ความคิดเห็นที่ 1 นั่งรอคุณสามีออกมาจากออฟฟิศค่ะ   ทำหน้าเบิกบานสุดฤทธิ์(ทั้งๆที่ไม่ต้องทำก็หน้าบานได้โล่อยู่แล้ว) จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:33:52

ความคิดเห็นที่ 2 เสบียงกรังสำหรับคุณสามี   ทุกครั้งที่ไปทำงานกับคุณสามีก็จะเตรียมไปให้หม่ำๆค่ะ   เพราะบ่อยครั้งเวลาที่คุณสามีงานยุ่งๆก็จะไม่ยอมทานข้าว จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:34:43

ความคิดเห็นที่ 3 ขึ้นรถได้  คุณสามีปาดข้าวเหนียวสังขยาไปก่อน  ตามด้วยข้าวเหนียวไก่ทอด   อืม....วันนี้พลังข้าวเหนียวล้วนๆ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:35:32

ความคิดเห็นที่ 4 รถติดได้ใจจริงๆกรุงเทพ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:36:00

ความคิดเห็นที่ 5 บรรยากาศเวลาเกือบเที่ยง   แต่มืดยังกะหกโมงเย็น จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:36:29

ความคิดเห็นที่ 6 ขับผ่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่  มายมราช   และผ่านหน้าลานพระรูป   เลี้ยวขวาขึ้นสะพานพระราม 8 จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:37:25

ความคิดเห็นที่ 7 วิวสวยดีนะคะ   นั่งมองผ่านกระจกรถ  มีฝนปรอยๆ   คุณสามีแซวว่าทำยังกะเป็นนางเอกมิวสิก (ขับรถไปตาเฒ่า  อย่าแซว!!!!) จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:38:25

ความคิดเห็นที่ 8 สะพานพระราม 8 เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งที่ 13 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีแนวสายทางเชื่อมต่อกับทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณโรงงานสุราบางยี่ขัน เขตบางพลัด บรรจบกับปลายถนนวิสุทธิกษัตริย์ ใกล้กับธนาคารแห่งประเทศไทย เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ด้วย ณ ตอนนั้น  ในหลวงของเราต้องทรงไปดูแลสมเด็จย่าที่โรงพยาบาลศิริราช   พระองค์ทรงเห็นว่าการจราจรติดขัดมากๆ   หากมีสะพานข้ามแม่น้ำระหว่างฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี  ก็จะช่วยลดการจราจรติดขัดลงได้มากเลยทีเดียว สะพานนี้เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 พระองค์มีพระราชดำริให้กรุงเทพมหานครก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อบรรเทาการจราจรบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้ารองรับการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี และเป็นจุดเชื่อมต่อโครงการพระราชดำริตามแนวจตุรทิศ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:43:34

ความคิดเห็นที่ 9 ถึงแล้ว โรงพยาบาลศิริราช ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเกิดอหิวาตกโรคระบาดชุกชุมเมื่อ พ.ศ. 2424 ในครั้งนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโรงพยาบาลขึ้นชั่วคราวในที่ชุมชนรวม 48 ตำบล ครั้นโรคร้ายเสื่อมถอยลง โรงพยาบาลจึงได้ปิดทำการ หากแต่ในพระราชหฤทัยทรงตระหนักว่า โรงพยาบาลนั้นยังประโยชน์บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้พสกนิกรและผู้อยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร แต่การโรงพยาบาลนั้นเป็นการใหญ่ จำเป็นอยู่ที่ต้องมีคณะกรรมการเพื่อจัดการโรงพยาบาลให้สำเร็จ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2429 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการจัดสร้างโรงพยาบาลขึ้นเพื่อพระราชทานให้เป็นสถานที่รักษาแก่ประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน โดยสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลนั้น อยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณพระราชวังบวรสถานพิมุข หรือ วังหลัง ซึ่งเป็นวังเดิมของกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นสถานที่รกร้าง แต่มีความร่มเย็นเหมาะสมสำหรับเป็นสถานที่รักษาพยาบาลผู้ป่วย ในระหว่างที่เตรียมการก่อสร้างโรงพยาบาลนั้น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ พระราชโอรสอันประสูติจากสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ได้ประชวรโรคบิดสิ้นพระชนม์ลงเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2430 ยังความอาลัยเศร้าโศกแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ยิ่งนักถึงกับทรงมีพระราชปณิธานอย่างแรงกล้าที่จะให้มีโรงพยาบาลขึ้น ครั้นเสร็จงานพระเมรุแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รื้อโรงเรือนและเครื่องใช้ต่าง ๆ ในงานพระเมรุนำไปสร้างโรงพยาบาล ณ บริเวณวังหลังดังกล่าว นอกจากนี้ยังพระราชทานทรัพย์ส่วนของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ฯ แก่โรงพยาบาลอีกด้วย ในระยะแรกคณะกรรมการจัดสร้างโรงพยาบาล ได้จัดสร้างเรือนพักผู้ป่วยขึ้น 6 หลัง และเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2431 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิด และพระราชทานนามว่า โรงศิริราชพยาบาล หรือ ที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า โรงพยาบาลวังหลัง โดยทำการบำบัดรักษาผู้ป่วยไข้ทั้งแผนปัจจุบันและแผนโบราณของไทย จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:46:59

ความคิดเห็นที่ 10 พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก  ณ ศาลาศิริราช 100 ปี จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:48:19

ความคิดเห็นที่ 11 วันมหิดล ตรงกับวันที่ 24 กันยายน ของทุกปี อันเป็น วันคล้ายวันทิวงคต ของ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (กรมหลวงสงขลานครินทร์) พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:49:27

ความคิดเห็นที่ 12 คุณสามีทำงานเสร็จ  ก็พาทัวร์ค่ะ  วันนี้บอกว่าจะพาไปพิพิธภัณฑ์   แล้วก็จูงมือเดินลิ่วๆไป   เอ.....ในโรงพยาบาลเนี่ยมีพิพิธภัณฑ์ด้วยเหรอเนี่ย จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:50:33

ความคิดเห็นที่ 13 มีป้ายบอกทางไม่ต้องกลัวหลงค่ะ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:50:58

ความคิดเห็นที่ 14 พิพิธภัณฑ์อยู่ที่ตึกอดุลยเดชวิกรมค่ะ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:51:42

ความคิดเห็นที่ 15 เดินเข้ามาที่ตึก  ก็ทำการแลกบัตรกันก่อนนะคะ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:52:09

ความคิดเห็นที่ 16 แลกบัตรเสร็จ  ขึ้นบันไดไปชั้น 2 กันเลยค่ะ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:52:34

ความคิดเห็นที่ 17 ขึ้นมาก็เจอรถคันนี้ในตู้กระจกค่ะ  แต่ไม่ทันได้อ่านรายละเอียด จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:54:28

ความคิดเห็นที่ 18 เจอป้ายปุ๊บ   คุณสามีพาจูงมือไปทางขวามือเลยค่ะ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:55:04

ความคิดเห็นที่ 19 ถึงแล้ว (แอบทำหน้าเหรอหรา  นี่เหรอ พิพิธภัณฑ์) จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:55:40

ความคิดเห็นที่ 20 พิพิธภัณฑ์ภายในโรงพยาบาลศิริราชเริ่มมาจากการเก็บและ จัดแสดงสิ่งของของแต่ละภาควิชา โดยในปีพ.ศ. 2525 มี พิพิธภัณฑ์ที่เปิดรวม 13 แห่งเมื่อระยะเวลาผ่านไปพิพิธภัณฑ์ คงเหลือเพียง 6 แห่งที่สามารถเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้มี โอกาสเข้าเยี่ยมชม คือ 1. พิพิธภัณฑ์พยาธิวิทยาเอลลิส 2. พิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ สงกรานต์ นิยมเสน 3. พิพิธภัณฑ์ ประวัติการแพทย์ไทย อวย เกตุสิงห์ 4. พิพิธภัณฑ์ปรสิตวิทยา 5. พิพิธภัณฑ์กายวิภาคศาสตร์คองดอน 6. พิพิธภัณฑ์ก่อน ประวัติศาสตร์และห้องปฏิบัติการ สุด แสงวิเชียร เมื่อคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้รับมอบพื้นที่บางส่วนของสถานีรถไฟธนบุรีจำนวน 33 ไร่ จาก การรถไฟแห่งประเทศไทย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2546 นั้นคณะฯเล็งเห็นว่า เพื่อให้วงการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศมีการพัฒนาทั้งด้านวิชาการการวิจัย การศึกษา และการบริการ ชั้นเลิศ คณะฯ จึงเสนอโครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ต่อรัฐบาล จึงได้ วางแผนการดำเนินงาน เพื่อมุ่งสู่สถาบันทางการแพทย์ชั้นเลิศฯ ซึ่งประกอบด้วยโครงการย่อย 7 โครงการ พิพิธภัณฑ์เป็นหนึ่งในโครงการย่อยเหล่านั้น ทั้งนี้คณะฯ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ ในส่วน ของพิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราชขึ้น เพื่อให้รับผิดชอบดูแลพิพิธภัณฑ์ต่างๆในศิริราชคณะอนุกรรมการฯได้ พิจารณาจัดตั้ง คณะทำงานเพื่อปฏิบัติหน้าที่รวบรวมเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพิพิธภัณฑ์ ภาควิชาและหน่วยงาน ต่างๆภายในโรงพยาบาลศิริราชเพื่อเก็บเป็นข้อมูลเบื้องต้นสำหรับโครงการ ซึ่งทั้งหมดรวมเรียกเป็น พิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช ในปัจจุบัน จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:58:38

ความคิดเห็นที่ 21 ซื้อบัตรเข้าชมกันก่อนเลยค่ะ  คนละ 20 บาท (คุณสามีบอกว่าลืมบอกให้แต่งชุดนักเรียนมา  จะได้เข้าฟรี   เอ่อ.....รุ่นนี้ไม่ไหวแล้วมั้งคะ) จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:59:38

ความคิดเห็นที่ 22 กรอกรายละเอียดกันนิดหน่อยค่ะ  กรอกเสร็จปุ๊บ   เจ้าหน้าที่บอกว่า "ห้ามถ่ายรูป"   แง๊ๆๆๆๆๆๆๆ   ทำไมล่ะคะ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:00:34

ความคิดเห็นที่ 23 ได้รับคำตอบมาค่ะว่า  แต่ก่อนนั้นเค้าเปิดให้ถ่ายภาพได้   ใครอยากถ่าย  ไม่กลัว  ไม่ปอดแหก   ก็ถ่ายรูปกันได้เลย   แต่ตอนหลังมีการถ่ายภาพแล้วเกิดให้มีใบสั่งให้มาขโมยของค่ะ งงกันล่ะสิคะ   คุณนายก็งงค่ะ  จะมาขโมยอะไรกับพิพิธภัณฑ์ในโรงพยาบาล   ก็ได้คำตอบว่า   ขโมยหัวกะโหลกเอาไปเขียนยันต์   โอ้ว!!!!!!!!!!ช่างกล้า   จับคนร้ายได้   ยึดกระโหลกกลับคืนมาก็เสียหายไปแล้วค่ะ   เค้าก็เลยไม่เปิดให้ถ่ายภาพค่ะ งั้นคุณนายช่างคอมก็ขอรวบรวมภาพจากเว็บไซด์ต่างๆที่พอจะหามาได้มาให้ชมกันนะคะ เครดิตภาพจาก http://tourrattanakosin.wordpress.com/2010/11/02/%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B7/ http://www.vcharkarn.com/varticle/38645 http://www.thairath.co.th/today/view/11975 http://geo.soc.ku.ac.th/nisit_task/tourriver/bn05-1014.html http://bbs.playpark.com/topic/60819-50-%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%AF-%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%9B/page__st__20 จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:06:05

ความคิดเห็นที่ 24 ดูไปก็ปอดแหกไปค่ะ   คุณสามีหัวเราะว่าอะไรกันคุณนายเรียนเอกการแพทย์มาแท้ๆ   ยังจะมาปอดแหกอีก   ก็แหม.....ตอนเรียนมันไม่น่ากลัวนี่นา (แต่ก็มีแอบกลัวบ้าง)   ตอนนี้ก็เรียนจบมานาน   ไม่ค่อยได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้เท่าไหร่   ก็มีปอดแหกกันบ้างแหละ ยิ่งโซนสึนามิ   เล่นเอาสะดุ้งกันเลยค่ะ   5555   ใครเคยไปจะรู้ดีเลย   แต่ถ้าใครไม่เคยไป   แล้วขี้กลัว   ไม่แนะนำให้ไปคนเดียวค่ะ   เดี๋ยวจะหลอน เอาล่ะ  ชมพิพิธภัณฑ์กันหนำใจ  คุณสามีถามว่า   ไปไหว้พระแบบที่คุณชอบดีไหม   แหม....รู้ใจจริงๆ   ไปสิคะ ว่าแล้วคุณสามีก็เดินจูงมือมาที่วัดค่ะ  อยู่ติดกับโรงพยาลกันเลย จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:09:49

ความคิดเห็นที่ 25 ไปไหว้พระกันค่ะ   วัดนี้เนี่ย   ชาวบ้านแถวนี้เค้านับถือศรัทธากันมากนะคะ  เพราะเล่ากันว่าตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 (รุ่นโกโบริและแม่อังศุมาลิน)เครื่องบินทิ้งระเบิดใกล้ๆโบสถ์   แต่น่าแปลกที่โบสถ์ไม่ได้รับอันตรายใดๆเลย วัดอมรินทรารามวรวิหาร หรือ วัดบางหว้าน้อย ตั้งอยู่เลขที่ 566 แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดราชวรวิหาร ต่อมาได้ถูกจัดเป็น ชั้นตรีชนิดวรวิหาร ตามประกาศลงวันที่ 30 กันยายน 2548 ในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โปรดฯ ให้บูรณะปฏิสังขรณ์ แล้วสถาปนาให้เป็นพระอารามหลวง ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 1 กรมพระราชวังหลังได้โปรดสถาปนาวัดนี้ขึ้นใหม่ได้เป็นผู้สถาปนาขึ้นใหม่หมดทั้งพระอาราม คือ สร้างพระอุโบสถ พระระเบียง วิหาร กำแพงแก้ว ศาลาราย หอระฆัง หอไตร หอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญ กุฏิ เสนาสนะ และ ถนนในพระอาราม รัชกาลที่ 1 ได้พระราชทานนามใหม่ว่า "วัดอมรินทราราม" คู่กับวัดบางหว้าใหญ่ ที่เปลี่ยนชื่อเป็นวัดระฆังโฆสิตาราม จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:13:22

ความคิดเห็นที่ 26 วัดนี้มี หลวงพ่อโบสถ์น้อย เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ค่ะ   บรรยากาศภายในวัดก็สงบดีค่ะ  แต่รถจอดกันเยอะแยะไปหน่อย จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:16:20

ความคิดเห็นที่ 27 สิงห์น่าเกรงขาม จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:16:44

ความคิดเห็นที่ 28 ไปไหว้หลวงพ่อกันค่ะ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:18:01

ความคิดเห็นที่ 29 จุดธุปไหว้ด้านนอกกันก่อนค่ะ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:18:29

ความคิดเห็นที่ 30 มีอะไรกินไหมเนี่ย จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:20:33

ความคิดเห็นที่ 31 ไหว้ด้านนอกเสร็จแล้ว  ก็พากันเดินมาไหว้หลวงพ่อโบสถ์น้อยด้านในกันค่ะ หลวงพ่อโบสถ์น้อย เป็นพระพุทธรูปศักดิ์ศิทธิ์สมัยสุโขทัย ปางมารวิชัย วัสดุทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง ๔ ศอก ๒๒ นิ้ว สูง ๗ ศอก ๒๑ นิ้ว ไม่ปรากฏหลักฐานความเป็นมาแน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างในสมัยใด แต่จากคำบอกเล่าสืบต่อกันมาว่า เดิม หลวงพ่อโบสถ์น้อยเป็นพระพุทธรูปที่หล่อด้วยทองสำริด มีขนาดไม่ใหญ่นักแต่จะมีขนาดเท่าใดและเป็นพระพุทธรูปสมัยใดนั้นไม่ ปรากฏแน่ชัด สันนิษฐานว่าหลวงพ่อโบสถ์น้อยคงจะเป็นพระพุทธรูปสำคัญที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านจึงมีความเลื่อมใสศรัทธาและ อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถ แต่ด้วยเหตุที่องค์พระพุทธรูปมีขนาดเล็ก ไม่สมกับพระอุโบสถที่มีความกว้าง ขวางใหญ่โต ดังนั้นชาวบ้านจึงได้คิดหากลอุบายด้วยการปั้นปูนพอกทับอำพรางองค์จริงของพระพุทธรูปเอาไว้ เพื่อให้มีขนาดที่เหมาะ สมกับพระอุโบสถ ซึ่งขณะนั้นมีขนาดยาวถึง ๔ ห้อง ครั้นต่อมาถึง พ.ศ. ๒๔๔๑ ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้าฯ ให้ตัดเส้นทางรถไฟสาย ใต้ เริ่มจากปากคลองบางกอกน้อยไปทางนครปฐมมีผลให้พื้นที่ด้านหน้าวัดอมรินทรารามตรงปากคลองบางกอกน้อยถูกตัดตอนเป็น ทางรถไฟ วางรางรถไฟเฉียดผ่านพระอุโบสถของวัดจนถึงกับต้องรื้อด้านหน้าของพระอุโบสถออกไปเสียห้องหนึ่ง เหลือเพียง ๓ ห้อง เท่านั้น ทำให้พระอุโบสถมีขนาดเล็กลง ชาวบ้านจึงเรียกว่า “โบสถ์น้อย” และคงจะเรียกชื่อพระประธานในพระอุโบสถโดยอนุโลมว่า “หลวงพ่อโบสถ์น้อย” ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยังคงมีเรื่องเล่ากันถึงความมหัศจรรย์ของหลวงพ่อโบสถ์น้อยที่ได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ ประจักษ์แก่ประชาชนโดยทั่วไป กล่าวคือ เมื่อครั้งที่นายช่างฝรั่งมาส่องกล้องเพื่อดำเนินการตัดทางสำหรับวางรางรถไฟนั้นเมื่อส่อง กล้องแล้ว พบว่าเส้นทางนั้นจะต้องถูกพระอุโบสถและองค์พระพุทธรูปพอดี ในคราวนั้นกล่าวกันว่า ได้เกิดอาเพศเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้น จนนายช่างฝรั่งไม่สามารถที่จะทำการตัดเส้นทางให้เป็นแนวตรงได้ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนเส้นทางใหม่เป็นแนวอ้อมโค้งดังปรากฏให้ เห็นในปัจจุบัน จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:21:15

ความคิดเห็นที่ 32 ความคิดเห็นที่ 30    มีอะไรกินไหมเนี่ย จากคุณ : เล็กทาโร่   > สวัสดีค่ะพี่เล็กทาโร่   555   ต้องรอดูค่ะว่ามีอะไรให้หม่ำกันไหม ภาพเขียนภายในโบสถ์ค่ะ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:23:45

ความคิดเห็นที่ 33 ไหว้หลวงพ่อเสร็จ   ก็ออกมาทำบุญกันค่ะ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:24:17

ความคิดเห็นที่ 34 เค้าว่ากันว่า  บริจาคกระเบื้องมุงหลังคา  จะได้อานิสงฆ์ให้ครอบครัวสงบสุขร่มเย็นค่ะ   สาธุค่ะ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:25:16

ความคิดเห็นที่ 35 ทำบุญแล้วกระปรี้ประเปร่า    แฮปี้กระดี๊กระด๊า จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:27:06

ความคิดเห็นที่ 36 เดินออกมาจ๊ะเอ๋ไก่ทอด   คุณสามีปาดไป 1 น่อง   เอ....วันนี้เป็นอะไรมากไหมคะคุณสามี   เมื่อเที่ยงก็ไก่ทอดข้าวเหนียวในรถ   นี่ก็ไก่ทอดอีกล่ะ  และที่สำคัญ กินไม่แบ่ง!!!!!!!!!! จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:29:33

ความคิดเห็นที่ 37 หันไปสั่งฝรั่งดองดีกว่า  ไม่กินก็ได้ไก่ทอดน่ะ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:31:13

ความคิดเห็นที่ 38 ไปกันต่อเลยค่ะ   ออกรถได้......... จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:32:56

ความคิดเห็นที่ 39 ตามไปด้วยครับคุณนาย พาเที่ยวอีกแล้วนะครับ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:33:46

ความคิดเห็นที่ 40 ความคิดเห็นที่ 39    ตามไปด้วยครับคุณนาย พาเที่ยวอีกแล้วนะครับ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ > สวัสดีค่ะน้าเอก   ไปเที่ยวด้วยกันนะคะ   ข้ามสะพานพระราม 8 กลับมาฝั่งพระนครค่ะ   ไปบางลำพูกันต่อ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:36:27

ความคิดเห็นที่ 41 สวัสดีค้ะน้องตาล ตามไปเที่ยว/ไหว้พระด้วยคนนะคะ ขอชิมข้าวเหนียวสังขยาด้วยค่ะ อิอิ จากคุณ : windystate เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:37:48

ความคิดเห็นที่ 42 จอดรถก็ไม่ยากค่ะ  มีอาคารจอดรถบริการให้   พิกัดอยู่ตรงห้างบางลำพูน่ะค่ะ   กรุงเทพมหานครดูแลอยู่ค่ะ   เปิดให้จอดถึงตี 2 ครึ่งกันเลยทีเดียว   ค่าจอดรถชั่วโมงละ 20 บาทโดยประมาณค่ะ เดี๋ยวนี้บางลำพูไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่   ตอนสมัยเด็กๆ  มากับคุณแม่   ชอบมากๆเลยค่ะ   ที่นี่มีเสื้อผ้าสวยๆทั้งวัยรุ่น  ชุดนักเรียน  นักศึกษา  ราคาไม่แพงค่ะ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:38:59

ความคิดเห็นที่ 43 ความคิดเห็นที่ 41    สวัสดีค้ะน้องตาลตามไปเที่ยว/ไหว้พระด้วยคนนะคะ ขอชิมข้าวเหนียวสังขยาด้วยค่ะ อิอิ จากคุณ : windystate   > สวัสดีค่ะพี่นก   ข้าวเหนียวสังขยา   คุณสามีหม่ำคนเดียวหมดเลยค่ะ   ของขายก็ยังราคาไม่แพงค่ะ   แอบเล็งเสื้อไม่  แต่คุณสามีสิคะ   ลากไปอย่างไว   แหม....ขัดขวางการช้อปของภรรยาเนี่ย   ถึงตายได้นะจ๊ะ   ฮึ่ม!!!!!! จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:41:58

ความคิดเห็นที่ 44 ไปด้วย จากคุณ : tottui เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:44:20

ความคิดเห็นที่ 45 เหตุที่มาบางลำพู   เพราะงวดก่อนน้าลีโอได้ตั้งกระทู้ไว้ <<< ....รีวิวสั้นๆ Unseen บางลำพู.... >>> http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10903294/E10903294.html คุณนายก็เลี้ยงปลาน่ะค่ะ  เลยแบบอยากได้น้องปลามานอนเล่นบ่อที่บ้านเพิ่ม   ก็เลยว่าจะไปอุ้มน้องปลามาเลี้ยงค่ะ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:49:24

ความคิดเห็นที่ 46 ความคิดเห็นที่ 44    ไปด้วย จากคุณ : tottui   > สวัสดีค่ะคุณ tottui   ไปด้วยกันเลยค่ะ เลี้ยวเข้าซอยมาตามพิกัดที่น้าลีโอบอกค่ะ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:51:00

ความคิดเห็นที่ 47 จ๊ะเอ๋   น้องปลา   โผล่หัวเข้าไปเสียวตึกจะถล่มลงมาใส่หัวดีค่ะ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:51:41

ความคิดเห็นที่ 48 มาเที่ยวใกล้บ้านเรามากค่ะ ตอนสมัยเรียน ปวช ไปดูซีอุย 2-3 ครั้งค่ะ ดูเสร็จแล้ว ไปทานส้มตำ คอหมูย่างกันต่อ (จิตมาก) สนุกๆ ทำให้นึกถึงวัยเด็กเลย อิอิ จากคุณ : I trust Severus Snape เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:51:51

ความคิดเห็นที่ 49 น้องปลาคงอิ่มแล้ว  หนีไปนอนกันหมดเลย  ออกมาแหวกว่ายไม่เยอะค่ะ  แต่ตัวเบิ้มๆกันทั้งนั้น   บางตัวคาดว่าน่าจะท้องค่ะ  พุงโตเชียว จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:52:39

ความคิดเห็นที่ 50 ตามมาแล้ว เป็นแฟนคลับ  คุณนายช่างคอมไปแล้วๆๆๆ จากคุณ : ชานมชงเอง เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:53:38

ความคิดเห็นที่ 51 สาธุ กราบหลวงพ่อโบสถ์น้อย ๓ ครั้งงาม ๆ ค่ะ จากคุณ : บัวนลิน เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:53:42

ความคิดเห็นที่ 52 เดินออกมาซื้ออาหารปลา 10 บาท  ตรงร้านก๋วยเตี๋ยวและถามเจ๊ว่า "เจ๊คะ  ปลานี่ตักไปเลี้ยงได้ไหมคะ"   เจ๊ขายก๋วยเตี๋ยวยิ่มแฉ่ง  "ตักได้จ้ะ" จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:54:01

ความคิดเห็นที่ 53 เอาอาหารมาให้น้องปลา  เพื่อหลอกล่อไปอยู่ที่บ่อบ้านคุณนาย   เหอเหอ   คุณสามีบ่นกระปอดกระแปด   อยากได้อะไรไม่เหมือนคนอื่นเค้านะภรรยาผม   ตักไป....อย่าบ่น!!!!!!!! จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:55:20

ความคิดเห็นที่ 54 ความคิดเห็นที่ 48    มาเที่ยวใกล้บ้านเรามากค่ะ   ตอนสมัยเรียน ปวช ไปดูซีอุย 2-3 ครั้งค่ะ ดูเสร็จแล้ว ไปทานส้มตำ คอหมูย่างกันต่อ (จิตมาก) สนุกๆ ทำให้นึกถึงวัยเด็กเลย อิอิ จากคุณ : I trust Severus Snape > สวัสดีค่ะคุณ I trust Severus Snape    ดูซีอุยแล้วยังไม่จิตเท่ากับเดินเข้าห้องสึนามิค่ะ   อันนั้นหลอนมาก   สะดุ้งหันหลังกลับแทบไม่ทัน ความคิดเห็นที่ 50    ตามมาแล้ว เป็นแฟนคลับ  คุณนายช่างคอมไปแล้วๆๆๆ จากคุณ : ชานมชงเอง     > สวัสดีจ้ะน้องชานม    พี่ก็เป็นแฟนคลับน้องชานมเหมือนกันจ้า     ความคิดเห็นที่ 51     สาธุ กราบหลวงพ่อโบสถ์น้อย ๓ ครั้งงาม ๆ ค่ะ จากคุณ : บัวนลิน   > สวัสดีค่ะพี่บัว    ไว้ว่างๆสนใจไปไหว้พระด้วยกันไหมคะ   เดี๋ยวคุณนายจัดทริปเอง   5555 น้องปลาคาร์ฟเค้าจะตกใจง่ายค่ะ   ได้ยินเสียงอะไรนิดเดียวก็วิ่งเปรี้ยวว่ายจู๊ดๆหนีกระเจิงกันหมดแล้ว   คุณสามีก็เหนื่อยสิคะ   ตักน้องปลาลำบากยากเข็ญ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 21:00:44

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณที่ชวนนะคะ ถ้ามีโอกาส พี่คงได้ไปด้วยค่ะน้องตาล จากคุณ : บัวนลิน เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 21:04:17

ความคิดเห็นที่ 56 แต่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!  จู่ๆก็มีอาเจ็กคนนึงเดินมา ด่า ย้ำค่ะ ว่า "ด่า"   ว่ามาตักปลาได้ไง   อยากได้ก็เอาเงินไปซื้อเอาซี   อันนี้เค้าเลี้ยงไว้นะ   น้ำเสียงนี่แทบจะกินกันเลย คุณนายก็งงสิคะ  ก็บอก  อ้าวหนูไม่ทราบค่ะ   แล้วเมื่อกี้ถามเจ๊ร้านก๋วยเตี๋ยว   เค้าก็บอกว่าตักได้นี่คะ   หนูจะเอาไปเลี้ยงแค่ตัวสองตัว   ไม่ได้เอาไปขายค่ะ อาเจ็กคนนี้ก็  ยืนตะเบ็งเสียงว่า ไหนๆ  คนไหน   คุณนายก็บอกเจ๊คนที่ขายก๋วยเตี๋ยว  ที่ขายอาหารปลานี่แหละค่ะ   เค้าบอกว่าตักไปเลี้ยงได้ เค้าก็เถียงกลับมาด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรว่า ไม่ได้  เค้าเลี้ยงไว้   #@888#@!!!!!!! ตอนนั้นฟังไม่รู้เรื่อง  เพราะเอ๋ออยู่   คุณสามีเลยมาจูงมือบอกว่า  ครับๆ   ขอโทษครับ  แล้วลากคุณนายออกมา   ออกมายืนตั้งหลักที่หน้าปากซอย   คุณสามีเลยปลอบว่าไม่เป็นไร   เราไม่รู้   ไม่ต้องตกใจนะ   แล้วก็บอกให้มาบอกเพื่อนๆในนี้ว่า   ใครอยากได้น้องปลา   คงไปตักมาเลี้ยงไม่ได้แล้วนะคะ   เดี๋ยวโดนเค้าว่าเอา (อาเจ๊กนั่งวางก้ามตรงด้านหน้า   ฮึ่ม!!!!บอกกันดีๆก็ได้นี่คะ   หนูไม่ได้ตั้งใจ  เพราะเห็นว่าตักไปเลี้ยงได้  และหนูก็ถามคนแถวนั้นแล้ว) จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 21:14:10

ความคิดเห็นที่ 57 หลังจากช็อกนิดหน่อยกับอาเจ็ก  ก็เดินออกมา   เหอเหอ  เซ็งๆนิดหน่อยค่ะ   เลยชวนคุณสามีไปซื้อขนมกลับไปทานที่บ้านแล้วจะได้กลับบ้านกัน แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 54 21:16:10 จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 21:15:48

ความคิดเห็นที่ 58 กลับบ้านกันค่ะ จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 21:21:08

ความคิดเห็นที่ 59 เป็นแฟนคลับคุณพี่คุณนายช่างคอมอีกคน แอบตามไปดูเกือบทุกรีวิวเลยค่ะ จากคุณ : PJ_Parichat เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 21:23:27

ความคิดเห็นที่ 60 จะเลี้ยงปลาหมอสี....ไหมครับ ผมเลี้ยงอยู่....เพาะได้มาหลายร้อยตัว... อยากได้...แจกฟรีครับ...มาตักที่บ้านได้เลย... จากคุณ : เล้ง (แก้วบางจาก) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 21:50:15

ความคิดเห็นที่ 61 ถ้าเป็นเราโดนเค้าว่าแบบนี้ก็คงตกใจเหมือนกันนะคะ แต่ไม่แน่...อาจมีสวนค่ะ แหม...พูดกันดีๆก็ได้เนอะไม่เห็นต้องด่ากันเลย จากคุณ : windystate เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 22:01:06

ความคิดเห็นที่ 62 เยี่ยมไปเลยอ่ะ รีวิวที่เที่ยวที่กินตลอดเลยนะครับคุณนายช่างคอม.. ขอบคุณครับสำหรับรีวิวสวยๆ จากคุณ : ลอยล่องคนเดียว เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 08:10:10

ความคิดเห็นที่ 63 แอบกลัวรูป คห.23 อ่า ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ เพิ่งรู้ว่าในโรงพายาบาลศิริราชมีพิพิธภัณฑ์ด้วย ^^ จากคุณ : สามแซ่ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 19:59:02

ความคิดเห็นที่ 64 แวะมาชมรีวิวด้วยคนค่ะ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 00:28:58