Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
IAmATallPineTree ---จุดชมวิว “ป้อมปี่” (เขาแหลม) ..มุมเล็กๆจากทริป สังขละ ติดต่อทีมงาน

จุดชมวิว “ป้อมปี่” อุทยานแห่งชาติเขาแหลม

เส้นทางสังขละบุรี – ด่านเจดีย์สามองค์ – สะพานมอญ – ย่ำโคลนปากแม่น้ำ – จุดชมวิว ป้อมปี่ – อุทยานแห่งชาติเขาแหลม – น้ำตกไทยโยคน้อย

ยี่สิบสี่นาฬิกา กระเป๋าใบย่อม และถุงนอนสำหรับการเดินทางถูกเตรียมพร้อมแล้ว  เก้าโมงเช้าการเดินทางของพวกเราสามสาวก็เริ่มขึ้นที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่ พร้อมด้วยข้อมูลไม่กี่หน้าจากอินเตอร์เน็ต เป้าหมายของการเดินทางแบบ ”ถึก” และ ”กรอบ” ของเราในช่วงแรกก็คือการเข้าไปในตัวเมืองกาญจนบุรีเพื่อต่อรถไปยัง “สังขละบุรี”   บนรถทัวร์พวกเราได้พรรคพวกร่วมทางขึ้นอีกคนหนึ่ง เป็นสาวจีนจากมณฑลกว่างสีที่มาเรียนภาษาไทยอยู่ที่ราชภัฏอยุธยา ในครั้งนี้เธอใจกล้าแบกเป้เดินทางท่องเที่ยวคนเดียวโดยมีจุดหมายอยู่ที่สะพานข้ามแม่น้ำแควในตัวเมืองกาญจนบุรีแต่ก็ถูกพวกเราโน้มน้าวใจด้วยภาษาจีนปนไทยจนเปลี่ยนจุดหมายมาเป็นสังขละบุรีดินแดนสุดชายแดนไทยพม่าพร้อมกัน

พวกเราเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง  จากด่านเจดีย์สามองค์ไปยังสะพานมอญ จากอำเภอหนึ่งไปยังอีกอำเภอหนึ่ง และจากถนนเส้นหนึ่งไปยังถนนอีกเส้นหนึ่ง  บนเส้นทางของพวกเรานั้นนอกจากรถประจำทางแล้วเรายังได้รับน้ำใจของผู้ใช้ถนนที่ขับรถกระบะอีกหลายคันที่ยอมให้พวกเราสี่คนติดรถไปด้วย  และแล้วรถกระบะคันหนึ่งก็มาส่งพวกเราลงที่หน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ที่อยู่บนเส้นทางระหว่างทองผาภูมิ และตัวเมืองกาญจนบุรี  

การเดินทางไกลในระยะสองกิโลเมตรของพวกเรา จากอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ไปยังจุดชมวิว”ป้อมปี่” ที่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานนั้นเกิดขึ้นเพราะฝนที่ตกหนักก่อนหน้านี้ทำให้น้ำในอุทยานขุ่นจนไม่สามารถใช้ได้   พวกเราแบกเป้  ถือร่ม หิ้วถุงนอน เดินกันไปเรื่อยๆตามไหล่ทางทำให้ฉันได้นึกถึงบรรยากาศตอนไปเข้าค่ายลูกเสืออีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้เปลี่ยนจาก ”หัวหน้าหมู่” เป็นพี่ทหารรักษาอุทยานที่ออกเวรพอดีเลยร่วมทางมากับเรา  ถนนสายนี้ค่อนข้างเงียบนานนานทีจะมีรถกระบะที่ขับมาด้วยความเร็วผ่านไปซักคัน  พวกเราจึงได้สัมผัสกับธรรมชาติข้างทางอย่างใกล้ชิด พร้อมกับสายฝนปรอยๆ และยอดหญ้าสีเขียวที่ล้อเล่นอยู่กับสายลมอ่อนๆ  

จุดชมวิวป้อมปี่ ตั้งอยู่ในบริเวณของเขื่อนเขาแหลม ภายในจุดชมวิวมีต้นไม้สูงให้ร่มเงา และหลายต้นก็มีกล้วยไม้สีสวยออกดอกสะพรั่งอยู่  แต่สิ่งที่สวยงามที่สุดสำหรับที่แห่งนี้ก็คือท้องน้ำกว้างใหญ่ที่สะท้อนสีของท้องฟ้า และพระอาทิตย์ในยามสนธยา ในช่วงที่พระอาทิตย์ตกนั้นเองฉันได้รู้เลยว่าความสวยงามอยู่ใกล้แค่เพียงเอื้อม ท้องน้ำในตอนเย็นและบรรยากาศรอบข้างที่สงบเงียบลง ลมพัดอ่อนๆ เพื่อนของฉันสองคน ลงไปว่ายน้ำเล่นสนุกสนาน  น้ำเย็นสบายถึงแม้น้ำในบริเวณนี้จะลึกซักหน่อย แต่ทางอุทยานก็มีเสื้อชูชีพให้เช่า ทำให้ดูไม่น่าหวาดหวั่นจนเกินไปสำหรับผู้ปกครองที่จะพาลูกหลานมาเยี่ยมเยือน

พลบค่ำท้องน้ำด้านล่างเงียบสงบ ผู้คนต่างมานั่นที่หน้าเต้น ก่อไฟ จุดเตาถ่าน เตาแก๊ส ทำอาหารกินกันอย่างสนุกสนาน แต่ถ้ามีโอกาสได้นั่งเงียบๆ และมองออกไปในความมืดก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศของธรรมชาติ   “หิ่งห้อย” เจ้าดวงไฟน้อยๆ ที่บินระเรี่ยอยู่บนกอหญ้า ทำให้กลางคืนที่มืดมิดดูสวยงามและไม่เงียบเหงานัก

วันรุ่งขึ้น พวกเราตื่นขึ้นพร้อมๆกับแสงแรกของดวงอาทิตย์  พับผ้าเก็บถุงนอนที่ได้รับความอนุเคราะห์จากทางอุทยาน ก่อนที่จะลงมาหาซื้อข้าวกล่องที่ห้องอาหารของจุดชมวิว ในตอนแรกฉันนึกว่ามันจะมาในรูปแบบของกล่องโฟม  แต่ในวันนี้มันกลับเป็นกล่องที่ทำจากกระดาษและสามารถรีไซค์เคิลได้  ราคาอาหารบนนี้ไม่แพงอย่างที่คิด   ทั้งกระเพราไก่ไข่ดาวและข้าวไข่เจียวราคาไม่ต่างกับท้องตลาดทั่วไปนัก เราได้อิ่มอร่อยกับข้าวไข่เจียวฟูนุ่มไปพร้อมกับคำบอกเล่าของแม่ครัวบนอุทยานที่ว่า อาหารที่ขนมายากที่สุดบนอุทยานนี้ก็คือ “ไข่” นี่แหละที่ต้องระวังแตก  เพราะเส้นทางสายนี้คดเคี้ยวมาก

หลังจากได้เสบียงมื้อเที่ยงมาอยู่ในมือแล้ว พวกเราก็รีบไปยังจุดนัดพบที่เรานัดกันไว้กับพี่ชัช  คนเมืองชลที่สนใจมาเที่ยวกาญจนบุรี และบังเอิญได้พบกับพวกเราในตอนที่กำลังโบกรถจากด่านเจดีย์สามองค์เพื่อไปยังสังขละบุรี     ด้วยความบังเอิญทำให้พวกเราได้เดินมาเจอพี่เขานั่งยิ้มอยู่หน้าเต้นของเขาบนจุดชมวิวป้อมปี่อีกครั้ง พร้อมกับคำถามของพี่ที่ว่า “มากันได้ยังไง” เพราะคนส่วนมากที่มาที่นี้ร้อยทั้งร้อยมักจะขับรถมา  

พี่ชัชพาย้อนกลับไปส่งที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม น้ำตกกระเต็งเจ็ง พวกเราก็ได้เดินป่าขึ้นไปตามน้ำตกชั้นต่างๆ  ป่าหลังฝนตกนั้นชื้นมาก ลื่น แต่ก็ดูสดชื่น ต้นเฟิร์นเขียวสดที่ขึ้นปริ่มๆน้ำ เห็ดทรงต่างๆ ดอกค้างคาว พืชพันธ์แปลกๆอีกหลายชนิด แต่สิ่งที่ทำให้พวกเราจำการเดินทางครั้งนี้ไปได้อีกนานก็คือเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่มีชื่อว่า”ทาก”ที่ทำให้พวกเราได้มีโอกาสทำบุญทำทานโดยการบริจาคเลือด เรียกได้ว่าเป็นตัวสร้างสีสันของการเดินทางครั้งนี้ได้อย่างแท้จริง  หลังจากได้ชมน้ำตกชั้นที่สามจากทั้งหมดสามสิบหกชั้น พวกเราก็เดินทางกลับลงมา ในจังหวะที่พอดีทำให้สามารถอาศัยติดรถกระบะของอุทยานที่กำลังจะเข้าตัวเมืองพอดีไปยังจุดหมายต่อไปของพวกเรา “น้ำตกไทรโยคน้อย”…

ถ้าคุณกำลังมองหาธรรมชาติ ฟ้าสวย น้ำใส คำตอบคือจุดชมวิว “ป้อมปี่” แต่ถ้าคุณมากับเพื่อนซี้ที่ชอบผจญภัยอย่าลืมเพิ่มน้ำตกกระเต็งเจ็งไว้ในอีกหนึ่งทางเลือกของคุณ

ขอขอบคุณอุทยานแห่งชาติเขาแหลม
พี่ชัช-เพื่อนร่วมทางอีกมากมายที่ให้พวกเราได้อาศัย ”โบก”
และมิตรภาพจากผู้คนระหว่างทาง

จากคุณ : IAmATallPineTree
เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 20:51:19




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com