ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องนี้ต้องถามคนที่ทำงานอยู่ที่นั่น NGO จะเข้าใจความรู้สึกของคนทำงาน ที่ต้องทนอยู่กับความลำบากได้อย่างไร ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะมีใจรักธรรมชาติแค่ไหน แต่เค้าก็คงไม่อยากลำบากกว่าคนที่ทำงานอยู่หน่วยงานอื่นมากนักหรอกครับ จากคุณ : platukem เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 12:19:23

ความคิดเห็นที่ 2 แค่เสาและสายไฟฟ้าสำหรับหน่วยงานเล็กๆ คงไม่น่าจะรบกวนสิ่งแวดล้อมมากนักนะครับ เพราะสายไฟฟ้ามันก็ย่อมจะต้องไปกับถนนอยู่แล้ว ซึ่งถนนมันก็รบกวนสิ่งแวดล้อมไปแล้ว การมีเสาไฟฟ้าเพิ่มก็คงไม่เป็นการรบกวนสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่ เรื่องสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ กับ ความเจริญ ก็ต้อง balance กันนิดนึงครับ ส่วนเรื่อง เชียงคานกับ7-11 , ภูกระดึงกับกระเช้าลอยฟ้า ถนนกับเขาใหญ่ มันเรื่องใหญ่กว่าเรื่องนี้มากมายนัก จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 12:26:28

ความคิดเห็นที่ 3 หน่วยงานใดก็ตาม ที่นอกเหนือจาก ป่าไม้ ละก็ เข้าป่าไหน ป่านั้นราบครับ หมดสภาพ แน่ๆ จากคุณ : ยังมีหวัง เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 12:32:48

ความคิดเห็นที่ 4 ระบบโซล่าเซลส์มันมีระบบสำรองไฟด้วยไม่ใช่หรือครับ น่าจะเพิ่มโซล่าเซลส์+ระบบสำรองไฟ ให้เพียงพอ ช่วงหน้าฝนแดดน้อยค่อยใช้เครื่องปั่นไฟ ในป่ามันก็น่าจะลำบากบ้าง ถ้าสบายเดี๋ยวคนก็แห่กันเข้าไป จากคุณ : กิ่งก้ามปู เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 12:34:17

ความคิดเห็นที่ 5 อยากให้คนคัดค้านไปใช้ชีวิตที่นั้นซักหนึ่งปี หลังจากนั้นถ้ายังค้านอีกผมก็ยอมครับ จากคุณ : ชักธง1 เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 13:01:37

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 5 พวกดัดจริตอยุ่กันแต่ในเมืองจะไปรู้อะ:-)รกับคนที่เค้าใช้ชีิวิตอยู่แถวนั้นมาตั้งแต่เกิด NGO มันก็ค้านเค้าไปทุกเรื่อง ไม่ค้านไม่มีเงินใช้ จากคุณ : ก็เธอไปอยู่ไหนมาที่รัก เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 13:10:36

ความคิดเห็นที่ 7 ไฟฟ้าที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เสาไฟฟ้าแรงสูงจากเขื่อนมันก็ตัดผ่านป่ามาทั้งนั้นแหละ ถ้าอยากอนุรักษ์กันจริงๆ ก็ให้ทุกบ้านติดโซล่าเซลสำรองไฟใช้กันเอง ไม่ต้องสร้างเขื่อน ไม่ต้องทำลายป่า ไม่ต้องโยงสายไฟแรงสูง สิ่งที่เกินความต้องการของตัวเองคือสิ่งที่ไม่ดี ฉันไม่เห็นด้วย แล้วก็นิยามตัวเองว่านักอนุรักษ์ จากคุณ : Zurg เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 13:36:09

ความคิดเห็นที่ 8 #4 เรื่องรายละเอียดของระบบไฟฟ้า หนูก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นยังไง ตัวสำรองไฟ หมายถึงแบตเตอรี่ที่เก็บพลังงานหรือป่าวคะ  มีอยู่แล้วนะคะ ส่วนถ้าหน้าแดดน้อย ให้ใช้แต่เครื่องปั่นไฟ มีหวังอุปกรณ์ไฟฟ้าในสำนักงาน เสื่อมประสิทธิภาพเร็วแน่นอน เปลืองน้ำมันด้วย แต่ไม่รุ้ว่า ถ้าเกิดมีไฟฟ้าเข้ามาจริงๆ ไม่รู้ว่าเปลืองน้ำมัน กับเปลืองไฟฟ้าอันไหนดีกว่ากัน จากคุณ : เป็ดน้อยแห่งบ้านตีนเป็ด เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 13:50:27

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเป็นข้าราชการที่อยู่ในจังหวัดอุทัยธานีครับ ไปมาหลายครั้งแล้วที่สำนักงานเขตห้วยขาแข้ง ความเห็นส่วนตัวนะครับเรื่องถ้าจะให้มีไฟฟ้าในหน่วยฯ ของแสดงความคิดเห็นข้อดีขอ้เสียครับ  ข้อดี : สะดวก สะบาย จนท สามารถปฏิบัติงานได้อาจจะดีมากยิ่งขึ้น ประหยัดในเรื่องน้ำมัน และไม่เกิดเสียงดังจากการปั่นกระแสไฟ  ข้อเสีย :  1. ระหว่างทางจากเสาไฟปากทางเข้าจนถึงสำนักงานเขตฯ ระยะทางมากกว่า 10 กิโลเมตร (จำไม่ได้แล้วว่ากี่กิโลเมตร) ต้องผ่านป่า และถ้าท่านที่เคยไปจะพบว่าระหว่างทางจะมีทางด่านสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นช้างที่จะเห็นรอยเท้า อุจจาระ เป็นระยะๆ มีลิงซึ่งผมเห็นทุงครั้งที่ผ่านไป กวางอันนี้พบได้บ่อยครับ หรือบางครั้งก็มีผู้พบสัสว์นักล่าเช่นเสือ ต้องดูว่าถ้ามีสายไฟจะกระทบกับชีวิตของสัตว์เหล่านี้ไหม  2. ระหว่าทางนั้จะมีการทำวิจัยเท่าที่ผมทราบก็จะมีเรื่อง หญ้าระบัด การศึกษาความชุกของสัตว์โดยให้บ่อน้ำมาตั้งไว้(ไม่แน่ใจ) การศึกษาเหล่านี้จะกระทบหรือไม่  3. ผมเคยไปครั้งแรกเมื่อปี 2537 ขณะนั้นระหว่างทางยังมีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมต้นไม้ก็ต้นเล็กๆ มีไฟป่าประจำ แต่ปัจจุบันเป็นป่าที่สมบูรณ์มาก ต้นไม้ใหญ่มากมาย การที่จะต้องก่อสร้างแบบนั้นจะกระทบระบบนิเวศ หรือไม่  อย่าลือว่าห้วยขาแข้งเป็นมรดกโลก เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่มีความหลากหลายทางพันธุกรรมมาก การเปลี่ยนแปลงใดๆต้องคิดให้ดีครับ ผมไม่ใช่ NGO แต่ถ้าลองชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียแล้ว ผมเกรงว่าจะไม่คุ้มกันนะครับ ... คนอุทัยธานีที่รักห้วยขาแข้ง  3. จากคุณ : ปูลู เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 14:49:18

ความคิดเห็นที่ 10 ไฟฟ้ากับห้วยขาแข้ง  คนละกรณีกับ เชียงคานกับ7-11 , ภูกระดึงกับกระเช้าลอยฟ้า ถนนกับเขาใหญ่ แน่ ๆ ครับ มีไฟฟ้าใช้ ก็เพิ่มความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ครับ ส่วนตัวแล้วคิดว่า การตัดถนนเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จะสร้างปัญหาให้กับสัตว์ป่ามากกว่า แต่ห้วยขาแข้ง มีถนนอยู่แล้ว วางเสาเดินสายไฟเข้าไป คงไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรมากมาย จากคุณ : ยุง บิน ชุม เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 14:55:52

ความคิดเห็นที่ 11 คือเคารพในความเห็นต่างนะครับ แต่คุณ ก็เธอไปอยู่ไหนมาที่รัก ใช้คำว่าดัดจริตแรงไปไม๊ครับ กรุณาเป็นสุภาพชนหน่อยครับ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 54 14:58:20 จากคุณ : กิ่งก้ามปู เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 14:56:45

ความคิดเห็นที่ 12 ไฟฟ้า ประปาเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ควรจะต้องมีนานแล้วด้วยซ้ำ จากคุณ : CK-ONliNE เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 15:02:40

ความคิดเห็นที่ 13 ทำเสาไม่ใหญ่มากไปตามทางรถเดิมก็โอเคแล้ว ยังไงก็ขอให้สภาพแวดล้อมมาก่อน อย่าไปรวบกวนสัตว์หรือวิถีชีวิตตั้งเดิมของเขา การทำอะไรในระดับพอดีๆมันก็ดีทั้งนั้น จากคุณ : ปลายเทียน เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 15:36:50

ความคิดเห็นที่ 14 คงต้องดูว่าที่NGOค้านนั้น ค้านด้วยสาเหตุอะไร ส่วนการมีสาธารณูปโภคพื้นฐาน นั้นถือเป็นสิ่งที่ภาครัฐ  หรือผู้ที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายพึ่งให้จัดการบริการกับประชาชนให้ทั่วถึง คงไม่เฉพาะที่ห้วยขาแข้ง ผมเข้าใจว่าหลายความเห็นที่นี้คงไม่อยากให้ธรรมชาติของป่า ถูกทำลายไปด้วยไฟฟ้า ที่มาพร้อมกับความสะดวกสบายความศิวิไลซ์  และที่ลืมไม่ได้ก็คือกลุ่มนายทุน ซึงก็คงจะไม่ต่างจากสวนผึ้งในเวลานี้มากนัก  ทำให้เรามีบทเรียนแล้ว ซึ่งภาครัฐต้องนำไปขบคิดหาวิธีป้องกันต่อไป แต่ออกจะเห็นแก่ตัวไปหน่อยไหมที่เราอยู่ในเมืองได้ใช้ ไฟฟ้าแบบสบายๆ ในขณะที่คนในอีกพื้นที่หนึ่ง อยากจะใช้บ้างแต่เรากับบอก ว่า  "อย่าเอาไฟฟ้าเลยเก็บธรรมชาติไว้ดีกว่า" ถ้าเป็นคุณจะตอบว่าอย่างไร ?. จากคุณ : 1ดื้อและ1ซน เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 15:49:16

ความคิดเห็นที่ 15 ผมอยากจะเสนอความคิดเห็นนะครับ ถ้ามันจำเป็นมากละก็ การฝังดินน่าจะดีนะครับ เพราะคนอุทัยฯ ร่วมกันต่อสู้กว่าจะได้ป่าผืนนี้ และสมบูรณือย่างนี้นะครับ เห็นด้วยนะครับกับความเห็นที่ว่า ห้วยขาแข้ง ไม่เหมือนเขาใหญ่นะครับ ไม่เหมือนภูกระดึง ที่นี่ทุกอย่างควรจะต้องเป็นธรรมชาติมากที่สุดครับ อย่าลืมคุณสืบนะครับ อุสาห์เอาชีวิตเข้าแลกมา ถ้าเรามีทางออกอย่างอื่นที่ดีกว่าและไม่กระทบกับสัตว์ป่าและต้นไม้ควรจะเลือกทางนั้นครับ  ผมว่าถ้าจะต้องเพื่มโซล่าเซลล์ เพื่อให้ไฟพอใช้ก็เป็นสิ่งที่คุ้มค่าและน่าลงทุนครับ น่าจะเลือกช่องทางนี้ก่อนที่จะไปทำอะไรที่กระทบกับสภาพปัจจุบัน จากคุณ : ปูลู เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 15:58:44

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบ คห.14 ครับ ไฟฟ้าที่ว่านี่ผมเข้าใจว่าเป็นไฟฟ้าเข้าไปในหน่วยรักษาพันสัตว์ป่าเท่านั้นครับ เพราะในนั้นไม่มีประชาชน และเข้าใจว่าประชาชนที่อยู้รอบป่ามีไฟใช้กันหมดแล้วครับ แค่สำนักงานแค่นั้น ต้องคิดให้ดีครับ ที่นั่นมีแต่เจ้าหน้าที่ครับ ถ้าจะบอกว่าเจ้าหน้าที่ก็อยากสะดวกสะบายบ้าง ก็น่าเห็นใจอยู่ครับ แต่มีอีกหลายที่ เช่นตามเกาะต่างๆสำนักงานก็ไม่มีไฟเช่นกันครับ หรือแม้แต่ภูกระดึงเอง อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสความสมบูรณ์ของป่าจากปากทางจนถึงศุนย์ครับ นึกภาพว่าถ้าต้องมีสายไฟแล้วน่าเสียดายครับ ผมอยากจะเสนอแนวทางดังนี้ครับ 1. เพิ่มการผลิตพลังงานไฟฟ้าในศูนย์ก่อน เช่น โซล่าเซลล์ หรือปั่นไฟ ให้เพียงพอกับความต้องการ 2. จำเป็นต้องมีก็ให้กระทบสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดครับ เช่น ฝังดิน เป็นต้นครับ จากคุณ : ปูลู เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 16:10:45

ความคิดเห็นที่ 17 ปรับปรุงโซล่าเซลให้สามารถผลิตพลังงานได้มากขึ้น เสริมพลังลมเข้าไปแล้ว จนสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอกับความต้องการ ปักเสาไฟเข้าไปได้ไฟฟ้าเยอะก็จริง แต่อย่าลืมงบประมาณที่ใช้ปักเสา และสายส่ง เพราะระยะทางไม่ใช่ใกล้ๆ เลย แถมต้องตัดต้นไม้บางส่วนอีก จากคุณ : mamao เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 16:40:41

ความคิดเห็นที่ 18 ถือว่าเป็นกระทู้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นนะคะ ไม่ใช่กระทู้ประท้วง หรือ เรียกร้องอะไร คนข้างในอยากให้มีก็จริง แต่ไม่มีก็อยู่ได้ ^^ อยู่แบบทุกวันนี้ก็ดีนะ แต่ถ้ามีไฟฟ้า ก็อาจจะ " ดีกว่า " เฉยๆค่ะ เรื่องระบบพลังงานในสำนักงานเขตฯ มีเพียงพอแน่นอนค่ะ แต่อุปกรณ์ มันย่อมมีวันเสื่อมประสิทธิภาพไปเท่านั้นเอง คงไม่สามารถให้พลังงานที่มีคุณภาพเต็มร้อยได่ตลอดเวลา ก็ส่งผลถึงจำนวนงบประมาณที่ต้องนำมาซ่อมแซม  ซึ่งก็รู้ๆอยู่ ระบบราชการไทย... จากคุณ : HKK (เป็ดน้อยแห่งบ้านตีนเป็ด) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 17:18:24

ความคิดเห็นที่ 19 ผมไม่ได้เข้าไปอยู่ในนั้นก็จริง เพียงแต่เคยเข้าไปชั่วครั้งชั่วคราวเมื่อนานมาแล้ว แต่ก็พยายามเข้าใจ แบบใจเขาใจเรานะครับ งานรักษาป่าคงไม่ใช่งานสบาย และก็คงไม่ง่าย คนที่ทำก็ต้องมีใจรักไม่งั้นคงทำไม่ได้ แต่อยากให้คิดให้รอบคอบ ถ้ามีทางเลือกอื่นแม้จะแพงกว่า ลำบากกว่า แต่ถ้าช่วยรักษาสภาพแวดล้อมดีกว่า ก็น่าจะเลือกทางนั้น จากคุณ : กิ่งก้ามปู เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 17:25:22

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่เห็นด้วยอะค่ะ ก็คงจะพอๆกะการสร้างกระเช้า ที่ภูกระดึง อะมั๊ง เราจะนำความเจริญไปสู่ป่าทำไมกัน ไม่เข้าใจจริงๆ พอมีไฟฟ้าเข้าไปแล้ว ต่อไปก็มีน้ำประปา จากนั้นก็ให้ผู้คนเข้าไปอยู่อาศัยต่อไป แค่นี้ยังเบียดเบียน ธรรมชาติไม่พอกันอีกหรือยังไง จากคุณ : misterku เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 19:22:30

ความคิดเห็นที่ 21 มีไฟฟ้าก็ดีนะคะ   คงไม่เกะกะมากเท่าไหร่หรอก จากคุณ : อ้วนน้อยศิษย์เจ้าแม่ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 19:26:38

ความคิดเห็นที่ 22 เครื่องปั่นไฟสร้างทั้งมลภาวะทางเสียงและอากาศ อีกทั้งยังต้องมีรถวิ่งส่งน้ำมันอีกด้วย เครื่องปั่นไฟขนาดกลางกินไฟไม่น้อย และไม่มีทางที่โซลาเซลจะจ่ายไฟให้ได้เพียงพอทั้งวัน แบตเตอรี่ก็เป็นพิษเมื่อหมดอายุอีก ต้องถามว่าเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าเพื่ออะไรบ้าง ถ้าเพื่อการทำงาน ใช้กับอุปกรณ์บางอย่าง เช่นวิทยุสื่อสาร หรือ โทรศัพท์มือถือ ซึ่งอาจต้องใช้ทั้งวัน (ทั้งคืน) การสร้างเสาไฟฟ้าเข้าไปคงเสียหายน้อยกว่าการใช้เครื่องปั่นไฟและโซลาเซลในระยะยาว ยังไงเสาไฟก็ไปตามแนวถนนอยู่แล้ว มันไม่ได้เสียหายไปมากกว่านี้หรอก จากคุณ : Miami_Dolphin เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 19:45:14

ความคิดเห็นที่ 23 ของบางอย่างมันไม่เข้าพวก ก็อย่าดันทุรังให้มันมีเถิด ไอ้ที่ๆควรมีดันไม่คิดทำให้มีให้สมบูรณ์ หน่ายใจเมืองไทยก็ตรงนี้ จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 20:51:21

ความคิดเห็นที่ 24 มันเป็นเรือ่งที่พูดกันมานานมากๆ แล้วค่ะ ปัจจุบัน ทุกคนก็พอใจที่จะอยู่แบบนี้มากกว่า ^___^ ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นนะคะ จากคุณ : เด็กหญิงมะเดี่ยว เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 16:59:55