Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เพิ่งไปตะลุยเที่ยวตะวันออกกลาง (ซีเรีย - จอร์แดน - UAE) กลับมา มีข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์มาฝากครับ ติดต่อทีมงาน

รู้สึกติดค้างสมาชิก Blueplanet มาตลอด แอบอ่านและสอบถามชาวบ้าน คอยเก็บข้อมูลอยู่เรื่อยโดยไม่ค่อยได้ตอบอะไรเท่าไหร่ คราวนี้เพิ่งกลับมาเลยมาขอรีบแบ่งข้อมูลที่น่าจะเป็นประโยชน์ให้ครับ


**ซีเรีย**

1. ประเทศซีเรีย สวย ไม่แพง คนนิสัยดี friendly มากๆ เห็นนักท่องเที่ยวเป็นมิตร ประทับใจจริงๆ เหมือนเป็นคนละโลกกับเรื่องราวการก่อการร้ายและความรุนแรงที่เคยได้ยินตามข่าวต่างๆตลอดมาหลายปี

2. ถึงแม้จะมีข่าวเรื่องความไม่สงบในประเทศตอนนี้ (ผมว่าข่าวมันโอเว่อร์เกินจริงมากๆนะครับ คนที่ซีเรียเค้าด่าสำนักข่าวต่างประเทศกันมากว่าเอนเอียงไม่เป็นธรรม) แต่จริงๆเที่ยวได้ ผมไปลุยเอง ไม่มีเพื่อนหรือคนรู้จักที่โน่นมาก่อน ขอบอกว่ารู้สึกปลอดภัยมาก เดินเล่นในเมืองจนเที่ยงคืนตีหนึ่งได้อย่างสบาย ขอแค่อย่าไปเที่ยวทางใต้ในวันศุกร์ก็พอ (Highway ข้ามไปจอร์แดนยังใช้ได้ตลอดทุกวัน 24 ชั่วโมง) น่าจะเหมือนกับเมืองไทยที่มีเหตุการณ์รุนแรงเฉพาะสามจังหวัดชายแดนเท่านั้น

3. วีซ่าซีเรียขอได้ไม่ยุ่งยาก ค่าวีซ่า 3,000 บาท single entry (อยู่ได้ 15 วัน ต้องใช้เดินทางภายใน 90 วันนับจากวันที่ขอ) ที่ดีมากก็คือเค้าจะไม่หน้าเลือดเหมือนบางประเทศที่ให้หรือไม่ให้วีซ่าก็จะเก็บเงินคุณ ที่สถานกงสุลซีเรีย เค้าจะเก็บเงินก็ต่อเมื่อเค้าจะออกวีซ่าให้ (ตอนไปขอวีซ่าให้เตรียมเอกสารให้พร้อม หากไปถ่ายเอกสารตามร้านใกล้ๆสถานกงสุล ซอยนานา ราคาแผ่นละ 10 บาทเท่ากันทุกร้านนะครับ)


**จอร์แดน**

1. วีซ่าจอร์แดน สามารถขอได้ที่สนามบิน Amman หรือด่านพรมแดนได้เลย (ผมข้ามเข้าจอร์แดนทางรถยนต์จากซีเรีย) ไม่ต้องไปขอที่สถานกงสุลจอร์แดนในกรุงเทพฯให้เสียเวลา และค่าธรรมเนียมก็แพงกว่าไปขอที่โน่น (ขอที่กรุงเทพฯแพงกว่าประมาณ 1,000 บาท แถมต้องเสียเวลาไปเอาพาสปอร์ตในวันรุ่งขึ้นด้วย) ** แต่จะมีด่านพรมแดนบางจุดนะครับที่ขอ Visa on Arrival ไม่ได้ กรุณาเช็คให้ดี ** วีซ่าจอร์แดนต้องใช้เดินทางภายใน 30 วัน

2. Petra สวย แต่โดยความรู้สึกส่วนตัวผมว่าไปแล้วมันเสียความรู้สึกอย่างแรง คนที่นี่เค้าเห็นนักท่องเที่ยวไม่ต่างอะไรกับเหยื่อที่เค้ารอเชือด ผมผิดหวังกับระบบการจัดการ และทัศนคติของคนท้องถิ่นที่นั่นมากๆ ขูดรีดนักท่องเที่ยวที่สุด ค่าตั๋วเข้า Petra แพงระยับประมาณ 2,100 บาท (ถ้าคุณไม่ค้างคืนในจอร์แดน คือไปถึง Petra เช้าแล้วเย็นกลับออกนอกประเทศ ต้องซื้อตั๋วชนิด one day visit ในราคาประมาณ 3,825 บาท เวลาซื้อตั๋วเค้าจะขอดูพาสปอร์ตและใบจองโรงแรม) แต่ไม่มีอะไรอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเลย รถกอล์ฟไฟฟ้าให้นั่งเข้าไปถึง Siq ก็น่าจะมีให้หน่อย เพราะเดินไกลมากๆ ไม่เคยเจอที่ไหนแพงบ้าเลือดแบบนี้มาก่อน (เมื่อเทียบกับสิ่งอำนวยความสะดวก)

3. ตั่วเข้า Petra ระบุว่ารวมค่านั่งม้าจากที่เก็บตั๋วไปถึง Siq (ระยะทางประมาณเกือบกิโล ขาเข้าเป็นทางลงเนิน ขาออกเป็นทางขึ้นเนิน) ตรงที่เก็บตั๋วจะมีป้ายบอกว่านั่งม้าฟรี แต่ควรทิปให้เจ้าของม้าด้วยโดยไม่ได้ระบุว่าเท่าไหร่ พอจะไปขอนั่งม้าจริงๆ เจ้าของม้าขอตังค์ค่าทิปก่อนเลย ประมาณ 210 บาท (แบบนี้จะเรียกว่ารวมแล้วอยู่ในค่าตั๋วได้ไง) และนักท่องเที่ยวแทบทุกคนก็ไม่มีใครนั่ง ค่าโค้กใน Petra ทุกจุดตั้งแต่ทางเข้ายัน Monastery ขายกระป๋องละประมาณ 85 บาท (แพงมหาโหดกว่าในซูเปอร์มาร์เก็ต 12 เท่า ผมซื้อในซูเปอร์มาร์เก็ตที่อัมมันเมืองหลวงแพ็ค 6 กระป๋องตกกระป๋องละ 7.50 บาท ดีสนีย์แลนด์ยังไม่บวกหลายเท่าขนาดนี้) อาหารและทุกอย่างใน Petra ตั้งราคาปล้นกลางแดดนักท่องเที่ยวอย่างไม่มีความปรานีที่สุดในโลก คนที่นั่นใจร้ายมากจริงๆครับ

4. เที่ยวใน Petra ถ้าวางแผนจะเที่ยวทั้ง High Place และ Monastery ภายใน 1 วัน แนะนำให้นั่งล่อ (หรือม้า) นะครับ ไม่งั้นไม่ไหวจริงๆครับ ถ้าเดินด้วยตัวเอง ไม่ตายก็คางเหลืองแน่นอน ราคานั่งล่อก็ปล้นกันอีกเช่นกัน ให้พยายามต่อให้หนัก ถ้าไม่ได้ราคาที่ต้องการ ก็ทำเป็นเดินหนีไม่เอา แล้วเค้าก็จะยอมลดราคาลงมานะครับ

5. การแสดงใน Petra by Night ไม่มีอะไรมาก มี 2-3 ชุด แต่ละชุดนานประมาณ 10 - 15 นาที เป็นชาวบ้าน 1 คนมาเล่นเครื่องสายเหมือนซอ และอีกคนก็เป่าขลุ่ย (ผมว่าการแสดงของนักเรียนมัธยมในเมืองไทยยังดีกว่า) พอคนแรกแสดงเสร็จก็ไปนั่งสูบบุหรี่ไฟวาบๆด้านหลังคนที่ขึ้นมาแสดงต่อ ไม่มีการจัดการอะไรที่ดี ข้อดีของ Petra by Night อย่างเดียวก็คือได้ไปสัมผัสบรรยากาศยามค่ำคืนในนั้น ราคาค่าตั๋วก็โหดเช่นกันประมาณ 510 บาท

6. ก่อนเข้าชม Petra by Night กินข้าวไปก่อน อย่าคิดไปกินบริเวณทางเข้า Petra ราคาบ้าเลือดมาก แถมบางร้านมีโกงอีกด้วย

7. โดยส่วนตัวผมแล้ว ข้อแนะนำคือไม่น่าไปเที่ยว Petra เลยครับ เอาเปรียบนักท่องเที่ยวสุดๆ สถานที่เที่ยวอื่นในจอร์แดนก็ไม่ได้สวยมากจนคุ้มที่จะเดินทางไป ถ้าคุณยังมีที่เที่ยวในดวงใจเหลือ ไปเที่ยวประเทศอื่นดีกว่า มีที่สวยๆไปแล้วไม่เสียความรู้สึกอีกเยอะ ลอง search ในเน็ทถึงเรื่องความแพงและเอาเปรียบนักท่องเที่ยวของ Petra ดูได้ เค้าบอกว่า Outrageous Expensive กันเลย เว็บท่องเที่ยวบางเว็บถึงขั้นชวนกันให้ boycott จอร์แดนกันด้วยซ้ำ


**UAE**

1. วีซ่าดูไบ มีสองแบบคืออยู่ไม่เกิน 96 ชั่วโมง กับ อยู่ไม่เกิน 30 วัน หากเดินทางด้วยสายการบิน Emirates สามารถขอทางออนไลน์ในเว็บของ Emirates ได้ สะดวกมาก (แต่ขอแล้วต้องเดินทางด้วยสายการบินเอมิเรสต์ตามตั๋วที่จองเท่านั้น และหากเปลี่ยนแปลงวันเวลาเดินทางก็สะดวกเพราะวีซ่าจะลิ้งค์กับตั๋วของเอมิเรสต์ให้เอง) ส่งเอกสารทุกอย่างทางเน็ท หากเคยได้รับวีซ่า USA, Europe ฯลฯ ใน 5 ปีที่ผ่านมาก็ไม่ต้องส่งเอกสารทางการเงินอะไรให้เลย

2. หากจะอยู่ใน UAE ไม่เกิน 96 ชั่วโมง แนะนำให้ขอทางออนไลน์เท่านั้น ราคา 63.30 US Dollar (ต้องใช้เดินทางภายใน 60 วัน) ชำระด้วยบัตรเครดิตได้ สะดวกสุดๆ ใช้เวลา 4 วันทำการ ถ้าขอผ่านทางสำนักงานสายการบิน Emirates เค้าจะมีแต่แบบ 30 วันราคาประมาณ 3,000 บาท (หรือ 4,000 บาท จำไม่ได้) แบบเดียว (วีซ่าออนไลน์จะส่งมาทางอีเมล์ เป็นไฟล์ pdf ให้พิมพ์ออกมาใช้ได้เลย ไม่ต้องส่งพาสปอร์ตตัวจริงไป) รายละเอียดอ่านเพิ่มเติมได้จาก https://www.dubaivisa.net/EK-OnlineVisa/FAQ.aspx

3. ผมเดินทางด้วยสายการบินเอมิเรสต์ เจ้าหน้าที่ที่ออฟฟิศกรุงเทพฯให้บริการดี การเปลี่ยนแปลงการเดินทางเลื่อนตั๋วก็สะดวก ไม่เรื่องมากวุ่นวายเงื่อนไขเยอะ แต่ผมก็เจอปัญหาเล็กน้อยครับ ** อยากจะเตือนว่าก่อนเดินทางพยายามเช็คเว็บตรวจดูเที่ยวบินของตัวเองด้วยนะครับว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่า ** ของผมเจอเปลี่ยนแปลงแล้วเค้าไม่โทรมาบอกครับ เรื่องก็คือผมวางแผนจะไปถึงดูไบประมาณ 04.30 น. และจะเปลี่ยนเครื่องต่อไปซีเรียเที่ยว 7:15 น. แต่ปรากฎว่าเที่ยวบินไปซีเรียที่ปกติวันนึงมีสองเที่ยวคือ 7:15 กับ 14:10 น. ถูกยกเลิกเที่ยวเช้า 07:15 ทั้งหมดทุกวัน (เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบทำให้ไม่มีคนเดินทาง) ตรงนี้ขอตำหนิสายการบินเอมิเรสต์ด้วย ไม่มีการโทร ไม่มีการอีเมล์ หรือ SMS บอกผู้โดยสารล่วงหน้าเลย ผมโชคดีมารู้เองตอนที่เข้าเว็บ Emirates เพื่อจะพิมพ์ตั๋วก่อนเดินทาง 3-4 วัน จึงไปทราบเอาตอนนั้น ทำให้ต้องรีบวางแผนการเดินทางใหม่แทบไม่ทัน แถมต้องมีลุ้นเสียวเล็กๆเพราะไปถึงในเย็นวันศุกร์ซี่งเป็นเวลาที่คนเค้าชอบนัดประท้วงรุนแรงกันซะด้วย ผมได้โทรไปโวยทางเอมิเรสต์ว่าทำไมไม่โทรมาบอกเลย เค้าตอบว่าต้องค่อยๆโทรไล่บอกผู้โดยสารทีละรายอาจทำให้ต้องใช้เวลาบ้าง ผมขี้เกียจต่อล้อต่อเถียง ทั้งๆที่รู้ว่าแก้ตัวน้ำขุ่นๆ (ผมไม่เชื่อว่าเที่ยวบินไปซีเรีย จะมีผู้โดยสารคนไทยจำนวนมากอย่างแน่นอน ขนาดตอนไปเช็คอินที่สุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่เค้าน์เตอร์เอมิเรสต์ยังถามผมเลยว่าจะไปไหน แล้วโค้ด DAM (Damascus) นี่เมืองอะไร อยู่ประเทศอะไร แล้วจะมีผู้โดยสารเยอะจนต้องค่อยๆไล่โทรบอกได้ไงครับ)

4. สำหรับคนที่มีวีซ่าดูไบแล้วจะไปเที่ยวที่อื่นก่อนแล้วกลับมาแวะ stop over ดูไบตอนขากลับ และต้องรอต่อเครื่องขาไปเป็นเวลานานที่ดูไบ อาจจะเจอปัญหานิดหน่อยได้นะครับ สืบเนื่องจากการถูกเลื่อนเที่ยวบินนี่เอง ทำให้ผมมีปัญหากับวีซ่าดูไบนิดหน่อย เนื่องจากผมต้องรอต่อเครื่องนานประมาณ 10 ชั่วโมง ทางเอมิเรสต์เค้าจึงเปิดโรงแรมให้ผมนอนรอที่ดูไบ แต่โรงแรมนี้มันอยู่นอกสนามบิน ทำให้ผมต้องผ่าน immigration ออกไปก่อนจึงจะไปโรงแรมได้ ซึ่งขั้นตอนนี้ถ้าไม่มีวีซ่าดูไบก็คงไม่เป็นไรครับ แต่ผมดันมี ซึ่งก็ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ immigration บอกผมว่าถ้าผมจะออกไปนอน ผมต้องใช้วีซ่าที่ผมขอเอาไว้เลยนะ จะออกเหรอมันแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง ผมก็เลยบอกว่า อ้าว ผมจะออกไปนอนรอต่อเครื่อง วีซ่าที่ขอไว้ผมเอาไว้เที่ยวดูไบขากลับนะ ไม่ใช่ไม่ได้เหรอ เค้าก็บอกว่าไม่ได้ถ้าจะออกต้องใช้วีซ่าเลย ระบบเค้าล๊อคเอาไว้แบบนี้ หากมีวีซ่าถ้าผ่านด่าน immigration ไม่ว่ายังไงก็จะถูกใช้เลย ผมก็เลยไม่เอา (เพราะไม่รู้ว่าเที่ยวกลับต้องขออีกรอบแบบ On Arrival จะเป็นยังไงสำหรับคนไทย) และได้เดินไปที่ออฟฟิศ immigration เล่าเรื่องให้เค้าฟัง มีเจ้าหน้าที่คนนึงท่าทางจะเป็นหัวหน้าบอกว่าออกไปได้เลย รับรองว่าแค่ออกไปนอนโรงแรมต่อเครื่องไม่เป็นไร เที่ยวขากลับแวะเที่ยวดูไบ วีซ่าที่ผมเตรียมไว้ก็ยังใช้ได้ ผมก็ดีใจ แต่ก็ระวังตัวไว้ก่อน กลัวว่าขากลับไม่เจอเค้าแล้วจะไม่มีใครรู้เรื่อง ต้องซวย อดเข้าดูไบ หรือไม่ก็ต้องเสียเงินเสียเวลาทำวีซ่าอีกรอบจะหาคนรับผิดชอบไม่ได้ ก็เลยถามชื่อเค้าไว้ และจะขอถ่ายรูปเค้าไว้อ้างอิงด้วย แต่เค้ากลับไม่ยอมบอกชื่อ ทั้งๆที่ผมบอกว่าจะเอาไว้อ้างอิง ผมก็เลยไม่เอาดีกว่า กลับไปติดต่อเคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรสต์เล่าปัญหาให้เค้าฟัง เค้าก็รับผิดชอบดีมากเลยครับ ออก voucher ใหม่ของโรงแรมอีกแห่งที่อยู่ภายในสนามบินให้เลย ไม่ต้องผ่าน immigration ออกไปข้างนอก (โรงแรมในสนามบินแห่งนี้ ราคาแพงมากครับ ราคาไม่ได้คิดเป็นคืน แต่คิดเป็นชั่วโมง กลางวันชั่วโมงละ 50 USD หลัง 18:00 น. ราคาชั่วโมงละ 60 USD ตอนแรกผมตกใจนึกว่าฟังผิดชั่วโมงละ 50 AED หรือเปล่า แต่ถามย้ำไปเค้าก็บอกว่า USD จริงๆ)

5. ดูไบ และ อาบูดาบี ร้อนมากๆ เที่ยวไม่สนุกเท่าไหร่ เพราะมันร้อนสุดทน (ผมไปเดือนพฤษภา เพื่อนที่ทำงานที่นั่นบอกว่ายังร้อนน้อยกว่าช่วงที่ร้อนที่สุดอีกเยอะ) เลือกช่วงเวลาไปให้ดี ไม่งั้นจะไม่สนุกครับ

6. ทัวร์ safari ในทะเลทราย ดีครับ ไม่ควรพลาด (แต่ถ้าใครเมารถง่ายมีสิทธิ์อ้วกแตกนะครับ) มีสองแบบคือบริษัทของรัฐเป็นคนจัด กับ บริษัทเอกชนเป็นคนจัด ของบริษัทรัฐราคาแพงกว่า เค้าว่าอาหารดีกว่า แต่ขับรถไม่มันส์ ผมเลือกไปกับบริษัทเอกชน ขับรถมันส์มาก อาหารก็โอเค (ถึงของบริษัทรัฐจะมีอาหารดีกว่าก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงผมก็ไม่ชอบกินอาหารตะวันออกกลางอยู่ดี) ผมไปกับบริษัท One World ราคาคนละ 130 AED (ซื้อกับโรงแรม 250 AED) โทรไปจองได้เองเลย http://www.owtravels.com ผมโทรตอน 11 โมงเช้า เค้าก็มารับบ่าย 3 ครึ่ง เห็นเค้าว่าเป็นช่วงโปรโมชั่นราคาปกติจริงๆอยู่ที่ 160 AED แค่บอกเค้าว่าคุณอยู่โรงแรมไหน เค้าจะมารับมาส่งให้เสร็จ สะดวกดี

7. สินค้าของ Duty Free สนามบินดูไบราคาไม่ถูกเท่าไหร่ (แต่ก็ยังถูกกว่า King Power ของไทยเล็กน้อย) ผมซื้อและดูราคาเฉพาะขนมกับบุหรี่นะครับ พวกเครื่องสำอางน้ำหอมไม่ได้ดู ในคาร์ฟูร์ที่ดูไบบุหรี่มีราคาถูกกว่าใน Duty Free ซะอีก ถ้าใครคิดจะซื้อบุหรี่ไม่ต้องซื้อทั้งที่สนามบินไทยและดูไบครับ ไปซื้อที่คาร์ฟูร์ตาม Mall ในดูไบถูกกว่า (Mild Seven ก็มีขาย ทุกแบบครับ ธรรมดา, Light, Ultra Light มีหมด) และถ้าใครไปซีเรียก็ซื้อที่ซีเรียนะครับ ราคาสินค้าใน Duty Free ซีเรีย บุหรี่ถูกกว่าที่ดูไบ 25% (ผมซื้อที่ Duty Free ซีเรียตอนข้ามไปจอร์แดนครับ ไม่แน่ใจที่สนามบิน Damascus เป็นยังไง พอดีรีบก็เลยไม่ได้ดู แต่เชื่อว่าน่าจะเท่ากัน) แต่ที่ซีเรียไม่มี Mild Seven Light นะครับ ผมซื้อ Winston Ultra Light (ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าตอนนี้ Winston ก็เป็นเครือของ Japan Tobacco แล้ว) มาสูบแทน รสชาติเข้าท่า เรียกว่าแทนกันได้เหมือนกัน แถมถูกกว่าอื้อเลย

8. ร้านแลกเงินที่สนามบินดูไบ อัตราไม่ดี แถมมีค่าธรรมเนียมชาร์จคิดเป็นเปอร์เซนต์เพิ่มอีกต่างหาก แลกมากเสียมาก และแม้จะแลกไม่มากก็ไม่ได้เสียค่าธรรมเนียมไม่มาก เพราะต้องโดนคิดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำอีก 15 AED เป็นอย่างน้อย เพื่อนที่ดูไบบอกว่าให้มาแลกในเมือง แต่ผมต้องขึ้นแท็กซี่ก่อน ก็เลยเกือบจะยอมแลกแล้ว แต่พอดีลองเดินไปคุยกับแท็กซี่ปรากฎว่าเค้ารับชำระค่าโดยสารเป็นเงิน USD ด้วย แม้จะได้อัตราที่ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก็โอเค เพราะจำนวนไม่มาก แค่ค่าโดยสารเท่านั้น คิดแล้วคุ้มกว่าแลกที่สนามบินโดนค่าธรรมเนียมแพงๆ พอผมเข้าเมืองได้ เดินไปที่ Mall ไหนก็มีให้แลก อัตราแลกเปลี่ยนดีกว่าเยอะ และไม่เสียค่าธรรมเนียมด้วย (ร้านแลกเงินที่อัตราถูกสุดจะอยู่ที่เมืองเก่า แถว Gold Souq แต่ก็ต่างกันนิดเดียวเมื่อเทียบกับร้านแลกตาม Mall)

9. ขึ้นตึกสูงที่สุดในโลก Burj Khalifa ให้จองตั๋วทางเน็ตไปล่วงหน้าก่อนระบุวันเวลาที่จะไปได้เลย หากซื้อตั๋วด้านหน้า จะไม่ได้ขึ้นทันที ของผมตอนไปถ้าไม่ได้จองไปก่อน ต้องรอ 5 ชั่วโมง หากไม่ต้องการรอจะขึ้นเดี๋ยวนั้นเลยต้องเสียค่าตั๋ว 400 AED (ราคาปกติ 100 AED) เว็บไซด์สำหรับจองตั๋ว http://www.burjkhalifa.ae

10. การแสดงน้ำพุข้างตึก Burj Khalifa แสดงทุกครึ่งชั่วโมง (ไม่แน่ใจเริ่มรอบแรกเมื่อไหร่ รอบสุดท้ายเมื่อไหร่) ไม่ควรพลาดเด็ดขาด ดูฟรี ผมดูไป 3 รอบ 16.30, 19:00 และ 19:30 แต่ละรอบแสดงไม่เหมือนกัน เพลงประกอบก็ไม่เหมือนกัน รู้สึกว่ารอบ 19:00 และ 19:30 จะสวยกว่ารอบ 16:30 ที่ท้องฟ้ายังไม่มืดครับ

แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 54 19:54:27

แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 15:22:15

แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 15:21:28

แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 15:14:29

แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 02:59:27

แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 02:53:55

แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 02:45:26

แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 02:43:45

แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 02:39:18

แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 02:32:31

จากคุณ : สลบชัย
เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 02:27:28




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com