ความคิดเห็นที่ 1 ถ่ายภาพนกที่รัง by Smith Sutibut ในยุค ที่เทคโนโลยีเบ่งบาน การถ่ายภาพไม่ได้เป็นเรื่องยุ่งยากและต้องใช้ทักษะมากมายอย่างเมื่อก่อน กล้องถ่ายภาพในปัจจุบันราคาถูกลง แต่มีประสิทธิภาพสูงอย่างน่าตกใจ เลนส์ยาวๆ หาซื้อไม่ยาก ใครๆ จึงหันมาถ่ายภาพนกกันมากขึ้น วิธีการ หนึ่งที่นักถ่ายภาพนกส่วนใหญ่เลือกใช้ก็คือ “การถ่ายภาพนกที่รัง” เพราะมีโอกาสได้ภาพนกค่อนข้างแน่นอน ดังนั้นเมื่อมีการพบรังนก (โดยเฉพาะนกแพงๆ หาดูยาก) และข่าวแพร่กระจายออกไป จึงเหมือนมีแรงดึงดูดชักนำนักถ่ายภาพมากหน้าหลายตาให้มาชุมนุมกัน เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเพียงเข้าไปในอาณาเขตใกล้รัง แม้จะระมัดระวังเพียงใด ก็ถือเป็นการรบกวนนกแล้ว การใช้บังไพรจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก อย่างน้อยก็พอจะช่วยลดความหวาดระแวงลงไปได้บ้าง แต่ถึงอย่างไร บังไพรก็ไม่ใช่สูตรสำเร็จของการถ่ายภาพนก หากคนที่อยู่ข้างในปฏิบัติตนไม่ดีพอให้นกไว้ใจ ขณะเดียวกัน การมี “ชุมชนแออัด” หน้า “หมาย” ก็เป็นภาพไม่น่าดูนัก ทั้งสำหรับ “คนดูนก” และ “คนที่ไม่ดูนก” จากคุณ : จะไปลาสา เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 18:15:31

ความคิดเห็นที่ 2 เพราะช่วงทำรังวางไข่ถือว่าเป็นระยะอ่อนไหวเปราะบางที่สุดในวงจรชีวิตนก ชี้เป็นชี้ตายต่ออนาคตของลูกนก การถ่ายภาพนกที่รังจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ระยะห่างและการกระทำหน้ารังยังถูกกำหนดด้วยเส้นจิตสำนึกอันเบาบาง บางคนเห็น บางคนไม่เห็น นักถ่ายภาพที่ขาดความรู้ความเข้าใจธรรมชาติของนก จึงอาจ “ทำอะไรบางอย่าง” ซึ่งเป็นการคุกคามทำลายนกอย่างไม่น่าให้อภัย เขียน มาถึงบรรทัดนี้ไม่ได้คัดค้านการถ่ายภาพนกที่รัง แต่อยากให้การถ่ายภาพนกเป็นไปในเชิงสร้างสรรค์ ไม่แก่งแย่งแข่งขันหรือเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ภาพออกมาสวยสดงดงาม แต่เบื้องหลังคือโศกนาฏกรรมของเพื่อนร่วมโลก อันนี้ก็ไม่ไหว อันที่ จริง นักถ่ายภาพนกเป็นผู้ที่มีโอกาสสังเกตพฤติกรรมหน้ารัง แต่เอาเข้าจริงแล้ว ข้อมูลหลายๆ อย่างกลับไม่ถูกบันทึกหรือรายงานในเชิงวิทยาศาสตร์ ทำให้การศึกษาทางปักษีวิทยาของเรายังขาดแคลนองค์ความรู้ การถ่ายภาพนกเป็นทั้งศิลปะและวิทยาศาสตร์ คงเป็นเรื่องดีถ้าศาสตร์ทั้งสองจะมาพบกันตรงจุดที่ลงตัว อย่างไรก็ตาม พึงระลึกไว้เสมอว่า “ความสุขของนกต้องมาก่อน” จากคุณ : จะไปลาสา เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 18:17:11

ความคิดเห็นที่ 3 เสียงนกและหนอนล่อ by Smith Sutibut ในยุค ที่การดูนกและถ่ายภาพนกได้รับความนิยม ทุกคนหวังที่จะ “เก็บ” นกที่อยากเจอ เดินทางเข้าไปในพื้นที่เป้าหมาย และพยายามทุกวิถีทางที่จะได้เห็นตัวนกที่ใฝ่ฝัน นอกจากอุปกรณ์คู่กายสำหรับการดูนกและถ่ายภาพแล้ว นักดูนกและนักถ่ายภาพนกยุคนี้หลายคนยังพกพา “เสียงนก” และ “หนอนนก” เป็นอุปกรณ์เสริม สมัย ก่อนการบันทึกเสียงนกเป็นเรื่องยุ่งยาก เครื่องบันทึกและเปิดเสียงนกถือเป็นภาระ พะรุงพะรังเหมือนพวกบ้าหอบฟาง คนที่สนใจเสียงนกจึงมักเป็นนักดูนกที่จริงจังระดับเข้าเส้น และไม่ใช่เรื่องที่จะเรียนรู้กันง่ายๆ ต้องอาศัยทักษะการฟังและการสังเกตพฤติกรรมอย่างเอาจริงเอาจัง แต่ในยุคเทคโนโลยีครองโลก ใครๆ ก็หาเสียงนกมาบรรจุไว้ใน MP3 หรือโทรศัพท์มือถือได้อย่างสบาย ด้วยคิดว่านี่เป็นหนทางลัดช่วยให้นกออกมาปรากฏตัว การเรียนรู้เสียง นกมีประโยชน์ทั้งกับการดูนกและสำรวจนก เพราะนกส่วนใหญ่สื่อสารด้วยเสียง (และเราก็มักได้ยินเสียงมากกว่าเห็นตัว) แต่ละชนิดมีเสียงร้องเป็นเอกลักษณ์ การใช้เสียงล่อนก (โดยเฉพาะนกที่ชอบอยู่ในที่รก) บางครั้งจึงมีความจำเป็นเพื่อยืนยันข้อมูลในทางวิชาการ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า การใช้เสียงล่อจะใช้ได้เฉพาะนักวิจัยเท่านั้น ผู้มีประสบการณ์และเข้าใจพฤติกรรมนกจะรู้ดีว่า เมื่อไหร่ “ควรใช้” และเมื่อไหร่ “ไม่ควรใช้” นกจะมีปฏิกิริยากับเสียงที่ได้ยิน มันแยกไม่ออกหรอกว่านั่นคือเสียงนกจริงๆ หรือเสียงที่บันทึกเอาไว้ โดยเฉพาะช่วงจับคู่ฤดูผสมพันธุ์ หากเป็นเสียงนกเพศตรงข้ามก็จะได้ตามไปจีบ แต่ถ้าเป็นเสียงของเพศเดียวกัน เสียงนั้นจะเหมือนกับการท้าทาย ยิ่งนกเพศผู้ (ซึ่งนักดูนกส่วนใหญ่หมายปองมากกว่าเพศเมีย) คงประมาณว่า “แถวนี้ใครใหญ่ว่ะ? กูลูก...นะโว้ย” การใช้เสียงเพื่อ “ดึงดูดใจ” หรือ “ท้าทาย” เป็นเรื่องค่อนข้างอ่อนไหว จึงต้องมีการเรียนรู้อย่างลึกซึ้งและอยู่ภายใต้ดุลพินิจอันควร รู้จักคำว่า “พอเพียง” มิใช่ “พร่ำเพรื่อ” แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 54 18:22:37 จากคุณ : จะไปลาสา เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 18:20:45

ความคิดเห็นที่ 4 สำหรับหนอนนกถูกเพาะมาใช้ เลี้ยงนก หาซื้อได้ไม่ยาก บางคนนำมาวางให้นกแถวบ้าน นกเหล่านี้มีชีวิตคุ้นเคยกับคนอยู่แล้ว ถือเสียว่าเป็นการเอื้อเฟื้อแก่เพื่อนบ้านตัวน้อย ซึ่งผิดกับนกป่า หลายคนนำมาใช้หลอกล่อพวกนกเห็นแก่กินให้ออกมาเชยชม นกหลายตัวติดหนอนงอมแงม พอเห็นคนก็หรี่เข้ามา เพราะหวังว่าจะมีอาหารให้กิน โดยหารู้ไม่ว่าพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปและอาการไม่กลัวคน อาจทำให้การมีชีวิตในธรรมชาติของมันสั้นลง ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้เป็นเพราะมีการใช่อย่างพร่ำเพรื่อ เกินพอดี พวกมือใหม่ไม่รู้อิโหน่อิเน่ เห็นเขาใช้แล้วได้ภาพแจ่มๆ ก็เอาอย่าง กลายเป็นสูตรสำเร็จของการถ่ายภาพนก การใช้เสียงนกและหนอนล่อไม่ใช่เรื่องผิด แต่ควรรู้จัก “กาลเทศะ” หาก คุณดูนกเพียงเพื่อเก็บสถิติการ “เห็นนก” หรือต้องการ “ล่าภาพนก” กรุณาลบข้อความข้างต้นออกจากหน่วยความจำของสมองไปได้เลย แต่ถ้าคิดว่านกเป็นสัตว์โลกที่งดงามทั้งด้านกายภาพและชีวภาพ มีสิทธิดำรงชีวิตตามครรลองครองธรรม (ชาติ) เส้นแบ่งของความพอเหมาะพอดีคือแค่ไหน... คำตอบมีอยู่แล้วในใจคุณ จากคุณ : จะไปลาสา เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 18:24:34

ความคิดเห็นที่ 5 ทำไมเราต้องระมัดระวังการใช้เสียงล่อนก ในการดูนกและถ่ายภาพ by Woraphot Bunkhwamdi เรื่อง นี้ คงต้องทำความเข้าใจกันตั้งแต่ว่าทำไมเมื่อเราเปิดเทปเสียงนกนั้นๆ (play back) แล้ว นกถึงมีการตอบสนอง (ทั้งร้องโต้ตอบ หรือเข้ามาหา) สำหรับนกแล้ว เพลง (song) หรือเสียงร้อง (call) คือหนึ่งในเครื่องมือหลักสำหรับการแสดงออกถึงอาณาเขตของตน โดย เฉพาะนกที่มีการตั้งอาณาเขตทั้งชั่วคราวและถาวร ซึ่งอาณาเขตของนกนี้ เปรียบก็เหมือนรั้วบ้านของคนเรา ที่เราจำต้องมีเพื่อใช้กำหนดพื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆ นกก็ เช่นเดียวกัน อาณาเขตจะเป็นตัวประกันถึงความอยู่รอดของตัวและคู่ของมัน นกที่แข็งแรงสมบูรณ์ สามารถร้องได้ดัง ก็จะมีอาณาเขตที่ใหญ่ มี พื้นที่หาอาหารที่ใหญ่ ส่งผลถึงปริมาณอาหารที่มากตามไปด้วย เป็นหลักประกันถึงความอยู่รอดของลูกนกและคู่ ดังนั้นนกที่ตั้งอาณาเขตทั้งหลาย ต่างต้องพยายามปกป้องอาณาเขตของตนแบบถวายหัวเพราะเป็นเครื่องชี้ชะตาในการดำรงชีวิตและการสืบพันธุ์ ทีนี้ เมื่อเราเปิดเทปในอาณาเขตที่นกได้ครอบครองอยู่แล้ว นกก็จะเข้าใจว่ามีผู้บุกรุกเข้ามาในพื้นที่ของตนมันก็จะออกมาพยายามปกป้อง อาณาเขตของมัน ซึ่งการต่อสู้เพื่อปกป้องอาณาเขตของนกนี้ก็จะแตกต่างออกไปตามชนิด บางชนิดจะวัดกันที่ความดัง บางชนิดจะวัดกันที่ความซับซ้อนของเสียง บางชนิดวัดกันที่ความอึด หรือหลายๆอย่างประกอบกัน แต่เสียงจากนกตัวเล็กๆ หรือจะดังสู้เสียงจากเครื่องมือที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ประเด็นนี้ที่สำคัญครับ เมื่อเราเปิดเทปนกก็จะตอบสนองโดยการเข้ามาร้องสู้ใกล้ๆ อันนี้ก็นับเป็นการรบกวนนกอย่างหนึ่ง เพราะทำให้นกเสียเวลาในการหากินไป ถ้าเปิดกันถี่ๆ วันๆ นกก็ไม่ต้องทำอะไรนอกจากมาปกป้องอาณาเขต แต่ ถ้าเราเปิดติดต่อกันเป็นเวลานาน นกจะเข้าใจว่าศัตรูนี้เข้มแข็งเกินไปคงสู้ไม่ได้ นกก็จะย้ายออกจากอาณาเขตนั้น และพยายามหาพื้นที่ใหม่เพื่อตั้งอาณาเขต ซึ่งเปิดนานเท่าไหร่นกถึงจะรู้สึกว่าแพ้ อันนี้ตอบไม่ได้ครับ แต่ละชนิดก็จะแตกต่างกันไป ดังนั้น การใช้เสียงเพื่อดึงดูดนกให้เข้ามาหา จำเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะหากเราใช้พร่ำเพรื่อ หรือใช้ต่อเนื่องกันเป็นเวลานานแล้วจะส่งผลกระทบถึงนกอย่างรุนแรง (นอกจากนี้การที่นกได้ยินเสียงจากตัวอื่นยังมีผลต่อระดับฮอร์โมนของนกด้วย) (นี่ ยังไม่รวมถึงฤดูการทำรังที่นกจะมีการปกป้องอาณาเขตเข้มข้นมากกว่าปรกติ และอาจส่งผลถึงกลุ่มประชากรทั้งหมดในพื้นที่ ไม่ใช่แค่นกตัวเดียว) จากคุณ : จะไปลาสา เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 18:28:56

ความคิดเห็นที่ 6 คงต้องถามว่าใคร??? จำเป็นที่จะต้องใช้เสียงล่อนกบ้าง สำหรับนักดูนก เสียงอาจจะจำเป็น "ในบางเวลา" เมื่อนกที่เราอยากจะเห็นไม่ใช่นกที่สามารถเห็นได้ด้วยการเดินหาง่ายๆ หรือมีเวลาน้อยในพื้นที่ ซึ่งก็ขึ้นกับกิเลสของแต่ละท่านไป แต่การใช้เสียงของนักดูนกโดยมากจะใช้ไม่เยอะ เพราะต้องการเพียงแค่ "เห็น" แค่เสี้ยววินาที แค่นี้ก็พอที่จะนับได้ว่าเห็นแล้ว สำหรับนักถ่ายภาพ ก็คงต้องถามว่า ในการถ่ายภาพนกแต่ละชนิดคุณต้องการเวลาเท่าไหร่ถึงจะ "พอใจ" กับภาพของคุณ ซึ่งแน่นอนว่าเวลาที่ต้องการนี้จะมากกว่าเวลาที่นักดูนกใช้แน่ๆ ผมว่านักถ่ายภาพต้องยอมรับในจุดนี้นะครับ และต้องคำนึงว่า ทุกวันนี้นักถ่ายภาพนกบ้านเรามีมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ถ้ากลุ่มนักถ่ายภาพเค้าตาม "หมาย" มา และทุกคนใช้เสียงเหมือนกันหมด อะไรจะเกิดขึ้น และส่วนตัว ผมยอมรับว่าใช้เสียงและหนอนหลายครั้งเวลาที่เก็บข้อมูลงานวิจัย เสียง จะใช้เมื่อเป็นการสำรวจความหลากหลายของพื้นที่ ที่มีระยะเวลาการทำงานน้อยหรือไม่ครบรอบปี (ถ้า ครบรอบปีก็ไม่จำเป็น เพราะยังไงนกก็ต้องร้องให้เราได้ยินบ้างซักครั้งอยู่แล้ว) หรือการสำรวจชนิดที่สำคัญโดยมุ่งประเด็นไปที่ชนิดนั้นๆ อย่างไรก็ ตาม ไม่เคยที่จะใช้เสียงนานๆ ครับ จะเปิดเพียงแค่ได้เห็นหรือแค่ร้องตอบก็เพียงพอที่จะยืนยันชนิด (ซึ่งโดยมากไม่เกิน30วินาที) หนอน ใช้เมื่อจะจับนกครับ ก็ยังตะขิดตะขวงใจอยู่ สงสารหนอนอ่ะ แต่ปริมาณการใช้หนอนเพื่องานวิจัยจะน้อยมากๆ ครับ เฉลี่ยวันนึงไม่น่าจะเกิน 10 ตัว (สำหรับนกทุกตัวที่ได้นะครับไม่ใช่นกตัวเดียว) แต่ถ้าเห็นการไปเที่ยวดูนก ผมหลีกเลี่ยงที่จะไม่ใช้เสียงหรือหนอน อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ผมรู้สึกว่ามันไม่ fair กับนก และก็ไม่ภูมิใจเท่าไหร่เวลาที่เห็น บางทีความพยายามและการให้ความยุติธรรมกับนกทำให้การดูนกของผมมีความสุขมากขึ้น(แม้จะเป็นความสุขปนทรมานก็ตาม) และนกทุกตัวที่ได้เห็นก็ได้ให้คุณค่าทางจิตใจกับผมมากขึ้นเป็นทวีคูณ จากคุณ : จะไปลาสา เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 18:32:11

ความคิดเห็นที่ 7 การดู/ถ่ายภาพนกเป็นการสนองกิเลสของตนครับ นกไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเราเลย ก็คงอยู่ที่ตัวเราแล้วว่า เราจะจัดการกับกิเลสของตัวอย่างไร และเป็นห่วงเพื่อนร่วมโลก ที่มอบความสุขให้กับเราแค่ไหน จากคุณ : จะไปลาสา เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 18:36:17

ความคิดเห็นที่ 8 สวยทุกรูป โดนใจหลายภาพ ส่วนล่างสุดนี่ ฮาาาาาา........ ^^ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ริมยมนา เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 19:07:58

ความคิดเห็นที่ 9 รูปสุดท้ายนี่ถ้าเป็นลูกศิษย์ผมจะจับตีมือเรียงตัวเลยไม่รู้จะกางข้อศอกกันไปถึงไหน -_- บทความดีมีประโยชน์ ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันกันครับ จากคุณ : รันตี เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 19:23:00

ความคิดเห็นที่ 10 ชอบประโยคนี้มากครับ " เราจะจัดการกับกิเลสของตัวอย่างไร และเป็นห่วงเพื่อนร่วมโลก ที่มอบความสุขให้กับเราแค่ไหน" จากคุณ : jucgroo เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 20:05:26

ความคิดเห็นที่ 11 เป็นบทความที่เยี่ยมยอดมาก ๆ กับ นโยบาย Green Birding Movement .... สนับสนุน ๑๐๐ เปอร์เซนต์ ^^ และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งที่ถูกที่ควร .......หวังว่าบทความและการถ่ายทอดผ่านอักษรเหล่านี้ จะช่วยกันสรรค์สร้างให้ ...ธรรมชาติทัศนา ...งดงามเหมือนก่อน ... พึงรู้ถึง..."สุขเขา" "สุขเรา" ......แค่นี้ก็ Win Win กันทุกฝ่ายแล้วจริงมั้ยครับ ...^^ จากคุณ : นกสุโขทัย เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 20:32:23

ความคิดเห็นที่ 12 ข้อมูลให้ความรู้ดีมากๆ ครับ ช่วยให้คนที่ไม่รู้ได้เข้าใจเหตุผลที่ทำไมเราถึงควรระวัง และสำหรับคนที่รู้แล้วอาจเผลอลืมไปชุกคิดขึ้นมาใหม่ได้ อยากให้มีแบบนี้เยอะๆ ครับ จากคุณ : บี้จี้ เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 20:39:24 A:124.120.127.234 X: TicketID:320183

ความคิดเห็นที่ 14 ตอนนี้ไปไหนมาไหนก็เห็นคนถ่ายรูปนกเยอะขึ้น แต่แม้คนที่ดูนกและถ่ายรูปนกจะเป็นคนที่รักธรรมชาติ แต่เราก็รู้กันดีว่ากิจกรรมอย่างดูนกหรือถ่ายภาพนกก็เป็นกิจกรรมที่รบกวนนก (ที่เรารัก) ถ้าเราสร้างแนวทางดี ๆ ที่จะถ่ายนก คนกับนกก็จะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขครับ สนับสนุนมาก ๆ ครับ กระทู้ดี ๆ แบบนี้ ขออนุญาตโหวตนะครับ จากคุณ : Mr.December เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 21:05:13

ความคิดเห็นที่ 15 นี่แหละ จุดเริ่มของการดูนกและถ่ายภาพอย่างยั่งยืน แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 54 21:44:36 จากคุณ : captainnova เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 21:43:45

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่ได้เห็นกระทู้แบบนี้ใน BP นานแล้วครับ สนับสนุน Green Birding สุดหัวใจเลย ^^ //นกตัวเล็ก ๆ ไม่คับจอ ผมว่ามันก็มีเสน่ห์ดีนะครับ ได้เห็น Habitat ของนกด้วย สบายตา สบายใจ จากคุณ : StrayBird เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 22:15:10

ความคิดเห็นที่ 17 ต้อง Vote ครับ ... อยากให้ได้อ่านกันเยอะๆ ... จากคุณ : น้าทู (Patunga) เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 22:30:52

ความคิดเห็นที่ 18 โหวตค่า อยากให้เป็นกระทู้แนะนำจังเลย ^^ จากคุณ : โป่งวิด เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 22:32:12

ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อกี๊ลืมโหวต แฮะ  กระทุ้ดีดีแบบนี้ต้องโหวตครับ จากคุณ : jucgroo เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 22:35:17

ความคิดเห็นที่ 20 " บางทีความพยายามและการให้ความยุติธรรมกับนกทำให้การดูนกของผมมีความสุขมากขึ้น และนกทุกตัวที่ได้เห็นก็ได้ให้คุณค่าทางจิตใจกับผมมากขึ้นเป็นทวีคูณ " จริงครับ เป็นความสุขที่ได้ค้นหา ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาและบุพเพสันนิวาสที่ทำให้พบกัน พบแบบไม่รู้ตัวทำให้มีความสุขมากมาย รักแท้ไม่ควรหลอกลวงนะครับ จากคุณ : ชมส. เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 22:43:49

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นกระทู้ที่ให้ข้อมูลได้เห็นภาพชัดเจนมากๆครับ ไม่โหวตไม่ได้แล้วครับผม จากคุณ : plains-wanderer ([death of a party]) เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 23:09:01

ความคิดเห็นที่ 22 คนรักนกไม่ควรละเลยครับ บางคนอาจไม่เจตนา แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างจากกลุ่มคนที่ชอบทำลายเท่าไหร่ จากคุณ : Phoenix032 เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 23:29:03

ความคิดเห็นที่ 23 มาร่วมด้วยช่วยกันสานครับ  ดูนกอย่างมีความสุขทั้งนกทั้งคนครับ จากคุณ : Big Dong เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 08:20:43

ความคิดเห็นที่ 24 วันนี้มาโหวต....... แต่เช้าเลย ^^ จากคุณ : นกสุโขทัย เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 08:32:11

ความคิดเห็นที่ 25 เป็นบทความที่ดีมากครับ มีเหตุและผล มีขีดจำกัด หรือลิมิตที่บอกว่าอะไรทำได้ไม่ได้ หรือทำได้แล้วจะทำได้แค่ไหน ไม่ได้ห้ามหรือปิดกั้น ดังนั้นคนที่เริ่มถ่ายนกใหม่ ๆ หรืออาจจะเริ่มออกนอกลู่นอกทาง จึงสมควรอ่านครับ จากคุณ : วัตร@วนาวี เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 09:28:51

ความคิดเห็นที่ 26 ข้อความดีดี อย่างนี้ ขอเก็บให้เด็ก ๆ อ่านนะคะ จากคุณ : ม่านบาหลี เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 09:43:15

ความคิดเห็นที่ 27 ร่วมด้วยช่วยกันครับ  เดี๋ยวนี้ มีเงินก็ซื้อกล้องดีๆ เลนส์ดีๆ ได้ จะถ่ายให้สวยยังไงก็ได้   อยากให้ช่างภาพแต่ละคนมีสไตล์ของตัวเองครับ แต่โดยส่วนตัวผมชอบสไตล์ ญี่ปุ่นครับ มีนก มีพื้นที่หากิน มีอากาศ ถ่ายออกมาเป็นงานศิลปะ ไม่ใช่ หน้าตรง สวมหมวก นกธรรมดา ก็ถ่ายให้งามได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นนกหายาก   นกต้องมาก่อนคร้าบ อยู่ร่วมกันในธรรมชาติอย่างมีความสุขนะครับ จากคุณ : เสือจุ่น เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 12:00:21

ความคิดเห็นที่ 28 ร่วมโหวตให้กระทู้ดีๆครับ จากคุณ : Mr.TW เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 12:22:24

ความคิดเห็นที่ 29 มือใหม่หัดดูครับ เข้ามาอ่านแล้วร่วมโหวตด้วยครับ จากคุณ : เหลืองwarbird เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 12:45:55

ความคิดเห็นที่ 30 อยากให้นักดูนก นักถ่ายภาพนก หน้าใหม่ หน้าเก่า ได้เข้ามาอ่านทุกคนเลยครับ ^^ //ว่าแล้วก็ โหวต จากคุณ : StrayBird เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 13:04:45

ความคิดเห็นที่ 31 ร่วมด้วยช่วยโหวตครับ ไม่รู้เป็นอะไร เดี๋ยวรูปนกตัวใหญ่ๆตาใสๆแล้วเอียน จากคุณ : Mesia_82 เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 13:10:51

ความคิดเห็นที่ 32 ร่วมโหวตครับ จากคุณ : วอมแบ็ท เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 13:14:11

ความคิดเห็นที่ 33 อ่านแล้วเืตือนสติได้ดีจริงๆ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : เงาจันทร์์ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 13:26:55

ความคิดเห็นที่ 34 บางเบิดมีนกเงือกครับ ชอบปรากฎตัวตอนเช้า น่าแปลกที่บางเบิด เป็นเขาที่ติดทะเล แต่มีนกเงือกอยู่ได้ยังไงก็ไม่รู้ครับ จากคุณ : บางเบิดทะลุ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:22:02

ความคิดเห็นที่ 35 โหวตค่ะ สำนึกดี สังคมดี จากคุณ : ลูกแม่เกตุ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:43:58

ความคิดเห็นที่ 36 ภาพใน คห. 3 สวยมากกกก...ค่ะ จากคุณ : กะลาสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:48:04

ความคิดเห็นที่ 37 ชอบมาก ๆ เลยค่ะ ทั้งรูป และข้อมูล ทำให้ได้รู้ว่า สิ่งไหนที่เราควรทำ และสิ่งไหนที่เราไม่ควรทำ พออ่านจนจบทำให้ได้เรียนรู้ว่า ทุกสิ่ง มีธรรมชาติที่เป็นของเค้า ไม่ควรที่จะทำร้ายเค้าทางอ้อม เพียงเพราะความสุข และความต้องการของเรา  สุดท้ายถ้าเราเข้าใจ คนและนกก็อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ^^ จากคุณ : ก็อยากจะเปรี้ยว เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 15:02:58

ความคิดเห็นที่ 38 คนโบราณสอนให้รู้จัก "เอาใจเขามาใส่ใจเรา" ลองคิดดูว่า ถ้าเราเป็นนก ตัวเล็กๆ แล้วมีคนแปลกหน้าตัวโตๆ มาดักที่หน้าบ้านทุกวัน ไม่รู้ว่ามาดีหรือมาร้าย แค่นี้ก็ขวัญผวาแล้ว ถ้าไม่อยากเป็นนก เป็นคนก็ได้ สมมติมีคนแปลกหน้าหลายคน มาด้อมๆ มองเรา ที่หน้าบ้าน ข้างบ้าน หลังบ้าน ทุกๆ วัน เราจะอยู่เป็นสุขไหม มีสมาธิในการทำงานไหม(กรณีทำงานนอกบ้าน) จะกล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แล้วออกไปทำงานไหม จะกล้าปิดบ้านแล้วไปเดินห้างฯ หรือไปเที่ยวต่างจังหวัดไหม ฯลฯ เอาใจเขามาใส่ใจเรา กันบ้าง โลกจะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ จากคุณ : ขาJohn เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 15:03:27

ความคิดเห็นที่ 39 ร่วมด้วยช่วยกัน รักษ์โลก จากคุณ : กาแฟรสเสน่หา เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 15:30:58

ความคิดเห็นที่ 40 ตามมาจ้า จากคุณ : สาวสเตนเลสจ้า เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 15:39:24

ความคิดเห็นที่ 41 สวยมากครับ  โหวตครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:12:58

ความคิดเห็นที่ 42 แว๊บมาโหวตก่อนค่ะ จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:29:14

ความคิดเห็นที่ 43 โหวตค่ะ.. จากคุณ : tadee2005 เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:49:27

ความคิดเห็นที่ 44 นอกจากจะ "เกรงใจนกแล้ว" ก็กรุณา "เกรงใจเพื่อนร่วมทาง" ด้วยนะคะ บางคณะวางขาตั้งกันกลางถนน รถจะขึ้นเขาลงเขาไม่ได้สนใจ แถมจุดที่ดูนกนั้น ก็อยู่ใกล้ๆ รังนกนั่นล่ะ นก 1 ตัว ช่างภาพอีกเป็นสิบ เหมือนรุมโทรมยังไงยังงั้น จากคุณ : @ดอกไม้ไหว@ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:52:40

ความคิดเห็นที่ 45 มารอเก็บ จากคุณ : สีไม้น้ำ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:58:56

ความคิดเห็นที่ 46 ชอบจัง....Vote ให้ป้า ด้วยคน จากคุณ : Krissii เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 18:59:40

ความคิดเห็นที่ 47 เป็นบทความที่ดีครับ จากคุณ : pakma_13 เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 19:33:16

ความคิดเห็นที่ 48 โหวตอย่างแรงงงค่ะ จากคุณ : kiyoshibashi เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 19:45:31

ความคิดเห็นที่ 49 โหวตโน เอ้ยยยย.....โหวตครับ จากคุณ : เอ-ริก เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 21:08:46

ความคิดเห็นที่ 50 ไม่เคยคิดเลยว่าคนที่ถ่ายรูปนกได้ต้องลงทุนทำถึงขนาดนี้ คิดว่าบังเอิญเจอนกนั้นๆเลยถ่ายมาได้ ได้ความรู้ใหม่เลย ชอบภาพเเบบนี้เหมือนกันดูมีอะไรๆในภาพครบดี  จากคุณ : remy&chanel เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 22:04:00

ความคิดเห็นที่ 51 ชอบรูปแนว Birdscape แบบนี้มาก  ถ่ายให้สวยยากจริงๆ  อยากถ่ายได้บ้าง อยากให้เป็น trend ใหม่ที่มือใหม่ มือเก่าหันมาถ่ายกันมากขึ้น เพราะนกที่เห็นโดดๆไม่เห็นสิ่งแวดล้อม  สำหรับผมมันขาดเรื่องราวไปมากมาย Birdscape ช่วยให้เราเข้าใจคุณค่าของนก อย่างที่นกเป็น ในธรรมชาติ นกก็แทบไม่มีคุณค่าอะไร ถ้าเอามันออกจากสภาพแวดล้อมของมัน อีกอย่าง  birdscape photography นี้ไม่ต้องแข่งกันที่อุปกรณ์แพงๆ  แต่อยู่ที่ฝีมือ มุมมองทางศิลปะ และความลึกซึ้งของความเข้าใจนกตัวนั้น มาร่วมกันสร้างค่านิยมดูนก ถ่ายรูปนกที่เคารพสิทธิและอ่อนโยนต่อธรรมชาติกันครับ โหวตครับ แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 23:37:38 จากคุณ : หมอหม่อง เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 23:36:30

ความคิดเห็นที่ 52 เป็นคนชอบถ่ายภาพ แต่กับนก ถ่ายเฉพาะที่บังเอิญเจอครับ ไม่ถึงกับพยายามดั้นด้นไปถ่ายมาให้ได้ เพิ่งรู้ว่าการถ่ายภาพนกนี่มันมีความละเอียดอ่อนได้ถึงขนาดนี้ครับ ฝากถามเลยครับว่านกในภาพตัวสีแดงแจ๋นี่ชื่อนกอะไรอ่ะครับ จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 01:38:44

ความคิดเห็นที่ 53 ร่วมโหวตด้วยครับ จากคุณ : พนาไพร เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 06:01:11

ความคิดเห็นที่ 54 โหวตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตต จากคุณ : นกสุโขทัย เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 06:13:09

ความคิดเห็นที่ 55 คห.๕๒ นกแก้วโรเซลล่าแดง Crimson Rosella, Race elegans ครับ จากคุณ : นกสุโขทัย เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 06:15:10

ความคิดเห็นที่ 56 Voted ครับ จากคุณ : kanjang เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 07:51:12

ความคิดเห็นที่ 57 สนับสนุน มากกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : LittleCancer เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 09:05:47

ความคิดเห็นที่ 58 ต้อง log in เข้ามาโหวต จากคุณ : กะรางแก้มแดง เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 09:17:49

ความคิดเห็นที่ 59 เยี่ยมไปเลยครับ ... สนับสนุนให้มีการเผยแพร่บทความนี้ออกไปในวงกว้างกว่านี้ครับ ... การไปดูนกหรือถ่ายภาพนก ... ความสุขของนกต้องมาก่อนความสุขของเราครับ ... จากคุณ : แมลงภู่บนหูกระต่าย เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 10:14:09

ความคิดเห็นที่ 60 เห็นด้วยค่ะ ความสุขของนกต้องมาก่อน ไม่รบกวนวิถีชีวิตที่เค้าควรจะเป็น โหวตค่ะ จากคุณ : *~Mayple Girl~* เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 10:48:34

ความคิดเห็นที่ 61 เป็นบทความที่ดีมากๆ ค่ะ อ่านแล้วได้รู้สิ่งที่ควรรู้ในการดูนกอย่างอนุรักษ์จริงๆ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 11:40:38

ความคิดเห็นที่ 62 เยี่ยมมาก ..... จากคุณ : กระเต็นลาย เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 12:06:04

ความคิดเห็นที่ 63 คนบางคนจะเข้ามาอ่านไหมหนอ เห็นเปิดเสียงนกลั่นๆ เปิดแล้วเปิดอีก ถ้าเราเป็นนกเค้าตัวนั้นคงรีบบินหนีไปให้ไกล ขอบคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ จากคุณ : Tiger Shrike เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 19:56:37

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบพระคุณ ที่ร่วมด้วยช่วยกันโหวตค่ะ :) ปัญหาเรื่องนี้ รุนแรงขึ้นทุกปีๆ อยากให้บทความนี้ เผยแพร่ไปเยอะๆ   ความหวังอยู่ที่คนรุ่นใหม่ ที่มีใจรักธรรมชาติ อย่างแท้จริง   ปัญหานี้จะได้เบาบางลงบ้างค่ะ จากคุณ : จะไปลาสา เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 21:23:22

ความคิดเห็นที่ 65 Voted อีกครั้ง จากคุณ : Tiger Shrike เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 20:26:23

ความคิดเห็นที่ 66 เห็นด้วย และจะพยายามปฏิบัติตามครับ แต่ไม่รู้จะได้ผลแค่ไหนนะเพราะยังได้ยินได้เห็นพฤติกรรมอยู่ไม่สุขกับรังนกของบางคนอยู่บ่อยๆ คงต้องรอให้เกิดโศกนาฏกรรมเล็กๆอีกซักครั้งละมั้งถึงจะชะงักกันบ้าง จากคุณ : tisakarp เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 22:57:43

ความคิดเห็นที่ 67 น่ารักมากค่ะ จากคุณ : เอื้องเหมย เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 10:07:06

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณมากๆครับผม นกสวยงามพวกนี้ควรอยู่คู่ธรรมชาติตลอดไปครับ จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 10:15:04

ความคิดเห็นที่ 69 มาโหวตด้วยอีกคนจ้า จากคุณ : niltava (niltava) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 21:58:29