Sand Terrace Hut (ชะอำ) ชื่อนี้ต้องจดจำและบอกต่อให้เยอะๆ วันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา พวกเรา 16 คนเข้าพักที่บ้านพักของที่นี่ กว่าจะเข้านอนกันก็ประมาณตี 3 กว่าๆ ของวันที่ 20 ตื่นขึ้นมาประมาณ 7.00 น. ปรากฏว่าโดนขโมยขึ้นบ้านพัก สูญเงินสดและทรัพย์สินไปเกือบ 70,000 บาท ทั้งโทรศัพท์มือถือ นาฬิกา กล้องถ่ายรูป กล้องถ่าย DVD และอื่นๆ รวมทั้งเสื้อผ้าด้วย
พวกเรารวบรวมสติก็ไปแจ้งป้าแต๋ว (ผู้จัดการดูแลที่พัก) และโทรแจ้ง 191 รออยู่ประมาณ 30 นาที จนท.ตำรวจก็มา (ทราบภายหลังว่า สน.ชะอำ อยู่ใกล้ๆ ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีก็มาถึงได้) จนท.ตำรวจมากัน 2 คน คนหนึ่งนอนรออยู่ในรถ ส่วนอีกคนยศ ร.ต.อ. ลงมาจากรถก็เดินไปเดินมา ดูโน่นดูนี่รอบๆ นอกตัวบ้าน แล้วเอาโทรศัพท์มือถือส่วนตัว iPhone4 ขึ้นมาถ่ายรูป โดยไม่สอบถามอะไรและทำท่าจะกลับ สน. พวกเราเลยถามว่า คุณตำรวจ พอช่วยอะไรได้บ้างไหมครับ..?? ได้รับคำตอบแบบเรียบง่ายว่า พวกคุณอยู่ที่นี่ ยังทำอะไรไม่ได้ แล้วผมอยู่ที่ สน. จะช่วยอะไรได้ล่ะ พวกเราถึงกับอึ้งกับคำตอบของนายตำรวจยศ ร.ต.อ. คนนี้ จึงโวยวายไปว่าทำไมพูดแบบนี้
หลังจากเห็นพวกเราไม่ยอมให้ตำรวจปล่อยโจรง่ายๆ ก็เลยยังไม่กลับ สน. แล้วเข้าไปเดินดูในบ้านบ้าง (ถ้าไม่โวยวาย คงไม่เข้าบ้าน) พร้อมถามว่าของวางอยู่ตรงไหนบ้าง แล้วก็หยิบ iPhone4 ขึ้นมาถ่ายรูปอีก พวกเราถามว่าขั้นตอนต่อไปคืออะไร ตร.คนนั้นตอบว่า ผมทำอะไรไม่ได้ เดี๋ยวจะแจ้งไปทางฝ่ายสืบสวน อยู่ที่เพชรบุรี เดี๋ยวเขาคงมาประมาณเที่ยงๆ แหละ ขณะนั้นเวลา 8.00 น. ต้องรออีก 4 ชม.
พอดีเพื่อนร่วมทริปคนหนึ่งคุณพ่อเป็นผู้หลักผู้ใหญ่จึงโทรไปสอบถามว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง ผ่านไป 10 นาที ตร.คนนั้นรีบโทรมาบอกว่า ชุดสืบสวนกำลังมา น่าจะใกล้ถึงแล้วครับ ร่นเวลาได้จาก 4 ชม.เหลือแค่ 20 นาที ชุดสืบสวนมาชุดใหญ่เลย ตรวจสอบลายนิ้วมือกันใหญ่ (เหมือนที่เห็นในหนังฆาตกรรมเลย) หลังจากเสร็จแล้วก็บอกให้พวกเราไปปั๊มลายนิ้วมือที่ สน.ชะอำด้วย เพื่อเปรียบเทียบ พวกเราจึงพากันไปที่ สน. ปรากฏว่า ร.ต.อ. คนนั้นไม่อยู่แล้ว พอบอก จนท.ที่ สน. ว่ามาปั๊มลายนิ้วมือ งงกันทั้ง สน. ต้องเล่าให้ฟังตั้งแต่เริ่มใหม่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเราบ้าง แล้วก็นั่งรอปั๊มลายนิ้วมือ ระหว่างนั้นก็โทรหาป้าแต๋ว (ผู้จัดการดูแลที่พัก) ว่าขอเบอร์เจ้าของที่พัก เพื่อจะสอบถามความรับผิดชอบ ป้าให้เบอร์คุณแยมมา
หลังจากโทรไปคุยคุณแยมบอกว่าเป็นเจ้าของที่พักแต่ไม่ใช่เจ้าของ Sand Terrace Hut เป็นเพียงผู้ปลูกบ้านในบริเวณนั้น ถ้า Sand Terrace Hut เต็มถึงจะให้มาเช่าช่วงพักที่บ้านเขาได้ เราจึงขอเบอร์และโทรไปหาคุณเสาวลักษณ์เจ้าของ Sand Terrace Hut ปรากฏว่าคุณเสาวลักษณ์บอกว่าไม่เกี่ยวกันกับบ้านพักคุณแยม เป็นป้าแต๋วถือวิสาสะจัดการติดต่อคุณแยมให้บ้านเราพักเอง ต้องไปเอาผิดกับป้าแต๋วนั่น (แต่ตั้งแต่เริ่มพวกเราติดต่อผ่านที่พักของ Sand Terrace Hut ตลอดนะ เรื่องภายเป็นอย่างไรเราไม่รู้หรอก)
หลังเสร็จธุระที่ สน. ก็กลับมาคุยกับป้าแต๋วเล่าให้ฟังว่า พวกเขาโยนมาที่ป้าแล้วจะว่าอย่างไร ป้าก็ร้องห่มร้องไห้ บอกป้าไม่มีเงินไปชดใช้หรอก จับป้าส่งตำรวจเลยแล้วกัน อ้าวเป็นงั้นไป สุดท้ายทำอะไรไม่ได้จะไปฟ้อง สคบ. เรื่องก็คงไม่จบง่ายๆ จึงหาทางออกด้วยการขอค่าที่พักคืน และเก็บเป็นประสบการณ์ให้ระมัดระวังที่พักล่อแหลมประเภทนี้ไว้ให้ดี คิดอัตราที่พักตั้งคืนละ 5,000 บาท แต่รั้วรอบขอบชิดไม่มีเลย ยามก็ไม่มี แถมสามารถเข้าออกได้หลายช่องทางมาก หน้าต่างที่สภาพเหมือนโจรจะงัดเข้ามา เดิมทีเป็นเหล็กดัด ก็ถอดเหล็กดัดออกเหลือแต่โครงไว้ ดูน่าสงสัยมากจนไม่รู้จะสงสัยใครดีแล้ว โจรชะอำก็ใช้จุดเด่นเรื่องความเคร่งครัดสุดๆ ของตำรวจชะอำเป็นช่องทางปล้นจี้กันสบายอีกต่างหาก หลังจากมานั่งถกกันในกลุ่มก็พบจุดน่าสงสัยของที่พักที่นี่เยอะมาก เหมือนกับว่าจะเป็นขบวนการเลยทีเดียว ใครคิดจะไปพักที่นี่ ก็ลองพิจารณาให้ดีนะครับ
ปล.เรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนในออฟฟิศผมเองครับ..นั่งข้างๆ นี่แหละ ก็เลยอยากช่วยประชาสัมพันธ์หน่อย...
เพื่อนๆ บอกอ่านยาก เลยปรับให้อ่านง่ายขึ้น
แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 54 10:50:19
Sand Terrace Hut ชื่อนี้ต้องจดจำและบอกต่อให้เยอะๆ
