|
บขส.เตรียมลงนามเปิดเดินรถเส้นทางระหว่างประเทศไทย-สปป.ลาวเพิ่ม 4 เส้นทาง
|
|
บขส.เตรียมลงนามเปิดเดินรถเส้นทางระหว่างประเทศไทย-สปป.ลาวเพิ่ม 4 เส้นทาง
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด กล่าวเปิดเผยว่า ในวันที่ 29 สิงหาคม 2554 นี้ จะมีพิธีลงนามสัญญาเดินรถเส้นทางระหว่างประเทศไทย-สปป.ลาว โดยตนจะเป็นผู้แทนฝ่ายไทยกับท่านคำพูน เตมาลาด อำนวยการรัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ , ท่านนางมะนีวอน อินทะจัก อำนวยการบริษัท มาลานีขนส่งโดยสาร จำกัด , ท่านสีแสง พมมะจัน ประธานบริษัท ร่วมมือขนส่งโดยสารจำปาสักผ่านแดน จำกัด และท่านสมพอน เพ็ดอาลูน อำนวยการบริษัท เพ็ดอาลูนขนส่งโดยสาร ใน 4 เส้นทาง ประกอบด้วย
เส้นทางสายที่ 6 กรุงเทพฯ นครหลวงเวียงจันทน์
เส้นทางสายที่ 9 อุดรธานี หนองคาย เมืองวังเวียง
เส้นทางสายที่ 10 กรุงเทพฯ ปากเซ
และเส้นทางสายที่ 11 เชียงราย อำเภอเชียงของ แขวงบ่อแก้ว
สำหรับเส้นทางสายที่ 6 กรุงเทพฯ นครหลวงเวียงจันทน์ เป็นเส้นทางที่ปรับปรุงเงื่อนไขการเดินรถ จากเส้นทางเดิม จังหวัดนครราชสีมา นครหลวงเวียงจันทน์ เดินรถด้วยรถปรับอากาศ มาตรฐาน 4 (ก) ฝ่ายละ 1 เที่ยวต่อวัน ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 20.00 น. และออกจากเวียงจันทน์ เวลา 18.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 900 บาท และให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นจุดจอดระหว่างทาง
เส้นทางสายที่ 9 อุดรธานี หนองคาย เมืองวังเวียง เดินรถด้วยรถปรับอากาศมาตรฐาน 2 ฝ่ายละ 2 เที่ยวต่อวัน ออกจากอุดรธานี เวลา 08.00 น. , เวลา 16.00 น. และออกจากวังเวียง เวลา 08.00 น. , 12.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 320 บาท และให้จอดรับ-ส่ง ผู้โดยสารได้ที่จังหวัดหนองคาย
เส้นทางสายที่ 10 กรุงเทพฯ เมืองปากเซ เดินรถด้วยรถปรับอากาศมาตรฐาน 1 (ข) พิเศษ 32 ที่นั่ง ฝ่ายละ 1 เที่ยวต่อวัน ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 21.00 น. และออกจากปากเซ เวลา 16.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 900 บาท นอกจากนี้ ให้จังหวัดอุบลราชธานี และด่านวังเต่า เป็นจุดจอดระหว่างทาง
เส้นทางสายที่ 11 เชียงราย อำเภอเชียงของ แขวงบ่อแก้ว เดินรถข้ามสะพาน แม่น้ำโขง แห่งที่ 4 เชียงของ ห้วยทราย ด้วยรถปรับอากาศมาตรฐาน 2 ฝ่ายละ 6 เที่ยวต่อวัน (ไป 3กลับ 3) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 220 บาท กำหนดให้มีรถ Shuttle Bus วิ่งฝ่ายละ 4 เที่ยวต่อวัน ค่าโดยสาร 20 บาท ทั้งนี้เส้นทางสายที่ 6 สายที่ 9 และสายที่ 10 จะสามารถเดินรถได้เมื่อผ่านขั้นตอนการขอใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทาง ส่วนเส้นทางสายที่ 11 จะสามารถเปิดเดินรถได้เมื่อสะพานข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 4 เชียงของ ห้วยทราย สร้างแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2556
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เปิดเดินรถโดยสารเส้นทางระหว่างประเทศไทย สปป.ลาว แล้ว 6 เส้นทาง ได้แก่ เส้น ทางสายที่ 1 หนองคาย นครหลวงเวียงจันทน์ เส้นทางสายที่ 2 อุดรธานี นครหลวงเวียงจันทน์ เส้นทางสายที่ 3 อุบลราชธานี เมืองปากเซ เส้นทางสายที่ 4 มุกดาหาร แขวงสะหวันนะเขต เส้นทางสายที่ 5 ขอนแก่น นครหลวงเวียงจันทน์ และเส้นทางสายที่ 6 นครราชสีมา นครหลวงเวียงจันทน์
ส่วนเส้นทางสายที่ 7 นครพนม แขวงคำม่วน ได้มีการลงนามในสัญญาเดินรถไปแล้วและจะสามารถเปิดเดินรถได้ และเมื่อการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 นครพนม คำม่วน แล้วเสร็จ ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2554 เช่นเดียวกับเส้นทางสายที่ 8 เชียงใหม่ แขวงหลวงพระบาง ในระยะแรกจะเป็นการเดินรถส่งต่อผู้โดยสารที่ท่าเรืออำเภอเชียงของกับ เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว จนกว่าสะพานข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 4 เชียงของ ห้วยทราย จะแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2556 อย่างไรก็ดีเชื่อว่าการลงนามในสัญญาครั้งนี้จะส่งผลดีทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว อีกทั้งเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีของทั้ง 2 ประเทศอีกด้วย.
ที่มา :สำนักข่าวไทย,เสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2554
จากคุณ |
:
หนุ่มอุบล คนวาริน
|
เขียนเมื่อ |
:
30 ส.ค. 54 11:15:45
|
|
|
| |