร่วมมือ ร่วมใจ กันสร้างกำแพงวัฒนธรรมชุมชนให้เข็มแข็ง ก่อนเถอะครับ  เพราะอย่างน้อยการซ่อมแซมเพียงบางส่วน ก็ยังดีกว่าการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่  หลังการบินจากไปของ"ฝูงตั๊กแตน"....สาธุ จากคุณ : หน้าผู้ร้าย ใจพระเอก เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:07:30

ความคิดเห็นที่ 38 เราไปตอนยังไม่ดังมาก มีคนเดินอยู่ ไม่ถึงสิบคนได้ แบบสงบเหมาะกันการพักสมองมาก แต่มันก็คือกระแสที่เค้าสร้างอยากจะให้คนไปไม่ใช่หรือฝูงตั๊กแตนถึงได้ไปกัน จากคุณ : Turbota เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:08:01

ความคิดเห็นที่ 39 เห็นด้วยกับคุณNatchapon ครับ แต่อาจจะยากมาก จากคุณ : - The hoBByist - เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:21:20

ความคิดเห็นที่ 40 ไม่คิดจะไป เคยดูรายการอยู่รายการนึง ยายอายุมากแล้ว70-80ปีได้ แกบอกว่ากลัวคนข้างนอก จะมาทำให้เชียงคาน เปลี่ยน แกอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิด คงรับไม่ได้ที่อะไรๆจะเปลี่ยน ผู้คนมากหน้าหลายตา ประดังกันเข้ามา เห็นยายพูดแล้วก็เศร้าใจเหมือนกัน ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่คิดที่จะไป  บ้านใครๆ ก็ไม่อยากให้เปลี่ยน การเปลี่ยนแปลงไม่ได้ว่าดีเสมอ  บางทีสิ่งเดิมๆ ทำให้มีชีวิตชีวามากกว่า ****อย่างวังน้ำเขียวอีกเหมือนกันเมื่อ4-5ปีที่แล้ว ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก รีสอร์ทยังไม่เยอะแบบนี้ รถไม่ติด ตอนนี้ไม่อยากกลับไปวังน้ำเขียวเลย (บ้านแฟนเราอยู่ที่นั่น) เสียงคาราโอเกะก็ดังสนั่นป่า สนั่นทุ่ง  ไปกันทำไมเยอะแยะ ทั้งๆที่ไม่มีอะไรให้เที่ยวเลย จากคุณ : เจ้าม่อนจอมซน เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:31:03

ความคิดเห็นที่ 41 บางคนไป แบบไม่อนุรักษ์ของเก่าเลย แบบว่าไม่เคารพสถานที่ เราเคยไปอัมพวา โฮมสเตย์ มีกลุ่มนึง คนหนูมาเชียว โวยวายบอกว่าทำไมไม่มีห้องแอร์ นอนไม่ได้นะคะ แบบนี้ ร้อนตายเลย แล้วนั่งเรือ ดั๊นนนนน มาเจออีก บ่นทั้ง ทริป บอกว่า ยุงเยอะ ขาลายหมดแล้ว ไม่ประทับใจเลย แล้วก็ด่าๆๆ เราก็คิดกะเพื่อนเน้อ ว่า คุณจะใส่ขาสั้น เพื่อ จากคุณ : หมูหวานน้ำกะทิ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:35:45

ความคิดเห็นที่ 42 เพิ่งกลับมาจากเชียงคานค่ะ เคยไปมาแล้ว 5 ครั้งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หลายอย่างเปลี่ยนไป แต่น้ำใจคนเชียงคานไม่เคยเปลี่ยน เราชอบเดินคุยกับชาวบ้านที่นี่ค่ะ ส่วนใหญ่จะบอกว่า ชอบที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา ไม่ใช่แค่เรื่องที่มีรายได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ลูกหลานที่เคยมาทำงานในกรุงเทพ ก็ได้กลับไปอยู่ด้วยกันกับครอบครัว เพราะมีงานให้ทำ ทั้งขายของ ทั้งทำที่พัก เราว่าบทความนี้ มองเชียงคานเป็นด้านลบไปหน่อยนะคะ ลองนึกถึง คนเชียงคานที่กำลังลงทุนทำห้องใหม่เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว หรือคุณยาย คุณตาที่ปิ้งข้าวเหนียวขายริมทาง ถ้านักท่องเที่ยวลดลง รายได้พวกเค้าก็ลดลง ลูกหลานต้องกลับเข้าเมืองเพื่อหางานทำ ถึงตอนนี้ เชียงคานจะไม่สงบเท่าเมื่อก่อน แต่คนส่วนใหญ่ที่นี่ก็กำลังปรับตัวด้วยความเข้าใจ และยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวเสมอ ขอร้องเถอะค่ะ...อย่าให้ความคิดของคนที่คุณรู้จัก มาเหมารวมเป็นความคิดของคนเชียงคานทั้งหมดเลย ถึงจะเป็นคนกรุงเทพ แต่เราก็รักเชียงคานค่ะ ไม่อยากให้กระทู้นี้มาให้คนที่อ่านเข้าใจเชียงคานผิดๆ เราจะยังเป็นอีกคนหนึ่งที่จะกลับไปเที่ยวที่เชียงคานอีกครั้งค่ะ จากคุณ : ผู้หญิงตัวเล็กในโลกใบใหญ่ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:41:13

ความคิดเห็นที่ 43 เราว่านะที่ไปว่าว่าเพราะชาวบ้านเองด้วยถึงเป็นแบบนี้เนี่ยมันก็ไม่ถูกซะทีเดียว ชาวบ้านเค้าจะมีรายได้สักแค่ไหนกัน คนเราไม่อยากมีรายได้ที่มากขึ้นเหรอก็อยากทุกคนแหละ เค้าก็อยากเหมือนกันแต่พอวันนึงที่นักท่องเที่ยวไม่เป็นไปตามที่เค้าคิดไว้ นักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่ไม่มีจิตสำนึกเข้าไปแล้วจะไม่ให้เค้ารู้สึกแบบนั้นได้ยังไง จากคุณ : แม่น้องฟ้าใส (มามี๊ตัวกลม) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:42:34

ความคิดเห็นที่ 44 ถ้าคนเที่ยวแบบรับผิดชอบ สำนึกต่อสังคม คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ :) คือไม่ทิ้งขยะเกลื่อนกลาด ตื่นเช้า กินข้าวต้ม นอนอ่านหนังสือ เดินชมทุ่ง ตกเย็นกินข้าว เข้ามุ้งนอน ... ทำตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตของชาวบ้านได้ เค้าก็ยินดีต้อนรับ ถูกมั้ยคะ :) ที่เค้าไม่อยากให้ไป น่าจะเป็นพวกวัยรุ่น(หรือผู้ใหญ่)จำพวกรักแสงสีเสียง มากกว่าน่ะค่ะ คนจำพวกนี้ไปเที่ยว "สมุย" หรือ "พัทยา" เถอะ (RCA ขนาดใหญ่ดีๆนี่เอง) จากคุณ : Code_Riiku เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:48:15

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้าชาวเชียงคาน รักความสงบ รักวิถีชีวิตแบบเดิมๆ ก็อย่าขายบ้านให้นายทุน กรุงเทพ ซิคะ อย่าทำบ้านเป็นเกสต์เฮาส์ อย่าเอาของออกมาขายตามถนนด้วย กลับไปทำไร่ทำนาเหมือนเดิม เดี๋ยวคนก็เลิกไปเองแหละ เพราะมันไม่มีที่นอน ไม่มีอะไรกิน ง่ายจะตาย  ว่าแต่ต้านกระแสเงิน ได้หรือเปล่าล่ะ จากคุณ : หมาน้อยซินดี้ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:54:20

ความคิดเห็นที่ 46 ดีนะที่เคยไปมาแล้วตอนยังสงบอยู่ เป็นเมืองที่น่าอยู่จริงๆ ค่ะ นอนริมน้ำให้ลมธรรมชาติโกรกเบาๆ ปั่นจักรยาน กินก๋วยเตี๋ยวข้างทาง ชีวิตชิวๆ ใครที่ชอบสบาย ติดแอร์ ดูหนัง ร้องคาราโอเกะ พอมืดไม่นอน ดาวไม่ดู ดื่มแต่เหล้า ขอร้อง ... อย่าไปเลยนะคะ เชียงคาน จากคุณ : แอนด้า เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:55:55

ความคิดเห็นที่ 47 เห็นด้วยกับ 44 ครับ ไม่ใช่ปิดกั้น ห้ามกันไปเที่ยว แต่ขอแบบ ไปเพื่อจะกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่ๆที่เราไปเหอะนะ ไปพักผ่อนสบายๆ ไปดูวิถีชีวิตที่แตกต่างของคนท้องถิ่น และกรุณาให้ความเคารพ ผู้คนและสถานที่นั้นๆ ตามสมควร อย่าไปเพื่อร้องขอ อยากกินแบบนั้น อยากนอนแบบนี้ ทำไมที่นี่ไม่มีสตาร์บั๊ค อย่าไปกรีดกราย ฮึ! ม่ายล่ายหลั่งจายเล๊ย...ประเภทลูกคุณหนูน่ารำคาญ และสิ่งที่หมาจิ้งจอกพลัดถิ่นอย่างผม อยากได้จากเจ้าของสถานที่คือ "น้ำใจ"ครับ ไม่ใช่การ"ตามใจ" ตามใจนักท่องเที่ยวมากๆเดี๋ยวจะเคยตัวกันหมดครับ ขัดใจกันบ้างก็ดีครับ ถือเป็นการสกรีนคนมาบ้านคุณอีกทางนึง 555 จากคุณ : หน้าผู้ร้าย ใจพระเอก เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:59:15

ความคิดเห็นที่ 48 เห็นด้วยนะคะ และขอร่วมรณรงค์ให้ท่องเที่ยวกันแบบกลมกลืนกับธรรมชาติและท้องถิ่นเป็นดีที่สุดค่ะ ความสวยความสดของสถานที่นั้นๆจะได้อยู่กับเราไปนานๆ จากคุณ : ปลาวาฬสีชมพู เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:31:30 A:124.121.162.25 X: TicketID:304131

ความคิดเห็นที่ 49 เห็นด้วยสุดๆ คนไทยขี้เห่อ -*- จากคุณ : Bluedonut เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:31:47

ความคิดเห็นที่ 50 น่าจะมีสอบ"บัตรประจำตัวนักท่องเที่ยวที่ดี" ^^ จากคุณ : ไผ่พริ้ว (PyDE) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:45:42

ความคิดเห็นที่ 51 ไปเชียงคานแล้ว ลองแวะไปภูเรือสิ  ผมชอบภูเรือมากกว่า เชียงคานนะ เมืองอะไรก็ไม่รู้เหมาะแก่การชิวดีแท้  เป็นเมืองที่เหมือนจะไม่มีอะไร แต่เหมาะแก่การพักผ่อนดีจริงๆ จากคุณ : aui2222 (aui2222) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:56:04

ความคิดเห็นที่ 52 คิดว่าปัญหาเกิดจากการที่นักท่องเที่ยวขาดจิตสำนึกที่ดีต่อการท่องเที่ยวแนวนี้มากกว่าค่ะ อยากให้ลองคิดดูว่าเราไปเพราะอะไร ไปเพราะอยากเที่ยวสงบๆ พักผ่อนจิตใจ ศึกษาวัฒนธรรมท้องถิ่น รู้สึกถึงวิธีชิวิตของผู้คนที่นั้น หรืออะไร เพราะว่าถ้าเราคิดได้อย่างงั้น เราก็ควรจะปรับตัวให้กลมกลืนไปกับเค้า ไม่ใช้ให้เค้าปรับทุกอย่างเพื่อสนองตามความต้องการของเรา แล้วยังงี้เราจะไปเพื่ออะไร อินเทรน? เคยไปปายมาครั้งนึง ไปแล้วไม่ประทับใจเลย คือไปเดินถนนคนเดิน หรือเค้าเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ สองข้างทางมีแต่ผับเต็มไปหมด เลยแอบสงสัยนิดนึงว่า ตกลงเค้ามาที่นี้เพื่ออะไรกันแน่ หรือว่าต้องการเปลี่ยนที่กินเหล้า เห็นในห้องบลู หรือหนังสือตามแผงต่างๆ มีแต่คนไปเชียงคาน ยังพูดกับที่บ้านเลยว่าสงสัยอีกไม่นานก็เละเหมือนปายแน่เลย ก็ได้แต่ภาวนาให้อย่าเป็นอย่างที่คิดเร็วนักเลยนะคะ จากคุณ : wani_ice เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 17:20:42

ความคิดเห็นที่ 53 ตอนเด็กๆผมไปเชียงคานบ่อยๆ แต่ส่วนใหญ่แค่ผ่าน ไม่แวะครับ ผ่านไปหาอะไรกินแถวแก่งคุดคู้ แล้วกลับครับ ทำไมน่ะเหรอ ก็ด้วยความเป็นคนอีสานมาแต่กำเนิด เชียงคานก็หน้าตาเหมือนอำเภออื่นๆกว่า 70% ในภาคอีสานครับ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน ตึกแถวไม้ ฯลฯ ก็เลยไม่คิดว่ามันเป็นแหล่งท่องเที่ยวอะไรน่ะสิครับ พอโตขึ้นมาทำงาน มีพี่ที่ทำงานอยากนัดกันไปเชียงคาน ก็เอ้อ ไปก็ไป ตั้งแต่เชียงคานเริ่มดังก็ยังไม่เคยไปเลย พอไปถึง อื้มม แม้บ้านเรือนหน้าตาจะไม่ต่างจากเดิมมากนัก แต่ความคึกคักต่างจากเมื่อ 10 กว่าปีก่อนมากเหลือเกิน สมัยก่อน ขับรถวนไปวนมา มีอยู่คันเดียวนี่แหละครับ ร้านเรือนส่วนใหญ่ไม่ใช่ร้านขายของ แต่เป็นที่อยู่อาศัย พอมาบัดนี้ กลายเป็นว่าคนกรุงเทพเองก็ดี คนจากจังหวัดอื่นเองก็ดี พากันแห่เข้าไปซื้อบ้านไม้เหล่านั้นกันหมด บางคนที่ย้ายไปเค้าก็รักเชียงคานจริงๆ อยากไปใช้ชีวิตทำมาหากินที่นั่น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีครับ เพราะคนเหล่านี้จะพยายามปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมดั้งเดิมให้มากที่สุด แต่สำหรับบางคนเค้าเข้าไปเพื่อทำธุรกิจจริงๆ และไปทำลายวัฒนธรรมดีๆของที่เชียงคาน พวกนี้ไม่สมควรจริงๆครับ ส่วนตัวผมเอง ผมไม่คัดค้านความเจริญของท้องถิ่นนะ แต่คิดว่าเราควรโซนนิ่งดีกว่าครับว่า เขตตรงนี้ต้องเป็นที่อนุรักษ์ ห้ามเปลี่ยนแปลงใดๆ ถ้าจะสร้างตึกใหม่ต้องสร้างตามแบบแปลนที่กำหนดเท่านั้น ส่วนเขตด้านนอก เจริญได้ก็เจริญไป มีเซเว่นก็มีไป อย่างนี้น่าจะดีกว่านะครับ (เหมือนเมืองนอก) นักท่องเที่ยวเอง เวลาไปเชียงคานก็ควร manage expectation ว่าจะได้เจอกับอะไรที่เชียงคาน จะได้พบวิถีชีวิตวัฒนธรรมริมน้ำโขงที่น่ารัก เดินชิวๆ ริมน้ำตอนเย็น เคารพคนท้องถิ่นเพราะไม่ใช่ทุกบ้านเป็นที่ท่องเที่ยวซะหมด จะตักบาตรข้าวเหนียวก็ไม่ควรไปยืนถ่ายรูปขวางทางพระบิณฑบาตรหรือโพสต์ท่าไม่เหมาะสม ฯลฯ ผมว่าเชียงคานยังมีโอกาสในการอนุรักษ์และพัฒนาอยู่นะครับ แต่ขอให้ ปาย และ อัมพวา เป็นแห่งสุดท้ายของแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่มีการวางแผนละกัน หวังว่าเชียงคาน และเมืองอื่นๆโดยเฉพาะในภาคเหนือจะยังวางแผนทันนะครับ ^_^ จากคุณ : TASoccer เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 17:47:24

ความคิดเห็นที่ 54 ถ้าเจ้าของบ้านเค้าคิดแบบนี้ ... แล้วเราจะไปทำไม เมืองไทยที่มีให้เที่ยวเยอะแยะ ไม่อยากให้ไป ไม่ไปก็ได้ค่ะ ไม่ต้องเป็นกังวล จากคุณ : นู๋โบว์กะพี่กอล์ฟ (นู๋โบว์กะพี่กอล์ฟ) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 17:54:57

ความคิดเห็นที่ 55 ถ้าบอกมาแบบนี้ ไปเที่ยวเมืองนอกดีกว่ามั้ง....เหอๆ จากคุณ : rOcKcOOL เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 18:00:39

ความคิดเห็นที่ 56 เพื่อนเราก็ร้องอยากจะไปหนักหนา เราก็ต้องบอกว่าจะไปดูอะไรหรอ บ้านเรานะก็เหมือนบ้านเขาแหละ เราไม่ใช่คนในเมืองหลวง บ้านเก่าๆ มีมากมาย แถวต่างจังหวัด ไม่เห็นจำเป็นต้องไปไกลถึง เชียงคาน หรือปายเลย จากคุณ : บ่ายสามสี่สิบห้า เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 18:23:15

ความคิดเห็นที่ 57 ทำไมต้องโทษแต่คนกรุงล่ะคะ แล้วถ้าคนกรุงอย่างเราบอกว่าไม่อยากให้คนแห่กันมากรุงเทพบ้านเราบ้างล่ะ บอกตามตรงเราน้อยใจจริงๆ ตั๊กแตนที่คุณว่ามันก็เหมาะแล้วใช่ไหมที่จะให้มาอยู่ในเมืองเน่าๆอย่าไปไหน.... กลายเป็นว่าอะไรที่แย่ๆ ลักษณะที่เห็นแก่ตัว ทำไมทุกคนต้องมีคำตอบในใจว่ามันมาจากคนกรุงเสมอๆ จริงๆเราว่าคนกรุงไม่น้อยนะ ที่มีจิตสำนึกที่ดีเวลาไปเที่ยว แทนที่จะช่วยกันหาทางออก คุณเป็นเจ้าบ้าน คุณมีสิทธิ์เต็มที่ ที่จะรักษาบ้านของคุณ คุณก็ทำป้ายรณรงค์ หรือเห็นอะไรที่ไม่ดีก็บอกกล่าวกันได้ บอกกันดีๆ เราว่าคนต่างเมืองยังไงก็ยินดีจะรับฟังและทำตามนะ ดีกว่ามาห้ามไม่ให้ไป เข้าใจเลยว่า ทำไมบางที่ยินดีที่จะรับแขกฝรั่งหัวทองมากกว่าไทยหัวดำอย่างเรา มาช่วยกันปลุกจิตสำนึกดีกว่า แนะนำกันบ้างว่าควรทำเช่นไร บางคนก็มาบ่นอย่างเดียว ไม่เกิดประโยชน์หรอกค่ะ.... ด้วยไมตรีจิต ปล.ยังไม่เคยไปเชียงคานค่ะ หลังจากอ่านบทความนี้ ยังอยากไปอยู่นะ แต่ไม่ใช่ในเร็ววันนี้แน่ๆ จากคุณ : แม่ตบสลบคาคอม เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 18:35:49

ความคิดเห็นที่ 58 เราเพิ่งไปมาเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน บรรยากาศก็น่าอยู่ แต่จะเห็นได้ว่ามีร้านค้า เกสต์เฮ้าท์ผุดขึ้นพอควร แต่ยังดีที่ไปวันศุกร์เลยไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก จุดสำคัญที่ทำลายเชียงคานน่าจะเป็นนักท่องเที่ยวและนักลงทุนบางกลุ่มที่ขาดจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งดั้งเดิม หรือไม่รู้จักปรับตัวหรือเคารพต่อเจ้าบ้าน อยากให้บางท่านรู้จักสำรวม ปรับตัว และเกรงใจเพื่อนบ้านบ้าง เช่นไม่ส่งเสียงดัง เปิดเพลงดัง ถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้านคนอื่น เข้าเมืองตาหลิ่วก็ควรจะต้องหลิ่วตาตามค่ะ จากคุณ : เด็กศิลป์ (Artiste) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 18:44:56

ความคิดเห็นที่ 59 เคยดูรายการ หรือรีวิวต่าง ๆ เกี่ยวกับเชียงคาน ผมไม่เคยมีความรู้สึกอยากจะไปเล้ยย มันก็แค่บ้านไม้เก่า ๆ วิวแม่น้ำโขงก็โซ ๆ เหมือนตามอำเภอเล็ก ๆ ตามต่างจังหวัด สงสัยผมไม่ใช่นักท่องเที่ยวแนวติสแตกด้วยล่ะมั้ง จากคุณ : iamfine_thanks เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:01:52

ความคิดเห็นที่ 60 การตามใจนักท่องเที่ยวบางกลุ่มมากเกินไป มีผลกระทบทำให้เกิดอาการกู่ไม่กลับ ถ้าเชียงคานไม่ใส่ ความสะดวกความสบาย แบบที่คนในเมืองมี จะมีอะไรดีๆ ที่รอให้ค้นหามากมาย อยู่ในนั้น แล้วก็จะไม่มีใคร ที่ไปเที่ยวมาแล้ว กลับมาบอกว่า "เชียงคาน ไม่มีอะไรเลย" จากคุณ : กระต่ายริมธารน้ำ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:01:53

ความคิดเห็นที่ 61 ยังไม่ได้ไปสักที่...... เกาะช้าง ปาย เชียงคาน น่าน...  เสียดายจัง ไม่ชอบคนเยอะ จากคุณ : WittyNakhon เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:03:25

ความคิดเห็นที่ 62 ความรู้สึกเวลาที่เดินอยู่บนถนนชายโขงตอนกลางคืนที่เชียงคาน รู้สึกว่า "อีกหน่อย เชียงคานคงไม่ต่างจากปาย ที่มีคนพยายามเอาสิ่งเปรอ ๆ เลอะ ๆ เทอะ ๆ ที่ เรียกว่า "อาร์ต" ไปยัดเยียดใส่" อยากให้คนไทยทุกคน เลิกเห่อเที่ยวตามกระแส .. ที่ไหนว่าสวย อาร์ต ฉันจะตามไปถ่ายรูป อยากให้ไปเที่ยวเพราะรักในศิลปะ วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ และธรรมชาติอันสวยงามมากกว่าการเที่ยวเพื่อเกาะกระแส เคยคิดกันบ้างไหมว่า "วันไหนที่กระแสเหล่านั้นหมดไป ... คุณจะทิ้งซากอะไรไว้ให้คนพื้นที่นั้น" จากคุณ : ข้าวโพดซัง เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:05:26

ความคิดเห็นที่ 63 ...57 ครับ จริงๆใช้คำเหมารวมก็ไม่ถูกผมก็เห็นด้วย.........แต่ข้อเท็จจริง..บางอย่างก็อดไม่ได้........เอาง่ายๆ ..เวปบลูมีคนอยากไปรีสอร์ทที่ทำหลายป่า...มากหรือน้อย... .........น้ำเสียในคลอง ก็คือ..น้ำดีไหลลงมาน้อยกว่าน้ำเสีย..... .............คนริ่มน้ำ จะทำยังไงกับนักท่องเที่ยว ที่สวนมากมาเที่ยวคลองแล้วทิ้งขยะ.......และส่วนใหญ่...ก็ทะเบียนกรุงเทพ.........      คนท้องถิ่นจะทำยังไงดี.........ช่างมันเอาเงินไว้ก่อน หรือ บอกออกไปเลย คนที่ไม่ดีไม่ต้องมา......... . ......ปลูกจิตสำนึก ก็คงต้องให้คนมาเที่ยวปลูกจากบ้าน จะให้คนท้องถิ่นปลูกให้คงไม่ไหว..... .......ไม่รู้จะตอบแบบไหน อัมพวา.........ปาย..........สวนผึ้ง.........ตอนนี้ถูกลบออกไปจากแผนที่ประเทศไทยแล้ว..........เชียงคานก็คงกลัวว่าจะถูกลบออกไปด้วย............ก็คงแค่นั้น......... .........ผมดีใจที่คนเชียงคานกล้า.............ตรงไปตรงมา...จากที่อ่านแล้วเข้าใจคือ ....คนไม่ดีไม่เกรงใจจะไปไหนก็ไป ไปปาย ไปอัมพว..ไปรีสอร์ทริมเขา.....ก็ไป.......ถ้าจะมาปลายเราก็มีแค่วัฒธรรมรักสงบ เกรงใจซึ่งกันและกันให้ศึกษาเ่ท่านั้น จากคุณ : เอ่ยรัก เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:13:56

ความคิดเห็นที่ 64 คนเชียงคานจำนวนเท่าไรกันนะที่ไม่อยากให้ไป หรือว่าแค่ความเห็นจากรุ่นน้องของเขา ถ้าเที่ยวเมืองไทยแล้วทำให้วิถีชีวิตเขาเปลี่ยนไป สร้างความลำบากให้กับเขา ไปต่างประเทศดีไหม แล้วจะโดนว่าไม่ยอมเที่ยวเมืองไทย เอาเงินไปให้ ตปท. อีกไหมนะ จากคุณ : คิดถึงโซดา เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:16:44

ความคิดเห็นที่ 65 แน่นอนว่าแต่ละคนต่างจิตต่างใจ ส่วนหนึ่งไม่ได้สนใจวิถีชีวิตสงบๆแบบเดิม แต่ต้องการเงิน อีกส่วนหนึ่งไม่ต้องการเงิน แต่ต้องการชีวิตที่สงบ คนไปเที่ยวส่วนหนึ่งต้องการสัมผัสความสงบ จึงเดินทางไปสัมผัสความสงบ อีกส่วนหนึ่งแค่เห่อตามกระแส เลยพกนิสัยแย่ๆติดตัวไปด้วย เหมือนเปลี่ยนที่กินเหล้าเฉยๆ แต่สิ่งที่จะเกิดแน่นอนไม่ต่างจากเกาะช้าง และปาย และอื่นๆอีกหลายแห่ง มัวแต่กอบโกย จนทำลายมนต์เสน่ของมัน สุดท้ายไม่มีใครอยากไปอีก เหมือนคนหน้าตาดี ควงไปไม่เลือกหน้า สุดท้ายไม่มีใครเอา มนต์เสน่แห่งเชียงคาน คุ้มแล้วหรือที่จะเสียมันไป case study มีให้เห็นมากมายแล้ว เรือ่งแบบนี้ต้องแก้ให้เป็นระบบจริงๆจังๆ แบบ อช ห้ามกินเหล้า จากคุณ : GreenEyes เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:29:52

ความคิดเห็นที่ 66 ตอนเราไปเชียงคาน เราก็ถามตัวเองนะว่า เสน่ห์ของเชียงคาน อยู่ตรงไหน บอกตรงๆ ตอนเราไป เราเบื่อมาก เหงามาก เซ็งมาก ช่วงเวลาที่เรามีความสุขที่สุดคือ ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงสี่โมงเย็น กินข้าวเช้าบ้านคุณยาย คุยกับคนเฒ่าๆแก่ๆ เดินตามคุณยายไปยังเกสต์เฮาส์ที่แกดูแล ดูแกทักทายคนนู้นคนนี้ ชี้ให้ดูนั่นดูนี่ ปั่นจักรยานเข้าซอยนู้น ออกซอยนี้ หาอะไรอร่อยๆกิน ไปนั่งเล่นที่สนามเด็กเล่นหน้าโรงเรียน ดูวัยใสเขากระโดดโลดเต้น มือเราก็แทะขนมโตเกียวอันยักษ์ไป นั่นแหละ พอสักสี่โมงเย็น คนเริ่มมา เราก็หนีดีกว่า แล้วช่วงเวลาเซ็งของเราก็บังเกิด เราไม่รู้ว่าเสน่ห์ของเชียงคานอยู่ตรงไหน ของนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ อาจจะอยู่ที่ยามเย็น ร้านกาแฟเก๋ๆ ที่พักดีๆ ประตูเรือนไม้ นี่คือสิ่งที่เราเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ เราไม่เห็นว่ามันจะแปลก สำหรับเรา เสน่ห์ของเชียงคานอยู่ที่มิตรภาพที่ทุกคนหยิบยื่นให้ คุณยายแก่ๆ ที่ยอมเดินเข็นจักรยานตั้งแต่ซอย 7 ไปซอย 18 เพราะว่าจะแนะนำชี้ชวนให้เราดูนู่นนี่ คนที่โทรตามเรากลับบ้านตั้งแต่ 5 โมงเย็นพร้อมบอกว่า "อย่าไปเดินดูอะไรๆเหมือนคนอื่นเลย กินข้าวกับยายดีกว่า กินที่อื่นมันก็แพง" คนขายขนมโตเกียวที่จำได้ว่าไอ้เด็กหมวกม่วงคนนี้มันขี่จักรยานผ่านไปผ่านมาหลายรอบเหลือเกิน หรือแม้แต่ เจ้าของรถมอไซค์เช่า ที่คอยเป็นห่วงดูแลเพื่อนเราที่มอไซค์ล้ม ทั้งๆที่มอไซค์เค้านั่นแหละ ที่พัง เสน่ห์ของเชียงคานอยู่ตรงไหน ถ้าเพียงแต่เที่ยว ในแบบที่คนเมืองทั่วไปเที่ยว คงมองเห็นเสน่ห์ปรุงแต่ง ไม่เห็นเสน่ห์ลึกๆของเชียงคาน ซึ่งเราคิดว่า เมืองไหนๆ ก็มีมิตรภาพไม่เท่าที่นี่จริงๆ ปล. เรื่องส่งเสียงดังโวยวายในที่พักนี่ขอเถอะค่ะ วันที่เราจะกลับ หลังจากนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ออกไปจากที่พักฝั่งตรงข้ามบ้านที่เราพักแล้ว คุณยายเจ้าของบ้านบ่นว่า พวกเขาเอาเหล้ามากินในบ้านพัก ไม่อยากให้เอามาเลย รบกวนความสงบของคนอื่นๆเขา แต่แกก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี จากคุณ : ปลาทองแก้มยุ้ย เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:39:04

ความคิดเห็นที่ 67 เคยอยากไปปายตั้งแต่สมัยยังไม่ถูกแต่งแต้ม ... แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไป จนสุดท้าย "ปาย" ก็กลายเป็นสาวที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยความงามฉาบฉวย จนหมดเสนห์ของเด็กสาวตัวเล็กๆที่เคยรู้จัก หมดความรู้สึกอยากเข้าไปสัมผัส ... เชียงคานก็กำลังดำเนินตามรอยทางนั้นเช่นกัน ... จากคุณ : แมลงภู่บนหูกระต่าย เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:41:01

ความคิดเห็นที่ 68 สุดท้ายก็เป็นทิศทางเดียวกับ  สมุย พะงัน ปาย วังน้ำเขียว เขาใหญ่ แต่อาจจะไม่ถึงขนาดนั้น เพราะคงมีกลุ่มที่ช่วยกันไม่ให้อะไรเข้าไปมาก ก็ต้องฝากทาง อบต. อบจ. นายอำเภอ ผู้ว่า ททท. หลายหน่วยงานก็จัดระเบียบ จำกัดคนเข้าก็ได้นะครับ อย่าไปงกเรื่องเงินมาก จะทำให้ความเสียหายตามมา คล้ายๆกับปางอุ๋ง หรืออุทยานหลายๆที่ ที่มีการจำกัดคนเข้าในแต่ละวัน จากคุณ : Frankly เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:45:59

ความคิดเห็นที่ 69 นั้นสิ ทำไมต้องโทษคนต่างถิ่น !!  ถ้าเป็นผม ผมจะโทษตัวเองครับ !! แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 19:49:37 จากคุณ : PRUEKPOOm เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:48:17

ความคิดเห็นที่ 70 อัมพวา ก็น่าสงสารนะ ^_^ จากคุณ : potojae เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:57:33

ความคิดเห็นที่ 71 อย่าคิดมากเลยค่ะเดี๋ยวก็หายเห่อ อะไรที่คนนอกไปลงทุนเดี๋ยวก็เจ๊งย้ายออกไปเอง เหมือนปายไง จากนั้นก็เหลือแต่คนที่รักมันจริงๆ เชียงคานไม่ได้มีอะไรเลย ถ้าคนที่ออกต่างจังหวัดบ่อยๆไม่จมอยู่แต่ในเมืองไปที่ไหนก็จะเห็นภาพบ้านไม้เก่าๆเทือกสวนไร่นาแม่น้ำ ทุกวันนี้คนเข้าไปแค่กระแส แค่ทำตัวอาร์ตแล้วถ่ายรูป คนที่เขาชอบไปจริงๆเขารู้ว่าจะอยู่จะกินยังไง ทำตัวให้กลืนไปกับรอบข้างยังไง ก็เห็นมีแต่พวกคนเมืองอารมณ์อาร์ตนี่ล่ะที่ชอบมีปัญหา ไปแล้วไม่มีอะไรก็บ่น อยากไปสัมผัสบรรยากาศเก่าๆแต่ห้องไม่มีแอร์ก็บ่น ถ้าจะออกมาเที่ยวแต่ทำตัวเหมือนอยู่บ้านก็ไม่รู้จะถ่อไปทำไมให้ตัวเองลำบาก หรือกลัวไม่ได้อัพรูปโชว์ชาวบ้าน 2ปีก่อนแวะนอนที่ปายก่อนเข้าแม่ฮ่องสอน อากาศร้อนตับแตกแต่มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งแต่งเต็มยศอารมณ์เกาหลี ผ้าพันคอ เสื้อกันหนาว รองเท้าบูท เดินตากแดดท่อมๆโพสท่าถ่ายรูป ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดในป่าในเขา ขนาดเรายังตกใจ สัตว์ป่าก็คงไม่เหลือ จากคุณ : จะเอาอะไรกับลมปาก เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 20:12:32

ความคิดเห็นที่ 72 จากบทความที่เขียน น่าจะเป็นการเตือนสตินักท่องเที่ยวมากกว่าครับ ไม่ใช่การโทษคนต่างถิ่นที่เป็นนักท่องเที่ยว หรืออยากจะปิดเชียงคาน เพราะต้องยอมรับว่าคนในท้องถิ่นนั้นไม่ได้คิดเหมือนกันทุกคนหรอก คนที่ได้รับผลประโยชน์เขาอาจจะทนยอมรับกับความวุ่นวายนั้นได้ เพราะแลกกับเงินก้อนโตแล้วคุ้ม หรือบางทีตัวเขาเองไม่ได้ใช้ชีวิตจริงจัง อยู่ที่นั่นก็ได้ เพียงแต่ใช้ที่นั่นเป็นแหล่่งทำเงิน อีกหลายคนที่ยังอยาก มีชีวิตสงบๆ เขาก็ต้องได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก การใช้บทความนี้เป็นสื่อ อาจจะช่วยให้นักท่องเที่ยวมีสติ สำนึกในการ เป็นนักท่องเที่ยวที่ดี ควรปฏิบัติยังไง ในสถานที่เช่นไรให้ถูกให้ควร ถ้าทุกอย่างจูนเข้าหากันได้ความลงตัวก็จะเกิดขึ้น ไม่ทำให้ใครคนใดคนหนึ่ง ต้องมาพลอยรับผลกระทบจากความบูมของสถานที่ท่องเที่ยวมากนัก จากคุณ : -=เหมือนจะใช่=- เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 20:45:38

ความคิดเห็นที่ 73 เพิ่งไปเมื่อวันพุธ-พฤหัสที่ผ่านมานี่เองค่ะ เงียบสงบมาก ผู้คนก็ใจดีสุดๆ ครอบครัวเราตั้งใจว่าจะต้องไปอีกแน่นอน แม้จะต้องขับรถทางไกลจากเชียงใหม่ไปก็ตาม ลูกชายเราชอบมากที่ได้ปั่นจักรยานเล่น ลงทุนตื่นแต่เช้ากลัวไม่ได้ปั่นจักรยานเล่นก่อนกลับ ลุงเจ้าของบ้านก็ใจดี จักรยานมีกี่คันเอามาให้ลูกชายเราลองหมด ให้เอาคันที่พอดีกับเด็กจะได้ขี่สบาย ถนนก็มีนักท่องเที่ยวไม่มากค่ะ คงเพราะไม่ใช่วันหยุด เดินกันไปเรื่อยๆค่ะประมาณสองสามทุ่มก็เริ่มเงียบแล้ว พอดีคุณสามีเป็นคนอุดรก็เว้าอิสานกับชาวบ้านแถวนั้นไปเรื่อยๆค่ะ มีคุยเรื่องนาธานกันด้วย555 แบบขำๆนะ สรุปแล้วไปเชียงคานครั้งนี้ประทับใจวิถีชีวิตของคนที่นั่นมากค่ะ ที่สำคัญเราไม่เจอนักท่องเที่ยวที่กินเหล้าเสียงดัง โวยวาย กรี๊ดกร๊าดเลย คิดว่าน่าจะเป็นส่วนน้อยของคนที่ไปเที่ยวที่นี่นะคะ เราอยู่เชียงใหม่ยังไม่เคยไปเที่ยวปายเลยซักครั้งค่ะ คราวหน้าไปเชียงคานแล้วจะเลยไปท่าลี่ด้วยค่ะ ใครเคยไปแล้วเล่าให้ฟังด้วยนะคะว่าเป็นไงบ้าง จากคุณ : พราวระยับ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 20:45:41

ความคิดเห็นที่ 74 น่าจะบูมอ. เบตง  หรือ  ระแงะ จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 20:46:13

ความคิดเห็นที่ 75 นอนพักค้างหนึ่งคืนตื่นสดใส รุ่งวันใหม่หนาวเหน็บจนสะท้าน ประทับใจเชียงคานเพลินสราญ รถวิ่งผ่านมองหลังแบบสั่งลา......             ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนจะปฏิเสธเชียงคานได้ หากคุณคือนักท่องเที่ยวที่ชอบธรรมชาติและความเป็นอยู่ที่สงบ เชียงคานเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คุณต้องไปสักครั้งสักครา              แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เชียงคานเป็นที่รู้จักกันมากคงหนีไม่พ้นสื่อที่ประโคมคำว่า "เชียงคาน" อยู่ไม่คาดสาย รวมถึงนักท่องเที่ยวที่นำภาพมาลง Review กันอยู่เป็นระยะนั้นก็คือการสร้างกระแสทางอ้อมที่คุณไม่รู้ตัว              ไม่มีใครสามารถห้ามให้ใครคนใดคนหนึ่งไม่ไปที่นั่นที่นี่ได้ แต่ก่อนไปท่องเที่ยวที่ไหน จิตสำนึกความเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีต้องมาก่อน อยากให้รณรงค์กันตรงที่จิตใจของนักท่องเที่ยวทุกคนมากกว่าที่จะไปห้ามไม่ให้ไป              ขอฝากเพื่อนห้อง Blu และนักท่องเที่ยวทุกคนว่า ตัวเราเองต้องเตือนใจและเป็นักท่องเที่ยวที่ดี เคารพสถานที่และผู้คนที่เป็นอยู่ ณ สถานที่นั้นๆ เชื่อว่าปัญหาต่างๆจะหมดไป ถ้าเราเริ่มที่ตัวเอง จากคุณ : โซดาท้าดวล (โซดาท้าดวล) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 21:00:00

ความคิดเห็นที่ 76 ถ้าคนที่ไป ไม่บ่นหาห้องแอร์....ก็คงไม่มีใครซื้อแอร์มาติดรอ ถ้าคนที่ไป ไม่มีใครร้องหา wifi....ใครมันจะลงทุนมาติด ถ้าคนที่ไป ไม่มีใครก๊งเหล้าดึกดื่น....เปิดร้านเหล้า ใครมันจะอุดหนุน ....แล้วนายทุนหัวDoor ที่ไหนจะกล้าไปลงทุน ถ้ามันไม่มี demand ผมว่า นักท่องเที่ยวส่วนมากเป็นแบบไหน ที่ท่องเที่ยวมันก็จะกลายเป็นแบบนั้นครับ อย่าไปโทษชาวบ้านครับ...มันปลายเหตุ แล้วก็อย่ารณรงค์ให้ไม่ไปครับ มันโคตรปลายเหตุเลย รณรงค์ให้เที่ยวกันอย่างยั่งยืนดีกว่าครับ :D จากคุณ : supererky เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 21:40:45

ความคิดเห็นที่ 77 เรื่องแบบนี้ไม่ได้ขึ้นกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงฝ่ายเดียว ทั้งนักท่องเที่ยว คนในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ต่างก็มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งนั้น เราคงหลีกหนีการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ก็อยากให้การพัฒนาท้องถิ่น เป็นไปอย่างรอบคอบ ให้ความสำคัญทั้งด้าน จารีต ประเพณี และวัฒนธรรมควบคู่ไปกับเศรษฐกิจ ดิฉันเป็นคน จ.น่านโดยกำเนิด ปัจจุบันนี้เมื่อได้ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวคราใด ก็อดใจที่จะย้อนคิดถึงวันเก่าๆ เมื่อครั้งยังเด็กไม่ได้ค่ะ ไม่ใช่ว่าที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน นั้นไม่ดีนะคะ เพียงแค่ ในฐานะที่เป็นคนในพื้นที่ ดิฉันก็อยากให้นักท่องเที่ยว ได้มีโอกาสซึมซับ บรรยากาศดีๆ ที่ดิฉันเคยประทับใจมาก่อน และไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ก็อยากให้คนที่มาเที่ยว จ.น่าน ประทับใจกลับไปทุกครั้งทุกครา   ไม่อยากได้ยินประโยคที่ว่า...เฮ้อ..จ.น่านเหรอ..อย่าไปอีกเลย ตอนนี้เจริญจนไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว จากคุณ : song jin young เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 21:40:57

ความคิดเห็นที่ 78 โหวตให้เพราะเป็นคน เมืองเล็กๆ เหมือนกันครับ : )) จากคุณ : ดินแดนแห่งเจ้าตัวร้าย เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 21:54:18

ความคิดเห็นที่ 79 มันต้องมีแลกเปลี่ยน อยากให้มีนักท่องเที่ยว ก็ต้องเจอกับความไม่สงบเหมือนก่อน เป็นธรรมดา บทความนี้ ผมว่า คนเขียน หัวโบราณ ไม่สามารถรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ แทนที่จะบอกหรือหาแนวทางแก้ไข ให้มันพัฒนาขึ้น ลบจุดด้อยหรือข้อมเสียที่เกิดขึ้นอยู่ ระดมสมองช่วยกันคิดหาวิธี แทนที่่จะให้กลับไปเป็นแบบเดิม เหอๆๆๆๆๆ ประเทศชาติมันถึงไม่พัฒนา จากคุณ : wkiet เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 22:00:43

ความคิดเห็นที่ 80 ผมไม่เข้าใจ พวกทำตัวเป็น Indy ครับ ทำตัวเหมือนชอบความสงบ เห็นตั้งแต่ อัมพวา ปาย เชียงคาน พวกนี้แหละครับ ตัวเอาวัฒนธรรม บ้า ๆ บอ ๆ ไปอยู่กลางชุมชนชาวบ้าน ตัวตั้งตัวตี จัดงานเทศกาล นู้น นี่ นั้น จากคุณ : ~CeZiiL of FlyingDutchMan~ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 22:13:18

ความคิดเห็นที่ 81 เมื่อก่อนเวลาไปเชียงคาน จะเอาหนังสือไปนอนอ่าน แล้วก็นอนอ่านแบบสงบ เงียบ ๆ แล้วก็คุยกับเจ้าของเกสเฮ้าส์บ้าง เพื่อนที่มาพักร่วมบ้านบ้าง  เอากล้องส่องนก ไว้ส่องดูฝั่งตรงข้ามบ้าง ออกไปเดินเล่น เล่นบ้าง ถึงเวลากินก็เดินอออกไปหาอะไรกิน หรือไม่ก็ซื้ออะไรเล็ก ๆน้อย ๆมากินที่ที่พัก ไปเชียงคานเมื่อต้องการพักผ่อนจริง ๆ คุยกับคนอื่น ๆที่พบกันก็คิดอย่างนี้  แต่เดี๋ยวนี้ไปเชียงคานเราไปเดินดูคนแทนแล้วละ  เพลินดีเหมือนกันแต่ไม่ได้เป็นแนวพักผ่อนเงียบ สงบแบบเมื่อก่อนแล้ว ก็ได้ไปอีกฟิลล์ จากคุณ : ฝนตกกลางคืน เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 22:17:40

ความคิดเห็นที่ 82 เห็นด้วยกับบทความค่ะ แต่ก็เป็นธรรมดา ความดังมา ความวุ่นวายก็ย่อมตามมา จากคุณ : Warangyuy เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 22:31:26

ความคิดเห็นที่ 83 เชียงคาน สำหรับผม ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ไปเชียงคานเพราะกระแส และไปด้วยความคาดหวังสูง และก็คงเป็นอย่างที่ในบทความบอกว่า เพราะผมก็หวังไว้ว่าเชียงคานจะเป็น ดินแดนขวัญใจของนักท่องเที่ยวหนุ่มสาว ตามสูตรของเมืองโรแมนติก บ้านเก่าหรือตึกแถวทรงคลาสสิก ผู้คนมีวิถีชีวิตเรียบง่าย  ถนนคนเดินเล่นสองข้างทางเป็นร้านค้าแต่งแบบย้อยยุค  บรรยากาศสงบ  ทางเดินเลียบแม่น้ำ อากาศเย็นสบาย และหลายๆครั้งที่ได้ยินเข้าหูว่า เชียงคานคล้ายเมืองปาย ซึ่งเป็นเมืองที่ผมเคยหลงไหลมาก่อน และมันก็เป็นอย่างที่ในบทความว่าไว้ พอเมืองปายเริ่มเสื่อมมนต์ขลัง  เชียงคานก็ดังขึ้นตามคำทำนาย   เพราะผมไปเชียงคาน เพราะผมหมดศรัทธากับเมืองปายแล้วจริงๆ แต่เมื่อได้พบเห็นเชียงคานในครั้งแรก ผมรับรู้ได้เลย ที่นี่หรือจะเทียบชั้นเมืองปาย มันไม่ใช่ ไม่เหมือน และไม่คล้าย มันห่างไกลจากเมืองปายมาก กระแสที่พยายามจะทำให้เชียงคานเป็นเหมือนเมืองปาย มันทำให้ผมหมดศรัทธากับเชียงคานตั้งแต่แรกพบ ทำไมต้องเปรียบเทียบให้เหมือน ทำให้เหมือนกับที่อื่น ทำไมเราไม่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ชาวบ้านต้องระดมสมองมาช่วยกันคิดแล้ว ว่าควรทำอะไรแบบไหน สถานที่นี้ถึงจะอยู่ได้ เป็นที่ที่ทำให้นักท่องเที่ยวมาแล้วมีความสุข มาแล้วอยากมาอีก บอกต่อปากต่อปากว่ามาแล้วดี มาแล้วสนุก ที่กล่าวแบบนี้เพราะผู้ร่วมทริปทุกคนบอกเหมือนกันหมดว่า ให้เสียตังค์ค่าน้ำมันขับรถมาอีกคงไม่มาแล้ว สำหรับผมก็เช่นกัน ถ้าจะให้มาอีก คงต้องมาฟรีถึงจะมา บรรยากาศที่พบ ชาวบ้านพยายามจะทำตัวและบุคลิกให้ดูกันเองกับนักท่องเที่ยว แต่ความรู้สึกที่รับรู้ได้ คือ Fake จุดเด่นอื่นๆ พยายามจะทำให้มี เช่นอาหาร พยายามปลุกกระแสว่าอร่อย ของดี ขึ้นชื่อ แต่ไปกินแล้วก็งั้นๆ ร้านค้าไม่มีความพร้อมในการขายสินค้า เหมือนว่าต้องขายนะ มาช่วยๆกันขาย ที่นี่จะได้ดูเหมือนมีของขายเยอะๆ ต้องให้มันมีชื่อว่า นี่คือถนนคนเดินให้ได้ แต่ของซ้ำซาก รับมาขาย เหมือนกันแทบทุกร้าน คนขายก็ขายกันตามหน้าที่ เดี๋ยวปิด เดี๋ยวเปิด ร้านดังๆ ที่เหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ของเชียงคาน ที่ใครไปก็คิดว่าต้องไปถ่ายรูปให้ได้ เหมือนถ้าไปแล้วไม่ได้ไปถ่ายรูปที่นี่เหมือนไปไม่ถึงแน่ๆ แต่ไปแล้ว ร้านปิด ที่กล่าวมาเพราะได้มีโอกาสไปถึงสามครั้ง ครั้งแรกตั้งใจมากที่จะไป และก็คิดว่า ถ้าให้เสียเงินเติมน้ำมันขับรถมาอีก คงไม่มาแน่ ส่วนอีกสองครั้ง ได้มีโอกาสไปช่วยงานรุ่นพี่แถวๆนั้น เขาเลยขอพามาเลี้ยง มาค้างคืนเชียงคานหนึ่งคืน พักฟรี กินฟรีตลอดงาน แถมได้ค่าน้ำมันรถไปกลับด้วย และเหมือนเดิม ผู้ร่วมเดินทาง พูดเหมือนกันว่า ไม่เห็นมีอะไร ทำไมเชียงคานต้องเน้นโฮมสเตย์เหมือนปายล่ะ การเป็นเมืองเก่า ตึกเก่า ก็ไม่เห็นต้องเน้นโฮมสเตย์นี่ สำหรับผมจริงๆแล้วเชียงคานเป็นได้แค่เมืองทางผ่านนะ ผ่านไปแถวนั้นก็แวะไปเที่ยว หรืออาจจะตั้งใจไปก็ได้แต่ก็แค่แวะไปเที่ยว แล้วก็ไปที่อื่นต่อ ถ้าจะให้ผมเปรียบเทียบเชียงคาน ผมให้แค่ตลาดร้อยปีสามชุก ตลาดเก้าห้องที่สุพรรณแค่นั้น คงไม่สามารถเทียบกับปายได้ครับ จากคุณ : พ_า_ย เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 22:53:32

ความคิดเห็นที่ 84 อยู่ที่ชุมชนเองด้วยแหละครับ ถ้าชุมชนไม่เข้มแข็งก็จะเป็นอย่างที่เห็น โดยเฉพาะฝ่ายที่เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น น่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้ ในตอนแรกๆ ชาวเชียงคานเองก็รู้นะครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับท้องถิ่นตัวเอง ยังหวั่นๆ ว่าจะเป็นเหมือนปายหรือไม่ พยายามดึง พยายามรั้งเอาไว้ ตอนแรกผมก็เห็นว่าชาวบ้านก็รวมตัวกันในเรื่องนี้ได้ดีนะครับ แต่สุดท้ายก็ต้านกระแสไม่ไหว ค่อยๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนเป็นอย่างที่เห็น "เงิน" เรื่องเดียวแหละครับที่เปลี่ยนทุกสิ่ง จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 22:56:51

ความคิดเห็นที่ 85 ... จากคุณ : kanban เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 00:24:09

ความคิดเห็นที่ 86 น่าน ..คงจะเป็นรายต่อไป ฟันธง!! จากคุณ : คนธรรมดาคนหนึ่ง เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 01:45:00

ความคิดเห็นที่ 87 เมื่อหลายปี ก่อนจะhit เคยไปพัก เพราะบ้านแฟนญาติอยู่เชียงคาน ยังไม่มีนักท่องเที่ยวไทยเลย เห็นแต่ฝรั่ง ยังงง อยุ่เลย มีโฮมสเตด้วยหรอเนี่ย ใครจะมาพักหว่า มีแต่คนไปเที่ยวแก่งคุดคู้กัน แต่ไหงปัจจุบัน เป็นแบบนี้ไปได้ อนาคต น่านคงเป็นที่ต่อไป จากคุณ : aerun เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 01:56:20

ความคิดเห็นที่ 88 ผมว่าสถานที่ไม่เกี่ยวหรอกครับ มันอยู่ที่สันดานของคนไปเที่ยวมากกว่า ว่าจะประพฤติตัวเช่นไร จากคุณ : คน ไกลบ้าน เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:29:10

ความคิดเห็นที่ 89 สันดานคนไทยหลาย ๆ คนเวลาไปเที่ยว เป็นแบบนั้น จากคุณ : ยุง บิน ชุม เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 06:55:07

ความคิดเห็นที่ 90 ส่วนใหญ่ก็ชาวกรุงทั้งนั้นแหละ เปลี่ยนที่ปล่อยจริตคนเมืองไปเรื่อยๆ จากคุณ : yatiko เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 08:07:46

ความคิดเห็นที่ 91 อืมมม  ผมไปมาเมื่อ ต้นปีที่แล้วก็อยากจะไปอีกนะ ไปมาช่วงนั้น 3 วัน 2 คืน  ร้านที่พวกของ เสื้อผ้า โปสการ์ด ส่วนใหญ่ ก็เป็นคนจาก กทม นั่นละครับ ที่ไปเช่าเขาเปิด   จากที่ผมไปมา คนที่นั่นน้ำจิตน้ำใจก็เป็นอย่างที่หลายๆคนพูดกัน น้ำใจดี น้ำใจงาม บรรยากาศเชียงคานแท้ๆ(มีเค้าบ้าง) ต้องไปช่วง คืนวันอาทิตย์-เช้าวันศุกร์นั่นละครับ  เพราะวันที่เหลือก็จะเป็นพวกคนจาก กทมนั่นละเข้าไปเปิดร้านกันต่อ  ซึ่ง มันก้วุ่นวาย เสียงดังกันตามระเบียบต่อไป เรื่องเสียงดัง สิ่งรบกวนชาวบ้าน ผมว่าต้องให้ทาง ฝ่ายราชการเชียงคานจัดการเอานะ  เรื่องการคุมกฏระเบียบทั้งหลาย จากคุณ : ปลาโลมา_:P เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 08:50:01

ความคิดเห็นที่ 92 ขอบอกว่าอย่างพึ่งส่วนราชการเด็ดขาด  ตัวดีเลยแหละที่ทำให้การท่องเที่ยวเป็นแบบทุกวันนี้ คิดเหมือนหลายคน เจอที่สงบๆ ไม่อยากบอกใครหรือไม่อยากมาโพสต์ แต่ก็หลายแง่หลายมุมนะคะ ปาย........ไม่ไปแล้ว ตั้งแต่มี ๗-๑๑ และไฟแดง (ไม่ได้เกลียด ๗และไฟแดงนะ) ดีใจที่เชียงคานยังไม่มี ๗ แต่ช่วงนี้คงไม่ไป ไปมาเหมือนหลายคนที่ยังไม่มีอะไร วิ่งเลียบโขงจากหนองคายไปเรื่อยๆ เป็นถนนที่สวยมาก คล้ายๆ เชียงของไปเชียงแสน อัมพวา ไปครั้งเดียว เข็ด(สะพานเหลี่ยมมหาชน)  อยู่บ้านเพื่อนแถวชายแหลมดีกว่า แต่กลางคืนโดยเฉพาะเสาร์นี่เสียงเรือดังมาก อีกทั้งคาราโอเกะ หิ่งห้อยตัวน้อยมันหายไป.................. จะมีอีกกี่แห่งต้องเป็นแบบนี้และทิ้งไว้แค่ความทรงจำ จากคุณ : satamarch (satamarch) เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 09:16:44

ความคิดเห็นที่ 93 ผมเห็นด้วยนะครับ หยุดไปกันเถอะ ไม่ไป มันไม่ได้ทำให้คุณเท่ห์น้อยลงหรอก จะว่าไปเรื่องแบบนี้จะโทษใครได้นอกจากนักท่องเที่ยวด้วยกันเอง เที่ยวไปไหนมา ก็เอามาอวดกัน ยิ่งเดี๋ยวนี้ โฟโตชอบ ยิ่งเก่งๆ ก็แต่งรูป ให้สวยๆ จากนั้นก็เอามาอวดกันตามเวบ ตามเฟซบุค มัลติไพล อะไรก็เเล้วแต่ เพื่อหวังให้คนเข้ามาชม "สวยว่ะ" "ทำยังไง ถ่ายรูปสวยจัง" แล้วสิ่งที่ตามมาก็คือ คนอยากไปที่สวยๆ แบบในรูปนั้นบ้าง เอาล่ะ วันหยุดนี้ไปมั่งดีกว่า พอคนไปมากขึ้นก็จะมีคนอยากอวดมากขึ้น เอามาโพสอวดมารีวิว มาบอกต่อ กลายเป็นกระแส ไปมาแล้วค่ะรีวิวเมืองนั้นครับ อัมพวา ปาย เชียงคาน คาดว่าที่ต่อไปจะเป็นน่าน เละไปเป็นแถบๆ โดนใจมากกับบทความ นักบุกเบิกทั้งหลายครับ เห็นหรือยังว่า พวกท่านเอาที่เที่ยวใหม่ๆ มาบอกต่อแล้วเป็นอย่างไร นักถ่ายภาพครับ เห็นหรือยังว่า ถ้าท่านไปแล้วเอาภาพมาอวดกัน มันจะทำให้ท่านไปถ่ายภาพแบบนั้นได้ครั้งเดียว ต่อไปไปเจออะไรใหม่ๆ ก็เลิกโพส เลิกอวดกันเถอะครับ ปล่อยให้ที่แห่งนั้นมันเป็นที่ที่คนเค้าอยากเดินทางไปจริงๆ ได้เสาะหา ค้นคว้า ไปต้องเอาข้อมูลมาป้อนตามเมล์ หรือคลิกเอาตามกระทู้แบบนี้หรอก ที่เที่ยวของพวกเราจะหมดแล้ว แล้วตัวท่านเองก็จะได้ที่เที่ยวสงบๆ แบบของท่าเองด้วย รณรงค์ เลิกโพสอวด เลิกรีวิวครับ จากคุณ : ยืมล็อกอินเค้ามา (จอมยุทธ์น้อยเฉาเฉ่า) เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 09:19:57

ความคิดเห็นที่ 94 ได้อย่าง..  เสียอย่าง.. จากคุณ : เกล็ดขนมปัง เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 09:48:38

ความคิดเห็นที่ 95 ผมขอเป็นชนกลุ่มน้อยที่ไม่รู้สึกประทับใจเชียงคาน ไม่เห็นว่ามันมีเสน่ห์ตรงไหน เคยไปเมื่อ 2-3 ปีก่อนตอนที่นั่นยังไม่บูม คนน้อย ดูแล้วไม่มีอะไรอย่างที่เขาว่า บรรยากาศชนบทรึก็เฉยๆ ผมมันคนตจว.อยู่แล้ว ออกต่างอำเภอบ่อยๆ วิถีชีวิตชาวบ้านทางอีสานก็คุ้นจนไม่รู้จะคุ้นยังไง หาข้าวกินที่โน่นก็ไม่ประทับใจ ผมจะสั่งเป็นกับข้าวแต่เจ้าของร้านมองหน้าเหมือนไม่อยากทำ เห็นผมมากินคนเดียวเลยเสนอให้สั่งเป็นอาหารจานเดียวแทน จะไปซื้อขนมฝักบัวคนทอดก็มองหน้าแบบแปลกๆ บอกบุญไม่ค่อยรับ ประมาณว่าคิวเยอะ รอนาน อย่ารอเลย ไม่ง้อลูกค้า ร้านอาหารใกล้โรงพยาบาลเหมือนทำอาหารไม่เป็น ผมสั่งยำปลากระป๋องแต่ที่ได้มาคือปลากระป๋องเทใส่จานโรยต้นหอมแค่นี้จริงๆ ไม่ใส่พริกไม่มีมะนาวไม่มีเครื่องอะไรเลย แล้วแทบทุกร้านทำอาหารช้ามากทั้งที่ลูกค้ามีไม่กี่คนหรือไม่มีเลย เทียบกับปายแล้วปายน่าเที่ยวกว่าเยอะ ถึงจะถูกเติมแต่งมากเกินพอดีแต่มันก็มีเสน่ห์สำหรับผมมากกว่าเชียงคาน แล้วอย่าพากันพูดเลยครับว่าเชียงคานอารมณ์เหมือนปาย มวยคนละรุ่นสู้ยังไงก็ไม่สมศักดิ์ศรีหรอก จากคุณ : Furusato เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 09:52:25

ความคิดเห็นที่ 96 น่าเห็นใจชาวบ้านที่อยู่มาแต่เดิมที่ต้องการความสงบเรียบง่าย จากคุณ : ลูกสาวน่ารัก เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 09:56:48

ความคิดเห็นที่ 97 อีกทีค่ะ   อย่างไปหลวงพรบางมา ไปฮอยอัน ไปนครวัดฯ สถานที่เหล่านี้มีดีกรีมรดกโลกประทับไว้ก็ยังไม่เห็นเขาต้องวิ่งตามกระแสเหมือนเราเลย เขามีอย่างไรเขาก็มีอย่างนั้น อาจมีปรับเปลี่ยนบ้างแต่ไม่แตกต่างหรือแตกแยกไปจนเกินเลยหรือน่าเกลียด ไปฮอยอันอยากินกาแฟเย็นแทบตาย แต่เมื่อเขาไม่มีอย่างที่เราต้องการก็อยู่ได้ กินไปตามสภาพที่เขากินและยังไม่เห็นว่าเขาต้องมี(หรือมีแล้วหว่า) อาหารการกินนั่งยองเก้าอี้ตัวเล็กโต๊ะเตี้ยๆ ก็นั่งได้ เราไปดูวิถีมิใช่ให้วิถีปรับเปลี่ยนมาหาเรา รอบบ้านเราเขาใช้กฎหมาย กติกาบังคับได้และเคารพกัน แต่เราได้ชื่อว่าทันสมัยกว่าเขาเยอะ แต่ไม่เคารพกติกาและกฎหมาย(ฟุตปาธมีไว้ขายของหรือ จยย.วิ่งสวนทาง) ไม่ต่อต้านการโพสต์รูปอย่างโรงแรม รีสอร์ต OK ได้รู้ข้อมูล แต่ตัวเองก็ไม่เคยโพสต์  ถ้าเห็นกระทู้รีวิว ปาย เชียงคาน ขอไม่เปิดดูดีกว่า   ปายตอนนี้มีที่พักเกิดใหม่ขึ้นมาก มันไม่ใช่ปายอย่างที่เราๆ ท่านๆ ในอดีตคุ้นเคย นั่งรถหวานเย็นถึงก็ได้ไม่ถึงก็เรื่อยๆ ตามใจ แต่ก็ถึงทุกทีช้าหน่อยแต่ได้บรรยากาศมาก สะพานไม่ไผ่มันหายไป................พร้อมกับทุ่งกระเทียม หวั่นว่านาข้าวเขียวช่วงหน้าฝนจะหายไปกลายเป็นรีสอร์ต เกสต์เฮาส์ จากคุณ : satamarch (satamarch) เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 10:03:17

ความคิดเห็นที่ 98 เห้นพวกมาบ่นกันเนี้ย ไปช่วงวันที่เค้ามีเทศกาล วันหยุดยาว หรือ วันหยุด ศุกร์-เสาร์ อาทิตย์ทั้งนั้น ลองไปแบบไปพักผ่อนจริงๆสิครับ อยู่ซัก 10 วันขึ้นไป เชียงคานยังน่าเที่ยวน่าอยู่เหมือนเดิม แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 54 10:23:50 จากคุณ : นายแมมมอส เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 10:21:21

ความคิดเห็นที่ 99 ผมว่าสมัยนี้คนนิยมเที่ยวกันมากขึ้นนะครับ หลังมีการโปรโมทการท่องเที่ยวในหลายๆ จุด ในปีที่ผ่านๆ มา ไม่ว่าจะไปที่ไหนๆ คนก็เยอะทั้งหมด ภูกระดึงที่ขึ้นยากๆ วันพ่อที่ผ่านมาก็มีคนถึง 4,000 กว่าคน เมื่อมีการโปรโมทการท่องเที่ยวกันมากขึ้น คนไทยก็เที่ยวในเมืองไทยกันมากขึ้น จะเห็นได้ว่าในช่วงที่ผ่านๆ มาไม่นาน มีการจัดคอนเสิร์ตกันเยอะมาก ป่าเขาลำเนาไพร ทะเล เอามาจัดคอนเสิร์ตหมด พอหมดคอนเสิร์ต สิ่งที่เหลือ คือ ธรรมชาติถูกทำลาย ขยะเกลื่อนไปหมด เราไม่ผิดที่ไปเที่ยว ไม่ว่าที่เที่ยวจะบูมหรือไม่บูม เจ้าของถิ่น หรือผู้ประกอบการไม่ผิดที่เปิดให้บริการร้านค้า โรงแรมต่างๆ เพราะทุกสิ่งอย่างนั้น ล้วนเป็นการกระจายรายได้ แต่ผิดที่นักท่องเที่ยว หรือผู้ประกอบการบางท่านไร้ "จิตสำนึก" จากคุณ : banky ศรีมณีเด้ง เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 11:07:11

ความคิดเห็นที่ 100 ไปมาแล้วเช่นกัน  และคิดว่าคงไม่ไปอีก เพราะไกลมาก และก็ไม่ได้ต่างอะไรกับบ้านแม่ที่ลำปางเลย  มีถนน 2 เส้น ถนนหลักกับถนนขนาบคู่แม่น้ำ  แต่ของเราแม่น้ำวัง เล็กหน่อย ไม่ใหญ่เท่าแม่น้ำโขง  อิอิ   ผู้คนที่บ้านเราก็ใจดี รู้จักกันทั้งตำบลเหมือนกัน เวลาใครถามว่าไปเชียงคานมาเป็นไงมั่ง ก็จะบอกแค่ว่า เชียงคานเหมาะกับคนที่ไม่มีบ้านอยู่ต่างจังหวัด  อยากไปสัมผัสบรรยากาศต่างจังหวัด เงียบๆ ไม่ค่อยมีอะไรอำนวยความสะดวก มีผู้เฒ่าผู้แก่ มีชีวิตแบบเรียบๆง่ายๆ ส่วนตัวชอบปายมากกว่า  ออกตัวไปเลยว่ามีแสงสีเยอะ ร้านค้าไรมากมาย ไม่กึ่งๆแบบเชียงคาน  แถมปายมีที่ท่องเที่ยวธรรมชาติเยอะกว่าด้วย จากคุณ : เจ้าหญิงกิงก่องแก้ว เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 11:12:21

ความคิดเห็นที่ 101 เห็นจากรูปจากหลาย ๆ รีวิว แล้วก็จากรายการทีวีบ้าง ร้านกาแฟติส ๆ ที่พักฮิป ๆ ผู้คนแต่งตัวกันหลากหลายเต็มถนนไปหมด ต่างจากที่เคยไปเห็นมาเมื่อหลายปีก่อนจนจำแทบไม่ได้ค่ะ คนชอบสเน่ห์แบบเดิม ๆ อาจจะไม่ชอบ แต่ก็จะมีคนกลุ่มอื่นที่ชื่นชอบเชียงคานในรูปแบบใหม่ค่ะ เดี๋ยวอีกหน่อยก็คงซา ๆ กันไปเองค่ะ จากคุณ : papa mama love u เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 11:39:15

ความคิดเห็นที่ 102 เราว่าอยู่ที่จิตสำนึกของคนเที่ยวมากกว่าค่ะ ข้อดีข้อเสียมันมีอยู่แล้วค่ะ อยู่ที่จิตสำนึกคือปัจจัยหลัก จากคุณ : MY PIDPEE เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 11:46:20

ความคิดเห็นที่ 103 ออกแบบการเดินทางท่องเที่ยวของตัวเองได้แล้ว ชาวอินดี้ปลอมๆทั้งหลาย จากคุณ : ก็นพนะ เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 11:54:01

ความคิดเห็นที่ 104 คนจะเยอะก็เฉพาะวันหยุด......คิดมากไปใย........มาแล้วก็ไป.....บ้านใครไม่ต้อนรับก็ติดป้ายเลยว่า.....บ้านส่วนตัวห้ามเข้า...... จากคุณ : ชักธง1 เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 11:58:52

ความคิดเห็นที่ 105 ...ผมผ่านไปครั้งเดียว... ...ก็ไม่เห็นจะมีอะไร มันเป็นกระแส ...ตามตลาดมากกว่า... ...เมืองอีกมากที่น่า เที่ยว... ...ตำบลเล็ก ๆ ที่เมือง กำแพงเพชร.. ...หรืออีกหลาย จว. มีบ้านไม้ชั้นเดียว ร่วมร้อยปี... ...มีวิถีชุมชน เรียบง่าย น่าดู น่าชม ... ...ลอง เป็นนักบุกเบิกดู ครับ สนุกและ คลาสสิค ครับ... ...ไม่ เฟค ด้วย.. จากคุณ : ซีมาสเตอร์ เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 12:00:14

ความคิดเห็นที่ 106 ในวงการท่องเที่ยวก็เคยคุยกันว่าที่ไหนคือ next pai เมื่อหลายปีก่อน และคาดกันว่า เชียงคาน ซึ่งก็เป็นเช่นนั้น ยิ่งดูข่าวช่วงปีใหม่ เห็นคนแออัดบนถนนเส้นเล็กๆ แล้วใจหาย คิดว่าไม่น่าเลย ถูกแล้ว ในวงการท่องเที่ยวย่อมสรรหาที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ วิเคราะห์ตามจริตคนเมือง คนมีกำลังทรัพย์ระดับต่างๆ คนมีเวลาเที่ยว 2-3 วันต่อสัปดาห์ การแข่งขันมันสูงมาก เพราะหากใครได้นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่ยังบริสุทธิ์ก่อนใคร ก็ถือว่าได้เปรียบ และยิ่งมีหน่วยงานรัฐช่วยโหนกระแส ผู้หลักผู้ใหญ่มาเปิดงาน บลา บลา หนังสือ บริษัท สมาคม นั้นก็ได้เม็ดเงินต่อยอด โปรโมทกันยกใหญ่ มันเป็นความจริงที่โหดร้าย และเคยเกิดขึ้นกับ อัมพวา ปาย เกาะต่างๆ ฯลฯ มาแล้ว ส่วนที่ที่ชุมชนมีวัฒนธรรมแข็งแกร่งอย่าง เชียงใหม่ ภูเก็ต หัวหิน หรือน่าน จะไม่มีความเปลี่ยนแปลงแบบถล่มทลายเหมือนเมืองเล็ก เพราะเขาจะปรับตัวรับการถาโถมได้ดี รวมทั้งปัจจัยการปกครองส่วนท้องถิ่น งบจัดการ พื้นที่กระจายความเจริญ ผู้นำชุมชน ฯลฯ แต่ผลกระทบเหล่านี้ก็มีความพยายามรณรงค์กันในเรื่องจิตสำนึกท่องเที่ยวกันมาตลอดนะคะ อย่างแคมเปญหลักปีนี้ของ ททท. คือ เที่ยวหัวใจใหม่ เมืองไทยยั่งยืน นั่นคือทำยังไงให้เที่ยวด้วยสำนึก กลมกลืน เข้าใจ แต่ไม่ไปเปลี่ยน ก็ต้องรอดูกิจกรรมในปีนี้ของ ททท. กันต่อไป ไม่มีใครอยากให้มี next chiang khan อีกหรอกค่ะ คงจะโทษการโปรโมทอย่างเดียวไม่ได้ ยังไงการท่องเที่ยวก็คือส่วนหนึ่งของชีวิต แต่เราต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีด้วยตัวเราเองด้วย จริงมั้ย ทั้งหมดคือความเห็นส่วนตัวค่ะ จากคุณ : RitaChiang เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 12:07:22

ความคิดเห็นที่ 107 เราว่าต่อจากเชียงคาน รายต่อไป น่าจะเป้น น่านนี่แหละ จากคุณ : Jobbyloves เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 12:10:51

ความคิดเห็นที่ 108 เชียงคาน เป็นที่เดียวมั้งที่มันฮิตแล้วเรายังไม่เคยไป คุณเชื่อสิ อีกไม่นาน จังหวัดน่าน ชมดอกภูคา สถานที่นี้จะเป็นรายต่อไป คอนเฟิร์มและฟันธง จากคุณ : แพรดาว เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 12:28:58

ความคิดเห็นที่ 109 ใจจริงแล้วอยากจะรีวิวนะ ว่าไปที่ไหนมาแล้วรู้สึกประทับใจอย่างไรบ้าง แต่พอนึกถึงสภาพที่มีคนไปเที่ยวเยอะๆ แล้วทำลายความสงบสุขของสถานที่ ที่เรารักและชอบนั้นแล้ว ขอไม่บอกดีกว่าค่ะ -"- จากคุณ : โจรดอกบ๊วย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 12:46:54

ความคิดเห็นที่ 110 คิดเหมือน คห.107 ว่าอีกไม่นานน่าจะเป็นน่าน จากคุณ : M (mmac01) เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 12:46:58

ความคิดเห็นที่ 111 ใช่ค่ะ คุณ คห.5 จากคุณ : ^CaRe..NaJang.^ เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 13:01:16

ความคิดเห็นที่ 112 โชคดีที่งานเราอิสระ ไปเที่ยวตอนไหนก็ได้ เที่ยวของเราคือพักผ่อนจริง ๆ เสียงมือถือนี่เงียบฉี่ แต่งตัวสบาย ๆ ขี่จักรยานเข้าไปในหมู่บ้าน ซื้อของกินท้องถิ่น เห็นเด็ก ๆ เรียงแถวกลับจากโรงเรียน รอยยิ้มของชาวบ้าน ดูเขาทำไร่ทำนา คุยนั่นคุยนี่ไป ค่ำ ๆ ออกตลาดเล็ก ๆ ใกล้ที่พัก ได้พบเจออะไรที่เป็นตัวตนของที่นั่นจริง ๆ ไม่ใช่ร้านกาแฟ ร้านขายของแบบอาร์ต ๆ ที่พักสีสดแสบตา ไม่มีคนมาแต่งตัวเดินอวดกัน จับจองมุมนั้นมุมนี้ถ่ายรูปแล้วรีบอัพลงเฟซบุ๊กอวดเพื่อน ๆ มีแต่ชาวบ้านทำมาหากิน ไม่มีถนนคนเดิน เพราะชาวบ้านเข้านอนแต่หัวค่ำ ได้นอนอ่านหนังสือบนระเบียงที่พัก บรรยากาศเงียบสงบสมเป็นชนบท ไม่ต้องเป็นแหล่งเที่ยวที่มีชื่อเสียงหรอก ที่ไหน ๆ ก็งดงามตามแบบของตัวเอง ถ้า "เที่ยวเป็น" จากคุณ : BAHAMAS เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 13:11:01

ความคิดเห็นที่ 113 เห็นด้วยค่ะจากบอร์ดนี้ต่อไปคงเป็นน่านแล้วละ  แต่จะบอกว่าถ้าคนในพื้นที่เข้าใจสภาพความเป็นไปพอเค้าหายเห่อเค้าก็ไปกันค่ะรักษาความเป็นตัวเองไว้ให้เยอะ...แต่ถ้าคนพื้นที่ปรับตัวเองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเต็มตัว(สร้างเกสท์เฮาส์ ร้านอาหาร) พอกระแสเริ่มซาคนก็จะเปลี่ยนที่ไปแล้วเราจะดึงความเป็นเชียงคานกลับมาไม่ได้ จากคุณ : napharat (napharat_a) เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 13:11:17

ความคิดเห็นที่ 114 ถูกต้องที่สุดค่ะ   เชียงคานเปลี่ยนแปลงมากมาย ก็อาจจะเป็นเพราะการเรียกร้องของนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบาย.......... ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวไหมคะ? ห้องนอนมีแอร์ไหมคะ? ห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่นไหมคะ? แล้วห้องเป็นยังไงบ้างคะ? จากคุณ : บ้านนู๋อยู่เชียงคาน (^CaRe..NaJang.^) เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 13:12:12