ความคิดเห็นที่ 1 อยู่ญี่ปุ่นมา 5 วันแล้วนะคะ เหตุการณ์ยังเป็นปกติค่ะ วันนี้จะเป็นวันแห่งการตะลอนทัวร์เมืองเกียวโต  อันเนื่องมาจากว่า มีเวลาอยู่ที่เกียวโตแค่วันนี้อีกวันเดียว แต่มีสถานที่ๆ อยากจะไปเยอะเหลือเกินค่ะ  ก็เลย plan ว่าจะออกกันเช้าหน่อย Check out ออกจากที่พักพร้อมกระเป๋าเดินทาง จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 16:58:14

ความคิดเห็นที่ 2 เพราะเย็นนี้เราจะต้องย้ายไปนอนที่ Osaka  เอากระเป๋าเดินทางไปฝากที่สถานีเกียวโต จะได้เที่ยวแบบสบายตัวค่ะ ค่าฝากกระเป๋าจะอยู่ที่ประมาณ 300-600 เยน แล้วแต่ขนาดกระเป๋าและขนาดของ locker ค่ะ ออกจากที่พักมาตั้งแต่ 7.30 น. มาซื้อ 1 Day pass สำหรับ Kyoto City Bus ที่สถานี เพื่อขึ้นรถบัสได้แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยวค่ะ ราคาบัตรใบละ 500 เยน (ต่อคน) เพื่อเป็นการประหยัดเวลา วันนี้ไม่ได้ทานข้าวเช้าค่ะ แค่ซื้อขนมปังทานรองท้องเฉยๆ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 17:01:15

ความคิดเห็นที่ 3 ร้านขนมปังที่เราฝากท้องกันค่ะ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 17:01:43

ความคิดเห็นที่ 4 มีคนมาใช้บริการเยอะเหมือนกัน จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 17:02:02

ความคิดเห็นที่ 5 สถานที่แรกที่จะไป คือ Kinkakuji (金閣寺)  หรือวัดคิงคะคุ หรือจะเรียกว่าวัดศาลาทอง วัดอิวคิวซัง อะไรก็แล้วแต่ค่ะ แต่จริงๆ แล้ววัดนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า วัดโระคุอง (鹿苑寺 Rokuonji) จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 17:02:49

ความคิดเห็นที่ 6 วัดคิงคะคุ ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น มีศาลาทองเป็นจุดเด่นของวัด แรกเริ่มศาลาทองสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1940 เพื่อเป็นที่พักของโชกุนอาชิคางะ โยชิมิตสึ ชื่อคุ้นๆ เหมือน ในการ์ตูนเรื่อง อิกคิวซังมั๊ย จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 17:03:48

ความคิดเห็นที่ 7 วัดคิงคะคุ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 17:05:00

ความคิดเห็นที่ 8 ปี พ.ศ. 2537 วัดโระคุอง รวมทั้งศาลาทอง ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกร่วมกับสถานที่สำคัญอื่นๆ ในเมืองเกียวโต ตัวศาลาทองทั้งหลัง ยกเว้นชั้นใต้ดิน ปิดคลุมด้วยแผ่นทองคำบริสุทธิ์ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและโบราณวัตถุมีค่าอื่นๆ บนยอดหลังคาของศาลามีรูปหล่อทองคำรูปนกโฮโอ ในปี พ.ศ. 2493 ศาลาทองถูกเผาทำลายโดยพระวิกลจริต ศาลาที่เห็นในปัจจุบัน สร้างขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2498 แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 54 17:06:25 จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 17:05:48

ความคิดเห็นที่ 9 เดินไปสวนด้านหลังวัด มีที่ให้โยนเหรียญ ให้ลงบาตรพระด้วยค่ะ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 17:08:58

ความคิดเห็นที่ 10 แวะไหว้พระ ซักนิด จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 17:11:59

ความคิดเห็นที่ 11 ของฝากวัดคิงคะคุ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 17:12:27

ความคิดเห็นที่ 12 ของฝากวัดคิงคะคุ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 17:12:41

ความคิดเห็นที่ 13 ลืมเม้าท์เรื่องการใช้บัตร 1 Day pass ค่ะ การใช้บัตรครั้งแรก ก่อนจะลงจากรถ ต้องเอาบัตรไปสอดในเครื่องอ่านบัตรด้านข้างๆ คนขับเพื่อให้เครื่องเจาะบัตรค่ะ ส่วนครั้งต่อๆ ไปที่ขึ้นรถบัส ก็ไม่ต้องเอาบัตรไปสอดแล้วค่ะ แค่เอาบัตร show ให้คนขับดูเฉยๆ ค่ะ ออกจากวัด Kinkakuji ประมาณ 10.00 น. มานั่งรถบัสสาย 102 ต่อไปที่ Ginkakuji เที่ยววัดทองเสร็จแล้ว ต้องไปวัดเงินต่อ ใช้เวลานั่งรถประมาณ 26 นาทีก็ถึงค่ะ ก่อนที่จะเข้าไปเที่ยววัด Ginkakuji ด้านหน้าวัด มีทางเดินเลียบคลอง เรียกว่า Tetsugaku no Michi หรือคนไทยจะรู้จักกันในชื่อ ทางเดินสายปรัชญา (Path of Philosophy) จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 17:14:22

ความคิดเห็นที่ 14 @  กิฟเหลือน้อยเต็มที  รีบแจกก่อนครับ .. จากคุณ : MRBIG173 เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 17:27:21

ความคิดเห็นที่ 15 ซากุระ สวย จากคุณ : Mickey-kun เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 17:51:13

ความคิดเห็นที่ 16 ไปด้วยครับ จากคุณ : tottui เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 18:52:45

ความคิดเห็นที่ 17 ตามมา5ตอนแล้ว ยิ่งทำให้รู้สึกอยากไปญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้นเลยครับเนี่ย ^ ^ จากคุณ : โรแมนติกเรื้อรัง เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:01:52

ความคิดเห็นที่ 18 รอมารีวิวต่อนะคร้าบบบ ไม่เคยไปวัดเงินและถนนสายปรัชญาเลย แหะแหะ ^^" จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 22:25:24

ความคิดเห็นที่ 19 @ คุณ MRBIG173 กิฟเป็นยังไง มี limit ด้วยหรือคะ แฮ่ะๆ มือใหม่สุดๆ ไม่รู้อะไรเลย @ คุณ Mickey-kun สุดสุดค่ะ @ คุณ tottui ป่ะ ป่ะ @ คุณโรแมนติกเรื้อรัง ควร...ที่สุดเลย @ คุณ Coffee Blended มาแล้วค่ะ ^_^ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:17:13

ความคิดเห็นที่ 20 ทางเดินสายปรัชญา เป็นทางเดินเลียงคลองที่มีต้นซากุระปกคลุมยาวตลอดสองข้างทาง ส่วนตัวนะคะ คิดว่าเท่าที่ดูดูซากุระมา ที่นี่อ่ะคะ สวยที่สุด เพราะปุยสีขาวอมชมพูของดอกซากุระ จะแผ่กิ่งประสานกันเหยียดยาวไปจนถึงวัดเงินค่ะ ชื่อทางเดินสายปรัชญานั้นมาจากปราชญ์ คิทาโร นิชิดะ (Kitaro Nishida) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่ม Kyoto School of Philosophy ใช้เป็นเส้นทางเดินเพื่อหาความหมายของข้อคิด และทำสมาธิให้ผ่องแผ้ว เส้นทางเดินนี้เป็นที่นิยมของคนที่จะมาดูดอกซากุระ ไม่ว่าจะเป็นชาวญี่ปุ่นหรือชาวต่างชาติค่ะ แถมยังมากันทั้งกลางวันกลางคืนด้วยค่ะ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:19:00

ความคิดเห็นที่ 21 ทางเดินสายปรัชญา จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:21:33

ความคิดเห็นที่ 22 ทางเดินสายปรัชญา จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:22:17

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าใครอยากจะนั่งรถลากแบบโบราณชมบรรยากาศ ก็มีให้บริการค่ะ แต่ไม่รู้ว่าราคาเท่าไร ไม่ได้ถามค่ะ เดินไปจนสุดทางเดินสายปรัชญาก็จะเจอร้านขายของกินของฝากเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง กว่าจะถึงวัด ก็หมดไปหลายร้อยเยนค่ะ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:23:45

ความคิดเห็นที่ 24 หน้าวัดเงิน จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:24:14

ความคิดเห็นที่ 25 วัดกิงคะคุ (Ginkakuji) เสียค่าเข้าชม คนละ 500 เยน จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:25:14

ความคิดเห็นที่ 26 วัดกิงคะคุ หรือวัดเงิน ถึงแม้จะไม่ได้เป็นสีเงิน เพราะตอนที่โชกุนโยชิมาสะ อาชิคางะ (Ashikaga Yoshimasa) สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2025 ท่านตั้งใจจะห่อตัวพลับพลาด้วยเงินทั้งหลัง ให้คู่กับวัดทอง (คิงคะคุจิ) ที่สร้างเสร็จแล้วทางตอนเหนือของเกียวโต แต่ท่านมาเสียชีวิตเสียก่อนที่วัดจะทันได้หุ้ม ด้วยเงินในปี พ.ศ. 2033 จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีเงินหุ้มอยู่เลย พลับพลาที่เห็นจึงเป็นสีน้ำตาลเข้ม ตามสีของไม้ที่นำมาก่อสร้าง บนหลังคามีรูปนกฟินิกซ์ทำจากสำริด จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:26:16

ความคิดเห็นที่ 27 วัดกิงคะคุเป็นวัดในนิกายเซน พื้นทรายกับกองกรวดสีขาวที่กองอยู่หน้าพลับพลานั้น เค้าว่ากันว่าเอาไว้ให้แสงจันทร์ได้ส่องสะท้อน ให้แสงสว่างกระจายไปทั่วบริเวณสวนหน้าวัด จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:27:04

ความคิดเห็นที่ 28 สวนภายในวัดมีมอสหลากหลายพันธุ์ขึ้นตามพื้นและเกาะตามต้นไม้ดูเขียวไปทั่วบริเวณวัด ยิ่งเดินขึ้นเขาไปอีก จะเห็นวิวของเมืองเกียวโตด้วยค่ะ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:27:52

ความคิดเห็นที่ 29 วิวของเมืองเกียวโต จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:28:34

ความคิดเห็นที่ 30 เดินชมวัดไปจนทั่วแล้ว ก็ถึงเวลาอาหารกลางวัน ก็ไปกินแถวหน้าวัดนั่นแหล่ะค่ะ ราคาไม่แพง  แล้วรสชาติก็ OK ค่ะ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:29:19

ความคิดเห็นที่ 31 เวลาบ่ายโมงเศษก็ออกจากวัดกิงคะคุไปนั่งรถบัสสาย 100 ต่อไปที่ Kiyomizudera Temple  หรือวัดคิโยมิสึเดระ หรือวัดน้ำใส หลังจากลงจากรถบัสที่ป้าย Kiyomizu-michi จากปากทางเข้าวัด จะบอกเห็นเจดีย์ 5 ชั้นตั้งอยู่บนเนินค่ะ แต่ตรงนี้ยังไม่ถึงตัววัดนะคะ ต้องเดินอีกประมาณ 500 เมตร แต่ระหว่างทางที่เดินเข้าไป ก็จะมีร้านขายของที่ระลึกสไตล์ญี่ปุ่นเยอะแยะเลยค่ะ แต่สังเกตุดูร้านในระแวกนี้ จะติดป้ายไม่ให้ถ่ายรูปในหลายๆ ร้านค่ะ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:30:54

ความคิดเห็นที่ 32 ร้านขายของ ปากทางเข้าวัด Kiyomizu-michi จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:32:10

ความคิดเห็นที่ 33 ร้านขายของ ปากทางเข้าวัด Kiyomizu-michi จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:32:24

ความคิดเห็นที่ 34 เท่าที่ไปเที่ยวมาหลายๆ ที่ในญี่ปุ่น จนถึงวัดนี้ รู้สึกว่าที่วัดนี้แหล่ะค่ะ ที่จะได้เจอหนุ่ม-สาวชาวญี่ปุ่น ใส่ชุดกิโมโนมาเดินค่ะ เห็นเกือบ 20 คนนะคะ และ 3 คนในนั้นเป็นผู้ชายค่ะ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:33:10

ความคิดเห็นที่ 35 เดินดูของมาเรื่อยๆ ยังไม่ทันเบื่อ ก็ถึงวัดแล้วค่ะ ด่านแรกที่เจอเป็นเจดีย์ 3 ชั้นหลังใหญ่ ชื่อว่า เจดีย์ซันจุโนโตะ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:34:02

ความคิดเห็นที่ 36 วัด Kiyomizu-michi จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:37:17

ความคิดเห็นที่ 37 วัด Kiyomizu-michi จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:37:34

ความคิดเห็นที่ 38 วัด Kiyomizu-michi จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:37:53

ความคิดเห็นที่ 39 วัด Kiyomizu-michi จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:38:17

ความคิดเห็นที่ 40 วัด Kiyomizu-michi จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:38:41

ความคิดเห็นที่ 41 วัด Kiyomizu-michi จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:39:09

ความคิดเห็นที่ 42 วัด Kiyomizu-michi จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:39:30

ความคิดเห็นที่ 43 แต่สิ่งที่ขึ้นชื่อของวัดนี้ คือ ระเบียงของศาลาหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่บนไหล่เขาด้วยเสาไม้ต้นมหึมาหลายต้น มองเห็นตัวเมืองได้ชัดเจน มองไปด้านล่างเห็นคนมากมายกำลังเข้าคิวรอดื่มน้ำจากแม่น้ำสามสาย ที่เป็นน้ำซับธรรมชาติไหลลงมาจากยอดเขามานานนับพันปีแล้ว โดยมีความเชื่อว่า น้ำสายที่ 1 ถ้าใครได้ดื่มจะประสบความสำเร็จด้านการศึกษา น้ำสายที่ 2 ถ้าใครได้ดื่มจะสมหวังในความรัก น้ำสายที่ 3 ถ้าใครได้ดื่มจะมีสุขภาพแข็งแรง จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:40:30

ความคิดเห็นที่ 44 แต่ไม่รู้จะนับสายน้ำจากทางขวาหรือทางซ้าย ก็เลยขอดื่มตรงกลางแล้วกัน ทางด้านหลังของศาลาหลังใหญ่ มีศาลเจ้าของวัดตั้งอยู่ชื่อศาลเจ้าจิชู เป็นศาลเจ้าแห่งความรักและความราบรื่นในชีวิตแต่งงาน แวะไปขอพรกันได้ก่อนจะลงบันได ไปดื่มน้ำจากแม่น้ำสามสาย กระบวยที่ใช้รองน้ำ เขามีวิธีการฆ่าเชื้อที่รวดเร็ว หลังจากรองน้ำดื่มแล้ว ก็ให้นำกระบวยเข้าช่องฆ่าเชื้อด้วยแสงอุลตร้าไวโอเลต (UV) ด้วยเวลาอันจำกัด ก่อนที่แสงจะหมดค่ะ เราต้องรีบออกจากวัดคิโยมิสึเดระ หรือวัดน้ำใส เพื่อไปอีกที่หนึ่งค่ะ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:41:58

ความคิดเห็นที่ 45 ออกมานั่งรถบัสที่ป้าย Kiyomizu-michi นั่งรถสาย 100 ไปลงที่ สถานี Kyoto จากนั้นต่อรถบัสสาย Kyoto City bus (No. South 5) ไปลงสถานี Inari Taisha Mae เรามาที่สถานีนี้เพื่อจะไปที่ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Taisha Shrine) เพื่อมาดูเสาโทริอินับหมื่นค่ะ ก่อนถึงวัดก็มีของน่ารักๆ ให้ดูไปเพลินๆ ค่ะ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:43:22

ความคิดเห็นที่ 47 ของน่ารักๆ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:44:43

ความคิดเห็นที่ 48 ของน่ารักๆ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:45:41

ความคิดเห็นที่ 49 ของน่ารักๆ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:46:25

ความคิดเห็นที่ 50 บนถนนสายเล็กๆ เลียบทางรถไฟ JR สายนารา เดินไปประมาณ 10 นาที ก็จะถึง ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริแล้วค่ะ ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ค่ะ จะมีเสาโทริอิสีแดงนับหมื่นคู่ตั้งอยู่ บนเนินเขาภายในบริเวณศาลเจ้า รู้สึกว่า จะมี 13,000 ต้น ตั้งรียงกันจนกลายเป็นอุโมงค์เสาโทริอิ ทางเดินของอุโมงค์ทั้งหมดยาวร่วม 4 กิโลเมตรเลยทีเดียว จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:47:17

ความคิดเห็นที่ 51 ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:49:06

ความคิดเห็นที่ 52 ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:49:36

ความคิดเห็นที่ 53 ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:50:38

ความคิดเห็นที่ 54 ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:50:59

ความคิดเห็นที่ 55 ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ หรือศาลเจ้าพ่อจิ้งจอกขาว สร้างขึ้นโดยชาวนาเพื่อบูชาสุนัขจิ้งจอกที่เชื่อกันว่าเป็นฑูตส่งสารของเทพเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยว พื้นที่บริเวณนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำ ปลูกข้าวได้ผลผลิตดีมีคุณภาพ จึงเป็นแหล่งผลิตเหล้าสาเกคุณภาพดีด้วยเช่นกัน จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:52:08

ความคิดเห็นที่ 56 เสาโทริอินับหมื่นต้น จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:52:56

ความคิดเห็นที่ 57 เสาโทริอินับหมื่นต้น จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:56:11

ความคิดเห็นที่ 58 เสาโทริอินับหมื่นต้น จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:56:30

ความคิดเห็นที่ 59 เสาโทริอินับหมื่นต้น จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:57:01

ความคิดเห็นที่ 60 เสาโทริอินับหมื่นต้น จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:57:35

ความคิดเห็นที่ 61 เดินไปจนสุดเสาโทริอิชุดแรก ก็ไปเจอเจ้านี่ค่ะ ป้ายไม้รูปสุนัขจิ้งจอก วาดหน้ากันเองน่ารักดี จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:58:37

ความคิดเห็นที่ 62 ส่วนตรงนี้ เค้าบอกว่า ถ้าเราอธิษฐานแล้วยกหินกลมๆ ข้างบนอ่ะค่ะ ข้างไหนก็ได้ ถ้ายกแล้วรู้สึกว่าเบา คำอธิษฐานจะเป็นจริงค่ะ (ของจริงแอบหนัก -_-") จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:59:45

ความคิดเห็นที่ 63 กว่าจะออกจากศาลเจ้าฟูชิมิอินาริก็เริ่มจะหมดแสงแล้วค่ะ เราเดินย้อนกลับมาทางสถานี Inari Taisha Mae มีร้านเกี๊ยวซ่าน่ากิ๊น น่ากินอยู่ร้านหนึ่งเป็นร้านเล็กๆ ดูโทรมๆ ค่ะ แต่พอเข้าไปแล้วก็จะเห็นมีกระดาษที่เป็นลายเซ็นต์ของนักซูโม่ชื่อดังของญี่ปุ่นน่ะค่ะ ประมาณว่า มากินร้านนี้แล้ว อร่อยมาก ประมาณนั้น อืมนะ.....แสดงว่าอร่อยจริง มีนักซูโม่มาการันตีให้ขนาดนี้ ก็ต้องลองซักหน่อย สั่งของกินมาตั้งเยอะแน่ะค่ะ ไม่รู้ว่าเพราะหิวหรืออะไร แต่ของกินเขาก็อร่อยจริงค่ะ ซัดเรียบทุกอย่าง เกี๊ยวซ่าอร่อยมากๆ อิ่มแล้วก็ถึงเวลาจ่ายเงิน จ่ายไปคนละ 1,300 เยน จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 09:01:22

ความคิดเห็นที่ 64 อร่อยทุกอย่างเลย แซ่บๆ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 09:03:32

ความคิดเห็นที่ 65 อร่อยทุกอย่างเลย แซ่บๆ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 09:03:59

ความคิดเห็นที่ 66 อร่อยชัวร์ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 09:05:33

ความคิดเห็นที่ 67 อร่อยชัวร์ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 09:06:21

ความคิดเห็นที่ 68 จากนั้นต้องรีบไปต่อค่ะ เพราะเย็นนี้เราต้องกลับไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ใน locker ตั้งแต่ตอนเช้าที่สถานี Kyoto แล้วต้องออกเดินทางต่อไป Osaka ค่ะ จาก Kyoto ไป Osaka ใช้เวลาไม่มากค่ะ ประมาณ 51 นาที นั่งรถ JR สาย Nara มาลงที่ Kyoto Station มาเอากระเป๋าแล้วต่อรถ JR สาย Tokaido Main Line ต่อไปยังสถานี Osaka ต่อ JR Osaka Loop Line จากสถานี Osaka ต่อไปยังสถานี Shin Imamiya ที่พักของเราอยู่ใกล้ๆ สถานี Shin Imamiya ค่ะ เดินประมาณ 5 นาทีถึง ชื่อ โรงแรม Chuo Oasis ค่ะ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 09:07:46

ความคิดเห็นที่ 69 ห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่สำคัญคนไทยเยอะค่ะ บนห้องมี WIFI ให้เล่นด้วยค่ะ แต่ต้องเอา computer มาเอง แต่ที่ด้านล่างก็มี WIFI ให้เล่นฟรี มีคอมฯ ให้ด้วย จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 09:08:35

ความคิดเห็นที่ 70 ราคาห้องพักคิดคนละ 3,000 เยนต่อคืน ถ้านอนห้องละ 2 คน ถ้านอนคนเดียว คิด 3,200 เยนค่ะ เป็นห้อง style ญี่ปุ่น และ western style แล้วแต่เลือก ตอนจองไป เลือกห้อง style ญี่ปุ่นทั้ง 2 ห้อง แต่ทำไมได้ห้องเดียวก็ไม่รู้ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 09:09:27

ความคิดเห็นที่ 71 มีห้องน้ำในตัว มีทีวี ตู้เย็นให้ด้วย จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 09:10:24

ความคิดเห็นที่ 72 ตอนที่มา check in เนื่องจากว่า เราจะพักที่นี่ 3 คืนค่ะ ทางโรงแรมเขามี connection กับร้าน 100 เยนใกล้ๆ โรงแรม พวกเราเลยได้คูปองมาคนละ 630 เยน สามารถไปซื้อของได้ค่ะ หรือจะเรียกว่าไปเอาของฟรีก็ได้ค่ะ เป็นคูปองใช้แทนเงินสดแบบมีเงื่อนไขแค่ว่า ถ้าซื้อของไมถึงมูลค่าในคูปอง เขาไม่ทอนค่ะ ยึดคูปองเลย แล้วก็ไม่สามารถใช้ซื้อข้าว กับเบียร์ได้ค่ะ เรา 2 ไปหยิบๆ ของมาประมาณ 1700 เยน (ใช้คูปอง 2 ใบ) จ่ายเงินเพิ่มแค่ 210 เยนค่ะ แต่ร้าน 100 เยนร้านนี้ ของไม่ค่อยน่าซื้อเท่าไหร่ ก็เลยหยิบของประเภทถุงพลาสติกสำหรับ Pack ของสำหรับกระเป๋าเดินทาง แล้วก็น้ำดื่มค่ะ คืนนี้หมด Program แล้วค่ะ เก็บแรงไว้สำหรับเต็มที่กับชีวิตอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ค่ะ ราตรีสวัสดิ์ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 09:11:25

ความคิดเห็นที่ 73 หลังจากผ่านไป 5 วัน อิฉันสอยดินสอกดของสะสมมากี่แท่งหล่ะนี่ 555+ สะใจที่สุด จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 09:13:27

ความคิดเห็นที่ 74 ตะลุยญี่ปุ่น หลังสึนามิ (สงกรานต์ 2011) ตอนที่ 6 http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11005551/E11005551.html จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 09:16:42

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 10:03:36

ความคิดเห็นที่ 76 ยินดีจ้ะ คุณเล็กทาโร่ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 17:53:05

ความคิดเห็นที่ 77 มาดูรีวิวนี้ช่วงมื้อเย็นหิวเลยค่ะ ว่าจะงดกินหลัง 6 โมง อิอิ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 19:05:38

ความคิดเห็นที่ 78 @ สาวหน้าใส ว๊าย ขอโทษ อิอิ จากคุณ : Ayaros เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 10:19:42