ความคิดเห็นที่ 1 ตอนต่อจาก 5/8 ครับ ตอนที่แล้ว เราเที่ยวเมือง ปิซ่า ก็กลับมาที่รถ ขับรถออกจากปิซ่า ก็ตั้ง GPS มุ่งหน้าจะไปโรมครับ แล้วก็เหมือนเดิม ผมเป็นกัปตัน ส่วนเพื่อนผมเป็นต้นหน คอยตั้ง GPS ให้ ผมก็ขับอย่างเดียว ขับตั้งแต่ฟ้ายังไม่มืด ตอนนั้นประมาณ ห้าโมงเย็น ขับตามที่เสียง GPS บอก เสียง GPS : อีกห้าร้อยเมตร เลี้ยวขวา ........................ ผม งง................ เพราะ อีกห้าร้อยเมตรข้างหน้า ทางมันปิดอ่ะ มีแต่พงหญ้าแล้วก็กองอิฐปูนเต็มไปหมด แล้วเครื่องมันจะให้ กรูเลี้ยวไปไหนฟร๊ะ อ๊ะ ในเมื่อเลี้ยวไม่ได้ ก็ขับตรงไปก่อนละกัน พักดูรูปก่อนครับ อลังการงาน ศาสนศิลป์ ที่เห็นแล้ว อ้าปากค้างอึ้งทึ่งจริงๆ เสียง GPS : กำลังคำนวณเส้นทางใหม่............ ขับตรงไปอีก บลา บลา บลา บลา....... อ่ะ ผมก็ขับไปตามที่ GPS บอก เพราะมันต้องฉลาดแน่ มันคำนวณเส้นทางใหม่ให้แล้ว......ขับไปได้ซัก 15 นาที ...........เฮ้ย มันบอกทางให้ขับ วนกลับมาตรงทางที่ปิดเมื่อตะกี้นี่หว่า........เวร ที่เมิงจะให้กรูพุ่งทะลุพงหญ้ากองหินปูนทรายไปเหรอไงฟร๊ะ ตอนนี้ใจเริ่มเสียแล้ว เอาไงดีเนี่ยะ ฉับพลันทันใด ก็นึกถึงแผนที่ใน กู๋เกิ้น แมพ ได้ว่า ทางหลวงหมายเลขนี้ (จำหมายเลขไม่ได้แล้ว) มันพาเรามุ่งไปโรมนี่หน่า คราวนี้เลยจอดรถ ตั้ง GPS ใหม่ ตั้งให้มันพาเข้าทางหลวงนี้ละกัน จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 21:22:33

ความคิดเห็นที่ 2 มะกี้ ข้อความสลับบรรทัดกัน ขอโทษที ต่อเลยครับ พอตั้ง GPS ให้พาเข้าทางหลวง ได้ผลแฮะ มันบอกทางให้เรา วกไปวนมา มองเห็นทางหลวงอยู่ข้างๆแล้ว แต่ ทางที่จะเข้าทางหลวง ยังไม่เห็นเลย ขับตาม GPS มาเรื่อยๆ ฉับพลันทันใด เสียง GPS : เลี้ยวซ้าย แล้วเลี้ยวขวา โห ให้เลี้ยวหักศอก ทำไมไม่บอกตรงๆง่ายๆว่า กลับรถ ฟร๊ะ เล่นเอากรู งง ทันใดนั้นเอง หลังจากเลี้ยวหักศอก ก็เห็นทางเข้าทางหลวงทันที เฮ รอดแล้วเรา แต่แล้ว เพื่อนต้นหน ของผมก็ตะโกนบอกว่า เฮ้ย เราขับแหกด่านเก็บค่าทางด่วนหรือป่าว ดูข้างหลังซิ เหมือนจะเป็นด่านเก็บตังค์นะ ผมเหลียวหลังไปดู เออ จริงด้วยอ่ะ เหมือนเราขับเลาะเลียบทางด่วนหลบด่านแล้วแอบเข้าทางด่วนเลย แต่ทำไงได้ เลยมาแล้ว จะย้อนกลับไปจ่ายตังค์ก็ไม่ได้ ขณะกำลังคิดเพลิน ผมก็หันหน้ากลับมาทางหน้ารถ (มะกี้เหลียวหลังไปดูด่านเก็บเงิน) ทันใดนั้นเอง กรี๊ดส์สสสสสสสส สาวแตกเลย ภาพที่ผมเห็นตรงหน้าคือ รถ space vagon คันหนึ่ง วิ่งตรงมาที่หน้ารถผม คือ จะประสานงากันเลย เพราะวิ่งอยู่เลนส์เดียวกัน แต่พุ่งเข้าหากันเต็มๆ กรี๊ดส์สสสสสสส เยี่ยวเล็ด ปริ๊ดๆ ด้วยความไวของสมองหมู เพียงเสี้ยววินาทีผมหักรถหลบขวา ส่วน space vagon คันนั้น หักหลบไปอีกทาง เสียงล้อเบียดบี้ถนน ดังเอี๊ยดดดดด ลั่น โชคดี รถสองคัน หลบกันพ้น ชนิดที่ขนแขนเสียดสีกันเลยทีเดียว ผมช๊อค เหงื่อแตก ใจเต้นโครมคราม ครี่ เยี่ย แทบราด เฮ้อ....... ขับต่อไปซักพัก เริ่มตั้งสติได้ มะกี้ กรูผิดเองนี่หว่า กรูเข้าเลนส์ผิดเอง มันต้องสลับเลนส์กับบ้านเราเพราะพวงมาลัยซ้าย แต่ด้วยความเคยชิน พอเลี้ยวปุ๊บ ผมก็ขับชิดซ้ายเลย เลยเกือบประสานงากับรถอีกคัน เฮ้อ..... เกือบไป พักดูรูปสวยๆก่อนครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 21:41:49

ความคิดเห็นที่ 3 หลังจากรอดชีวิตมาได้ ก็ขับต่อไปตามทางหลวง เฮ้อ........(วันนี้ เฮ้อ หลายที) คราวนี้ไม่หลงแล้ว เพราะขับไปตามทางหลวงเส้นนี้ เข้าโรมแน่นอน นิทานเรื่องข้างต้น สอนให้รู้ว่า จงอย่าเชื่อ GPS หมดซะทุกอย่าง มันพาเราหลงได้ จงศึกษาเส้นทางจากแผนที่ให้แน่ใจก่อนด้วย และจงมีสติตลอดเวลา อย่าเผลอตัวเผลอใจ เด๋วจะหาว่า หล่อขั้นเทพไม่เตือน วันนั้น กว่าจะถึงโรม ก็ค่ำแล้ว รีบเข้าที่พัก อ่ะแฮ่ม คืนนี้เราพัก Sheraton ครับ อย่างที่โปรยหัวกระทู้ไว้ เราได้นอน sheraton สามคืนที่โรมครับ เป็นไง หรูไม๊ครับ คนไฮโซอย่างเรา มันก็คู่ควรกับโรงแรมมีระดับหน่อย จะให้ไปนอนโรงแรม ไก่กาอาราเร่ ได้ไง ชิชิ ฮ่าๆๆๆ เฉลย........... ไม่ได้ตั้งใจจะนอนโรงแรมไฮโซหรอกครับ ตังค์ก็ไม่ค่อยมี กินก็อดมื้อกินมื้อ แต่ที่เลือก Sheraton เพราะจองห้องพักได้ คืนละ 70 euro เท่านั้นเอง (ประมาณ สามพันบาท หารสองก็คนละ พันห้า โอเคเลย) ถูกกว่าโรงแรมสองดาวบางที่ซะอีก ฮ่าๆๆๆ เข้าโรงแรม ก็นอนเลยครับ เช้าตื่นไปเที่ยวกัน พักดูรูปก่อน จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 21:57:43

ความคิดเห็นที่ 4 เช้า ตามแผน เราจะไปเที่ยวที่ พิพิธภัณฑ์วาติกัน ครับ จากโรม เราจะไปพิพิธภัณฑ์วาติกันโดยรถไฟครับ ผมไม่อยากขับรถเข้าเมือง เพราะคิดว่าคงขับยากมาก เลยจอดรถไว้ที่ สถานีรถไฟ แล้วต่อรถไฟไปครับ รถไฟฟ้าโรม เป็นแบบนี้เลยครับ พ่นสีกันซะ........ ท่าทาง เลือดศิลปินฉีดซ่าน รถไฟฟ้าที่โรม มีสองเส้นเท่านั้นครับ คือสีน้ำเงิน กับสีแดง สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็อยู่ตามสถานีรถไฟเลยครับ เพราะน้าน นั่งรถไฟ ออกตามสถานี เดินไปเที่ยว กลับมานั่งรถไฟ ไปสถานีต่อๆไป สะดวกดีครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 22:06:54

ความคิดเห็นที่ 5 มาถึง พิพิธภัณฑ์วาติกันแล้ว ก่อนมา เราก็ได้ทำการหาข้อมูลมานิดหน่อย ทราบว่า คิวเข้าชมแถวยาวมากๆๆๆๆๆๆ ยาวเป็นกิโลๆเลย แต่ถ้าเราซื้อตั๋วล่วงหน้าทางเวปไปก่อน ก็ไม่ต้องเข้าคิว จะมีช่องทางพิเศษสำหรับคนที่มีตั๋วล่วงหน้า ตรงเข้าไปได้เลย แต่ต้องไปให้ตรงเวลาที่ตั๋วกำหนดไว้ และแน่นอน ผมก็ต้องซื้อตั๋วล่วงหน้าไว้แน่นอน ไปถึง ก็เข้าไปทันที ไม่มีคิว ก่อนผ่านประตุเข้าไป ก็แอบไปทำหน้าเชิดใส่คนที่ยืนรอคิวยาวเป็นกิโลๆ ชิชิ คิดจะเที่ยวมันต้องเตรียมตัวทำการบ้านนะจ๊ะ ไม่งั้น ก็ต้องมารอคิวหน้าหงอยเยี่ยงนี้ ฮ่าๆๆๆ เข้ามาปุ๊บ ก็ต้อนรับทุกท่านด้วยประตูโค้งอย่างนี้ครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 22:16:33

ความคิดเห็นที่ 6 พอเข้าไปในพิพิธ๓ณฑ์แล้ว จะมีป้ายบอกทางเดินให้ครับ แต่ในความเป็นจริง ก็เดินไปเรื่อยๆ ตามคนหมู่มากไปนั่นแหละครับ ลักษณะในพิพิธัณฑ์ จะแบ่งเป็นห้องต่างๆ มากมายเป็นร้อยๆห้อง ทางเดินจะบังคับพาเราไปชม ทีละห้องๆๆๆ จนไปถึงห้องสุดท้ายที่โด่งดังที่สุดคือ Sistine Chapel โด่งดังเพราะอะไร เด๋วจะค่อยๆเฉลยครับ พาไปชมห้องแรกก่อนครับ ห้องแรก เป็นห้องอียิปต์ครับ มีมัมมี่ จัดแสดงไว้ด้วย คิดว่าเป็นของจริงนะครับเนี่ยะ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 22:31:26

ความคิดเห็นที่ 7 โลงศพของฟาโรห์ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 22:35:09

ความคิดเห็นที่ 8 รูปปั้นแกะสลักต่างๆ แสดงถึงอารยธรรมอียิปต์ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 22:39:11

ความคิดเห็นที่ 9 เดินออกจากห้องอียิปต์ แล้วครับ มีปฏิมากรรมสวยๆ วางตามทางเดินมากมายครับ แต่ผมไม่ได้ซื้อ guide book เลยไม่รู้ว่า ปฏิมากรรมนั้นๆ ชื่ออะไร จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 22:40:49

ความคิดเห็นที่ 10 ตามทางเดินก็มีหน้าต่างบ้าง มองออกไปทางหน้าต่างครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 22:41:53

ความคิดเห็นที่ 11 เดินต่อ หนทางยังอีกยาวไกล จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 22:42:52

ความคิดเห็นที่ 12 จุดเด่นอีกประการหนึ่งของพิพิธภัณฑ์วาติกัน คือบริเวณเพดานครับ มีการตกแต่งลวดลาย ประดับประดา วิจิตรงดงามมาก แทบจะเรียกได้ว่า ไม่ให้มีช่องว่างซักตารางนิ้วกันเลย รูปนี้ เพดานใช้การวาดภาพเอานะครับ แต่วาดแบบมีมิติ มองเผินๆ เหมือนเป็นปูนปั้น ลายนูนสูงนูนต่ำเลย จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 22:45:29

ความคิดเห็นที่ 13 อีก จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 22:46:51

ความคิดเห็นที่ 14 เดินไหลมาตามกระแสคนเรื่อยๆ เจออ่างศิลาใหญ่ยักษ์หินอ่อน จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 22:47:44

ความคิดเห็นที่ 15 เดินมาเรื่อยๆ ก็มาออกที่ลานโล่งแห่งนี้ แต่คราคร่ำด้วยผู้คน จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 22:51:33

ความคิดเห็นที่ 16 รอบๆลาน ก็มีปฏิมากรรมต่างๆ เยอะแยะมากมาย ผมไม่รู้ว่า ลักษณะที่เป็นก้อนหินสี่เหลี่ยม แล้วมีแกะสลักนูนสูงนูนต่ำแบบนี้ คืออะไร เป็นโลงศพใช่หรือไม่ อันนี้ไม่ทราบจริงๆ แต่ในพิพิธภัณฑ์มีแบบนี้เยอะมากครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 22:54:29

ความคิดเห็นที่ 17 หรือว่าเป็นส่วนทับหลังของอาคารปราสาทต่างๆ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:01:39

ความคิดเห็นที่ 18 ให้ชื่นชมงานศิลปะเยอะๆเต็มๆ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:03:16

ความคิดเห็นที่ 19 อีกมุมหนึ่ง จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:04:42

ความคิดเห็นที่ 20 ชิ้นนี้ สวยดีครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:05:51

ความคิดเห็นที่ 21 ชิ้นนี้ ก็สวยมากครับ แต่ไม่รู้ว่าชื่องานอะไร ใครเป็นคนแกะสลัก จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:07:07

ความคิดเห็นที่ 22 มาถึงตรงนี้ ผมเริ่มรู้สึกตัวว่า เอ๊ะ เพื่อนตรูหายไปไหนหว่า ตอนเข้ามาก็เดินมาด้วยกันนี่หน่า ซักพัก เพื่อนผมก็เดินย้อนกลับมาพร้อมกับร้องเรียก เฮ้ย ไปได้แล้ว เดินช้าจริงๆเลย จะดูจ้องให้มันมีชีวิตขึ้นมาเหรอ ............ ผมยังคงชื่นชมกับงานศิลป์ อย่างไม่แคร์สื่อ เพื่อน : เวร......ตรูเดินนำหน้าไปก่อนละเว้ย ............ ผม.........ยังคงชื่นชมงานศิลป์ ต่อไป ด้วยใจอิ่มเอม เต็มตื้น น้ำตารื้นริน มากๆ โฮะๆๆๆ อารมณ์นั้น ต่อมติสท์แตก เอนโดรฟีนพุ่งปรี๊ดๆๆ กำลังเดินเคลิ้มไปกับงานศิลป์ ก็เห็นไม๊ล่ะครับ เพดานก็สวย งานแกะสลักที่ตั้งโชว์ก็งาม แหงนมองจนคอเคล็ด เดินชมจนตาลาย จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:20:32

ความคิดเห็นที่ 23 ชิ้นนี้ก็สวยครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:22:41

ความคิดเห็นที่ 24 ตรงกลางทางเดิน รู้สึกจะเป็นสารพัดอ่างหินอ่อนครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:23:40

ความคิดเห็นที่ 25 ชิ้นนี้ชื่อ Statue of Adonis ครับ ผมชอบชิ้นนี้ สวยดีครับ ชิ้นงานแกะสลักนี้ นำมาไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ตั้งแต่ปี 1772 และที่ทราบว่าเป็น Adonis เพราะแผลที่ขาอ่อนข้างขวาครับ ตามตำนาน ว่า Adonis ต่อสู้กับหมูป่า แล้วโดนหมูป่าขวิด เกิดเป็นแผลที่ต้นขาขวา ในตอนแรกนั้น รูปแกะสลัก Adonis จะยืนพิงหอกที่มือซ้ายถืออยู่ครับ แต่ไม่ทราบว่า หอกหายไปไหน นี่........ เป็นไงล่ะ ไม่ใช่ ไก่กาอาราเร่ ไปเรื่อยเปื่อยนะครับ ความรู้ก็มี คริ คริ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:33:37

ความคิดเห็นที่ 26 ผ่านมาถึงอีกห้องครับ ยังคงสวยงามมาก จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:35:35

ความคิดเห็นที่ 27 ให้ชมอีก มีชิ้นงาน เรียงรายให้ชื่นชมมากมาย จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:36:49

ความคิดเห็นที่ 28 โพสต์ท่า โชว์วงแขนขาวเนียน เพราะใช้ นีเวีย พอร์มินิไม๊เซอร์ แข่งกันโชว์ ชั้นรักแร้ขวา เธอซ้าย จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:44:08

ความคิดเห็นที่ 29 ชิ้นนี้ เป็นเทพ Apollo ตอนเป็นวัยรุ่นครับ ในชิ้นงาน เป็นตอนที่เทพ Apollo กำลังจะกำจัด Lizard (เจ้าสัตว์เลื้อยคลานคล้ายตุ๊กแกที่เกาะท่อนไม้นั่นแหละ) ซึ่งเชื่อมโยงต่อมา ถึง Apollo ตอนโต ได้ลงทัณฑ์ ปีศาจ Python โทษฐานที่ชอบกลั่นแกล้ง Lato ผู้เป็นแม่ของ Apollo นี่ๆๆๆๆๆๆ เป็นไง มีสาระเหมือนกันน๊า....... ว่าแต่ ปิ๊กาจู๊ แหว่งหายไปไหนอ่ะ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:52:08

ความคิดเห็นที่ 30 แหงนมองเพดานอีกที สวยจริง จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:53:03

ความคิดเห็นที่ 31 ชิ้นนี้ก็ชอบครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:53:33

ความคิดเห็นที่ 32 ชิ้นนี้ก็ชอบ เช่นกัน จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:54:07

ความคิดเห็นที่ 33 ชิ้นมะกี้ ชื่อ Statue of Meleager เป็น ฮีโร่ตามเทพนิยายกรีก ผู้ปราบหมูป่ามหาโหดที่ชื่อ Calydon ตัวที่อยู่ข้างๆนั่นแหละครับ เดินต่อครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:57:59

ความคิดเห็นที่ 34 เพดาน ที่งดงามอีกห้องหนึ่ง จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:58:50

ความคิดเห็นที่ 35 ชิ้นงานสวยๆครับ เพียบ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:59:27

ความคิดเห็นที่ 36 และแล้ว เราก็เดินมาถึงห้องที่เป็นโถงใหญ่ครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:01:26

ความคิดเห็นที่ 37 มีอ่างหินอ่อนตรงกลาง ผนังมีปฏิมากรรมเพียบ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:02:26

ความคิดเห็นที่ 38 อีกด้านครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:03:24

ความคิดเห็นที่ 39 ด้านบนเป็นโดมใหญ่ยักษ์ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:03:53

ความคิดเห็นที่ 40 พื้นเป็นโมเสคเล็กๆ เล่นลวดลาย จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:04:37

ความคิดเห็นที่ 41 อีกชิ้นครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:05:11

ความคิดเห็นที่ 42 จริงๆแล้ว ทุกๆชิ้นงาน จะมีคำอธิบายอยู่ข้างๆแบบนี้ครับ แต่เนื่องจากเริ่มตาลายแล้ว เลยไม่ได้อ่านทุกชิ้น ดูข้ามๆไปบ้าง เยอะเหลือเกิน จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:07:30

ความคิดเห็นที่ 43 เดินผ่านโถงนั้น แล้วก็เดินตามทางมาเรื่อยๆครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:08:56

ความคิดเห็นที่ 44 มาถึงห้องนี้ เพดานสวยอีกแล้วครับ เป็นทรงเหลี่ยม ประดับด้วยโลหะสี ออกทองๆ แดงๆ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:10:22

ความคิดเห็นที่ 45 เดินต่อ ขนาดทางเดินธรรมดา เพดานยังสลักเลย จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:11:15

ความคิดเห็นที่ 46 ผ่านห้องนี้ เค้ากั้นเชือกไว้ไม่ให้เข้า จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:11:56

ความคิดเห็นที่ 47 ซูมๆไปที่ชิ้นนี้ รู้สึกจะคุ้นๆตา จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:12:37

ความคิดเห็นที่ 48 ว่าแต่ ปิ๊กะจู้ แหว่ง อีกแล้ว จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:13:43

ความคิดเห็นที่ 49 ผ่านมาถึงห้องต่อๆมา จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:15:38

ความคิดเห็นที่ 50 ง่วงแล้ว หิวด้วย ไม่ไหวแล้ว ขอไปเซเว่นไปหาอะไรกินก่อน แล้วขอนอนก่อนครับ เช้าพรุ่งนี้จะมาต่อให้จบครับ เมืองไทยเรานี้ แสนดีหนักหนา ดึกดื่นแค่ไหน ก็ยังหาของยัดปากได้ตลอด จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:18:11

ความคิดเห็นที่ 51 เข้ามาชมค่ะ ด้านในสวยงามจริงๆ เสียดายตอนไปไม่ได้เข้า เพราะไม่มีเวลามากพอ ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะคะ จากคุณ : +G@To+ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:43:53

ความคิดเห็นที่ 52 ตามมาเที่ยวต่อครับ งานศิลป์ในวาติกันสวยมาก น่าไปๆ ค่าเช่ารถแพงมั๊ยครับ จากคุณ : ฟองสบู่ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 09:22:51

ความคิดเห็นที่ 53 อยากไป..ครับ  แต่คงไม่มีปัญญา สวยๆทั้งนั้น..  ยกเว้นรถไฟ   จากคุณ : เขียนบน iPhone5 (me-ci-tan) เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 09:29:03

ความคิดเห็นที่ 54 กลับมาแว้วววว มาต่อให้นะครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมนะครับ ตอบคุณ ฟองสบู่ ครับ เรื่องค่าเช่ารถ ไม่แพงมากครับ ผมลองเทียบกับค่ารถไฟแล้ว พบว่า เช่ารถถูกกว่าครับ รถเล็กสุด หารสมาชิกกัน ก็ถูกกว่านั่งรถไฟระหว่างเมืองครับ ค่ารถไฟระหว่างเมืองค่อนข้างแพง และการเช่ารถก็ค่อนข้างสะดวก (สำหรับสมาชิกทัวร์ แต่ลำบากนิโหน่ยสำหรับคนขับ) เพราะไม่ต้องลากกระเป๋าเดินไปสถานีรถไฟ ไม่ต้องหาล๊อกเกอร์เก็บสัมภาระ เรื่องราคา ลองหาทาง google ดูครับ ผมไม่ได้ใช้ของเวปไหนประจำ หาในกูเกิ้ล แล้วเลือกอันไหนถูกสุดก็เอาอันนั้นเลยครับ มาต่อดีกว่า เดินชมห้องต่างๆในพิพิธภัณฑ์วาติกัน ต่อครับ จุดเด่นจะอยู่ที่เพดานและงานศิลป์ที่แกะสลักหินอ่อนต่างๆ ครับ เพดานก็จะแบ่งเป็นโซนๆ ครับ แต่ละโซนก็ตกแต่งต่างกันไป รูปปั้นแกะสลักหินอ่อน ก็วางให้เราได้ชื่นชมตามทางเดินครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 10:55:45

ความคิดเห็นที่ 55 ชิ้นนี้ครับ ชอบมากเลย เด็กน้อย ขี่คอป๊ะป๋า จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 10:57:31

ความคิดเห็นที่ 56 ซูมๆไปที่ลูกกะตา โอ๊ะโอ๋ แปลกกว่าชิ้นอื่นๆ มีการใส่ตาปลอมด้วยอ่ะ ตอนกลางคืน คงดูหลอนๆพิกล จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 10:58:53

ความคิดเห็นที่ 57 แล้วก็มาถึงซีรีย์ ห้องเพดานหกเหลี่ยม (ตั้งชื่อเอง อิอิ) ยังคงความอลังการงานศิลป์ เช่นเคย เน้นลายวิจิตร์ ละเอียดยิบ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:01:17

ความคิดเห็นที่ 58 รูปภาพที่วาด ก็คงจะเป็นรูปเกี่ยวกับศาสนาครับ สวยงามทุกรูป จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:02:47

ความคิดเห็นที่ 59 อีกครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:03:22

ความคิดเห็นที่ 60 กำลังจะก้าวพ้นโซน เพดานหกเหลี่ยม แล้วครับ ไปสู่โซน เพดานโค้งลายวิจิตร (ตั้งชื่อเองอีกแล้ว) จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:06:02

ความคิดเห็นที่ 61 เดินแหงนดูเพดาน คอแทบหัก แถมตาเกือบจะบอดเพราะสีทองอร่ามทิ่มตา เดินมาเรื่อยๆ ก็เข้าสู่โซนนี้ครับ ความพิเศษคือ ไม่มีงานแกะสลักหินอ่อนครับ แต่สองข้างทางเดิน เป็นรูปภาพขนาดใหญ่ ประดับเรียงรายเป็นแถว จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:09:15

ความคิดเห็นที่ 62 พินิจดูรูปใกล้ๆครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:10:30

ความคิดเห็นที่ 63 ใกล้เข้าไปอีก..........จะพบว่า ไม่ได้เกิดจากการใช้สีวาดนะครับ แต่เกิดจากการถักถอด้วยเส้นด้าย คล้ายๆพรม ผืนใหญ่ยักษ์ ถักทอเป็นลวดลายรูปภาพครับ โห น่าทึ่งมากๆ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:12:01

ความคิดเห็นที่ 64 และพอเดินผ่านโซนพรมวิเศษ มะกี้นี้ ก็เริ่มเข้าสู่โซนนี้ครับ ผมชอบมากที่สุดๆๆๆๆๆๆๆ ครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:14:37

ความคิดเห็นที่ 65 ว๊า......มีงานเข้ามาอ่ะ ขอตัวไปทำงานแป๊บ เด๋วกลับมาต่อให้ครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:15:15

ความคิดเห็นที่ 66 กลับมาและ โซนนี้ เป็นทางเดินแคบๆครับ สองข้างทาง มีพรมวิเศษอยู่ แต่ที่สวยเด่นสะดุดที่สุด คือ เพดานครับ ขอยกให้เป็นสุดยอดงานศิลป์เพดาน ที่งดงามที่สุดในสามโลกเลยครับ เพดานเป็นแนวโค้ง ยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตรได้ มีการประดับประดา ทั้งภาพวาด ลายกนก ปูนปั้น วิจิตรพิสดาร ตระการตามากๆ แถมสปอร์ตไลท์ สาดส่องเป็นสีเหลือง สะท้อนทองประดับ ยิ่งงดงามวิจิตรศิลป์มากๆ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:26:40

ความคิดเห็นที่ 67 แนวขวางบ้าง เพดานเดิม ขอตั้งชื่อว่า เพดานงามวิจิตร ละกัน อย่างที่เคยเกริ่นไว้แต่ต้นครับว่า เพดานงามวิจิตร นี่แหละ เป็นแรงบันดาลใจ ให้ผมอยากไปที่นี่มาก อยากไปเห็นของจริง ว่าสวยขนาดไหน คือก่อนหน้านี้ ก็เห็นในรูปตามคอลัมม์ท่องเที่ยว ก็รู้สึกว่า สวยงามเหลือเกิน ต้องไปเห็นของจริงซักครั้งในชีวิต และเมื่อไปเห็นของจริงแล้ว แวบแรกที่ก้าวเข้าโซน เพดานงามวิจิตร ผมก็อ้าปากค้างตะลึงไป 10 วินาที งดงามจริงๆ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:30:51

ความคิดเห็นที่ 68 ลายปูนปั้น ก็สวย ตลอดความยาวเกือบ 1.5 กิโลเมตร ก็จะแบ่งเห็นแนวกั้นเล็กๆ แต่ละแนวกั้น ก็มีลายปูนปั้น รูปภาพประดับอยู่ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:34:13

ความคิดเห็นที่ 69 ลายปูนปั้น อีกอันที่บนเพดาน จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:35:33

ความคิดเห็นที่ 70 ถ่ายย้อนกลับไปอีกทีครับ งามจนไม่อยากเดินออกไปจากโซนนี้เลย (ป่านนี้ เพื่อนตรูเดินหายไปไหนแล้วไม่รู้.........ยังจำเพื่อนผมได้ป่าวครับ.....คริคริ เค้าเดินหายไปแล้ว คงรอผมไม่ไหว อารมณ์อาร์ทตัวพ่อเข้าสิง ยังกับพระเอกเทวดา ติสต์ เจดสะดาพอน) จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:39:02

ความคิดเห็นที่ 71 ปูนปั้น ที่ฉากกั้น อีกอันหนึ่ง จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:40:19

ความคิดเห็นที่ 72 ลองเปลี่ยน white balance บ้าง ก็ได้ภาพแสงอีกอารมณ์หนึ่ง จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:41:37

ความคิดเห็นที่ 73 white balance แบบเดิม ในแนวขวาง จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:42:21

ความคิดเห็นที่ 74 ตามมาดูต่อค่ะ งดงามมากจริงๆ นะคะ คิดเหมือนกันว่าถ้ากลับไปจะต้องไปที่นี่ให้ได้ จากคุณ : +G@To+ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:44:47

ความคิดเห็นที่ 75 แสงสีแบบไหนสวย ก็แล้วแต่คนจะชอบนะครับ ผมก็ได้แต่ลองปรับนู่นปรับนี่ไปเรื่อยๆครับ ลองหลายๆแบบ อาจจะเป็นเพราะลองปรับนู่นปรับนี่ไปเรื่อยๆ เลยทำให้ถ่ายรูปช้ามั๊งครับ เพราะไม่ได้ใช้โหมด auto เท่าไหร่ เลยโดนเพื่อนทิ้ง (ฮือๆๆ) คนเล่นกล้องคงเข้าใจกันน่ะครับ แต่ไม่เป็นไรครับ พระเอกเทวดาอย่างผม ต้องยืนได้ด้วยลำแข้งตัวเอง ฮ่าๆๆๆ ต่อดีกว่า ภาพพรมวิเศษผืนนี้ มีการปักดิ้นทองคำเข้าไปด้วย เป็นรัศมีของนักบุญต่างๆ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:47:39

ความคิดเห็นที่ 76 อ้าว ทักทายสวัสดีคุณ G@To ครับ ขอโบกๆๆ ที่พิพิธภัณฑ์วาติกัน และ วิหารเซนต์ปีเตอร์ (อยู่ติดกันนั่นแหละ) เป็นสถานที่ที่งดงามวิจิตรที่สุดในอิตาลี (เท่าที่ผมไปมานะ) แล้วครับ ถ้ามีโอกาส น่าจะได้เข้าไปชมสักครั้งครับ ต่อนะครับ ออกจากโซน เพดานงามวิจิตร แล้ว ก็เข้าสู่ห้องต่างๆอีก เพดานสวยอีกแล้ว เป็นโดมเล็กๆ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:51:01

ความคิดเห็นที่ 77 และก็เดินมาห้องถัดไป ห้องนี้มีแท่นบูชา พระแม่มารีอยู่กลางห้อง ฝาหนังก็ประดับลวดลาย งามเหลือ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:53:13

ความคิดเห็นที่ 78 เพดาน ก็งามงด จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:53:57

ความคิดเห็นที่ 79 มุมทางขวาบ้าง แทบจะไม่ให้มีช่องว่างเลย ใส่ลวดลายกันเต็มที่ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:55:27

ความคิดเห็นที่ 80 กำลังจะเดินผ่านห้องนี้ไปแล้วนะครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:56:06

ความคิดเห็นที่ 81 แหงนมองเพดานตรงมุม สวยเก๋ไม่เบา จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 11:56:52

ความคิดเห็นที่ 82 ออกจากห้องมะกี้ ก็เจอป้ายนี้ครับ แปลว่า ห้องภาพ ราฟาเอล ไปทางนี้นะจ๊ะ ห้องภาพ ราฟาเอล เป็นห้องที่มีภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนัง ฝีมือของศิลปิน นามว่า ราฟาเอล เป็นภาพเขียนตั้งแต่สมัยเมื่อพันกว่าปีก่อนนู๊น....... นานมาก แต่ก็ยังคงความสวยสดงดงามไว้ ว่ากันว่า การเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัยก่อนนั้น ใช้เทคนิคเขียนสีลงไปบนปูนที่ยังเปียกอยู่ สีเลยฝังลงไปในเนื้อปูน และก็ฝังแน่นอยู่อย่างนั้นได้เป็นพันๆปี เรียกเทคนิคนี้ว่า ภาพเขียนสี เฟรสโก้ เด๋วเราไปชมภาพเขียนปีปูนเปียก (ภาพเฟรสโก้) กันครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 12:03:34

ความคิดเห็นที่ 83 พักสายตา มองไปนอกหน้าต่างก่อน ตาลายไปหมดแล้ว ผมคิดว่า เราเดินวนๆๆๆๆๆ มาตามตึกที่เป็นสี่เหลี่ยมนี่แหละ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 12:04:56

ความคิดเห็นที่ 84 และแล้ว........ ก็มาที่ ห้องภาพ ราฟาเอล ครับ ความน่าทึ่งอยู่ตรงที่ เค้าไม่ได้เขียนแค่ภาพเล็กๆนะครับ เค้าเขียนหมด ผนังสี่ด้านแปดด้าน เพดาน ปีนขึ้นไปวาดทุกซอกทุกเม็ด จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 12:08:34

ความคิดเห็นที่ 85 ความเยอะ ใหญ่ เทียบกับคนที่เดินชม จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 12:10:08

ความคิดเห็นที่ 86 ห้องถัดมาครับ ลักษณะเหมือนกัน เยอะ ใหญ่ ละเอียด สีของภาพ อาจจะไม่แจ่ม ไม่ปิ๊ง เท่ากับห้องอื่นๆที่ผ่านมานะครับ ก็แหม ของเค้าวาดระบายสีมาตั้งเป็นร้อยเป็นพันปีแล้ว ก็ย่อมมีสีซีดไปบ้างตามกาลเวลา จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 12:12:24

ความคิดเห็นที่ 87 ผนังด้านหนึ่งครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 12:13:32

ความคิดเห็นที่ 88 ดูสวย เก่าๆ ขลังดีเหมือนกันนะ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 12:14:15

ความคิดเห็นที่ 89 เพดานครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 12:14:59

ความคิดเห็นที่ 90 งานเข้าอีกแล้ว เด๋วไปทำงานแป๊บ เด๋วมาต่อนะครับ ใกล้จะถึงห้องสุดท้ายแล้วครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 12:16:07

ความคิดเห็นที่ 91 ศิลปะ ภาพวาด ปะติมากรรม งามจริงครับ  รอชมต่อครับ จากคุณ : white koala เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 12:26:48

ความคิดเห็นที่ 92 กลับมาต่อแล้วครับ เดินผ่านห้องราฟาเอล ไปแล้ว ก็เข้าไปห้องนี้ครับ มีชื่อห้องด้วยครับ แต่จำไม่ได้แล้วอ่ะ ห้องต่อไป จะค่อนข้างใหม่ใสปิ๊งครับ ออกแนววิจิตรทองอร่ามครับ จากคุณ : ลีวรวัฒน์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 13:19:51