จากสถานการณ์ความตึงเครียดในประเทศอียิปต์ ได้มีการตามติดสถานการณ์กันมาตั้งแต่ต้น ซึ่งก่อนจะเกิดเหตุวิกฤตในวันศุกร์นั้น กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานงานกับสถานทูตไทย ณ.กรุงไคโร ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2554 ซึ่งเป็นวันแรก ที่มีสถานการณ์แล้ว
ประเทศอียิปต์แบ่งกลุ่มพลเมืองไทยที่อาศัยอยู่ที่นั้นได้ดังนี้
-นักเรียนไทยมุสลิม ศึกษาที่มหาวิทยาลัย ฮัล-ฮัรซา มหาวิทยาลัยศาสนาแห่งชาติอียิปต์
-นักเรียนไทยพุทธ โดยเป็นกลุ่มนักเรียนทุน ก.พ. ศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮัล-ฮัรซา และ American University in Cairo
-กลุ่มคนไทยใช้แรงงาน คือ กลุ่มโรงแรม สปา ร้านอาหาร ช่างเงิน ช่างทอง แม่บ้าน
-กลุ่มคนไทยสมรสกับชาวอียิปต์ และชาวต่างชาติโดยมีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศอียิปต์
-กลุ่มคนไทยรับราชการประจำที่กรุงไคโร
การแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นของกระทรวงการต่างประเทศ เริ่มทำการประสานงานตัวแทนนักเรียนไทย โดยมีสมาคมนักเรียนไทยณ.กรุงไคโร ในทันที เพื่อนับยอด แจ้งจำนวน ณ.ปัจจุบัน เนื่องจากจะมีนักเรียนไทยบางคนเตรียมเดินทางกลับมาจากเมืองไทย เพื่อเตรียมตัวสอบกลางภาคของปีการศึกษาที่นั้น นักเรียนไทยจะมีการรวมตัวกันอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นกลุ่มนักเรียนไทยมุสลิม ที่ศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮํล-ฮัรซา นั้นจะพักอยู่บริเวณเดียวกัน คือ ย่านกิซ่า ส่วนนักเรียนไทยพุทธ โดยเป็นนักเรียนทุน ก.พ.นั้น ทางสถานทูตไทยกรุงไคโร ได้รับการติดต่อในเบื้องต้น และไม่มีท่านใดมีความประสงค์ต้องการกลับเมืองไทย ณ.เวลานี้ ด้วยต้องการรอดูสถานการณ์ เพราะเป็นฤดูกาลสอบของปีการศึกษาที่นั้น
ส่วนสนามบินนานาชาติกรุงไคโร จะยังไม่มีการเปิดเที่ยวบินนะค่ะ สาเหตุที่มีข่าวออกมาเรื่องจะมีการเดินทางกลับของกลุ่มคนไทย 5คน นั้น โดยสายการบินอียิปต์แอร์ เที่ยวบินจากกรุงไคโร ตามเวลาที่นั้น 22.40 มาถึงประเทศไทยเวลา 12.15 นั้นยังไม่มีการเปิดเที่ยวบินแต่อย่างใด ส่วนเที่ยวบินอียิปต์แอร์จากกรุงเทพ เวลา 00.50 ที่สุวรรณภูมินั้น ก็ถูกยกเลิกโดยไม่มีกำหนดตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่าน เที่ยวบินสุดท้ายที่ลงสู่สนามบินไคโรนั้น เป็นสายการบินอียิปต์แอร์ จากกรุงมอสโค ประเทศรัสเซีย เป็นเที่ยวบินพาณิชย์เที่ยวสุดท้ายที่ลงจอด หลังจากนั้นสนามบินถูกปิด โดยมีเครื่องบินทหารเข้ามาคุมสถานการณ์ บริเวณที่จอดเครื่องบิน VIP และเครื่องบินเจ็ทเท่านั้น และคอยดูแลความปลอดภัย เพื่อลำเลียงผดส.ที่อยู่ในส่วนตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว ให้ขึ้นเครื่องที่ประเทศของตนติดต่อ เพื่อขอรับตัว จะไม่มีสายการบินของอียิปต์แอร์ให้บริการ ณ.เวลานี้
ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดการตื่นตระหนกเรื่องความปลอดภัยของคนไทย ที่ติดต่อในสนามบินนั้น การดูแลความปลอดภัย ณ.เวลานี้ เจ้าหน้าที่ทางสถานทูตไทยกรุงโคโร คอยดำเนินการให้ความช่วยเหลือ และล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศ ประสานงานสายการบินไทย เพื่อขอนุญาตทำการบินผ่านน่านฟ้าประเทศอียิปต์ ลงสู่สนามบินนานาชาติไคโร โดยจะสามารถขอลำเลียงรับคนไทยประมาณ 100 คน เท่านั้น กลุ่มคนที่ติดอยู่ที่สนามบิน เป็นคนไทยที่ไปท่องเที่ยวที่อียิปต์ และคนไทยที่ทำการเปลี่ยนเครื่องที่ไคโร เท่านั้น ส่วนคนไทยที่พำนักที่นั้น จำต้องอยู่ในเคหะสถาน ไม่สามาถออกมายังท้องถนนได้ ซึ่งเคอร์ฟิวอียิปต์จะเริ่มตั้งแต่ บ่าย 3 โมงเย็น จนถึง 8โมงเช้าของวันใหม่
กฎคอร์ฟิวประเทศอียิปต์มีไว้เพื่อ
-ตรวจค้นรถได้ตลอด 24 ชม.
-ตรวจค้นเคหะสถานได้ตลอด 24 ชม.
-จับกุมคนที่ออกนอกเคหะสถานได้ตลอด ช่วงเคอร์ฟิว เพื่อป้องกัน ผู้ฉวยโอกาสจะขโมยสิ่งของตามบ้านเรือน และร้านค้า
ทางเลือกอีกหนึ่งทาง
-รัฐบาลไทย โดยกระทรวงการต่างประเทศ สามารถจัดอพยพคนไทย ทางบก โดยใช้เส้นทางเลียบสนามบิน ออกนอกเมือง ไปยัง สนามบินโอฟีร่าชาร์ม เอลชีค เนื่องจากสนามบินโอฟีรา ชาร์ม เอลชีค เป็นสนามบินนานาชาติ ที่มีสายการบินพาณิชย์บินตรงมาเมืองชาร์ม เอล ชีค รวมทั้ง อียิปต์แอร์มีไฟทล์บินตรงจาก ไคโร ชาร์มเอล ชีค บาร์เซโลนา ดังนั้นสายการบินยุโรปสามารถประสานงานให้คนยุโรปพลเมืองของตนเอง ไปพร้อมกันที่ชาร์ม เอลชีค เพื่ออพยพออกนอกประเทศได้ ระยะเวลาเดินทางโดยทางบกไปยังชาร์ม เอลชีค ใช้เวลาประมาณ 4 ชม.
-ทางบกจากไคโรนั้น มีเส้นทางให้เลือกได้ดังนี้
ไคโร จอร์แดน โดยต้องข้ามจากเส้นทางบริเวณซานายส์ เมืองทาบา(TABA),เมือง อัล คาบา(Al Aqaba) เข้าเมืองบริเวณเมืองเพตรา แล้วเดินทางไปยังสนามบินจอรแดนได้
สถานการณ์ความตึงเครียด ยังไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนคลาย เรื่องสถานการณ์ทั้งหมดขอให้ติดตามกันวันต่อวัน
................................................