ความคิดเห็นที่ 1 ทริปนี้เราใช้เส้นทางการเดินทางจากกรุงเทพ มุ่งหน้าอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท และสู่จุดหมายปลายทางที่เมืองอู่ไทย หรือ "อุทัยธานี" เริ่มทริปด้วยการแวะไหว้พระที่อยุธยาก่อนเพื่อความเป็นศิริมงคลที่ "วัดใหญ่ชัยมงคล" จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 14:19:07

ความคิดเห็นที่ 2 วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่สมัยพระเจ้าอู่ทอง ภายในมีวิหารพระพุทธไสยาสน์ซึ่งมีคนมานมัสการกันเยอะมาก เพราะมีความเชื่อว่าถ้าอธิษฐานและนำเหรียญไปติดตรงบาทของพระ หากเหรียญติดอยู่ หมายความว่าคำอธิษฐานจะสัมฤทธิ์ผล ซึ่งมีนักท่องเที่ยวนิยมมาติดเหรียญเพื่ออธิษฐานขอพรเป็นจำนวนมาก จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 14:24:50

ความคิดเห็นที่ 3 หลังจากไหว้พระขอพรกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินทางต่อสู่ "ตลาดน้ำคลองสระบัว" ซึ่งเป็นตลาดน้ำเปิดใหม่ มีการแสดงพื้นบ้านให้ชมกันด้วย ทางเข้าตลาดจะต้องเดินผ่านสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งทางตลาดได้ทำทางเดินด้วยไม้ไผ่ไว้อย่างสวยงาม จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 14:27:03

ความคิดเห็นที่ 4 ทางเข้าด้านหน้าจะมีน้องควายเผือกยืนต้อนรับอยู่ จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 14:29:20

ความคิดเห็นที่ 5 ภายในตลาดจะเป็นลานแสดงกลางสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งภายในอาคารรับชมการแสดง จะมีการขายอาหารพื้นบ้านหลากหลายชนิด มีให้เลือกมากมาย สนนราคาอยู่ที่จานละ 30-50 บาท แต่ต้องแลกคูปองด้านหน้าก่อน และต้องเสียค่าเข้าชมการแสดงอีกคนละ 50 บาท (รวมน้ำสมุนไพรรีฟิล) จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 14:32:12

ความคิดเห็นที่ 6 ภายในตลาดจะเป็นลานแสดงกลางสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งภายในอาคารรับชมการแสดง จะมีการขายอาหารพื้นบ้านหลากหลายชนิด มีให้เลือกมากมาย สนนราคาอยู่ที่จานละ 30-50 บาท แต่ต้องแลกคูปองด้านหน้าก่อน และต้องเสียค่าเข้าชมการแสดงอีกคนละ 50 บาท (รวมน้ำสมุนไพรรีฟิล) จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 14:32:27

ความคิดเห็นที่ 7 บริเวณที่ขายอาหาร จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 14:38:44

ความคิดเห็นที่ 8 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 54 15:17:43 จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 14:42:33

ความคิดเห็นที่ 9 การแสดงจะมีวันละ 4 รอบ โดยสลับหมุนเวียนเรื่องที่แสดงไม่ซ้ำกัน ใช้เวลาในการแสดงรอบละครึ่งชั่วโมง รอบที่ 1 : 12.00 น., รอบที่ 2 : 14.00 น. ,รอบที่ 3 :15.30 น. , รอบที่ 4: 17.00 น. จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 14:51:13

ความคิดเห็นที่ 10 รอบการแสดงที่เราชมในวันนี้ คือเรื่อง "สุดสาคร" โดยการแสดงจะประยุกต์และปรับเปลี่ยนบทพูดให้มีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 14:53:36

ความคิดเห็นที่ 11 พระอภัยมณีกับนางยักษ์ผีเสื้อสมุทรซึ่งแปลงร่างเป็นหญิงงาม จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 14:54:22

ความคิดเห็นที่ 12 ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 14:55:36

ความคิดเห็นที่ 13 บริเวณที่นั่งของผู้ชม เป็นแคร่ไม้ไผ่ใหญ่ๆ นั่งรับลมสบายมากๆ กินไป ดูการแสดงไป ลมพัดเอื่อยๆ น่านอนเป็นอย่างยิ่ง ถ้าไม่ติดว่าจะต้องไปต่อคงขอนอนก่อนซักงีบบบ จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 14:55:53

ความคิดเห็นที่ 14 ดอกบัวบานอยู่เต็มหนองน้ำ สมชื่อ "คลองสระบัว" จริงๆ จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 14:57:12

ความคิดเห็นที่ 15 ยังไม่เคยไปตลาดนี้เลย รอชมค่ะ^^ จากคุณ : สามแซ่ เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 14:57:49

ความคิดเห็นที่ 16 ขอตามไปเที่ยวด้วยคนนะครับ จากคุณ : chartchy เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:00:29

ความคิดเห็นที่ 17 จากตลาดน้ำคลองสระบัว เราเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองอุทัย และเมื่อใกล้ถึงทางเข้าเมืองก็จะมีข้อความ "เมืองพระชนกจักรี" เป็นเสมือนป้ายต้อนรับให้เรารู้ว่าได้เดินทางมาถึงดินแดนแห่งพระชนกของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรีแล้ว ซึ่งข้อความนี้เป็นวลีหนึ่งในคำขวัญของจังหวัดอุทัยธานีด้วย ที่มีอยู่ว่า "อุทัยธานี เมืองพระชนกจักรี ปลาแรดรสดี ประเพณีเทโว ส้มโอบ้านน้ำตก มรดกโลกห้วยขาแข้ง แหล่งต้นน้ำสะแกกรัง ตลาดนัดดังโคกระบือ" จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:02:37

ความคิดเห็นที่ 18 คุณเล็กทาโร่ คุณสามแซ่ คุณ chartchy : ตามมาเลยค่ะ แต่เกาะแน่นๆ นะคะ เพราะขับซิ่ง อิอิ จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:04:51

ความคิดเห็นที่ 19 มาถึงเมืองอุทัยปุ๊บ ก่อนอื่นต้องขอขึ้นไปชมวิวเมืองแบบพาโนรามาซะก่อน และที่ๆ จะเห็นเมืองอุทัยไปจนจรดแม่น้ำสะแกกรังได้อย่างสวยงามที่สุด ก็คือ "เขาสะแกกรัง" นั่นเอง ซึ่งการขึ้นเขาก็สะดวกเพราะมีทางสำหรับรถยนต์ขึ้นถึงบนเขาได้เลย จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:07:13

ความคิดเห็นที่ 20 บนเขาสะแกกรังยังเป็นที่ตั้งของวัดสังกัสรัตนคีรี ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอุทัยธานีด้วย ซึ่งวัดแห่งนี้มีประเพณีสำคัญคือ การตักบาตรเทโว ซึ่งจัดขึ้นในช่วงวันออกพรรษา โดยพระสงฆ์จำนวนมากจะลงจากเขาสะแกกรังมารับบิณฑบาตรจากประชาชนด้านล่าง  โดยสมมติมณฑปบนยอดเขาสะแกกรังเป็น “สิริมหามายากูฎคาร” ที่พระพุทธเจ้าทรงเทศน์โปรดมารดา แล้วเสด็จกลับสู่โลกมนุษย์ จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:12:08

ความคิดเห็นที่ 21 นอกจากนี้ภายในวัดยังประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองให้ประชาชนได้บูชาอีกด้วย จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:12:55

ความคิดเห็นที่ 22 ไหว้พระเสร็จแล้ว ใครอยากจะทำบุญควบกับการทดสอบความแม่นยำก็สามารถทำบุญโดยการโยนเหรียญให้ลงไปในรูบนท้องของพระสังกัจจายได้ เรียกว่าเป็นการทำบุญที่ได้ลุ้นไปด้วยในตัว จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:16:28

ความคิดเห็นที่ 23 ตกเย็น แดดเริ่มหลบ อากาศเริ่มเย็นสบาย ก็ได้เวลาไปเดินเล่นชิลๆ ชิมอาหารและบรรยากาศแบบย้อนยุคกันที่ "ตลาดนัดตรอกโรงยา" หรือชื่อภาษาจีน “เช็กเกี๋ยกั้ก” เป็นความริเริ่มของชาวชุมชน กับเทศบาลเมืองอุทัยธานี ที่ต้องการอนุรักษ์ฟื้นฟูชุมชนเก่าแก่แห่งนี้ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนาธรรมของจังหวัดฯ โดยจัดกิจกรรมถนนคนเดินทุกวันเสาร์ของสัปดาห์ เวลา 15.00-22.00น.เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ได้ออกมาร่วมกิจกรรม จับจ่ายซื้อสินค้า พบปะพูดคุยและเปลี่ยนความคิดเห็น และยังมีการแสดงดนตรีไทยโดยนักเรียน และกิจกรรมสำหรับเด็กๆ เช่น วาดภาพระบายสี และการฝึกอาชีพให้อีกด้วย เรียกว่ามาที่เดียวได้ทั้งชม ชิม และช๊อป ครบทุกอย่าง จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:24:02

ความคิดเห็นที่ 24 มีสารพัดของย้อนยุคให้ได้ชมกัน อย่างหีบเพลงโบราณในภาพ จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:25:26

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้วยชามรามไห ลวดลายโบราณ สมัยคุณพ่อคุณแม่ใช้กัน จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:26:15

ความคิดเห็นที่ 26 กิจกรรมสำหรับน้องๆ หนูๆ ฝึกวาดภาพระบายสี จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:29:25

ความคิดเห็นที่ 27 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 54 15:37:34 จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:32:51

ความคิดเห็นที่ 28 กิจกรรมสำหรับน้องๆ หนูๆ ฝึกวาดภาพระบายสี จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:34:25

ความคิดเห็นที่ 29 กิจกรรมสำหรับน้องๆ หนูๆ ฝึกวาดภาพระบายสี จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:35:04

ความคิดเห็นที่ 30 ผิดพลาดทางเทคนิคต้องขออภัยค่ะ มาต่อกันที่ขนมถ้วยแคะ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารโบราณของชาวจีน ปัจจุบันหาทานได้ยากแล้ว แต่ยังมีขายอยู่ที่ตรอกโรงยา หากใครต้องการจะชิมขนมแคะจะต้องมาตลาดเร็ว ๆหน่อยนะคะ เพราะขนมของเค้าหมดเร็วมาก หรือจะให้ดีมาสั่งไว้ก่อนก็ได้ค่ะ จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:39:17

ความคิดเห็นที่ 31 หลังจากชม ชิม ช๊อป จนหนำใจกันแล้ว ก็ต้องรีบจรลีไปยังที่พักด่วนๆ เพราะที่พักที่เราจะพักในวันนี้ต้องเดินทางจากตัวเมืองออกไปไกลพอสมควร ที่พักของเราในคืนนี้มีชื่อว่า "ริมนทีโฮมสเตย์" ตั้งอยู่ที่บ้านโรงน้ำแข็งบนปลายสุดของเกาะเทโพ เกาะกลางน้ำขนาดใหญ่ซึ่งคั่นระหว่างจังหวัดอุทัยและชัยนาท และเป็นส่วนที่แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสะแกกรังไหลขนาบก่อนที่จะไหลรวมกันที่ปลายเกาะ โฮมสเตย์แห่งนี้มี "พี่หมู" คอยดูแลและต้อนรับผู้มาเยือนทุกคนเป็นอย่างดีและเป็นกันเองมากๆ ราคาที่พักก็ไม่แพง โดยบ้านพักหลังใหญ่คิดราคาคืนละ 2500 บาท นอนได้สิบกว่าคน ส่วนบ้านหลังเล็กกว่าก็ราคาลดหลั่นกันไป หรือถ้าจะรวมอาหาร 2 มื้อ (เย็น-เช้า) ก็คิดเป็นราคาต่อหัวคนละ 500 บาทเท่านั้น (10 คนขึ้นไป) จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 15:59:20

ความคิดเห็นที่ 32 บริเวณบ้านกว้างขวาง โดยเฉพาะระเบียงใหญ่ชั้นบน ซึ่งสามารถนั่งชิลกินลมชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างไม่รู้เบื่อ จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:00:33

ความคิดเห็นที่ 33 แม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านหน้าบ้านเลยค่ะ ^^ จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:01:19

ความคิดเห็นที่ 34 มาถึงรีสอร์ตก็เย็นย่ำแล้ว สมาชิกต่างก็หิวข้าวกันเต็มที่ มื้อนี้พี่หมูก็เลย "จัดเต็ม" เมนูสารพัดปลาให้ลิ้มลอง ทั้งปลาแรดทอดกระเทียม (ตัวเด่นที่จะขาดไม่ได้ เพราะถ้ามาอุทัยแล้วไม่ได้ทานปลาแรดก็เหมือนมาไม่ถึง ขนาดคำขวัญยังบอกเลยว่า "ปลาแรดรสดี") ผัดฉ่าปลาดุก ผัดเผ็ดปลาแดง ต้มยำปลาคัง น้ำพริกฯลฯ ขนมาจนเต็มโต๊ะ เล่นเอาสมาชิกทุกคนอิ่มกลิ้งกันถ้วนหน้า จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:10:39

ความคิดเห็นที่ 35 ยามเช้ามาเยือนพร้อมบรรยากาศแห่งสายน้ำอันเงียบสงบและลมเย็นสบาย พี่หมูพาลูกบ้านทั้งหลายล่องเรือข้ามกระแสเจ้าพระยาเพื่อมุ่งหน้าข้ามฝั่งไปยังตลาดมโนรมย์ที่ตั้งอยู่ฝั่งจังหวัดชัยนาท ชมบรรยากาศยามเช้าของตลาดปลาที่คึกคักและชิมกาแฟโบราณเจ้าอร่อย จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:13:04

ความคิดเห็นที่ 36 พี่หมูพาเราเดินชมตลาด และพาไปดูเจ้ากุ้งแม่น้ำไซส์จัมโบ้ที่เพิ่งจับขึ้นมาหมาดๆ การจับกุ้งเป็นอาชีพที่อยู่คู่กับชาวเกาะเทโพมาเป็นเวลานาน และยังคงใช้วิธีจับแบบดั้งเดิม คือการตกกุ้งโดยใช้เบ็ดและเหยื่อล่อ กุ้งแม่น้ำที่นี่ตัวโตมากๆ ราคาขายในตลาดอยู่ที่กิโลกรัมละ 550 บาทเท่านั้น (ถูกกว่าในเมืองถึงเกือบเท่าตัว) จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:16:11

ความคิดเห็นที่ 37 มาดูหน้าน้องกุ้งกันให้ชัดๆ จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:16:49

ความคิดเห็นที่ 38 บรรยากาศยามเช้าคึกคักไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของไปประกอบอาหาร จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:17:35

ความคิดเห็นที่ 39 พวกเราแวะนั่งกินกาแฟโบราณ ในร้านโบราณ ไม่เว้นกระทั่งคนชงก็ยังโบราณ (หมายถึงสูงอายุน่ะค่ะ อิอิ) กาแฟรสชาติเข้มข้น หอมกรุ่น เหมาะกับบรรยากาศยามเช้าที่น่ารื่นรมย์เช่นนี้จริงๆ จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:19:49

ความคิดเห็นที่ 40 บรรยากาศริมแม่น้ำยามเช้าช่างสงบและสดชื่น จนอยากจะนั่งมองทั้งวี่วัน เรารู้สึกถึงการหายใจอย่างลึกและเนิ่นช้า นานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่เคยได้รู้สึกถึงลมหายใจของตัวเองเช่นนี้เลย จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:23:42

ความคิดเห็นที่ 41 ไปเที่ยวด้วยค่ะ จากคุณ : ย้ำคิดย้ำฝัน เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:25:30

ความคิดเห็นที่ 42 แพข้ามฟากยังคงทำหน้าที่รับส่งผู้โดยสารตามปกติ จากฟากนั้นไปยังฟากนี้ กลับไปมาโดยไม่มีหยุด วิถีปกติที่ยังคงดำเนินไปเช่นเดียวกับเวลาที่ยังคงเดินอย่างต่อเนื่อง หากทว่าไม่เร่งรีบและไม่ร้อนรนดั่งเช่นวิถีตามปกติที่เราต้องเผชิญ จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:26:41

ความคิดเห็นที่ 43 โบกมืออำลาตลาดมโนรมย์เพื่อข้ามฟากกลับไปยังที่พัก มื้อเช้าหอมกรุ่นได้ถูกเตรียมพร้อมสำหรับพวกเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ข้าวต้มหมูสับร้อนๆ ควันฉุย กับบรรยากาศริมแม่น้ำ เข้ากันดีจริงๆ จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:29:24

ความคิดเห็นที่ 44 ภาพเล็กไปนิดครับ เลยดูไม่จุใจ จากคุณ : สายไหมสีฟ้า เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:34:08

ความคิดเห็นที่ 45 ชอบจังเลยเที่ยวแนวนี้ จากคุณ : ต้มส้มปลากระบอก เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:35:54

ความคิดเห็นที่ 46 คุณย้ำคิดย้ำฝัน : ตามมาเลยค่ะ คุณสายไหมสีฟ้า : ขออภัยด้วยนะคะ ไว้รีวิวหน้าจะขยายภาพให้ใหญ่กว่านี้ค่ะ คุณต้มส้มปลากระบอก : ปกติชอบเที่ยวแนวธรรมชาติมากๆ ค่ะ ยิ่งครั้งนี้ยิ่งใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ เพราะได้ลงไปเดินลุยท้องนาด้วย จะเป็นยังไงก็ติดตามต่อนะคะ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 54 16:40:06 จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:37:53

ความคิดเห็นที่ 47 หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว พี่หมูก็พาพวกเราไปพบกับ "ลุงเบี้ยว" ปราชญ์ชาวบ้านที่มีอาชีพจับกุ้ง ซึ่งลุงเบี้ยวได้รับการสิบทอดวิทยายุทธจากบรรพบุรุษเกี่ยวกับเทคนิคการจับกุ้ง โดยเฉพาะอาหารกุ้งสูตรเด็ดที่ทำให้พิชิตกุ้งมาทั่วท้องน้ำ จนถึงขนาดมาคนมาขอซื้อกันเลยทีเดียว จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:43:17

ความคิดเห็นที่ 48 สูตรเหยื่อตกกุ้งของลุงเบี้ยงมีส่วนผสมเยอะหลายอย่าง ต้องบด ต้องผัด และต้องใช้เวลาในการทำนานทีเดียว เมื่อส่วนผสมทุกอย่างรวมเป็นเนื้อเดียวกันก็จะนำมาปั้นเป็นก้อนๆ เท่าหัวนิ้วก้อย หน้าตาเหมือนยาลูกกลอน แต่กลิ่นของมันนั้น เอ่อ..พูดได้คำเดียวว่า "ที่สุดของแจ้" จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:48:06

ความคิดเห็นที่ 49 หลังจากการสนทนากับปราชญ์ชาวบ้าน ช่วงสายๆ มีเวลาเหลืออีกนิดหน่อยก่อนออกจากที่พัก เราเลือกที่จะจับจักรยานสีขาวปั่นไปเที่ยวบริเวณบ้านโรงน้ำแข็ง ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นที่นา และขณะนี้กำลังออกรวงสีเขียวสดเต็มทุ่ง ปั่นไปสูดอากาศบริสุทธิ์ไป สดชื่นเป็นที่สุด แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 54 16:51:38 จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:51:16

ความคิดเห็นที่ 50 ช่วงสาย พวกเราเก็บของออกจากที่พัก ร่ำลาพี่หมูและภรรยาที่แสนใจดี โดยหมายใจว่าหากมีโอกาสจะไม่พลาดที่จะกลับมาเยี่ยมเยือนบ้านอันแสนอบอุ่นหลังนี้อีกเป็นแน่ จากที่พักเราเดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมือง แวะชมวัดอุโปสถาราม หรือวัดโบสถ์ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสะแกกรัง มีจุดเด่นที่ภาพจิตรกรรมฝาผนังอันสวยงาม และมณฑปรูปทรงแปดเหลี่ยม ศิลปะยุคอาณานิคม (ขณะที่เราไปกำลังอยู่ในช่วงบูรณะวัด) แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 54 16:57:37 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 54 16:57:32 จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 16:56:56

ความคิดเห็นที่ 51 จากวัดอุโปสถาราม เรามุ่งหน้าสู่วัดท่าซุง ซึ่งมีเกจิดังอย่างหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่เป็นที่เคารพของชาวเมืองอุทัยเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนั้นภายในวัดยังมีวิหารที่ประดับด้วยกระจกแก้วนับหมื่นชิ้น ส่องประกายวิบวับสวยงามตระการตามากๆ สำหรับการเข้าชมวิหารแก้วจะมีการกำหนดช่วงเวลาในการเปิดปิดด้วย โดยในช่วงเช้าให้เข้าชมต้้งแต่ 9.00-11.45 น . และช่วงบ่าย 14.00-16.00 น. หากเกินเวลาดังกล่าวไม่สามารถเข้าชมได้ เพราะจะปิดวิหารให้ผู้ที่มาปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 17:03:43

ความคิดเห็นที่ 52 หลังจากตะลอนเที่ยวกันจนหมดแรงแล้ว ก็ได้เวลามื้อเที่ยวที่รอคอยซักที ซึ่งมื้อเที่ยงวันนี้เราได้รับความเมตตาจากคุณแม่ของน้องในกลุ่มซึ่งเป็นคนอุทัย จัดอาหารเที่ยงให้พวกเรา ว่าแล้วก็ไม่รอช้ารีบมุ่งหน้าไปยังอ.หนองฉางทันที มื้อเที่ยงวันนี้เป็นอีกมื้ออาหารที่ประทับใจมากๆ คุณแม่ได้เตรียมอาหารพื้นบ้านน่าทานหลายเมนู โดยพืชผักที่ใช้ทำอาหารทั้งหมด เป็นผักที่ปลูกเองทั้ง สด สะอาด และปลอดสารพิษ 100 เปอร์เซนต์ โดยเฉพาะหน่อไม้สดที่ขุดมาใหม่ๆ นำมาลวกจิ้มกับน้ำพริก หวานอร่อยจนเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม มื้อนี้สมาชิกก็กินกันอลังการเช่นเคย (รู้สึกว่ากางเกงเริ่มปริแล้วอ่ะ) จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 17:12:10

ความคิดเห็นที่ 53 กินกันอิ่มก็ถึงเวลาเดินย่อยอาหารในบริเวณที่นาของบ้านน้อง อากาศยามบ่ายวันนี้ไม่ร้อนจนเกินไปนัก เนื่องจากไม่มีแดด มีเพียงลมชายทุ่งพัดโชยเย็นสบาย เป็นใจให้เดินเล่นซะจริงๆ จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 17:14:34

ความคิดเห็นที่ 54 บ้างที่ไม่เดินก็ปั่นจักรยานเล่นตามชายทุ่ง ซึ่งเป็นภาพที่ช่างต่างกับในเมืองหลวงที่คนต้องมาปั่นจักรยานกันบนฟุตบาท หรือที่ปั่นบนถนนที่ต้องเสี่ยงชีวิตกับบรรดารถน้อยใหญ่ เทียบกับภาพการปั่นจักรยานที่ขนาบด้วยผืนนาสีเขียวแบบนี้ ช่างแตกต่างกันเสียเหลือเกิน จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 17:18:14

ความคิดเห็นที่ 55 อยู่บ้านนอก อยากจะกินอะไรก็เด็ดเอาจากต้นได้เลย แต่ในเมืองหลวง แม้กระทั่งพริกเม็ดเดียวก็ยังต้องจ่ายเงินซื้อ ใครว่าอยู่ในเมืองสบายกว่าหรือคนกรุงรวยกว่าคนบ้านนอก อาจจะต้องลองคิดดูใหม่ เพราะความร่ำรวยนั้น หาใช่แสดงออกเพียงบ้างช่องห้องหับอันใหญ่โต แต่มันรวมถึงทรัพยากรและน้ำใจ ซึ่งอย่างหลังแทบหาไม่เจอในพื้นที่ศิวิไลซ์อย่างกรุงเทพเลย จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 17:22:32

ความคิดเห็นที่ 56 ท้องนาสีเขียวแซมเหลืองทองของต้นข้าวที่เริ่มแก่ใกล้ถึงเวลาเก็บเกี่ยว ลมเย็นแห่งท้องทุ่งพัดโชยลู่ต้นข้าวไหวเอนตามแรงลม เวลาแห่งเมืองนี้ยังคงเคลื่อนไปอย่างเชื่องช้าเช่นที่เคยเป็นมา หากจะมีสถานที่ใดในเมืองไทยที่ยังคงรักษาความเป็นตัวตนและวิถีชีวิตดั้งเดิมได้จนถึงทุกวันนี้ แน่นอนว่าคงจะต้องมีเมืองอู่ไทเป็นหนึ่งในคำตอบนั้นเป็นแน่  "สงบ เงียบ เรียบ งาม" จึงเป็นคำนิยามที่เหมาะสมเป็นยิ่งนักสำหรับเมืองเล็กแห่งลุ่มน้ำสะแกกรังแห่งนี้ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 54 17:37:03 จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 17:25:55

ความคิดเห็นที่ 57 ขอตามไปเที่ยวเมืองอุทัยด้วยคนนะครับ จากคุณ : คุณชายชอบเที่ยว เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 19:40:03

ความคิดเห็นที่ 58 ชอบธรรมชาติแบบนี้ค่ะ  เห็นแล้วสดชื่น สบายใจจัง ขอบคุณนะคะ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 54 00:52:05

ความคิดเห็นที่ 59 เมืองเล็กๆ แห่งนี้ยังมีอะไรที่น่าค้นหาอีกเยอะค่ะ และถ้ามีโอกาสก็อยากจะเชิญชวนให้มาสัมผัสวิถีชีวิตของคนที่นี่กันนะคะ รับรองว่าจะได้รับทั้งความสุขและความประทับใจกลับไปเต็มกระเป๋าแน่นอนค่ะ จากคุณ : weza (weza2005) เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 54 08:48:17