ความคิดเห็นที่ 1 Is it impact to passenger? such as postpone the flight or something? แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 54 21:40:23 จากคุณ : NSIRIV เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 21:39:34

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามาบอกสั้นๆว่า ทำอะไรให้นึกถึงผู้ถือหุ้นบ้างนะครับ บางคนถือตั้งแต่ราคา 60 บาท ตั้งแต่ราคาเอาหุ้นเข้าตลท ปันผลบางคนแทบไม่เคยได้ เงินลงทุนไปกับพวกท่านพนักงานและผู้ริหาร ธรรมาภิบาล ของ ผู้บริหาร และ พนักงาน ควรแสดงออกบ้างนะครับ ป.ล ตอนนี้ผมไม่ได้มีหุ้นตัวนี้อยู่นะครับ เคยถืออยู่ และขายออกไปเพราะเหตุผลนี้แหละครับ ผมเห็นใจพนักงานทุกท่านนะครับ แต่ พนักงานควรแสดงออกถึงความรักองค์กรบ้างนะครับ จากคุณ : ไทกั๋ว เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 22:09:44

ความคิดเห็นที่ 3 เราแค่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ออกมาเเสดงออกถึงความไม่เห็นด้วย ที่จะเพิ่มเงินเดือนให้กับนักบิน เเล้วมาลดเงิน ลดวันพัก ลดค่าใช้จ่าย ของเหล่าเเอร์-สจ๊วตก็เท่านั้น เพราะทุกคน ก็มีค่าใช้จ่าย มีภาระทั้งส่งเสียทางบ้าน เลี้ยงดูครอบครัว ถ้าไม่เกิดกับตัวเองคงไม่มีใครรู้หรอก จากคุณ : chiw_ik เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 22:19:00

ความคิดเห็นที่ 4 งง "เนื่องจากไม่พอใจที่ผู้บริหารใช้นโยบาย FLEXIBLE CREW ลดค่าใช้จ่าย ส่งผลให้วันพักของลูกเรือในต่างประเทศลดลง และจัดจำนวนพนักงาน ต้อนรับบนเครื่องบินให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารในเที่ยวบิน" เออ นโยบายมันก็สมควรแล้วนิ กับสภาพทางการเงินของบริษัท สงสัยพนักงานพวกนี้อยากให้บริษัทขาดทุน จนตัวเองตกงานมั้ง แทนที่จะเอาเวลาไปปรับปรุงการทำงานของตัวเอง จะได้มีลูกค้า มาใช้บริการเยอะ ๆ เห็นแต่ออกมาเรียกร้องหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง ตลอดแหละ แต่การทำงานไม่เห็นจะปรับปรุงเลย จากคุณ : Two ways เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 22:21:43

ความคิดเห็นที่ 5 เคยเข้าไปอ่าน web ของ air crew เห็นใจพวกเค้ามากที่ทำงานค่อนข้างลำบาก โน้นก็ไม่พอ นั่นก็ขาด ทำให้ถูกผดส ต่อว่า อันนี้เห็นใจ แต่ นึกถึงบริการที่เราได้รับจากพวกเค้า หน้าตาบูดบึ้ง ต้อนรับฝรั่งดีกว่าคนไทยแล้ว เฮ้ยยยยยย   ไม่รู้จะเห็นใจ หรือสม - -  หรือ อย่างไรดี จากคุณ : ployster เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 22:25:28

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้ามีสมาชิกคนไหนเป็นแอร์-สจ๊วต ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบาย Flexible Crew ที่ในข่าวว่า ลองอธิบายให้สมาชิกส่วนใหญ่ทราบหน่อยสิครับว่า 1. เกณฑ์มาตรฐานตามสมาคมการบินสากล (หรือองค์กรอะไรก็แล้วแต่ที่กำหนดเกณฑ์ในระดับนานาชาติ) กำหนดไว้อย่างไรบ้าง 2. ระบบเดิมเป็นอย่างไร จัดตารางบิน วันหยุด อย่างไร สอดคล้อง ต่ำกว่า หรือสูงกว่า เกณฑ์มาตรฐานฯ อย่างไร 3. แล้วระบบใหม่ Flexible Crew เป็นอย่างไร ต่างกับระบบเดิมอย่างไร แล้วเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานฯ แล้วเป็นอย่างไร เพราะอย่าลืมนะครับ ว่าสมาชิกส่วนใหญ่ที่นี่ อยู่ในฐานะ "ผู้โดยสาร" เกือบทั้งนั้น แน่นอน หลายๆ คนก็เห็นใจกับเรื่องภาระงาน หรือความเครียดของเจ้าหน้าที่บนเครื่อง แต่ "ผู้โดยสาร" อย่างเราๆ คงไม่ทราบหรอกครับ ว่า อะไรเป็นสิ่งจุดประเด็นให้พนักงานประจำเครื่องต้องออกมาคัดค้านกันขนาดนี้ พวกเราเหล่า "ผู้โดยสาร" ก็หวังเพียงแค่ว่า ได้รับการบริการอย่างเหมาะสม จากทุกท่านที่เป็นพนักงานประจำเครื่อง ตามสมควร เท่านั้นเอง ปล. ไม่ทราบว่า ระบบใหม่ที่ว่านี่ ส่งผลกับกลุ่มพนักงานภาคพื้น ทั้ง ground staff และ ฝ่ายช่าง ไหมครับ จากคุณ : Wobbegong เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 22:30:51

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่เข้าใจว่าเมื่อไม่พอใจนโยบายบริษัททำไมไม่ลาออกไปสมัครงานที่อื่น หรือหางานอย่างอื่นทำแทน แต่ใช้วิธีประท้วง ไม่ใช่แค่แอร์ไทย แต่ทุกประเทศก็เป็นอย่างนี้หมด ทั้งๆที่รายได้ก็ถือว่าเยอะมากๆอยู่แล้วเมื่อเทียบกับคนที่ความรู้ความสามารถเท่าๆกัน จากคุณ : magolf เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 22:32:55

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่อยากโยงเข้าการเมืองนะครับ แต่นี่คือผลของการใช้นโยบายประชานิยม เมื่อคุณให้อะไรดีๆกับเค้าแล้ว แล้วเมื่อถึงคราวลำบาก อยากจะขอเค้าคืน มันไม่ง่ายอย่างที่เห็นละครับ บอกได้เลยว่า ไม่จบง่ายๆหรอกครับ จนกว่าการบินไทยจะยอม จากคุณ : kanstk เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 22:37:33

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นข้อความนี้แล้วทนไม่ได้ "ทั้งนี้ กลุ่มพนักงานที่มารวมตัวชุมนุมส่วนใหญ่เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เนื่องจากไม่พอใจที่ผู้บริหารใช้นโยบาย FLEXIBLE CREW ลดค่าใช้จ่าย ส่งผลให้ วันพักของลูกเรือในต่างประเทศลดลง และจัดจำนวนพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารในเที่ยวบิน" เท่าที่ผมทราบแต่ก่อน บินไปแค่ Singapore นอนพักหนึ่งคืน ตอนนี้บินไป แล้วต้องบินกลับไม่มีการนอนพัก อยากรู้ว่าบินแค่ 3 ชั่วโมงนี้ต้องถึงกับ นอนพักกันเลยหรือครับ จะเกินไปแล้วครับ สายการบินนี้ถ้ารัฐไม่หนุนอยู่ ป่านนี้เจ๊งไปนานแล้ว อยากให้รัฐขายหุ้นทิ้งให้หมดซักที ไปเป็นเอกชน เต็มตัว คราวนี้คนเลิกบ้าบอกันได้ซักที ไม่งั้นคงได้เห็นนางฟ้ามาขายชา เขียวบนหางแดง ปล.ขอโทษด้วยที่รุนแรง แต่สุดทนกับบุคคลากรขององค์กรนี้มากๆ แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 54 22:44:44 จากคุณ : GI Bill เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 22:42:03

ความคิดเห็นที่ 10 สะใจ ปิดๆ ไปได้ยิ่งดี คลังควรขายหุ้นทิ้ง แล้วไปเปิดสายการบินของชาติไทยจริงๆ ซะที แล้วไม่ต้องให้มันสหภาพพังพวยพวกนี้นะ การบินทวย ไม่ใช่สายการบินของคนไทย ทั้งพฤตินัย และ นิตินัย หาคนไทยเห็นใจพนักงานการบินไทยยากมากว่ะ 555 ถ้าไม่ใช่ญาติพี่น้องมันนะ ขาดทุนมา สุดท้ายก็คนไทยที่ต้องจ่ายภาษีไปจุนเจือพวกมัน จากคุณ : สะใจว่ะ เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 22:49:00 A:110.169.210.201 X: TicketID:320033

ความคิดเห็นที่ 11 เงินภาษีของคนไทย หมดไปเพราะ TG จากคุณ : kreuzberg เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 23:05:42

ความคิดเห็นที่ 12 พนักงานเรียกร้องหาความเป็นธรรม เรา "ผู้โดยสาร" ก็เหมือนกัน อยากเห็นการปฎิบัติที่เท่าเทียมกันบนเครื่องค่ะ จากคุณ : pammap เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 23:08:46

ความคิดเห็นที่ 13 ก็อย่างนี้หล่ะค่ะ คนเคยได้ พอไม่ได้ก็งอแงเป็นธรรมดา เค้าเรียก"เคยตัว" ก็เพราะเอื้อประโยชน์เยอะซะจนมีแต่คนอยากเข้ามาทำงานองค์กรนี้ จากคุณ : พูดมากไม่ดีมั้ง (ลูกบัวสีชมพู) เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 23:46:33

ความคิดเห็นที่ 14 เพื่อนๆสจ๊วตผม บินไปต่างประเทศที ค้างกันสองสามคืน ได้ไปเที่ยวเล่น ถ่ายรูป ซื้อของแบรนด์เนมกันสนุกสนาน ขนาดบินไปแค่ขอนแก่น เชียงใหม่ ก็ยังได้ค้างกันเลย เห็นแล้วอิจฉ๊าอิจฉา อิอิ จากคุณ : boy next door เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 23:55:50

ความคิดเห็นที่ 15 โดนซะ สบายตัวไปเลย จากคุณ : takbai เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 00:02:23

ความคิดเห็นที่ 16 อ่านแต่ละ คห. แล้วเพลีย นึกถึงกระทู้เงินเดือนหมอขึ้นมาเลยทีเดียว จากคุณ : มานี เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 00:18:43 A:58.64.126.228 X: TicketID:320456

ความคิดเห็นที่ 17 อธิบายให้ฟังนะครับ นโยบายที่ว่าก็คือการตัดลูกเรือลงไปหนึ่งคนกับจำนวนผู้โดยสารที่ลดลงไปเป็นสัดส่วน ถามว่าสมเหตุสมผลไหม คนข้างนอกที่มองมาก็จะบอกว่าก็ไม่เห็นเป็นไรเพราะถ้าผู้โดยสารน้อยลงงานก็น้อยลง ...ใช่ครับ... แต่ในความเป็นจริงแล้วเครื่องในแต่ละรุ่นการทำงานไม่เหมือนกัน การตัดคนออกไปหนึ่งคนในโซนการทำงานส่วนนึงทำให้การบริการเหมือนโดนตัดขาออกไปข้างนึง จากที่เคยต้องเดินเซอร์วิสตามที่มันสมควรจะเป็นก็จะเป็นการทำงานที่เหมือนต้องวิ่งเปรี้ยว จับนู่นแล้วมาจับนี่ต่อ ลองนึกดูนะครับว่าถ้าปกติเคยใช้สองมือทานข้าวแล้วอยู่ดีๆแขนเข้าเผือกใช้ทานข้าวได้ด้านเดียว มันทำได้ แต่ว่าลำบากกว่าเดิมเยอะ ทั้งๆที่จริงๆก็กินข้าวด้วยช้อนแบบที่เราเคยทานกันประจำ นี่ยังไม่ได้พูดถึงเครื่องมือที่สุดแสนจะทำงานยากของเรา สังเกตดูนะครับเวลาขึ้นเครื่อง คาร์ทที่ใช้เข็นหลายๆคันเข็นคนเดียวไม่ได้เพราะเบรคไม่อยู่ ประตูคาร์ทปิดไม่ได้บ้าง บางอันปิดแล้วเปิดไม่ได้ สาระพัดอย่าง เขียนให้ซ่อมแล้วแต่เชื่อไหมว่าบางครั้งมันกลับมาทั้งกับป้ายซ่อมนั่นแหล่ะครับ แค่อยากจะบอกว่าสิ่งที่เขาทำคือเขาอยากจะตัดอะไรเขาก็ตัด แต่เขาไม่มีอะไรมารองรับว่าถ้าตัดไปจะทำยังไงให้มันทำงานได้มีประสิทธิภาพ แต่กลับให้ทำแบบเดิมแล้วให้พวกเรารับหน้าและรับผิดชอบกันเอง อย่าว่าจะทำ extra touch เลยครับ งานตัวเองที่ต้องทำยังจะเอาตัวไม่รอดเลย ตัดขีดคือตัดวันพัก เราไม่เคยเรียกร้องนะครับว่าบินญี่ปุ่น เกาหลี หรือไฟล์ทใกล้ๆเราต้องได้นอนหลายๆคืน แต่ที่เรียกร้องคือไฟล์ทบินข้ามทวีปที่ยาวๆ คิดดูว่าขนาดนั่งเป็นผู้โดยสารนั่งไปยุโรปหรือออสเตรเลียลงไปถึงก็เจ็ทแลคไปสองสามวันแล้ว แต่พวกเราทำงาน ให้บินไปแล้วกลับเฉพาะเวลาบินก็เกือบจะเท่าเวลาที่ได้พักแล้ว ไม่ทันได้ปรับเวลาก็ต้องกลับแล้ว หลายๆครั้งทำไฟล์ทกลับขึ้นไปบนเครื่องก็ยังมึนอยู่เลย ขอบอกอีกครั้งนะครับแก่นสำคัญของอาชีพพวกเราไม่ใช่การเสริฟอาหาร แต่เป็นการดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคน สติสัมประชัญญะที่ไม่มากมันน่ากลัวมากนะครับสำหรับเรื่องความปลอดภัยทั้งหลาย เพราะเมื่อเหตุการณ์พวกนี้เกิดขึ้นมันไม่มีทางที่จะมาแก้ตัวครั้งที่สองได้ ถามว่ามันเกี่ยวข้องกับรายได้ไหม เกี่ยวครับ เพราะนอนนานเงินก็มากขึ้น แต่ถามผมหรือหลายๆคนผมเชื่อว่า เงินไม่ต้องมากขึ้นแต่ขอพักผ่อนเยอะขึ้นก็ได้ เพราะมันเหนื่อยเกินไปจริงๆ ส่วนที่ว่าบินสิงคโปร์สองสามชั่วโมงแล้วต้องลงนอนน่ะครับ ชีวิตมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอกครับ เราได้ลงนอนกันเพราะมันต้องมีเครื่องจอดค้างคืนที่สนามบินสิงคโปร์เพื่อรับผู้โดยสารกลับตอนเช้า เราถึงต้องนอนสิงคโปร์กัน ไม่มีหรอกครับที่เขาจะให้เรานอนง่ายๆขนาดนั้น อีกอย่างพวกไฟล์ทนอนในประเทศทั้งหลายก็ไม่ใช่ว่าเราจะบินกรุงเทพเชียงใหม่แล้วนอนเลย นอนเชียงใหม่จริงครับ แต่กว่าจะได้ลงนอนเราก็บินกันมาแล้วอย่างเช่น กรุงเทพบินไปขอนแก่นแล้วบินกลับกรุงเทพแล้วทำต่อไปเชียงใหม่ นอนเชียงใหม่ อีกวันก็ทำเชียงใหม่เข้ากรุงเทพ แล้วทำต่อไปภูเก็ตแล้วทำเข้ากรุงเทพ ถึงจะหมดน่ะครับ สองวันนี่ทั่วประเทศไทยเลยนะครับ เขาไม่ให้เราทำะไรง่ายๆสบายๆหรอกครับ เพราะงานก็คืองาน เขาก็ต้องใช้ทรัพยากรให้คุ้มครับ แต่เรื่องนี้สิ่งที่มันไม่แฟร์ที่สุดคือการเพิ่มเงินให้นักบินที่สมองไหลออกไปเยอะ แต่กลับมาตัดกับพนักงานต้อนรับแทน ถามผมถ้าพวกเราไม่โดนตัดแล้วจะเพิ่มให้นักบิน เฉยๆนะครับมันก็เป็นสิ่งที่ต้องทำ แต่กลายเป็นเหมือนว่ามาตัดส่วนเราแล้วไปโปะอีกส่วนนึงแทน ทั้งที่อยู่บนเครื่องบินลำเดียวกัน ท้ายสุดมันทำให้คนทำงานด้วยกันเองนี่แหล่ะทะเลาะกัน มีที่ไหนเขาทำกันแบบนี้บ้างที่ส่งเสริมให้คนทำงานด้วยกันเองเกลียดกัน พูดตรงๆนะครับ ผมไม่ได้คาดหวังให้คนอื่นๆมาเห็นใจในความอัดอั้นตันใจของพวกเราซักเท่าไหร่หรอกครับ เพราะในที่นี้หลายๆคนไม่เคยมองอะไรที่เป็นการบินไทยดีซักเท่าไหร่อยู่แล้ว แค่อยากให้พอเข้าใจในสิ่งที่มันเป็นบ้างเท่านั้น ตอนนี้ก็พยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่เคยคิดจะเอาเรื่องแย่ๆในบริษัทมาเป็นเหตุให้มาลงที่ผู้โดยสาร เพราะผู้โดยสารก็คือผู้มีพระคุณของผมทุกๆท่าน แล้วท่านทั้งหลายก็ไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหาที่มันเกิดขึ้นในทุกวันนี้ แต่ในตอนนี้หลายๆครั้งมันเหนื่อยเกินจนแม้แต่จะยิ้มก็ต้องฝืนมันออกมาจริงๆ หวังว่าจะให้หลายท่านเข้าใจไม่มากก็น้อยนะครับ จากคุณ : ahohoz เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 00:52:27

ความคิดเห็นที่ 18 พูดจิงๆนะ อาชีพแอร์-สจ๊วต เปนอาชีพที่น่าอิจฉามากและคนเป็นก็รู้ว่ามันดีแค่ไหน อย่าบอกว่าอาชีพนี้เหนื่อย ทุกอาชีพก็เหนื่อยกันทั้งนั้นไม่มีอาชีพไหนสบายหรอก แต่อาชีพนี้ได้ภาษีดีกว่าอาชีพอื่นๆ คงรู้ๆกันใช่ไหมว่าเพราะอะไร รายได้ที่ได้ เราไม่รู้ว่าเยอะแค่ไหน แต่มีเพื่อนกี่คนๆ ที่ทำอาชีพนี้ ก็มีเงินใช้สบาย กันทุกคนและไม่เคยมีใครอยากลาออกจากงานแม้แต่คนเดียว ถึงจะบ่นว่าเหนื่อย ไม่มีเวลา นอนไม่เป็นเวลาบ้าง เสี่ยงภัยต้องไปดมรังสีที่ญี่ปุ่นบ้าง แต่สุดท้าย ก็อยากไปกันอยู่ดีไม่ใช่หรอ? ยกเว้นไฟลท์ ช่วงมีรังสีใหม่ๆที่อดค้างคืน อันนี้เพื่อนเราก็บ่นเพราะเหนื่อยมากมันไกล ก็เลยเข้าใจ "เพราะทุกคน ก็มีค่าใช้จ่าย มีภาระทั้งส่งเสียทางบ้าน เลี้ยงดูครอบครัว" เราว่าไอ่ตรงนี้แหละที่จะทำให้ไม่ค่อยมีคนเห็นใจ ถ้าบอกว่าลดการค้างคืนต่างประเทศ เพราะเหนื่อยไม่ได้พัก หายใจหายคอไม่ทัน ปรับเวลาไม่ทัน เกินกำลังไรพวกนี้ เราว่ามันจะเข้าใจมากขึ้นนะ ตอนนี้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า เวลาบินไกล ได้เงินเยอะ บินภายประเทศได้เงินน้อย ได้ค้างคืน เหมือนไปเที่ยว ตปท ฟรี แถมได้ตังฟรีอีก พอไม่ได้บิน เงินลดเลยไม่พอใจ??? เข้าอีรุปนี้แน่ ถ้ามาพูดเรื่องรายได้ แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 01:45:05 แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 01:03:06 จากคุณ : bOrEd เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 00:59:26

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่พอใจที่ถูกลดวันค้างคืนในต่างประเทศ???? เวลาหาของ หิ้วของที่รับฝากคงจะน้อยลงด้วย จากคุณ : Shiraha เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 01:00:56

ความคิดเห็นที่ 20 นักบินโดนสายการบินแขกดูดไปหมดแล้ว เลยพยายามเพิ่มเงินค่าจ้างนักบิน แต่ดันมาเอาเงินในส่วนของลูกเรือไปโปะซะงั้น??? จากคุณ : หมดระยะบางเขน เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 01:26:16

ความคิดเห็นที่ 21 New York,Lax (บินตรง) รอบเตียงพักคืนเดียวก็เคยบินมาแล้วครับ เหนื่อยมากกกกกแต่ก็ไม่เคยเอามาลงกับผู้ โดยสาร,Auckland บางครั้งบิน รอบเตียงพักคืนเดียวเช่นกัน เครื่องลงเที่ยงกว่า กว่าจะออกจากสนามบิน ถึงโรงแรมกว่าจะได้นอนเกือบบ่าย 3 โมง จําได้มีครี้งหนึ่งหลับตั้งแต่ 4โมงเย็น จนถึง 11 โมงเช้า (Local Time)(ตื่นมาทานข้าวครึ่งชั่วโมงแล้วนอนต่อ) ตื่นมาแล้วเตรียมตัวกลับเลย สาหัสเช่นกันไฟลท์นั้น จากคุณ : เขียนบน iPhone (COLD CUT) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 01:31:09

ความคิดเห็นที่ 22 อืม...มันเรื่องของบริษัทๆหนึ่งที่พนักงานไม่พอใจการทำงานไม่ใช่หรือ อย่างนี้ควรไปเรียกร้องกันเองภายในเหมาะสมกว่าไหม ผู้โดยสารไม่เห็นจำเป็นต้องมารับรู้การบริหารจัดการภายในของเขานี่นา จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 02:48:01

ความคิดเห็นที่ 23 เราว่า พนง การบินไทยถูกสปอยล์ มาก เลยเอาแต่ใจตัวเองมากอยากได้อะไรก็ประท้วง หยุดงาน จนเคยตัว  การบริการที่ให้กับพวกเราคนไทยก็ไม่เต็มร้อย หน้าหงิกหน้างอ เหมือนถูกบังคับให้มาทำงาน หน่วยงานของรัฐบาลในประเทศที่เราทำงานอยู่ ตอนนี้ พวกเราก็โดน  ถูกตัด holidayจากปีละ 12 วัน เหลือ  8 วัน  ส่วน 4วันที่ถูกตัดเอามาเป็น  personal day เพื่อลดค่าใช้จ่ายสองเท่าในคนที่ต้องมาทำงานในวันholiday คนลาออกและเกษียณ 4 คน  ไม่มีการจ้างเพิ่มมาสองปีแล้ว แต่มีการโอนคนมาจากหน่วยงานอื่นบ้างเท่านั้น  office ที่เคยทำงานเห็นวิวสวยที่สุดของเมืองก็ถูกย้าย  อะไรอย่างนี้เป็นต้น แต่พวกเราเข้าใจองค์กรว่าเพื่อความอยู่รอด ของทุกคนในองค์กร  มันจำเป็นต้องทำ  ไม่มีใครประท้วง หรือโวยวาย ทั้งๆที่ทุกคนมีรายจ่าย มีความจำเป็น มีลูก มีพ่อแม่ มีภาระเช่นกัน  ประหลาดใจมากที่ฝรั่งซึ่งตามปกติ ไม่ยอมอะไรง่ายๆ กลับนิ่งและยอมรับ ทำงานกันหนักขึ้น  แถมตั้งใจมากขึ้น เพื่อวันที่ดีกว่า  ไม่พอใจมากๆ เงินเดือนน้อย สวัสดิการไม่ดี และไม่มีความสุขกับการทำงาน หางานใหม่ดีกว่าจ้ะ จากคุณ : จะยอมตาย หมายให้เกียรติดำรง เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 03:09:25

ความคิดเห็นที่ 24 ลูกเรื อ BMI อ้วนให้บินไปกลับ เช่นไฟลท์ปักกิ่ง บาหลี กวางเจา ฮานอย =ผู้โดยสารรูทนี้ผิดด้วยเหรอต้องเจอแอร์อ้วน ตัดลูกเรือ แล้วเกิดมี go show หรือ สายดารบินอื่นเครื่องเสีย ย้ายผู้โดยสารมา แล้วเรียกแอร์ที่โดนตัดมาบินไม่ทัน ต้องไปกันแบบนั้น คนน้อย เสิร์ฟช้า รอนาน =ผู้โดยสารจ่ายเงิน ตั๋วเครื่องบินก็ไม่ลดราคา ตามแอร์ที่หายไป ผู้โดยสารทำอะไรผิด ตัดทุกอย่าง ไพ่ก็ไม่มี แปรงสีฟันหมด แต่ไม่ตัดค่าตั๋ว มีแต่เพิ่มๆๆๆ =ผู้โดยสารทำอะไรผิด จากคุณ : Jumbo@Tgang เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 05:00:19

ความคิดเห็นที่ 25 ขอโทษน่ะค่ะ ที่ไม่เห็นใจ พวกคุณทำตัวกันเหมือนเป็นเทวดา นี่ถ้ารัฐบาลไม่ถือหุ้น  คงเจ๊งไปนานแล้วล่ะ ค่าโดยสารก็แพง   เวลาขึ้นจะเครื่อง ก็ใจตุ้ม ๆ ต่อมๆ   ว่าวันนี้ แอร์จะอารมณ์เสียเปล่า เจ๊ง ๆ ไปน่ะดีแล้ว จากคุณ : Gabi เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 07:57:12

ความคิดเห็นที่ 26 คนกบท.ทำตัวเหมือนเทวดา? ผดส.บางคนก็ทำตัวเป็นพระเจ้าเหมือนกันนะคะ แอร์ สจ๊วตดีๆก็มีเยอะ แต่แปลกดี ที่คนในนี้ไม่เคยเจอ ชอบ คห.17 แต่นั่นแหละ อธิบายไปก็แค่นั้น คนเค้ามีธงอยู่ในใจแระ เปลี่ยนยาก พูดเหมือนว่าเขาเลวทั้งบริษัท สมควรตาย คนดีๆ เลยห่อเหี่ยวไปด้วย จขกท.คะ กระทู้นี้เป็นกระทู้สมน้ำหน้าค่ะ ถ้าหวังจะใช้เพื่อสร้างความเข้าใจรึเห็นใจ คงลำบาก ขอให้กำลังใจคนที่ทำงานดี ส่วนคนไม่ดี โปรดสำนึกด้วยนะคะ จากคุณ : มานี เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 08:46:24 A:124.122.124.79 X: TicketID:320456

ความคิดเห็นที่ 27 ตราบที่เราคิดถึงแต่ตัวเอง เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ก็คงคิดแบบนี้ตลอดแหละครับ ผมเองก็พยายามเข้าใจคอมเม้นท์ต่างๆของพนักงานการบินไทยนะ แต่ถ้าจะเปรียบ เหล่าผู้โดยสารส่วนใหญ่ซึ่งเป็นพนักงานบริษัทฯก็ทำงานหนักเช่นกัน ผมต้องบินแบบวันเดียวหลายครั้งอยู่ สิงคโปร์ไปเช้ากลับดึก วันรุ่งขึ้นเข้าออฟฟิสต่อก็มีเรื่อยๆ หรือเอาแบบเกาหลี ออกตอนกลางคืน ถึงตอนเช้าตรู่ ประชุมจนบ่ายแก่ๆ แล้วก็รีบบินกลับ ควรคิดเผื่อคนอื่นด้วยครับ ไม่ใช่คุณทำงานหนักอยู่บริษัทเดียว ในภาวะที่การแข็งขันสูงขึ้น พนักงานก็ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อให้องค์กรอยู่รอด การที่นักบินออกเยอะ แล้วบริษัทเพิ่มเงินให้ก็เป็นเรื่องปกติ ในบริษัททั่วไปก็มี เราก็อิจฉา แต่ไม่ออกมาประท้วงนี่ครับ ไม่พอใจก็หางานใหม่ พอบริษัทเห็นคนออกเยอะเดี๋ยวก็เพิ่มเงินให้เอง มีแอร์/สจ๊วตการบินไทยก็ลาออกไปอยู่สายการบินแขกหลายคนอยู่นี่ จะบอกว่ารักองค์กร รักประเทศอีกหรือ ถึงไม่อยากหางานใหม่ จากคุณ : หมูน้อยออมสิน เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 08:54:59

ความคิดเห็นที่ 28 เอ่อ ขอโทษด้วยนะคะที่คิดว่ามันน่าเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว เราเคยเป็นแอร์ของสายการบินต่างประเทศมา เปรียบเทียบจำนวนลูกเรือในเครื่องบินหน่่ึงลำ การบินไทยใช้ลูกเรือเปลืองมากคะถ้าเทียบกับจำนวนผู้โดยสาร การ lay over ในแต่ละไฟล์ก็เยอะมาก ซึ่งทั้งหมดนี้มันคือต้นทุนทั้งนั้น ถ้าบริษัทกำลังแย่ก็ควรช่วยๆกันนะคะ เงินอาจจะลดลง เหนื่อยมากขึ้น แต่เชื่อเถอะคะพวกคุณยังสบายกว่าลูกเรือของสายการบินอื่น หรือว่าอาชีพอื่นๆอีกเยอะ จากคุณ : touch_sky_like_bird เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 09:03:03

ความคิดเห็นที่ 29 เอะอะอะไรก็ว่าเจ๊งๆไปน่ะดีแล้ว อย่าให้มันถึงขนาดนั้นเลยค่ะ มันแรงเกินไป มันมีหลายเหตุผลที่บีบคั้นให้เกิดการรวมตัวแบบนี้ขึ้น และไม่ใช่ว่า จะประท้วงกันบ่อย หรือเอะอะก็ประท้วง และที่สำคัญ การรวมตัวครั้งนี้ ลูกเรือที่ไปรวมตัวกันนั้น ไม่ได้ลางานหรือหยุดงานเพื่อไปรวมตัวกันนะคะ นั่นคือวันหยุดของพวกเขา ดังนั้น ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับตารางบินปกติเลยแม้่แต่นิดเดียว ประเด็นหลักที่เราออกมาเรียกร้อง เนื่องจากว่านโยบายที่ออกมานั้น ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานของลูกเรืออย่างเห็นได้ชัด อย่างที่คุณ ahohozบอกไว้ ว่า สติสัมปชัญญะและความพร้อมในการบิน เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะหน้าที่หลักของพวกเรา คือ การรักษาความปลอดภัย การลดวันพัก การตัดลูกเรือ ทำให้ลุกเรือที่ไปบิน มีความเหนื่อยล้าในการทำงานมากขึ้น แน่นอนค่ะ ส่งผลกระทบต่อการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นอน อย่าพูดทำร้ายกันเลยค่ะว่า ถ้าทำไม่ได้ ก็ลาออกไป ต่อให้ไม่ใช่พวกเรา ใครก็ตามที่มาปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้ ถ้าไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ ทุกคนก็จะเป็นเช่นเดียวกันนี่แหละค่ะ มีเรื่องราวและเหตุผลมากมาย ที่ทำให้เกิดการเรียกร้องเช่นนี้ขึ้น มันอาจจะเป็นเรื่องภายในและมีข้อมูลมากมาย ที่ผู้โดยสารไม่อาจจะเข้าใจ แต่ได้โปรดเถอะค่ะ ถ้าแอร์หน้าบึ้งหรือบริการทุกท่านไม่ประทับใจ พวกเรารับทราบแล้วค่ะ ลูกเรือส่วนใหญ่ก็อยากจะพยายามบริการให้ทุกท่านประทับใจเหมือนกันในทุกๆไฟลท์ และการเรียกร้องครั้งนี้ มันไม่เกี่ยวกับว่าลูกเรืออย่างเราสมควรแล้วล่ะที่เจอแบบนี้ สำหรับลูกเรือที่รักในอาชีพและตั้งใจทำงานอีกหลายคน ฟังแล้วก็เสียใจนะคะ เหตุการณ์ครั้งนี้ มันไม่ใช่ลูกเรือกลุ่มเดียวที่ได้รับผลกระทบ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรงทั้งที่เป็นผู้มีพระคุณของพวกเรา ก็คือ  ผู้โดยสาร นั่นแหละค่ะ จากคุณ : Mesjiga เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 09:05:17

ความคิดเห็นที่ 30 อยากให้รัฐบาลเลิกอุ้ม เเล้วขายหุ้นทิ้งให้หมด เเล้วไปเปิดสายการบินใหม่เเละรับสมัครลูกเรือใหม่หมดครับ ปล. ห้ามลูกเรือที่มีปัญหาจากการบินไทยไปสมัครด้วยนะครับ จากคุณ : ส้มฉุน (DLC) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 09:05:49

ความคิดเห็นที่ 31 ความคิดเห็นที่ 9 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน เห็นข้อความนี้แล้วทนไม่ได้ "ทั้งนี้ กลุ่มพนักงานที่มารวมตัวชุมนุมส่วนใหญ่เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เนื่องจากไม่พอใจที่ผู้บริหารใช้นโยบาย FLEXIBLE CREW ลดค่าใช้จ่าย ส่งผลให้ วันพักของลูกเรือในต่างประเทศลดลง และจัดจำนวนพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารในเที่ยวบิน" เท่าที่ผมทราบแต่ก่อน บินไปแค่ Singapore นอนพักหนึ่งคืน ตอนนี้บินไป แล้วต้องบินกลับไม่มีการนอนพัก อยากรู้ว่าบินแค่ 3 ชั่วโมงนี้ต้องถึงกับ นอนพักกันเลยหรือครับ จะเกินไปแล้วครับ สายการบินนี้ถ้ารัฐไม่หนุนอยู่ ป่านนี้เจ๊งไปนานแล้ว อยากให้รัฐขายหุ้นทิ้งให้หมดซักที ไปเป็นเอกชน เต็มตัว คราวนี้คนเลิกบ้าบอกันได้ซักที ไม่งั้นคงได้เห็นนางฟ้ามาขายชา เขียวบนหางแดง ปล.ขอโทษด้วยที่รุนแรง แต่สุดทนกับบุคคลากรขององค์กรนี้มากๆ แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 54 22:44:44 จากคุณ : GI Bill เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 22:42:03 [แก้ไข] ถูกใจ : Gabi ---------------------------------------------------------- ขอโทษนะครับ กรุณาอย่าเอาเรื่องเพียงเรื่องเีดียวที่คุณทราบ มาตัดสินคนที่คุณไม่รู้จักเลยดีกว่าครับ ลองคิดด้วยเหตุและผลดูดีดีสิครับว่าถ้าแค่ 3 ชม. พวกพนักงานจะออกมาเรียกร้องกันเยอะขนาดนี้รึเปล่า? ถ้าใช่ แสดงว่าคุณมองพวกเราอย่างอคติมากเกินไปแล้ว สิงคโปร์น่ะ จะนอนไม่นอน ไม่มีใครสนใจหรอกครับ ไปจีน 4-5ชม. ไปปากีสถาน 5-6ชม. ไปแล้วกลับเลย เค้าก็บินกันมาหลายสิบปีแล้ว ก็ไม่เคยเรียกร้อง แต่ที่ทนไม่ไหวก็คือการที่ให้ไปยุโรป flt time 10-14 ชม. พนักงานต้องไปถึงบริษัทก่อน 2 ชม. เดินทาง แต่งตัว สรุปคือ ใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 16-20 ชม. ในการเดินทางไปถึงยุโรป ซึ่งการเดินทางบนเครื่องบินนานๆ จะทำให้ร่างกายอ่อนแอกว่าปกติเนื่องด้วยสภาพแวดล้อมเช่น ออกซิเจนน้อย ความชื้นในอากาศต่ำ ฯลฯ ไม่รวมกับการที่คอยดูแลผู้โดยสาร ดูแลความปลอดภัยใน flight ตลอดเวลา ซึ่งบริษัทให้พักที่ต่างประเทศ 1 วัน (24ชม.รวมเวลาเดินทาง เวลาเตรียมตัว และเวลา checkin หักแล้วบางทีเหลือเวลาได้พักจริงๆ18ชม.) แ้ล้วกลับเลย ลองจินตนาการดูนะครับ ว่าไหวรึเปล่า มันคงทำได้ถ้าคุณเป็นหุ่นยนต์ อยากปิดสวิทต์นอนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ความจริงคือ พอไปถึง ก็นอนยาวหลับเป็นตาย ตื่นมาหาของกินกันตาย กลับมาต้องรีบนอนพัก เพราะเดี๋ยวทำงานกลับจะตายเอา... ถ้านอนไม่หลับเพราะพึ่งตื่นมาก็ซวยไป นั่นเป็นเรื่องที่โดนตัดมานานหลายปีจนชินแล้ว... แต่คราวนี้ ผู้บริหารขอลดจำนวนพนักงานลงไปอีก เคยไปอินเดีย ผู้โดยสาร 325คน (ชั้นประหยัด) ลูกเรือ 7คน... ผู้โดยสารทุกคนต้องได้ เครื่องดื่ม อาหาร ไวน์ ขนมปัง ชา กาแฟ และความต้องการทั่วๆไปของผู้โดยสารที่ขอนอกเหนือจากการบริการปกติ... ไม่ลองมาเป็นไม่รู้หรอกครับ กรุณาอย่าเอาอคติส่วนตัวของคุณเองมาบอกว่าพวกลูกเรือเหยาะแหยะ ว่าบิน3ชม. ไม่ให้นอนเลยโวยวาย อีกนะครับ จากคุณ : NijDoi (NijDoi) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 09:41:13

ความคิดเห็นที่ 32 ความคิดเห็นที่ 25     ขอโทษน่ะค่ะ ที่ไม่เห็นใจ พวกคุณทำตัวกันเหมือนเป็นเทวดา นี่ถ้ารัฐบาลไม่ถือหุ้น  คงเจ๊งไปนานแล้วล่ะ ค่าโดยสารก็แพง   เวลาขึ้นจะเครื่อง ก็ใจตุ้ม ๆ ต่อมๆ   ว่าวันนี้ แอร์จะอารมณ์เสียเปล่า เจ๊ง ๆ ไปน่ะดีแล้ว จากคุณ : Gabi เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 07:57:12   อืม....สงสัยจังว่าคุณGabiคงใช้บริการการบินไทยบ่อยมากกกกกกก จนขนาดที่ว่าใจตุ๊มๆต่อมๆทุกครั้งจะเจอแอร์อารมณ์เสีย ถ้าผมเป็นคุณ แล้วเป็นอย่างที่คุณว่า ผมคงไม่ใช้บริการการบินไทยอีกต่อไป ใจจะไม่ต้องตุ๊มๆต่อมๆเวลาขึ้นเครื่อง แต่นี่คุณยังใช้บริการอยู่เลย...... จากคุณ : studsie เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 09:58:12

ความคิดเห็นที่ 33 ราคาหุ้นแบบนี้ ผลประกอบการแบบนี้ ถ้าเป็นบริษัทเอกชนบางแห่ง เค้าลดค่าใช้จ่ายมานานแล้วครับ ลองนึกสิครับ คุณทำงานเหมือนเดิมได้ยังไงในเมื่อรายรับมันลดลง ลองเป็นผู้บริหารสิครับ คุณต้องทำงานลำบากขึ้น ถามว่าลำบากถึงขนาดทำงานไม่ได้เลยหรือเปล่า ถ้าถึงขนาดนั้นก็ลาออกเถอะครับอย่าไปทนทำงานเลยนะ ให้คนอื่นๆที่เค้ามีความอดทนมากกว่าเข้าไปทำงานเถอะ ทุกอาชีพตอนนี้มันเหนื่อยกันหมดแหละ ไม่เห็นมีที่ไหนออกมาโวยวายเลย ดูหุ้นดูเศษฐกิจ รอบตัวรอบบ้านมั่งหรือเปล่า หรือว่าดูแต่รายได้ตัวเอง ไม่ดูรายได้ขององค์กร จากคุณ : cing เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 10:26:21

ความคิดเห็นที่ 34 สบายกันจนเคยตัว ลองดูพนักงานสายการบินอื่นบ้าง ไปฮ่องกง นอน 4 ชั่มโมง ไปสิงคโปร์ควิกเทิร์น แต่สายการบินเขากำไรท่วมท้น จากคุณ : กานต์ เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 10:34:36 A:118.173.254.207 X: TicketID:118628

ความคิดเห็นที่ 35 กะว่าจะไม่พิมพ์อีก แต่มันอดใจไม่ได้จริงๆคะ ถ้าคุณเปรียบเทียบไฟล์ยุโรปมา เราก็ขอเปรียบเทียบไฟล์ยุโรปของสายการบินที่เราเคยทำบ้างนะคะ ถ้าบินไปลอนดอน เครื่องออกจากไทย เวลาประมาณบ่ายโมงของวันอังคาร ไปถึงลอนดอน เวลา ประมาณตีสองของเช้าวันพุธบ้านเรา นอน นอน นอน และต้องตื่นมาเพื่อบินกลับไทยเวลา ห้าทุ่มครึ่งของคืนวันพุธ กลับถึงไทยอีกที บ่ายสาม ของวันพฤหัส หยุดสองวันและก็บินต่อ มันเป็นแบบนี้ตั้งนานแล้วคะ ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยคะ แต่ก็บินได้ ทำได้ ทุกวันนี้สายการบิินที่เราพูดถึงก็ยังเป็นแบบนี้อยู่ มันมีกฏกหมายการบินอยู่แล้วคะ ว่า บินกี่ชั่วโมงจะได้พักกี่ชั่วโมง ยังไงการบินไทยคงไม่ลดเวลาลงจนถึงขั้นผิกกฏหมายของกฏการบินโลกหรอกนะคะ เพราะไม่คุ้มกับการโดนฟ้อง แล้วก็เรื่องลูกเรือบนเครื่องด้วย ตามกฏแล้วเนี่ย เค้าดูลูกเรื่อตามจำนวนประตูคะ อย่างเช่น  เครื่อง B777 มี 10 ประตู ก็ต้องมีลูกเรือขั้นต่ำ 10 คน สายการบินที่เราทำก็ทำการกฏแบบนี้แปะๆ ถามว่าเหนื่อยไหมเวลาต้อง service บนเครื่อง เหนื่อยที่สุดเลยคะ แต่ก็ทำได้ ต้องหัดทำงานให้เร็วขึ้นแต่ต้องมีรอยยิ้มด้วย คุณลองกลับมาถามสายการบินคุณสิคะ ว่าเป็นไง โหลดลูกเรือมาเยอะแค่ ไหน และบริการเป็นยังไง อ้อ ของเราชั้นประหยัดผู้โดยสาร 211 คนกับลูกเรือ  4 คนคะ แบ่งเป็น L-side 2 คน R-side 2 คน ใน 4 คนนั้น เป็นครัว 1 คน หัวหน้าชั้นประหยัด 1 คน ดิวตี้ฟรี 2 แต่พอถึงเวลาทำงานจริงๆทุกคนต้องช่วยกัน เสิร์ฟกันจนมือพันกันเลยทีเดียว เราเองไม่ได้อยากว่าสายการบินแห่งชาติหรอกนะคะ เพราะว่าเราก็เป็นคนไทยเหมือนกัน แต่มาตรฐานการบินบางอย่างก็ไม่โอเคนะ อย่างเช่นสังเกตได้เลยว่า การบินไทย 5 ใน 10 ลำ เวลา take-off & landing ตอนกลางคืนไม่ได้ปิดไฟในเคบิน ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ถูกต้องตามหลัก (ลำที่คุณๆทำงานอาจจะปิด แต่เราเคยเห็นแบบนี้จริงๆ เวลาไปกินอาหารที่ร้านเกาะลันตา ใกล้สนามบินจะเห็นแบบนี้ทุกครั้ง) ขอคอมเมนท์ด้วยความเคารพคะ ปล.เข้ามาแก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 11:26:07 แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 11:18:19 จากคุณ : บินเหมือนกัน (touch_sky_like_bird) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 11:15:37

ความคิดเห็นที่ 36 อยากจะบอกเหมือนกันว่า เคยได้ลองเปรียบเทียบกับสายการบินอื่นหรือไม่ ผมไม่เคยเห็นเอาที่อื่นมาเทียบเลย สนแต่ว่า ฉันต้องได้เท่าเดิม ไม่ก็มากขึ้น จะให้บ.กำไรเหลือน้อยแค่ไหน อย่าได้ริมาตัดผลประโยชน์ของตัวเอง พูดตรงๆนะ ถ้าไม่พอใจ ก็ลองเชิญไปทำงานที่อื่นดูดีมั้ย ไม่ต้องรอให้เค้าเชิญออกหรอก ผมว่า ยังมีอีกหลายคนที่เค้ายอมเหนื่อยมากกว่าที่คุณบ่นว่าเหนื่อยเพื่อได้เข้าทำงานที่การบินไทยนะครับ จากคุณ : kanstk เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 11:47:31

ความคิดเห็นที่ 37 เรียนถามคุณ NijDoi (NijDoi) ครับ 1. ยุโรป เเต่ละประเทศ ไปเเล้วกลับภายใน 1 วันจริงหรือไม่ ประเทศไหนบ้าง เท่าที่ดู มีหลายประเทศที่เดินทางไกลๆ ไม่ได้มีไฟล์ทบินทุกวัน เเสดงว่าคุณได้พักไม่ต่ำกว่า 1 วันเเน่นอน เช่น - Bangkok-Copenhagen  >> 11.2 ชั่วโมง,  CPH Arrival time 07.40, CPH departure time 14.25, คุณไม่ได้บินกลับในวันเดียวกันเเน่นอน  ดังนั้นคุณน่าจะมีเวลาก่อนบินกลับ > 24 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ - Bangkok-London >> 12.05 ชั่วโมง  มีบินวันละ 2 ไฟล์ท  LHR Arrival time 07.15 and 18.30, LHR departure time 12.30 and 21.30, คุณไม่ได้บินกลับในวันเดียวกันเเน่นอน   ดังนั้นคุณน่าจะมีเวลาก่อนบินกลับ > 30 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ - Bangkok-Paris >> 12.00 ชั่วโมง  มีบินวันละ 2 ไฟล์ท  CDG Arrival time 07.05 and 19.40, CDG departure time 13.40 and 21.30, คุณไม่ได้บินกลับในวันเดียวกันเเน่นอน  ดังนั้นคุณน่าจะมีเวลาก่อนบินกลับ > 30 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ - Bangkok-Frankfurt >> 11.25 ชั่วโมง  MUC Arrival time 19.50, MUC departure time 21.50 - Bangkok-Athen คิดว่าไม่ได้บินทุกวัน >> 10.50 ชั่วโมง  ATH Arrival time 07.25, ATH departure time 16.15 - Bangkok-Rome  คิดว่าไม่ได้บินทุกวัน >> 11.30 ชั่วโมง  FCO Arrival time 06.50, FCO departure time 13.55 - Bangkok-Milan  คิดว่าไม่ได้บินทุกวัน >> 11.55 ชั่วโมง  MXP Arrival time 07.35, MXP departure time 14.05 - Bangkok-Moscow  คิดว่าไม่ได้บินทุกวัน >> 9.45 ชั่วโมง  DME Arrival time 16.55, DME departure time 18.25 - Bangkok-Madrid  คิดว่าไม่ได้บินทุกวัน >> 12.55 ชั่วโมง  MAD Arrival time 08.00, MAD departure time 13.00 - Bangkok-Stockholm  >> 10.50 ชั่วโมง  ARN Arrival time 07.00, ARN departure time 14.30 - Bangkok-Zurich  >> 11.55 ชั่วโมง  ZRH Arrival time 07.25, ZRH departure time 13.30 - Bangkok-Oslo  คิดว่าไม่ได้บินทุกวัน >> 11.30 ชั่วโมง  OSL Arrival time 07.25, OSL departure time 14.15 * รูทล่างๆนี้ขี้เกียจนับเวลา  มันตาลาย เเต่คิดว่าเกิน 24 ชั่วโมงทั้งนั้น *** เเต่ละรูท ไม่เเน่ใจว่าบินทุกวันหรือไม่ เพราะผมเช็คเเล้วมัน sold Out *** ที่คุณบอกมาว่า "บริษัทให้พักที่ต่างประเทศ 1 วัน (24ชม.รวมเวลาเดินทาง เวลาเตรียมตัว และเวลา checkin หักแล้วบางทีเหลือเวลาได้พักจริงๆ18ชม." ช่วยบอกทีครับว่า รูทไหน ผมสายตาไม่ดี หาไม่เจอครับ   เเล้วนับรวมเวลาเดินทาง เวลาเตรียมตัว เเต่งตัว เป็นเวลางานซะอีกนะ  อย่างนี้คนกรุงเทพที่ต้องออกมาทำงานตั้งเเต่ 06.00 คงทำงานกันวันละ 20 ชั่วโมง........หนักกว่าพวกคุณเยอะะะะะะะะะ 2. การเดินทาง 1 ไฟล์ท  ลูกเรือเเต่ละคนต้องดูเเลผู้โดยสารตลอดไฟล์ทจริงหรือไม่ เท่าที่ทราบ มีการสลับเวลากันพักใช่หรือไม่ เเสดงว่าใน 1 ไฟล์ท จริงๆเเล้วคุณทำงานกันคนละกี่ชั่วโมงครับ   3. ช่วงไฮ กับโลซีซั่น  จำนวนพนักงานต้อนรับเท่ากันหรือไม่ครับ  ถ้าเท่ากัน พวกคุณก็ต้องพิจารณาตัวเองด้วยนะครับ 4. ไม่ทราบว่าไฟล์ทไหนที่บิน 14 ชั่วโมงครับ ผมหาไม่เจอ หรือผมตกหล่นรูทไหนไป   ช่วยชี้เเจงผมด้วยนะครับ  ถ้าคุณตอบได้ชัดเจน ผมก็เห็นด้วยที่พวกคุณทำงานหนัก......เเต่ก็ยังไม่ถึงกับต้องมาประท้วงครับ ปล. ที่กล่าวมาท้้งหมดข้างบน  ยังไงผมก็รักการบินไทยนะครับ อยากให้อะไรๆดีขึ้น  เเต่ไม่ค่อยเห็นด้วยที่มีการประท้วงครับ จากคุณ : ส้มฉุน (DLC) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:01:00

ความคิดเห็นที่ 38 ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเวลา 24 ชม. เพียงพอสำหรับการพักผ่อน เพื่อกลับมาทำงานต่อ แต่อาจจะไม่พอสำหรับทุกคน โดยเฉพาะคนที่อายุมากขึ้น 3 ปลาย ถึง 4 กว่าๆ ซึ่งก็คงต้องมาพิจารณาตัวเองว่ารายได้กับร่างกายที่ทรุดโทรมจะคุ้มกันมั้ย แต่ที่แน่ๆ 24 ชม.ไม่เพียงพอสำหรับการพักผ่อนและไปเที่ยว + ช็อปปิ้ง แน่นอน จากคุณ : magolf เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:07:28

ความคิดเห็นที่ 39 การบินไปพักที่ต่างประเทศนั้นไม่ได้พักกันแบบอยากอยู่กี่วันก็อยู่ แต่มันขึ้นอยู่กับกฎการบินสากล รวมถึงการพักบนเครื่องด้วย ลองไปหาอ่านดูครับ เช่นบิน10 ชั่วโมงต้องพักโดยการนอนราบบนเครื่อง 1ชั่วโมงถึงจะบินต่อได้ หรือบินติดกัน12 ชั่วโมงต้องนอนพัก 12ชั่วโมงเป็นต้น ลองหาอ่านดูครับ คนที่ทำงานเกี่ยวกับอากาศยาน จะต้องมีความเสี่ยงและความเหนื่อล้าต่างจากคนที่ทำงานบนพื้นดินครับ ผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบินไทยครับแต่อยากให้ลองมองแบบเป็นกลางแล้วหาอ่านดูจะรู้ว่าจริงๆแล้วมันเป็นอย่างไร จากคุณ : normal เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 14:31:28 A:180.183.137.178 X: TicketID:320499

ความคิดเห็นที่ 40 เป็นพนักงานต้อนรับค่ะ อย่าเพิ่งว่าหนูเลยค่ะ บางครั้งบริษัททำเราเกินไปจริงๆ โดยที่คนอื่นอยู่สบาย มีแต่เราที่ทำงานแล้วโดนรังแก แต่อยากให้ทราบว่า ข่าวที่ออกไม่เป็นความจริงเลยค่ะ ฟังข่าวแล้วยังรู้สึกว่าคนเขียนข่าวเขียนเข้าข้างคนบางกลุ่ม ปกติแล้ว flexible crew ที่เค้ากล่าวมา ถ้าบริ เค้าทำอย่างที่เค้ากล่าวจริงก็ไม่มีปัญหาค่ะ แต่นี่เค้าตัดลูกเรือตามใจชอบ คือ flexible crew ตามใจเค้า ไม่ได้ตามจำนวนผู้โดยสารค่ะ อย่างเช่น ตามจองตั๋ว อาจจะมี 220 ท่าน ต้องตัดลูกเรือ แต่พอวันจริงที่เครื่องต้องออก มีผู้โดยสารเพิ่มเป็น 300 ท่าน แต่บริก็ไม่ได้เรียกลูกเรือมาเพิ่มค่ะ พนักงานเหนื่อยเหียกต่อไป ลองนึกภาพว่าที่บ้านจัดปาร์ตี้คนสามร้อยคน และท่านเป็นหนึ่งในผู้เสริฟที่มีทั้งหมด 14 คน แต่คนมาร่วมงาน 300 คน ท่านต้องเสริฟทุกคนให้ได้ทุกอย่างตามที่เค้าขอในเวลาที่ 2 ชั่วโมง และของมีจำกัดตามจำนวนเป๊ะๆ สองชั่งโมงนั่น มันเหนื่อยแทบขาดใจค่ะ ต้องการนอนพักมากกว่าปกติเลยค่ะ สลบเหมือด ดิฉันเคยทำทั้งงานออฟฟิคมาแล้ว ทำงานอิสระ เป็นล่าม เป็นผู้ประสานงาน เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เป็นมาแล้วค่ะ เลยตอบได้ว่า งานนี้เหนื่อยจริง ไม่อิงนิยายค่ะ ส่วนเรื่องตัดวันพักผ่อนนี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งค่ะ สมมุติว่าคุณบินไปออสเตรเรียชั่วโมงบิน 9 ชั่วโมง พอถึงที่โน่น ตอนอยู่บนเครื่องได้นั่งหลับ 2 ชั่วโมง เพราะเครื่องที่เค้าใช้ไป มันไม่มีที่นอนลูกเรือ ส่วนอีก 7 ชั่วโมงที่เหลือ คุณยืนตลอด ช่วงเสริฟ คุณเข็นcart น้ำหนักร่วม 100 kg ไปกลับหลายรอบ บางครั้งก็เสีย ต้องใช้ตัวเรานี่แหละเบรคบ้าง บังคับทิศทางบ้าง คุณลองนึกสภาพเวลาคุณไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ใส่ของเต็มรถ แต่รถล้อไม่ดี เลี้ยวไม่ได้ ต้องใช้ตัวบังคับรถเอา กลับบ้านหลังมันก็ประท้วงปวดขึ้นมาทันทั ส่วนสิงคโปร ไม่ได้ลงนอนเลยค่ะ ถ้าเป็นสมัยก่อนนู้นได้นอน เพราะว่าไปที่อื่นมาก่อนแล้ว เช่น กรุงเทพ-เชียงใหม่ เชียงใหม-กรุงเทพ ต่อด้วย กรุงเทพ-สิงคโปร อย่างนี้ได้นอนค่ะ เพราะว่าไปที่อื่นมาก่อนแล้ว ปัจจุบันเหลือนอนแค่ 2 ไฟท์ คือไฟท์ที่ไปแล้วถึงดึกสุด  กับไฟท์ที่ต้องออกเช้าสุดค่ะ แต่ก็ไม่ได้นอน 24 หรอกนะคะ ไฟท์ที่ไปถึงบ่ายสอง กว่าจะถึงโรงแรม บ่ายสี่ กว่าจะได้ห้อง เพราะว่าต้องนั่งรอ กว่าจะอาบน้ำทานข้าว ได้หลับนอน ก็น่าจะสองทุ่มค่ะ แล้วออกเช้าสุดๆ เปิดสนามบินเค้าเลยค่ะ ส่วนที่ไฟท์นึงไปถึง ดึกสุดๆ กว่าจะถึงโรงแรมและได้ห้องตกห้าทุ่มค่ะ แล้วก็ขอนอนตื่นสายๆหน่อย แล้วแต่งตัวเดินไปหาข้าวทาน แล้วกลับโรงแรมค่ะ แต่งตัวไปทำงานค่ะ ไฟท์ยุโรปพัก 24 ชั่วโมงไม่พอหรอกค่ะ ขอได้โปรดเห็นใจ ไม่ได้จะเรียกร้องให้เงินเท่าเดิมนะคะ แต่ลองนึกดูว่า ขนาดคุณเดินทางด้วยรถยนต์ ยังเพลียเลย นี่เดินทางด้วยเครื่องบิน 12 ชั่วโมง อาจจะขาดหรือเกินเนื่องจากกระแสลมค่ะ เรายืนตลอด ดิฉันคนนึงแหละที่ไม่นั่ง ถ้าไม่ถึงเวลาพัก และเมื่อยจริง สมมุติว่าไปถึงยุโรป 14.30 น แต่นั่นเป็นเวลาที่ล้อแตะพื้นนะคะ ผู้โดยสารยังไม่ลงจากเครื่องเลย งานเรายังไม่สำเร็จค่ะ จนกว่าทุกท่านจะลงหมดค่ะ และตรวจสอบว่าไม่มีคนหรือสิ่งของหลงเหลืออยู่แล้ว ถ้ามีจะส่งให้พนักงานภาคพื้นไปดำเนินการต่อไปค่ะ ไม่เคยเก็บไว้เองค่ะ  จากนั้นก็ส่งงานให้คนรับเครื่องค่ะ ส่งงานดีดี คนที่มารับเครื่องจะได้ไม่เหนื่อยค่ะ แล้วเวลาจริงที่เราจะได้ลงจากเครื่องบินก็จะประมาณ 45 นาทีหลังจากเวลา arrival time ค่ะ กว่าจะไปถึงโรงแรมตีไปอีกชั่วโมงครึ่งค่ะ กว่าจะได้ห้อง ตีไปอีกค่ะ 30 นาทีค่ะ ถึงได้พักผ่อนค่ะ กรุณาเห็นใจพวกเราด้วยค่ะ อย่าว่าหนูเลย หนูเข้าใจคนทำงานอาชีพอื่น ไปไหนไม่เคยวีนใครซะที ดังนั้น อย่าวีนหนูเลย เมื่อได้นอนแล้วก็หิวค่ะ ตื่นมาต้องตาลีตาเหลือกออกไปหาของรับประทานค่ะ บางที่ไกลใกล้แล้วแต่โรงแรมค่ะ มีโรงแรมหนึ่งไม่อยากเอ่ยว่าอยู่แถวออสเตรเลีย คนที่โน่น ห้าโมงร้านอาหารปิดหมดเหลือแต่แมคโดนัลค่ะ มองไปรอบๆมีแต่ตึกออฟฟิครู้สึกชีวิตรันเพราะอยู่บนเครื่องก็ทานอาหารแช่แข็ง อยู่ข้างล่างก็ทานอาหารขยะ ชีวิตมีสุขมากค่ะ อ้อ ลืมบอก อาหารบนเครื่องไม่ได้ทานฟรี คิดค่าอาหารไปเลย มื้อละ 100 บาท ห้ามต่อ เพราะหักจากซองเงินเดือน ไม่ได้ทานฟรีค่ะ อ้อ..อันนี้เล่าสู่กันฟังค่ะ เมื่อตื่นมาแล้วออกไปหาของทาน แล้วก็ต้องมาบังคับตัวเองให้หลับค่ะ เพื่อจะได้ไปทำงานได้ นึกถึงตัวท่านเอง ว่าท่านเพิ่งจะได้นอน และท่านเพิ่งจะตื่นมากินข้าว และท่านต้องนอนอีกแล้วเพื่อจะไปทำงาน นอนได้ก็นอนไป นอนไม่ได้ นอนไม่หลับก็เป็นคราวแย่ค่ะ เพราะว่ามันจะค้างไปจนถคงกลับกรุงเทพโน่นค่ะ มาว่าโรงแรมกันต่อ การลดเกรดโรงแรมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับหนูเลย ถ้าตื่นมาแล้ว เดินไปมีของกิน ไม่ใช่ตื่นมาแล้วมืดมนหนทาง ห้องโรงแรมไม่ต้องเลิศมากแต่ขอให้ปลอดภัย ไม่ใช่ประตูดับเบิ้ลลอคไม่ได้ หน้าต่างงัดได้ ปีนได้ อย่างนี้ไม่ปลอดภัย อยากให้ท่านนึกสักนิดว่า ถ้าลูกสาวท่าน น้องท่าน หลานท่านมานอนที่นี่จะปลอดภัยไหม โดยปล้นไหม โดนข่มขืนไหม ความปลอดภัยสำคัญกว่าอีก แต่ปัจจุบัน โรงแรมบางที่แทบจะหาความปลอดภัยไม่ได้ กรุณาหน่อยเถอะค่ะ ส่วนเรื่องถ้าไม่ได้รัฐบาลเจ๊งไปแล้วนั้น ข่าวว่า บริไปกู้ที่อื่นมาก่อน เพราะว่ารัฐไม่ยอมให้ รู้สึกขายหน้าเค้ามากที่คนประเทศเดียวกันไม่ยอมให้กู้ ต้องไปกู้คนอื่น คนบ้านเดียวกันยังไม่ช่วยเลย แต่พอมีปัญหาก็แห่กันมารุมทึ้งขอให้บริษัทเราไปช่วยโน่นช่วยนี่ โดยไม่มียางอายไร้สำนึก พวกเราช่วยตลอด ช่วยเต็มที่ แต่เมื่อเราลำบาก ทุกคนหันหลังหนี ถ้าเป็นท่าน ท่านจะรู้สึกอย่างไร เมื่อท่านช่วยทุกคนที่มา แต่พอมีปัญหา คนที่ท่ายเคยช่วยกลับหันหลังหนีท่านไป ที่รัฐบาลเข้ามาช่วย นั่นมันตอนที่คนอื่นเค้าให้กู้มาแล้ว เลยมาให้ด้วย ถ้าหนูเป็นเจ้าของบริษัท ดิฉันจะเจ็บใจมาก เมื่อต้องการความช่วยเหลือ หนูช่วย แต่พอหนูขอให้ช่วยไม่มีใครช่วย ใจร้ายมาก การลดค่าใช้จ่ายของบริษัท ดิฉันอยากแนะนำให้บริษัทไปลดค่าใช้จ่ายที่ส่วนอื่นบ้าง เช่น พนักงานออฟฟิคที่วันวันเอาแต่เดินตลาดหลังการบินไทย หรือพนักงานออฟฟิคที่มาจอดรถรอเวลารูดบัตร พอถึงเวลารูดบัตรก็รูดแล้วขับออกไปเฉย แสดงว่าคุณเลิกงานก่อนเวลานานแล้ว จนขับรถวนหาที่จอดใกล้เครื่องรูดบัตรได้ พนักงานที่ขับรถมาแล้วกระวีกระวาดมาแปะบัตรเพื่อให้ทันเวลา แล้วค่อยขับรถไปจอด นี่ก็กินเวลางานนะคะ หรือคนที่รูดบัตรแล้วไปเดิมตลาด หรือไปกินข้าวแล้วมาทำงานอะไรแบบนี้ คนแบบนี้ควรโดนตัดนะคะ ของบนเครื่องที่แพงๆ เช่นแก้วน้ำที่ข่าวลือมาใบละ 3 บาท ท่านคะ ซื้อทีเป็นสิบยี่สิบล้ายใบ ยังซื้อมาใบละสามบาทอีกเหรอคะ ซื้อตลาดบ้านหนูยังถูกกว่านี้เลย ผ้าเช็ดมือผืนละ 3 บาท หนูซื้อแถวบ้าน 7 ผืน 20 ท่านซื้อเป็นล้านผืน ท่านยังได้ราคาใกล้เคียงกับที่หนูซื้ออีกเหรอคะ แผ่นปูรองถาด แผ่นละ 15 บาท ท่านซื้อเป็นสิบยี่สิบล้านแผ่น ยัง 15 บาทอีกเหรอคะ หนูสั่งทำใบปลิวร้านอาหารสี่สี ยังแผ่นละ 8 บาทเลยนะคะท่าน คือมันมีอะไรแพงๆที่ไม่ควรจะเสียเยอะค่ะ ถ้าท่านประหยัดพวกนี้ หนูว่าสายการบิน ไม่ทมีทางขาดทุน แต่บริ มาลดอะไรบนเครื่อง ท่านเคยขึ้นเครื่องแล้วขออะไรพนักงานแล้วไม่ได้ไหมคะ หนูอยากฟ้อง... ขอปากกา ขอโทษด้วยค่ะ ปากกาหมดแล้ว อ้าวก็จะไม่หมดได้อย่างไร ก็ในเมื่อบริษัทให้มา 30 ด้าม ทั้งลำ แล้วผู้โดยสารที่ต้องการปากกา มีมากกว่า 30 ท่านแน่นอนค่ะ ต้องกราบตักทุกท่านที่ไม่สามารถหาปากกาให้ได้ ขอของเล่นเด็ก ขอโทษค่ะ หมดแล้ว ทั้งเครื่องให้มา12ชิ้น เด็กขึ้นมา 20 คน ให้จนหมด จนแถมใจคนให้ไปด้วยก็ไม่พอเหมือนกันค่ะ ที่ลำบากใจหนูสุดคือ ลดจำนวนของที่เสริฟบนเครื่อง เช่น ไปออสเตรเรีย 9 ชั่วโมง ท่านให้น้ำส้มมา 30 กล่อง ผู้โดยสารเต็ม 300 ท่าน มันก็ไม่พอน่ะซีคะ ต้องรินอย่างจำกัดมาก ที่ท่านเห็นว่าเรารินไม่เต็ม ก็ด้วยเหตุนี้ บางทีท่านขอน้ำแอปเปิ้ลแล้วหมด ก็เพราะเค้าโหลดมาแค่ 8 กล่อง ผู้โดยสาร 300 ท่าน แถม apple เป็นที่นิยมมาก แล้วจะไม่ให้หมดได้อย่างไร อยากให้ท่านไปลดค่าใช้จ่ายบ้าๆ ลงบ้าง ไม่ใช่มาลดสิ่งที่จำเป็นบนเครื่อง ถ้ามีของหนูแจกเรียบ ไม่เก็บไว้ ถ้ามีเด็กน้อย หนูให้คนละสองชิ้นไม่เหลือ เวลาออกอาหาร ถ้าตัวเลือกอาหารมีน้อย หนูให้คนไทยเลือกก่อนตลอด ไม่เคยให้คนต่างชาติ ยกมือไหว้คนไทยตลอด สามร้อยคนก็ไหว้สามร้อยทีไม่มีกั๊ก คนต่างชาติมาทีหลัง หนูทำงานนึกว่าทุกท่านเป็นผู้มีพระคุณ ไม่เคยบึ้งตึงใส่ ยกเว้นปวดท้องวันนั้นของเดือน ท่านขึ้นเงินให้นักบิน แต่มาตัดพวกหนูทุกอย่าง ก็ไม่ไหวนะคะ ถึงหนูจะทำงานถึกเหมือนควาย แต่หนูก็คนคนนึงเหมือนกัน กราบทุกท่านค่ะ อย่าด่าหนูเลย ถ้าเคยเจอกัน ท่านต้อง อ้อ...หนูคือน้องใจดีคนนั้นนั่นเอง ขอบพระคุณที่รับฟังค่ะ จากคุณ : มังกรธรณี เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 17:41:37

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ คห.40ครับ ฟังดูการเป็น พนักงานต้อนรับบนเครื่อง TG นั้นดูลำบากมากมายเลยนะครับ แล้วเคยเทียบกับรายได้ หรือสวัสดิการที่คุณได้รับมั้ยครับ ถ้ามันแย่นักทำไมไม่ลองสมัครงานอื่นดูหรือ สายการบินอื่นดูล่ะครับ ไฟล์ยาวๆเช่นกัน ไม่ทราบว่าคุณยืนตลอดเลยรึครับ ยืนทำไมครับ??? เสริฟ 2 มื้อ ปิดไฟให้ผดส. นอนซะส่วนใหญ่ คุณจะยืนทำไมครับ งง เท่าที่รู้มา รายได้และสวัสดิการของพนักงานต้อนรับ TG ดีที่สุดนะ เมื่อเทียบกับสายการบินอื่นๆ ในขณะที่บริษัทขาดทุนทุกปี เครื่องเต็มซะส่วนใหญ่ ตั๋วก็แพงกว่าสายการบินอื่น เคยพิจารณามั้ยครับ การบริการก็ใช่ว่าจะดี สมราคา ผมเคยเห็น ผดส.ตั๋วเล็กๆคนหนึ่งพยายามยกกระเป๋าเพื่อเก็บในช่องเก็บของด้านบน โดยมี แอร์ สาวสวย ช่วยยืนลุ้นอยู่ข้างๆ โดยไม่ได้ช่วยแต่ประการใด ผมเข้าใจครับว่าพวกท่านถูกสอนมาว่าอย่าช่วยยกกระเป๋า เพราะอาจจะเกิดการบาดเจ็บกับหลังคุณได้ แต่มันคือน้ำใจครับ ถ้าไฟล์ๆนึง คุณช่วยผดส.ยกกระเป๋า 2-3 ใบ แล้วหลังคุณจะเจ็บ ก็อย่าเรียกว่างานบริการเลยครับ บินไฟล์ยาวๆ พัก 24 ชม.ก็น่าจะพอนะ ถ้าไม่จำเป็นต้องเข้าเทืองไปรับจ็อปหิ้ว หลุยส์, ชาแนล หรือ กระเป๋าต่างๆนะ..... จากคุณ : จริงๆ เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 18:24:30 A:125.24.0.181 X: TicketID:269264

ความคิดเห็นที่ 42 อยากได้ตัวเลขจริงๆมาโชว์อะครับ แทนที่จะวัดเอาจากความรู้สึก เปรียบเทียบกับสายการบินอื่นๆเลยว่า เค้าพักกันกี่ชม จำนวนแอร์ต่อผู้โดยสาร สวัสดิการอื่นๆ จากคุณ : zolam เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 19:44:30

ความคิดเห็นที่ 43 มีลูกเรือเข้ามาตอบอีกล่ะ คุณ NijDoi (NijDoi)  ยังไม่มาตอบคำถามผมเลย งั้นผมถามคุณ มังกรธรณี  ความเห็น 40 ต่อ  ช่วยตอบเป็นข้อๆๆ ด้วยนะครับ 1. คุณอ้างว่า "คนอื่นอยู่สบาย มีแต่เราที่ทำงานแล้วโดนรังแก" ใครคือคนที่สบาย  ผู้บริหารใช่หรือไม่ 2. คุณอ้างว่า "220 ท่าน ต้องตัดลูกเรือ แต่พอวันจริง  มีผู้โดยสารเพิ่มเป็น 300 ท่าน แต่บริก็ไม่ได้เรียกลูกเรือมาเพิ่ม"  อยากถามว่า ตามกฎสากลเเล้ว ลูกเรือที่มีอยู่ถือว่าพอในเกณท์ขั้นต่ำหรือไม่  เเละทราบมาว่าเขากำหนดจำนวนลูกเรือตามจำนวนประตูเครื่องใช่หรือไม่  ตอบผมด้วยในสองประเด็นนี้ 3. คุณบอกว่า "บินไปออสเตรเรีย9 ชั่วโมง ตอนอยู่บนเครื่องได้นั่งหลับ 2 ชั่วโมง เพราะเครื่องที่ใช้ มันไม่มีที่นอนลูกเรือ ส่วนอีก 7 ชั่วโมงที่เหลือ คุณยืนตลอด "  เเสดงว่าคุณยอมรับเเทนเเล้ว ในความเห็นของผมที่ 37 ข้อ 2 ว่า ลูกเรือขณะบินจะได้สลับกันพัก เพียงเเต่ว่าเครื่องไม่มีที่เหมาะสม......ส่วนอีก  7 ชั่วโมงที่เหลือยืนตลอด  ยืนคุย เเล้วรอให้ผู้โดยสารเรียกใช่หรือไม่ เเล้วผมเช็คดูของยุโรป ส่วนมากเป็นไฟล์ทดึก ซึ่งพวกคุณทำงานหนักเเค่ 2 ชั่วโมงเเรก เเล้วก็มาทำงานกันอีกทีช่วง 2 ชั่วโมงก่อนเครื่องลงจริงหรือไม่  การที่คุณเอารูทออสเตรเลียมาอ้าง  ทั้งๆที่กลุ่มทางยุโรปเขาบินกันดึกทั้งนั้น  มันเป็นส่วนน้อยมากๆ 4. การที่คุณอ้างว่าต้องรอส่งผู้โดยสาร รอส่งเครื่อง บลาๆๆๆๆ ทำให้ไปโรงเเรมช้า ได้พักน้อย......ผมเดินทางค่อนข้างบ่อย จะพบว่าบ่อยครั้งลูกเรือพร้อมกัปตันออกมาก่อนผู้โดยสารได้รับกระเป๋าซะอีก  ลูกเรือเเละกัปตัน ไม่ได้โหลดกระเป๋า ทำให้บ่อยครั้งได้ออกมาก่อนผู้โดยสารที่รอรับกระเป๋าอยู่ใช่หรือไม่  ตอบด้วยนะข้อนี้ 5. คุณบอกว่า "ไปไหนไม่เคยวีนใครซะที ดังนั้น อย่าวีนหนูเลย" ถ้าคุณทำตัวตามหน้าที่ที่สมควรเเล้ว ไม่มีใครวีนเเน่นอนครับ 6. คุณบอกว่า "คนที่โน่น ห้าโมงร้านอาหารปิดหมดเหลือแต่แมคโดนัลค่ะ มองรู้สึกชีวิตรันเพราะอยู่บนเครื่องก็ทานอาหารแช่แข็ง อยู่ข้างล่างก็ทานอาหารขยะ"  ลูกเรือไทยหาอาการกินไม่ได้ เป็นความผิดของบริษัทไปซะงั้น  คงต้องเพิ่มกฎการรับพนักงานใหม่ต้องหาอาหารกินเองได้เข้ามาด้วย 7. คุณบอกว่า "โรงแรมบางที่แทบจะหาความปลอดภัยไม่ได้" อันนี้ไม่เเน่ใจว่าความปลอดภัยเเละเหมาะสมเขาวัดกันที่ตรงไหน  ที่คุณอ้างเวลามันนิดเดียวเอง คืนเดียวเอง เเล้วเข้าดึกๆด้วยไม่ใช่เหรอครับ  เเล้วก็หนึ่งห้องต่อหนึ่งคนใช่หรือไม่ อยากรู้ครับข้อนี้ ถ้าไม่ปลอดภัย บางทีบริษัทอาจลดต้นทุนให้ไปนอนด้วยกันก็ดีนะครับ จะได้รู้สึกปลอดภัย 8. คุณบอกว่า "บริไปกู้ที่อื่นมาก่อน เพราะว่ารัฐไม่ยอมให้ รู้สึกขายหน้าเค้ามากที่คนประเทศเดียวกันไม่ยอมให้กู้"  ก็เพราะว่าอุ้มพวกคุณซะจนเดินไม่เป็นเเบบนี้ไงครับ  จะอุ้มต่อไปก็เป็นเตี้ยอุ้มค่อม เเล้วจะไปอายขายหน้าคนอื่นเขาทำไม  คนอื่นที่เขาไม่อายอยากมาทำงานนี้เยอะครับ 9. คุณบอกว่า "เวลาออกอาหาร ถ้าตัวเลือกอาหารมีน้อย หนูให้คนไทยเลือกก่อนตลอด ไม่เคยให้คนต่างชาติ ยกมือไหว้คนไทยตลอด สามร้อยคนก็ไหว้สามร้อยทีไม่มีกั๊ก"  การออกอาหาร พวกคุณเเจกตามลำดับที่นั่งใช่หรือไม่  เเล้วคุณจะให้สิทธิ๋คนไทยได้เลือกก่อนได้อย่างไร  คุณจะปฎิเสธเเหม่มที่อยู่เเถวหน้า ทั้งๆที่ผู้โดยสารคนไทยอยู่อีกเเถวได้หรือครับ  เเล้วคนที่ไหว้สามร้อยที คือคนที่คอยรับผู้โดยสารที่อยู่หน้าประตูเท่านั้นใช่หรือไม่  ลูกเรือข้างในเห็นยืนกอดเบาะเเละบอกเเค่ตำเเหน่งที่นั่งของผู้โดยสารเท่านั้นเองใช่หรือไม่ ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ได้ว่านะครับ ผมเพียงเเค่สงสัยตามประสาผู้โดยสาร เเละการที่คุณจะใจดีหรือไม่  ผู้โดยสารไม่ต้องการการใจดีเป็นพิเศษหรอกครับ ขอเเค่ให้คุณทำงานด้วยใจ ทำงานตามหน้าที่ อย่าเรียกร้องมากจนเกินไปนักก็พอเเล้วครับ  ยังไงผมก็รักการบินไทย อยากให้ก้าวหน้ามากกว่านี้ครับ ***** ทำไมเรียกบริษัทตัวเองว่า "บริ" ภาษาไทยเเย่ ภาษาฝรั่งก็เเย่  สายการบินต่างชาติเอาไปกินหมด จากคุณ : ส้มฉุน (DLC) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 20:03:19

ความคิดเห็นที่ 45 ก็คงเป็นธรรมดามั้ง ตามมนุษย์ปุถุชน คนเคยทำงานมาภาระเท่านี้ อยู่ดีๆมีภาระงานเพิ่ม ต้องโวยวายเป็นธรรมดา แต่อยากให้พนักงานการบินไทยลองคิดถึงค่าตอบแทนที่ได้รับอย่างมากมายพร้อมทั้ง สวัสดิการต่างๆที่ได้ เช่น บินฟรี มีเวลาพัก แล้วลองเปรียบเทียบกับทหาร ตำรวจ ครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ว่าจะยศไหนๆ ที่เอาชีวิตไปเสี่ยงกับภัยที่อาจถึงตัวตลอดเวลา เพื่อช่วยปกป้องแผ่นดินไทย ให้คนอย่างพวกเราได้นอนหลับฝันดีเค้าก็มีภาระที่ต้องเลี้ยงดู ลูก ภรรยา เหมือนกัน แถมเบี้ยตอบแทนที่ได้บางครั้งต้องรอตกเบิก ไม่เห็นมีใครเค้าออกมาโวยวายเลยซักคน ว่างานหนักอย่างโน้นอย่างนี้ มีเวลาพักน้อย ที่นอนไม่สบาย ข้าศึกอยู่รอบตัว  เพราะอะไรเขาถึงไม่บ่น ไม่คิด เอะอะประท้วง เอะอะลาออก เพราะมันคือหน้าที่ ถ้าคิดว่าหนักมากกับภาระที่ได้มาเพิ่ม ทนไม่ไหวจริงๆน่าจะลองหางานใหม่ หรือสายการบินใหม่ก็ดีนะ อย่าทรมานตัวเองเลยถ้าทนไม่ไหว จากคุณ : Nesty เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 20:26:43

ความคิดเห็นที่ 46 ว่าจะไม่ตอบแล้วนะ แต่อ่านเหตุผลแล้วมันไม่ไหวจริงๆค่ะ อยากให้คนทั่วๆไปได้รับรู้บ้างว่าสายการบินต่างชาติเค้าเป็นยังไง เราเองก็เป็นแอร์ค่ะ บินรูทต่างประเทศตลอด รู้ดีว่าอะไรคืออะไร ที่เราทำอยู่บินสิบสองชมก็ได้พัก 24ชมค่ะ อันนี้รวมเวลาเดินทางไปกลับโรงแรมแล้วนะคะ บินเก้าชมเท่าออสเตรเลียที่คุณอ้างว่าได้นอนแค่สองชมบนเครื่อง ของเราไม่มีพักค่ะ อย่าอ้างว่ายืนตลอดเพราะคุณไม่ได้ทำเซอร์วิสตลอดไฟลท์ จัมพ์ซีทมีก็นั่งไปสิคะ กบทคงไม่ห้าม ใช่มั้ยคะ ไฟลท์สั้นๆแบบในประเทศที่คุณทำแล้วมีเลย์โอเวอร์ ของเราไม่มีค่ะ (ถึงคุณจะอ้างว่าต้องไปที่อื่นมาก่อนอีกสองแลนด์แล้วถึงจะได้นอนในแลนด์ที่สามก็ตาม) สี่แลนด์รวดแล้วกลับบ้านค่ะ ถ้าไปถึงแล้วพัก เวลาที่เค้าให้มามันเกินพอค่ะ แต่ถ้าจะเอาเวลาเข้าเมืองไปซื้อของแบรนด์เนมที่รับจ็อบมาตามที่คหบนบอก รึว่าไปแฮงค์เอาท์ เวลากี่วันมันถึงจะพอคะ ส่วนเรื่องจำนวนลูกเรือบนไฟลท์ สายการบินไหนๆเค้าก็จัดตามจำนวนผู้โดยสารค่ะ(แต่ต้องเกินจำนวนminimum crewของเครื่องแบบนั้นๆ) กบทคงเป็นสายการบินสุดท้ายบนโลกที่เพิ่งทำ ลูกเรือไม่พอ business class ทำเสร็จแล้วก็มาช่วย economyสิคะ (อย่าบอกว่าเผื่อผู้โดยสาร business เรียกแล้วไม่เจอ เพราะเหลือไว้คนเดียวก็คงพอค่ะ)ไม่ใช่เสร็จแล้วนั่งเฉยๆ ข้อนี้ถ้าลูกเรือมีประสิทธิภาพพอคงทำได้ไม่ยากค่ะ ที่เขียนมานี้เขียนตามความเป็นจริงที่เราเจอ ไม่ได้เกลียดกบท ทุกครั้งเวลาเราอ่านเจอคนเขียนคอมเพลนกบทเราเข้าข้างแอร์ทุกครั้ง เพราะเรารู้ดีว่าผู้โดยสารบางคนก็เรื่องมากจริงๆ แต่เรื่องนี้ไม่ไหวจะเข้าข้างค่ะ จากคุณ : แอร์เหมือนกันค่ะ เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 20:40:07 A:89.211.218.154 X: TicketID:320533

ความคิดเห็นที่ 47 ไม่ใช่แอร์ แต่รู้สึกว่า คนสมัยนี้ ไม่ค่อยเห็นใจกันเท่าที่ควร ถ้าคิดว่า ความคิดตัวเองถูกแล้ว ใครมาพูดยังไงก็ฟัง จากที่ฟังมาหลาย ๆ ที่ งานนี้เข้าข้างลูกเรือค่ะ เพราะคิดว่า ผู้ที่ผิดคือผู้บริหาร และพวกที่มาด่า ๆ และบอกว่า ไม่พอใจให้ออก พูดง่ายนะคะ แต่ทำยาก เพราะคนเรากว่าจะเปลี่ยนงานได้ มันไม่ใช่เปลี่ยนได้เหมือนกับปากที่พูด จากคุณ : lek@pantip เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 22:12:46

ความคิดเห็นที่ 48 ขอโทษนะครับ กรุณาอย่าเอาเรื่องเพียงเรื่องเีดียวที่คุณทราบ มาตัดสินคนที่คุณไม่รู้จักเลยดีกว่าครับ ลองคิดด้วยเหตุและผลดูดีดีสิครับว่าถ้าแค่ 3 ชม. พวกพนักงานจะออกมาเรียกร้องกันเยอะขนาดนี้รึเปล่า? ถ้าใช่ แสดงว่าคุณมองพวกเราอย่างอคติมากเกินไปแล้ว สิงคโปร์น่ะ จะนอนไม่นอน ไม่มีใครสนใจหรอกครับ ไปจีน 4-5ชม. ไปปากีสถาน 5-6ชม. ไปแล้วกลับเลย เค้าก็บินกันมาหลายสิบปีแล้ว ก็ไม่เคยเรียกร้อง แต่ที่ทนไม่ไหวก็คือการที่ให้ไปยุโรป flt time 10-14 ชม. พนักงานต้องไปถึงบริษัทก่อน 2 ชม. เดินทาง แต่งตัว สรุปคือ ใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 16-20 ชม. ในการเดินทางไปถึงยุโรป ซึ่งการเดินทางบนเครื่องบินนานๆ จะทำให้ร่างกายอ่อนแอกว่าปกติเนื่องด้วยสภาพแวดล้อมเช่น ออกซิเจนน้อย ความชื้นในอากาศต่ำ ฯลฯ ไม่รวมกับการที่คอยดูแลผู้โดยสาร ดูแลความปลอดภัยใน flight ตลอดเวลา ซึ่งบริษัทให้พักที่ต่างประเทศ 1 วัน (24ชม.รวมเวลาเดินทาง เวลาเตรียมตัว และเวลา checkin หักแล้วบางทีเหลือเวลาได้พักจริงๆ18ชม.) แ้ล้วกลับเลย ลองจินตนาการดูนะครับ ว่าไหวรึเปล่า มันคงทำได้ถ้าคุณเป็นหุ่นยนต์ อยากปิดสวิทต์นอนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ความจริงคือ พอไปถึง ก็นอนยาวหลับเป็นตาย ตื่นมาหาของกินกันตาย กลับมาต้องรีบนอนพัก เพราะเดี๋ยวทำงานกลับจะตายเอา... ถ้านอนไม่หลับเพราะพึ่งตื่นมาก็ซวยไป นั่นเป็นเรื่องที่โดนตัดมานานหลายปีจนชินแล้ว... แต่คราวนี้ ผู้บริหารขอลดจำนวนพนักงานลงไปอีก เคยไปอินเดีย ผู้โดยสาร 325คน (ชั้นประหยัด) ลูกเรือ 7คน... ผู้โดยสารทุกคนต้องได้ เครื่องดื่ม อาหาร ไวน์ ขนมปัง ชา กาแฟ และความต้องการทั่วๆไปของผู้โดยสารที่ขอนอกเหนือจากการบริการปกติ... ไม่ลองมาเป็นไม่รู้หรอกครับ กรุณาอย่าเอาอคติส่วนตัวของคุณเองมาบอกว่าพวกลูกเรือเหยาะแหยะ ว่าบิน3ชม. ไม่ให้นอนเลยโวยวาย อีกนะครับ จากคุณ : NijDoi (NijDoi) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 09:41:13   ขอโทษนะครับคุณ NijDoi (NijDoi) ถีงผมจะไม่ชอบองค์กรนี้ แต่ผมก็ไม่ เคยตัดสินจากการที่ผมรู้มาแค่เรื่องเดียวหรอกครับ มันยังมีอีกมากครับ ผมแค่รู้สึกว่า การบินนั้นมีกฏอยู่ครับ แล้วที่ผู้บริหารเค้าทำนั้นก็ไม่มีสิ่งไหน ขัดต่อกฏการบินเลยซักข้อ แต่อาจไปขัดใจกฏหมู่ของพนักงานอย่างคุณ ใช่ไหมครับ เท่าที่คุณอ้างมานั้น สายการบินอื่นทำได้ แต่การบินไทยทำไม่ ได้ คุณบอกพวกคุณไม่ใช่หุ่นยนต์ สายการบินอื่นเค้าเป็นยอดมนุษย์ กันเหรอครับเค้าถึงทำได้ อย่าเอาความเห็นแก่ตัวของคุณ มาตัดสินว่าคนอื่นรู้หรือไม่รู้ความเน่า ขององค์กรคุณเลยครับ แล้วอย่าคิดว่าการที่คนอื่นออกมาต่อว่านั้น อย่าไปตัดสินว่าพวกเค้ามีอคติกับพวกคุณเลยครับ จากคุณ : GI Bill เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 22:35:18

ความคิดเห็นที่ 49 แต่พวกสจ๊วตและแอร์ต้องยอมรับอย่างหนึ่งนะว่าสวัสดิการของTGมันเยอะ เกินไปหรือเปล่า  เพื่อนผมเห็นเขาทำมา 9 ปีกว่า  ลาออกได้เงินอะไรก็ไม่รู้ ล้านกว่าบาท     และเรื่องตั๋ว10%  25%อะไรนั่นอีก  พอดีเพื่อนเล่าให้ฟัง แต่รายละเอียดผมไม่ทราบหรอกครับ  แต่มันเยอะเกินไป  แล้วอีกอย่าง TGนี่แทบจะแตะต้องไม่ได้เลย   สหภาพแข็งมาก   แล้วก็เท่าที่ทราบ   ไป เอานักชิมอาหารมาเป็นที่ปรึกษาบ้าบออะไรก็ไม่รู้เงินเดือนเห็นว่าเป็นล้าน จริงเท็จประการใดไม่ทราบ(แต่น่าจะจริง  เพราะพ่อก็เส้นใหญ่น่าดู)  มันเป็น องค์ที่ค่อนข้างแย่นะผมว่า จากคุณ : สริตา เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 22:55:21

ความคิดเห็นที่ 50 เรามีคนรู้จักเป็นแอร์ค่ะ บังเอิญอยู่ใกล้ๆกัน แล้วเขาก็ขี้บ่น เราเลยได้ข้อมูลสิ่งที่เขาบ่นออกมาเยอะเลยค่ะ จะเอามาเล่าให้ฟังนะคะ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ ว่าตรงกะพี่ที่เขามาเขียนเด๊ะเลย แต่สิ่งหนึ่งที่หนูรู้สึกก็คือ ไม่เห็นจะน่าเห็นใจตรงไหนเลยค่ะ น่าอิจฉาออกค่ะ สิ่งแรก เรื่องเงิน เขาชอบบ่นว่ารายได้น้อยลง แทบจะไม่พอยาใส้ แต่วันก่อนเจอเขาบอกไปบินมาซื้อกระเป๋าหลุยใหม่มาอีกใบนึง รุ่นที่อยากได้รอมานาน ราคา(กะคร่าวๆ)น่าจะ 4หมื่นค่ะ เห็นเอามาโชว์ใหญ่เลย ก็แปลกใจ เห็นวันก่อนเพิ่งบ่นไปว่าเงินไม่พอใช้ ทำไมวันนี้ไปซื้อของแพงๆมาได้ก็ไม่รู้ แล้วที่ผ่านมาก็เห็นพี่เขาใช้หลุย กุชชี่ ยี่ห้อดังๆอีกเยอะแยะมากมายตลอดเลยค่ะ มีหลายใบหลายรุ่นหลายสีจนหนูคิดว่าเขาคงรวยมากๆ ขับรถก็หรู ซื้อบ้านหรู คิดว่าพี่เขาผ่อนบ้านรถเดือนนึงไม่ต่ำกว่า 5หมื่นมังคะ แล้วยังมีเงินชอปปี้งอีก เห็นบินกลับมาทุกครั้งก็จะมีของใหม่ๆมาตลอด บางทีไปแป๊บเดียวมีอะไรกลับมาเพียบเลยค่ะ งงๆ ไหนว่าไม่มีเวลาพัก ทำไมมีเวลาไปชอปปี้งแทบจะทุกไฟลท์เลย ถุงก็เป็นยี่ห้อต่างชาติทั้งนั้น เคยได้ยินเขาคุยโทรศัพท์เรื่องเงินค่าบิน โอนเงินไรกันยังงี้อะ(บังเอิญเรานั่งเล่นกะหมาอยู่ ไม่ได้ตั้งใจฟังหรอก แต่ก็ได้ยินจำได้) ตกใจว่าเขาเพิ่งกลับมาจากเยอรมัน ไปแค่ 3วันเขาได้เงินมาเกือบ 2หมื่น ฟังแล้วอึ้งค่ะ อาไรกาน มันมากกว่าเพื่อนหนูทำทั้งเดือนอีกนะนั่น พี่เขาทำ 3วัน แล้วยังได้ยินว่าเขาบ่นอีกว่าไฟลท์นี้เหนื่อยมาก คนน้อย แต่โชคดีทำชั้นธุรกิจไรนี่แหละ ผู้โดยสารน้อยมากเขาเลยสบาย เพ่อนเขาที่อยู่ข้างหลัง(เข้าใจว่าชั้นประหยัด) บ่นตลอดว่าขออยู่ได้ (คงแบบออเดอร์ไม่หยุดมั๊ง) เราก็คิดว่า เอ แล้วเขาไม่ไปช่วยกันหรอกเหรอ สงสัยใครโชคดีก็สบายมั๊ง แอบคำนวนเงินเดือนพี่เขา โห ไปแค่ไฟลท์เดียวเขาได้ตั้งเป็นหมื่นกว่า แล้วเห็นเดือนนึงเขาไปไกลๆตั้ง3-4 ครั้ง ก็น่าจะ5-6หมื่น (บังเอิญเราชอบคิดเลข) ไหนจะไปบินใกล้ๆอีกคงจะได้เงินด้วยละมั๊ง แล้วจำได้ อาเราเมื่อก่อนเคยเป็นแอร์ บอกว่าแรกๆเข้าไปใหม่ๆ เงินเดือนไม่ถึงหมื่น แต่พอนานถึงสิบปีมันก็เพิ่มแบบทวีคุณ ตอนนั้นเขาบอกข้อมูลเห็นเราสนใจอาชีพนี้ เราก็ถามเขาเรื่องรายได้ตามปรกติอะนะ ว่ามันคุ้มไหมถ้าจะไปสมัคร เพราะเราก็ไม่ได้ชอบงานแบบนี้ เขาบอกตอนเขาลาออกมาเงินเดือนเขาได้ที่ 3หมื่นห้า เขาก็ทำงานมาสิบกว่าปีมั๊งคะ แต่ค่าบินเดือนๆนึงไปยุโรปบ่อยๆก็มีล่วงเวลาได้ทีละเป็นแสนๆก็บ่อย แต่ตอนนี้เขามีสามีเป็นนักธุรกิจรวยมากเลยลาออกมาเลี้ยงลูกอะค่ะ เราก็แบบ โห รายได้ดีจัง แต่กว่าจะดีก็ต้องทำงานไปเป็นสิบปี แต่ถ้าเข้าไปใหม่ๆก็ได้ค่าบิน อย่างน้อยเดือนนึงก็น่าจะหลายหมื่นเผลอๆน่าจะเฉียด 5-6หมื่นอยู่นะ พี่คนนี้เขาก็บินแค่สิบกว่าปีเอง หน้ายังไม่แก่เท่าไหร่เลย แต่เห็นเขาบ่นมากขึ้นว่ารายได้ลดลง ทำงานเหนื่อยขึ้น เราเลยคิดว่าเพราะเขาเคยสบายมากๆ เคยได้มากๆมาก่อน พอได้น้อยเขาเลยไม่พอใจ เพราะวัดจากมาตรฐานสูง ถ้าเขาลองมองดูคนอาชีพอื่น ทำงานงกๆๆๆๆ บางทีก็อดหลับอดนอน อยู่ออฟฟิซจนถึงเช้า ก็ไม่ต่างจากพวกเขาเลย เพียงแต่คนละอย่าง นี่ใช้สมองไม่ได้ใช้ร่างกาย แต่ก็เหนื่อยพอๆกัน กว่าจะได้เงินขนาดเขา แทบไม่มีเวลาไปเที่ยวไปซื้อกระเป๋าหลุยส์ เราว่านั่นอะ เขาน่าไปเปรียบเทียบแบบนั้นมากกว่านะ จะได้มีความสุขขึ้น จากคุณ : กน เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 23:02:40 A:110.168.65.18 X: TicketID:267089

ความคิดเห็นที่ 51 พึ่งเห็นข้อความพาดพิง เลยเข้ามาตอบ ไม่ได้ขึ้นบ่อยมากหรอกค่ะ เวลาไปงานต่างประเทศ  บริษัทจ่าย  ที่มันมีไฟล์บินตรง ดิฉันถึงจะมีวาสนาได้ขึ้น บางทริป ก็อาศัยบุญบารมีคนอื่น แลกไมล์ได้บินฟรี ล่าสุดดิฉันจะบินไปอิตาลี เดือนสิงหา เนี่ย ตั๋วก็แพง  ญาติ ก้เลย  แลกไมล์บินฟรีอีก  ก็คงต้องบินล่ะค่ะ  ของฟรีนี่ค่ะ     ถ้าต้องเดินทางคนเดียว ออกเงินเอง   ดิฉันก็จะเลี่ยงการบินไทยค่ะ แต่ถ้าต้องไปกับคนอื่น  ก็แล้วแต่ความเห็นคนอืนค่ะ ล่าสุดบินจากแฟงเฟิร์ต เจอลูกแมลงสาปตัวเล็ก ๆ หัวหน้าแอร์ ก็ เอา คาร์เวียมาให้กิน  คุยไปคุยมาถูกคอกัน พี่เขาก็เลย ให้ไวน์อีกหนึ่งขวด   ทริปนี้ถือว่า  ดิฉัน เจอหัวหน้าแอร์ดีค่ะ อันนี้คือความรู้สึกของดิฉันคะ ว่าพวกคุณ เหมือนเทวดา นางฟ้า กันทั้งนั้นเลยค่ะ จากคุณ : Gabi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 00:29:17

ความคิดเห็นที่ 52 1 จากคุณ : chiw_ik เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 02:42:55

ความคิดเห็นที่ 53 2 จากคุณ : chiw_ik เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 02:43:09

ความคิดเห็นที่ 54 3 จากคุณ : chiw_ik เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 02:43:22

ความคิดเห็นที่ 55 คนบางคนมองแค่ภายนอกแล้วก็ด่าๆๆอย่างเดียว จากคุณ : Ich will Flugbegleiter werden! เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 07:45:08

ความคิดเห็นที่ 56 ที่ด่าเพราะตอบคำถามไม่ได้  ตอบคำถามได้ก็จบ  (จะรอดูว่าจะมาตอบตรงข้ามกับสิ่งที่ผมไปศึกษามาเพิ่มเติมหรือไม่) คนบางคนไม่มองอะไรเลย ไม่คิด ไม่สร้าง ไม่เเก้ไข ไม่เพิ่มเติม ไม่ติติง ไม่อะไรเลย ปิดหู ปิดตา  ประเทศคงเจริญล่ะ ถามมา 2 วันเเล้ว เเละถามทั้ง 2 คน  ถ้าตอบคำถามไม่ได้ เเสดงว่าสิ่งที่พวกคุณเรียกร้องมันเกินมาตรฐานที่กำหนด   คนภายนอกเขาถึงมองว่าทำเพื่อตัวเองทั้งนั้น จากคุณ : ส้มฉุน (DLC) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 09:42:19

ความคิดเห็นที่ 57 ชอบความเห็นของคุณส้มฉุน ขอรอฟังคำตอบด้วยคน จากคุณ : ข้าวปั้น เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 13:59:12 A:220.237.169.199 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 58 จริงครับ ถ้าผู้บริหารเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบบริษัทให้ผิดจากมาตรฐานข้อบังคับสายการบิน หรือรุนแรงน่าเกลียดกว่าสายการบินอื่นๆ อันนี้ผมว่าลูกค้าการบินไทยทุกคนจะมาอยู่ข้างพนักงาน และช่วยปกป้องแอร์(สาวๆ) ทุกคนแน่นอนครับ ขอให้แอร์ที่มาประท้วงกลับไปทำการบ้านมาก่อนเถอะครับว่าข้อบังคับสายการบินนานชาติมีอย่างไรบ้าง อันนี้ผมไม่ทราบเพราะไม่ใช่อาชีพผม แต่รู้ว่ามีแน่ๆที่นักบินและแอร์ จะทำงานได้ไม่เกินกี่ชั่วโมงติดต่อกัน และต้องพักอย่างน้อยกี่ชั่วโมง ซึ่งผมมั่นใจว่าพัก 24 ชม. นั้นไม่ต่ำกว่าระเบียบมาตรฐานสายการบินแน่นอน ส่วนจะมากกว่า น้อยกว่า หรือเท่ากับสายการบินอื่นหรือเปล่าไม่รู้ จากคุณ : magolf เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 14:29:01

ความคิดเห็นที่ 59 เรื่องความลำบากของลูกเรือไม่รู้ครับ แค่สงสัยว่าโหลดเต็มเกือบตลอดแต่ทำไมขาดทุน ทั้งๆ ที่ราคาสูงมาก สูงกว่าสายการบินอื่นๆ เท่าตัว แต่ก็เต็ม จากคุณ : narupol เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 15:13:59

ความคิดเห็นที่ 60 ฝากเพิ่มเติมกับคำถามอีกข้อด้วยนะครับ ว่าทุกวันนี้พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ไม่ต้องเสียภาษี โดยทางบริษัทเป็นผู้แบกรับภาระนี้ไว้ทั้งหมดนั้นมันสมควรมั้ยล่ะครับ แล้วพวกลูกเรือที่ออกมาบ่นทั้งหลายที่ได้รายได้กันเดือนละ 6 หลัก โดยไม่ต้องจ่ายภาษี แม้แต่บาทเดียวอ่ะ เคยสำนึกกันบ้างมั้ยครับ อย่าบ่นไปเลย หัดปรับปรุงตัวเองให้ดีก่อน ก่อนที่ TG จะกลายเป็นเอกชน แล้วพวกคุณนั่นแหล่ะที่จะลำบาก ไม่มีงานไหนเงินดี งานสบาย เท่านี้แล้วแหล่ะครับ จากคุณ : จริงนะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 16:25:05 A:125.24.60.6 X: TicketID:269264

ความคิดเห็นที่ 61 เราว่าไม่มีงานไหนในประเทศไทย จ่ายงาม และให้สวัสดิการได้เว่อร์วิเศษ  เท่าการบินไทยอีกแล้ว แต่ก็นะ ยังไม่เป็นที่พอใจของเหล่าเทวดา นางฟ้าท่าน นี่ล่ะคือคำตอบว่าทำไมมันขาดทุนตลอดเวลา จากคุณ : จะยอมตาย หมายให้เกียรติดำรง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 17:29:24

ความคิดเห็นที่ 62 ทำใจเถอะค่ะ ทุกสิ่งต้องมีการเปลี่ยนแปลง ยิ่งมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องเนี่ย ใครจะยอมเสียไปใช่ไหมคะ... หลานดิฉันก็เป็นแอร์ TG ก็เห็นทำงานสบาย เที่ยวช้อปปิ้ง สนุกสนาน พอมีเรื่องราวแบบนี้ขึ้น ก็บอกไปว่า " ก็ดีเหมือนกันเธอจะได้ประหยัดเงินและตั้งใจทำงานที่มีอยู่ให้ดีๆ ก่อนที่จะไม่มีให้ทำ " ปล..ไม่ได้เข้าข้างใครนะคะ แต่แค่คิดว่าถ้าเรื่องผลประโยชน์และมีการเมืองภายในด้วยเนี่ย สู้ยากจริงๆ จากคุณ : คนนอกวงการ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 19:18:08 A:115.87.81.254 X: TicketID:320630

ความคิดเห็นที่ 63 TG รักฝรั่งเท่าฟ้า เจอมาแล้ว ... ไม่เห็นใจแม้แต่นิดเดียว ไม่แปลกใจเลย ยิ่งเห็นอย่างนี้ยิ่งไม่แปลกใจ .. แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 54 15:34:40 จากคุณ : Lechery เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 22:34:48

ความคิดเห็นที่ 64 ขอตอบสั้นๆอีกครั้งนึงว่าการบินไทยเป็นรัฐวิสาหกิจที่ได้กำไรติดต่อกันมาตลอด 49 ปีของการเิปิดให้บริการ จนมาถึงเมื่อปีที่50 ที่มีปัญหาน้ำมันแพงและปิดสนามบิน และปีหลังจากนั้นบริษัทได้มีกำไรสูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการมา ส่วนปีนี้จะเป็นอย่างไรรอดูผลประกอบการนะครับ จากคุณ : ahohoz เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 22:52:52

ความคิดเห็นที่ 65 สวัสดีค่ะ ขอขอบพระคุณในความสนใจนะคะ ขอบพระคุณที่ทุกท่านพูดดีดีด้วย เพราะว่าไม่เคยอ่านกระทู้แล้วทุกท่านให้ความสนใจขนาดนี้เลยค่ะ ขอบคุณจากใจจริงค่ะ ไม่ได้ประชดประชัน ขอตอบคุณจริงๆ ความเห็นที่ 41 ก่อนนะคะ ตอบตรงๆเลยนะคะ สัญญาก่อนว่าห้ามโกรธ เพราะว่า อยากพูดในลักษณะกลางๆค่ะ เป็นกรณีชี้แจงไม่ชวนทะเลาะ สัญญาค่ะว่าจะอธิบายดีดีค่ะ อดทนกับหนูหน่อยนะคะ เพราะว่าเป็นคนเขียนไม่เก่งเท่าไหร่ค่ะ โปรดสังเกตุว่าพิมผิดบ่อยๆ เนื่องจากไม่ค่อยได้พิมพ์อะไรยาวยาวค่ะ ที่ต้องยืนตลอด เพราะว่า ทำงานไม่ถนัดค่ะ เมื่อหมดช่วงเวลาเสริฟมื้ออาหารแล้ว เรายังต้องทำงานกันต่อไปค่ะ คือ เรื่องแรกการบริการแบบรายบุคคล เนื่องจากคนทั้งสามร้อยคนไม่ได้หลับพร้อมกันในคราวเดียวค่ะ โดยเฉพาะปัจจุบันที่บริษัทพยายามปรับเปลี่ยนที่นั่งให้มีจอ ซึ่งน่าจะทำมาตั้งนานแล้ว แต่เพิ่งจะคิดได้มาทำตอนนี้ น่าคิดจริงๆว่าวิสัยทัศย์เป็นอย่างไร ทำไมถึงความคิดเรื่องเปลี่ยนจอถึงได้ล้าหลังขนาดนี้ ดีใจที่ผู้โดยสารมีจอ เนื่องจากท่านผู้โดยสารก็จะได้มีหนังดู มีเพลงฟัง ดีกว่าการนั่งอยู่เฉยๆในพื้นที่จำกัด ซึ่งไม่น่าสบายเลยค่ะ เข้าใจดี เพราะเครื่องบินของการบินไทยส่วนใหญ่ไม่มีที่นอนให้พนักงานค่ะ ก็ต้องนั่งพักในที่ที่จัดไว้ให้กับผู้โดยสารค่ะ ทราบถึงความน่าอึดอัดรำคาญ โดยเฉพาะเครื่อง 330 ตัวใหม่ที่เพิ่งสั่งเข้ามา อยากบอกท่านว่า นั่งไม่สบายมาก เนื่องจากติดขา เพราะเอา life vest มาแปะกับseat เลย ขาของท่านยามนั่ง ส้นเท้าจะชนมันพอดี ขยับไปไหนไม่ได้ ท่านไม่สามารถขยับเท้าไปด้านหลงเพื่อคลายความเมื่อยล้าได้เลย ก็คิดถึงวิสัยทัศย์คนสั่งซื้อ seat เหมือนกันว่าเป็นอย่างไร มาเข้าเรื่องต่อค่ะ ที่ไม่นั่งเพราะว่ามีการบริการรายบุคคลและงานอื่นๆเข้ามาแทรกค่ะ การบริการหลังอาหารมื้อใหญ่นั้น ก็จะเน้นการบริการเครื่องดื่มเสียเป็นส่วนใหญ่ค่ะ โดยเฉพาะในเมื่อผู้โดยสารนั่งชมภาพยนต์ ท่านก็จะไม่เดินออกมาจากที่นั่งค่ะ ส่วนมากเป็นการที่พนักงานทำน้ำใส่ถาดออกเดินรอบเครื่องค่ะ คิดซะว่าร้อยละ 25 ของผู้โดยสารทั้งหมด ไม่หลับค่ะ นั่งดูหนังกันอยู่ ถ้าเป็นที่ที่เวลาต่างกับเรามาก อย่างไฟท์จากยุโรป ขาเข้ากรุงเทพ ผู้โดยสารจะไม่หลับไม่นอนเกินร้อยละ 80 ด้วยเหตุผลที่ยังไม่สามารถปรับเวลานอนได้ค่ะ ขั้นตอนการเตรียมน้ำ ดูเหมือนง่าย แต่ใช้เวลานานค่ะ เพราะว่าเราไม่ทราบจำนวนแน่นอนของผู้โดยสารที่ต้องการจะดื่ม หรือว่าเดินไปแล้วไม่พอ ต้องกลับครัวมาเริ่มต้นใหม่ ก็ใช้เวลาค่ะ ทำครั้งละ 30 แก้ว บางทีเดินไปห้าแถวก็หมดค่ะ ไม่ได้บ่นค่ะ บอกเป็นข้อมูลเฉยๆค่ะ จริงๆแล้ว อยากให้ผู้โดยสารทานน้ำเยอะๆ เนื่องจากอยู่บนเครื่องอากาศแห้งกว่าปกติ การดื่มน้ำทำให้ร่างกายปรับสมดุลได้ค่ะ ถ้าหิวน้ำแนะนำให้ดื่มค่ะ เข้าห้องน้ำบ่อยไม่เป็นไรค่ะ ดีกว่าแห้งซีดเซียว การทำน้ำไม่ได้เสียเวลา แต่การเดินย่องและจ้องว่าใครตื่นบ้างนี่ใช้เวลานานกว่าที่คิดค่ะ เดินน้ำรอบลำใช้เวลาประมาณ 20 นาที เพราะต้องคอยย่องไม่ให้ผู้โดยสารตื่น คอยมองทางไม่ให้สะดุดขา แขน หรือ ศีรษะที่ท่านยื่นออกมา เพราะท่านก็เจ็บ หนูก็เจ็บถ้าชนกัน เสียอารมณ์นอนด้วยค่ะ เดินไปรอบลำ คนที่เดินไปต้นรอบก็กระหายอีกแล้ว ก็เดินกันใหม่ทุก 30-40 นาทีค่ะ อาจมีการประวิงเวลาให้นานกว่านี้ เนื่องจากผู้โดยสารส่วนใหญ่หลับ ท่านหัวหน้าจะเดินมาบอกว่า ไม่ต้องเดินถี่มากค่ะ หรือ ของที่จะเสริฟไม่พอ เช่น ให้น้ำแอปเปิ้ลมา 8 กล่อง น้ำส้ม 30 กล่อง แต่ไฟท์ยาว 9 ชั่วโมง เมื่ออาหารมื้อแรก น้ำแอบเปิ้ลใช้ไปแล้ว 7 กล่อง น้ำส้มใช้ไปแล้ว 15 กล่อง ถ้าจะเดินน้ำอีก เราก็ต้องประหยัดน้ำส้ม ประวิงเวลาเดินแต่ละรอบให้นานขึ้น หรือ รินให้น้อยลงค่ะ ภาวนาให้มีเสริฟไปจนมื้อที่สองก่อนเครื่องลงค่ะ ไม่นั่งเพราะเดินน้ำ จบไปหนึ่งเรื่อง เรื่องต่อไปที่ทำให้นั่งไม่ติดคือ เครื่องดื่มร้อนค่ะ เพราะว่าแต่ละท่าน มีความต้องการเครื่องดื่มหลากหลายต่างกัน บางท่าชอบเครื่องดื่มร้อน บางท่านชอบเครื่องดื่มเย็น ดิฉันทำให้ไม่มีเกี่ยงค่ะ แต่ท่านอาจต้องรอสักครู่เนื่องจาก อาจจะติดท่านอื่นอยู่ หนูขอทำตามคิว ก่อนหลังนะคะ ด้วยความที่ ครอบครัวดื่มเครื่องดื่มร้อน ของร้อนก็ต้องร้อน ดังนั้นของที่หนูเสริฟ หนูทำใหม่ ร้อนๆ ไม่มีเอาของเก่าไปเสริฟ บางทีท่านใส่นม ซึ่งแช่เย็นอยุ่ลงไปในถ้วย ทำให้ของร้อนกลางเป็นของเย็น อันนี้หนูขออภัย ที่ลืมอุ่นนมค่ะ จะขอแก้ตัวในโอกาสถัดไป เนื่องจากชงทีละแก้ว เพราะออเดอร์ของท่านมาทีละแก้ว เลยต้องใช้เวลานานสักหน่อยค่ะ ขออภัยมา ณ ที่นี้ ดินฉันไม่นิยมชงเป็นกาทิ้งไว้ เพราะว่ามันเย็นชืด ไม่อร่อยค่ะ เรื่องที่สาม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังมื้ออาหาร หนูขอไม่เสริฟแอลกอฮอลที่โต๊ะท่าน ท่านกรุณาเดินมาหาหนูในครัวเพื่อสั่งเครื่องดื่มมึนเมา ด้วยเหตุผล 1. เมื่อท่านนั่งอยู่ ท่านไม่ทราบว่าท่านดื่มไปมากเท่าไหร่แล้ว 2. เมื่อท่านลุกเดินมาหาเรา ท่านจะทราบว่า สติของท่านยังอยู่ครบหรือไม่ ถ้าท่านไม่สามารถลุกเดินมาหาเราที่ครัวได้ แสดงว่าท่านดื่มมากเกินไปแล้ว ดังนั้น หากเมื่อหนูทำน้ำถาดเตรียมเดินน้ำอยู่ และมีท่านขอรับชากาแฟ หรือเครื่องดื่มมึนเมา ท่านจะช่วยให้เวลาของหนูหมดไปเร็วขึ้น ซึ่งดีค่ะ งานยุ่งๆ เวลาถึงเวลานอนจะได้หลับได้เต็มที่ค่ะ เรื่องที่สี่ ทำความสะอาดห้องน้ำ ทำให้หมดเวลาพอสมควร ก่อนอื่น ขอความกรุณาท่านให้เข้าใจว่า วัฒนธรรมการใช้ห้องน้ำของแต่ละท่านไม่เหมือนกัน บางท่านใช้ห้องน้ำได้เรียบร้อย บางท่านก็ใช้ห้องน้ำไม่เรียบร้อย การทำความสะอาดห้องน้ำให้ดูน่าเข้าตลอดเวลา เป็นงานที่ต้องทำบ่อยๆ ไม่อย่างนั้นห้องน้ำจะเน่าค่ะ หนูใช้เดทตอลเช็ดฝารองนั่ง ที่เปิดประตู ก๊อกน้ำ อ่างล้างหน้า และแถมเช็ดพื้นด้วย ถ้าเกิดการอาบน้ำจนน้ำนองห้องน้ำเกิดขึ้น ถ้ามีทุ่นระเบิดในโถ หนูจัดการทำความสะอาดคราบด้วย ดังนั้น จึงใช้เวลานานมากสำหรับห้องน้ำแต่ละห้อง และขอย้ำว่า ห้องน้าไม่ได้ทำรอบเดียวค่ะ ทำทุกชั่วโมง เนื่องจากวัฒนธรรมการใช้ห้องน้ำของแต่ละท่านต่างกันค่ะ เรื่องที่ห้า เตรียมงานในมื้อถัดไป 1 เตรียมน้ำใส่รถให้เพียงพอ ที่หาไม่ได้ก็ไปอ้อนวอนขอจากครัวอื่น ที่มีพอก็ให้ครัวอื่นไปบ้าง 2 ย้ายอาหาร จากตู้ต่างๆมาไว้ที่เตา บนเครื่องเนื้อที่จำกัด อาหารถูกซ่อนตรงจุดที่ไม่คาดคิด ดังนั้น ใช้เวลายกเข้ายกออกโน่นนี่มากหน่อยค่ะ ส่วนมากงานเหล่านี้เป็นของผู้ชายค่ะ แต่ถ้าเราจะช่วยเขาเล็กๆน้อยๆ ช่วยยกบางอย่างที่เรายกได้ หรือส่งน้ำให้เขาสักแก้ว ก็รู้สึกถึงการช่วยเหลือกันค่ะ 3 ขนมปังและครัวซอง หนูไม่ชอบเสริฟครัวซองแบนแบน ถ้ามีเวลาว่างและสจ๊วตไม่ดุ หนูจะขอแทรกแซงเค้า เอาถาดอุ่นขนมปัง ออกมาเช็ดด้วยทิชชู่เช็ดน้ำ หลายๆรอบ และจัดการย้ายครัวซองมาอุ่นในถาด เอาพลาสติกปูรองกันสกปรก วางครัวซองทีละตัวไม่ให้อัดกันแบนเวลาอุ่น ทำอย่างปรานีตหน่อยใช้เวลาพอสมควร   4 เตรียมพวก set ชากาแฟของมื้อถัดไป คือเตรียมอย่างเดียวไม่ได้ ต้องหาที่เก็บให้เค้าด้วยค่ะ ไม่ยุ่ง ไม่ลำบาก แต่กลัวตอนจะใช้หาไม่เจอ เลยต้องพยายามจัดครัวซะใหม่ทำโน่นนี่ และในระหว่างที่ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเดินน้ำ เตรียมอาหาร เสริฟกาแฟ หากมีท่านผู้โดยสารเข้าแทรกแซง ต้องการสิ่งใด ก็วางมือไปก่อนค่ะ ผู้โดยสารมาถึงที่ หนูควรหาให้ท่านก่อนจะลงมือทำงานที่รอได้ทีหลังค่ะ ส่วนเรื่องเก็บกระเป๋าให้หรือไม่เก็บให้นั้น อันนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลค่ะ หนูไม่สามารถตอบแทนพนักงานทั้งหมดได้ หรือรับปากแทนพนักงานทั้งหมดได้ว่า ทุกคนจะช่วย คนแต่ละคนต่างกันยังไงคะ ความคิดต่างกัน ความเชื่อต่างกัน จึงไม่สารถบอกได้ว่า ทุกคนจะช่วยท่านผู้โดยสารยกกระเป่าได้หมด อย่างตัวหนูเอง ถ้ากระเป๋าไม่หนักมากเกินยก เราก็ช่วยกัน แต่ถ้ามันหนักมากเกินไปจริงๆ เราต้องช่วยกัน พร้อมเอี่ยวบุคคลที่สามเข้ามาด้วย เพราะกระเป๋าบางท่านใส่ของมีค่า บางทีถ้าเราช่วยกันเองแล้วเสียหายขึ้นมา หนูก็ซวยได้ อาจจะฟังเหมือนแก้ตัว แต่อยากให้ท่านช่วยเราด้วย เมื่อต้องยกกระเป๋า เพราะว่าถ้ามีของแตกหักได้ ท่านจะได้บอกเราได้ว่ายังไง ตรงไหนอย่างไร ถ้าผู้หญิงตัวเล็กขึ้นมา ส่วนมากก็ช่วยกันยกนะคะ แต่ถ้าเป็นผู้ชายที่มีกระเป๋าใบเล็กมา จะช่วยหาที่เก็บให้ค่ะ แต่ไม่ช่วยยก อาจจะช่วยพยุง หรือช่วยกันสองคน แต่ยกคนเดียว หนูขอให้ท่านช่วยจะดีกว่าค่ะ ส่วนเรื่องรับจ๊อบหิ้วกระเป๋า อันนี้ก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลเหมือนกันค่ะ ตอบไม่ได้ว่า มีคนทำ หรือมีคนไม่ทำ เพราะว่าแต่ละบุคคลต่างกันอย่างที่บอก ไม่มีใครเหมือนเรา และเราไม่เหมือนใครค่ะ คิดไม่เหมือนกันค่ะ แต่โดยส่วนตัวแล้วไม่ทำค่ะ ไม่อยากมีปัญหาตามมาภายหลัง เพราว่ารักอาชีพนี้ อยากอยู่ไปนานนาน ไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวค่ะ ส่วนตัวแล้ว มีกระเป๋าหลุยส์ซื้อมาใช้เองหนึ่งใบ เก็บตังค์ 6 เดือนในการซื้อ อาจจะฟังดูน่าหมั่นไส้ แต่ว่าที่เคยบอกท่านไปว่า แต่ละคนไม่เหมือนกัน การใช้เงินของแต่ละคนก็ต่างกันค่ะ ไม่พาดพิงใครค่ะ ให้เป็นข้อมูลเฉยๆ ค่ะ ขอบพระคุณคุณจริงๆที่รับฟังและอดทนอ่านค่ะ ยาวมากค่ะ สามารถติได้นะคะ หนูเชื่อเรื่องการติเพื่อก่อค่ะ ติและตักเตือนเพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้นค่ะ หนูเชื่อมั่นในความจริงใจของคุณจริงๆ ที่จะร่วมกันติเพื่อให้บริษัทที่หนูทำงานอยู่ดีขึ้นค่ะ ขอบพระคุณจากใจจริงค่ะ จากคุณ : มังกรธรณี เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 23:06:49

ความคิดเห็นที่ 66 คุณจริงๆคะ หนูลืมเรื่องสวัสดิการณ์ค่ะ สวัสดิการณ์ที่ได้รับ 1 ค่ารักษาพยาบาล เบิกได้ของตัวเอง ของบุตร(ไม่เกิน 3 คน) และของคู่สมรสค่ะ ค่ารักษาพยาบาลเบิกได้ 300 บาทแรก ค่าใช้จ่ายที่เหลือเบิกได้ร้อยละ 50 ไม่นับค่าบริการทางการแพทย์ ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ และยาบางตัวที่เบิกไม่ได้ ซึ่งไม่ทราบชื่อยาแน่นอนค่ะ เมื่อเราทำการเบิก เราต้องแนบรายละเอียดใบเสร็จที่แจกแจงค่าใช้จ่ายต่างๆไปด้วยค่ะ แล้วทางแผนกการเงินจะคำนวนมาให้อีกทีว่าเราได้เท่าไหร่กันแน่ค่ะ ส่วนมากจะได้ประมาณร้อยละ 50 ของที่เราจ่ายไปค่ะ ถ้านอนโรงพยาบาลได้ค่าห้อง 800 บาทต่อคืนไม่รวมค่าอาหารค่ะ 2 กรณีมีบุตร ได้เงินช่วยเหลือ เดือนละ 50 บาทค่ะ เหมือนราชการทั่วไป 3 ค่าเล่าเรียนบุตร ได้ตามที่กระทรวงกำหนดค่ะ แล้วแต่ระดับชั้น พอดีลูกอยู่ชั้นอนุบาล เบิกได้ปีละประมาณ 4000 บาทค่ะ ที่บอกจำนวนไม่ได้แน่นอน เพราะว่ายังไม่ได้เบิกค่ะ ลูกเพิ่งเรียนเทอมแรกค่ะ เลยไม่ทราบว่าเบิกได้จริงๆเป็นจำนวนเท่าไหร่ค่ะ ลูกเรียนโรงเรียนธรรมดาแถวๆบ้านไม่ได้มีชื่อเสียงมาก เพราะไม่อยากให้ลูกนั่งรถไกล ไม่ได้เป็นสองภาษา เพราะที่บ้านสอนภาษาอังกฤษเองค่ะ เลยไม่ได้ให้เรียนสองภาษา ค่าเล่าเรียนจึงไม่สูงมากค่ะ 4 ถ้าลาคลอดก็เหมือนปกติค่ะ ลาคลอดได้รับเงินเดือน 90 วัน สำหรับพนักงานต้อนรับ สามารถลาโดยไม่รับเงินเดือนเพิ่มได้อีก 150 วัน แล้วแต่ตัดสินใจ แต่ถ้ากลับมาไม่ได้ หุ่นไม่เข้าที่ก็ต้องเลื่อนออกไปและมีบทลงโทษค่ะ 5 ลาบวชได้ 3 เดือนค่ะ 6 พักร้อนได้ปีละ 12 วันค่ะ ถ้าอายุงานมากขึ้น จะเพิ่มวันขึ้นค่ะ ถ้าวันทำงานของพนักงานต้อนรับตรงกับวันหยุดเช่น วันมาฆบูชา จะไม่ได้รับค่าล่วงเวลาค่ะ จะได้รับเป็นวันหยุดพักร้อนเพิ่มหนึ่งวันแทน แต่ว่าพักร้อนไม่ค่อยได้ เพราะว่าบริษัทจะอ้างว่าคนไม่พอค่ะ ทำให้การลาพักร้อนยากมากค่ะ พูดกันตามตรง ขอให้ไม่นับความเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนะคะ บางที ปีหนึ่งเราอยากหยุดยาวสักครั้งเพื่ออยู่กับลูกกับครอบครัวบ้าง แต่ด้วยเรื่องกำลังคนที่ไม่พอ ทำให้บางครั้งไม่สามารถทำได้ค่ะ แต่ก็อาศัยว่า เรามีวันหยุดที่เป็นวันธรรมดา เราอยู่บ้านใช้เวลากับครอบครัวให้มากๆ ก็พอทดแทนกันได้ แต่ถ้าทำได้ก็อยากได้วันหยุดพักร้อนค่ะ พูดตามตรงไม่อายเลยค่ะ บางทีอยากหยุดพักร้อนบ่างค่ะ แต่ยากมากค่ะ 7 ตั๋วฟรี ปีหนึ่งมี 2 เที่ยวบิน ไป-กลับ โดยแบ่งเป็น ในประเทศ1 ต่างประเทศ 1 ตั๋ว 10 เปอร์เซ็นต์และ 25 เปอร์เซ็นต์ มีใช้ได้ไม่จำกัดค่ะ แต่ใช้ไม่ได้เพราะไม่มีวันหยุดติดกันมากพอให้ใช้ค่ะ พูดตามตรงหยุดแค่วันหรือสองวัน ขอตั๋วไปเที่ยวต่างจังหวัด แล้วต้องลุ้นว่าจะได้กลับมาทันทำงานหรือเปล่าเนี่ย ไม่อยากทำเลยค่ะ ดังนั้นอยู่บ้านหรือขับรถไปเที่ยวใกล้ๆ รู้สึกปลอดภัยใจไมม่เต้นมากกว่า ส่วนตั๋วลดราคา ลดจากราคาเต็มนะคะ ก็แพงอยู่ดี เคยทำตั๋วให้คุณแม่ไปเกาหลี 9800 บาท แม่ต้องไปเกาะเคาเตอร์ หลังจากนั้นเช็คราคาบริษัททัวร์ 12900 บาท เพิ่มอีกนิด คุณแม่ได้เป็นผู้โดยสารตัวจริง อยากบอกท่านแค่ว่า มันดูเหมือนจะถูก แต่ไม่ได้ถูกนะคะท่าน +++ขออธิบายว่า ตั๋วที่กล่าวมาข้างต้น เป็นตั๋วขอส่วนบุญค่ะ เนื่องจากท่านจะไม่ได้รับสิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ หากเครื่องเต็ม ท่านไม่สามารถใช้ตั๋วได้ ท่านไม่สามารถใช้สิทธิ์ใดใดจองตั๋งล่วงหน้าได้ (แต่ถ้าท่านเป็นผู้บริหาร ก็อาจจะมั้งคะ ) ที่เรียกตั๋วขอส่วนบุญ เพราะว่าต้องไปเกาะเคาเตอร์เช็คอินเอาค่ะ ถ้าว่างในนาทีสุดท้าย ทางพนักงานจะส่งสัญญาณให้เราวิ่งหน้้าตั้งไปที่เครื่องค่ะ ท่านจะไม่สามารถวางแผนใดใดในชีวิตได้เลย ถ้าใช่ตั๋วนี้ ท่านต้องพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทุกเมื่อ ส่วนตัวน่ะเหรอคะ สามีและลูกตกเครื่องมาแล้ว ให้ใจได้เต้นเป็นระยะ ว่าจะได้กลับถึงบ้านไหม เราก็ต้องวางแผนกันต่อไปค่ะ ลาพักร้อนต้องลาเผื่อว่าไม่ได้กลับจากปลายทาง หรือต้องหาแผนสำรองไปเรื่อยๆค่ะ ใจเต้นทุกทีที่ออกตั๋วค่ะ ตั๋ว 50 เปอร์เซ็นต์ อันนี้ต้องมีที่ว่าง ถึงจะออกตั๋วได้ค่ะ และออกล่วงกน้าไม่ได้ ออกได้แค่ 3 วันก่อนเครื่องออกค่ะ ดังนั้นถ้าลาพักร้อนไว้แล้วเครื่องไม่ว่าง ก็อดค่ะ ไม่ได้บอกว่าสวัสดิการณ์ไม่ดีค่ะ สวัสดิการณ์ที่ได้อยู่ดีมากค่ะ แต่อยากให้ท่านเห็นภาพว่า บางทีข้อมูลที่ท่านได้ไป อาจจะไม่ตรงหรือเข้าใจผิดพลาด จึงขอชี้แจงให้ชัดเจนค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ จากคุณ : มังกรธรณี เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 23:38:12

ความคิดเห็นที่ 67 ขอให้กำลังใจคุณ มังกลธรณี และพนักงานบริการที่ดีๆหลายๆคนของการบินไทยครับ ผมเป็นคนเกลียดการขึ้นเครื่องบินแต่ต้องบินบ่อยมาก เลยเข้าใจความเหนือยของพนักงาน บริการครับ ถ้าพนักงานการบินไทยเป็นอย่างนี้ทุกคน การบินไทยจะเป็น share of heart ของผมเลย ถึงแพงกว่้าก็จะบินเพราะผมคนไทย แต่บางอย่างก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนบ้าง สงสารผมเถอะ ตั้งแต่ซื้อหุ้นการบินไทยไม่เคยได้กำไรเลย จากคุณ : champ123 เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 00:47:17

ความคิดเห็นที่ 68 อ่อ เข้าใจคุณมังกลธรณีเหมือนกันนะคะ เพราะพนักงานแต่ละคนก็แตกต่างกัน เจอลูกค้าีดีๆก็สบายไป เจอลูกค้างี่เง่าเอาแต่ใจก็ลำบาก ทุกอาชีพเหนื่อยเหมือนกัน ไม่ว่าจะทำงานบริการด้านไหน ก็คงหนีเรื่องแบบนี้ไปไม่พ้น .. ประเด็นคงอยู่ที่ข้างบนถามน่ะค่ะ ว่่าสายการบินทำเกินกำหนดมาตราฐาน สากลหรือเปล่า ถ้ามันเกินไปจริงๆ รวมตัวกันแบบนี้ไม่แปลกค่ะ อาจจะมีปัญหา ที่การบริหารก็ได้ สรุป อ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบ ยังไม่รู้เลยว่าตกลง กบท ทำต่ำกว่ามาตราฐานหรือเปล่า หรือเป็นปกติที่สายการบินอื่นเค้าทำกัน งง จากคุณ : bOrEd เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 01:05:34

ความคิดเห็นที่ 69 อันนี้ขออนุญาตตอบคุณส้มฉุนค่ะ สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่ให้คำถามมาค่ะ จะพยายามตอบข้อที่ตอบได้นะคะ สัญญาค่ะว่าจะไม่มีการใส่อารมณ์ และไม่ก้าวร้าวค่ะ อยากชี้แจงที่เรียกบริษัท ว่า บริ ด้วยค่ะ อย่างแรก เพราะว่าไม่อยากให้ดูเป็นทางการเกินไปเหมือนมาแก้ตัวให้ทางบริษัท อย่างที่สอง เพราะว่าไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องสำคัญในประเด็น แต่ถ้าคุณส้มฉุนอยากให้เรียกว่าบริษัท ก็ได้ค่ะ ตามใจท่านค่ะ แต่ก็ไม่เห็นว่าเป็นประเด็นสำคัญค่ะ ถ้าทำให้ท่านสบายใจ หนูจะเรียกว่าบริษัทก็ได้ค่ะ การเรียก บริ สำคัญกับท่านขนาดนั้น หนูขอทำให้ท่านสบายใจค่ะ และด้วยเกียรตินิยม อันดับสองเอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยรัฐบาล หนูมั่นใจว่า ภาษาอังกฤษของหนูไม่แย่ และภาษาไทยซึ่งเป็นภาษาคุณพ่อคุณไม่ ก็ไม่ได้แย่เช่นเดียวกันค่ะ แต่บางอย่างไม่ขอเอ่ยเต็ม เพราะว่าหนูไม่ทราบข้อกฎหมายที่แน่นอน หนูกลัวโดนฟ้อง ขอให้ท่านสูดหายใจลึกๆนะคะ หนูสัญญาว่าเราจะไม่โกรธกันเมื่อตอบไป เพราะว่าถือเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลนะคะ เพราะว่า มองไม่เห็นประโยชน์ที่จะมาโกรธกันเอง คนที่ควรโดนโกรธ สมควรเป็นผู้บริหาร ที่ทำให้คนภายในองค์กรรู้สึกแย่ และทำให้คนภายนอกดูถูกคนในองค์กรของตัวเอง ผู้นำที่ชอบให้คนอื่นดูถูกลูกน้องแบบนี้ หนูไม่อยากมีค่ะ 1. คนที่สบายคือผู้บริหารค่ะ ไม่เห็นว่าเขาจะไม่สบายตรงไหน มาทำงานก็ต้องมีผู้ติดตาม แถมบริษัทยังต้องจ่ายค่าสวัสดิการณ์ให้แก่ผู้ติดตามจำนวน 3 ท่าน รวมทั้งค่าประชุม ค่าล่วงเวลา ค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าเสียเวลา ค่าโน่นนี่ และที่เจ็บใจที่สุดคือ ตั๋วปีละ 15 ใบ ตลอดชีพและเป็นตั๋วระบุและยืนยันที่นั่งในระดับสูงสุดของเครื่องบิน ถ้ามีชั่นหนึ่งท่านได้ชั้นหนึ่ง ถ้ามีชั้นธุรกิจ ท่านได้ชั้นธุรกิจ แม้ว่าท่านจะหมดวาระไปแล้วก็ตามท่านก็ยังได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ แถมผู้ติดตามท่านก็ยังได้ในสิ่งเดียวกัน หนูว่าไม่ยุติธรรม ท่านเป็นผู้บริหาร ทำงานเองไม่ได้ ต้องใช้ผู้ช่วยอีกสามคน ช่วยกันสูบเงินบริษัทหนู คิดยังไง ก็ว่าไม่ยุติธรรม ส่วนเรื่องเงินเดือนของท่าน ที่มากมายล้นเหลือ ถ้าท่านทำให้บริษัทพัฒนาได้จริง หนูไม่ว่า เพราะว่าเชื่อว่าผู้บริหารเก่งๆที่บริษัทเอกชนอื่นๆ เค้าก็ได้เงินเดือนสูงลิบลิ่ว สมค่าตัวค่างาน แต่ถ้าท่านทำไม่ได้ ต้องหนีบผู้ช่วยมารับเงินบริษัท อยากให้ท่านพิจารณาตัวเอง และก่อนจะลดเงินเดือนพนักงานระดับลากหญ้า ท่านช่วยลดเงินของท่านก่อน เงินเดือนท่านคนเดียวครึ่งเดือน มั่นใจว่าสามารถจ่ายเงินเดือนพนักงานระดับรากหญ้าได้หลายท่าน 2 ถ้าไม่เรียกลูกเรือมาเพิ่ม ลูกเรือครบประตูเครื่องค่ะ ตามปกติแล้ว มีการกำหนดการใช้ลูกเรือขั้นต่ำในแต่ละเครื่องค่ะ เพื่อให้ปลอดภัยในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน มีการกำหนดจำนวนลูกเรือขั้นต่ำขึ้น โดยดุจากประตูและจำนวนผู้โดยสารค่ะ หากต้องอพยพผู้โดยสาร พนักงานแต่ละประตูมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยต่างกัน อุปกรณ์ประจำแต่ละประตูต่างกัน คนที่รับผิดชอบประตู รับผิดชอบอุปกรณ์ต่างๆเมื่อเกิดภาวะฉุกเฉิน และหากต้องอพยพผู้โดยสาร ต้องทำโดยเร็วภายใน 90 วินาที ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พิสูจน์แล้วว่า จะสามารถช่วยชีวิตคนได้รอดได้มากที่สุด ขอไม่ระบุว่าเครื่องไหน ลูกเรือเท่าไหร่ เพราะว่าเป็นข้อมูลที่ไม่กล้าเปิดเผย เนื่องจากเป็นอันตราย ในกรณีมีผู้ก่อการร้ายแอบอ่าน แต่ขอให้ท่านรับทราบว่า ลูกเรือขั้นต่ำ ระบุเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน ไม่ได้ระบุเพื่อให้รับมือกับการเสริฟ ซึ่งการเสริฟในแบบของเรา เค้าคำนวนและคิดการเสริฟจากลูกเรือเต็มทุกที่นั่งตรงประตู ไม่ได้คิดตามลูกเรือขั้นตำค่ะ แต่หากท่านผู้บริหารต้องลดจำนวนลูกเรือลง ท่านต้องตัดการบริการให้ด้วยนะคะ เพราะว่าการที่ท่านอยากให้ทำการบริการที่เต็มรูปแบบ เท่ากับที่มีพนักงานเต็มจำนวน มันเป็นกรณีที่ค่อนข้างยาก เนื่องด้วยเรื่องอุปกรณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยด้วย เก่าบ้าง เสียบ้าง แจ้งซ่่อมไม่ซ่อม เตาร้อนบ้างไม่ร้อนบ้าง อาหารอุ่นไม่ได้ต้องคอยสลับเตาไปมา รถอาหารเสียตลอด เบรคไม่ได้ ประตูไม่ล๊อค หม้อกาแฟฟังเจ๊ง เหลือหม้อเดียว ฯลฯ ทำให้ผู้โดยสารต้องรอนานเกินกว่าที่ควร และอีกปัจจัยสำคัญคือ ผู้โดยสารค่ะ อยากให้ท่านผู้บริหารเข้าใจว่าผู้โดยสารของเรา ไม่ต้องการรอ เนื่องจากสภาพการเดินทางอันยาวนาน และที่นั่งไม่สบายเท่าที่อยากให้เป็น ความอดทนของผู้โดยสารจึงมีจำกัดมากกว่าอยู่ในสภาวะปกติ อยากให้ท่านผู้บริหารเข้าใจในจุดนี้ก่อนจะคิดนโยบายออกมา อย่างน้อย ท่านควรลงมาทำด้วยกันเหมือนที่ผู้บริหารสายการบินอื่นเค้าทำกัน ท่านจะได้เห็นข้อเท็จจริง ขอโทษคุณส้มฉุนด้วย ที่พาดพิงไปถึงผู้บริหารมากหน่อย เผื่อว่าเค้ามาอ่าน เค้าจะได้พิจารณาความเป็นจริง เพราะว่าหนูเขียนรายงานส่งไปก็เงียบ ไม่มีการตอบรับใดใด เลยคิดว่าท่านคงไมม่ได้อ่าน บางทีท่านผ่านมาอ่านทางนี้จะได้ทราบบ้าง ขอบพระคุณคุณส้มฉุนที่กรุณาให้ใช้พื้นที่ค่ะ 3. รูทยุโรปมีทั้งออกเช้าและออกกลางคืนค่ะ เพราะว่าบริษัททำธุรกิจขนส่งผู้โดยสารและสินค้า ปลายทางหลายประเทศมีออกหลายเที่ยวบินในหนึ่งวันค่ะ ส่วนเรื่องยืนคุยก็มีค่ะ มือก็ทำงานไป ปากก็คุยไป ผู้โดยสารมาคุยบ้าง ยืนคุยข้อมูลกันนานๆบ้าง ท่านโปรดเข้าใจว่า การนอนหลับของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ขณะที่ 75 เปอร์เซ็นต์หลับ อาจจะมี 25 เปอร์เซ็นต์ที่เดินมาคุยเล่น เดินมาขอเครื่องดื่มร้อนเย็น เดินมายืดเส้นยืดสาย โดยที่เราคอยอำนวยความสะดวกค่ะ ผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่หลับ จะไม่ทราบว่าพนักงานทำอะไรกันบ้างค่ะ แต่ถ้าท่านตื่นมาคุยกับเรา หรือมายืนดูเราทำงาน ท่านจะเห็นว่ามีสิ่งต้องทำหลายอย่าง แต่ต้องบอกคุณส้มฉุนก่อนนะคะ คนมีหลายแบบ พนักงานมีหลายประเภท มีทั้งคนที่ทำจริง และไม่ทำจริง คนที่คุย และคนที่ทำงาน มันเป็นนิสัยส่วนตัวของคนที่แก้ไม่ได้ แม้แต่คนที่ทำงานในออฟฟิคก็ยังมีหลากหลายลักษณะ หนูพูดแทนพนักงานต้อนรับได้ไม่เต็มปาก เพราะว่าไม่กล้ารับประกันนิสัยและลักษณะการทำงานของแต่ละคน อันนี้ คุณส้มฉุนต้องพิจารณาเองค่ะ และพนักงานไม่ได้บินแต่รูทยุโรปค่ะ เราทำงานสับเปลี่ยนกันไปเรื่อย ทำให้การวางแผนการนอนและการปรับเวลาในแต่ละวัน แต่ละช่วงไม่เท่ากันค่ะ ดังนั้นจึงลำบากถ้าให้เวลาเรานอนไม่พอ 4. คุณส้มฉุนอย่าลืมนะคะว่า ขณะที่ผู้โดยสารนอนกันอยู่ พนักงานไม่ได้หลับ คุณจะเปรียบเทียบการนอนหลับระหว่างคนที่ได้นอน 6 ชั่วโมงและนั่งเฉยๆจนเมื่อย กับคนที่ได้นอน 2 ชั่วโมงแต่ลุกเดินทำงานตลอดเวลาจนเมื่อยเหมือนกันไม่ได้นะคะ อันนี้หนูว่าเปรียบเทียบแบบไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ค่ะ เราใช้เวลา 9 ชั่วโมงเดินทางเท่ากันจริง แต่ระหว่างคนที่ได้นอน กับคนที่อดนอน มันต่างกันมากค่ะ ขออย่างเดียว ผู้บริหารที่ว่าเราทำงานได้เป็นควาย เชิญท่านนั่งไปด้วยกัน ไม่ต้องลุกมาเสริฟก็ได้ แต่กรุณาอย่าหลับ อยากเห็นว่าท่านจะมีชีวิตอยู่ได้ไหม 5 ขอบพระคุณที่ให้กำลังใจค่ะ คำชมของผู้โดยสารมีค่ามาก มีครั้งหนึ่งตอนยืนสวัสดีส่งผู้โดยสารที่เดินทางมาด้วยกัน มีท่านหนึ่งพูดว่า "ขอบคุณมากนะน้อง" ท่านที่เดินตามมาพูดกับหนูว่า "Thank you very much for taking good care of me" น้ำตาไหลเลยค่ะ คนส่วนมาก แค่สวัสดี หรือเดินเฉยๆผ่านไป ไม่มองหน้า ไม่สบตา แต่สองท่านนี้ เค้าคุยกับเรา เห็นว่าเรากำลังทำอะไร สิ่งเหล่านี้มีค่ามาก ถ้าคุณกรุณา 6 เรื่องอาหารการกิน เหมือนที่เค้าว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้องอย่างไรล่ะคะ จริงๆแล้ว ตามกฏของบริษัท เราห้ามเอาของมากินเองบนเครื่อง เพื่อป้องกันการเกิดโรคต่างๆเช่นท้องเสีย และเราไม่ได้รับอนุญาตให้นำพืช ผัก ผลไม้ ของกินที่เข้าปากได้เข้าประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะออสเตรเลียซึ่งเข้มงวดมากค่ะ ถ้าเป็นไฟท์ดึกที่เครื่องลงสองทุ่มเวลาท้องถิ่นที่ออสเตรเลีย ถึงโรงแรมกว่าจะได้ห้อง ซึ่งไม่ทราบว่าทางโรงแรมจะลีลาไปใย ในเมื่อเราก็จองล่วงหน้าเป็นรายปี และยังไงก็ต้องมีคนมาอยู่แล้ว ทำไมไม่จัดห้องให้ก็ไม่ทราบ ต้องรอมาเห็นหน้ากันก่อน จึงนึกได้ว่า ต้องจัดห้องให้ กว่าจะได้ออกไปหาของรัปประทานก็ดึกมากแล้ว หนูไม่ใช่ผู้หญิงสวย แต่ก็เข้าใจได้ดีว่า การไปเดินในที่ต่างบ้านต่างเมืองในช่วงเวลาดึกดื่นนั้นก่อให้เกิดอันตรายได้ ขนาดไปต่างจังหวัดยังพยายามหลีกเลี่ยงการเดินตอนกลางคืนเลยค่ะ คุณส้มฉุน อาจจะไม่กลัว แต่หนูกลัว ถ้าเดินไป มีโจรเดินผ่านมา แล้วนึกว่าเราเป็นคนมีเงิน แล้วปล้นตีหัวเราสลบเเหมือด ใครจะมาช่วย หากเดินไปเป็นกลุ่ม ก็โอเค แต่ถ้าโจรเค้าก็มาเป็นกลุ่มด้วยล่ะคะ ตัวใครตัวมันเหรอคะ แล้วถ้าต้องเข้าโรงพยาบาลที่โน่นเพราะโดนทำร้ายร่างกาย ท่านจะทำอย่างไร คุยกับหมอได้ไม่มีปัญหาถ้าเป็นประเทศที่พูดอังกฤษ แล้วถ้าเป็นรัสเซีย อิตาลี่ละคะ หมอจะเข้าใจหนูไหม แล้วถ้าต้องนอน ต้องการกำลังใจจากคนทางบ้าน ขอยอมรับว่าไม่ได้เข้มแข็งมากนัก หากเจ็บป่วยก็อยากอ้อนคุณพ่อคุณแม่ อยากอ้อนสามี อยากเห็นหน้าลูก การที่ต้องนอนเปล่าเปลี่ยวในต่างประเทศคนเดียวนี่มันเหงานะคะ แล้วถ้าโจรมันตีแรงไปหน่อย ตายไปเลยล่ะคะ ไม่คุ้มเลย หนูเลือกที่จะไม่กินก็ได้ค่ะ น้ำก็มี หรือรูมเซอร์วิส แต่ถ้าเป็นแบบนี้ทุกโรงแรมที่ไปนอน ก็ไม่ไหวนะคะ มาตราฐานการเลือกโรงแรมหายไปไหน อย่างที่เคยกล่าวว่าไม่ต้องการโรงแรมหรูสี่ห้าดาว ขอแค่อยู่ในย่านที่หาของรับประทานได้ ปลอดภัย ประตูหน้าต่างลอคได้ ไม่โดนแงะอย่างง่ายดาย แค่นี้ผู้บริหารทำไม่ได้เลยเหรอคะ โรงแรมสามดาวสี่ดาวเยอะแยะที่อยู่ในจุดที่ปลอดภัย และไม่แพง แค่ให้ท่านผู้บริหารคิดว่า คนที่มาพักที่นี่ เป็นลูกสาว เป็นน้องสาว เป็นพี่สาวของท่าน ท่านยังอยากให้อยู่โรงแรมเช่นนี้ไหม 7 เรื่องความปลอดภัยของโรงแรม บางโรงแรมที่เข้าดึกก็น่ากลัว เพราะว่าเปลี่ยว และไม่ได้ให้เราเข้าหน้าโรงแรม ให้เข้าหลังโรงแรมที่ติดป้ายว่า servants only นั่นก็โอเค ไม่เท่าไหร่ ถ้าทางเข้ามันใหญ่ ปลอดภัย แต่บังเอิญจริงๆเลยที่ทางเข้าเหล่านี้จะต้องอยู่ในซอกมุมเปลี่ยว หากท่านเป็นคนเดินทางเอง ท่านจะรู้สึกสบายใจกับทางเข้าโรงแรมที่เก่าและเปล่าเปลี่ยนเช่นนี้หรือคะ หนูคนหนึ่งที่ไม่สบายใจ แต่เพราะว่ามีคนเยอะ เลยแอบอุ่นใจแต่ก็ยังระแวงอยู่ เพราะว่าลูกเรือมาลงจุดนี้ทุกวัน ถ้ามีโจรกลุ่มใหญ่มาดักทำร้าย เราก็แย่แล้วค่ะ เมื่อถึงห้องพัก ใหม่เก่า สวย ใหญ่ ไม่สำคัญ มันสำคัญที่ว่า ประตูห้องดับเบิ้ลล็อคได้หรือไม่ เข้าไปแล้วดับเบิ้ลล็อคไม้ได้ต้องเอาเก้าอี้มียันประตู หน้าต่างดันมีรอยงัด เปิดได้อีก ห้องก็เชื่อมกับใครไม่ทราบ บางครั้งโรงแรมไม่ได้จัดให้เราอยู่ด้วยกันนะคะ แบบว่า กระโดดไปมา ตามชั้นและห้องที่ว่าง ห้องเชื่อมใครไม่ทราบ เราจะทราบได้อย่างไรว่า คนที่อยู่ห้องเชื่อมเค้าไม่คิดทำร้ายเราจริง  อันนี้เป็นเรื่องของดวง สวดมนต์ทุกวัน หมั่นทำบุญ จะได้โชคดี ขอให้คุณส้มฉุนทำใจกลางๆเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากมันไม่ใช่ความผิดของใครเลย อาจจะเป็นเพราะความละเลย หรือเลินเล่อของคณะกรรมการเลือกหรือจัดหาโรงแรม อาจจะเป็นเพราะใต้โต๊ะที่อื่นน้อยไปสู้ที่นั่นไม่ได้ ก็หนูบอกท่านแล้วว่า แล้วแต่ผู้บริหาร แค่ขอให้ท่านคิดว่า ถ้าเป็นลูกสาว เป็นคนรัก เป็นพี่สาวน้องสาว ท่านจะให้มานอนที่นี่หรือไม่ การนอนรวมห้องกันต้องคิดมากค่ะ คนเราไม่เหมือนกัน ลูกเรือ 6000 คนในปัจจุบัน ร้อยพ่อพันแม่ จังหวะชีวิตต่างกันมาก ถ้าคนนึงจะนอน อีกคนนึงจะดูทีวี ได้ทะเลาะกันห้องแตก อนึ่ง ค่าโรงแรมที่เราจ่าย ต่ำกว่าค่าโรงแรมเรทท่องเที่ยวมาก เพราะว่าเราจองเป็นรายปี ยกตัวอย่างโรงแรมที่ภูเก็ต 4800 บาท แต่บริษัทจองทำสัญญาเป็นรายปี ได้ห้องละ 1000 บาท ถือว่าราคาไม่สูงเกินไปนัก หากต้องนอนเวียนรวมกันสี่พันคน คงแย่แน่ค่ะ ต่างคนต่างวัฒนธรรม ต่างจังหวะชีวิต อยากให้คุณส้มฉุนช่วงเป็นกลางๆทีค่ะ เรื่องนี้ขอ หรืออาจจะดี เพราะผลัดกันนอน คนนึงถือไม้ยืนเฝ้าคนที่จะปีนหน้าต่างหรือเปิดประตู อีกคนนอน ผลัดกัน แต่ว่า ขอเถอะค่ะ อย่าให้รัยทดจนถึงขั้นนั้นเลยค่ะ 8 หนูว่าบริษัทไม่เคยอุ้มพวกหนูเลย มีแต่ถีบลงเหว ที่อุ้ม น่าจะเป็นคนในออฟฟิค นั่งสบาย ไม่มีงานทำ มาตอกบัตรแล้วไปshopping กินข้าว จอดรถ ออกก่อนเวลาพักกลางวัน ไปเดินห้าง กินข้าว แล้วกลับมาเลท ออกจากงานก่อนเวลา ไปติดต่อตอนสี่โมงเย็น ไม่เห็นอยู่สักคน ทั้งๆที่งานเลิกห้าโมง หรือขับรถออกมารอรูทบัตรตั้งแต่สี่โมงครึ่ง พอห้าโมง รูดปุ๊ป ออกปั๊ป แต่ลูกเรือ ห้ามสาย ห้ามขาด ห้ามตาย สักวินาทีเดียวก็ต้องเข้าพบหัวหน้า แต่คนออฟฟิค สบายใจ มาสายเขียนใบลงเวลางานลืมรูดบัตร ยุติธรรมตรงไหนคะ อุ้มหนูตรงไหนคะ ถีบอยู่เห็นๆ จัดซื้ออะไรก็ไม่รู้ แพงแพง แต่ใช้จริงไม่ได้ หรือใช้ได้ แต่แพงเกินทั้งๆที่ซื้อเยอะๆ การแจกสปอนเซอร์มากมายอลังการณ์ ทั้งๆที่บริษัทอยู่ในภาวะวิกฤิต ยังแจกโน่นนี่ให้คนอื่นตลอด แจกได้ แต่ไม่ต้องแจกเยอะขนาดนี้ก็ได้ไหมคะ จะตั้งสายการบินใหม่ ท่านผู้บริหารเอาเงินมาทำให้สิ่งที่มีอยู่แล้ว ดีขึ้นไปก่อนดีไหมคะ เหมือนคนที่สร้างบ้านไปเรื่อยๆ เก่าก็ต่อเติมต่อเติม แต่ไม่ซ่อมแซมของเดิมให้ใช้ได้ดี ของบางอย่างไม่ต้องซื้อก็ได้ไหมคะ ของบางอย่างไม่ต้องเปลี่ยนแบบใหม่ ใช้ของเก่าไม่ต้องเสียค่าออกแบบใหม่ ค่าจัดทำใหม่ได้ไหมคะ ของที่ควรจะมีอย่างของเล่นเด็ก ของแจกผู้โดยสาร กรุณาจัดมาให้เพียงพอได้ไหมคะ ผู้โดยสารเสียเงินแพงไม่ได้สามร้อยห้าร้อย ถึงได้ตัดของที่ผู้โดยสารควรจะได้ค่ะ คนทำงานก็ลำบากใจ ผู้โดยสารก็เหนื่อยใจมาก เพราะว่าตั๋วแพงมาก ควรมีของหม้เค้านะคะ ของเล่นเด็ก ของของดีดี แบบเป็นหน้าเป็นตา ไม่ใช่อะไรไม่ทราบ แจกแล้วขายหน้า ผู้โดดยสารอยากปกคืนกลับมา คนเลือกกรุณาพิจารณาด้วยค่ะ 9. ออกให้ก่อนได้ค่ะ เพราะออกพร้อมกับอาหารพิเศษเลยค่ะ เครื่องแต่ละลำมีจังหวะการเสริฟต่างกันไปนะคะ บางเครื่องเริ่มด้านหน้า บางเครื่องเริ่มตรงกลาง บางเครื่องเริ่มจากครัวมาชนกันตรงกลาง ที่หนูทำ คือ เมื่อเริ่มเสริฟ เดินไปถามผู้โดดยสารไทยเลยค่ะว่าจะรับอะไร เพราะให้เลือกก่อน และจะเสริฟพร้อมท่านที่รับอาหารพิเศษไปเลย หรือถ้าท่านนั่งใกล้แถวแรก หนูก็เลยไปหาท่านก่อน แล้วย้อนมาหาท่านอื่นภายหลัง ก็ทำได้ไม่ผิดอะไรนี่คะ ทำได้ค่ะ เพราว่าทำมาตลอด ยกเว้นผู้โดยสารไทยมีจำนวนมากกว่า 50 ท่าน ก็จะเสริฟตามปกติค่ะ แต่จะพยายามเก็บตัวเลือกอาหารที่ทางชั้นธุรกิจเอามาแลก เพราะบางครั้งท่านก็อยากทานอาหารที่เสริฟในชั้นนักท่องเที่ยวเลยมาขอแลกไปค่ะ เราก็จะมีอาหารที่เป็นรายการที่นอกเหนือจากอาหารปกติเพิ่ม เป็นเรื่องที่ดีค่ะ เพราะอาหารบางอย่าง คนไทยทานไม่ได้ เช่น มัสมั่นแกะ บางท่านไม่ทนเนื้อแกะ ก็รับไว้ไม่ได้ ส่วนอีกรายการก็เป็นแกงเนื้อ ซึ่งท่านที่ไม่ทานเนื้อมักจะไม่ทานแกะด้วย ถ้ามีรายการมาแบบนี้หนูก็งงกับคนคิดรายการอาหารที่นั่งเทียนคิดกันในออฟฟิคเหมือนกันค่ะ คนพวกนี้ก็ไม่น่าโดนอุ้ม เขียนรายงานไปเป็นร้อยก็ไม่เปลี่ยนเชื่อว่าตัวเองคิดถูกแล้ว ทำถูกแล้ว หรือมีคนได้ใต้โต๊ะมาเยอะแล้ว เลยเปลี่ยนเมนูให้โดนใจผู้โดยสารไม่ได้ เพราะว่าจะขาดสภาพคล่องในกระเป๋าตัวเอง อันนี้ไม่ทราบ อาหารเช้า ไข่กวนกับไส้กรอกเนื้อลูกวัว และ ไข่ออมเล็ตกับไส้กรอกเนื้อลูกวัว คือว่าผู้โดยสารเลือกได้ตรงไหนเหรอคะ ถ้าไม่ทานเนื้อ และไม่ทานไข่ล่ะ แกงปลา.. กับแกงไก่ แต่ให้จำนวนแกงปลามามากกว่า ผู้โดยสารเค้าไม่ทานปลาทับทิม ปลาทับทิมนึ่งราดน้ำแกงมันคาว ผู้โดยสารไทยก็ไม่อยากทาน ชาวต่างชาติก็ไม่อยากทาน เขียนรายงานเท่าไหร่ก็ไม่เปลี่ยนเมนู ไฟท์ไปกวางเจา ผู้โดยสารส่วนมากเป็นแขกมุสลิมที่ไปซื้อของทำการค้า ก็โหลดเนื้อหมูมาอยู่นั้นแหละ เขียนรายงานไปร้อยกว่าฉบับก็ไม่เปลี่ยน ไฟท์ไปสิงคโปร โหลดเนื้อมา 60 เปอร์เซ็นต์ คนสิงคโปรเค้าไม่นิยมเนื้อนะคะ เปลี่ยนเป็นเนื้ออย่างอื่นแทนได้ไหม ไก่ กุ้ง หมู รายงานไปเท่าไหร่ก็ไม่เปลี่ยน รบกวนผู้โดยสารทุกท่าน ช่วยเขียนเรื่องที่ไม่ชอบลงในแบบฟอร์มที่ขอรับได้จากพนักงานต้อนรับ เพราะว่าบริษัทมักจะพูดวา คุณเป็นแค่พนักงาน คุณจะไปทราบอะไร ในเมื่อท่านผู้โดยสารไม่พอใจ ท่านกรุณาเขียนร้องเรียนให้ชัดเจน เผื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น บริษัทไม่ได้เป็นของหนู ไม่ได้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของพวกเราทุกคน เมื่อตอนเข้างานครั้งแรก รุ่นพี่กล่าวว่า เราเป็นตัวแทนของคนไทยทั้งชาติ เวลาเราไปอยู่ที่ไหน คนเค้าจะมองว่า นี่คือคนไทย และจำภาพนั้นไว้ในหัว ดังนั้นต้องทำตัวให้ดีให้สมกับที่เป็นตัวแทนคนไทย นี่คือสิ่งที่จดจำเสมอมา ตอนนี้มีคนไทยหลายท่านเป็นห่วงเป็นใยบรอษัท ไถ่ถาม จริงๆแล้ว อยากให้บริษัทให้ข้อมูลที่เท็จจริง ไม่ใช่เสริมแต่งเหมือนที่ออกในข่าว เพราะหนูรู้ว่า ยังไง คนไทยด้วยกัน ก็ต้องอยากให้คนไทยด้วยกันทำงานได้ดี โปร่งใส ไม่มีใครว่าเราได้ เวลาไปเมืองนอกเมืองนา ก็ไม่มีใครเอาเปรียบเราหรือดูถูกเราได้เช่นกัน ขอบพระคุณ คุณส้มฉุนที่รับฟังและเปิดโอกาสให้มีการอธิบายโดยไร้อคติ หนูเชื่อว่าท่านจะต้องช่วยติเพื่อก่อ ให้ผู้บริหารของบริษัทที่หนูทำงาน ทำงานอย่างเต็มที่ จริงจัง มีธรรมาภิบาล เห็นอกเห็นใจและไม่ดูถูกคนในองกรณ์เดียวกัน เรื่องโกงกิน ใต้โต๊ะ คงยับยั้งไม่ได้ ถ้าได้บริษัทคงรวยไปนานแล้ว ไม่เป็นอย่างเช่นทุกวันนี้ อนึ่ง หนูเข้าทำงานตอนบริษัทมีปัญหาพอดี ไม่เคยเดินซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมเป็นว่าเล่น มีอยู่ใบหนึ่งก็เก็บหอมรอมริด เหมือนที่คนอื่นอาชีพอื่นๆเค้าอดออมเพื่อจะซื้อของที่อยากได้กัน ไม่เคยับหิ้วของมาขาย เพราะรู้สึกได้ไม่คุ้มเสีย ถ้ามีอีกอาชีพ อยากมีอาชีพที่ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอาชีพนี้ เป็นล่าม แปลหนังสือ เขียนหนังสือ เปิดร้านอาหาร หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ต้องพึ่งพิงกัน เพื่อเวลามีอะไรพังไปที่หนึ่ง อีกที่หนึ่งก็ควรจะต้องอย่ได้ แต่ไม่สามารถรับปากท่านได้ว่าคนอื่น ท่านอื่น ทำ หรือไม่ทำ พนักงานแต่ละท่านมีวิถีการดำเนินชีวิตต่างกัน ความคิด ความเชื่อต่างกัน ไม่สามารถบอกได้ว่า ทุกคนคิดเหมือนหนู และไม่สามารถบอกได้ว่า หนูดีหรือไม่ดี เพราะเชื่อว่าหนูก็มีจุดที่ไม่ดีเหมือนกัน เหมือนคนทั่วไป อย่างไรก็ขอขอบคุณคุณส้มฉุนมากนะคะ ปกติจะอ่านอย่างเดียว ไม่ค่อยตอบคำถามค่ะ ครั้งนี้ตอบ แล้วก็ต้องตอบอีกจนได้ ไม่มีข้อจบสิ้น หนูขอจบการตอบคำถามของคุณส้มฉุนเท่านี้ค่ะ ส่วนเรื่องที่อยากถามเพิ่มเติม กรุณาสอบถามท่านอื่น หรือหลังไมค์มาเลยค่ะ ปกติไม่ได้เข้ามาอ่านทุกวัน ถ้าเข้าจะอยู่ในห้องจตุจักรมากกว่า เพราะว่าชอบปลูกต้นไม้ ทำสวนค่ะ ขอบพระคุณที่เข้าใจค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 02:09:42 จากคุณ : มังกรธรณี เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 01:45:22

ความคิดเห็นที่ 70 มีหลายข้อที่อยากตอบค่ะ แต่เยอะเหลือเกิน 1. มังกรธรณีเสียภาษีเองทุกบาททุกสตางค์ อยากทราบเหมือนกันว่าข่าวลือเรื่องภาษีนี่มาจากไหน มีมานานมากๆๆๆ จนอยากให้เป็นเรื่องจริงเลยค่ะ เสียภาษีเอง แยกยื่นกะสามีค่ะ 2 รายได้หกหลักนี่คิดว่าของผู้บริหารหรือเปล่าคะ รายได้ทั้งปีอยู่ที่หกแสนบาทเองค่ะ เปิดเผยแบบไม่อายค่ะ ถ้าเป็นเอกชนแล้วไม่โกงอาจจะดีกว่าก็ได้ค่ะ หรือไม่ก็โกงกระหน่ำไปเลย มีให้เลือกสองแบบ 3. เรื่องกฎการบิน สำหรับคนที่ประท้วง เค้าก็ทราบมาหมดแล้วค่ะ แต่ขอให้ทุกท่านไปสอบถามเอง หนูตอบมากไปแล้ว อาจถูกฆ่าปิดปาก....เรื่องจริง ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เอาเป็นว่า เราทำผิดกฎไปหลายข้อแล้วละกันค่ะ ตั้งแต่เรื่องยอมให้สำภาระขึ้นเครื่องที่ผู้โดยสารถือขึ้นมาใหญ่เกิน น้ำหนักเกิน แล้วมันวางอยู่บนที่เก็บของเหนือศีรษะของท่านผู้โดยสาร ถ้ามันฉุกเฉิน เครื่องเสียแตกหัก และหล่นลงมาบนศีรษะของท่าน เราก็ต้องขอแสดงความเสียใจ หนูเคยกระเป๋าผู้โดยสารหล่นใส่คอมาแล้ว เพราะเข้าไปช่วยแล้วท่านปล่อย ประกอบกับของมีน้ำหนักมาก กระดูกคอและหลังบาดเจ็บกันไป ผู้โดยสารก็เดินลงเครื่องไป ไม่ถามสักคำว่าเป็นอะไรหรือเปล่า T_T เรื่องเปิดโทรศัพท์กันตอนมีสัญญาณแจ้งรัดเข็มขัด ประกาศก็ประกาศแล้ว แต่ท่านก็ยังกดโทรออกหน้าตาเฉย แบบนี้เรียกผิดกฎด้วยหรือเปล่าคะ เรื่องที่ไฟท์ชั่วโมงนอนไม่พอ ใส่ลงไปในระบบแล้วระบบไม่รับ เด้งออกมา ทางบริษัทก็สามารถแก้โดยการไม่ใส่ระบบ เพื่อให้ลูกเรือไปทำงานได้ก็มีเกิดมาหลายครั้ง จะบอกว่าทำการโดยไม่ผิดกฏ ขอบอกว่า ที่ผิดน่ะ มันก็มี... แต่ผู้บริหารไม่สนใจ จะเอาแต่เงิน 4 สงสัยเหมือนกัน เคยถามเพื่อนๆที่อยู่แผนกอื่นหลายท่านแล้ว ว่าเต็มขนาดนี้ ของก็ขนเต็ม ผู้โดยสารก็เต็ม แล้วทำไมมันขาดทุน เที่ยวบินในประเทศ ผู้โดยสารก็เต็ม เสริฟก็น้อย ตั๋วก็แพง แล้วเงินมันหายไปที่จุดไหน ตรงนี้หนูก็อยากทราบเหมือนกัน ที่บอกว่าต้องปิดพอร์ทบางที่ เพราะไม่มีกำไร อย่าคิดนะคะท่านว่า การตกแต่งบัญชีของท่านจะไม่มีใครทราบ เค้าทราบกันทั้งบริษัท แต่น้ำท่วมปากพูดไม่ได้ เพราะว่าจะโดนลงโทษทางวินัย โดนยัดเยียดข้อหา โดนเชือด หากท่านที่ตามอ่าน พบว่า หนูหายไปนานจากพันทิพย์ เสริชเท่าไหร่ก็ไม่พบ แนะนำว่า หนูคงโดนเก็บไปแล้ว ขอให้ช่วยออกตามหาส่วนที่เหลือ และช่วยจุลเจือครอบครัว และลูกน้อยสามขวบของหนูต่อไป 5 หนูรักองค์กร เวลาคนขาด มาเรียกหนูบินวันหยุด หนูก็ไป ไปช่วยงานโน่นนี่ต้องการคน หนูก็ช่วย อยากให้บินญี่ปุ่นตอนมีกัมมันตะรังสี หนูก็กลัวจะเป็นมะเร็ง อ้าว...หนูก็คนนี่นา คนอื่นยังกลัว ท่านมาห้ามไม่ให้กลัวได้ไง แต่ก็ไป เพราะท่านสั่ง ตัดคนหนูก็ไม่ได้บ่น ก้มหน้าทำไป ทำมาหลายปี ตั้งแต่ทำงานมา ไม่มีตอนไหนไม่เคยตัดคน เซอร์วิสจะเอาดีเลิศ แต่คนไม่ให้ ของเสริฟไม่ให้ มีครั้งหนึ่งผู้โดยสารซ้ายก็เรียก ขวาก็เรียก คนอื่นก็ติดเคสไม่รู้จะหันไปทางไหน ไปช้าก็มีงอนไม่พอใจ ตัดคนพอทำใจ แต่ตัดของเสริฟ.. น้ำส้มให้มา 30 กล่องผู้โดย 300 เสริฟให้ถึงยุโรปนะท่าน T_T อาหารมื้อดึก โหลดแค่ 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้โดยสาร เผื่อผู้โดยหลับ ไม่กินไม่เสริฟ พวกเราย่องเสริฟ เน้นเสริฟน้ำ น้ำเยอะๆ ท่านจะได้ไม่หิว อ้าว แล้วถ้าเค้าตื่นมาแล้วหิว เราก็ควรต้องมีให้เขาไม่ใช่เหรอคะ แต่ตัดของเขาไปแล้วเนี่ย เขาจะทานอะไรคะ ดื่มน้ำแก้กระกายไปอีก 5 ชั่วโมงก่อนเสริฟมื้อสอง คนคิดใจร้ายมาก ตัดแปรงสีฟัน ตัดที่ปิดตา ตัดปากกา ตัดของเล่นเด็ก ผู้โดยสารตื่นมา เค้าก็อยากจะแปรงฟันนะท่านผู้ทำการตัด ไม่มีก็แย่ บางท่านอยากได้ปากกาเป็นที่ระลึก เราก็ไม่มี ของเล่นเด็กดูสายการบินอื่นเค้าบ้างว่าพัฒนาไหถึงไหน สายการบินแห่งชาติจริงๆไม่มีอะไรสักอย่าง คนทำงานเหนื่อยใจ เคยมีการตัดอาหารลูกเรือเกิดขึ้น ทั้งๆที่เราจ่ายเงินเอง หักจากบัญชีเงินเดือน ไม่มีอะไรจะกิน มีแต่น้ำ กับขนมปังที่เหลือสองสามก้อนกับคน 14 คน รู้สึกว่าคนตัดไม่มีสมอง จะให้นักบินแวะเซเว่นให้หรือไงคะ หนูรักองค์กร แต่หนูเกลียดผู้บริหารที่ไม่เห็นใจคนระดับปฏิบัติงาน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานภาคพื้น พนักงานบริการลานจอด พี่ช่าง หรือพนักงานที่ห้องออกบัตรโดยสาร ตั้งใจทำงานเพื่อองค์กรเสมอ ท่านผู้บริหารทำแบบนี้เสียกำลังใจมาก 5 ที่นี่ใช้คนเปลืองจริง เพราะวางานมันหนักกว่าของที่อื่น ถ้ามีเพื่อนที่เคยทำสายการบินอื่น แล้วย้ายมาทำที่นี่ ลองถามดูค่ะว่า อุปกรณ์ และการบริการเป็นอย่างไร และทำไมต้องนอนนาน ขออนุญาตเลิกตอบเท่านี้นะคะ จะไม่มีการตอบผ่านหน้านี้อีก ไม่ได้หนีค่ะ แต่ขอหลบไปพักดีกว่า พอเขียนมาเยอะๆแล้ว อ่านซ้ำ ก็เหนื่อยใจกับผู้บริหารเหมือนกันค่ะ อยากทราบอะไรหลังไมค์มานะคะ ไม่อยากให้คนมาโกรธกันเองที่นี่ค่ะ ไม่มีใครสมควรได้รับคำพูดไม่ดี แดกดัน ใส่อารมณ์ จากคนอื่นในเรื่องนี้ค่ะ อนึ่ง เพราะว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวมาก ต่อให้โมโหกันอย่างไรก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ถ้าทำได้ รายงานต่างๆที่เขียนส่งไปร้อยสองร้อยฉบับในเรื่องต่างๆ คงได้รับการแก้ไขไปแล้วค่ะ ไม่มาถึงจุดนี้ ขอบพระที่ทุกท่านกรุณาค่ะ กราบตักทุกท่านอีกหนึ่งครั้ง ที่ตั้งใจอ่านอย่างเป็นกลางโดยไม่มีอคติค่ะ จากคุณ : มังกรธรณี เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 02:44:24

ความคิดเห็นที่ 71 เรียนคุณ  มังกรธรณี  ขอบคุณที่คุณเข้ามาอธิบายการทำงานของลูกเรือครับ *********คำถามที่ทุกคนอยากทราบคือ  "สายการบินทำเกินกำหนดมาตราฐานสากลหรือไม่" ทำไมคุณไม่ตอบล่ะครับ หรือคุณตอบคำถามข้อนี้ไม่ได้ ผมไม่ได้เอาสายการบินอื่นมาเปรียบเทียบเลยเเม้เเต่นิดเดียว ขอเนื้อๆที่มาตรฐานสากล ******* ผมจะไม่ไปตอเเยคุณหลังไมค์นะครับ  อยากให้คุณมาตอบข้างหน้านี้เลย จะได้เห็นกันจะๆทุกคน ปล. ผมไม่ได้คิดจะรังเเกผู้หญิงนะครับ  พยายามเขียนอ่อนโยนที่สุดเเล้ว  เเต่มันมีคำถามที่ต้องการคำตอบ  ต้องขออภัยด้วยครับ ผมคงไม่ต่อความยาวอีกเเล้ว รอคำตอบอย่างเดียวครับ จากคุณ : ส้มฉุน (DLC) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 08:56:39

ความคิดเห็นที่ 72 ความคิดเห็นที่ 64 ขอตอบสั้นๆอีกครั้งนึงว่าการบินไทยเป็นรัฐวิสาหกิจที่ได้กำไรติดต่อกันมาตลอด 49 ปีของการเิปิดให้บริการ จนมาถึงเมื่อปีที่50 ที่มีปัญหาน้ำมันแพงและปิดสนามบิน และปีหลังจากนั้นบริษัทได้มีกำไรสูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการมา ส่วนปีนี้จะเป็นอย่างไรรอดูผลประกอบการนะครับ อ่า ถ้ากำไรติดต่อกันมาขนาดนั้น เกิดอะไรขึ้นกับปันผลของผู้ถือหุ้นหรือคะ? อิฉันหลงไปซื้อเข้าเหมือนกัน เพื่อนรู้ยังหัวเราะก๊ากแล้วบอกว่า ไปซื้อหุ้นหมดอนาคตทำไม๊ จนบัดนี้ยังไม่เคยเห็นปันผลงามๆ สักครั้งเลยอ่ะ จากคุณ : งงจัด เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 09:31:12 A:220.237.169.199 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบพระคุณ คุณส้มฉุนมากค่ะที่รีบมาหาแต่เช้าค่ะ หนูก็รีบมาเหมือนกัน ทั้งๆที่คิดว่าจะไม่เข้ามาแล้ว ขอตอบตรงว่าครั้งนี้สุดท้ายจริงๆแล้วนะคะ คืนนี้ต้องไปทำงานด้วยค่ะ ต้องรีบพักผ่อน การพัดผ่อนของเราคือความปลอดภัยของท่านนะคะ บริษัททำเกินค่ะ ทำเกินไปมากค่ะ lay over ชั่วโมงตามที่มาตราฐานกำหนด เค้าไม่ได้มองค่ะ อย่างไฟท์เกินสามชั่วโมงที่ต้องมีการพักอย่างน้อยสองชั่วโมง ก็ไม่เคยมีค่ะ ไปแล้วก็กลับเลยค่ะ หรือ ท่านอาจไม่ทราบว่า บางที่ลูกเรือไม่ได้พัก แต่นักบินได้พักลงนอนกันนานกว่า เนื่องจากว่ามันผิกกฎการบิน แต่ว่าทางบริษัทไม่สนใจการพักผ่อนของลูกเรือ เพียงแต่เห็นว่าทำได้เลยให้ทำไปค่ะ จริงๆแล้วมีหลักการคำนวนค่าความเหนื่อยล้าด้วยค่ะมีเป็นตารางเลย แต่ไมม่สามารถเปิดเผยได้อีก เดี๋ยวหนูโดนฟ้อง เกรงว่าจะเอาตัวไม่รอด เพราะว่าทำงานมาไม่เคยมีเส้น สอบก็สอบเข้ามาเองไม่มีเส้นไม่รู้จักใครเป็นพิเศษ federal aviation regulation said  "The program manager must provide each crewmember at least 13 rest periods of at least 24 consecutive hours each in each calendar quarter ". ถ้าผู้บริหารทำได้จริง ไม่มีใครบ่นหรอกค่ะ แต่ 13 ชั่วโมงเนี่ย นอนไม่พอ เพราะว่ากลัวคนมาแงะห้องบ้าง ห้องแอร์เสียบ้าง ขอเปลี่ยนห้องก็ไม่มี บอกว่าโรงแรมเต็ม นั่งรอรับห้องจากโรงแรมเป็นสองสามชั่วโมงบ้าง กว่าจะได้นอน กว่าจะกล่อมตัวเองให้หลับ ถ้าผู้บริหารทำได้จริง ให้โรงแรมอยู่ในย่านที่ปลอดภัย มีของกินตลอดไม่ว่าจะตื่นขึ้นมาตอนไหน เดินไปไม่โดนปล้นตีหัว เหมือนที่เกิดขึ้นบ่อยๆในปัจจุบัน มันเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ออกข่าวเท่านั้นเองค่ะ หรือสั่งรูมเซอร์วิส แล้วได้รับการปฏิเสธ เช่น หนูได้รับการปฏิเสธจากโรงแรมในเมืองไทยว่า "ขอโทษค่ะ ของเรามีน้อย ถ้ามีลูกค้าท่านอื่น เราจะไม่สามารถให้บริการได้ ขอให้ท่านทานอย่างอื่น" ฟังแล้วงงว่า หนูไม่ใช่ลูกค้าท่านเหรอคะ การปฏิบัติกับลูกเรือแบบนี้ ทำให้ไม่อยากพึ่งรูมเซอรวิสค่ะ แต่จากประสบการณ์ตรงที่โรงแรมมันเปลี่ยวมาก จะทานข้าวต้องซื้อตั๋วรถไฟ นั่งเข้าเมืองไปอีก เพราะว่าแถวโรงแรมมีแต่อาหารแมคโดแนล ทุกที่เลยค่ะ ไม่ทราบว่าคณะกรรมการสรรหาโรงแรมเค้าทานเป็นอยู่อย่างเดียวหรือว่าอย่างไร การลดเวลาวันพักลงเหลือ 24 ชั่วโมงก็ไม่ได้มีปัญหาสำหรับหนู เพราะว่าใช้วิธีลากยาว สมมุติว่าทำงานไปไฟท์ยาว เครื่องลงบ่านสองถึงโรงแรมบ่ายสี่โมง หนูจะไม่นอนทันที เพราะถ้านอนแล้วตื่นมากลางดึก หลังจากหาอาหารทานไปแล้ว จะหลับไม่ได้ง่ายๆอีก เลยต้องลากยาวไปจนถึงสี่ห้าทุ่ม ออกไปเดินเล่นบ้าง ไปนั่งอ่านหนังสือในร้านหนังสือบ้าง เดินซูเปอร์มาร์เก็ตบ้าง จากนั้นกลับโรงแรม แล้วสลบเหมือนไปทีเดียว จนถึงเช้า นอนพอบ้างไม่พอบ้าง แล้วแต่หลับได้หรือเปล่า ถึงสิบสามชั่วโมงไหม ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็ตั้งใจตื่นมาทำงานกลับบ้าน เพราะอะไรน่ะเหรอคะ เพราะที่บ้านมีพ่อ มีแม่ มีสามีมีลูก รออยู่อย่างไรคะ สำหรับท่านอื่นไม่ทราบ แต่สำหรับหนู คิดถึงคนในบ้านมากค่ะ เคยผ่านเหตุการณ์หวาดเสียว จนแทบไม่คิดว่าจะได้กลับบ้านมาแล้ว การที่เรารีบตื่นมาแต่งตัว เพื่อกลับไปหาลูกที่บ้านนั้น เป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้  แต่หนูตอบแทนท่านอื่นไม่ได้นะคะ อันนี้คุณส้มฉุนกรุณาเข้าใจความแตกต่างของแต่ละคน และมาตราฐานทางความคิดที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาต่างกัน หนูนอนได้ นอนพอ แต่คนที่นอนไม่ได้ ปรับเวลาไม่พอก็มี ดังนั้นจึงไม่สามารถเป็นตัวแทนตอบได้ของพนักงานต้อนรับทั้งหมด เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน และตอนที่หนูเข้าทำงาน เค้าก็ตัดวันพักตั้งแต่เริ่มบินแล้ว เลยต้องหาวิธีจัดการกับการนอนของตัวเองให้ได้ บางทีการทำงานบนเครื่องจนเหนื่อยก็ช่วยได้เยอะมากค่ะ เพราะหัวถึงหมอนหลับเป็นตาย หลับ 18 ชั่วโมง ตั้งแต่ถึงโรงแรม ตื่นมาตอนก่อนโรงแรมโทรมาปลุกสองชั่วโมง เพื่อไปหาข้าวทานเนื่องจากหิวมาก และกลับมาแต่งตัว ผู้หญิงเรื่องเยอะค่ะ แต่งตัวนาน อย่าว่ากันนะคะ การตัดลูกเรือให้เหลือเท่าประตู ก็คิดว่าไม่ผิดกฎการบินสากล เคยกล่าวมาแล้วว่า ถ้าท่านตัด ตัดได้แน่นอน แต่ท่านต้องตัด service ด้วย เนื่องจากเราทำไม่ได้ที่จะคงมาตราฐานเดิมในเมื่อคนงานลดเกือบครึ่ง ส่วนตัวแล้ว ดิฉันไม่ได้ว่าอะไรเลย ถ้าท่านผู้บริหารจะลดพนักงาน ถ้าท่านตัดการบริการที่ซ้ำซ้อน และการบริการที่ต้องใช้คนมากออก  ซ่อมอุปกรณ์ให้ใช้ได้จริง ไม่ใช่ รถเข็นอาหาร ลากคนเดียวไม่ได้เพราะเบรคไม่มี ต้องใช้สองคนช่วยกันลากช่วยกันเบรค เพราะถ้าไม่เบรค เดินคนเดียวอย่างที่หนูทำอยู่ มันจะไหลไปโดนผู้โดยสาร บานประตูรถที่มันลอคไม่ได้ มันก็จะไปตีแขนผู้โดยสารให้เป็นที่ขัดเคืองใจ เช่นในการทำงานภายในประเทศ หนูเดินคนเดียว รถเบรคไม่ได้ เข็นก็ไม่ได้ ต้องทั้งดึงทั้งลาก ทั้งใช้ตัวกัน ให้นึกถึงรถเข็นในซูเปอร์มาเก็ตที่เราใส่ของจนเต็ม แต่ล้อมันไม่ดี เบี้ยวบ้างเข็นไปไม่ไปตามที่เราอยาก แต่เบ้ไปทางอื่นบ้าง  ใช้มือจับไม่ให้ไปตีแขนผู้โดยสาร แล้วอีกมือหนึ่งต้องค่อยๆเสริฟ ถ้าใช้สองมือรถมันจะไปตีคนอื่น อุปกรณ์แบบนี้ ไม่ควรมี ถ้าท่านจะตัดลูกเรือต้องทำอุปกรณ์ให้ใช้ได้จริง ปกติ ถ้าทำงานในชั้นธุรกิจ งานเสร็จจะเดินไปช่วงข้างหลังเสทม แต่ต้องทิ้งคนไว้ข้างหน้า เผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินด้วย แต่ถ้าทำด้านหลัง เมื่องานเสร็จ จะรีบแปรตัวเองเป็นแรงงานต่างถิ่นไปช่วงโซนหน้าเช่นกัน ไม่เคยนั่งเฉยๆถ้างานของเพื่อนยังไม่เสร็จ แต่ก็อย่างที่ว่า แต่ละคนไม่เหมือนกัน คนที่ช่วยก็มี คนที่ไม่ช่วยก็มี เราบังคับใครไม่ได้ ขึ้นอยู่กับน้ำใจ ข้อนี้ คุณส้มฉุนคงทราบดี บริษัทตัดได้หมดทุกอย่างค่ะ ถูกกฎไม่ถูกกฏ ไม่ถูกกฏแต่เล่นแง่ให้ถูกบริษัทก็ทำได้ เพราะทำมาตั้งมากมายแล้ว..... มีข่าวว่าจะลดนักบินเหลือแค่สามคนในรูทยุโรป ไม่ทราบจะทำจริงหรือเปล่า เพราะตามกฎการบินสากล ยังไงก็ต้องสี่คน ถ้าลามถึงตัดนักบินจริง อยากทราบเหมือนกันว่าจะมีผู้โดยสารคิดอยากมานั่งหรือเปล่า คุณส้มฉุน หนูบอกท่านจริงๆว่า หนูเองก็กลัวโดนฟ้อง การมาบอกข้อมูลมากมายขนาดนี้ จะโดนเก็บหรือเปล่าก็ไม่รู้ ในบริษัท มีเรื่องการเมืองและผลประโยชน์แอบแฝงมากมาย บอกได้ไม่หมด คนที่ทราบก็น้ำท่วมปาก เพราะคนที่โดนเก็บก็มีมาแล้ว ออกข่าวว่า เป็นเรื่องชู้สาวบ้าง อะไรบ้าง แต่คนในทราบกันดีว่าจริงๆแล้วเกิดอะไรขึ้น อย่างเรื่อง BMI คนอ้วนจริงก็มี คนอ้วนเพราะเป็นโรคก็มีมานาน คนBMIเกินเพราะออกกำลังมาก ยกน้ำหนักก็มี แต่ที่มาเป็นเรื่องเพราะว่า คนภายในบางคน ต้องการขายคอรส ขายอาหารเสริมลดความอ้วนกับลูกเรือ โดยออกกฎมาบังคับและให้ใช้ผลิตภัณฑ์ของเค้า คนทำงานอ้วนก็ดูไม่ดีเป็นเรื่องจริง แต่ในความเป็นจริง ไม่มีใครอยากอ้วนนะคะ ไม่มีใครอยาก ทุกคนอยากสวย แต่การที่ท่านจะลงโทษเราเพราะว่าเราป่วย เราอ้วน นี่ท่านใจร้าย ถ้าอย่างนั้น ผู้โดยสารที่นั่งตรงประตู ห้ามอ้วนรอบเอวเกินด้วย เพราะว่านั่งกันผู้โดยสารคนอื่นวิ่งออกประตูไม่ได้ แต่ก็เห็นผู้โดยสารเอวเกิน แต่ไม่ได้อ้วนมาก แค่อวบระยะท้ายสุดมากๆ ก็มีมากมาย อันนี้ไม่เกี่ยว ขอบ่นไปอย่างนั้นเอง ขอบคุณที่รับฟัง ดังนั้น การจะขายผลิตภัณฑ์ เอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง โดยออกกฎมาแบบนี้ หนูว่าไม่ยุติธรรม หนูว่า บริษัทบังคับให้คน BMI เกินไปออกกำลังที่สถานออกกำลังกายของบริษัท จะดีกว่าบังคับลงโทษไม่ให้บิน แล้วให้ซื้อผลิตภัณฑ์ของท่าน วันนี้ขอบพระคุณคุณส้มฉุนมากค่ะ โล่งใจขึ้นเยอะเลย ไม่เคยได้บ่นกับใครมากขนาดนี้ ไม่เคยมีใครตั้งใจฟังมากขนาดนี้ คุณส้มฉุนเป็นคนจริงใจมากค่ะ ขอนับถือในความจริงใจของคุณส้มฉุนมากค่ะ อยากให้มีคนอย่างคุณส้มฉุนที่กล้าถาม กล้ารับฟัง กล้าตอบ โดยไม่มีอคติเยอะๆ หนูเชื่อเรื่องการติเพื่อก่อ ถ้าติแล้วมีการพัฒนา ถือเป็นกำไรเป็นกำลังใจมากค่ะ อยากให้ทุกคนมีมนุษยธรรมในใจเกิดขึ้นด้วย โดยดูข้อจำกัดและปัจจัยต่างๆ ตามทฤษฎีแล้ว มนุษย์ทุกคนควรก้มแตะปลายเท้่าตัวเองได้ แต่คนที่ก้มแตะไม่ได้ ก้มีถมไป คืนนี้ต้องไปทำงานนะคะ หายไปสองวันเต็ม ค่ะ   ติดตามได้ในห้องจตุจักร ปกติจะช่วยเหลือหมาแมวอยู่ที่นั่น แต่คงไม่มาที่นี่แล้วจริงๆค่ะ คุณส้มฉุน บางทีอ่านไปก็เหนื่อยใจนะคะ ถึงแม้บางอย่างจะจริง หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มันก็เหนื่อยค่ะ ไม่อยากเครียดสะสม เพราะว่าอยากมีสุขภาพจิตดีกับครอบครัว อยากมีสุขภาพดี ยิ้มได้กับผู้โดยสารตลอดทุกเที่ยวบินค่ะ ขอบพระคุณคุณส้มฉุนที่เข้าใจค่ะ ขอบคุณคุณมากที่ทำให้ได้เล่าอะไรต่างๆที่เก็บไว้ในใจมานาน ขอบพระคุณมากค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 10:30:29 จากคุณ : มังกรธรณี เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 10:23:40

ความคิดเห็นที่ 74 อยากเจาะประเด็นตอบ... แต่เยอะเหลือเกิน ตอนนี้แค่ขอบอกว่า ค่าอาหารบนเครื่อง ไม่น่าจะต้องมาหักจากเงินเดือนพนักงานนะ อาจผิดกฎหมายแรงงานเอาด้วยซ้ำ แต่ก็ยังสงสัยอยู่ ว่า โรงแรมที่พักที่ไปกันเนี่ย ไม่มีอาหารให้หรือครับ ถึงต้องออกมาหากินกันข้างนอก ในเวลาที่่น่าจะหายากเอาการอย่างนั้น จากคุณ : Wobbegong เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 10:39:12

ความคิดเห็นที่ 75 โดยส่วนตัวอยู่Aucklandครับ เดินทางไปๆกลับๆส่วนใหญ่ก็ได้การบินไทย เวลาอยู่ต่างประเทศนานๆ ต่างชาติต่างภาษา พอไปสนามบิน เห็นพี่ๆแอร์ สจ๊วต TG เดินผ่าน ก็รู้สึกอบอุ่นบอกไม่ถูกครับ ยิ่งพอขึ้นเครื่อง มีหนังสือพิมพ์ไทย เพลงไทย ก้รู้สึกเหมือนถึงประเทศไทยไปครึ่งหนึ่งแล้ว TG economy classในเส้นทางไกลๆอย่างAuckland seat pitch34"นิ้วซึ่งถือว่าเยอะที่สุด นั่งสบายที่สุด อาหารอร่อย แล้วก็โดยส่วนตัว ประทับใจบริการTGมาทุกครั้ง ตั้งแต่ครั้งแรกจนครั้งล่าสุด ด้วยความเป้นคนไทยใจดีอะครับ คือนอกจากตามหน้าที่ทั่วๆไป ก็ยังดูแลเรื่องอื่นๆ ถ้าเป็นวัยรุ่นๆเดินทางคนเดียว ลูกเรือก็จะมาชวนคุย คอยเทคแคร์ ดึกๆไฟดับสนิท แต่ผมยังเห็นพี่แอร์พี่สจ๊วตเดินย่องเอาน้ำมาให้ดื่มตลอดคืน ซึ่งผมไม่เคยเห็นในสายการบินไหนเลย เวลาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ไม่ว่า Economy หรือ business ผมมักรู้สึกว่า โหย เดินทาง12ชั่วโมง แต่ทานอิ่มอร่อยพุงกางตลอดการเดินทาง นอนหลับสนิท ตื่นมาดูหนังฟังเพลง ทานขนม ตอนเดินออกจากเครื่องบินพี่ๆCabin crewยังยกมือไหว้เราอีก ผมมักจะไหว้ตอบด้วยความรู้สึกแบบ ขอบคุณครับลูกเรือทุกท่าน ขอบคุณจริงๆ ผมมีความสุขกับไฟลต์แล้วก็ภูมิใจมากๆ เวลาฝรั่งชมว่า ประเทศเรามีสายการบินอันดับต้นๆของโลก แล้วก้เวลาเค้าชมว่า คนไทยใจดีน่ารักเอาใจเก่ง อันนั้นเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมเป็นกำลังใจให้ลูกเรือทุกท่าน ส่วนเรื่องการบริหาร อืม ผมมองว่านี่แหละ ตัวเอี้ยเลย อย่างที่หลายๆท่านว่ามา ตั๋วแพง คนแน่นเอี๊ยดด popular ขนาดนี้ บริหารประสาอะไรให้ขาดทุนย่อยยับได้แบบนี้ ผมว่าถ้าเป็นที่ญี่ปุ่นสมัยก่อนเค้าคงคว้านท้องลาตายกันแล้วล่ะครับ นี่แทนที่จะลดต้นทุนประเภทบินฟรีชั้นหนึ่งตลอดชีพ เบี้ยประชุมบลาๆ ดันเจือกไปลดต้นทุน น้ำส้มบนเครื่องบิน ลดลูกเรือ ลดของแจก แต่ค่าตั๋วแพงขึ้น แต่ลูกเรือน้อยลง serviceรูปแบบต่างๆน้อยลง ผมไม่เห็นด้วยกับการโยนภาระการขาดทุน ไปให้ลูกเรือและผู้โดยสารแบกรับเลยครับ จริงๆถ้าหากผู้บริหารไม่สามารถบริหารให้กำไรได้ในระยะเวลาหนึ่ง ก็ควรจ้องเปลี่ยนยกชุด รวมถึงอีแอบทั้งหลายที่มักเข้ามาแทรกแซงเป็นเหลือบสูบเลือดสูบเนื้อองค์กรนี้ ควรได้รับการสังคายนาซักทีครับ อย่างไรก็ตาม เอาใจช่วยCabin crewทุกท่านครับ ต่างคนต่างความคิดน่ะครับ แต่โดยส่วนตัวผม อ่านข้อความคุณมังกรธรณีแล้วเข้าใจหัวอกคนทำงานมากๆเลยครับ จากคุณ : bas121 เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 11:35:01

ความคิดเห็นที่ 76 ที่เพิ่มให้นักบินเยอะขึ้นเพราะ ช่วงนี้นักบินการบินไทย โดนดึงตัวเยอะครับ เพราะนักบินไทย คุณภาพสูง ต้องผ่านโปรทุกคน ด้วยอัตราที่ดึงเงินเดือนเพิ่มกว่าการบินไทย 3 - 4 เ่ท่าตัว สมองไหลเยอะ การบินไทยตกที่นั่งลำบากแน่นอน จากคุณ : taecu เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 13:06:02

ความคิดเห็นที่ 77 เข้ามาอีกเเว๊บ ขอบคุณคุณ มังกรธรณี  มากๆครับ   มองอีกมุมก็อย่างที่คุณว่า  "ถึงแม้บางอย่างจะจริง หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มันก็เหนื่อยค่ะ ไม่อยากเครียดสะสม เพราะว่าอยากมีสุขภาพจิตดีกับครอบครัว อยากมีสุขภาพดี ยิ้มได้กับผู้โดยสารตลอดทุกเที่ยวบินค่ะ" ผมดีใจที่การบินไทยมีลูกเรือที่นึกถึงผู้โดยสารครับ  พยายามเข้า ทำในสิ่งที่คุณต้องทำ เเละรักมันให้มากๆ  ขอให้ตกลงกันได้โดยเร็ว เเละผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปให้ได้ครับ ยังไงผมก็ยังคงใช้การบินไทยอยู่เช่นเดิม  รูทไม่ต่ำกว่า 6-12 ชั่วโมงนี่บ่อยมาก ก็หวังว่าคงเจอคุณสักครั้งนะครับ  :) จากคุณ : ส้มฉุน (DLC) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 18:10:33

ความคิดเห็นที่ 78 ถ้า TG มีพนักงานอย่างคุณ มังกรธรณีสักครึ่งนึงก็ดีนะค่ะ เพราะเท่าที่เห็นแอร์ส่วนใหญ่จะไม่บริการดีอย่างนี้คะ มีอยู่ไฟล์ทนึงบินจากดูไบกลับไทย ผู้โดยสารไม่เต็มเครื่อง ที่นั่งแบบ 3-3-3 ดิฉันและลูกๆ ได้นั่งคนละแถวเลยได้นอนยาวสบาย ตอนช่วงทุกคนหลับไม่เห็นแอร์เดินมาเลยสักคนค่ะเพราะลูกสาวกระหายน้ำมาก กดเรียกก็ไม่มา รอนานมากน้ำที่พกไปก็หมดเพราะเอาไปได้น้อย อันนี้อาจจะเป็นส่วนน้อยก็ได้นะค่ะ ส่วน "เรื่องให้ของเล่นเด็ก" นี่ลูกสาวคนโตอายุ 7 ขวบคนเล็ก 5 ขวบ บินมาแล้วเป็น 10 ครั้งแต่บอกตรงๆ ว่าได้ของเล่นแค่ "ครั้งเดียว" จริงๆ แล้วเป็นการได้ที่ต้องขอ 3 ครั้ง แอร์เอามาให้เหมือนประชดประชัน จนสามีบอกว่าไม่ต้องไปขอเขาแ้ล้วล่ะ อายคนอื่น ส่วนของที่เอามาให้ไม่อยากพูดไรมากนะค่ะ แค่บอกว่า "แย่มาก ถึงมากที่สุด" ส่วนผู้บริหารที่บอกว่าได้เดินทางฟรีมีผู้ติดตามนี่เห็นด้วยมากๆ ค่ะ เพราะรู้จักคนนึงเป็นระดับผู้จัดการ ครอบครัวบินบ่อยมากแทบจะทุกเดือน ที่สำคัญ บินชั้นธุรกิจตลอด สรุป  ก็เห็นใจพนักงานระดับล่างที่ดีๆ นะค่ะ แต่หาดีได้น้อยมาก โดยส่วนตัวแล้วไม่ค่อยอยากบินกับสายการบินนี้เท่าไหร่แต่เพราะบริษัทเป็นคนจ่ายและซื้อตั๋วให้ก็เลยต้องบิน...........แต่เพื่อนคนไทยที่นี่หนีไปบิน EK กันหมดแล้วเพราะบริการดีกว่า...........ผู้โดยสารส่วนมากสนใจการบริการของคุณค่ะ ที่คนเข้ามาต่อว่าพวกคุณมากแบบนี้เพราะว่า คนหมู่มากในพวกคุณให้บริการที่แย่ๆ ไว้มาก อันนี้ก็ไม่ทราบว่าจะโทษใครได้ เป็นกำลังใจให้พนักงานดีๆ ทุกคนค่ะ *แก้ไขรายละเอียด แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 19:25:44 จากคุณ : O_NeG เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 19:16:46

ความคิดเห็นที่ 79 ความคิดเห็นที่ 64 ขอตอบสั้นๆอีกครั้งนึงว่าการบินไทยเป็นรัฐวิสาหกิจที่ได้กำไรติดต่อกันมาตลอด 49 ปีของการเิปิดให้บริการ จนมาถึงเมื่อปีที่50 ที่มีปัญหาน้ำมันแพงและปิดสนามบิน และปีหลังจากนั้นบริษัทได้มีกำไรสูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการมา ส่วนปีนี้จะเป็นอย่างไรรอดูผลประกอบการนะครับ ของงด้วยคน คุณตาเราซื้อหุ้น กบท ตั้งแต่ตอนขายหุ้นแรกๆ ราคาหุ้นละ 60 บาทแพงมหาโหด ได้ปันผลปีละไม่กี่ร้อยบาทไม่เคยได้มากขึ้น คำนวณดูแล้วขาดทุนตลอดๆๆ เกิดอะไรขึ้นหรือคะ ในขณะที่เพื่อนเราเป็นลูกผู้บริหารเํธอนั่งชั้นธุรกิจไปเที่ยวปีละหลายครั้งฟรี ออกตั๋วก่อนได้ ระบุวันได้ กำไรที่คุณว่าเยอะๆๆ แต่เงินปันผลของผู้ถือหุ้น อย่างเรารวมกันเป็นสิบปียังซื้อตั๋วภายในประเทศของ กบท ซักใบยังไม่ได้เลย พูดแล้วเศร้า จากคุณ : It's me PanDy เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 20:29:53

ความคิดเห็นที่ 83 คุยกันดีๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกันดีกว่าค่ะ ต้องเข้าใจว่าผดส.เองก็เคยมีประสบการณ์ไม่ดีกับกบท. พนง.เองก็พยายามแล้ว แต่ไม่ค่อยมีคนเข้าใจ เห็นคนมาว่าเราก็ช้ำใจ อย่ากระแนะกระแหนกันเลยนะคะ คุยกันดีๆ ดีกว่าค่ะ ใจเขา ใจเราเน้อะ ^^ จากคุณ : มานี เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 09:04:08 A:49.230.97.243 X: TicketID:320456

ความคิดเห็นที่ 84 เรียนคุณ PEE<PEE> 1. คุณอธิบายว่า >> Flt เมกาไงคับ 14 ชม. ขาไป LAX นะ กลับ 18   ในความเห็นที่ 31 บอกไว้ว่า "แต่ที่ทนไม่ไหวก็คือการที่ให้ไปยุโรป flt time 10-14 ชม"  ????? จริงๆผมก็ทราบอยู่เเล้วว่าคุณในความเห็นที่ 31  คงจะสับสน  ผมถึงได้เเจกเเจงให้ดูในความเห็นที่ 37 ไงครับ   2. คุณอ้างข้อความผม "ที่คุณว่ายืนคุยกันรอผู้โดยสารเรียก-- จะให้ทำอะไรเหรอคับ ในเมื่อเรา Plan เวลาไว้หมดแล้ว น้ำเราก็เดิน ขนมเราก็เดิน เรามีPlan ของเราว่าจะทำไร นั่งคุณก็ว่า ยืนคุณก็ว่า จะให้ไปเกาะบนหลังคาเหรอไงคับ "   ***นั่งคุณก็ว่า ??  ใครว่า ผมเหรอครับ?? คิดว่าคุณคงจะเข้าใจผิดเเล้วครับ คุณจะยืนตรงไหน  จะบนเครื่องหรือบนหลังคาก็ตามเเต่ความชอบของคุณเองเลยครับ  ขอเเค่ลงมาบริการให้จบไฟล์ท เเค่นี้ผู้โดยสารก็พอใจเเล้วครับ *** ไม่มีเจตนาจะสร้างความขุ่นเคืองครับ ผมสอบถามไป เพราะผมทราบข้อมูลบ้าง  เเต่สุดท้ายเเล้วผมมักจะยอมรับในข้อมูลที่ได้เสมอ เเม้ว่ามันจะตรงหรือไม่ก็ตามครับ จากคุณ : ส้มฉุน (DLC) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 09:56:46

ความคิดเห็นที่ 85 คุณ PEE<PEE> คงเจ็บใจ หรือ มีอะไรในใจจนทำให้อัดอั้น ถึงขนาดหลังไมค์มาต่อว่าเลย  ... น่าจะโดนกันหลายคนอยู่  ก็ขอบคุณนะคะ ที่ทำให้เข้าใจคนพวกนี้ หรือคนแบบคุณมากขึ้น ^^ จากคุณ : Shiraha เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 10:06:43

ความคิดเห็นที่ 86 ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกครับ คนเรา อคติ มันแรงทำดีแทบตาย ก็ด่าก็ว่ากันไม่จบ ต้องมีแฟนหรือมีลูกทำงานเป็นสจ๊วตเป็นแอร์ วันนั้นแหละที่คุณจะเข้าใจกัน จากคุณ : PEE<PEE> เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 11:02:13

ความคิดเห็นที่ 87 เรียน ความเห็นที่74 โรงแรมพนักงานไม่มีที่ไหนให้อาหารทั้งหมดหรอกครับมีมากสุดก็BreakFastบางโรงแรมก็ไม่ให้(ส่วนใหญ่จะไม่ให้นะคับ)บางโรงแรมก็มีแอร์โดนข่มขืน(สายการบินอื่น)เพราะเดินไปซื้อของใกล้ๆโรงแรม วิ่งเปลือยเข้ามาร้องไห้ในโรงแรม จนเป็นเรื่องเป็นราวมาแล้ว (เพราะแถวนั้นเป็นย่านคนดำนะคับ) ไม่มีความปลอดภัย "ไม่พอใจที่ถูกลดวันค้างคืนในต่างประเทศ???? เวลาหาของ หิ้วของที่รับฝากคงจะน้อยลงด้วย " แล้วที่ผมไม่พอใจคุณ Shiraha ก็เพราะว่า พนักงานทุกคนไม่ได้หิ้วของฝาก ถึงจะหิ้วมา ที่ OPC[ที่ที่เราไปCK IN เข้าออก เฉพาะการบินไทย] มีการตรวจเข้ม ผู้โดยสารธรรมดาเวลาเดินทางเข้ามายังไม่โดนแสกนทุกคนแบบพวกเราเลยด้วยซ้ำ คำพูดคุณมันดูถูกกันมากเกินไปนะคับ ผมเองเคยซื้อแค่วิตามินซี BlacKmore 3 ขวด(แพคขายทีละ3 จะได้ราคาถูก) ยังถูกพี่ Custom ถามเลยขนไรมามากมาย ทั้งที่ซื้อมากินเอง ส่วนเรื่องวันพักในต่างประเทศ ก็อย่างที่บอกแหละครับ ต้องลองมาบินเอง หรือ มีลูกมีเมียมีสามี ทำงานแบบนี้แล้วจะเข้าใจความรู้สึก ค่าความเหนื่อย ค่าความล้า สารพัด ไปยุโรป ถึงเช้าให้กลับอีกวันสายๆ(ของยุโรป) คือ ทำอะทำได้ แต่มันเหนื่อย นี่ยังไม่พอ มาตัดคนอีก คนที่กระทบก็คือผู้โดยสาร ถ้าเราไม่แคร์ผู้โดยสารเราคงไม่มีกลุ่มของลูกเรือในFaceBook ที่ตั้งมาเพื่ออุดมการณ์ ว่า "ไม่เอาเปรียบเราไม่เอาเปรียบบริษัทและไม่กระทบผู้โดยสารหรอกครับ" เรียนมาให้ทราบ จากคุณ : PEE<PEE> เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 11:10:30

ความคิดเห็นที่ 88 อ่านข้อความของคุณมังกรธรณีแล้วก็น่าเห็นใจส่วนนึง ส่วนที่ทำดีอยู่แล้วขอให้ทำดีต่อไปอย่าได้ท้อถอยครับ แต่ก็ยังกังขาข้อมูลบางส่วน เพราะจากที่เห็นๆ คนรู้จักที่ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องของการบินไทยส่วนใหญ่ก็ รายได้ดีๆ กันทั้งนั้น เปลี่ยนโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ ตลอดเวลา ใช้สินค้าราคาแพงเสมอ กินร้านอาหารราคาแพงตามทองหล่อได้ทุกมื้อ และที่บอกว่าเสียภาษี แน่นอนว่าทุกคนต้องเสียภาษี แต่เงินที่นำมาคำนวณเพื่อเสียภาษีนั้นนับเฉพาะเงินเดิอน ค่าเบี้ยเลี้ยงเวลาเดินทางไปต่างประเทศจะไม่นำมาคำนวณด้วย เพราะฉะนั้นผมมั่นใจว่างานนี้เสียภาษีไม่เท่าไหร่หรอก อาจจะเรียกว่ารับเต็มร้อยได้ไม่เต็มปาก แต่ก็เต็มที่เสียน้อยกว่าคนที่ทำงานบริษัทเยอะมาก เพราะรายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าเบี้ยเลี้ยงที่ไม่นำมาคำนวณหรือเพอเดี้ยมนั่นแหละ อันนี้เป็นประกาศของกรมสรรพากรเลย แถมถ้าฐานเงินเดือนต่ำรวมทั้งปีแล้วไม่ถึงขั้นที่ต้องเสียภาษีก็สามารถขอภาษีที่หักไปคืนได้อีก ผมเห็นเพื่อนแอร์สายการบินต่างชาติหลายคนก็ได้รับเช็คช่วยชาติตอนที่รัฐบาลแจก เนื่องจากคำนวณเฉพาะเงินเดือนแล้วมีรายได้ต่ำ จึงเข้าขั้นได้รับเช็คนั้น แต่รัฐบาลดันลืมดูไปว่ารายได้รวมของคนเหล่านี้มากมายกว่าคนทำงานเดินดินอื่นๆ ทั่วไปซะอีก มากกว่าผมด้วย แต่ผมไม่มีสิทธิรับเช็คช่วยชาติ เคยเจอคนที่ทำงานเป็นแอร์การบินไทยอีกคนบ่นเรื่องโรงแรมที่ลอนดอนว่าโดนให้ไปพักโรงแรมที่ติดสนามบิน ห่างจากเมืองเยอะ และไม่ดี เผอิญเป็นโรงแรมที่ผมเคยพักมันก็ดูดีอยู่นะ ไม่ได้เลวร้ายอะไรมาก ตอนที่ไปพักก็เห็นนักบินของKorean airก็พักที่นั่นเหมือนกัน แล้วไม่อยากจะบอกว่าแอร์ของสายการบินVirgin Atlanticพักโรงแรมแย่กว่าของการบินไทยที่บอกว่าแย่แล้วด้วยซ้ำ มาทราบทีหลังว่าการบินไทยได้เปลี่ยนโรงแรมอีกครั้งให้ลูกเรือไปพักเชนหลายดาวก็พอใจขึ้น เรื่องจำนวนนักบินที่ใช้ผมหาข้อมูลตามหลักสากลไม่เจอเพราะเยอะมาก แต่ขออ้างถึงกฎของFAAซึ่งเป็นหน่วยงานที่เป็นผู้ตั้งกฎการบินทั้งหลายแหล่ของอเมริกา เข้าใจว่าการบินไทยไม่ได้ขึ้นกับองค์กรนี้แต่ขออ้างมาเป็นข้อมูลตัวอย่างเฉยๆ เพราะหลายกฎของFAAก็นำมาปรับใช้ทั่วโลกเหมือนกัน อย่างเช่นกฎของหลวที่จะนำขึ้นเครื่องบิน FAAระบุไว้ว่า flightที่ทำการบินระหว่าง8-12ชั่วโมงจะใช้นักบินอย่างต่ำ3คน และมากกว่า12ชั่วโมงจะใช้นักบินอย่างต่ำ4คน เพราะฉะนั้นเส้นทางการบินของการบินไทยที่บินไปยุโรปเกือบทุกเส้นทางสามารถใช้นักบินแค่3คนก็ได้ เพราะflight timeน้อยกว่า12ชั่วโมง จะมียกเว้นลอนดอนและแมดริดเท่านั้นที่บินนานกว่า12ชั่วโมง และสมควรต้องใช้นักบิน4คน สายการบินฝรั่งทำมานานแล้ว อย่างบินไปญี่ปุ่นนี่ไม่รู้การบินไทยขนนักบินไปกี่คน แต่ผมเห็นมากกว่า2คน สายการบินของฝรั่งบินแค่หกชั่วโมงนี่เค้าใช้แค่2คนครับ ขออภัยหากปกติการบินไทยใช้นักบินไปญี่ปุ่นแค่2คนอยู่แล้ว แล้ววันที่ผมเห็นนั้นเป็นนักบินที่อยู่ระหว่างเริ่มต้นบินและต้องอยู่ภายใต้การดูแลของกัปตัน แต่ผมเห็นตอนเครื่องขึ้นไปเรียบร้อยก็ออกมานอนที่เก้าอี้businessสองท่าน แล้วเครื่องบินยังบินอยู่ แสดงว่าอย่างน้อยต้องมีนักบินอีก2ท่านในห้องนักบิน เอาใจช่วยการบินไทยครับทั้งคนทั้งบริษัท ได้รับคำชี้แจงจากหลายท่านว่าการบินไทยมีการคำนวณภาษีเงินได้ของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินโดยรวมเบี้ยเลี้ยงเข้าได้ ขอรับไว้เป็นความรู้ใหม่ครับ ขออภัยหากข้อความด้านบนทำให้หลายท่านรู้สึกไม่ดี แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 54 20:41:49 จากคุณ : ainboston เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 11:46:47

ความคิดเห็นที่ 89 ^^ แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 54 12:04:16 จากคุณ : PEE<PEE> เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 12:03:14

ความคิดเห็นที่ 90 เพื่อนเราก็เป็นลูกเรือ กบท หลายคน เข้าใจเลยว่าเพื่อนก็เหนื่อยแต่มันก็มีความสุข และพอใจในงานที่ทำ ไม่เคยเห็นมาบ่นกะปอดกะแปดแบบนี้เลย เพราะไปทำอาชีพ อื่นนะมันก็เหนื่อยเหมือนกันอาจจะเหนื่อยกว่าด้วยซ้ำ หลายๆคนอยากให้เข้าใจ อาชีพลูกเรือ เพราะตัวเองเป็นลูกเรือ ที่หลายๆคนตอบเราเชื่อนะว่าจริง แต่พูดยาก อย่างที่ข้างบนบอก เคสนี้มันเป็นเรื่อง ภายในบริษัท ซึ่งคนส่วนใหญ่ใน ณ ที่นี้ เป็นผู้โดยสาร ที่เสียค่าใช้บริการแพงสุดๆ และหลายคนเยอะมากๆได้รับการบริการที่ค่อนข้างแย่ เถียงกันไปมาไม่ได้ความ อะไรหรอก คนตั้งใจทำงานก็มีเยอะ แต่คนที่ขี้เกียจ หรือแม้แต่ใช้เส้นสายเข้ามา มันก็แยะเช่นกัน พูดเยอะไปยิ่งทำให้ลูกเรือที่ตั้งใจทำงานจริงๆเสียกำลังใจไปด้วย แซวเพื่อนว่าไม่ไปประท้วงหรอ มันบอกเหมือนได้ยิน แต่ไม่ได้สนใจ เพราะยัง อยู่เซี่ยงไฮ้ บางวันโผล่ไปโคเปน พออยู่บ้านก็เห็นไปเที่ยวกับครอบครัวและ จับธุรกิจส่วนตัวบ้าง ไม่มานั่งประท้วงอะไรแบบนี้ ทำงานเหนื่อยแล้วรีบพักผ่อน ใช้ชีวิตในวันหยุดที่มีอยู่น้อยนิดอย่างคุ้มค่า เพื่อนเราหลายคนที่ กบท ก็เป็นแบบนี้ บางคนบอกว่าเรายังรู้เยอะกว่าเลยทั้งๆที่เขาเป็นลูกเรือ  ซะงั้น - -'' ประท้วงได้ เพราะถ้าอยากจะรักษาสิทธิ แต่คนใน ณ ที่นี้ คนที่ซื้อหุ้น ณ ที่นี้ เขาก็อยากรักษาสิทธิเหมือนกัน จากคุณ : bOrEd เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 15:25:38

ความคิดเห็นที่ 91 เข้ามาขอโทษคุณ NijDoi (NijDoi), คุณมังกรธรณี, คุณ PEE ครับ ข้อความของผมไม่ค่อยจะสุภาพ  ถึงลูกถึงคนไปหน่อย  ต้องขอโทษด้วยครับ ขอให้ผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้ครับ  สู้ๆครับ :) จากคุณ : ส้มฉุน (DLC) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 16:58:41

ความคิดเห็นที่ 92 ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณคุณมังกรมณีมากนะคะที่แชร์ข้อมูล แต่เราว่าการบินไทยยังสบายกว่าสายการบินที่เราเคยทำเยอะมากเลย (เอ๊ะ หรือว่าของเราจะโหดผิดปกติหว่า 555) เอาเป็นว่าสายการบินที่เราเคยทำเนี่ย เค้าจะโหลดลูกเรามาพอดีกับจำนวนประตูเลย มี 10 ประตู ก็ลูกเรือ 10 คน เครื่อง B747 มี 12 ประตู ก็มีลูกเรือ 12 คน ถึงแม้ว่าผู้โดยสารจะเต็มทุกที่ก็ตาม(ประมาณ 370 คน) เหนื่อยรากเลือดเลยทีเดียว ตอนนั้นเราทำไปได้ไงหว่า  งงตัวเอง 555 ถ้าบิน 3 ชม. ก็ไม่มีพักเหมือนกันคะ บินกลับเลยทันที ชิว ชิว แต่ถ้าเกิน 4 ชม.กี่นาทีจำไม่ได้แล้วจะต้องมีการหยุดพักคะ แต่คำว่าหยุดพักเนี่ยส่วนใหญ่จะไม่ได้นอนค้างหรอกนะคะ ก็แค่เปลี่ยนชุดเป็นชุดผู้โดยสารแล้วก็นั่งกลับเลย สวัสดิการเหรอคะ อืม ค่ารักษาพยาบาลเบิกได้คนเดียว ครั้งละ 800 ได้ 30 ครั้งต่อปี นอกจากนั้นออกเองหมดคะ วันหยุดได้ปีละ 12 วันเหมือนกัน แต่ก็ขอยากมากอย่างที่คุณมังกรมณีบอกเลยคะ ชอบอ้างว่าคนไม่พอ ตั๋วฟรี ทำงานครบสองปีได้ตั๋วฟรีใบนึง ส่วนตั๋ว ID หรือว่าจ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์นั้นจำรายละเอียดไม่ได้แล้วคะ อาหารที่เสิร์ฟเป็นอาหารร้อนคะ บินไกลก็ 2 มื้อ ไม่รวมแซนด์วิส 1 ครั้ง ขนมกรุบกรอบ พร้อมน้ำเสิร์ฟทุกครึ่งชั่วโมง โดยประมาณ เครื่องดื่ม จัดเต็มคะ เย็นร้อน เบียร์ ไวน์ คอทเทล มีหมดคะ ที่สำคัญคือฟรี ชงเหล้ากันมันมาก ขอบอก ดิ้วตี้ฟรีมีครบ ไฟล์ยาวเข็นขายถึงสองรอบด้วยกัน โฮกกกกก จะเหนื่อยไปใหนเนี่ย บอกเยอะขนาดนี้ ต้องมีใครเดาออกบ้างแล้วแน่ๆเลยว่าสายการบินอะไร เป็นที่นิยมของคนไทยเวลาไปยุโรป และอเมริกาเลยคะ เพราะตั๋วถูก แต่ไม่ต้องพิมพ์ถามนะคะเพราะเราจะไม่เฉลย 555 ทั้งหมดที่เล่ามา เราไม่ได้อยากจะเปรียบเทียบอะไรกับใครนะคะ แค่อยากจะแชร์ข้อมูลของสายการบินอื่นดูบ้าง ขอรับรองว่าที่เล่ามาเป็นความจริงทุกประการ ว่าแล้วก็ทนทำได้อยู่ตั้งหลายปีเนอะเรา   (-__-") จากคุณ : touch_sky_like_bird เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:39:46

ความคิดเห็นที่ 93 คุณ airboston ครับ ทุกวันนี้ perdium นํามาคํานวณภาษีด้วยครับ ทํามานานแล้วครับ จากคุณ : เขียนบน iPhone (COLD CUT) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:45:00

ความคิดเห็นที่ 94 พนักงาน  tg สบายมาก ๆ ประท้วงทำไม เพื่อนเราเพิ่งได้ flight paris ไปอยู่ตั้งหลายวัน เที่ยวเพลินเลย จนเรายังงงว่าไปบินจริงเหรอ นึกว่าไปเที่ยวเอง :) จากคุณ : maldive เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:01:41

ความคิดเห็นที่ 95 อ้อ ขอเพิ่มเติมนิดนึงนะคะ เห็นเราเข้าม่าบ่นๆสายกายการบินที่เราเคยทำซะเยอะเชียว จริงๆแล้วเราไม่ได้เกลียดหรืออะไรกับบริษัทเลยนะคะ เราคิดอยู่เสมอว่าถ้าวันนั้นเค้าไม่เลือกเรา เราจะได้เป็นแอร์ไหม จะมีโอกาสได้ไปเที่ยวในหลายๆประเทศไหม สิ่งที่บริษัทได้ให้เรา สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเราไม่ใช่ "เงิน" แต่มันคือ " ประสบการณ์" ที่ไม่สามารถซื้อได้ อาจจะฟังดูเพ้อฝัน แต่เราคิดอย่างนั้นจริงๆ ไม่ใช่เงินไม่สำคัญ แต่เพราะเงินเดือนที่ได้ในแต่ละเดือนถ้าเทียบกับงานอื่นถือว่าไม่น้อยเลย ที่ต้องลาออกเพราะว่ามันเป็นสายการบินต่างชาติ กลัวว่าแก่แล้วจะหางานออฟฟิตยาก ว้าาาาาา คิดถึงช่วงเวลาบินเหมือนกันนะเนี่ย จากคุณ : touch_sky_like_bird เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:17:08

ความคิดเห็นที่ 96 คคห92 ครับ ***Crew Composition-Service Procedure -Hardware ของแต่ละสายการบิน คงเอามาเทียบกันไม่ได้หรอกครับ มันต้องดูลงไปในรายละเอียดทุกส่วนที่เกี่ยวข้องในด้านบริการ ไม่ขอกล่าวถึง ***ไฟลท์ BKK-PAKISTAN -BKK ชั่วโมงบินประมาณ 5 ชั่วโมง เราก็บิน ไป-กลับ Active ทั้งไปและกลับครับ ไม่มี Passive ขาใดขาหนึ่งครับ อาจจะมีแบ่งพักครับแล้วแต่หัวหน้า ถ้าโชคดีก็ได้พัก รวม Duty ท่ั้งหมดแล้วประมา่ณ 14 ชั่วโมงครับ ถ้าไฟลท์ที่บินข้ามคืน(ออกเย็น ถึงเช้า) จะมี extra crew 3-4 คน ***ปักกิ่งเราก็บิน ไป-กลับ ครับ ไม่มีพักครับ ลูกเรือชุดเดียวทั้งไปและกลับ Duty ประมาณ 12-13 ชั่วโมง ***ก่อนหน้านี้ FUKUOKA ก็บินไปกลับครับ ลูกเรือชุดเดียวเช่นกัน จนพวกเราบางคนเรียก port นี้เป็น ฟูกูกระอัก จากคุณ : เขียนบน iPhone (COLD CUT) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:53:12

ความคิดเห็นที่ 97 >อย่างบินไปญี่ปุ่นนี่ไม่รู้การบินไทยขนนักบินไปกี่คน แต่ผมเห็นมากกว่า2คน น่าจะเป็น DEADHEAD นะครับ นักบินเดินทางในหน้าที่ กรณีนี้ปกติสายการบินทั่วไป นั่งชั้นหนึ่งกันทุกคนสำหรับนักบิน จากคุณ : WONDERFUL_DAY เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 23:22:19

ความคิดเห็นที่ 98 คห.94 คะ เรื่องสบายนี่เราผดส.มาเห็นแค่ปลายทางรึเปล่าคะ เห็นเมื่อลงจากเครื่องแล้ว จากที่อ่านหลายๆความเห็น เราว่าแต่ละอาชีพมีความยากลำบากเหมือนกันทั้งนั้น ไม่เห็นจะต้องมาเปรียบเทียบว่าใครหนักกว่าใคร ใครๆก็รักอาชีพของตัวเอง อาชีพอื่นๆ ใครทำก็ต้องบ่นเหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง นี่หลายๆความเห็นก็ช่างใจร้าย ไม่พอใจก็ลาออกสิ ถ้าคุณทำงานมาสักระยะอย่างเขา ในวันที่อายุมากขึ้น การหางานใหม่ก็ใช่ว่าจะง่ายตามนะคะ เราเข้าใจว่าในบางที เวลาที่บริษัทใดๆเกิดปัญหา พนง.ก็ต้องยอมรับที่จะต้องลำบากมากขึ้น เพียงแต่บางครั้งก็อยากให้มันมีความสมเหตุสมผล จะประหยัดก็ให้ถูกจุด อย่างที่คุณมังกรธรณีเล่ามา การที่บริษัท มาตัดในสิ่งที่ ผดส.ควรได้ พอของไม่มีก็ให้พนง.เขาบริการอย่างไทย ยิ้มแบบไทยๆ ขอโทษยังไง ผดส.ถึงจะหายโกรธกับเรื่องเอาเปรียบผดส. แบบนี้ เท่าที่อ่านมาเราว่าตัดคนเขายังพอสู้ แต่จะเอาคนน้อย ได้งานเยอะ ผดส.ประทับใจ ทั้งที่อะไรๆมันไม่เอื้ออำนวย มันไม่เกินไปหน่อยเหรอคะท่านผู้บริหาร เราเชื่อว่าคนดีๆก็มี คนไม่ดีก็แยะ เราคนนอกอย่าเพิ่งไปเหมาว่าเขาเป็นอย่างไรจากเพียงแค่การที่เขาใช้ชีวิตไม่เหมือนเราเลยค่ะ เอาใจช่วยให้กบท.และเหล่าพนง.ผ่ารพ้นวิกฤติเหล่านี้ไปได้นะคะ จากคุณ : มานี เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 23:41:38 A:115.87.106.119 X: TicketID:320456

ความคิดเห็นที่ 99 ไฟลท์ไปญี่ปุ่น เกาหลี ใช้้นักบิน 2 คนครับในไฟลท์กลางวัน ส่วนบินกลางคืนใช้ 3 คน จากคุณ : เขียนบน iPhone (COLD CUT) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 08:58:17

ความคิดเห็นที่ 100 เรียนความเห็น 88 ครับ รายได้ผมปีที่แล้วทั้งเงินเดือนละค่าเบี้ยเลี้ยง (perdiem) อยู่ราวๆ 4 แสน 9 หมื่นบาทครับ และทั้งหมดถูกนำมาคำนวนเพื่อจ่ายภาษีครับ ไม่ได้แยกเป็นเงินเดือน และ perdiem แต่อย่างใด จากคุณ : สุรารำพัน เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 21:04:08

ความคิดเห็นที่ 101 น่าเศร้าที่เห็นพวกคุณหลายๆคนไม่ได้รู้สึกภาคภูมิใจ กับการที่ประเทศเล็กๆอย่างประเทศไทยของเรา มีสายการบินที่เป็นที่รู้จักและเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วโลก จะมีสักกี่เรื่องกันเชียวที่เราจะติดอันดับต้นๆของโลก จากคุณ : I Fly Thai เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 00:17:52 A:124.120.250.146 X: TicketID:321023

ความคิดเห็นที่ 102 มีคนโรคจิตหลายคนพยายามจะกระทืบการบินไทยให้จมดิน ทั้งๆที่มันจมอยู่แล้ว จากคุณ : ทำงานตามเงินเดือน ทำดีแต่พอตัว (the little white boy) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 03:44:45

ความคิดเห็นที่ 103 อ่านๆดูแล้ว คนบ่น TG กันเยอะนะ งานบริการถ้าทำดีจริงก็เสมอตัว แต่ถ้าบริการแย่ไม่กี่คน ก็จะเป็นที่พูดถึงกันเยอะ ส่วนของที่เคยได้แล้วไม่ได้ ก็พยายามเรียกร้องให้ได้เท่าเดิม แต่อาจจะไม่เคยคิดว่าได้มากเกินนานแล้ว ไม่รู้ว่าเพื่อนพูดจริงหรือป่าว ว่า OT วันธรรมดาได้ตั้ง 3 เท่าแน่ะ ถ้าจริงอยากไปอยู่ด้วยจัง จากคุณ : BP เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 09:31:18 A:125.25.12.35 X: TicketID:314038

ความคิดเห็นที่ 104 เยอะเนอะ จากคุณ : KinkyVans เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 13:45:07