|
- พอออกมาจากตรงนั้นได้ มันก็หมดแรงแล้ว รู้สึกได้ว่าตัวเองเบลอไปหมด และก่อนที่จะหมดแรงจนทำไรไม่ถูก เดินเบลอจนโดนรถชนตาย เราก็รวบรวมสติตัวเองอีกครั้งเพื่อกลับไปหาพ่อแม่ที่ citygate
- พ่อรอเราอยู่ และปลอบเราจนเราดีขึ้น สักพักแม่กับน้องก็ตามมาสมทบ เราผ่านเรื่องแย่ๆวันนั้นมาได้เพราะทุกคนจริงๆ พอรู้สึกโอเคขึ้นมาหน่อย ก็เริ่มต้นโทร.อายัดบัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็มต่างๆจนครบ
- ทุกคนพยายามชวนให้เราช้อปปิ้งเพื่อจะได้ผ่อนคลายขึ้น ซึ่งแม้จะไม่มีอารมณ์ทำอะไรเลยก็ตาม แต่ก็ไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วงมากไปกว่านี้อีกแล้ว เลยต้องพยายามเก็บอาการ และทำตัวให้ร่าเริงขึ้น
-วันที่ 2 ที่ฮ่องกงเลยจบลงที่กลับมาจาก citygate แล้วเข้าที่พักเลย หมดแรงไปตามๆกันแล้ว...
เพิ่มเติม::: พอกลับถึงที่พักเราก็ลองโทร.ไปที่เบอร์ศูนย์ taxi อีกที เพื่อจะลองเช็คว่ามีอะไรอัพเดทมั้ย แต่คนที่รับรอบนี้กลับบอกว่าถ้าจะให้ประกาศให้ (ประมาณ จส.100 บ้านเรา) ต้องจ่ายเงิน 1,250 HKS...อึ้งไปเลยเรา ใจนึงก็อยากได้กระเป๋าคืน แต่ถ้าประกาศไปแล้วไม่ได้ ต้องเสียเงินอีกเกือบ 5,000 บาท ก็เลยเลิกดิ้นรนและตัดใจแล้ว...ตอนเช้าเล่าให้น้องชายฟัง พวกเราก็เสียความรู้สึกกันไป แล้วพาลนึกถึงบ้านเรา จส.100 บ้านเรายังช่วยฟรีเลย คนไทยนี่น้ำใจงามจริงๆ -------------------------------------------------------------------------------- ตอนเดินตามหากระเป๋าตังค์ที่ airport นี่ก็คิดนะคะ ว่าจะถ่ายรูปแต่ละจุดมาลงไว้เผื่อว่าวันนึงจะมีคนโชคร้ายแบบเราเค้าจะได้ไปตรงนี้ๆได้ถูก แต่ตอนนั้นมันสติแตกจริงๆค่ะ คิดไรเต็มไปหมด ลนลานมาก ความรู้สึกมันปนเปมากมายค่ะ เลยขอเล่าเท่าที่จำได้แบบนี้แล้วกันนะคะ
แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 54 01:26:50
จากคุณ |
:
MYLifePlusUP
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ส.ค. 54 01:19:16
|
|
|
|
|