Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ประสบการณ์ล่าสุดที่ โรงแรม เทวัญดารา รีสอร์ทแอนด์สปา หัวหิน ติดต่อทีมงาน

ผมและภรรยา เดินทางถึงโรงแรมเทวัญดารา รีสอร์ท แอนด์ สปา หัวหิน เวลาประมาณ 4 ทุ่มของคืนวันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2554 และเข้าพักที่ห้องแบบ Garden Pool Villa หมายเลขห้อง 1051 โดยคาดหวังว่าจะได้พักผ่อนเต็มที่ก่อนที่จะมีงานสัมมนาของที่ทำงานของภรรยาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และต่อด้วยการไป Honeymoon ของเราสองคนในวันจันทร์ถึงอาทิตย์ หลังจากเก็บข้าวของ อาบน้ำ และเตรียมตัวจะเข้านอน ภรรยาของผมได้เดินไปที่ด้านหนึ่งของตู้เพื่อที่จะปิดไฟ โดยในห้องพักแบบนี้จะใช้ตู้ไม้กั้นห้องพักเป็นส่วนๆ และมีการติดตั้ง Switch ไฟไว้ภายในตู้ ทำให้แขกที่มาพักจะต้องเปิดฝาตู้ออกก่อน แต่อย่างไม่ทันคาดคิด ทันทีที่ภรรยาของผมยกฝาตู้ขึ้น เพื่อจะมองหา switch ไฟ ปรากฏว่าฝาตู้ที่สูงจากพื้นประมาณ 4 ฟุตได้เลื่อนหลุดออกมาจากบานพับ และตกลงบนเท้าซ้ายของภรรยาผมอย่างแรง ทีแรกผมเองก็ไม่ได้คิดว่าจะร้ายแรงอะไรมากกว่าเป็นแผลถูกกระแทกธรรมดา แต่พอเห็นว่าบาดแผลมีเลือดออก และสีหน้าของภรรยาผมก็บอกให้รู้เลยว่าเค้าเจ็บมากจนรู้สึกผิดปกติ จึงโทรเรียกเจ้าหน้าที่ของโรงแรมให้มาทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและให้ขับรถพาเราสองคนไปที่ รพ.ซานเปาโล หัวหิน ซึ่งผลการ X-ray ออกมาก็พบว่ากระดูกนิ้วเท้าซ้ายของภรรยาผมหักเป็น 2 ท่อนเลยทีเดียว


คุณหมอที่ โรงพยาบาลซานเปาโลฯ ได้แนะนำให้ผมและภรรยา เดินทางกลับกรุงเทพทันที เพื่อรับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทางกระดูก เนื่องจากคุณหมอเองเป็นแพทย์ทั่วไป ดังนั้นภายหลังจากที่เราเดินทางกลับมาที่โรงแรมในเวลาประมาณ 2:30 น. ก็ได้ตัดสินใจว่าเราต้องคงจะยกเลิกการไป Honeymoon ของเราไปก่อน แล้วเดินทางกลับกรุงเทพในช่วงเช้า ซึ่งไม่กี่ชั่วโมงต่อมาที่ รพ.ศิริราช คุณหมอได้ทำการรักษา และแนะนำให้ภรรยาผม งดการเคลื่อนไหวที่จะกระทบกระเทือนเท้าข้างซ้าย เป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ซึ่งทำให้การเดินทางไป Honeymoon ของเราต้องถูกยกเลิกไปเป็นที่แน่นอน


ความจริงผมก็ได้ส่ง email ไปตำหนิทางโรงแรมมาแล้วครั้งนึงเมื่อวันที่ 1 พ.ค. ผ่านทาง email ที่ให้ไว้ใน website อันเนื่องมาจากที่เราได้ทราบจากเพื่อนร่วมงานของภรรยาผมที่ยังอยู่สัมมนาต่อในวันที่ 30 เม.ย. - 1 พ.ค. ว่า มีเจ้าหน้าที่ของทางโรงแรมซึ่งไม่ทราบว่าเป็นตำแหน่งใดได้บอกกับเพื่อนร่วมงานของภรรยาผมว่า ทางโรงแรมจะรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นที่ รพ.ซานเปาโลฯ ให้ แต่เรายังคงต้องจ่ายค่าห้องพักตามปกติ ซึ่งคำพูดแบบนี้ ทำให้ผมไม่ค่อยพอใจนัก เนื่องจากพนักงานที่ขับรถพาเราสองคนไปที่ รพ. ก็ได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลไปแล้ว (ประมาณ 400 บาท) และทางเราสองคนเองก็ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายอะไรเลย เพราะกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บและการไป Honeymoon มากกว่า ที่สำคัญคือ ผมและภรรยาไม่ได้คาดหวังว่าการอยู่ฟรีกินฟรีกับรีสอร์ทไกลปืนเที่ยงแบบนี้ 1 คืนมันจะมีอะไรพิเศษตรงไหน หากทางโรงแรมได้ทราบว่าที่พักสำหรับการไป Honeymoon ของเราสองคนนั้นเป็นโรงแรมอะไร และตั้งอยู่ที่ไหน ก็คงไม่มาพูดเรื่องเงินในช่วงเวลาที่เราสองคนอยากได้แค่คำขอโทษจากเจ้าหน้าที่ระดับสูง เพราะต้นเหตุของเรื่องนี้ก็เห็นได้ชัดว่าเกิดจากการขาดการบำรุงรักษาห้องพักของทางโรงแรมเอง


วันที่ผมกำลังเขียนข้อความนี้ คือ คืนวันที่ 5 พ.ค. ซึ่งแปลว่าผ่านเหตุการณ์นั้นมาแล้วเกือบ 1 สัปดาห์ แต่ทางผมและภรรยาก็ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากทางโรงแรม นอกจาก "ได้ยิน" มาจากเพื่อนร่วมงานของภรรยาเพิ่มเติมว่า ก่อนที่คณะที่ไปสัมมนาจะเดินทางกลับ ทางเจ้าหน้าที่ของโรงแรมได้แจ้งมาอีกว่าจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลส่วนที่เราต้องจ่ายไปหลังจากกลับกรุงเทพฯ โดยให้เรา "ติดต่อกลับ" และส่ง "ใบเสร็จ" ค่าใช้จ่ายไป "เบิก" ที่โรงแรม แต่ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งที่่ทางโรงแรมก็ "น่าจะ" ทราบอยู่แล้วก็คือภรรยาของนั้นผมทำงานอยู่ที่ โรงพยาบาลศิริราช เราจึงไม่มีข้อกังวลใดๆเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และเรื่องที่โรงแรม"น่าจะ" ทราบอีกเรื่องจากพนักงานที่ขับรถพาเราไปส่งโรงพยาบาลก็คือ เราสองคนกำลังจะไป Honeymoon ต่อ ดังนั้นด้วยสามัญสำนึกของคนปกติ เจ้าหน้าที่ระดับผู้จัดการ หรือใครก็ตามที่ดูแลโรงแรมอยู่ ณ ขณะนั้น ก็น่าจะมารอพบเราตอนเช้าก่อนที่เราจะกลับกรุงเทพฯ ซึ่งปรากฏว่าไม่มี หรือไม่ก็ติดต่อเราโดยตรงหลังจากนั้น เพื่อกล่าวคำขอโทษ แต่ก็อย่างที่ผมและภรรยารอมาประมาณ 1 สัปดาห์แล้วก็คือ มีเพียงคน "ฝาก" มาบอกว่าให้เราส่งบิลไปเบิกเท่านั้นเอง


ปกติแล้วเวลาเราสองคนไปเที่ยวที่ไหน ก็ไม่เคยเรื่องมากอะไรกับการบริการที่พบว่าด้อยกว่ามาตรฐานเลย พูดง่ายๆก็คือเราไม่ค่อยบ่น มักจะทำใจกันเงียบๆสองคน แต่คราวนี้บอกตรงๆว่ามันเกินไปหน่อย หลายวันที่ผ่านมา แทนที่เราสองคนจะได้ไป Honeymoon ก็เลยต้องมาวุ่นวายเลื่อนตั๋วเครื่องบิน, โรงแรม, ทัวร์ ฯลฯ ซึ่งบางที่ก็เลื่อนได้ เพราะเป็นการไปเที่ยวนอกช่วง High Season แทน แต่บางที่ก็ต้องเสียค่าจองไปเปล่าๆ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ถ้าภรรยาผมไม่อยากวุ่นวายขึ้นโรงขึ้นศาล ป่านนี้ผมคงโทรหาเพื่อนที่เป็นทนายไปแล้ว เพราะความจริงผมก็เก็บหลักฐานต่างๆไว้เรียบร้อย


มาถึง ณ วันนี้แล้ว เราสองคนก็ไม่ได้คาดหวังอะไรจากใครอีก แค่เพียงอยากจะแชร์ประสบการณ์ที่เจอมาให้คนอื่นๆได้ทราบ และให้ทางโรงแรมได้รับบทเรียนด้วยว่า การทำธุรกิจในยุคที่ผู้บริโภคมี "ทางเลือก" และก็มีเครื่องมือที่ทำให้เรา "เสียงดัง" มากขึ้นนั้น คงต้องทำงานละเอียดลออมากกว่านี้บ้าง

จากคุณ : ธันวา
เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 12:15:01 A:180.210.216.74 X: TicketID:316173




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com