ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องที่เรื่องแรกเลย การแลกเงิน จากที่เคยอ่าน เคยถามหลายๆคน บางคนบอกว่าเอาเงินไทยไปแลกที่โน่นเลยง่ายกว่า บางคนบอกให้แลกเป็น US ก่อน บางคนบอกว่าเอาบัตร ATM Plus ไปกดจากตู้ได้เลย ฯลฯ หลากหลายความคิดเห็นครับ แต่พอถึงคิวของผมบ้าง ก็คิดอยู่นานว่าเอาไงดี ก็เลยเอาจากส่วนใหญ่ที่เคยอ่านเจอ คือให้แลกเป็น US ไว้ก่อน แล้วเอา US ไปแลกเป็นด่องจะดีกว่า เราตกลงใจแลกเงินจาก BKK. ครับ เรทวันที่แลก 1 US = 29.73 บาท เลยแลกไปกะว่าให้พอใช้ พอไปถึงโน่นก็ไม่ผิดหวังครับ เพราะพอมาคำนวณแล้ว 1 US ประมาณ 200,800 ด่อง แต่ถ้าเอาเงินบาทแลก หนึ่งบาทจะได้แค่ 640 ด่อง ซึ่งน้อยกว่าเยอะเหมือนกัน อันนี้ก็ฝากไว้เป็นข้อแนะนำแล้วกันนะครับ แต่ทางที่ดี คงต้องเช็คเรท ณ วันเดินทางจะดีที่สุดครับ จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 19:40:56

ความคิดเห็นที่ 2 ที่พัก เราเองเจอปัญหาว่าไม่ได้จองห้องพัก เลยต้องเสียเวลางมหาอยู่นานเหมือนกัน แนะนำว่าทางที่ดี ถ้ามีสัมภาระไปเยอะ จองไปเถอะครับ จริงๆในโฮจิมินห์ในละแวกเบ่นถานมีที่พักเยอะครับ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรือพวก guest house ราคาก็ไม่แพงมาก สำหรับผม ผมมองว่าเราไปเที่ยวส่วนใหญ่ก็ใช้เวลาอยู่ข้างนอกอยู่แล้ว โรงแรมไว้นอนกันอย่างเดียว เลยไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญมากนัก แต่ถ้าใครมีกำลังจ่ายสูงก็แล้วแต่เพื่อนๆได้เลยครับ บางท่านอาจจะอยากนอนสบายๆ มีอ่างน้ำอุ่นให้นอนแช่หลังเที่ยวกลับมาก็อาจจะเลือกโรงแรมดีนิดนึง สำหรับโรงแรม Liberty 3 ที่ผมไปพักคืนสุดท้าย ราคาอยู่ที่ 40 US ครับ ก็ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว ห้องดูสะอาดสะอ้าน พนักงานก็พูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก ไม่เหมือนที่เดืองอันห์ในดาลัตที่เราไปพัก พนักงานโรงแรมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยก็มี แถมปิดประตูโรงแรมตอนสี่ทุ่ม เราต้องโทรเรียกให้แกมาเปิดประตูให้ ตอนเช้าเราลงมา 7 โมงเพื่อหาของกินก่อนรถมารับ ประตูก็ยังไม่เปิด เลยต้องนั่งรอจนเจ๊ (เข้าใจว่าเป็นเจ้าของ) มาถึง เลยโทรเรียกเด็กเปิดให้ แกเดินขยี้หูขยี้ตาออกมาเปิด ฮ่าๆๆๆ ก็ขำๆดีครับ จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 19:50:20

ความคิดเห็นที่ 3 อินเตอร์เน็ท ส่วนใหญ่นะครับมากกว่า 70% ที่เราไปนั่งเล่นกัน มักจะมี wi-fi ให้ฟรี คือจริงๆก็ประมาณว่าไม่ได้ล็อคพาสเวิร์ดไว้นั่นแหละ แต่ถ้าเราไปใช้บริการที่นั่นอยู่แล้ว อย่างร้านกาแฟบางร้าน ก็ขอพาสเวิร์ดมาเล่นได้ฟรีเหมือนกันครับ ใครเอาไอแพด ไอโฟน หรือสมาร์ทโฟนไป ก็ไปนั่งเล่นได้ในระหว่างทำธุระได้ครับ อ้อ เกือบลืมบอก ที่สำคัญ เน็ทที่โน่นเข้า Facebook ไม่ได้นะครับ ไม่ว่าจะเข้าจาก wi-fi หรือ 3G ผมลองมาหมดแล้ว แต่สามารถใช้ 4Square เช็คอินได้....ก็ไม่รู้ว่าล็อคไว้เพื่ออะไร จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 19:53:39

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องโทรศัพท์มือถือ ผมเองตอนจะไปก็หาข้อมูลไว้เยอะเหมือนกัน รวมทั้งที่มาถามเพื่อนๆใน BP ส่วนใหญ่ที่แนะนำก็จะเป็น Viettel ครับ ก็เลยหมายมั่นปั้นมือมองแต่ Viettel อย่างเดียวเลย พอจะเดินออกจากประตูสนามบิน คุณนายไปแลกเงิน ผมก็เลยเดินหาซื้อซิมโทรศัพท์ ก็หยิบมาให้ดูหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น Mobifone, Viettel, Vinaphone แต่เราเล็งไว้แล้วนี่ ก็ถามคนขายว่าผมจะใช้แต่ 3G ไม่เน้นโทรต้องทำอะไรอีกมั๊ย แกก็บอกว่าไม่ต้องรีจิสเตอร์อะไรทั้งสิ้น ใช้ได้เลย ก็เลยซื้อมาซิมนึง 100,000 ด่องครับ คนขายบอกว่ามีเงินตั้งต้นอยู่แล้ว 115,000 ด่อง พอหันหลังจะกลับออกมา เพื่อนที่ไปตอนเช้าแล้วยืนรอเราอยู่ ตะโกนบอกว่าอย่าเพิ่งออกไป แลกซิมให้ก่อน พอหันหน้าไปมองปุ๊ป....น้ำตาจะไหลครับ มีโต๊ะของ Viettel มาแจกซิมฟรีอยู่ เซ็งเลย เลยรวบรวมเอาพาสปอร์ทเพื่อนๆไปขอแลกมาหลายซิมเหมือนกัน โดยเจ้าหน้าที่ขอแค่หมายเลขพาสปอร์ตไว้ ใครไปช่วงนี้ก่อนออกประตู จะอยู่ด้านขวามือนะครับ ไปรับได้ ระหว่างรับซิมก็ถามเรื่อง 3G เหมือนกัน แกก็บอกให้โทรไปเบอร์ Call Center ที่อยู่ข้างๆซองเพื่อขอเปิดใช้ 3G ได้เลย จะมี CC รับสายพูดภาษาอังกฤษได้ เราก็โอเค ง่ายดี พอมีเวลาว่างเอาซิมมาใส่ ปรากฏว่าโทรศัพท์ใช้ได้ แต่โทรไป CC ไม่มีใครรับสาย!!!! อ้าว ทำไงอ่ะทีนี้ เลยมั่วครับ หยิบการ์ดซิมมาดู ก็เป็นภาษาเวียตนามทั้งหมด แต่เห็นเขียนเลข 0000 แล้วมีเครื่องหมายให้โทรออก เลยลองทำดู มี SMS กลับมา ดีใจได้แป๊ปนึงก็สลดอีก เพราะเป็นภาษาเวียตนาม เลยต้องมั่วเอา เพราะถามคนแถวนั้น เค๊าก็ทำให้ไม่เป็นเหมือนกัน ดูใน SMS เดาเอาว่าให้กดอักษรอะไรซักอย่างไปที่เบอร์ 191 พอกดไปก็มี SMS  กลับมาอีกหลายอัน ดูเหมือนจะเป็นแพคเกจให้เลือก มีหลายแพคเกจครับ เดาสุ่มอย่างเดียว ว่าต้องกด MI80 น่าจะดีสุด เสียเงิน 80,000 ด่อง ใช้ได้ 1.5 GB. ภายใน 7 วัน (เดาแม่นซะด้วย เพราะตอนหลังหาคนแปลให้ เค๊าก็บอกอย่างนี้จริงๆ) ก็เอ้า ทำไป มี SMS กลับมาอีก แต่อ่านไม่ออก ไม่มีอะไรให้กดแล้ว แต่ทำไมตัว H ยังไม่ขึ้น เซ็งครับ เลยต้องต่อ wi-fi แถวนั้นเข้า google เพือหาว่าจะเซ็ท APN อย่างไร (เดาว่าต้องเป็นตรงนี้เพราะ IEC3G ในบ้านเราก็ต้องตั้งค่า APN เหมือนกันครับ) เกือบๆสี่ชั่วโมงตั้งแต่เริ่มทำ ผมเจอจนได้ ตามนี้นะครับ APN Name : VM3G APN : v-internet พอปิดเครื่องเปิดใหม่อีกครั้ง เย้.....มาแล้วครับ ได้ใช้แล้วสมใจอยาก ต้องบอกว่าผมได้ประโยชน์จากตรงนี้เยอะจริงๆ เพราะตอนนั่งรถไปดาลัต ผมสามารถเปิด Galaxy Tab ให้เป็น Access Point ให้เพื่อนๆในรถใช้เน็ทกันได้อย่างสบายใจ อ้อ เรื่องการโทร ผมลองเช็คค่าใช้จ่ายตลอดหลังจากมีการโทรทุกครั้งนะครับ โดยการกด *101# โทรออก ปรากฏว่าโทรฟรีครับ ไม่มีการหักเงินเลย เบอร์เพื่อนๆที่ขอฟรีไปเหมือนกัน ไม่มีเงินในซิมเลย แต่โทรได้ยันวันกลับ (ประมาณ 3 วัน) พอวันกลับอยู่ที่สนามบิน โทรออกไม่ได้แล้ว เลยเดาเอาว่าเค๊าอาจจะให้โทรฟรีได้ 3 วัน ไว้ใครไปอีกก็ลองดูนะครับ จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 20:11:10

ความคิดเห็นที่ 5 ลืมบอกไปว่าหลังจากกลับมาถึง อ่านเจอว่าเพื่อนๆบางคนบอกว่า Vinaphone ไม่ต้องตั้งค่าอะไรเลย ใส่ปุ๊ปใช้ได้เลย ไว้ลองคราวหน้าแล้วกันเน๊าะ จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 20:13:42

ความคิดเห็นที่ 6 อาหารการกิน สี่วันสามคืนในเวียตนาม จะว่าไปแล้วเรื่องอาหารก็ต้องเรียกว่าพอทานได้นะครับ แต่ไม่ค่อยจะถูกปากซักเท่าไหร่นัก รสชาดค่อนข้างออกไปทางจืด มัน เค็ม ที่ทานได้แน่ๆเห็นจะเป็นเฝอครับ ร้านเฝอ 24 ที่มีเพื่อนๆรีวิวไว้ก็แวะไปทานมาแล้วครับ อร่อยใช้ได้ แต่อย่างที่บอกคือจืดไปนิด ถ้าได้พริกป่นซักสองช้อนก็จะแจ่มมากกว่านี้ เวลาเดินเข้าร้านอาหาร วิธีที่ผมใช้คือเดินไปดูโต๊ะโน้นโต๊ะนี้ครับ ว่ามีอะไรน่าทาน เค๊าสั่งอะไรกันเยอะ ก็มีหันมามองหน้าเหมือนกัน ประมาณว่าจะมาดูกรูกินกันทำไม ฮ่าๆๆๆ ที่เจอบ่อยๆก็คือซี่โครงหมูครับ ผัดอะไรไม่รู้ บอกไม่ถูก แล้วก็หม้อไฟรวมมิตร ก็จะมีปลา หมึก หมู กุ้ง แล้วก็บรรดาผักต่างๆ อันนี้เอาไว้ซดลื่นคอดี อีกอย่างนึงที่ต้องแนะนำ ถ้าท่านเดินไปตามตลาด ผมเชื่อว่าต้องเห็นร้านขายพวกหอยย่างครับ เรียกไม่ถูกเหมือนกันว่าหอยย่างหรือหอยปิ้งดี แต่อร่อยอยู่ครับ น้ำจิ้มรสชาดคล้ายๆน้ำจิ้มซีฟู๊ดบ้านเรา แต่ของเราเผ็ดแล้วกหอมกว่า อันนี้ถ้าเจอสั่งทานได้เลยครับ อร่อยครับ จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 20:20:21

ความคิดเห็นที่ 7 มะนาวเวียตนามเปรี้ยวมากครับ เปรี้ยวกว่าของบ้านเราเยอะ แต่ของเราหอมกว่ามาก น้ำปลาจะกลิ่นตุๆนิดนึง แต่ที่เห็นบ่อยกว่าน้ำปลาจะเป็นซอสถั่วเหลืองครับ แต่ไม่ค่อยเค็มอ่ะ ผมใส่ไปตั้งเยอะยังไม่ค่อยเค็มเลย จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 20:21:22

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่เจอพริกป่นนะครับ เจอแต่แบบลักษณะเหมือนพริกเผา แต่ไม่ใช่ อันนี้ก็พอทดแทนกันได้ ในคณะของผมหลายคนต้องเดินเข้าร้านสะดวกซื้อหามาม่ามาทานกัน เวลาเข้าร้านเฝอส่วนใหญ่จะเห็นเป็นเหมือนกันพริกขีฟ้าเอามาหั่นเป็นแว่นๆครับ แต่เผ็ดเอาเรื่องเหมือนกัน จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 20:23:12

ความคิดเห็นที่ 9 ในเวียตนามไม่นิยมกินน้ำแข็งครับ เข้าร้านไหนร้านไหน ต้องตะโกนว่า "ด๋า" ซึ่งแปลว่าน้ำแข็ง ไม่งั้นแกจะเอามาแต่น้ำเปล่า ราคาน้ำเปล่าทั่วๆไป ถ้าเป็นน้ำเปล่าขวดเล็กจะประมาณ 5,000 ด่องครับ ถ้าเอา "ด๋า" ด้วย เค๊าคิดเพิ่มแก้วละ 2,000 ด่อง น้ำอัดลมกระป๋องละ 10,000-12,000 ด่องแล้วแต่ร้านครับ ร้านฟุ๊ปอ๊อฟที่เราไปนั่งกินหอยย่างที่โฮจิมินห์นี่ เราต้องขอ "ด๋า" มาเป็นกระติกเลยครับ เพื่อใส่ Saigon Beer ไว้กิน จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 20:26:24

ความคิดเห็นที่ 10 น้ำอัดลมในเวียตนามที่รสชาดแย่ที่สุดคือมิรินด้ารูทเบียร์ครับ มันจะคล้ายๆมีกลิ่นรูทเบียร์ผสมขิง ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน ไว้ใครไปลองดูเองเหอะครับ โค๊กหวานกว่าบ้านเรา แต่เป๊ปซี่เหมือนกินโซดาแล้วมีแต่กลิ่น มิรินด้าน้ำส้มอร่อย กระทิงแดงกระป๋อง อันนี้ไปจากบ้านเราเลยครับ รสชาดต้นตำหรับ ค่อยคุ้นลิ้นหน่อย จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 20:41:17

ความคิดเห็นที่ 11 ที่โฮจิมินห์ร้อนตับแตกครับ แต่พอไปถึงดาลัตอากาศเย็นสบายกำลังดี อยู่ที่ประมาณไม่เกิน 20 องศา โรงแรมในดาลัตไม่ค่อยติดแอร์ครับ เครื่องทำน้ำอุ่นใหญ่มากกกกกกกก เวลาเปิดต้องกะดีๆ ไม่งั้นไข่สุก ฮ่าๆๆๆ ทีวีไม่มีที่ดูรู้เรื่องเลย แต่ในโรงแรมใหญ่ๆระดับ 5 ดาวน่าจะโอเคนะ ละครบางช่องในเวียตนาม ถ้าเป็นละครมาจากจีน บางทีไม่ได้ใช้คนพากย์เสียงตรงตามตัวละครครับ คือไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายในละครพูด ก็ใช้คนพากย์แค่คนเดียว สรุปคือเหมือนแค่แปลให้ฟัง นางเอกละครเวียตนามน่ารักหลายคนนะ จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 20:44:53

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าไปเดินสวนสาธารณะในเวียตนาม สิ่งที่จะได้เห็นจนเป็นเรื่องชินตาคือหนุ่มสาวจะไปนั่งพลอดรักกัน ตอนผมเดินผ่ากลางสวนสาธารณะแถวๆเบ่นถาน เจอกะลังนั่งจ๊วบปากกันอยู่เลย แม๊.....อยากรอดูตอนดึกๆ อิอิ จะเจอมอเตอร์ไซด์จอดกันเป็นร้อยครับ ตามสวนพวกนี้ตอนซักสามทุ่มนี่ โฮ่ เยอะมากๆ ต่างคนต่างนั่งจับคู่กันกระหนุงกระหนิง แล้วเค๊าไม่ค่อยแคร์สายตาใครนะ ใครอยากมองมองไป จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 20:48:13

ความคิดเห็นที่ 13 ที่เวียตนามนี่ผมใช้ซิม Viettel 3G ยันวันกลับนะครับ อย่างแรกที่บอกไปแล้วคือเข้า Facebook ไม่ได้ ทำให้เสียอารมณ์ไปเหมือนกัน แหะๆ (ติด social Network) สัญญาณ 3G ที่นี่ต้องบอกว่าเข้าขั้นดีมากครับ ขนาดระหว่างทางไปดาลัตที่ต้องผ่านป่าผ่านเขา แต่ผมใช้งานได้ตลอด ไม่มีจุดไหนบอดเลยแม้แต่นิดเดียว ความเร็วเท่าที่วัดได้จะอยู่ประมาณ 3-4 Mbps ครับ แต่ถึงจะมี 3G ใช้กันทั้งเมือง แต่แปลก....ผมไม่เห็นคนเดินกด bb กันแบบบ้านเราเลยนะ มีแต่กะเหรี่ยงเมืองไทยกลุ่มผมนี่แหละ ไปนั่งตรงไหนเป็นต้องควักโทรศัพท์ขั้นมากดเล่น ฮ่าๆๆๆ โทรศัพท์ที่เห็นคนที่นี่ใช้เยอะจริงๆคือ iPhone ครับ มีร้าน iPhone เยอะมากๆ เจอติดกันสามร้านเลยก็มี Samsung Galaxy S ที่นี่ขายแค่ 7,000......น้ำตาจะไหล จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 20:52:58

ความคิดเห็นที่ 14 รถบัสจากสนามบินเข้าเมืองติดแอร์ครับ ราคาแค่ 4,000 ด่องก็ประมาณ 6 บาท ขับดุ๋ยดุ่ยมาก อารมณ์แบบว่ากรูจะไปของกรูอย่างเนี๊ยะ ใครจะทำไม คนขับรถควักบุหรี่สูบในรถ เพื่อนผมยืนข้างๆกันบอกว่าทำไมได้กลิ่นบุหรี่ ใครสูบวะ เลยหันไปบอกคนขับ แกหันหน้ามาแล้วยกบุหรีในมือให้ดู ประมาณว่ากรูสูบเอง มีไรป่ะ ระหว่างที่รอคนเต็มรถที่สนามบิน ก็เห็นอิตาคนขับแกก็ยืนสบายๆ ไม่มีธุระอะไรนะครับ แต่พอรถออกมาได้ไม่ถึงร้อยเมตร แกยกโทรศัพท์มาคุย แล้วก็คุยๆๆๆยันไปจนถึงเบ่นถาน รถที่นี่ทุกคันเท่าที่เราสังเกตุ ปุ่มแตรรถตรงพวงมาลัยจะมีสภาพเหมือนเพิ่งผ่านสนามรบมาทุกคันครับ รถที่นี่บีบแตรกันตลอดทางไม่ว่าจะมีหรือไม่มีรถ ผมว่าถ้ายางแบนแกยังอาจจะขับไปได้ แต่ถ้าแตรเสียนี่แกคงจอดรถทิ้งอ่ะ แต่ถึงจะบีบแตรใส่กันตลอดแต่น่ารักนะครับ ไม่มีใครด่ากันเลยซักคน ถ้าเป็นแถวประเทศสารขันธ์ สงสัยจะได้จอดรถกลางถนนแล้วลงมาถามว่า "จะบีบแตรหาพ่องเหรอ" แล้วครับ จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 20:58:01

ความคิดเห็นที่ 15 มอเตอร์ไซด์ก็เหมือนกัน เห็นขับขี่กันเยอะแบบไม่มีระเบียบ บีบแตรไล่กันตลอดทาง แต่สวมหมวกกันน๊อคทุกคันนะครับ ถึงขนาดเห็นมีร้านขายแต่หมวกกันน๊อคแฟชั่นกันอย่างเดียวทั้งร้านเลย น่าหิ้วมาขายบ้านเราน่าจะขายดี ถ้าจะข้ามถนนในเวียตนาม อย่าหยุดรอรถครับ เดินไปเลย แต่ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้ไปกันเป็นกลุ่มหลายๆคน แล้วไม่ต้องหยุดรอเค๊าครับ เพราะเค๊าจะไม่จอดให้คุณข้าม ถึงแม้ตรงนั้นจะเป็นไฟแดงหรือทางม้าลาย เวลาข้ามให้มองซ้ายก่อนนะครับ เห็นเค๊าขี่รถมาไม่ต้องหยุด จ้องตาเค๊าแล้วก้าวไปเลยครับ เดี๋ยวเค๊าจะหลบให้คุณเอง พอถึงกลางถนนก็หันมามองทางขวาต่อนะครับ เพราะบ้านเค๊าขับรถคนละข้างกับบ้านเรา ผมไม่ค่อยเห็นรถกระบะในเวียตนามนะ คือนอกจากมอเตอร์ไซด์แล้ว ถ้าไม่ใช่รถเก๋งก็เป็นรถตู้ ไม่ก็รถบัสไปเลย แล้วส่วนใหญ่รถโดยสารที่เจอ จะเป็นยี่ห้อฮุนได จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 21:02:36

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้ามีป้ายห้ามสูบบุหรี่ เค๊าไม่ได้หมายความว่าสูบไม่ได้เลยนะครับ แค่ติดไว้เฉยๆ พอๆกับสัญญาณไฟแดง อย่านึกว่าเห็นไฟแดงแล้วคุณจะเดินข้ามเป็นนางละเวงชมสวนได้นะครับ เพราะไม่มีผลกะมอเตอร์ไซด์ที่นี่ ถ้าคุณเช่ามอเตอร์ไซด์นี่ที่ขี่ ต้องทราบก่อนนะครับว่าที่เวียตนามขับรถชิดขวา แต่เวลาขี่จริง ผมก็ไม่เห็นเค๊าจะแบ่งเลนกันนะ ขี่กันเต็มถนน อย่าลืมครับ กดแตรตลอดทางด้วย :p แม้แต่ยืนบนฟุตบาท ก็อย่านึกว่าจะปลอดภัยนะครับ เพราะนั่นแหละที่จอดรถมอเตอร์ไซด์ของเค๊า *******ขอพักก่อนนะครับ ยังมีอีกเยอะ มันไหลมาเรื่อยๆ เดี๋ยวหายเมื่อยมาเขียนต่อ หรือถ้าใครมีอะไรจะเติมหรือจะแก้ไข ยินดีเลยนะครับ อย่าปล่อยผมอยู่คนเดียว....มันอ้างว้างงงงงงงงง จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 21:12:30

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องเก่าเล่าใหม่ แต่เป็นประโยชน์ดีครับ รัฐบาลเวียตนามเค้าบล็อคไม่ให้เล่น fb ไปกี่ทียังไม่เคยเล่นได้เลย แต่ wifi มีเพียบหาง่าย ดีกว่าไทยเยอะ... จากคุณ : taro_ks เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 21:48:22

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณครับ คุณ taro_ks อย่างที่บอกไว้แต่แรก ว่ามันเรื่องเก่าเล่าใหม่นั่นแหละ แต่เรื่องเก่าที่ว่ามันหายากครับ ตอนผมจะไปก็หาอ่านแย่เหมือนกัน เลยเอามารวมกันไว้ ตาม คคห.ที่ 1 เลยครับ มีสาระบ้างไม่มีบ้าง เหมือนเล่าให้เพื่อนที่ยังไม่เคยไปฟัง ใครเคยไปแล้วจะมาช่วยเติมให้หรือผ่านๆไปก็ได้ครับ จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 21:56:46

ความคิดเห็นที่ 19 ชอบการจราจรของประเทศเค้าเหมือนกันค่ะ รถเยอะ วิ่งกันซ้ายที ขวาที แต่ไม่ยักจะเห็นรถชนกัน แอบคิดเล่นๆ ว่าถ้าวันไหนแตรเสียนี่ คนเวียดนามคงออกจากบ้านไม่ได้แหงๆ 555 จากคุณ : จันทร์แหว๋ว เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 21:59:38

ความคิดเห็นที่ 20 อยู่เป็นเพื่อนครับ   คิดถึงเวียดนามมากมาย   อธิบายเพิ่มเติมนิดหนึ่งครับ   จากที่เคยได้ยินไกด์ชาวเวียดนามพูดให้ฟัง 1.ถ้าไปเดินสวนสาธารณะในเวียตนาม สิ่งที่จะได้เห็นจนเป็นเรื่องชินตาคือหนุ่มสาวจะไปนั่งพลอดรักกัน ตอนผมเดินผ่ากลางสวนสาธารณะแถวๆเบ่นถาน เจอกะลังนั่งจ๊วบปากกันอยู่เลย แม๊.....อยากรอดูตอนดึกๆ อิอิ จริงแท้แน่นอน ร้อยล้านเปอร์เซ็นต์ครับ  แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไกด์บอกว่าไม่ว่าจะเป็นที่ฮานอยหรือไซ่ง่อน  วัยรุ่นที่มานั่งจูบกันเนี่ย  ถือว่าเป็น  "เด็กดี"  นะครับ ดียังไง?    ไกด์บอกว่าเป็นเพราะวัฒนธรรมฝรั่งเศสที่ทิ้งไว้ให้   พ่อแม่ของเด็กๆเหล่านี้จะรู้ว่าลูกไปไหนกัน  ทำอะไรกัน แต่จะไม่ตำหนิ  เพราะตัวเองก็เคยผ่านพฤติกรรมเหล่านี้มา  และพอถึง4ทุ่ม ทุกๆคนก็จะกลับบ้านกัน ส่วน"เด็กไม่ดี"  จะไปมั่วสุมอยู่ตามบ้านเพื่อน หรือหอพัก  ไกลหูไกลตาผู้คน  ซึ่งจะทำกันมากกว่า กอดและจูบ ครับ จากคุณ : ประกายแสงสีเหลืองแห่งแอนฟิลด์ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 22:08:41

ความคิดเห็นที่ 21 ส่วนเรื่องรถกระบะ  ไกด์เล่าว่า คนที่มีเงินซื้อรถยนต์ในเวียดนามได้คือคนรวยเท่านั้น  เพราะภาษีแพง ตอนปี 2007   รู้สึกว่า Vios คันละประมาณ1ล้านบาท   ขณะที่บ้านเราราคา5-7แสน เพราะฉะนั้นจึงจะเห็นแต่รถเก๋ง  ไม่ก็รถบรรทุกไปเลย  เพราะซื้อกระบะมาขนของ มันไม่คุ้ม   กลุ่มคนที่ซื้อจะเป็นพวกออฟโรด ซื้อมาแต่งสวยๆมากกว่า   ตอนที่ไปเที่ยวผมเองก็เห็นแค่2คันเท่านั้นเอง จากคุณ : ประกายแสงสีเหลืองแห่งแอนฟิลด์ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 22:13:09

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณครับ หลายเรื่องจำเป็นกับนักท่องเที่ยวมาก ^^ จากคุณ : ไผ่พริ้ว (PyDE) เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 22:14:05

ความคิดเห็นที่ 23 เรื่องขับรถ  กฏหมายแรงมากครับ  ใครขับเร็วเกินโดนเจาะใบขับขี่แน่นอน เจาะกี่รูผมก็จำไม่ได้ จะโดนยึดใบขับขี่ตลอดชีพ   เพราะฉะนั้น จึงไม่แปลกใจที่ไม่มีใครเหยียบเต็มที่  กลัวกันมากนั่นเอง แต่อุบัติเหตุส่วนมากก็เห็นเกิดขึ้นในเมืองนะครับ อยู่เวียดนาม 3 คืน  เห็นคนตายไป3คน   -*- ตายจริงๆนะครับ   นอนกลางถนน    แล้วเค้าจะเอาเสื่อมาคลุมไว้  รอรถมารับไป จากคุณ : ประกายแสงสีเหลืองแห่งแอนฟิลด์ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 22:18:48

ความคิดเห็นที่ 24 โฮจิมินห์กับฮานอย น่ามีรถไฟฟ้านานแล้ว จากคุณ : mamao เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 22:21:29

ความคิดเห็นที่ 25 @คุณจันทร์แหว๋ว จริงๆครับ ผมยังพูดกับเพื่อนเลยว่าสามวันไม่เจอรถชนกันซักคัน ทั้งที่สภาพไม่น่าจะรอดนะ ฮ่าๆๆๆ @คุณประกายแสงสีเหลืองแห่งแอนฟิลด์ ขอบคุณที่มาอยู่เป็นเพื่อนกันนะครับ ถึงว่า...ว่าทำไมถนนก็ว่างแล้วเค๊าไม่รีบไปกัน แต่รถรอบดึกที่ผมไปดาลัดนี่พอออกจากเมืองแกก็เหยียบกระจายเหมือนกันนะ คงจะเห็นว่าดึกแล้วด้วย @คุณไผ่พริ้ว (PyDE) ขอบคุณมากครับ เชื่อว่าน่าจะเอาไปเป็นประโยชน์ได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ @คุณmamao เห็นด้วยเลยครับ น่าจะมีได้ตั้งนานแล้ว จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 22:55:23

ความคิดเห็นที่ 26 ... ขอบคุณค่ะ อ่านแล้วเพลินดีจัง ... จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 22:55:58

ความคิดเห็นที่ 27 เรื่องช๊อปปิ้ง อันนี้ผมคงเปรียบเทียบได้แค่สองเมืองนะครับ เพราะไปแค่สองที่ ก็อย่างที่บอกไว้ในกระทู้ก่อน ว่าถ้าจะไปดาลัตด้วย อย่าเพิ่งรีบซื้อของที่เบ่นถานครับ เพราะราคาแพงกว่ากันสามเท่า อย่างผ้าพันคอนี่ คุณนายผมซื้อมาจากดาลัตแค่ 60,000 ด่อง พอมาถามราคาที่เบ่นถาน แม่ค้าบอกมา 200,000 ด่อง ให้ราคาพิเศษได้ที่ 180,000 ด่อง โห เยอะครับ ต่างกันเยอะมาก ต่อพรวดเดียวเลยครับ 80,000 ด่อง ได้ก็เอา ไม่ได้ก็เดินออก พอเดินออกจากร้านก็รีบมาจูงมือเรากลับแล้วครับ ยัดใส่ถุงมาให้ ตกลงจ่ายไปแค่แปดหมื่น เพราะฉะนั้น ลองต่อราคาครั้งแรก ดรอปไป 50% ก่อนเลยครับ แล้วต่อรองกันดู ได้ก็เอา ไม่ได้ก็เดินออก ถ้าได้เดี๋ยวเค๊าเรียกกลับไปเอง เจอแบบนี้ทุกร้านครับ จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 23:04:12

ความคิดเห็นที่ 28 เอาเป็นว่านึกอะไรออกก็จะทะยอยเขียนแล้วกันนะครับ อาจจะไม่ประติดประต่อครับ เพราะมีเรื่องอยู่ในหัวเยอะมาก ฮ่าๆๆๆๆ คุณ kungtalay ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนกันนะครับ เรื่องแท็กซี่ในโฮจิมินห์ครับ ทางโรงแรม Liberty 3 แนะนำว่าถ้าจะใช้รถแท็กซี่ ให้เรียกแต่ที่เป็นสีเขียว-ขาวนะครับ ชื่อ Vina...อะไรซักอย่างนี่แหละ ผมจำชื่อไม่ได้ เพราะเป็นแท็กซี่ของรัฐบาล ไม่กล้านอกลู่นอกทางมาก คนขับก็สุภาพเรียบร้อย มีเครื่องแบบใส่ดูดี ผมเรียกจากหน้าโรงแรมทีพักไปสนามบิน ค่ารถประมาณ 7 US ครับ หรือประมาณ 140,000 ด่อง แล้วก็ข้อแนะนำอีกอย่างนึงคือให้ระวังเรื่องกระเป๋าสะพายสำหรับคุณผู้หญิงนะครับ ให้สะพายไว้ด้านหน้า โดยสะพายเฉียงไหล่ อย่าสะพายไหล่ข้างเดียวนะครับ เพราะจะมีโอกาสโดนฉกเอาง่ายๆ (จริงๆผมว่าถึงจะเป็นบ้านเราก็ควรสะพายแบบนี้นะ) เวลาเดินในตลาดเบ่นถานพยายามไปกันเป็นกลุ่ม ต่อรองเป็นกลุ่มครับ เท่าที่ผมสังเกตุ เหมือนกับเค๊าจะพยายามดึงแขนพวกเราแยกกันไปคนละร้าน อันนี้โดนไกด์เตือนมาก่อนแล้วตั้งแต่ดาลัต ก็เจอแบบนั้นจริงๆ ไม่ต้องสนใจครับ ยืนเกาะกลุ่มกันไว้ ยังไงก็ไม่โดนฟันครับ จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 23:12:48

ความคิดเห็นที่ 29 อย่างที่บอกไว้เมื่อกระทู้ที่แล้วว่าเกือบทุกโรงแรมจะขอเก็บพาสปอร์ตไว้ครับ เพราะฉะนั้นทางที่ดีควรก๊อปปี้พาสปอร์ตติดตัวไว้ซักสองใบครับ จะใช้ไม่ใช้ก็ไม่รู้แหละ แต่ผมว่ามันไม่ได้ลำบากซักเท่าไหร่ เผื่อเกิดความจำเป็นครับ ร้านค้า ร้านอาหารในโฮจิมินห์ส่วนใหญ่จะปิดตอนเที่ยงคืน หนึ่งในคณะผมอยากตระเวณราตรีครับ อุตส่าห์หมายตาร้านบาเบอร์แบบผู้ชายเอาไว้ (ตอนแรกสงสัยเหมือนกันครับว่ามันจะมาอยากตัดผมทำไมกันถึงเวียตนาม) ปรากฏว่าออกไปสี่ทุ่มตลาดวายครับ ร้านจะปิดแล้ว เลยอดตีค่ายเดียนเบียนฟูกันเลย แม่ค้าในตลาดไม่ว่าจะเป็นที่โฮจิมินห์หรือดาลัต หลายคนพูดไทยได้ชัดแจ๋วเลยครับ แสดงว่าคนไทยน่าจะไปเที่ยวกันเยอะน่าดู เพราะบางคนพอได้ยินเราคุยกันเป็นภาษาไทย ก็หันมาคุยด้วยจ๊อยๆๆ เลย ยิ่งบอกราคานี่ชัดเป๊ะครับ อยู่ที่โน่นมีเรื่องขำๆเล่าให้ฟังครับ เราทราบกันดีอยู่แล้วนะครับว่าค่าเงินเค๊าน้อยกว่าเรามาก เวลาคุยกันทีหลักหมื่นหลักแสนแล้วมันก็เลยทำให้พวกเราหลายคนเกิดความสับสนแบบหลงๆครับ พวกเราไปกันเป็นกลุ่ม เวลาทานอะไรก็ต้องแชร์กัน ทีนี้เวลาเก็บเงินเนี่ยะ บางคนแลกเงินด่องไปน้อยก็หยิบยืมกัน ขาดทีนึง 2 พันบ้าง 3 พันบ้าง ทีนี้พอหลังจากนั้นสิ ทวงกันแบบว่าหน้าดำหน้าแดง พอมีเวลามานั่งคุยกันก็ฮาก๊ากครับ ทวงกันจะเป็นจะตายกับเงินสองพันด่อง มันแค่สามบาทนิดๆเองอ่ะครับ อยู่บ้านเราซื้อลูกอมได้แค่ไม่กี่เม็ดเอง :D ก็เรื่องประมาณนี้อีกเหมือนกัน ตอนอยู่ดาลัต ไปเดินช๊อปปิ้งกันที่ Night Market ก็มีน้องในกลุ่มคนนึงแกช่างต่อครับ ซื้อผ้าพันคอผืนนึงแค่ 60,000 ด่อง แกก็ขอต่อซะแบบว่า ได้นิดนึงก็เอาแระ ต่อไปต่อมา มาเถียงกะแม่ค้าอยู่กะเงินแค่ 2,000 ด่อง เกือบสิบนาทีครับ ต่อรองกันกะเงินแค่ 3 บาท....ก็เอามาเล่าให้ฟังกันขำๆครับ จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 23:27:18

ความคิดเห็นที่ 30 คนเวียตนามกินหมามั๊ย ผมถามคุณเฮนรี่ไกด์ของเราเหมือนกันครับ ว่าทำไมไม่ค่อยเห็นมีสุนัขเพ่นพ่านเลย รึโดนจับกินกันหมด แกหัวเราะครับ แล้วบอกว่าทางตอนใต้ของเวียตนามไม่ค่อยนิยมเลี้ยงหมา แต่ถ้าทางเหนือแถวๆฮานอยจะมีเยอะ เดี๋ยวรอเพื่อนๆที่เคยไปฮานอยมาเสริมให้แล้วกันนะครับว่าจริงรึเปล่า ส่วนเรื่องกินหมา แกบอกว่าคนธรรมดาไม่ร่ำรวยมากไม่มีโอกาสได้กินนะครับ เพราะถือว่าเป็นของดีราคาแพง แหะๆ ฟังแล้วรู้สึกดีขึ้นมาทันทีที่ผมเกิดมาจน เอิ๊กๆๆ จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 23:33:58

ความคิดเห็นที่ 31 โม้มากแล้วชักเริ่มง่วง วันนี้ผมขอตัวไปนอนก่อนแล้วกันนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้กลางวันงานยุ่งคงไม่ได้เข้ามาดู เย็นๆค่อยมาว่ากันต่อ แต่เชื่อว่าระหว่างวันคงมีเพื่อนๆเข้ามาแจมอีกนะครับ ไม่งั้นผมคงเหงาน่าดู เจอกันพรุ่งนี้ครับ ราตรีสวัสดิ์ครับทุกคน จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 23:36:59

ความคิดเห็นที่ 32 taxi ชื่อ Vinasun ค่ะ จากคุณ : girlypat เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 23:39:25

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 01:01:08

ความคิดเห็นที่ 34 ครับ  ขอบคุณ จากคุณ : tiamogo2 เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 02:44:32

ความคิดเห็นที่ 35 นั่งอ่านจนเพลินเลยค่ะ เล่าสนุกดีจัง ^^ จากคุณ : nujoom เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 10:48:20

ความคิดเห็นที่ 36 เพิ่งกลับจากฮานอยเมื่อวานค่ะ อากาศร้อนมากกกกก เหงื่อท่วมตัว วันแรกที่ไป ข้ามถนนยังไม่คล่องค่ะ งกๆเงิ่นๆ ทำตัวไม่ถูก แต่พอสักพักก็ชินค่ะ รถก็รถเถอะ หลบเราเองแหล่ะ ซื้อทัวร์ไปเที่ยวแทมค็อกค่ะ 18 ดอลล่าห์/คน รวมอาหารกลางวัน เช้ามารับที่ รร. เป็นมินิบัส เที่ยวร่วมกับลูกทัวร์คนอื่นด้วย ใช้เวลาบนรถต่อเที่ยวประมาณ 3 ชม. สวยดีค่ะ ได้นั่งเรือเพลินๆ ประมาณ 2 ชม. เรือที่คนพายใช้เท้าถีบน่ะค่ะ วิวสวยตลอดทาง จะมีเรืออื่นมาทักทายไม่ต้องสนใจนะคะ เค้าจะมาถ่ายรูปเสียตังค์น่ะค่ะ... แต่พอถึงจุดที่จะต้องวนเรือกลับ มีจอดขายของบนเรือ ข้างเรือค่ะ โดนไฟท์บังคับให้ทิปเป็นน้ำ+ขนมให้คนพาย (ความจริงไม่บังคับเราก็ตั้งใจจะซื้อน้ำให้อยู่แล้ว) ราคาสูงกว่าบนฝั่งค่ะ ตลอดทางที่กลับก็พูดขายของตลอดทาง น่ารำคาญ จนมาถึงฝั่งขอทิปอีกคนละ 1 ดอลล่าห์ (เรานั่ง 2 คน) แต่เราให้ไปดอลล่าห์เดียว น้องสาวเรานั่งอีกลำให้ไป 10,000 ด่องค่ะ ขึ้นฝั่งสักทีสบายใจ น้องสาวบอกว่าตรงจุดขายของเค้าไม่ยอมพายเรือกลับ จะขายของให้ได้ จนเรือเราตามมาทันนั่นแหล่ะ เราบอกให้ไปพร้อมๆ กัน .. จบเรื่องแทมค็อกนะคะ วิวสวยจริงๆ ค่ะ ไว้ไปย่อรูปก่อนจะมารีวิวให้ชมกันค่ะ จากคุณ : merit_bee เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 11:27:57

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยครับ จะไปเวียดนาม โฮจิมินห์พรุ่งนี้พอดีเลย จากคุณ : CyberOne08 เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 11:36:28

ความคิดเห็นที่ 38 เรื่องเงินนั้น  ขอยืนยันว่าแลก  US  ไปจะคุ้มมาก แลกจากไทยในราคา  1 US  30  นิดๆ   พอไปเวียตนาม  1 us เพ่มเป็น 40  บาททันที 1us  และเป็นดองได้  สองหมื่น ห้าร้อยดอง  คิดเป็นเงินไทย  40  บาท ตอนหลังผมจ่ายเป็น us  ตลอดเลย  แลกดองไว้แค่ซื้อน้ำและขึ้นรถเมล์ จากคุณ : รักสามเศร้า เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 12:53:41

ความคิดเห็นที่ 39 เพิ่งกลับมาเหมือนกันค่ะ  (10-12/5/54) 3  วันที่โฮจิมินท์ (แทบแย่) ขอแลกเปลียนประสบการณ์บ้างนะคะ  ยาวมากค่ะ  แต่อ่านแล้วจะได้ทำใจได้หากไปถึงที่นั่น ไม่ค่อยประทับใจกับคนมากนัก เพราะหลอกเก่งมา หลอกอย่างไร จะเล่าให้ฟังนะคะ 1. ไปถึงนั่งแท็กซี่จากโรงงานของเพื่อน ไปตลาดเบนถั่น  จ่ายค่ารถไป 3 แสนกว่า (นั่งไกลเหมือนกันค่ะ)  ที่ว่าหลอกคือ แทนที่จะไปส่งตามที่อยู่ที่เพื่อนบอกไว้คือฟามงูหลาว เพื่อไปซื้อทัวร์ไปดาลัด แต่ดั๊นไปทิ้งเราที่เบนถั่น แถมไม่จอดหน้าโรงแรมอีกนะคะ จอดอีกด้านนึงเหมือนเจตนาให้งงค่ะ  และใช้บริการรถสองล้อค่ะ (เรียกชื่อไม่ถูก ที่มีคนวิ่งพาไปค่ะ ไม่ไดถีบ)  มาทราบทีหลังว่าให้เดินทะลุตลาดไปก็จะเจอโรงแรมเยอะแยะ แต่ทำมั๊ยแท็กซี่ไม่ไปส่งกันนะ ไปปล่อยเราไว้ตรงพวกลากสองล้อ 2. เดินหาโรงแรมกัน แบบหเงื่อตกเลยค่ะ เจอโรงแรมแรกรีบเข้าไปทันที ไม่ได้ดูหน้าดูหลังกะเขาเลย ว่าฝั่งตรงข้ามโรงแรมเพียบ ก็เลยเจออีกเด้งคือ ห้องละ 28 เหรียญ เราเลยบอกว่าcheck in 14.00  check out  23.00 เขาก็บอก 20 เหรียญ  ด้วยว่าเหนื่อย ร้อน และมีของหิ้ว เลยตัดสินใจเข้าพักทันที (หารู้ไม่ว่าห้องนี้แอร์ไม่เย็น ร้อนมากๆๆๆ ทนไม่ไหว อาบน้ำแล้วออกไปเดินเล่น)  แจ้งกับเจ้าหน้าที่โรงแรมว่าแอร์ไม่เย็น เธอบอกว่ากลับมาแล้วจะให้เด็กไปดูให้ แต่พอเรากลับมาอีกครั้ง เป็นพนักงานคนอื่นมาแทนแล้ว และไม่ได้บอกต่อไว้ว่าให้มาดูแอร์ห้องเรา (ก็เลยกลับเข้ามาอาบน้ำอีกครั้งแล้วรีบ chek out ทันทีเพราะไม่อยากเป็นไก่อบ) คันมือเหลือเกินอยากบอกชื่อโรงแรมเหลือเกิน ไม่อยากให้เพื่อนคนไทยต้องไปเจอชะตากรรมแบบเรา  หากไม่ผิดกฏเราจะแจ้งชื่อให้ทราบ 3. ระหว่างที่ออกมาเดินเล่นได้หาโรงแรมใหม่ และซื้อทัวร์ ที่นี่คิดค่าห้อง 30 เหรียญ แต่เราก็ happy  กับการบริการที่ดีกว่าโรงแรมก่อนนี้มากๆๆๆ ขอย้ำว่าดีกว่ามากๆๆๆๆ 3.1  ค่าห้องพักเขาคิดอีกราคานึงให้เนื่องจากพักเที่ยงคืนถึงถึงเที่ยงวัน (หลังจากกลับจากดาลัดมาพักที่โรงแรมนี้)  คิดราคา 26 เหรียญ พร้อมอาหารเช้า แต่เราไมได้ทานอาหารเพราะ ออกมา 9.30 ที่ห้องอาหารเก็บหมดแล้ว ทั้งๆ ที่บอกว่าหมดเวลาอาหารเช้า 10.00  (เราไม่ซีเรียส เพราะกะว่าจะไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันอยู่แล้ว) 3.2 การจองรถไปดาลัด แจ้งว่าให้จองรถนอน แต่ได้รถนั่ง (คิดราคาไม่ผิด แต่พนักงานคงเบลอ เพราะให้ติดต่อหลายเรื่อง) 3.3  การจองทัวร์ดาลัด ให้จองคันทรีทั่วร์   จ่ายเพิ่มอีกคนละ 5 เหรียญ  แต่พอไปได้เที่ยวแบบ City ทัวร์  เฮ้อ จ่ายฟรีไปอีก 15 เหรียญ เพราะไม่ได้คืนจากคนจอง (ก็หยวนไป เพราะยังคงประทับใจกับความตั้งใจในการให้บริการเรา) 3.4 ให้ติดต่อรถแท็กซี่จากโรงแรม ไปสนามบิน คิดรวม 10 เหรียญ ดูจากมิเตอร์ที่รถวิ่งก็ประมาณ 2 แสนดอง (หยวนไปเพราะประทับใจบริการของน้องที่โรงแรม คนเดียวกันนี้ของทั้งหมดให้เราเลยนะคะ) 4. การเดินทางไปพิพิทธภัณฑ์ น้องที่โรงแรมเขียนแผนทีให้ แต่เราโดนเจ้ารถสองล้อหลอกค่ะ  ยื่นอยู่ริมรั่วพิพิทธพันธ์แท้ๆ  กลับหลอกให้เราเดินออกไปตั้งไกล แล้วเข็นรถตามเพื่อจะรอให้เราตกลงขึ้นรถ จะให้ถายภาพกลับรถด้วยนะ แต่เราเคยเห็นในรีวิคนอื่นว่ามีค่าบริการเราเลย No No No 5. เด็กเดินขายน้ำมะพร้าว ปากบอก ฟิฟทีน  แต่พอเราเผลอก็เฉาะมะพร้าวทันที ดีนะห้ามทัน เฉาะไป 2 ลูก  คิดเงินคือ ลูกละ ฟิฟตี้ หมื่นห้าดอง  แฟนเราเริ่มโมโห บอกว่าจะเรียกตำรวจ คนขายเลยบอกว่า  2 ลูกฟิฟตี้ ห้าหมื่นดอง (ตรงนี้ไม่ประทับใจมากๆๆ เพราะเขารู้ว่าเราหาพิพิทธพัณธ์ แต่เขายืนขายเราข้างรั้ว แต่ไม่บอกเรา เหมือนรู้กันกับคนขี่สองล้อค่ะ)  สังเหตุได้จากพอเราเดินย้อนมาถึงประตูทางเข้า เขาก็ชี้บอกว่าเอะมิวเซี่ยม   ใช่สิก็เรารุ้แล้วนี่ว่าโดนนาย 2 คนหลอกให้เดิน เฮ้อ  (สุดแค้น อยากเรียกตำรวจจับพวกนี้เหลือเกินทำลายการท่องเทียวของประเทศ) เล่าประสบการณ์เดินทางไปดาลัด 1. ขาไปเดินทาง 11.45 ไมได้นอนเลยค่ะเรานั่บงแถวแรก จะได้ยินแต่เสียงคนขับหาวตลอดทาง  เด็กรถก็มานั่งหลับ เราก็เลยหลับไม่ลง นั่งลุ้นกัน แต่ขอชมคนขับรถที่นี่ค่ะ ง่วงก็จอดพัก เดินยืดเส้นยืดสายแล้วมาขับต่อ แต่การจอดพักรถครั้งสุดท้าย ช่วงอีก 81 กม. ถึงดาลัด คนขับจอดข้างทางและฟุบกับพวงมาลัย  ส่วนผู้โดยสารท่านอื่น หลับกันหมดค่ะ เลยอาจไม่รู้สึกหวาดเสียวเหมือนเรา  (แต่พอลงรถเราชมคนขับว่า very good ไปเพราะถูกใจที่ง่วงไม่ฝืนขับ) เราอยู่ได้ตลอดคืนคงเพราะกาแฟที่ทานมาตอนหัวค่ำค่ะ เล่นซะหลับไม่ลงเลย 2. คนที่ดาลัด น่ารักและดูซื่อกว่าคนทีโฮจิมินท์ (จากความรู้สึกเรานะคะ) 3. ขากลับเราออกจากดาลัด 17.15 ถึงโฮจิมินท์ 24.00 น.  คนขับคนนี้ขับไวจนกลัวหลุดโค้งมากๆ  ถือว่าคนขับรถที่นี่เก่งนะคะ   (อยากรู้เหมือนกันว่าเคยมีขับแล้วไม่ปลอดภัยบางไหมกับถนนสายนี้ค่ะ) ร้านอาหารแนะนำ 1. นักท่องเที่ยวบางคน รวมถึงเราด้วยนะ อาจมองว่าการนั่งทานอาหารในร้านที่ดูดีจะแพงมากกว่าทานในตลาดสดเบนถั่น  เป็นการเข้าใจผิดอย่างแรงค่ะ เพราะว่าราคาพอ ๆกัน อร่อยกว่า สะอาดกว่า ได้รับการบริการที่ดีกว่า ในราคาเท่าๆ กัน การเลือกซื้อของ เราว่าตลาดกลางคืนถูกกว่าตลาดกลางวันนะ 1. ราคาตั้งไว้สูงมากๆๆๆๆๆ  หากเราไม่สืบราคาของจากเมืองไทยมาก่อนว่าควรจะประมาณเท่าไหร่รับรอง โดนฟันเละค่ะ  ดีไม่มีได้ซื้อของแพงกลับมาเมืองไทยอีกค่ะ (เราเองยังเกือบเลยค่ะ  คำนวณคลาดเคลื่อน) Trip นี้รวมเบ็ดเสร็จค่ะ ค่าเดินทาง+ที่พัก+อาหาร หมดไป 2.1 หมื่นบาท กับ 3 ชีวิต  ถือว่าไม่แพงค่ะ ได้ประสบการณ์ที่ แต่ถามว่าจะไปอีกไหม คงตอบว่าบ๊าย บายค่ะ  ครั้งเดียวก็เกินพอ จากคุณ : บ้านหลังน้อยกะเจ้าตูบ10ตัว (บ้านหลังน้อยกะเจ้าตูบ10ตัว) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 11:41:37

ความคิดเห็นที่ 40 เขียนยาวมากเลย อาจทำให้ท่านอื่นตาลาย  มีสะกดผิดด้วยนะคะ ต้องขอโทษจริง เพราะรีบมากค่ะ   ขอแก้ไข คำว่าพิพิทธภัณฑ์  (ยังผิดอยู่ไหมเอ่ย) รอผู้รู้ช่วยแนะนำค่ะ และราคาน้ำมะพร้าวนะคะ  จาก 1.5 หมื่นดอง หลังจากเฉาะมะพร้าวแล้ว เรียกเราที่ลูกละ 5 หมื่นดองค่ะ หากมีพิมพ์ผิดพลาดอีก  ต้องขอโทษด้วยค่ะ ไม่ได้ตั้งใจให้ผิดนะคะ แต่ด้วยความที่รีบพิมพ์ เพราะต้องการให้คนที่จะเดินทางไปเที่ยวได้อ่านเรื่องราวของเราก่อนไปค่ะ จากคุณ : บ้านหลังน้อยกะเจ้าตูบ10ตัว (บ้านหลังน้อยกะเจ้าตูบ10ตัว) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 11:45:53

ความคิดเห็นที่ 41 ลืมแนะนำเลยค่ะ เราเดินทางเที่ยวเช้า 7.45 เราเลยจองห้องพักกับโรงแรมที่ใกล้สนามบิน มีบริการส่งที่สนามบินฟรี แต่ตอนไปรับต้องจ่ายค่ารถ 150 บาท ค่าฝากรถ เราไป 3 วัน 2 คืน คิด 100 บาท   ค่าห้อง 600 บาท ที่นี่บริการดีมากค่ะ  เราจองผ่าน agoda  เห็นมีเด็กไปด้วย เจ้าหน้าที่ก็จัดห้องที่มีเตียงคู่ และเตียงเดี่ยว อีก 1 เตียงให้ค่ะ  พนักงานน่ารักบริการดีค่ะ คิดแล้วสะดวกและไม่แพง ไม่ต้องห่วงรถด้วยค่ะ บอกไว้เผื่อเป็นอีกทางเลือกของท่านที่ต้องเดินทางแต่เช้ามืดค่ะ จากคุณ : บ้านหลังน้อยกะเจ้าตูบ10ตัว (บ้านหลังน้อยกะเจ้าตูบ10ตัว) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:12:34

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณคุณบ้านหลังน้อยกะเจ้าตูบ10ตัว ด้วยนะครับ มีข้อมูลเพิ่มอีกแล้ว น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆได้เยอะเลยครับ จากคุณ : @ ดอกหญ้า @ เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 23:13:26

ความคิดเห็นที่ 43 ตอนเราอยู่ที่เวียดนาม 10/5/54 ช่วงดึก เราก็นั่งอ่านทู้ของจขกท. ที่ลงไว้เริ่มแรกได้อ่านจนถึงช่วงรอรถไปดาลัดหนะค่ะ ก็เอามาเป็นไกด์ให้ตัวเองด้วย  ว่าจะต้องระวังของขณะนั่งในรถไปดาลัด ขอโทษนะคะที่เสียมารยาทมาเขียนในทู้ของคุณซะมากมาย  ความตั้งใจตอนแรกกะว่าจะสร้างทู้ใหม่ แต่บังเอิญอ่านทู้คุณจบจบก็เลยสริมไปซะยาวค่ะ จากคุณ : บ้านหลังน้อยกะเจ้าตูบ10ตัว (บ้านหลังน้อยกะเจ้าตูบ10ตัว) เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 12:35:27

ความคิดเห็นที่ 44 เพิ่งกลับมาจากดาลัดครับ สำหรับใครเวลาน้อยแนะนำให้นุ่งเครื่องไปดาลัดเลยได้้อยู่ดาลัดเต็มๆวัน อ้อผมพักที่best western ไม่มีแอร์เหมือนกันแต่ tv ที่โรงแรมรับสัญญาณ true sport ได้ด้วยละ เลยได้ดูบอลพรีเมียร์พากไทยด้วยอิอิ จากคุณ : keng_jr เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 02:05:05