ความคิดเห็นที่ 1 หน้าวัดศรีคุนเมือง ไม่นานคงเต็มไปด้วยตลาดนัดแผงลอยหน้าวัด จากคุณ : ~YoKoSo~ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 02:08:19

ความคิดเห็นที่ 2 ภาพประกอบ จากคุณ : ~YoKoSo~ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 02:14:16

ความคิดเห็นที่ 3 ต่างคนต่างมอง ต่างคนต่างความคิด มองได้หลายมุม แล้วแต่จะมอง จากคุณ : PiGsPy เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 02:18:30

ความคิดเห็นที่ 4 ต่างคนต่างมอง ต่างคนต่างความคิดมองได้หลายมุมแล้วแต่จะมอง แล้วตอนนี้ ทุกคนมอง และ คิด ที่อยากจะให้เป็นเชียงคานเป็นแบบไหนล่ะค่ะ? ลงรูปประกอบไม่ได้อะคะ อ่านได้จาก link ด้านบนเลยนะคะ ขอบคุณคะ จากคุณ : ~YoKoSo~ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 02:27:31

ความคิดเห็นที่ 5 น่าเสียดาย... ผมไปไม่ทันเชียงคานยุคดั้งเดิมซะแล้ว อีกหน่อยคงหนีไม่พ้นloopเดิมๆ เหมือน"ปายโมเดล" ดีหน่อยที่ชาวบ้านที่นี่ค่อนข้างเข้มแข็ง(รึเปล่า?) เครดิตรูปประกอบจากเว็บต้นเรื่องครับ จากคุณ : สมาชิกคนที่หนึ่งล้าน เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 02:31:13

ความคิดเห็นที่ 6 คนที่เขียนบล๊อคนั้น  เขาไปเที่ยว(ไปช่วยทำลายเชียงคาน) หรือว่าตั้งใจจะไปถ่ายรูปจับผิด เพื่อมาประจาน ตัวเองก็เป็นหนึ่งใน ผู้ก่อการ ทำร้ายเชียงคานแท้ ๆ แต่ ความผิดของตัว ไม่เคยมองเห็น ทำมาเป็นประจานคนอื่น ถ้า ไม่มีใครไปเที่ยว ไม่มีใครเห่อไปแล้วถ่ายรูปเอามาโพส จนคนอื่น ๆ ก็อยากจะไปมั่ง สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ มันก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ผมคิดแค่ว่า  อยากให้ "รับมือ" กับการเปลี่ยนแปลงให้ได้ มากกว่า ที่จะ "สต๊าฟ" อะไรไว้ ให้เหมือนเดิมทุกอย่าง ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ถ้าอยากจะให้อะไรเหมือนเดิม ๆ เป๊ะ ๆ ขอให้ เริ่มจากตัวคุณเองซะก่อน อย่าไปบอกว่า เชียงคานไม่ควรเปลี่ยนแปลง แต่บ้านฉัน อยากให้ดูดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง หมายเหตุ  นี่เป็นความคิดส่วนตัว บนบอร์ดสาธารณะ หากไม่ถูกใจใคร ยินดีรับฟังคำด่า จากคุณ : วอนโดนด่า แต่ไม่แคร์เวิล์ด (นายบราวน์) เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 02:34:30

ความคิดเห็นที่ 7 และแล้วเชียงคานก็กลายเป็นตลาดนัดธรรมดาๆ ที่แอบทำตัวติสๆ หน่อยเท่านั้นเอง จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 02:36:04

ความคิดเห็นที่ 8 เชียงคานเปลี่ยนไปมากๆครับ   แต่ก่อนผมมีบ้านอยู่หลังหนึ่ง  เวลาหน้าหนาวชอบไปพัก  ปกติมีคนงานดูแลอยู่ ตอนหลังแม่ให้ขายไป  ตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นที่พักแล้ว  ใครๆไปก็คงต้องเดินผ่าน   ถึงตอนนี้ไม่เสียใจเลยที่ขายไป  เชียงคานรุ่นเก่าดีและสงบมากมาย  ไม่รู้จะหาคำบรรยายถึงบรรยากาศสมัยเก่ายังไง สมัยนี้เชียงคานคงเป็นได้แค่เมืองเก่า ไว้ตากอากาศของคนกรุงเท่านั้นเอง จากคุณ : Ntyu เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 03:07:03

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นเค้าฮิตกันไปเที่ยวช่วงเทศกาลเชียง คานแทบแตก (เค้าว่างั้น) เลยอยากรู้ว่ามีไรทำไมฮิตกัน ปรากฎว่า ตอนนี้กำลังก่อสร้างกันใหญ่ ก็พอจะนึกออกนะว่าแต่ก่อนมันเป็นยังไง แต่เราไปมาแล้ว บอกได้คำเดียว มันเลย เวลาที่มันสงบน่าพักมาแล้ว เหมือนปาย เด๊ะ จากตอนแรกกะไปพักสองคืน จริงๆ ไปถึงเย็นพักคืนนึงพรุ่งนี้เช้าก็ไม่รู้จะทำไร ไปดีก่า จากคุณ : ขาวฟู เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 04:02:05

ความคิดเห็นที่ 10 ตามไปอ่าน และดูภาพครบถ้วนแล้วค่ะ น่าเสียดายจริงๆ เหมือนไปไหนไม่พ้นตลาดนัด และสถานบันเทิง จากคุณ : ลำเนา เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 04:31:25

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับจขกท.100 % ไร้ระเบียบและจิตสำนึกโดยสิ้นเชิง จากคุณ : ลุงเชย เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 05:56:46 A:110.168.19.113 X: TicketID:247703

ความคิดเห็นที่ 12 ประเทศไทยไปที่ไหน ทำไมต้องมีแต่ตลาดนัด ร้านขายของ ถนนคนเดิน จากคุณ : สวยตั้งแต่เกิด เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 09:56:47

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าชุมชนหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ เปลี่ยนแปลงไปเพราะคนในชุมชนเอง คุณคิดอย่างไร? จากคุณ : Marcopy เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 10:42:33

ความคิดเห็นที่ 14 เท่าที่อ่านดู คิดว่าเป็นคนในพื้นที่โพ๊สนะครับ กลไก หรือคนเที่ยวแบบนี้มีมาเรื่ิอยๆครับ  ผมมองว่าละครเรื่องนี้เดี๋ยวก็จบ...........บ๊าย บายเชียงคาน ปล.บ้านผมอยู่เชียงคานครับ จากคุณ : sig_kha เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 11:34:03

ความคิดเห็นที่ 15 บทอวสานของแหล่งเที่ยวทุกที่ ในเมืองไทย......... เริ่มหน้าแรกของมันแล้วที่เชียงคาน จากคุณ : คนซอย 8 (HUNNALL) เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 11:56:35

ความคิดเห็นที่ 16 #6 ไม่ลองตามไปดูกระทู้ต้นเรื่องหน่อยหรือครับ ดูว่าเขาโพสลงเว็บอะไร แล้วเขาเขียนว่าอะไรบ้าง เท่าที่ผมอ่าน ผมเข้าใจว่า จขกท. ต้นเรื่อง เป็นคนพื้นที่นะครับ และต้องการโพสเพื่อให้บ้านของเขากลับสู่สภาพเดิมที่ควรเป็น ไม่งั้นอาจจะเหมือนบางที่ ที่คนพื้นที่ต้องจรลี มีแต่คนต่างถิ่นย้ายเข้ามากอบโกย จากคุณ : ปั๊ปโปะจัง เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 12:09:27

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องทุกเรื่องในโลกใบนี้มันเป็น Demand > Supply เมื่อมีความต้องการมากก็ย่อมเป็นธรรมดาที่จะต้องตอบสนองความต้องการที่ยังขาดอยู่ เมื่อวันหยุดยาวที่ผ่านมาผมก็ไปเชียงคานเหมือนกัน ถามว่าประทับใจมั๊ยคำตอบที่ได้ัคือไม่มี เสียความรู้สึกตั้งแต่เริ่มจองที่พักล่วงหน้ากว่า 2 สัปดาห์ ยากเสียยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรสุดท้ายได้ที่พักกับร้านที่มีชื่อเสียงร้านหนึ่ง แต่ผมโอนเงินไปช้าเนื่องจากติดธุระประกอบกับหลงๆลืมๆบ้าง แต่ก็โอนเงินไปให้ก่อนวันเดินทาง 1 วัน ที่พักโทรมาแจ้งว่ายกเลิกการจองเพราะโอนเงินช้า ก่อนหน้าก็ไม่มีการติดต่อใดจากที่พัก ไปๆมาๆคุณแฟนโทรไปเหวี่ยงเพราะเวลาแบบนี้จะหาที่พักที่ไหนได้ แต่ยังดีที่พักเดิมยังหาที่พักใหม่ให้ พูดมาซะนานเอาอย่างนี้ ถ้าคนไปเที่ยว เที่ยวแบบมีจิตสำนึก ไม่เรียกร้องความสะดวกสบาย ไม่ต้องแห่กันไปตามกระแส  คนในพื้นที่ไม่ตอบสนองความต้องการของคนที่เข้ามา ทุกอย่างมันก็ยังดำเนินไปตามวิถีชิวิตเดิม นักท่องเที่ยวที่ขาดจิตสำนึกนั่นแหละที่เป็นผู้ทำลายวิถีชิวิตเดิม ฝากถึงนักท่องเที่ยว ถามตัวคุณดูว่า "คุณต้องการสัมผัสกับธรรมชาติ วิถีชิวิต ความเป็นอยู่ วัฒนธรรม จิตใจของผู้คน หรือ ภาพถ่ายมุมมหาชน ภาพถ่ายที่เราก็มีเหมือนคนอื่นๆ ต้องแข่งกันว่าเราไปมาก่อนใครๆ เราอินเทรนด์ " หยุด พฤติกรรมการเป็นฝูงตั๊กแตน แล้วค่อยๆเดินทางไปไม่ต้องแข่งว่าใครไปมาก่อนเรา แล้วทุกอย่างจะเข้าสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน จากคุณ : รถด่วนในปล้องไผ่ (รถด่วนในปล้องไผ่) เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 12:10:30

ความคิดเห็นที่ 18 ปัญหาแบบนี้คงแก้ยากนะครับ เพราะคนพวกนี้มักจะเอาประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง เอาง่ายๆ ที่ตรงสยามสแควร์ขนาดเจ้าของที่เค้ามาไล่พวกแผงลอย พวกนี้ยังไม่ยอมไปเลยกลายเป็นว่าทางเท้ามีไว้ให้คนตั้งแผงลอย ส่วนคนที่ไม่อยากดูของถ้าอยากเดินเร็วๆ ก็ต้องไปเดินบนถนน ส่วนคนขับรถบนถนน ก็ต้องเจียดถนนให้คนมาเดินหลบแผงลอย นับประสาอะไรกับที่สาธารณะ ที่ยังไม่มีใครจับจองแบบนี้ ถ้าไม่ใช้ไม่แข็งแบบชูวิทย์เคยทำ คือเอาทหารมาไล่ เอารถมาบด  ทำยังไงก็คงไม่ยอมไปหรอกครับ ปล ผมเป็นพวกนายทุนใจร้าย ไม่เคยคิดจะเข้าใจความลำบากของคนหาเช้ากินค่ำ โดยการเบียดเบียนคนอื่นหรอกครับ ปล2 เชียงคานยังไม่เคยไป สงสัยคงไม่ต้องไปแล้ว แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 54 12:35:50 จากคุณ : น้ำค้างในยามเช้า เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 12:11:18

ความคิดเห็นที่ 19 ตลอดวัน..ที่ผมเดินสำรวจ ไม่มีแบบนั้นนะ.. ร้านขายของหน้าวัดที่เห็น เค้าจะตั้งเฉพาะตอนเย็นนะครับ.. วันที่ผมไปมีการแสดงของเด็กชาวบ้าน หาเงินรายได้เข้าวัดด้วยนะ.. ผมรอจนตลาดปิด..เดินไปเรื่อย..บ้านช่องปิดไฟ เงียบ เรียบร้อย ถนนหนทาง เก็บกวาดเป็นระเบียบ.. ไม่มีบาร์เบียร์  คาราโอเกะ  ส่งเสียบรบกวนกันสนั่นเมือง ผมว่าเชียงคาน ก็ยังเป็นสถานที่ๆ น่าท่องเที่ยวนะ น้ำจิต น้ำใจ คนที่นี่ดีมากครับ จากที่ผมเจอนะ.. เช้า..ก็จะมีร้านค้าขายอาหารหน้าบ้าน.. พอสายๆ ก็เก็บกวาดเรียบร้อยเช่นเดิม ผมก็ว่า โอ.เค. นะครับ จากคุณ : ตะวันลับฟ้า เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 12:13:29

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่เอาดีกว่า ตอนนี้ได้ยินชื่อ เมิอง สบายๆ หรือเปล่าคะ ที่จังหวัดลำพูนเป็นที่นำร่อง ประมาณว่าเที่ยวแบบสงบ คือ เราว่ามันเหมือนอัมพวาไปแล้ว ส่วนตัวเรานะ ไปเที่ยวก็ได้นะ เพราะเราอยากไปเหมือนกัน แต่คือ เราก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองดียังไง แต่ก็คิดว่าน่าจะมีจิตสำนึกบ้าง เพราะเราไปอัมพวา สองครั้ง เจอสองครั้งเลย คือ มีกลุ่มเด็กๆ (มหาลัย )เราก็เรียนอยู่มหาลัยนะ แต่น่าจะเด็กกว่าเรา มากันเป็นกลุ่ม 7-8 คน แต่เราไปทำรายงาน สองครั้งเลย คือระหว่างที่นั่งเรือไป (ชมหิ่งห้อย) เค้าก็บ่นว่ายุงกัด ร้อน แมงเยอะ (อันนี้ก็พอเข้าใจ) แล้วถามพี่ขับเรือว่า ไม่เห็นมี 7-11 เลยแถวนี้ แล้วถ้าหิวหล่ะ ให้ทำไง พี่เค้าก็บอกว่า ลองหาที่รีสอร์ทไหม มันน่าจะมี (เค้านอนรีสอร์ทโฮมสเตย์ อยู่แบบเดี่ยวๆกันเลย ส่วนเรานอนกะชาวบ้านค่ะ แต่พอดีดวงสมพงศ์ ต้องมานั่งเรือลำเดียวกัน) เค้าบอกว่าไม่มี ที่นี่แปลกจัง ไม่มี 7-11 คนอยู่กันยังไง อดตายพอดี แล้วบอกว่า "พี่ไม่ต้องห่วงนะคะ เด๊ยวหนูให้แม่มาเปิดที่นี่ พี่จะได้สบายๆเหมือนคนกรุงเทพแล้ว ไม่ต้องลำบาก" แป่วๆๆๆ!!!! แล้วไปคุยกับผู้ใหญ่บ้านที่ดูแล เค้าก็บอกว่าเป็นเรื่องปกติที่ได้ยิน เพราะได้ยินบ่อยมาก เรื่องแบบอยู่ไม่ได้ ไม่มีแอร์ โทรมาวีน (กลุ่มที่เข้ามานอนกะชาวบ้าน) ช่วยหาที่นอนที่มีแอร์ให้หน่อยได้ไหม นอนไม่หลับ บ้านที่นี่ยุงเยอะ คือผู้ใหญ่ตอนแรกก็ไม่ชิน กลายเป็นชินแล้ววค่ะ เฮ้อ คือ เราว่าไปเที่ยวอ่ะเที่ยวได้นะคะ แต่เราต้องเข้าใจวัฒนธรรมที่นั่นไม่ใช่ไปเปลี่ยนที่นั่นสิ ไม่งั้นเมืองทุกเมืองก็ไม่มีเอกลักษณ์ เหมือนกรุงเทพหมด มีทุกอย่าง มีแอร์ คือเราไม่ควรไปเปลี่ยนเค้านะ ไปเที่ยวไปซึมซับที่นั่นอย่างเดียวสิคะ เราว่าหลายๆที่มันกำลังจะเป็นแบบนั้น ที่คนเมืองเข้าไปเปลี่ยนวัฒนธรรมดั้งเดิม จากคุณ : หมูหวานน้ำกะทิ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 12:26:20

ความคิดเห็นที่ 21 ไปเที่ยวสองสัปดาห์ สัปดาห์แรก ปาย สัปดาห์สอง เชียงคาน ก็ยอมรับครับว่าหลงเสนห์กลิ่นอายทั้งสองที่ แม้ว่าวิถีชีวิตเค้าจะเปลี่ยนไปแต่ก็ยังมีหลายสิ่งที่ซ้อนอยู่ ก็ต้องเลือก ค้นหาในสิ่งที่ค้นหา สิ่งไหนไม่ ก็ต้องผ่านเลยไป มีเกิด มีดับ ตามเวลา ครับ แต่ภาพประทับใจของทุกสิ่งอยู่ในใจผมตลอดเลยครับ จากคุณ : จั๊กเด๋ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 12:29:06

ความคิดเห็นที่ 22 ตามไปดูมาแล้ว ดีใจที่ไปเชียงคานมาก่อนที่จะเละ ดีใจที่ไม่ต้องไปอีก เพราะคงไม่ต่างจากจตุจักร เสียใจที่เชียงคาน เมืองงาม จะเหลือก็เพียงความทรงจำ..เหมือนหลีเป๊ะ จากคุณ : แอนด้า เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 12:39:51

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่เคยคิดอยากไปเชียงคาน...เพราะรู้ว่าถ้าคนไปเยอะๆ วันนึงมันก็จะตกอยู่ในสภาพแบบนี้ เหมือนกับที่ไม่เคยคิดอยากไปปาย...สวนผึ้ง...อัมพวา...ฯลฯ จากคุณ : Into the Groove เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 12:46:42

ความคิดเห็นที่ 24 เราต้องเปลี่ยนตามวัฒนะธรรมของแต่ละที่ ที่เราไป ไม่ใช่ให้วัฒนธรรม ต้องเปลี่ยนตามเรา ไม่อย่างนั้น มันก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ค่ะ มีที่เที่ยวที่ใหม่ผุดขึ้นมา ... แล้วก็ต้องจบลงเพราะเหตุผลแบบนี้ คงต้องสร้างกฎหมู่ขึ้นมาสำหรับผู้ที่ไปเที่ยวแล้วมั้งคะ ประมาณว่า บอกไปเลยที่นี่ไม่มี 7-11 ไม่มีห้องพักติดแอร์ ถ้ารับได้ก็เชิญมาพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย แต่ถ้ารับไม่ได้ก็อย่ามาเลย อะไรประมาณนั้น ... แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 54 12:50:46 จากคุณ : หูย..ก้อบกอบ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 12:47:19

ความคิดเห็นที่ 25 ไม่เคยคิดอยากไปเชียงคาน...เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าถ้าวันนึงคนไปเที่ยวเยอะๆ ก็จะตกอยู่ในสภาพแบบนี้ เหมือนกันปาย...สวนผึ้ง...อัมพวา...ฯลฯ จากคุณ : Into the Groove เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 12:47:57

ความคิดเห็นที่ 26 ตามไปดูแล้วค่ะ จริงๆ เราเองยังไม่เคยไปเชียงคานเลย  แต่ไปปายมาแล้ว พอจะมองออกบ้างว่า มันกลบวัฒนธรรมของท้องถิ่นไปบ้างยังไง เสียดายแทนคนอื่นๆ รวมทั้งเราด้วย ที่ยังไม่ได้ไปเห็นเชียงคานจริงๆ ที่ไม่ใช่แบบปรุงแต่งแบบนี้   เราว่าคนเขียนกระทู้นำเสนอแง่มุมอื่นๆที่คนอื่นๆไปแล้วไม่ได้นำเสนอ ออกมาให้คนนอกได้รับรู้ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับเชียงคาน เราเคยดูรีวิวเชียงคานบ่อยๆ  ไม่ค่อยมีคนพูดถึงในแง่มุมนี้เลยค่ะ ......ในประเทศไทย เราว่ามันเริ่มกลายเป็นเรื่องปรกติไปแล้วค่ะ ที่สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ มักจะบุกเบิก หรือทำให้มีชื่อเสียงโดยการ นำความเจริญเข้าไปทดแทน ทั้งๆที่เราว่า มันไม่จำเป็นเลย ที่จะต้องทำแบบนั้น หลายๆประเทศ ที่เคยดูรีวิวมา เค้าทำได้ดีทีเดียวกับการจัดการมรดกทางด้านวัฒนธรรม ให้ยังคงอยู่และควบคู่ไปกับความเจริญด้วย  แต่บ้านเราทำไม่ได้อย่างเค้าสักที จากคุณ : โอลีพ/แม่น้องเซ้นต์ (olives) เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 12:55:29

ความคิดเห็นที่ 27 ความเจริญไปถึงไหน ความสงบและธรรมชาติจะถูกทำลาย เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกแห่ง เช่น ปาย และล่าสุดก็ เชียงคาน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบแก้ไขด้วยนะครับ จากคุณ : tumm12 (tumm12) เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 12:56:05

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นด้วยกับ คคห#25 จากคุณ : Hello OK เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 12:56:36

ความคิดเห็นที่ 29 น่าเสียดายนะผมว่า ผมเคยไปมาชาวบ้านก็สงบสุขดี มันก็ดีที่เราไปทำรายได้ให้เค้า แต่ถ้าผมเป็นคนที่นั้นผมคงอยากได้ความสงบเหมือนเดิมดีกว่า ผมคิดว่าชาวบ้านบานส่วนก็คงคิดเหมือนผม จากคุณ : chinyonna เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 13:08:23

ความคิดเห็นที่ 30 ผมพึ่งไปมาก็สงบดีนะครับ ตลาดมีแค่ตอนกลางคืน หลังจากนั้นก็เงียบสงบ กลางวันก็ปั่นจักรยานเล่น คนที่นั่นก็นิสัยดี ยิ้มแย้มน่ารักมากๆ ที่เฮงซวยก็มีร้านขายของเล่นเก่าอ่ะ เจ้าของร้านนิสัยแย่ ชื่อร้าน เด็กเมื่อวานซืน ผมพักที่เฮือนพัดโบก คุณเอ๋น่ารักมากๆ นิสัยดี จากคุณ : อาร์เซเบสิค เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 13:32:24

ความคิดเห็นที่ 31 ปล่อยไปเถอะครับ คนในถิ่นเขายังไม่รู้สึกรู้สา ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบยังเฉย ไม่นานก็จะกลับคืนสู่สามัญ จากคุณ : manahan59 (manahan59) เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 13:33:22

ความคิดเห็นที่ 32 เพิ่งไปเชียงคานมาเมื่อวันเสาร์ เชียงคานไม่ได้เป็นเชียงคานอย่างที่คิด คนพื้นที่ เค้าบอกมาว่า "เชียงคานเปลี่ยนไปแล้ว เดี๋ยวนี้อะไรๆก็เป็นธุรกิจหมดแล้ว ไม่รู้ว่าจะรักษา เชียงคานในแบบฉบับความเป็นเชียงคานแท้ๆ ได้นานเท่าไร เห็นแล้วทำใจลำบาก หนูคงไม่ชอบเชียงคานในวันที่หนูมาวันนี้ ใช่มั้ย? คราวหน้าลองมาเยียามเชียงคานในวันธรรมดาดูสิ แล้วหนูจะรักเชียงคาน" จากคุณ : JedjarZ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 13:40:37

ความคิดเห็นที่ 33 คำตอบอยู่ที่วิชา.....เศรษฐศาสตร์เบื่องต้น..... จากคุณ : ชักธง1 เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 13:41:36

ความคิดเห็นที่ 34 โห นี่มันไปถึงขนาดนี้แล้วเหรอวะเนี่ย ไปเมื่อสองปีก่อนว่าเยอะแล้วตอนนี้มันอิเหละเขะขะ ขนาดนี้เลยเร่อ  แล้ัวตอนนี้รายการท่องเที่ยวของไทยหลายรายการก็พาไปเที่ยวกันแทบทุกรายการ แต่สบายใจได้ เดี๋ยวเชียงคานก็ตก กลายมาเป็นบ้านๆอย่างที่ทุกคนต้องการแน่นอน ไม่เกินสามปี เพราะวัฏจักรการท่องเที่ยวไทยจะแบบนี้แหละ เริ่มบูม บูม บูมซา บูมหาย แล้วก็เรื่อยๆ       ไปแม่ฮ่องสอนมาล่าสุด ห่างจากครั้งแรกสามปี ซึ่งปีที่ไปตอนนี้นเป็นปีปายแตก น้ำมันหมดปั๊ม ร้านภูโคลนขายของได้วันละสามสี่แสน ข้่าวซอยเบๆที่เคยทานขายได้วันละสี่ห้าหมื่น มาปีนี้ ภูโคลนขายได้วันละแสนกว่า ข้่าวซอยได้หมื่นกว่าๆ แต่เขาบ่นกัน ว่าเสียหาย ทั้งที่จริงๆไ้ด้แค่นั้นคุณก็พอกันแล้ว แต่ด้วยยอดหลอกๆเมื่อสองสามปีก่อน มันทำให้พวกคุณคิดเอาเองไงว่ามันต้องบูมตลอดเวลา         ที่เชียงคานก็คงจะแบบนี้แหละ ผมเอาใจช่วยคนที่ิคิดลงทุนทำธุรกิจที่ไม่หวังรวยอะไรมาก พอประทังชีวิตมีเงินเก็บบ้าง แต่บางคนก็หวังรวยอย่างว่อง รีบๆๆเสียจนขาดอะไรบางอย่างไป จากคุณ : zong12 เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 13:54:27

ความคิดเห็นที่ 35 เอ่อ....พูดไม่ออกเลย เชียงคานที่ผมเคยไป กับที่เห็นนี่มันต่างกันราวฟ้ากับเหว เชียงคานไม่ใช่เชียงคานที่ผมรู้จักอีกแล้ว ผมว่าสเน่ห์ของเชียงคานคือบ้านเมืองที่สงบ ห้องแถวเก่าๆ เมืองที่มีแต่คนดีๆ ไปใช้ชีวิตช้าๆ ไปอยู่เฉยๆแต่มีความสุขที่สุด เมืองที่เหมือนไม่มีอะไร แต่ไปแล้วมีความสุขมากมาย ได้รู้ว่าการใช้ชีวิตช้าๆ เรื่อยๆมันมีความสุขแค่ไหน ผมว่าคนที่นี่เข้มแข็ง แต่ก็มีบางคนที่เขวไปบ้างด้วยอำนาจเงินที่หลั่งไหลเข้ามา คนที่นี่พูดตลอดว่า เชียงคานไม่ใช่ปายเมื่อสิบปีก่อน ที่นี่คือเชียงคาน เชียงคานคือเชียงคาน แต่เชียงคานกำลังจะไม่ใช่เชียงคานที่เราเคยรู้จัด ตอนแรกมีนานี้ผมว่าจะไปเชียงคานกับเพื่อนซักสามคืน แต่ตอนนี้คงต้องคิดหนักแล้ว จากคุณ : Mr.Cellophane เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 14:00:38

ความคิดเห็นที่ 36 "เชียงคาน กลายเป็นเมืองที่ไม่น่าอยู่ไปซะแล้ว" เมื่อวานอ่านดูที่ลิ้งค์ต้นฉบับจริงดังที่เขาโพสต์ไวันะ พอมาวันนี้หลังจากอ่านหลายๆคอมเม้นท์ก็ทำใจ มันยังไม่ร้ายแรงอย่างที่คิดและเห็นกัน อยากให้หาทางป้องกันบ้านเมืองไทยเราให้น่าอยู่ดีกว่า ที่จะมาทับถมกัน สังเกตุจากประเทศที่เขาเจริญทุกภาค ทุกเมืองใหญ่ ทุกจังหวัด ความเจริญเข้าถึงหมดไม่ใช่กระจุกอยู่แต่เมืองหลวง ททท เขาทำถูกแล้วเที่ยวทั่วไทยเงินไม่ไหลออกนอก แต่ดูเหมือนว่าท่านนักเที่ยวทั้งหลายจะเที่ยวไม่เป็นไม่เข้าใจในการเที่ยว ทีไปเที่ยวต่างประเทศไม่เห็นจะไปทำลายทำร้ายเลยทีกับบ้านตัวเอง... ได้โปรดไปเที่ยวเชียงคานให้ทำตัวเสมือนคิดจะไปหรือเที่ยวต่างประเทศ จากคุณ : ง่ายๆ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 14:03:38 A:75.4.201.159 X: TicketID:307181

ความคิดเห็นที่ 37 คิดอยู่ว่าปีใหม่ 2012 จะไปเชียงคาน สภาพจะกลายไปเป้นขนาดไหนหน๋อ T_T จากคุณ : DorAZeE เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 14:05:26

ความคิดเห็นที่ 38 ผมเห็นด้วยทุกประการกับ จขกท.ครับ ผมเองเพิ่งกลับมาจากเชียงคานเมื่อวานนี้เอง ไปเพราะอยากรู้เชียงคานมีดีอะไร คนถึงชอบไปกันนักหนา ตลอด ๒ คืน ๓ วันที่อยู่ที่นั่น ผมรู้สึกเหมือนกับ จขกท.นั้นเลยครับ ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยมาเชียงคาน อาจจะพูดได้ไม่เต็มปากนักหรอกว่า เชียงคานเปลี่ยนไปขนาดไหน แต่ผมมันใจว่าเมื่อ ๕ ปีที่แล้ว เชียงคานไม่น่าจะมีรถมินิ ที่บางร้านเอามาจอดให้คนถ่ายรูปเล่น ในร้านมีเวสป้าอีกคัน แถมแต่งร้านซะจนผมอดคิดไม่ได้ว่า เลอะเทอะที่สุด นี่มันเชียงคานตรงไหนฟระเนี่ย...แต่คนก็เข้ากันเต็มร้านนะ...คนที่มาจาก กทม. ทั้งนั้นแหละ และที่โดนใจที่สุดคือ แก้วกาแฟ เหมือนเป็นเครื่องดื่มที่เป็นตัวแทนของแหล่งท่องเที่ยวไปแล้ว ไม่ใช่ไม่ให้ขายนะครับ ผมเองก็ชอบกาแฟ แต่มีวิธีอะไรที่มันจะดูแกขยะที่เกิดจากแก้วพวกนี้ได้มั่งมั้ย โดยส่วนตัวผมเองเวลาซื้อกาแฟจะเอาแก้วที่แถมมาจากน้ำผลไม้ทิปโก้มาใส่ เค้าจะลดให้ ๕ บาท ใช้แล้วก็ล้างเก็บไว้ใช้ต่อ จากคุณ : เบทากรีซ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 14:12:06

ความคิดเห็นที่ 39 พอจะเข้าใจความรู้สึกของ จขกท. นะคะ คงจะอารมณ์เดียวกับเราและเชียงใหม่ เราอยู่เชียงใหม่มา 10 ปี เห็นความเปลี่ยนแปลงมากมาย บางทีก็อยากจะย้อนเวลากลับไป ให้เชียงใหม่เป็นเหมือนเมื่อวาน วันที่มีขนมครกจิ้มน้ำตาลใส่กระทงใบตองให้กินหน้า รร. แต่มันเป็นไปไม่ได้ ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตามกาลเวลา เพียงแต่ว่า มันจะเกิดขึ้นแบบก้าวกระโดดกับเมืองท่องเที่ยว เพราะคนไปเยอะ แทบจะตั้งรับกันไม่ทัน ทั้งหมดน่าจะอยู่ที่การวางแผนจัดการของคนท้องถิ่น หน่วยงานราชการ และนักท่องเที่ยว ว่าจะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นยังไง ไม่ให้นำไปสู่ความเสื่อม พูดถึงนักท่องเที่ยว... ก็นึกถึงตอนไปเที่ยวดอยผาตั้ง จ.เชียงราย เช้านั้น เรากับแฟนนั่งกินขาหมู หมั่นโถว กับบะหมี่อยู่ตรงที่ทำงานการฯ มีคนกรุงเทพกลุ่มหนึ่งเข้ามากินข้าว หน้าตาของเขาเหล่านั้นดูไม่ไว้ใจของกินในร้านนั้นเลย ตะโกนสั่งข้าวไข่เจียว ข้าวกระเพรา ทั้งๆ ที่แม่ครัวเป็นคนจีนยูนาน แต่เจ๊แกก็ทำให้ คนกลุ่มนั้นนั่งข้างๆ เรา นั่งดูเราเคี้ยวขาหมูหมั่วโถวตุ๋ยๆ แล้วถามเราว่า "กินได้เหรอน้อง? อร่อยไหม?" เราตอบว่า "พี่ต้องลอง หนูกินแล้วยังไม่เป็นอะไรเลย นี่ร้อนๆด้วยนะไม่น่าจะมีปัญหา" ว่าแล้วแกตะโกนสั่ง "ขาหมู หมั่วโถว เอาชุดเล็กนะ หมั่วโถวอันเดียว" เจ๊แกเอาขาหมูมาเสริฟ พี่แกกินไปคำ แล้วตะโกนต่อว่า "เอาขาหมูชุดใหญ่มาเลย เร็วๆ ด้วยหิว ไข่เจียวไม่ต้องแล้ว" .....ก็นะ...ไปถิ่นเขาก็ช่วยกินแบบเขา ใช้ชีวิตแบบเขากันบ้าง ถ้าไปเที่ยวแล้วอยากให้สะดวกสบายเหมือนบ้านตัวเอง จะเรียกว่าเที่ยวไหม? จากคุณ : koyknot เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 14:29:47

ความคิดเห็นที่ 40 ผมกับแม่ชอบขับรถเที่ยวไปตามชนบทไทย ไปดูบ้านเมืองเขา กินของเค้าก็สนุกดีนะครับ  มีหนนึงขับรถเลาะริมโขงไปเรื่อยๆ ผ่านไปเชียงคานแต่ก็นานมากละ ผมไม่ประทับใจหรือจดจำอะไรเกี่ยวกับเชียงคานได้มากนัก อาจเป็นเพราะแค่ผ่านและแวะ  ไม่ได้พักหรือคงเป็นเพราะผมอยู่บ้านนอกจนชิน เวลาไปเที่ยวบ้านคนอื่นมักจะรู้สึกว่า มันก็คล้ายบ้านผมนั่นหละ "บ้านนอกไทย" เหมือนกัน แต่ที่ผมประทับใจจังหวัดเลยคือถนนครับ ถนนบ้านนอกธรรมดานี่หละ แต่ว่ามันมีหมอกไหลข้ามถนนมาให้คุณขับชนเล่น อันนี้ประทับใจจริงๆ จากคุณ : คนบ้านนอกชอบเที่ยวบ้านนอก (Laharl) เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 14:29:47

ความคิดเห็นที่ 41 กว่าจะรู้สึกตัวก็สายเสียแล้ว (ผมคิดว่า ตอนนี้ยังไม่รู้สึกตัว...เสียด้วยซ้ำ) จะเห็นว่าระยะหลัง เริ่มมีความคิดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เริ่มมีการพูดถึงกันในหน่วยงานและระดับรัฐบาล...ก็ยังดีกว่าไม่เริ่มเลย แต่นโยบายที่จะนำมาใช้ลงมาจนถึงภาคปฏิบัติ คงต้องใช้เวลา ช้าๆ แบบไทยๆ ที่จริงมันไม่ได้เละเทะแค่ที่เชียงคานหรอก ที่ไหนๆ ก็เละเทะ เอาง่ายๆ จัดคอนเสิร์ตมันเข้าไป ในทุ่ง รอบๆ ป่า เขาใหญ่ เขาค้อ สวนผึ้ง...จะ Ba กันไปใหญ่แล้ว ปาย...ไม่ต้องพูดถึง ตัวอย่างมีให้เห็นกันอยู่แล้ว จากคุณ : norapob เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 14:42:18

ความคิดเห็นที่ 42 จะห้ามไม่ให้เปลี่ยนแปลงเลยคงไม่ได้ แต่ต้องดูแลการเปลี่ยนแปลงไม่ให้เลอะเทอะได้แล้ว โชคดี ได้ไป ตอนยังสงบ ไม่มีคนมากมาย จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 14:48:50

ความคิดเห็นที่ 43 เดินๆอยู่แล้วอันที่รู้สึกตึ่งโป๊ะมากคือ ร้านปิ้งย่างทั้งหลายตรงหน้าบ้านเก่าร้อยกว่าปีนั่นแหละ ทั้งข้าวเกรีบยปิ้ง กล้วยปิ้ง กุ้งทอด ปิ้งกันไฟแดงๆ ไม่รู้เค้าจัดระเบียบร้านขายของกันยังไงบ้าง ว่าแล้วก็ซื้อข้าวเกรียบปิ้งสองแผ่นเดินกินกันต่อไป อ้อ อีกอย่าง ถังขยะก็หายากเหมือนกันนะครับ จากคุณ : plajet เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 15:03:25

ความคิดเห็นที่ 44 อยากให้ กรุงเทพฯ เป็นเหมือนเมื่อ 150 ปีก่อนนะ ฝากช่วยกันดูแล กรุงเทพฯ กันหน่อย   จริงๆ ก็อยากให้เมืองไทย เป็นเหมือนเมื่อ 200 ปีก่อน อยู่อยากวิถีชาวบ้าน ไม่อยากได้ห้าง ไม่อยากได้แอร์ ไม่อยากให้มีโรงแรมสูง ตึกสูงมันรกตา มันอยู่ที่ว่าชาวบ้านเค้าอยากให้เป็นแบบไหน ผู้นำท้องถิ่นต้องการให้ไปในทิศทางไหน ของแบบนี้ช่วยกันควบคุมจัดระเบียบกันได้ หลายๆ ที่ 7-11 โลตัส ก็เข้าไปอยู่ในพื้นแบบกลมกลืน ไม่ใช่ว่าบ้านเราเจริญแล้ว อะไรก็พร้อมแล้ว สะดวกสบาย แต่ก็อยากให้บ้านอื่น เค้าหยุดเติบโต หยุดหาความสะดวกสบาย เอาไว้เวลาเราไปแอ๊บติ๊ดกัน ไม่กี่วันในรอบ 1 ปี แน่นอนถ้าถามชาวบ้าน เค้าก็อยากได้วิถีชีวิตแบบเดิมๆ ไม่วุ่นวาย (ชีวิตในฝัน) โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว จะให้ทำไร่ ทำนา อย่าเดียวก็ไม่พอกิน แต่ก็ไม่น้อย เอาว่ามากกว่าด้วย และแต่ลึกๆ ในใจ ของชาวบ้าน ก็อยากได้ความสะดวกสบาย ไม่งั้นความสะดวกที่เข้าไปอยู่ไม่ได้หลอก โดนถีบออกมาหมด แล้วจะไปว่าอะไรได้อีก ก็คนกรุง เข้าไปแอ๊บกัน ชาวบ้านก็มีรายได้ ชีวิตมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การเงินหมุนเวียนมากขึ้น ทุกฝ่ายภาครัฐ เอกชน นายทุน ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว ก็ยินดี จากภาพ อันไหนไม่ถูกต้องผิดกฎหมาย ก็ร้องเรียนกันไป ออกสื่อ เขียนประจานก็ว่ากันไป ส่วนเรื่องจะเงียบหรือลงโทษอะไรก็ว่ากันไป คห.4 "แล้วตอนนี้ ทุกคนมอง และ คิด ที่อยากจะให้เป็นเชียงคานเป็นแบบไหนล่ะค่ะ?" ไม่ทราบจริงๆ ครับ คุณมองจากจุดไหนล่ะ แต่ถ้ามีการจัดระเบียบ วางแผนการพัฒนา ก็น่าเที่ยว น่าอยู่ จากคุณ : PiGsPy เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 15:03:47

ความคิดเห็นที่ 45 ผมว่ามันควรจะเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานรัฐทั้งจากส่วนกลางและภูมิภาค ผมรับรู้แต่ว่าหน่วยงานทั้งหลายเหล่านี้มักจะออกมาให้ข้อมูล เชิญชวน กระตุ้นความอยาก ให้ผู้คน(ไม่อยากเรียกว่านักท่องเที่ยว)แห่แหน โหนกระแส เห่อกัน ไปให้ถึงสถานที่นั้นๆ แต่ไม่เคยเห็นข้อมูลอีกด้านที่รณรงค์ ปลูกจิตสำนึกให้ผู้คนที่เดินทางไป ถึงวิธีการท่องเที่ยวที่ควรเป็น  การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ รักษา และเข้าถึงจิตวิญญาณของสถานที่นั้นๆ รวมถึงการที่ไม่ออกข้อปฏิบัติ กฏเกณฑ์ กฏหมาย ที่จะช่วยยืดอายุของสถานที่เหล่านี้ไว้ จากคุณ : More Original Me เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 15:08:42

ความคิดเห็นที่ 46 ผมว่า เราก็ช่วยให้เต็มที่ ส่งเรื่องไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แล้วก็ปล่อยวางกันเถอะครับ จากนั้นก็เลิกเถียงกันในกระทู้ (ก่อนที่จะเป็นกระทู้ดราม่า) แล้วผมก็ขอเชิญทุกท่านที่ผ่านเข้ามาในกระทู้นี้ ช่วยกันปลูกจิตสำนึกในการท่องเที่ยว โดยเริ่มจากตัวเองก่อนดีมั้ยครับ จากคุณ : Sploom เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 15:22:21

ความคิดเห็นที่ 47 น่าเสียดายถ้ามันเปลี่ยนไปอย่างนั้นจริง โชคดีจังที่เราไปตอนที่มันยังไม่เปลี่ยนมากนัก สามารถเช่าจักยานปั่นเล่นรอบหมู่บ้าน ริมแม่น้ำ โดยไม่มีร้านมาตั้งให้เกะกะ อย่างในภาพ ก็คงหาที่เที่ยวแห่งใหม่ต่อไปล่ะ ริมฝั่งโขงยาวอยู่ จากคุณ : พัชชา (SEAPATCHA) เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 15:56:45

ความคิดเห็นที่ 48 รูปแต่ก่อน จากคุณ : พัชชา (SEAPATCHA) เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 15:58:32

ความคิดเห็นที่ 49 ผมว่าคนโพสกระทู้นี้มีอะไรที่มันแอบแฝงอยู่หรือเปล่า การที่บอกว่าหลายอย่างทำลายเชียงคาน แท้ที่จริงก็คือตัวคุณเองที่ทำลายเชียงคาน คุณมาอาศัยบ้านเขาอยู่แต่ยังกลับมาทำลายบ้านเขาเพราะว่าคุณเสียประโยชน์ นี่หรือการที่เป็นห่วงเชียงคาน คุณบอกว่ายายตบยาย เมื่อวานผมไปถามมาไม่เคยมีใครทะเลาะกันสักคนมีแต่คนที่เขารักกัน อาศัยที่เขาทำมาหากินยังสร้างความแตกแยกระวังไม่มีที่จะอยู่นะครับ สำนึกบุญคุณแผ่นดินมั่งอย่าคิดเอาแต่ได้เลยเงินน่ะตายไปก็เอาไปไม่หมด สาธุใครทำกรรมใดไว้กรรมนั้นคืนสนอง จากคุณ : คนรักเชียงคานจากใจ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 16:17:06 A:110.49.159.116 X: TicketID:307204

ความคิดเห็นที่ 50 คนที่บอกว่าอยากให้เชียงคานเหมือนเดิมลองตอบคำถามผมหน่อยนะ 1.ถ้าไม่มีร้านขายของพวกคุณจะมาเดินดูอะไรที่ถนนคนเดิน 2.ถ้าไม่มีร้านสวยๆแล้วคุณจะถ่ายรูปกับอะไร 3.ถ้าไม่มีร้านขายของกินมาตั้งแล้วจะกินอะไร 4.ถ้าไม่มีโฮมสเตย์แล้วคุณจะไปนอนทีใหน บอกตรงๆชาวบ้านน่ะเขาไม่ได้เสียใจเลยที่นักท่องเที่ยวไม่มาแต่เขาดีใจที่เห็นคนมาเที่ยวบ้านเขาได้ต้อนรับคนต่างแดนด้วยมิตรภาพเรียกนักท่องเที่ยวทานข้าวผมเองได้สัมผัสอย่างนั้นมาด้วยตนเองถามว่ารู้สึกดีมั๊ยถามทุกคนเลยว่าหาได้มั๊ยในสังคมปัจจุบันแทบจะไม่มีแล้วมีแต่การเห็นแก่ได้แต่ชาวบ้านที่นี่ยังคงไว้ภาพที่ชาวบ้านเอากับข้าวมานั่งล้อมวงกินกันคุณเคยเห็นหรือป่าว อย่าเอาแค่การไปเที่ยวฉาบฉวยมาตัดสินคนที่นั่นคนดีเขาก็มีส่วนคนที่ไม่ดียอมรับก็มีบ้างถ้าคุณรักวัฒนธรรมและธรรมชาติจิงคุณจงดื่มด่ำกับมันให้คุ้มค่าแล้วเก็บแต่สิ่งดีๆกลับมาผมว่ามันน่าจะดีกว่าการที่คุณๆทั้งหลายจะมานั่งด่ากันผมอยากคุณที่บอกว่าเชียงคานไม่ดีงี้งั้นลองกลับไปใหม่แล้วลองลงไปสัมผัสจริงๆกับวิถีชาวบ้านที่เขาเป็นอยู่ ไม่ใช่เพียงแค่ไปถ่ายรูปกินเหล้าปั่นจักยานเที่ยวคุณลองไปใช้ชีวิตแบบโฮมสเตย์จริงๆดูสักครั้งแล้วคุณจะรู้ว่าคุณค่าทางวัฒนธรรมนั้นไม่ได้มีแค่การจ่ายเงินแล้วก็จบ พวกคุณเชื่อมั๊ยว่าผมไม่ใช่คนเชียงคานแต่ผมสามารถที่จะเดินทานข้าวกับชาวบ้านได้ทุกหลัง ไม่ใช่แค่มีเงินแล้วจะซื้อได้ทุกอย่างลองเอาใจซื้อดูมั่งครับแล้วจะรู้ว่าความสุขที่แท้จิงอยู่ที่ใหน จากคุณ : ลูกๆของคนเชียงคาน เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 16:37:14 A:110.49.159.116 X: TicketID:307204

ความคิดเห็นที่ 51 ชอบแบบไหน ก็เที่ยวแบบนั้นละกันค่ะ สมัยนี้คนเราเห็นแก่ตัวกันมากขึ้น ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากทำใจ มีอีกหลายที่ให้เที่ยวที่เหมือนเชียงคาน เหมือนปาย เหมือนอัมพวา เช่น ถ้าไปกับแม่สามี เราจะไปเชียงคาน ไปปาย ไปอัมพวา เพราะเขาชอบเดินดูของด้วย นอกจากเดินดูวิวหรือบรรยากาศ คนมีอายุ รูปร่างสมบูรณ์ ก็ต้องเดินออกกำลังกาย ในเมื่อสิ่งยั่วยวนสายตา ไม่ใช่แค่วิว แต่เป็นสินค้าก็ต้องทำใจ แต่ถ้าเราไปกับสามี 2 ต่อ 2 เราไปที่ๆมันสงบๆอะ เพราะเราไม่ได้ต้องการเดินดูสินค้า นอกจากจะผ่านจุดจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง และถ้าเราไปกับพ่อแม่เราเอง ก็ไม่ได้ไปไหนเลยนอกจากห้างสรพพสินค้า เพราะแม่เรากลัวร้อนและดำ  หุหุหุ จากคุณ : a pinky pig เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 16:53:07

ความคิดเห็นที่ 52 เชียงคานผมก็เพิ่งไปมาครับ ถามว่าประทับใจอะไรมั๊ย ขอตอบเลยว่า "ไม่" สิ่งที่ยังคงเดิมมันก็ยังมีอยู่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่ ผมถามว่ามันเหมาะสมกับเชียงคานแล้วเหรอ ทำไมจึงต้องทำที่พักให้มันดูใหญ่โต ในเมื่อคุณสามารถที่จะทำโฮมสเตย์ได้ ถ้าอยากจะทำแบบนั้น ผมว่าน่าจะให้ออกห่างมาจากพื้นที่ตรงนั้นหน่อย เพราะมันทำให้เสน่ห์ของพื้นที่นั้นหายไป การเปลี่ยนแปลงมันเกิดขึ้นได้เสมอ แต่ถ้ามันทำให้รากเหง้าของเราหายไป แล้วเราจะเปลี่ยนไปเพื่ออะไร สิ่งแรกที่ผมคิดเมื่อผมไปถึงเชียงคานคือ อะไรคือจุดเด่นของที่นี่ คำตอบของผมคือไม่มี บ้านเก่าๆที่เคยมีให้เห็น มันโดนบดบังด้วยรีสอร์ทที่กำลังสร้างใหม่ แก่งคุดคู้ก็เช่นกัน ร้านอาหารที่เปิดอยู่ก็ไม่ได้คิดเลยว่า ขยะที่เกิดจากร้านคุณกำลังทำให้สถานที่นั้นเสื่อม กลิ่นเหม็นจากขยะ ทำให้ผมกินข้าวไม่ลงจริงๆ ผมว่า อะไรที่ควรเปลี่ยนก็ควรจะเปลี่ยน อะไรที่ควรรักษาก็จงทำนุบำรุงไว้ จากคุณ : brake เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 16:59:11

ความคิดเห็นที่ 53 คุณ PiGsPy คิดต่างแบบนี้มันก็เท่ห์อยู่นะ แต่เรารู้สึกว่าเป็นการแดกดัน เอออยากจะบอกว่าเจ้าของร้านขายของหรือร้านกาแฟที่เปิดกันตามเมืองท่องเที่ยวโครมๆ เนี่ยมีคนท้องถิ่นกี่เปอร์เซนต์ค่ะ มีแต่คนจากที่อื่นนี่แหล่ะเข้าไปลงทุนทำมาหากินเพราะเห็นว่ามันน่าจะบูม คนกำลังนิยม ก็แห่กันเป็นฝูงผึ้งเข้าไปรุมทึ้งกัน พอกัดกินรวยกันพอแล้ว มันเริ่มเสื่อมโทรม อิ่มตัวก็ถอยออกมา ชาวบ้านจริงๆทำอะไรก็ยังต้องทำนาเหมือนเดิม เหลือทิ้งไว้แค่ 7-11 เป็นตัวชี้วัดความเจริญ เจตนาเจ้าของกระทู้คือการสร้างการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ไม่ใช้ไปยับยั้งความเจริญไม่ให้เกิดกับเมืองต่างจังหวัด และความคิดที่นักท่องเที่ยวกรุงเทพไปแอ๊บทำไรกันนี่แบบ กากมาก   นักท่องเที่ยวชั้นดีที่เขาต้องการไปเสพความต่างทางวัฒนธรรม หลีกหนีสังคมเมืองใหญ่มีอยู่อีกมาก ไม่ได้มีแต่ไปตามกระแส เราไปปาย 8 ปีที่แล้วตั้งแต่ ยังมีแต่กระต๊อบคืนละ 150 ให้พัก มีร้านกาแฟร้านเดียวและก็ไปต่อเนื่องทุกปี จน 2 ปี เห็นความเสื่อมโทรม และรู้สึกว่าไม่ต่างอะไรกับเชียงใหม่เราก็ไม่คิดจะไปอีก และก็จะมีคนเลิกไปเหมือนเราอีกมาก จะนั่งรถไปทำไมให้เหนื่อยในเอไม่มีไรต่างกับตัวเมือง จากคุณ : พ่อยิ่งใหญ่เหมือนภูเขาเราจะตาม เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 17:01:20

ความคิดเห็นที่ 54 แล้วไม่สงสารคนกรุงเทพมั่งหรอครับ อะไรๆก็ถูกเอายัดไว้ที่นี่ จากคุณ : เอาความเจริญออกไปบ้างเถอะ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 17:23:30 A:110.77.167.176 X: TicketID:304013

ความคิดเห็นที่ 55 เหตุผลในการแสวงหาที่เที่ยวแต่ละคนแตกต่างกัน และนี่คือเหตุผลที่เราไปเชียงคาน หากสถานที่เปลี่ยน แต่เหตุผลยังคงเดิม ก็คงต้องเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อย อะไรๆ มันก็เปลี่ยนไปได้ทั้งนั้นแหละ อยากให้ กทม เหมือน ปี 2500 จัง ต้นรัตนโกสินต์น่ะ คงจะดีนะ อิอิ เหตุผลเราก็อย่างที่ในภาพที่เห็นน่ะแหละ จากคุณ : พัชชา (SEAPATCHA) เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 17:25:50

ความคิดเห็นที่ 56 เวรกรรม ลืมภาพ จากคุณ : SEAPATCHA เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 17:26:33

ความคิดเห็นที่ 57 จริงๆแล้ว สมัยก่อนเชียงคานน่าเที่ยวในฐานะที่วา่ มีภรรยาเป็นคนเหนือขอพูดหน่อยเถอะ จะบอกว่า กรณีเชียงคานจะเหมือนกับ ปาย ที่ทุกวันเละมากๆ สำหรับผมเองแล้ว ที่ท่องเที่ยวในเชียงใหม่นั้นไม่ใ่ช เชียงคาน แล้วก้ไม่ใช่ ปาย แต่ว่ามีที่น่าเที่ยวจริงๆ ส่วนความเจริญนั้นเข้าไปเยอะ จะทำให้เหมือนกับปาย กาแฟแก้วละ 100 บาท ถ้าเป็นแบบนั้น ผมอยู่กรุงเทพกินไม่ดีกว่าหรือ จากคุณ : GTNEWSTHAILAND เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 17:27:26

ความคิดเห็นที่ 58 คห.53 ผมไม่ได้คิดต่างอะไรจากคุณ นะ จากภาพที่เคยๆ ผ่านตามา ผมก็เห็นว่ามันไม่เป็นระเบียบจริง วุ่นวายจริง และผมก็อยากเห็นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน และเป็นระเบียบ เชียงใหม่ เป็นจังหวัดใหญ่มีอะไรให้เที่ยวเยอะครับ เรื่องท่องเที่ยว เค้าไม่ใช่แค่เพิ่งมาบูม เค้ารับมือท่องเที่ยวมานาน จัดการ ปรับปรุงมาโดยตลอด ทำได้ดีด้วย ออกมาเที่ยวเถอะครับ  เชียงใหม่ ปาย เชียงราย เชียงคาน พัทยา พัทลุง ห้างสรรพสินค้า ดูหนังฟังเพลง ร้านอาหารใกล้บ้าน จะจังหวัดไหน ที่ไหน แค่ออกมาเที่ยวก็มีความสุขแล้ว แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 54 18:00:51 จากคุณ : PiGsPy เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 17:27:34

ความคิดเห็นที่ 59 เบื่อจริตคนเมือง !!! ........   กระแดะ จากคุณ : King Bamboo เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 17:59:35

ความคิดเห็นที่ 60 7-11 credit : บ้านชะนะคาน ณ เชียงคาน จากคุณ : ~YoKoSo~ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 18:17:09

ความคิดเห็นที่ 61 7-11 credit : บ้านชะนะคาน ณ เชียงคาน จากคุณ : ~YoKoSo~ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 18:19:20

ความคิดเห็นที่ 62 การเปลี่ยนแปลงไม่น่ากลัวเท่าคนที่ไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลง เชียงคานกำลังจะเปลี่ยนเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งวีถีของเมืองท่องเที่ยวก็จะเปลี่ยนไปในทิศทางที่คล้ายๆ กัน จะช้าเร็วก็ว่ากันไป ขึ้นอยู่กับจำนวนนักท่องเที่ยวการจัดการของคนท้องถิ่นและองค์กรที่เกี่ยวข้อง ปล.บางอย่างก็อาจดูไม่ควร(มันเป็นธรรมดาของทุกเรื่อง ที่มีคนหลายๆ คนเกี่ยวข้อง) แต่คนเขียนบล๊อคนั้นดูอะไรก็ขวางหูขวางตาเค้าไปหมดเลย ทั้งๆ ที่คนส่วนใหญ่เค้ามีความสุขกัน จากคุณ : หารองเท้าไม่เจอ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 18:23:31

ความคิดเห็นที่ 63 ไปดูอะไรกันอ่ะครับ ถามตรงๆ - ไปดูวิถีชีวิต : ไปตามบ้านนอกสิครับ มีทุกที่แหละ วิถีชีวิตบ้านๆน่ะ - ไปใส่บาตรข้าวเหนียว : คนอีสานเค้าใส่แบบนี้มาตั้งนานแล้ว ไปดูเอาสิ ผมคิดเอานะครับ ไอ้ที่ไปทั้งหลายทั้งแหล่น่ะ .. ตามกระแสรึปล่าว ลองถามตัวเองดูซิ จากคุณ : pipeep เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 19:07:27

ความคิดเห็นที่ 64 ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลง แต่จะดีขึ้นหรือแย่ลง บางทีหน่วยงานรัฐและคนในชุมชนก็ต้องช่วยกันค่ะ รูปนี้ถ่ายมาเมื่อตอนปีใหม่ ไม่อยากให้เชียงคานมีสภาพแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 54 19:21:53 จากคุณ : Ms.Kyo เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 19:20:53

ความคิดเห็นที่ 65 เพิ่งไปเมื่อวันหยุดที่ผ่านมา บอกตรงๆว่าพอเห็นบรรยากาศจริงๆแล้ว กลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ เห็นแต่ของขายเต็มไปหมด ยังบอกกันในกลุ่มเลยว่าคงไม่กลับมาอีกแล้ว แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ เกิดจากการตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวที่แห่หลั่งไหลกันเข้ามา กลายเป็นว่าเหมือนกำลังเดินอยู่ในฉากหนัง หรือเพลินวานในฉบับเชียคาน ที่ทุกอย่างเหมือถูกเซ็ตไว้แล้ว ถนนแทบไม่มีของพื้นบ้านให้เห็น นอกจากเสื้อยืด และมุมถ่ายรูปถามแบบฉบับติสๆ จะมาเห็นกลิ่นอายของเชียงคานบ้างก็เมื่อนักท่องเที่ยวกลับกันหมดแล้ว แต่ทุกอย่างก็มีสองด้านเสมอ คิดแบบเข้าข้างอีกด้าน ก็อาจมองได้ว่า คุณตาคุณยายก็ไม่เหงา ลูกหลานมาอยู่เต็มบ้าน (เพื่อมาขายของหน้าบ้าน) เต็มไปหมด จากคุณ : waenja เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 19:50:34

ความคิดเห็นที่ 66 หรือเชียงคาน จะเหลือแค่ความทรงจำ จากคุณ : ต้นไพร เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 19:56:26

ความคิดเห็นที่ 67 เห็นตอนนี้มีบริษัทนำเที่ยวหลายๆที่จัดทัวร์ไปเที่ยวเชียงคานกันเป็นว่าเล่น แล้วจะไม่ให้เชียงคานเปลี่ยนไปได้อย่างไร                            ทำใจเถอะค่ะ ยังไงก็เปลี่ยนไปเราเคยไปตอนยังไม่บูมและก็ไปวันธรรมดา สงบมากไม่วุ่นวายแต่วันนี้ดูจากในรูปแล้ว อีกหน่อยร้านกาแฟ แนวเลิฟๆ มีอีกแยะ จากคุณ : หมูหวานกับกะปิ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 20:01:38

ความคิดเห็นที่ 68 ดีใจที่เที่ยวมาก่อนที่เชียงคานจะบูม ตอนนี้คิดถึงแค่ ขนมจีนฮ้อนน้ำแจ่ว ซอย 14 แค่นั้น จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 20:17:06

ความคิดเห็นที่ 69 ยังไงก็คือการเที่ยวในไทย ใช้เงินในไทย ดีกว่าแห่กันไปเที่ยวต่างประเทศ เอาเงินออกนอกประเทศ หรือว่าไม่จริง? จากคุณ : หมีแบนแบน เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 20:18:05

ความคิดเห็นที่ 70 มุมดีก็มีมาก บ้านๆ ก็มีเยอะ จากคุณ : โฟมน่ารัก เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 20:18:09

ความคิดเห็นที่ 71 ก็คุณ ๆ ที่นั่นเค้าก็อยากได้เงินเหมือนกัน หรือว่าไม่จริง?...ใคร ๆ ก็อยากรวย เท่าที่รู้มาคนพื้นที่ก็ประกาศขายบ้าน ให้คนนอกพื้นที่เมืองกรุงซื้อที่ไว้ขายของ เปิดร้านติส อยากบอกว่าเชียงคานทำให้เพื่อนของเพื่อนที่เรารู้จัก รวยค่ะ ออกรถกะบะ กะแจ๊สได้แล้วค่ะ เค้ายอบรับค่ะว่าที่ออกได้เพราะธุรกิจร้านที่เปิดที่เชียงคานค่ะ เค้าถึงมีเงิน หุหุ เนี่ยะแหละคะ ปากบอกว่าเชียงคานเปลี่ยนไป ก็เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ค่ะ เพราะเป็นจุดทำให้นักลงทุนมีแต่รวยขึ้น เพราะเค้ารู้จุดว่ายังไงคนก็มาเที่ยวแน่นอน ช่วงหน้าหนาว หรือแม้แต่เทศกาลผีตาโขน ยังไงคนต้องหาที่พัก หาแหล่งเที่ยว ฉะนั้น มันเปลี่ยนไปแน่นอนค่ะ ที่เห็๋นแน่ ๆ ไม่เปลี่ยนเลยอะค่ะ ก็ลาว หลวงพระบางค่ะ จากคุณ : โลกกลม ๆ ใบนี้ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 20:31:29

ความคิดเห็นที่ 72 เราเป็นคนเมืองเลย เห็นด้วยว่าเชียงคานเปลี่ยนแปลงเร็วมากในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ประตูเฟี้ยมที่บ้านยาย เมื่อก่อนงงมาก ว่าคนที่อื่นเค้ามาดูกันทำไม พ่อแม่เราก็คิดนะ...ว่า เขามาดูกันทำไม ไม่เห็นมีอะไร เดี๋ยวนี้...เห็นแผงลอยแล้วหดหู่ บอกไม่ถูก ของที่ขายแบบว่า...เฮ้อ ตลาดนัดชัดๆ คนเค้ามาเที่ยวอยากมาซื้อของแบบนี้เหรอ ของที่ขาย...มันเชียงคานตรงไหน เราคนนึงแหละที่เห็นแล้ว...อนาจใจ หมดกัน ไม่มีแล้วเสน่ห์ของเชียงคาน จากสาวหน้าใสทาแต่แป้งเย็นหอมๆ ตอนนี้เหมือนสาวในเมืองแต่งหน้าจัดๆและพยายามทำตัวแบ๊วๆ มันขาดเสน่ห์ จริงๆนะ จากคุณ : เพลินกลอน เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 20:57:46 A:192.168.2.134 X:125.26.160.60 TicketID:299760

ความคิดเห็นที่ 73 เปลี่ยนก็เปลี่ยนสิครับ ไม่เห็นต้องมาบ่นเลย ในเมื่อพวกคุณเที่ยวได้ และมาแนะนำให้คนอื่นรู้กัน แล้วจะกั๊กสถานที่ท่องเที่ยวไว้เป็นของส่วนตัวได้หรือครับ ให้มันเจริญบ้างเถอะครับ คนท้องถิ่นจะได้เปลี่ยนมามีเงินมีทองใช้กันมั่ง เศรษฐกิจการท่องเที่ยว จะได้เจริญ มีการกระจายรายได้ ดังนั้น มันจะเปลี่ยนก็ชั่งมันเถอะครับ ยังไงก็หยุดไม่ได้หรอก ความเจริญมันเข้าถึงแล้วนี่นา จากคุณ : ผมรู้คุณก็ใช้ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 20:59:33

ความคิดเห็นที่ 74 เอามาจากเฟลนะครับ คลายเครียด จากคุณ : Mukung_prince เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 21:06:10

ความคิดเห็นที่ 75 เราเป็นคนเมืองเลยโดยกำเนิด เห็นด้วยว่าเชียงคานเปลี่ยนแปลงเร็วมากในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ประตูเฟี้ยมที่บ้านยาย เมื่อก่อนงงมาก ว่าคนที่อื่นเค้ามาดูกันทำไม พ่อแม่เราก็คิดนะ...ว่า เขามาดูกันทำไม ไม่เห็นมีอะไร เดี๋ยวนี้...เห็นแผงลอยแล้วหดหู่ บอกไม่ถูก ของที่ขายแบบว่า...เฮ้อ ตลาดนัดชัดๆ คนเค้ามาเที่ยวอยากมาซื้อของแบบนี้เหรอ ของที่ขาย...มันเชียงคานตรงไหน เราคนนึงแหละที่เห็นแล้ว...อนาถใจ หมดกัน ไม่มีแล้วเสน่ห์ของเชียงคาน จากสาวหน้าใสทาแต่แป้งเย็นหอมๆ ตอนนี้เหมือนสาวในเมืองแต่งหน้าจัดๆและพยายามทำตัวแบ๊วๆ มันขาดเสน่ห์ จริงๆนะ จากคุณ : เพลินกลอน เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 21:11:22 A:192.168.2.134 X:125.26.160.60 TicketID:299760

ความคิดเห็นที่ 76 #71 หลวงพระบางก็เปลี่ยนนะครับ ผมไป 2 ปีติดกัน ปีแรกกับปีที่สอง ต่างกันมาก อะไรๆ ก็เป็นธุรกิจไปหมด ความน่ารักของหลวงพระบางค่อยๆ หมดไป รู้หรือเปล่าว่าเพราะอะไร เพราะคนไทยนี่แหละครับ พวกทำตัวแอ๊บแบ๊ว ทำตัวติสแตก ถ่ายรูปกับประตู เสาไฟ ตู้จดหมาย ป้ายแปลก แบคทีเรีย อามีบ้า กรูจะบ้า คนชาติอื่นที่โน่นเค้าไม่ทำกันแบบเราหรอกครับ ยิ่งตากล้องถ่ายรูปสวยๆ มาอวด ก็อยากไปบ้าง ไปกันมากๆ เข้ามันก็เน่าสิครับนายท่าน จากคุณ : วิญญาณไม่ขายใคร เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 21:17:12

ความคิดเห็นที่ 77 เคยไปเม่ือ 25 ปีมาแล้ว ห้องแถวไม้เก่าๆ แถบนั้นจะปลูกฝ้ายกันมาก ชาวบ้านก็เอาฝ้ายมาทำผ้าห่มขาย ก็ทำกันอยู่ในบ้าน ทำไปขายไป ถือว่าเป็นผ้าห่มคุณภาพดี ราคาไม่แพง สมัยนั้นก็มีนักท่องเท่ียวเข้าไปกันแล้ว ส่วนมากก็แวะผ่านไปกินข้าวท่ีร้านอาหารเล็กๆริมโขงและซื้อผ้าห่มกัน เมืองจะเล็กๆเงียบๆ แต่ปัจจุบันมีแต่ร้านกาแฟ ร้ายขายเสื้อยืด มุมถ่ายรูปที่เอาจักรยานเก่าๆมาวางไว้ ของแปลกปลอมทั้งนั้น ลองดูกระทู้เชียงคานสิครับ มีแต่รูปจักรยานเก่า ร้านกาแฟ ประตูบ้านเก่า ถนนคนเดิน ไปแค่นี้ถ่อไปทำไมตั้งไกล แถวอัมพวาก็มีครบ จากคุณ : เขียนบน iPhone (vibrato) เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 21:48:24

ความคิดเห็นที่ 78 ก็ดี  ตื่นเต้นดี  ถ่ายรูปหลายมุมถูกใจมากชอบเดินไปหาของกินที่ถนนใหญ่ ไปกินหนมจีนน้ำแจ่ว ร้านเก่าๆ น่ารักมาก อากาศเย็นๆ น่าไปค่ะโรแมนติคริมโขงด้วย ชอบใส่บาตรตอนเช้า ไปเที่ยวกันเถอะค่ะ ไม่ได้เลวร้ายอย่างใดเลย สมัยก่อนก็มาที่นี่บ่อย อาหารอร่อย  คนเชียงคานเขาทำให้ทาน ประทับใจมาก  ปัจจุบันแอบเห็นใจเจ้าถิ่น สงสัยจะหาความเป็นส่วนตัวได้ยากแท้  แต่ก็รวยนะคะ แลกกัน  ได้อย่างเสียอย่าง ***อีกที่  ที่ด่านซ้ายก็ประทับใจค่ะ ชอบไปตอนอากาศหนาวๆ ยังจำรสชาติ ของเกาเหลาเลือดหมูชามนั้นได้ ทานที่ตลาดสดตอนเช้า  อร่อยสุดๆ จากคุณ : น้องหมิ่มมิ้ม เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 22:04:09

ความคิดเห็นที่ 79 เปลี่ยนไปมากจริงๆ ค่ะ เราไปเมื่อต้นปีที่แล้ว คือ อะไรๆ ยังไม่เยอะขนาดนี้ เราว่าคนเชียงคานมีน้ำใจ ใจดีนะ แต่ไม่รู้สิคะ ด้วยอะไรต่างๆ ที่เข้ามา กลัวว่าอะไรเหล่านั้น จะเปลี่ยนวิถีชีวิต เปลี่ยนการดำเนินชีวิต บางอย่างที่เคยแบ่งปัน ยังไงก็ได้ จะกลายเป็น อะไรๆ ก็ตังค์ จากคุณ : Leopor เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 22:14:08

ความคิดเห็นที่ 80 คนเมืองจริตเยอะมากครับ อยากจะไปสัมผัส "วิถีชีวิต" แบบชาวบ้านๆ ดูบ้าง อารมณ์ประมาณตูอยู่กรุงเทพ มันมีแต่ ความศิวิไลซ์ ฉันเบื่อละ อยากจะลองบ้านๆ เบๆ ดูบ้าง และที่สำคัญ ถ้าใน facebook ฉัน ไม่มีรูปไปเที่ยวโน่นนี่มาอัพ ไม่ได้ใช้ foursquare เช็คอินเพื่อประกาศบอกชาวบ้าน ชาวช่องว่า "กรูมาเยือนที่นี่แล้วนะโว้ย" คงจะเชยน่าดู ไม่มีหน้าจะไปเผชิญกับเพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้หรอก ก็เลยต้องไปสถานที่ฮิบๆ ชิคๆ ชิลๆ เพื่อประกาศความเป็นอินดี้ให้โลกรู้ซะหน่อย ว่าฉันน่ะ ไม่ได้ mass นะเว้ย มีรสนิยม ที่สำคัญนะ ติดดินมากๆ เลยขอโบกกก เธอรู้ไม๊ ตอนชั้น ไปนอนที่เชียงคานนะ ตื่นตั้งแต่เช้ามาตักบาตรข้าวเหนียว บรรยากาศดีมากเลยตัวเธอ (คาดว่า ตัวเธอคงคิดว่า การตักบาตรข้าวเหนียวที่เชียงคาน คงจะได้บุญมากกว่าการ ตักบาตรพระสงฆ์หน้าเดิมๆ หน้าบ้านตัวเองเป็นแน่) ยิ่งช่วงนี้กระแสของการถ่ายรูปแรงมากๆ กล้องเทพกับฝีมือเทพ เวลาจัดท่าทางของ นางแบบนี่ คนอื่นอย่ามาเสร่อนะ ฉันรีบไม่ได้หรอก เพราะฉันเทพ!!!! แกก็เชิญต่อคิว ไปเถอะ ฉันเสร็จเมื่อไหร่ ค่อยมาถ่ายแล้วกัน ทีนี้ อะไรที่เป็นสัญลักษณ์ กรูถ่ายหมด ไม่ว่าจะเป็น ป้ายร้าน หลักกิโล ตู้ไปรษณีย์ รูปปั้น จักรยานเก่าๆ ที่จอดแล้วดูโคตรอินดี้ อะไรที่เค้ามีให้ถ่าย ถ้าไม่เก็บให้ครบ แสดงว่ากรูยังมาไม่ถึง และเพื่อนๆ อาจจะไม่รับ เข้าชมรมเมพกล้องก็เป็นได้ สิ่งที่คาดหวังไว้เวลากลับมาจากเที่ยวที่ไหนของเทพกล้องก็คือ เวลาไปโพสต์ใน FB หรือ ตามเว็บบอร์ด และตามคลับต่างๆ อยากได้คำประมาณว่า "ถ่ายรูปสวยจังค่ะ" "ฝีมือพี่ติ๊ก ยังเจ๋งเหมือนเดิมเลยนะครับ" "รูปนี้ได้ฟีลลิ่งมากมาย" ฯลฯ จริตที่สำคัญอีกประการนึง ก็อย่างที่ข้างบนบอกไปน่ะแหละครับ สถานที่ท่องเที่ยวที่ฉันคิดว่า มันฮิบ มันชิล สำหรับฉัน ห้ามมีความเจริญเด็ดขาด จงอยู่แบบโบราณๆ ต่อไป รอให้ฉันไป เที่ยวปีละครั้งสองครั้ง ฉันจะได้ไปสัมผัสชีวิตเบๆ บ้าง ขืนมีเซเว่น มีโลตัส อะไรแบบนี้ แล้วฉันจะไปสัมผัสชีวิตรากหญ้าที่ไหนล่ะ เพราะฉะนั้น จงเหมือนเดิม แกจะลำบากลำบน ยังไง ฉันไม่สนหรอก ต้องอนุรักษ์ให้ฉันไปเที่ยวปีละสองครั้ง และกลับไปแล้วต้องเหมือน เดิมนะ จำไว้ๆ ส่วนของคนต้นเรื่องที่ จขกท. นำมาโพสท์ ผมดูแล้วก็คิดว่าน่าจะเป็นคนพื้นที่นะครับ เพราะ มีการพูดถึงการประชุม อบต. อะไรนั่นด้วย นักท่องเที่ยวทั่วๆ ไปคงไม่รู้เรื่องนี้หรอก (หรือจะบอกว่าไม่สนใจดี) และเขาก็มีสิทธิมีเสียงทุกประการในการร่วมกันกำหนดทิศทาง ที่เมืองนี้จะเป็นไปในอนาคตครับ คาดว่าผมอาจจะโดนถล่มเละไม่มีชิ้นดีก็ได้ ยังไงๆ ช่วยเพลาๆ มือหน่อยแล้วกัน ผมไม่ได้ จะมาทะเลาะกับใคร แค่แสดงความเห็นส่วนตัว ผิดถูกยังไง ก็แย้งกันแบบมีเหตุและผล แล้วกันนะครับ จากคุณ : The Ghost Buster เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 23:26:22

ความคิดเห็นที่ 81 ขออนุญาติแตกประเด็น เชิญมุดตู้ลิ้นชักตามมาครับผม จากคุณ : 18rain เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 23:30:59

ความคิดเห็นที่ 82 คนที่บอกว่าไปแล้วเชียงคานไม่เหมือนเดิม อย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าอยากให้เชียงคานเหมือนเดิม ช่วยกันไม่ไปเที่ยวเชียงคานดีมั้ยครับ ผมคิดอย่างนั้นจริงๆนะ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 00:02:23 จากคุณ : Ganja เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 23:55:12

ความคิดเห็นที่ 83 เราเป็นคนหนึ่งที่ไปเชียงคานมาแล้วสองครั้ง ห่างกันประมาณปีกว่าๆ สารภาพว่าครั้งแรกกับครั้งที่สองความรู้สึกก็ไม่แตกต่างกันมาก เพียงแต่สังเกตว่าร้านค้าเยอะขึ้น คนเยอะขึ้น จริง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกดีดีในเมืองนี้ลดลง คนท้องถิ่นยังคงใจดี มีน้ำใจเหมือนเดิม ส่วนคนต่างถิ่นก็มาเพิ่มสีสันให้เมืองมากขึ้น ก็เท่านั้น     เพราะการเที่ยวในแต่ละครั้งเราไม่ได้คาดหวังให้มันเป็นไปตามที่เราคิดไว้ หรืออยากให้เป็น แต่เรามักจะคิดว่า เราได้ออกไปดู ไปเจอ สิ่งต่างๆที่แปลกไป สนุกดีนะคะ ปล. รักเหมือนเดิมนะเชียงคาน แต่เห็นเซเว่นแล้วแอบหวั่นใจ 555+ จากคุณ : bluestarfish เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 00:53:56

ความคิดเห็นที่ 84 จะพยายามไม่คิดถึงตรงจุดนั้นแล้วกัน ถ้าได้ไป จะคิดแค่ว่าเชียงคานยังไงก็เป็นเชียงคานวันยังค่ำ มันไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนไปตรงไหนเลย จะคิดแค่นี้แล้วกัน! เพราะถ้าคิดแล้วจะซึมซับบรรยากาศของที่นั้นไม่เต็มที่ จะไม่คิดถึงจริงๆ นะ ถ้าได้ไปจริงๆ!!! จากคุณ : ดินแดนแห่งเจ้าตัวร้าย เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 02:48:18

ความคิดเห็นที่ 85 ต่อไปต้องไปเที่ยว บ่อเกลือ น่าน แล้วมั้ง เงียบสงบจนวังเวง จากคุณ : 9111 (tum911) เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 02:59:41

ความคิดเห็นที่ 86 ยังไม่เคยไปเชียงคานค่ะ  และต้องได้ไปแน่ๆ เชียงใหม่ เชียงราย โอ้ยยังไม่เคยไปเลย ปาย อัมพวา ไม่ว่าจะมีเซเว่นหรือไม่ ก็จะไป พัทยา ใกล้ๆกรุงเทพ ไปมา ไม่รู้กี่ครั้ง ก็ยังอยากจะไปอีกค่ะ จากคุณ : นิรันดร ศรสวรรค์ (enduresexy) เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 04:10:53

ความคิดเห็นที่ 87 เราว่าบางคนก็คิดเยอะไปเรื่องจริตคนเมืองนะคะ การพัฒนาของเชียงคานนั้น พัฒนาได้ไม่มีใครว่า แต่จะพัฒนาไปทางไหน คนเชียงคานต้องเลือกเอง คนไปเที่ยวคงได้แต่บ่นๆ แล้วก็...ง่ายๆ...ไม่ถูกใจก็ไม่ไปต่อ หลายคนไปเที่ยวครั้งเดียวจอด ยิ่งเจอกันพัฒนาที่ไม่รู้ว่าคนไปเที่ยวจะไปทำไม เพราะคล้ายในกรุงเทพเข้าไปทุกที ก็ซื้อใจเขาได้ครั้งเดียว อย่าลืมว่าที่คนเชียงคานรวยขึ้นมีเงินสะพัดขึ้นนั้น มาจากพื้นฐานดั้งเดิมของเชียงคานที่ทำให้คนไปเที่ยว จะโทษคนไปเที่ยวไม่ได้ เพราะในเมื่อ เชียงคานบอกตัวเองไปแล้วว่า เป็น...สถานที่ท่องเที่ยว.... จะไม่ยอมรับ และหาว่าจริตคนเมืองเข้าไปปรุงแต่งคงไม่ได้ เชียงคานต้องเลือกพัฒนาเพราะถ้าคุณประกาศว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่จะพัฒนาแบบไหน.... -นักท่องเที่ยว ชอบถ่ายรูปกับบ้านเก่าๆ ธรรมชาติที่ในเมืองไม่มี เชียงคานขายได้กับตรงนี้ แต่ปัจุบัน..... มีคนตั้งของขายบดบังทัศนียภาพที่จะได้ถ่ายรูปยามเย็น ยามกลางคืน จุดขายเชียงคานจึงเปลี่ยนไป... คนไปต้องการแบบนี้แต่เชียงคานกลับเอาแผงขายของมาตั้ง แขวนเสื้อผ้าวางราวตากผ้ากันรุงรัง -ของขาย เชียงคานเป็นเมืองที่มีของดีมากมาย แต่ตอนหลังเหมือนซื้อของสำเพ็งไปตั้งวางขาย น่าจะมีอะไรที่ควรพัฒนาที่เป็นของตัวเองดีกว่า ทำของที่ระลึกแบบสไตล์เชียงคานเก๋ๆมาขายน่าจะดีกว่า -ทางเดินริมแม่น้ำ เป็นสิ่งหนึ่งที่ควรอนุรักษ์ไว้มากๆ เพราะเป็นสถานที่เปิดปอดยามเช้ากับสายหมอกหนา ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปได้วิ่ง แต่กลับกลายเป็นบาร์เบียร์ร้านเหล้า ร้านอาหาร อีกไม่นานก็คงเหมือนกับพัทยา หัวหิน กาญจนบุรี และหลายๆที่ ที่มีผู้หญิงมานั่งเชียร์ฝรั่งหน้าร้าน เชียงคานต้องคิดให้ได้ว่า สิ่งที่ทำให้เชียงคานขายได้คืออะไร ให้คงจุดนั้นไว้และพัฒนาวัฒนธรรมไทย-อีสานเพิ่มลงไป... การตักบาตรข้าวเหนียวนั้น ต้องเข้าใจว่าคนไม่เคยก็แปลกใจเป็นธรรมดา ตอนเราไปบ้านแฟนที่อีสานเราก็ตื่นเต้นมาก และชอบมาก... ยังคุยกับแฟนเลยว่าอยากทำเกสต์เฮาส์กลางทุ่งนาเขียวๆ ใช้เถียงนาเป็นซุ้ม แฟนเราบอกว่าต้องไปดูก่อนว่าที่อำเภอมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง ต้องทำโน่นนี่นั้น เมืองมันไม่เจริญ เราบอก เฮ้ย เราขายธรรมชาติ ขายความโล่งของปอด ขายวัฒนธรรมและความเงียบสงบให้คนที่อ่อนล้าจากในเมืองมาพักผ่อน จะไปทำให้ยุ่งยากทำไม... เราว่าเชียงคานตอนนี้ก็คงไม่ต่างจากแฟนเรา ที่คิดแต่ว่าจะหา 'ของ' มาขายเพิ่มทำให้มันเปลี่ยนแปลง ทั้งที่ มี 'ของ' อยู่แล้ว....แต่ไม่ได้ใช้ให้เป็นประโยชน์ กลับลืมเลือน 'ของ' ในมือที่ตัวเองมีอยู่ เชียงคานก็เหมือนหนังเรื่องหนึ่ง ถ้าคุณไม่มีพล็อตคุณก็ขายมันไม่ได้... คนดูก็ดูผ่าน ไม่มีอะไรน่าจดจำ บอกได้แต่ว่ากรูดูมาแล้ว ก็งั้นๆ.... แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 09:29:20 จากคุณ : ปลายปัญญา เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 09:24:55

ความคิดเห็นที่ 88 ้-ซ้ำ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 09:28:29 จากคุณ : ปลายปัญญา เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 09:28:01

ความคิดเห็นที่ 89 ทำไมต้องเชียงคานล่ะ ???? อย่างที่เพื่อนสมาชิกหลายๆ ท่านบอก ที่อื่นในภาคอีสานก็มีตักบาตรข้าวเหนียว เยอะแยะไป ทำไมต้องเชียงคานเท่านั้น อยากสัมผัสวิถีชีัวิตชาวบ้านเหรอ ผมเคยไปทอดกฐินอยู่ อ.พรเจริญ หนองคาย อยู่ 3-4 วัน อันนั้นชาวบ้านเหมือนกันครับ ไม่ fake ตื่นกันตั้งแต่ตี 4 ตี 5 เพื่อไป ไร่ไปนา แล้วเข้านอนกันตั้งแต่ 2-3 ทุ่ม นั่นน่ะโคตรจะชาวบ้านจริงๆ เลย มีพระ มีวัด มีทุ่งนา มีโคกระบือ มีร้านอาหารตามสั่งง่ายๆ มี otop หมู่บ้านที่ขายผ้าไหม ทอมือ มีสหกรณ์ชุมชน มีร้านกาแฟเล็กๆ บรรยากาศสบายๆ อากาศตอนเช้าๆ สดชื่นบริสุทธิ์ และเย็นมากๆ พูดออกมาเป็นไอน้ำเลย ฯลฯ แต่คุณอยากไปที่นั่นหรือเปล่า ? ถ้าคำตอบคือ "ไม่" งั้นเพราะอะไรล่ะครับ - เพราะมันไม่มีที่พักเท่ๆ เก๋ๆ - เพราะมันไม่มีมุมถ่ายรูปคูลๆ - เพราะเวลาโพสท์ลง facebook แล้วมันไม่มีคนรู้จัก - หรือเพราะมันบ้านเกิน ??????????????????? ลองตอบคำถามเหล่านี้ดูนะครับ เผื่อเราจะได้ตอบตัวเองได้ว่า ลึกๆ แล้ว เราเป็น นักท่องเที่ยวประเภทไหนกันแน่ (ส่วนผมได้รับคำตอบแล้วล่ะ) จากคุณ : Alessandro เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 09:29:07

ความคิดเห็นที่ 90 89... - เพราะมันไม่มีที่พักเท่ๆ เก๋ๆ - เพราะมันไม่มีมุมถ่ายรูปคูลๆ - เพราะเวลาโพสท์ลง facebook แล้วมันไม่มีคนรู้จัก - หรือเพราะมันบ้านเกิน ??????????????????? เราว่าไม่เสมอไปหรอกค่ะ เพราะไม่มีคนไปบุกเบิกต่างหาก.... ลองมีคนไปสิคะเดี๋ยวก็มีคนตามไป... ถ้าคิดแบบคนต่างจังหวัดบ้านเดียวกับคุณ ก็คงคิดเหมือนคุณ เราก็คิดเฮ้ย...บ้านแฟนก็มีตักบาตรข้าวเหนียวนี่หว่า... แต่...เพราะยังไม่มีใครไปเที่ยวแล้วมาโพสนำทาง คนเมือง หรือคนต่างถิ่นที่ไม่ใช่อีสาน เขาไม่รู้หรอกว่าเมืองไหนมีอะไรบ้าง.... เขาก็ต้องมาเสิร์ชอินเตอร์เน็ต หรือหาหนังสือท่องเที่ยวมาอ่าน อย่างอุทัยธานี เมืองเล็กๆที่แทบไม่มีอะไรเลย ถ้าไม่ได้ห้วยขาแข้งคงไม่มีใครรู้จัก สมัยก่อนเรียกเมืองลับแลด้วยซ้ำ เพราะไม่ใช่ทางผ่าน ถ้าจะไปก็คือไป พอมีคนไปแล้วมาเล่า มาโพส คนก็เลยตามไปเที่ยวกัน... ดังนั้นเชียงคานเองต้องเข้มแข็ง... รักที่จะีัรักษาวัฒนธรรมของตัวเอง อนุรักษ์ในความเรียบง่าย... ที่เคยดำรงอยู่มานานแสนนาน พัฒนาได้แต่ต้องพัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่ใช่พัฒนาจนกลายเป็นตลาดนัดรกรุงรัง หรือเป็นแค่บาร์เบียร์ริมน้ำ... จากคุณ : ปลายปัญญา เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 09:38:39

ความคิดเห็นที่ 91 เรื่องก็เกิดเพราะคนทั้งนั้น ส่วนใหญ่จะเกิดเพราะคนไปเที่ยวเสียด้วย จากคุณ : จูหน่านพ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 09:48:35

ความคิดเห็นที่ 92 แทนที่จะไปห้ามคนไม่ให้เชียงคาน ผมว่า....   หาสถานที่ให้เพียงพอต่อจำนวนนักท่องเที่ยวไม่ดีกว่ารึครับ ตำบลใกล้เคียง อำเภอใกล้เคียง หรือจังหวัดอื่นๆ ผมว่าคงมีอีกหลายที่แหละที่บรรยากาศใกล้เคียงกัน  ขยายๆกันไปสิ ต่างจังหวัดอ่ะ บรรยากาศแบบปายแบบเชียงคานอ่ะเยอะแยะ เงียบๆเหงาๆอ่ะ ไมไม่ไปกัน 5555+ เลยอ่ะ...  เดิมมันก็แค่จังหวัดที่คนไม่ค่อยผ่านกัน มันเลยเงียบไม่ใช่รึ !? จังหวัดอย่างที่ว่าอ่ะเยอะแยะ เปิดแผนที่ประเทศไทยดูสิ  จังหวัดไหนที่ทางสายหลักอย่างถนนเอเชียไม่ได้ตัดผ่านตัวเมืองอ่ะ  เงียบๆ เหงาๆ แบบนี้ทั้งนั้น ไมไม่ไปกัน  งงจริง!? จากคุณ : ฟาฬ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 09:55:24

ความคิดเห็นที่ 93 ต้องไปแยกให้ออกก่อน  กับคำว่า "ท่องเที่ยว"  กับ "พักผ่อน" เชียงคาน  เป็นเมือง พักผ่อน  ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว  แต่ตอนนี้เริ่มจะเป็นเมืองท่องเที่ยวไปแล้ว ปาย ก็เหมือนกัน  อดีต คือเมืองพักผ่อน   ไปนั่งเล่น นอนเล่น เดินสบายๆ  แต่ตอนนี้มันไม่มีอีกแล้วนะ ผมเชื่อว่า มันมีจุดกึ่งกลางของคำว่า ธุรกิจความเจริญ  กับ อนุรักษ์ ถึงมันจะทำยาก  แต่สมควรต้องทำ จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 10:12:55

ความคิดเห็นที่ 94 อย่างคุณปลายปัญญาพูดนี่แหล่ะถูกต้อง คุณจะวางแผนให้เมืองของคุณเป็นเมืองท่องเที่ยวคุณต้องรู้จุดขายของคุณก่อน ว่าคนที่เขามาเที่ยวนั้นเขาต้องการมาดูอะไร การที่ตากล้องไปถ่ายรูปประตูบ้านเก่าๆ หรือบรรยากาศริมแม่น้ำโขงมาโพส เพราะชื่นชมในความสวยงามของภาพที่เขาไปพบเห็นแล้วประทับใจ คนที่คิดว่าคนกรุงจริตเยอะไรงี้เป็นการเหมารวม เหมือนคนโลกแคบเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางเกินไปรึเปล่า ถามคนอื่นไหมคะ ว่าเขาคิดแบบคุณหรือเปล่าอย่าเหมารวม เราเป็นคนบางบัวทอง เมื่อ 20 ปีก่อนโครตบ้านนอกเลย มีแต่ไร่ผัก โรงเจ ตลาดเก่า คลอง ใครมาบางบัวทองรอรถกันเป็นชั่วโมง มีรถเมล์ผ่าน 2 สาย ความเจริญเข้ามาเราสะดวกสบายขึ้นเราก็ยินดีค่ะ ไรผักก็ยังมีอยู่แต่พอวัดบรมราชามาเปิดไม่กี่ปีที่ผ่านมา คนหลั่งไหล กันมา ไร่ผักโดนขายถมเป็นที่จอดรถ พื้นที่หน้าวัดจีนมีคนจากที่ต่างๆมาเช่าเปิดร้านอาหาร ร้านกาแฟ  รถติดยาวทุกเสาร์ อาทิตย์ เพราะถนนแค่ 6 เลนในตัวชุมชนไม่ได้เตรียมรับการขยายตัวอย่างรวดเร็วแบบนี้เราใจหายมากเมื่อเห็นโลตัสตั้งอยู่บนถนน 6 เลน รถมันจะติดขนาดไหน ความเจริญมันต้องมีการวางผังเมืองเพื่อรองรับ ไม่ใช่จับไรไปยัดๆไว้ ปัญหาเกิดขึ้นเพราะเราคิดเอาแต่วันนี้เรารวยเราสบาย แต่ไม่ได้คิดไปยาวมาจะเติบโตในวิถีทางแบบไหน ถ้าเชียงคานเหมือนปาย เหมือนอัมพวา นักท่องเที่ยวกลุ่มเดิมก็จะกลับมาบอกว่าไม่เห็นมีอะไรเลยแล้วก็หาที่เที่ยวใหม่ๆถ่ายรูป แล้วคนก็จะแห่ตามไปสร้างความเจริญให้ที่อื่นต่อไป พอไม่ค่อยมีใครไปชาวบ้านจะทำอะไร ทำเกสเฮ้าท์ขายใคร ก็กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม จากคุณ : พ่อยิ่งใหญ่เหมือนภูเขาเราจะตาม เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 10:42:24

ความคิดเห็นที่ 95 กลับบ้านนอกเราดีกว่า บ้านใครบ้านมัน บรรยากาศดีด้วย จากคุณ : MissUniverseHana เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:15:24

ความคิดเห็นที่ 96 เป้าหมายต่อไปของพวกดัดจริต คือ... น่าน เริ่มมีสัณญาณแปลกๆออกมาจากน่าน นักท่องเที่ยวแปลกๆ เริ่มมาเยอะขึ้น พวกที่มาแรกๆก็ดีอยู่หรอกนะ แต่กลัวพวกดัดจริตจะตามมาบ่นอีก หยุดทำร้ายน่าน น่านเปลี่ยนไป น่านไม่เหมือนเดิมแล้ว ดีใจที่เคยไปน่านแบบเก่า นี่ไม่ใช่น่านที่ผมรู้จักอีกต่อไปแล้ว จากคุณ : King Bamboo เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 12:08:50

ความคิดเห็นที่ 97 เห็นด้วยกับ จขกท. ผมเป็นคนหนึ่งที่ไปเชียงคานแล้วหลงเสน่ห์ของที่นั่น ประทับใจในความเอื้ออาทรในวิถีชีวิตของคนที่นั่น ความเจริญเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ แต่...หากขาดการควบคุมดูแลให้เป็นไปในทางที่ถูกต้อง   จะเป็นการทำลายเชียงคานซะมากกว่า หากคนเชียงคานเองยอมให้เงินที่คนต่างถิ่นเอามาหว่านลงไป ซื้อความเป็นเชียงคาน  แล้วเอาธุรกิจใส่ลงไป หรือคนเชียงคานเอง ไม่ใส่ใจที่จะรักษาความเป็นเชียงคานเอาไว้ เชียงคาน...ก็จะจบลงด้วยตัวเอง แล้วถึงวันนั้นคนเชียงคานจะไปทำอะไร จากคุณ : Mariner (guntus1962) เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 12:56:45

ความคิดเห็นที่ 98 สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่ยังไม่ค่อยนิยมในตอนนี้ ลองไปเที่ยวแล้วถ่ายรูปมาเยอะ ๆ เด๋วมันก็สร้างกระแสเอง คุณเริ่มก่อนแล้วจะมีคนตามคุณไปเองนั่นแหละครับ จากคุณ : ไม่มีจะเสียแล้ว เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 14:49:26

ความคิดเห็นที่ 99 #80 โลกทัศน์แคบจังครับ คิดแบบเหมารวมเบ็ดเสร็จเลย หรือเขียนเอามันส์อย่างเดียว   ผมไปเที่ยวที่ไหน ผมก็อยากได้บรรยากาศแบบนั้นสิครับ ไม่งั้นจะไปทำพระแสงของ้าวทำไมครับ จะไปกินสเลอปี้ ดูหนัง3D อยู่กรุงเทพผมก็ทำได้ครับ ตักบาตรข้าวเหนียวไม่ได้บุญมากกว่าที่อื่นหรอกครับ แต่เป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยทำกันครับ   ผมไม่ได้บอกว่า เฮ้ย ห้ามเปลี่ยนนะเฟ้ย เดี๋ยวตรูมาเที่ยวแล้วจะไม่เหมือนเดิม ชาวบ้านแถวนั้นจงลำบากต่อไป เพียงแต่เรามาช่วยกันคิดครับหรือหารือกับชาวบ้านว่าจะเปลี่ยนไปยังไงโดยที่ไม่กระทบกับวัฒนธรรมและประเพณี บางเมืองในต่างประเทศถึงกับกำหนดสีของตึกรามบ้านช่องใ้ไปในโทนเดียวกันก็มีครับ   อีกเรื่อง เรื่องถ่ายรูป อันนี้โลกทัศน์แคบของจริงเลยครับ คุณThe Ghost Buster ผมว่าไอ้ที่ถ่ายแบบไม่เกรงใจคนอื่นที่กำลังรอ ไม่ได้เกี่ยวกับขนาดกล้องเลยครับ พวกที่ใช้คอมแพค มือถือก็เป็นครับ มันขึ้นกับกมลสันดานมากกว่าครับ ส่วนเรื่องที่โพสต์กับตามคลับหรือเวบบอร์ดเพื่อต้องการได้คำชมแบบที่คุณว่านั้น ถามจริงๆ "เคยเข้าไปอยู่ในสังคมนั้นมาแล้วเหรอครับ" ที่เอามาโสต์กันหลักๆคือให้เพื่อนๆ ช่วยวิจารณ์กันครับว่ารูปนี้ดีหรือไม่ดี องค์ประกอบภาพเป็นไงบ้าง แสงดีมั๊ย พวกนี้เค้าอยากได้คำติกันจะตายครับ จะได้พัฒนาฝีมือกัน ส่วนพวกที่ถ่ายมันซะทุกอย่าง โทษนะครับ มันเป็นสิ่งต้องห้ามเหรอครับ หรือว่าแค่ขัดนัยน์ตาคุณ ไปกำแพงเมืองจีนไม่ถ่ายกำแพง ไปปารีสไม่ให้ถ่ายหอไอเฟล จะให้ถ่ายปลาตายในคลองเหรอครับ จากคุณ : UK27MAY เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 22:21:29

ความคิดเห็นที่ 100 89 ครับ .. อย่าไปบอกเค้าสิครับ เด้วก็ยกขโยงตามไปกันอีกหรอก ปล. เส้นทางที่คุณว่านั้นวิถีชีวิตแบบธรรมชาติยังมีอยู่จริงๆครับ จากคุณ : pipeep เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 23:33:07

ความคิดเห็นที่ 101 100. บ้านเราเองค่ะ ยังคิดว่า มาเที่ยวอะไรกันฟระ... - -" อ่านรีวิวที่คนไปเที่ยวมาก็เคลิ้มๆ แต่เฮ้ย อุทัยธานีนี่นะ หน้าร้อนก็ร้อนเหลือใจ หน้าฝนก็ตกแทบทุกวัน หน้าหนาวควันออกปาก ไปดูรีสอร์ทแต่ละที่ก็แพงมากๆ แพงเกินไป ทั้งที่ในตัวจังหวัดมีที่เที่ยวเด่นๆ แค่ 2-3 ที่เท่านั้น ซึ่งเป็นวัดทั้งสามที่ หลวงพ่อฤษีลิงดำ ท่านถึงสร้างวัดท่าซุงไงคะ ท่านกลัวไม่มีคนมาเที่ยวที่จังหวัด ท่านอยากช่วยให้คนอุทัยไม่อยู่แบบลับแลต่อไป และจะได้ช่วยให้มีเงินเข้าในอุทัยบ้าง เห็นเอารูปตลาดมาลง เราอยู่หลายจังหวัด ก็ไม่ต่างกับตลาดเช้าต่างจังหวัดเท่าไหร่ ทีนี้เรามาอยู่กรุงเทพแล้วตอนนี้ ตอนคนฮิตเชียงคาน เราก็เอ๊ะมีที่เที่ยวอะไรบ้าง ดูรีวิว ก็อืม กลับอุทัยธานีบ้านเราดีกว่า หรือไม่ก็ไปนครพนมบ้านแฟน ได้บรรยากาศเหมือนกัน แต่อุทัยต่างจากเชียงคานนะ เพราะมี 7-11 มานานแล้ว 5555 อยู่จริงๆก็มีแว๊นบอย สก๊อยเหมือนทุกที่นั่นแหละ ก็เลยเข้าใจว่าคนในกรุงเทพหาที่่พักสงบๆบริสุทธิ์จริงๆยาก เลยไปเที่ยวให้สบายใจ... จะมีจริตบ้างก็เถอะ แต่บางคนเขาอยากไปเที่ยวจริงๆก็มีเยอะ แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 09:01:11 จากคุณ : ปลายปัญญา เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 09:00:51

ความคิดเห็นที่ 102 หลังจากที่ผมไปปายตั้งแต่ปี  38  42  45  48  52  เห็นความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างและก็เละดังปัจจุบัน และด้วยพล๊อตเรื่องเดียวกันที่เชียงคานก็ไปมา  ตั้งแต่ช่วงเวลาที่เริ่มต้นและใกล้เคียงกับปาย  ก็คิดว่าเชียงคานน่าจะติดจรวดไปไม่แพ้กัน ผมคุยกับนายกเทศมนตรีเชียงคาน  ที่ขับ  Mu7  เคยทำงานเป็นผู้บริหารที่สหฟาร์มก่อนออกมาทำการเมืองถิ่น  เป็นคนคิดดี  ทำดี  ท่านก็รู้เรื่องเกี่ยวกับปายมาเยอะ  ท่านบอกว่าท่านจะดูแล  เชียงคาน  คุยเลยไปถึงเรื่องการออกกฎหมายเทศบัติ  การควบคุมด้วยคนเชียงคาน  รวมถึงวิธีการจัดการ   แต่ผมเตือนท่านว่า  ท่านต้องมีทีมงานทีเก่ง  ฉลาด  รอบรู้  และเอาจริงเอาจัง  ผนึกรวมชาวบ้าน  ราชการ  ร้านรวงดังเดิมให้ได้  ไม่งั้น  ท่าน  ทานกระแสกระสือ  ผีห่าที่มาหาผลประโยชน์กับเชียงคานไม่ได้แน่  แล้วคนที่จะเสีย  จะโทรมก็จะมีแต่ท้องถิ่นและคนเชียงคาน  การโดนทุนต่างถิ่น  เข้ามาเข้าข่มขืนทุกวี่ทุกวัน  มันเหมือนตายทั้งเป็นน่ะท่าน   ถ้าถามคนเชียงคานตอนนี้บอกไม่มีความสุขหรอก  ที่เห็นขายของกันโครมๆ  ได้เงินนั่นก็คนนอกพื้นที่ทั้งนั้น  แต่ขยะ  สิ่งปฏิกูลเค้าก็ทิ้งที่นี่  เอาเงินออกไปนอกพื้นที่  คนที่นี่ไม่ได้อะไร  แถมมีแต่คนแปลก  ดูประสาทๆกับดัดจริต  ไม่เหมาะสม(ชาวบ้านหมายถึง  พวกที่ติสๆ  แต่ตัวบ้าบอๆ  และโป๊)  มันดูไม่ดี  เด็กมันเอาอย่างตามอีก จากคุณ : รังสิตแมน (รังสิตแมน) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 14:17:18

ความคิดเห็นที่ 103 โชคดีที่ถ่ายภาพเก่าๆ  เก็บไว้  ก่อนที่ร้านรวงผีห่าจะมา จากคุณ : รังสิตแมน (รังสิตแมน) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 14:30:27

ความคิดเห็นที่ 104 อดีต  ร้านสองผัวเมีย  ที่โด่งดัง จากคุณ : รังสิตแมน เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 14:33:27

ความคิดเห็นที่ 105 รถใครเอย จากคุณ : รังสิตแมน (รังสิตแมน) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 14:37:42

ความคิดเห็นที่ 106 เมื่อก่อนก็เงียบๆ  ให้ความรู้สึกที่ดี(กว่าปัจจุบัน  ที่พวกชอบร้านผีห่า  ถ้าชอบร้านผีห่า  ก็อยู่กรุงเทพน่ะดีแล้ว  ไม่ต้องไป  ร้านผีห่าก็เจ๊งไปเอง  เมืองจะได้สงบ) จากคุณ : รังสิตแมน (รังสิตแมน) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 14:41:08

ความคิดเห็นที่ 107 พอแล้วกับอดีตที่ไม่อาจหันคืนกลับ จากคุณ : รังสิตแมน (รังสิตแมน) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 14:46:13

ความคิดเห็นที่ 108 สถานีต่อไปที่  ร้านผีห่า  และนักท่องเที่ยวเสพความดัดจริต  คือ  น่านครับ ตัวเมืองน่านนี่แหละครับ ประชากรน่าน  คุณพร้อมแล้วหรือยัง จากคุณ : รังสิตแมน (รังสิตแมน) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 15:08:56

ความคิดเห็นที่ 109 ชอบมาก....พวกผีห่า ขอให้เชียงคานก้าวเข้าสู่พลวัตรแห่งความเสื่อม ดังปาย/อัมพวา เร็วๆ นักท่องเที่ยวโหลยโท่ยไม่มา พวกผีห่าเจ๊งเร็วๆ สาธุ เชียงคานจะได้กลับมาสงบดังเดิม จากคุณ : jojo เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 10:33:39 A:125.24.221.130 X: TicketID:154400