ความคิดเห็นที่ 1 เอ้ออ โพสต์ link voicetv ไม่ได้ ห้ามกันแบบนี้เลยเหรอ งั้นเอาเนื้อข่าวตามนี้ไปครับ Home> News> Thailand> เกาะช้างประกาศห้ามแอลกอฮอล์ เกาะช้างประกาศห้ามแอลกอฮอล์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ออกประกาศห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง รวมถึงอุทยานแห่งชาติ 3จังหวัดในภาคตะวันออกรวม 7แห่ง นายเฉลิม  กลิ่นนิ่มนวล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง  เปิดเผยว่า ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ออกประกาศห้ามมิให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทเข้าไป หรือจำหน่ายในเขตอุทยานแห่งชาติ ในภาคตะวันออกเขตจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด รวม 7แห่ง ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา – เขาวง อุทยานแห่งชาติเขาคิชกูฏ อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง จังหวัดตราด ทั้งนี้เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในเขตอุทยานแห่งชาติ ป้องกันการส่งเสียงดัง สร้างความเดือดร้อน รำคาญแก่นักท่องเที่ยวที่เข้าเที่ยวชม รวมทั้งสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทใน อุทยานแห่งชาติ หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504มาตรา 18  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวปฏิบัติตามประกาศฉบับดังกล่าวตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป Source : กรมประชาสัมพันธ์/flickr.com(Image) by VoiceNews จากคุณ : beinged เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 11:04:22

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม Pantip ถึงต้อง เซนเซอร์ voicetv แต่จะว่าไปเกาะช้างมันเกาะใหญ่ จะห้ามกันได้เร้ออออ ??? จากคุณ : คนลาดพร้าว71 เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 11:10:42

ความคิดเห็นที่ 3 คิดเหมือนกันครับว่าห้ามยาก ในทางปฏิบัติ ไม่รู้จะทำได้ขนาดไหน จากคุณ : beinged เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 11:18:03

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นด้วยอย่างยิ่งถ้าห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปได้จริง ๆ ทุกวันนี้ธรรมชาติที่เกาะช้างเสียหายไปเยอะ ครั้งล่าสุดที่ไปก็สองปีกว่าแล้ว เห็นรีสอร์ทเกิดใหม่เต็มไปหมด รถบรรทุกวิ่งขึ้นลงขนวัสดุก่อสร้างฝุ่นแดงเต็มถนน นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ไปเยือน แล้วยังไม่เคยกลับไปอีกเลย มันเจริญเกินไปจนไม่น่าไปเที่ยวเสียแล้ว จากคุณ : arrissat เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 11:34:25

ความคิดเห็นที่ 5 ผมก็ไม่ดื่ม เลยโชคดีไป จากคุณ : napatn เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 11:53:55

ความคิดเห็นที่ 6 ห้ามคนไปเที่ยวนำแอลกอฮอร์เข้าเกาะ แล้วผู้ประกอบการบนเกาะขายได้ไหม ถ้าห้ามผู้ประกอบการขายด้วย แล้วคนที่อยู่อาศัยบนเกาะละ ถ้าเค้ารู้ว่ามันไม่มีขายจะมีคนหัวใสแอบเอามาขายแพงๆๆไหม ใครจะไปคอยตามไล่จับ จะเกิดปัญหาใหม่อีกไหมอะ จากคุณ : ลูกโป่งชมพู เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 12:20:13

ความคิดเห็นที่ 7 ผมเลือก 1 ครับ ผมเป็นคนชอบนั่งดื่มกับแฟน หรือกับเพื่อน แต่จะไม่โวยวายรบกวนผู้อื่น ผมก็ยังนึกไม่ออกว่า การที่ผมดื่มเป็นการส่วนตัว ไม่รบกวนใคร มันมีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมตรงไหน ดีชั่วอยู่ที่ตัวคน ไม่ได้อยู่ที่แอลกอฮอล์ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 12:51:37

ความคิดเห็นที่ 8 ห้าม ก็มีการประกาศกันออกไป และติดป้ายให้เห็น ! แต่แล้ว...ในความเป็นจริง ผมไม่เคยเห็น จนท. มาตรวจที่รถกันเลย ว่าในรถมีเหล้าพกพา เข้าไปด้วยรึปล่าว ปีใหม่ ผมไปเที่ยวทาง จ.กาญจนบุรี ได้แวะเข้าไปเดินเล่นหลายจุด เช่น - อช.น้ำตกไทรโยคใหญ่ ตรงที่จ่ายค่าธรรมเนียม ก็มีป้ายผ้าเบ่อเร่อเชียว ว่าห้ามนำสุราเข้าไป แล้วไง....ไม่เห็นจะมาตรวจรถของผมเลย (ไม่ได้หมายความว่า ในรถผมมีเหล้านะ) - ป้อมปี่ ก็เป็นที่แวะพัก กางเต้นท์ในเขต อช.เขื่อนเขาแหลม ป้ายก็มีอีก จนท. ก็ปล่อยให้ผ่านตามปรกติๆ ผมเดินเล่น ณ ตรงนี้ จนท. ก็เดินเก็บกวาดจำพวกขวดเบียร์ กระป๋องเบียร์ และขวดโซดาวันเวย์ แล้วเอาไปทิ้งถังขยะ นโยบายมี แต่ด้านการปฏิบัติ มันจะแย้งกัน สรุปแล้ว มันช่วยอะไรกันได้บ้างครับ นี่แหละ....คือของจริง จากคุณ : Greenapple1 เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 13:18:52

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเป็นเพื่อนจขกท.ครับ รู้สึกดีที่หลายคนยังคิดจะไปเกาะช้างแม้จะเป็นเขตปลอดแอลกอฮอล์ครับ ประเด็นของผมไม่ใช่ว่าควรให้ปลอดเหล้าหรือไม่ครับ เพราะมันควรอยู่แล้ว แต่ผมแค่อยากแชร์ความคิดว่านโยบายนี้จะมีผลกระทบต่อธุรกิจและจำนวนคนที่เข้าไปในเกาะช้างแน่ๆ....ถ้าทำได้จริง นักท่องเที่ยวที่ไม่ไปเพราะไม่ให้กินเหล้านั้นคงมีบ้างแต่คงไม่มากเท่าไหร่(ดูจากผลโหวต) แต่ส่วนที่จะหายไปหลักๆเลยก็คืองานจัดเลี้ยงครับ จัดเลี้ยงสมาคมบ้าง จัดเลี้ยงบริษัทบ้าง งานแบบนี้ไปกันทีเป็นร้อยคน  เรียกว่ามากันทีพักแทบเต็มความจุของโรงแรมเลย ทั้งกินทั้งนอนในโรงแรม ได้เงินเยอะอยู่ ว่ากันตามตรง งานเลี้ยงกับแอลกอฮอล์นั้นเป็นของคู่กันครับ ไม่ให้มีแอลกอฮอล์ เค้าก็คงไปจัดงานกันที่อื่น ซี่งผมเชื่อรวมๆกันแต่ละปีก็คงเป็นพันคนอยู่ นอกจากนี้ยังมีพวกที่มาเพื่อกิจกรรมแบบในคลิปด้วย ที่จะหายไป อย่างไรก็ตาม อุทยานแห่งชาติ ก็ไม่ใช่ที่ที่จะไปกินเหล้าปาร์ตี้กันอยู่แล้ว และถ้าห้ามมีแอลกอฮอล์รับรองว่าสิ่งแวดล้อมต้องดีขึ้นแน่ๆ จากคุณ : Chef_vee เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 13:59:01

ความคิดเห็นที่ 10 ปิดไปเลยดีกว่าครับ อุทยานแห่งชาติเนี่ย ไม่ต้องให้คนเข้าไปหรอก ป่าอยู่ส่วนป่า คนอยู่ส่วนคน ผมคิดว่าธรรมชาติมันก็อยากอยู่สงบๆของมันเหมือนกัน ถึงคนไม่กินเหล้าเข้าไป ยังไงก็รบกวนธรรมชาติอยู่ดีไม่มากก็น้อย นี่ถ้าธรรมชาติมันออกกฎห้ามคนเข้ามาเที่ยวได้ ผมว่ามันคงออกกฎมานานแล้ว คนมองแอลกอฮอล์น่ารังเกียจยังไง ธรรมชาติก็คงรู้สึกรังเกียจมนุษย์ได้ไม่ต่างกัน แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 54 16:53:06 จากคุณ : เสียงประชดจากคนขี้เมา (budja) เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 16:47:11

ความคิดเห็นที่ 11 . โรงแรม รีสอร์ทต่างๆ ร้านสะดวกซื้อ บาร์ต่างๆในพื้นที่ คงจะต้องเลิกขาย เหล้า ไวน์ เบียร์ ค็อกเทล กันเลย สงสัยต้องขายแต่เครื่องดื่มที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เท่านั้น   "ทั้งนี้เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในเขตอุทยานแห่งชาติ ป้องกันการส่งเสียงดัง สร้างความเดือดร้อน รำคาญแก่นักท่องเที่ยวที่เข้าเที่ยวชม รวมทั้งสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทใน อุทยานแห่งชาติ หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504มาตรา 18  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" . . ทำไม ไม่จำกัดพื้นที่ในการดื่มสุรา  เอาหละครับ ให้สามารถดื่ม เป็นแต่ละสถานที่ เช่นในเคหะสถาน หรือ ในร้าน สถานที่ ที่มีใบประกอบ และได้รับอนุญาตจำหน่ายสุรา เท่านั้น แต่ไม่อนุญาตให้ดื่มสุราในพื้นที่สาธารณะอย่างเด็ดขาด มีบทโทษเป็นบุคคลที่ฝ่าฝืน และประเภทดื่มแล้ว ไปสร้างความเดือดร้อน ส่งเสียงดัง โวยวาย หรือก่อความรำคาญ ทำความเสียหายแก่ผู้อื่น จากการดื่มแอลกอฮอล์ ให้หนักๆ และจริงจัง น่าจะเป็นเป็นทางออกที่ดีกว่าไหมครับ จากคุณ : เจ้าชายแวมไพร์ เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 19:08:28

ความคิดเห็นที่ 12 คนออกนี้ก็แค่หาเสียง....... จากคุณ : ชักธง1 เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 19:20:10

ความคิดเห็นที่ 13 มองได้หลายมุมอะครับ เรื่องแบบนี้ ไม่มีอะไรที่มันถูกและสมบูรณ์ไป 100 % ทุกอย่าง เราเข้าใจว่าการออกกฎนี้มาก็เหมือนการหักดิบ เพราะรู้ว่าถ้าออกบทลงโทษพวกคนที่สร้างความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่ก็อาจดูแลไม่ทั่วถึง หรืออาจมีการเพิกเฉยเมื่อเจอพวกมีเส้น ก็เลยจำเป็นต้องขุดรากกัน กฎนี้ดีต่อคนอื่น ยกเว้นพวกที่ไม่มีจิตสำนึก 1. ลดการทะเลาะวิวาท - พวกนี้เหล้าเข้าปากแล้วพาล โหวกเหวกโวยวาย ร้องคาราโอเกะเสียงดัง 2. ลดอุบัติเหตุ - เมาเละกันตั้งแต่ยังไม่ถึงที่เที่ยว ทั้งคนขับและคนนั่ง พอถรถจอดพักขวดเหล้าก็ไหลพรวดออกจากรถ 3. ลดขยะในอุทยานแห่งชาติ - คนพวกนี้ทิ้งตามใจตู อยากทิ้งก็ทิ้ง มันคงคิดว่าปล่อยเสือ ปล่อยสิงห์เข้าป่า กฎนี้ไม่ดี ต่อคนที่มีจิตสำนึก 1. ทำให้การเที่ยวขาดสีสันไปบางส่วน - คนพวกนี้กินแบบรู้ตัวเอง ไม่ต้องการให้เมามาก แค่เอาบรรยากาศสนุกสนาน คลายเครียด พอมาชั่งๆน้ำหนักดูแล้ว ก็คิดว่ากฎนี้มันน่าจะเป็นผลดีมากกว่า โดยเฉพาะต่อสิ่งแวดล้อมและผู้คนรอบข้าง โดยการจำกัดและกำจัดพวกนักท่องเที่ยวที่ไร้คุณภาพออกไปจากระบบ ลองคิดกันเล่นๆว่า ถ้าคุณไปเจอพวกไร้จิตสำนึกเข้า เช่น ขับรถปาดซ้ายปาดขวา  ข้างห้องร้องคาราโอเกะเสียงดังตอนที่คุณนอน  เดินๆอยู่ริมทะเลแล้วโดนเศษแก้วที่พวกนี้ทิ้งไว้บาดเท้า  เจอคนไร้จิตสำนึกหยิบปะการังขึ้นมาถ่ายรูปเล่น  คุณจะทำยังไง ? ถ้าเป็นเรา เราขอไปเที่ยวแบบไม่มีแอลกอฮอล์ แต่เราได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย เที่ยวอย่างสบายใจ สิ่งแวดล้อมไม่โดนทำลายดีกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 54 00:39:53 แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 54 00:34:43 จากคุณ : เล็กพัดลม เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 00:32:51

ความคิดเห็นที่ 14 เช้าวันนี้ 20 กุมภาพันธ์มาเช็คผลปรากฎว่าคนเลือกที่จะยังไปเที่ยวอยู่มีอยู่ประมาณ 90 เปอร์เซนต์ ชอบที่คุณเล็กพัดลมบอกว่า "ถ้าชั่งน้ำหนักดูแล้ว กฎนี้น่าจะเป็นผลดีโดยรวมมากกว่า" ผมว่านั่นคืดสิ่งที่ควรจะมอง (ต่อให้ในทางปฏิบัติจริงๆแล้ว น่าจะมีปัญหาในการบังคับใช้ และอาจเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตได้) ผมก็มั่นใจว่า มันมี effect แน่ เช่นเดียวกับ Chef Vee แต่สิ่งที่เราต้องการวัดคือ ปริมาณของ effect มากกว่า (ผมคิดว่า 10 เปอร์เซ็นต์  Chef Vee คิดว่า 50 เปอร์เซ็นต์) แต่อย่างที่บอกข้างบนคือ กลุ่มคนที่มาโหวตนี้คงไม่ได้นับรวมจำนวนคนที่เดินทางไปเพราะตั้งใจไปจัดเลี้ยงสังสรรค์ อีกอย่างหนึ่งที่ควรจะถือเป็นบทสรุปสำหรับผลโหวตนี้ คือ เราอาจจะนับไม่ได้จริงๆว่า มีนักท่องเที่ยวที่ตัดสินใจไม่ไปจริงๆ แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ เพราะผมมั่นใจว่าประชากรใน blueplanet ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างที่สามารถเป็นตัวแทนของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่ไปเที่ยวเกาะช้างได้ แต่เป็นแค่จำนวนนึงเท่านั้น อย่างไรก็ตามขอบคุณสำหรับหลายๆความเห็นอันแตกต่างกันครับ จากคุณ : beinged เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 08:53:30

ความคิดเห็นที่ 15 ก็ีดีนะเราว่า เพราะคนบ้างพวกแค่เปลี่ยนที่กินเหล้า ไม่ได้คิดจะไปเที่ยวหรอก จากคุณ : ทะเลตะวัน เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 10:04:05

ความคิดเห็นที่ 16 เดี๋ยววววว ช้าก่อน !!!!! เกาะช้างไม่ได้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติทั้งเกาะนี่ครับ เพราะมีทั้งพื้นที่ที่เป็นที่ดินของชาวบ้าน รีสอร์ท ชุมชน ร้านค้า ส่วนพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติ เป็นเพียงแค่บางส่วนของพื้นที่เกาะช้างเท่านั้นนี่ครับ ที่ประกาศห้าม น่าจะห้ามเฉพาะในเขตอุทยานแห่งชาตินะครับ ส่วนพื้นที่อื่นๆ กรมอุทยานไม่มีอำนาจไปประกาศห้ามครับ ถ้าจะประกาศห้ามทั้งเกาะช้าง ต้องให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือ อบต. เป็นผู้ออกกฎห้ามครับ ไม่ใช่อุทยานแห่งชาติเป็นคนออกกฎ ตามหลัก กม. คือแบบนี้ครับ ดังนั้น ใครจะเอาเหล้าเบียร์ ขึ้นเกาะช้าง แต่ไม่ได้เข้าไปในเขตอุทยาน ก็ขึ้นได้ไม่มีปัญหาครับ เข้าใจให้ถูกต้องด้วยครับ จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 19:00:06

ความคิดเห็นที่ 17 จะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวคนดื่ม เบื่อมาก พวกที่"ย้ายที่กินเหล้า"แล้วเรียกตัวเองว่า"นักท่องเที่ยว" ปล. นึกว่าอุทยานแห่งชาติห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้วซะอีก จากคุณ : 24 frame per second เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:22:33

ความคิดเห็นที่ 18 พื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้างคือพื้นที่ทั้งหมดครับ http://www.dnp.go.th/paro2/B2%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4/%E0%B8%AD%E0%B8%8A%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87/%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87.html จากคุณ : beinged เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 22:46:25