ความคิดเห็นที่ 1 เมืองซัปโปโร  เป็นเมืองหลวงของจังหวัดฮอกไกโด  ซึ่งจังหวัดฮอกไกโดนี้ ก็กินพื้นที่ทั้งหมดของเกาะฮอกไกโด จึงเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ด้วยขนาดถึง 83,453.57 km ว่าโดยตำแหน่งแห่งหนก็เป็นเกาะที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศ มีูมิอากาศหนาวเย็นเกือบทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาวอย่างนี้ อุณหูมิทั่วไปจะอยู่ที่ต่ำกว่า 0 จึงทำใหู้มิประเทศแทบนี้ถูกปกคลุมด้วยหิมะตลอดฤดูหนาว ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะต่อการจัดงานในเทศกาลฤดูหนาวงานเทศกาลหิมะซัปโปโร  เป็นงานเทศกาลประจำปีงานหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก และในรอบปีนี้ ก็จัดขึ้นเป็นปีที่ 62   ในตัวงานเทศกาลก็จะมีการประดับประดางานประติมากรรมหิมะขนาดใหญ่โตประมาณเท่าๆกับตึกแถว 3-4 คูหา ไปจนถึงงานขนาดเท่า 2-3 คนโอบ จัดแสดงไว้อย่างมากมาย แล้วก็มีส่วนการประกวดงานประติมากรรมหิมะจากนานาชาติ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 11:41:27

ความคิดเห็นที่ 2 แรกเริ่มเดิมที การปั้นตุ๊กตาหิมะเริ่มต้นขึ้นที่เมืองเล็กๆที่ชื่อว่าโอตารุ  ซึ่งเกิดจากความคิดของเด็กนักเรียน ตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 1935 แล้วจนกระทั่งในปี ค.ศ. 1950 อันเป็นช่วงภาวะฟื้นฟูหลังสงครามโลก สมาคมท่องเที่ยวซัปโปโร และคณะกรรมการเมืองซัปโปโรก็มีความเห็นว่า ควรจัดงานเทศกาลหิมะขึ้นเพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวซัปโปโรให้มากขึ้น จึงได้นำเอาไอเดียการปั้นหุ่นหิมะของเด็กๆจากโอตารุขึ้นมาเป็นรูปแบบ แล้วให้เหล่านักเรียน และได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานรถไฟจังหวัดซัปโปโรมาร่วมปั้นงานแสดง ในการจัดครั้งแรก มีงานปั้นหิมะแค่เพียง 6 ชิ้นเท่านั้น และนอกจากนั้น ยังมีการแสดงความบันเทิงอื่นๆ และมีการแข่งสุนัขลากเลื่อนอีกด้วย ในสมัยแรกๆของงานเทศกาล งานหิมะปั้นโดยมากก็เป็นงานฝีมือของเด็กๆทั้งสิ้น ความสูงของงานประติมากรรม โดยเฉลี่ยก็อยู่ที่ 3-4 เมตร จนกระทั่งในการจัดงานเทศกาลครั้งที่ 4 ได้มีกลุ่มนักเรียนโรงเรียนอาชีวะซัปโปโร ได้สร้างงานที่ชื่อว่า สู่สวรรค์  ขึ้น และงานนี้ก็กลายเป็นงานปั้นหิมะที่มีความโดดเด่นขึ้นมาทันทีด้วยความสูงของชิ้นงานถึง 15 เมตร และนี่ถือเป็นงานชิ้นแรกที่มีการใช้เครื่องจักรกลหนักในการช่วยสร้างงานประติมากรรม   แล้วในปีต่อๆมา ชาวบ้านและหน่วยงานห้างร้านต่างๆก็เริ่มร่วมลงมือปั้นงานหิมะออกแสดงมากขึ้นๆ จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1959 ผู้คนจากนอกเกาะฮอกไกโดก็เริ่มรู้จักและเริ่มมาท่องเที่ยวในช่วงงานเทศกาลหิมะเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1972 เมืองซัปโปโรได้เป็นเมืองเจ้าาพในการจัดโอลิมปิคฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับช่วงเวลาจัดงานเทศกาลหิมะซัปโปโร ครั้งที่ 23 และนั่นก็ทำให้ชาวโลกได้รู้จักงานเทศกาลหิมะของเมืองซัปโปโรดีมาก จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 11:43:19

ความคิดเห็นที่ 3 ในส่วนพื้นที่จัดแสดงงานแกะสลักน้ำแข็งที่ย่านซุซุกิโนะ  เริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1981 และพอถึงปี ค.ศ. 1983 งานแสดงงานแกะสลักน้ำแข็งนี้ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาลหิมะเมืองซัปโปโรไป ส่วนลานจัดแสดงที่สวนสาธารณะนากาชิมะนั้น ได้เข้าร่วมกับงานเทศกาลหิมะซัปโปโรนี้เพียง 3 ปีต่อเนื่องเท่านั้น คือตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 – ปี ค.ศ. 1992 เนื่องจากชิ้นงานที่นำมาจัดแสดงมีน้อยไม่สามารถสร้างแรงดึงดูดได้เพียงพอ   อีกด้านหนึ่ง หน่วยงานกองกำลังรักษาประเทศ ได้ร่วมสร้างงานปั้นหิมะที่สวนสาธารณะโอโดริ  มาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1955 แล้ว จนเมื่อปี ค.ศ. 1963 ที่กองกำลังรักษาประเทศมาโคมาไน  ได้เริ่มให้ใช้พื้นที่ และร่วมสร้างงานประติมากรรมหิมะขนาดใหญ่ออกแสดง เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลหิมะเมืองซัปโปโร แต่พอถึงปี ค.ศ. 2005 เพื่อเป็นไปตามการรักษาความมั่นคง ให้สอดคล้องกับแผนป้องกันการก่อการร้าย จึงยุติการให้ใช้พื้นที่หน่วยกองกำลังรักษาประเทศลงตั้งแต่ปีนั้น แต่ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากเหล่าอาสาสมัครจากหน่วยงานอื่นๆ จึงได้มีการเปิดใช้พื้นที่อื่นทดแทน สำหรับการเตรียมตัวจัดงานเทศกาลหิมะนั้น การวางแผนจะเริ่มกันตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี หน่วยงานห้างร้านที่มีความประสงค์จะร่วมออกแสดงผลงาน ต้องยื่นความจำนง แสดงแบบ รวมถึงการส่งต้นแบบต่อคณะกรรมการให้แล้วเสร็จก่อนเดือนธันวาคม เพื่อที่คณะกรรมการจัดงานจะได้คำนวณและจัดเตรียมหิมะให้เพียงพอต่อการใช้ ซึ่งต้องมีการรวบรวมหิมะจากพื้นที่ใกล้เคียงมาใช้ในการปั้นงานหิมะนี้ทุกปี   ในด้านการสร้างงานประติมากรรมหิมะนั้น จะเริ่มจากการนำก้อนหิมะอัดแน่นมีลักษณะเป็นบล็อกมาประกอบขึ้นเป็นโครงสร้างหลักก่อน แล้วจากนั้นจึงเริ่มเกลาโดยเครื่องมือให้เป็นรูปร่าง แล้วจึงค่อยโรยหิมะตกแต่งในรายละเอียดเป็นขั้นสุดท้าย ซึ่งระยะเวลาทั้งหมดในการสร้างจะใช้เวลาในช่วง 1 เดือนก่อนเริ่มเปิดงานเทศกาลหิมะ ซึ่งเจ้าของผลงานต้องคอยประคบประหงมชิ้นงานของตนให้ดี เพราะว่าสาพแวดล้อมที่อยู่กลางแจ้งไม่สามารถควบคุมได้ บางทีชิ้นงานอาจมีการละลายไปบ้าง เจ้าของผลงานก็ต้องคอยแต่งเสริมให้งานสมบูรณ์อยู่เสมอจนกว่าจะเริ่มต้นเปิดงานเทศกาล งานประติมากรรมเหล่านี้จะถูกแสดงอยู่ 1 สัปดาห์ แล้วจะถูกทุบทำลายไป กลายเป็นกองหิมะขนาดมหึมา แล้วค่อยๆละลายไปเมื่ออากาศอุ่นขึ้น จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 11:45:48

ความคิดเห็นที่ 4 ในปัจจุบันงานนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ถ้าหากอยากจะเดินเล่นชิว ชิว  เดินเรื่อยๆ ไปได้เลยที่ Odori Site บริเวณสวนสาธารณะโอโดริ ใจกลางเมืองซัปโปโร ชมรูปปั้นหิมะหลากหลายรูปทรง ขอแนะนำให้ฟิตร่างการไว้นิด เพราะถ้าหิมะตกละก็ หนาวมากกกกก ส่วนใครไม่แคร์ความหนาว อยากจะไปเล่นเลื่อนสไลด์ท่ามกลางความหนาวเย็น ขอเชิญที่ Tsudome Site ซึ่งน่าจะได้สะใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่ที่ดูจะได้ประโยชน์หลายต่อ ก็เห็นจะขอแนะนำให้ไปเดินเล่น ชมปฏิมากรรมน้ำแข็ง บนถนนช้อปปิ้งซูซูกิโนะ หรือบริเวณที่เรียกว่า Susukino Site เพราะชมไป ถ่ายรูปไป ยังเพลินไม่พอ ก็สามารถช้อปปิ้งได้แบบลืมหนาว ลืมเหนื่อยกันทีเดียว จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 11:47:13

ความคิดเห็นที่ 5 Hilight ของเทศกาลนี้อยู่ที่การแข่งขันแกะสลักน้ำแข็งนานาชาติ ที่มีผู้เข้าแข่งขันจากทั่วโลก เทศกาลหิมะครั้งล่าสุดที่เพิ่งผ่านมาหมาดๆ คนไทยสร้างเซอร์ไพร์สคว้าที่ 1 จากการแกะสลักน้ำแข็งเป็นรูป “ไกรทองและจระเข้” อันวิจิตรพิสดาร ท่ามกลางเควสชั่นตัวโตๆ ของผู้พบเห็นว่า “ประเทศไทยไม่มีหิมะตก แต่ทำไมช่างฝีมือไทย แกะสลักหิมะได้เฉียบขาดถึงขนาดนี้ การชนะครั้งนี้ไม่ใช่หนแรก แต่ถือเป็นชัยชนะครั้งที่ 3 ติดต่อกันในรอบ 3 ปี นับจากปี 2008 2009 และ 2010 ถือเป็นสถิติที่ดีที่สุด ไม่เคยมีชาติไหนทำได้มาก่อน แม้กระทั่งประเทศที่มีหิมะตก ทีมแกะสลักจากประเทศไทยมีสมาชิก 3 คน นำทีมโดย คุณกุศล บุญกอบส่งเสริม, คุณกฤษณะ วงศ์เทศ และคุณกฤษดา วงศ์เทศ ภายใต้การสนับสนุนของรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคุณชุมพล ศิลปอาชา และทีมผู้บริหาร ททท.คุณสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คุณสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ และคุณเบญจวรรณ สุเนตรวรกุล ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานโตเกียว คุณกุศล หัวหน้าทีมแกะสลักที่เล่าถึงเบื้องหลังชัยชนะว่า สมาชิกในทีมล้วนเคยผ่านการทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายศิลป์ ให้กับโรงแรมชั้นนำในกรุงเทพฯ มีประสบการณ์ด้านการแกะสลักน้ำแข็งมายาวนาน โดยเฉพาะคุณกุศลเองก็เป็นช่างแกะสลักน้ำแข็งมาแล้วร่วม 20 ปีแต่กับการแกะสลักหิมะจริงๆ ถือเป็นเรื่องใหม่เพราะเมืองไทยไม่มีหิมะ การเตรียมงานแต่ละครั้งจึงใช้เวลาเตรียมงานล่วงหน้า 1 ปีเต็ม ความลับอยู่ที่การขยันฝึกแกะสลักจากโฟมอยู่เป็นเดือนๆ เพื่อหาน้ำหนักมือที่พอเหมาะกับแกะสลักหิมะจริง “ในปี 2008 เราชนะได้รางวัลแกรนด์แชมเปี้ยน ผมแกะสลักเป็นรูปช้าง 3 เชือก พ่อ แม่ ลูก ที่สื่อถึงความเป็นไทยเรียกเสียงฮือฮา เพราะเหมือนช้างจริง ในปี 2009 เราแกะสลักหิมะเป็นรูปครุฑกับนาค ครั้งนี้ผู้ชมในงานก็ยิ่งทึ่ง วัดจากจำนวนผู้ชมมหาศาลที่เข้ามาเยี่ยมชมผลงานเพื่อถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก งานชิ้นนั้นก็คว้าแชมป์เปี้ยนได้” แน่นอนว่า ความยาก ความกดดัน จึงมาตกอยู่ที่ปีล่าสุด ที่ทีมไทยต้องรักษาแชมป์ไว้ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 11:53:24

ความคิดเห็นที่ 6 “ผมปรึกษากับคุณกฤษณะและกฤษดา ก็คิดถึงไกรทองกับจระเข้ นิทานพื้นบ้านของไทย เรื่องลักษณะนี้จะ Exotic ในสายตาชาวโลก พอสรุปว่าเป็นไกรทอง ก็ต้องเริ่มร่างแบบและเตรียมงานตั้งแต่กลับมาจากการแข่งขันปีที่แล้ว จุดที่ยากที่สุด  ก็คือ แบบที่เราคิดขึ้นต้องลงตัวกับขนาดก้อนหิมะที่กว้าง 3 เมตรคูณ 3 เมตร ตามกติกาของการแข่งขัน การจะให้อนาโตมีของไกรทองและจระเข้อยู่ในขนาดเท่านั้นได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่สำคัญมันต้องแกะออกมาได้จริงและบันลานซ์ เราต้องคำนวณทุกอย่างอย่างดีที่สุด เพราะพลาดแค่จุดเดียวก้อนหิมะทั้งก้อนจะถล่มทันที” คุณกุศล เล่าถึงความท้าทาย “ในวันแข่งขันจริง ตลอด 3 วันครึ่ง ก็เจอปัญหาหลายจุด ทั้งสภาพอากาศที่หนาวเย็นติดลบ การมุงดูของผู้ชมมืดฟ้ามัวดิน การถูกกดดันในฐานะแชมป์เก่า หรือการถูกถ่ายทำจากสถานีโทรทัศน์ช่อง NHK ที่ตั้งใจมาทำสกู๊ปเรื่องนี้แบบเรียลลิตี้ต่อเนื่องตั้งแต้ต้นจนจบ พวกเราจึงต้องอาศัยสมาธิอย่างแรงกล้า เพราะแบบไกรทองที่เราเตรียมมา จะต้องลำดับขั้นตอนการแกะอย่างรัดกุม งานทั้งตัวมีการต่อเนื่องกัน การทำอะไรก่อน-หลังแต่ละจุด ต้องละเอียดอ่อนที่สุด” จุดเด่นในรูปสลักหิมะไกรทองชิ้นนี้ คือ การแกะแบบทะลุทะลวงหิมะให้ออกมาเป็นปติมากรรมลอยตัว การเก็บรายละเอียดที่ประณีต เช่น เกล็ดจระเข้และกล้ามเนื้อของตัวไกรทอง ความประณีตดังกล่าวได้กลายเป็นความยากและเสน่ห์ที่ชนะใจกรรมการและนักท่องเที่ยวที่รอชมผลงาน รวมถึงคนไทยที่ได้มีโอกาสอยู่ในงานซัปโปโรที่ต่างร่วมกันประสานเสียงเชียร์ “Thailand – Thailand” กึกก้องในงาน ประกาศความภาคภูมิใจในฝีมือคนไทย ในวันนี้คุณกุศลและทีมงานได้วางแผนเตรียมสำหรับปีต่อไปแล้ว ที่จะหนีทีมผู้เข้าคู่แข่งจากประเทศที่มีหิมะตกไปอีกหลายช่วงตัว “เอาความยากเข้าสู้ เอาความประณีตเข้าประลอง” คุณกุศลเขาว่าอย่างนั้น แต่ทีมไทยจะแกะสลักเป็นรูปอะไรนั้นยังถูกปิดเป็นความลับ และพวกเขาหวังว่าจะได้รับแรงเชียร์จากพี่น้องชาวไทยในโอกาสต่อๆ ไป ขอย้ำคำชมจาก NHK อีกครั้งว่า “ประเทศไทยไม่มีหิมะตก แต่ทำไมช่างฝีมือไทย แกะสลักหิมะได้เฉียบขาดถึงขนาดนี้” เพื่อนๆ ที่มีแผนไปเที่ยวชมเทศกาลหิมะนี้อย่าลืมไปลุ้นกันนะว่า..ปีนี้ทีมไทยคว้าแชมป์นักแกะสลักหิมะ ได้อีกสักปีหรือเปล่านะครับ   ขอขอบคุณข้อมูล บทความและภาพ จาก http://www.marumura.com http://www.golivepaper.com http://www.google.com จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 11:54:34

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันข้อมูลดี ๆ ค่ะ จากคุณ : นาฬิกาโบราณ เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 12:21:45

ความคิดเห็นที่ 8 ^____^ จากคุณ : นั่งอมยิ้มริมระเบียง เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 12:31:41

ความคิดเห็นที่ 9 ไปซัปโปโรมาเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน ชอบเมืองทางเหนือเมืองนี้มากค่ะ ^^ แต่ว่าคราวนั้นที่ไป ไปถึงเร็วไปหน่อย ทุ่งดอกไม้ที่ฟุราโน่ยังไม่บาน อยากกลับไปอีกจังค่ะ แต่แฟนบอกว่า เอาไว้รวยก่อนค่อยเที่ยวซ้ำที่ - -" จากคุณ : Kissy Kiss เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 12:47:46

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นคนขี้หนาว แต่ก็อยากไปสโนว์เฟสซักปี จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 13:31:23

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณความรู้ดี ๆ ค่ะ จากคุณ : สวยด้วยแสง-แรงด้วยสี เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 14:05:19

ความคิดเห็นที่ 12 เริ่มจากจุดเล็กๆแต่ต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจ  กลายเป็นเทศกาลใหญ่แห่งหนึ่งของโลก   ... สมเป็นนคนญี่ปุ่นจริงๆค่ะ    อิจฉาในสิ่งที่เราไม่มีจริงๆเลย อยากไปสุดๆเลยค่ะ จากคุณ : ลอร่า อิงกัลส์ ~* เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 14:12:00

ความคิดเห็นที่ 13 น่าไปมากๆ ถึงเราจะเป็นคนไม่ชอบหนาวก็เถอะ งานนี้จะมีจัดช่วงเวลาประมาณนี้ของทุกปีใช่ไหมคะ จากคุณ : ZoSha เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 14:18:54

ความคิดเห็นที่ 14 คนไทยเก่งมากๆค่ะ จากคุณ : โอลีพ แม่น้องเซ้นต์ (olives) เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 14:23:32

ความคิดเห็นที่ 15 ตั้งใจจะไปงานนี้เหมือนกันเดินทางวันที่ 5 ก.พ. 54 ไม่รู้ว่าประเทศไทยตั้งอยู่ที่จุดไหน เค้าเริ่มแกะสลักกันแล้วหรอค่ะ? จากคุณ : กล่องเปล่า เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 15:11:04 A:125.25.75.204 X: TicketID:287195

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบคุณกล่องเปล่า *** ประเทศที่เข้าร่วม PEOPLE'S REPUBLIC OF CHINA,  DAEJEON METROPOLITAN CITY -KOREA , FINLAND, HAWAII, HONG KONG, INDONESIA, KOREA, NEW ZEALAND,NOVOSIBIRSK （RUSSIA）, LITUANIA, MALAYSIA, PORTLAND（U.S.A）, SINGAPORE, SWEDEN, THAILAND  และ  NETHERLANDS *** ระยะเวลาการแข่งขัน 5 - 10 กพ. 54 แต่เริ่มแข่งจริงๆ วันที่ 6 กพ.  ดังต่อไปนี้ 6 กพ.      10.00- 19.00 7 กพ.       9.00- 19.00 8 กพ.       9.00- 19.00 9 กพ.       9.00- 19.00 10 กพ.        ประกาศผล *** สถานที่แข่งขัน ณ International Square ที่  Odori site  (Nishi 11-chome, Odori) พอเป็นข้อมูลในการจัดทริปนะครับ แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 54 15:43:55 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 54 15:43:06 จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 15:41:42

ความคิดเห็นที่ 17 อยากไป อยากไป ขอบคุณครับ คุณติวเตอร์ตู่ จากคุณ : โต้คลื่น เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 15:49:38

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่เคยรู้ประวัติงานเลยค่ะ ปีก่อนไปเพราะอยากเห็นหิมะให้สะใจสักครั้งในชีวิต ได้ถ่ายรูปพี่ๆสามคนกับธงแชมเปี้ยนมาเหมือนภาพใน #5 เลยค่ะ ดูจากจังหวะภาพถ่ายแล้ว เดาว่าคนถ่ายรูปนี้ต้องยืนใกล้ๆกับเราตอนนั้นแน่ๆเลย ^^ คำถามที่ว่า ไทยไม่มีหิมะแล้วไปหัดแกะสลักหิมะยังไง เป็นคำถามที่สงสัยมาตั้งแต่ปีก่อนแล้ว เพิ่งได้มารู้คำตอบเอากระทู้นี้เอง ขอบคุณนะคะ จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 16:23:45

ความคิดเห็นที่ 19 เดี๋ยวปีนี้ไปจะเก็บรูปมาฝากนะคะ ^^ แต่ว่าอยู่ไม่ทันประกาศผลนี่สิ..เสียดายจัง จากคุณ : [หัวโต แก้มป่อง หน้าใส ใจร้าย] เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 17:24:28

ความคิดเห็นที่ 20 หนูเป็นคนขี้หนาว คงได้แต่เกาะกระทู้ดูรูปค่ะอาจารย์ตู่ ยกนิ้วให้กับทีมแกะสลักของไทย  พวกคุณเก่งมากค่ะ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:06:27

ความคิดเห็นที่ 21 ไปปี 2009 ดีใจที่ได้ไปแล้วได้เห็นผลงานที่สร้างขึ้นจากฝีมือคนไทย ครุฑกับนาค...สมกับการเป็นแชมป์เปี้ยนจริงๆค่ะ จากคุณ : อรยา (heyoki) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:11:34

ความคิดเห็นที่ 22 ผมไปวันที่ 12-13 กุมภา จะไปตามล่า ถ่ายรูปผลงานของคนไทยมาให้ได้ แล้วจะเอารูปมาแปะไว้ให้นะครับ (ไปญี่ปุ่นครั้งแรก และก็ไปเองด้วยครับ อาจจะใช้เวลาหานานหน่อย) แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 19:21:49 จากคุณ : Princeton เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 19:20:28

ความคิดเห็นที่ 23 อยากไปมาหลายปีละ ปีนี้ไม่พลาดแน่555 จากคุณ : medicee เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 19:56:45

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ จะไปเก็บรูปแกะสลักไทยชนะเลิศกลับมาฝากอีกปีนะค่ะ จากคุณ : Gopher เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 22:32:32