|
เชียงราย เมือง 5 เชียง เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง จังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทย มีเทือกเขาสูง สลับซับซ้อนทางตอนเหนือของภาค เป็นเหมือนกำแพงธรรมชาติกั้นพรมแดน ไทย พม่า ลาว แนวเขาทอดยาวต่อเนื่องจากเทือกเขาหิมาลัย และเทือกเขาในแคว้นยูนนานของจีน ลงมาถึงแอ่งที่ราบลุ่ม แม่น้ำกก – อิง – ลาว เชียงรายมีพื้นที่กว่าร้อยละ 90 เป็นภูเขาสูง ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงรายแบบคร่าวๆ ครับ (ลองจัดโปรแกรมกันดูนะครับ)
ตัวเมืองเชียงราย เชียงรายมีขนาดไม่ใหญ่มาก ส่วนมากเป็นวัดเก่าแก่ อาจหาที่จอดรถค่อนข้างยากในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมือง มีดังนี้ - อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช - หอวัฒนธรรม หรือ หอวัฒนธรรมนิทัศน์เฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก - วัดพระสิงห์ (อุโบสถเก่าแก่ และ บานประตูอุโบสถใหม่ออกแบบโดย อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินล้านนา) - วัดพระแก้ว หรือ วัดป่าญะ เป็นสถานที่ค้นพบพระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระแก้ว กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนชาวเชียงราย ร่วมกันสร้างพระหยกเชียงราย เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จย่า มีพระชนมายุครบ 90 พรรษา ได้รับพระราชทานนามว่า “พระพุทธรัตนากรนวุติวัสสานุสรณ์มงคล” พระอุโบสถรูปแบบสถาปัตยกรรมล้านนาประยุกต์ - วัดงำเมือง (สถูปบรรจุอัฐิพญามังราย) - วัดมิ่งเมือง วัดเงี้ยว วัดช้างมูบ (ช้างหมอบ) มีบ่อน้ำโบราณ เรียกว่า บ่อน้ำช้างมูบ เป็นศิลปะแบบไทยใหญ่มีซุ้มครอบไว้บนหลังช้าง วัดนี้สันนิษฐานว่า ได้บรรจุพระสารีริกธาตุมาบนหลังช้าง แล้วนำมาประดิษฐานไว้ในเจดีย์ช้างมูบ หมอบรอที่วัดมิ่งเมือง เพื่อที่จะนำองค์พระแก้วแห่ไปยังจังหวัดลำปาง - วัดมุงเมือง - วัดศรีเกิด - วัดพระธาตุดอยจอมทอง (วัดเก่าแก่ที่สุดในเชียงราย, เสาสะดือเมือง 108 หลัก) - วัดกลางเวียง (เสาหลักเมือง หรือ เสาสะดือเวียง) - รอยพระบาทในหลวงรัชกาลที่ 9 - พิพิธภัณฑ์และศูนย์ศึกษาชาวเขา - พิพิธภัณฑ์อูบคำ (บัลลังก์เจ้าฟ้าเมืองไต, ผ้าโบราณ, เครื่องเขิน, เครื่องเงินโบราณ, เครื่องใช้ของ เจ้าฟ้า เจ้านางในราชสำนัก) - ไร่แม่ฟ้าหลวง - พิพิธภัณฑ์และศูนย์ศึกษาชาวเขา - หาดเชียงราย - วัดร่องขุ่น พระอุโบสถ และ หน้าบันประดับด้วยพญานาค มีลวดลายแปลกตา สวยงามมาก ภายในอุโบสถมีภาพ จิตรกรรมฝาผนัง โดยเฉพาะภาพพระพุทธองค์หลังพระประธาน ซึ่งเป็นภาพที่ใหญ่งดงามมาก อุโบสถวัดร่องขุ่น ที่ อ. เฉลิมชัย ได้สรรค์สร้างขึ้นมาล้วนแต่มีความหมายยิ่ง โบสถ์ เปรียบเหมือนบ้านของพระพุทธเจ้า สีขาว แทนพระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า กระจกขาว หมายถึง พระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าที่เปล่งประกายไปทั่วโลกมนุษย์ และจักรวาล สะพาน หมายถึง การเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ ครึ่งวงกลมเล็ก หมายถึง โลกมนุษย์ วงใหญ่ที่มีเขี้ยวเป็นปากของพญามาร หรือ พระราหู หมายถึง กิเลสในใจแทนขุมนรกคือทุกข์ ผู้ที่จะเข้า เฝ้า พระพุทธเจ้าในพุทธภูมิต้องตั้งจิตปลดปล่อยกิเลสตัณหาของตนเองลงไปในปากพญา มาร เพื่อเป็นการ ชำระจิตให้ ผ่องใสก่อนที่จะเดินผ่านขึ้นไปพบกับพระราหูอยู่เบื้องซ้าย และพญามัจจุราชอยู่เบื้องขวา อสูรกลืนกัน 16 ตน บนสันของสะพาน หมายถึง อุปกิเลส 16 กึ่งกลางสะพาน หมายถึง เขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นที่อยู่ของเทวดา สระน้ำด้านล่าง หมายถึง สีทันดรมหาสมุทร มีสวรรค์ตั้งอยู่ด้วยกัน 6 ชั้นด้วยกัน ผ่านสวรรค์ 6 เดินลงไปสู่ พรหม 16 ชั้น แทนด้วยดอกบัวทิพย์ 16 ดอกรอบพระอุโบสถ ดอกที่ใหญ่สุด 4 ดอก ตรงทางขึ้นด้านข้างโบสถ์หมายถึง ซุ้มพระอริยเจ้า 4 พระองค์ ประกอบด้วยพระ โสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ เป็นสงฆ์สาวกที่ควรกราบไหว้บูชา ครึ่งวงกลมก่อนขึ้นบันได หมายถึง โลกุตตรปัญญา บันไดทางขึ้น 3 ขั้นแทน อนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา ผ่านแล้วจึ้งขึ้นไปสู่อรูปพรหม 4 แทนด้วย ดอกบัวทิพย์ 4 ดอก และ บานประตู 4 บาน บานสุดท้ายเป็นกระจกสามเหลี่ยมแทนความว่าง หมายถึงความหลุดพ้น พุทธภูมิภายในประกอบด้วย ภาพเขียนโทนสีทองทั้งหมด ผนัง 4 ด้าน เพดาน และ พื้น ล้วนเป็น ภาพเขียนที่แสดงถึงการหลุดพ้นจากกิเลสมาร มุ่งเข้าสู่โลกุตตรธรรม หลังคาโบสถ์ ได้นำหลักการของการปฏิบัติจิต 3 ข้อ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา นำไปสู่ความว่างคือความ หลุดพ้นนั่นเอง - น้ำตกขุนกรณ์ - วนอุทยานน้ำตกโป่งพระบาท - นาฬิกาเปลี่ยนสี ที่ หอนาฬิกา (19.00 น. , 20.00 น. , 21.00 น.)
เลียบแม่น้ำกก – บ่อน้ำร้อน – กระเหรี่ยงรวมมิตร - นั่งเรือชมวิว 2 ฝั่ง แม่น้ำกก - บ่อน้ำร้อนห้วยหมากเลี่ยม - น้ำตกห้วยแก้ว - บ้านกระเหรี่ยงรวมมิตร (โฮมสเตย์, เดินป่า, นั่งช้าง) - น้ำตกห้วยแม่ซ้าย อ. แม่จัน – ดอยแม่สลอง – ดอยแม่หัวคำ เที่ยวเทศกาลชาวดอย เช่น - ปีใหม่ม้ง ช่วงหลังเดือน ธ.ค. – ม.ค. - ปีใหม่ลีซอ 28 ม.ค. – 5 ก.พ. - ปีไหม่อาข่า หรือ ปีใหม่ลูกข่าง ปลายเดือน ธ.ค. - โล้ชิงช้าของอาข่า ปลายเดือน ส.ค. ต้นเดือน ก.ย. - ดอยแม่สลอง (สุสานนายพลต้วน, พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี) ชุมชนชาวจีนฮ่อ(จีนยูนนาน) แห่งกองพล 93 ที่ตั้งหลักแหล่งบนดอยแห่งนี้มานานกว่า 40 ปี ปัจจุบัน ชุมชนชาวจีนบนดอยแม่สลอง มีชื่อว่า หมู่บ้านสันติคีรี อากาศเย็นสบายตลอดปี วิถีชีวิตของชุมชนที่ยังคงยึดอาชีพ ปลูกชาซึ่งเป็นสินค้าที่ขึ้นชื่อ และ พืชผัก ผลไม้เมืองหนาว สิ่งที่น่าสนใจ 1. พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี พระบรมธาตุฯ สร้างถวายเป็น พระราชกุศลแด่สมเด็จย่า เป็นเจดีย์แบบล้านนาประยุกต์ เป็นจุดสูงสุดของ เทือกเขาดอยแม่สลองจึงชมทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยเฉพาะในยามเย็น ขณะเดียวกันองค์พระธาตุยังเด่นเป็น สง่า มองเห็นแต่ไกล เป็นสัญลักษณ์อีกอย่างของดอยแม่สลอง 2. สุสานนายพลต้วน แท่นหินอ่อน บรรจุร่าง นายพลต้วนซีเหวิน อยู่ภายในศาลาเก๋งจีนขนาดใหญ่ สีขาว พื้นปูหินอ่อน ด้านหลังแท่น บรรจุศพ มีภาพถ่าย เก่าแก่เกี่ยวกับประวัติ และผลงาน สุสานนายพล ต้วนอยู่บนเนินสามารถมองเห็นบ้านสันติ คีรี เป็นจุดชมทิวทัศน์ของหมู่บ้านที่ดีจุดหนึ่ง 4. ชิมชาอู่หลง ชมไร่ชา ชาเป็นพืชเศรษฐกิจของบ้านสันติคีรี มีพื้นที่ปลูกหลายพันไร่ ทำให้มีร้านจำหน่ายชา หลายสิบร้านเรียงรายบน ถนนสายหลักในหมู่บ้าน ชาที่มีชื่อเสียงคือ ชาอู่หลง ซึ่งมีกลิ่นหอม พิเศษ มีวิธีการดื่มเฉพาะแบบชาวไต้หวัน - ไร่ชา 101 ไร่ชาที่คว้ารางวัลชนะเลิศในการประกวดสุดยอดชาโลกบนดอยแม่สลอง บริเวณทางเข้าจะเห็นความสวยงาม ของต้นชาเรียงรายเป็นขั้นบันได สลับกับเบื้องหลังเป็นทิวเขา - ไร่ชาวังพุฒตาล มีสิงโตเงิน สิงโตทอง ที่อยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า ยังมีกาน้ำชา ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีก 3 ใบ ตั้งเรียงราย ประกาศความยิ่งใหญ่ความสุดยอดของแหล่งผลิตชา - ไร่ชาโชคจำรูญ ไร่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงมานานถึง 3 ชั่วอายุคน ชมวิธีการเด็ดใบชา จะเริ่มเก็บใบชาตั้งแต่ 9.00 น. ถึง 15.00 น. และจะเก็บเฉพาะยอดชาที่มีใบอ่อน 2 - 3 ใบเท่านั้น 5. ชมดอกซากุระ เส้นทางเข้าสู่หมู่บ้านสันติคีรี ทั้งด้านกิ่วสะไต และบ้านอีก้อสามแยก จะปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งเรียงรายสอง ข้างทาง ดอกสีชมพูทั้งต้น ในหน้าหนาว สวยงามมาก - ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา (มินิไลท์แอนด์ซาว์ดอาข่าคนภูเขา) - ไร่ชา 101 - ดอยแม่หัวคำ บ้านหัวแม่คำอยู่เกือบสุดชายแดนพม่า ทางเป็นทางลูกรังคดโค้งไปตามทิวเขา ใช้เวลาเดินทางราว 3 - 4 ชั่วโมง เป็นหมู่บ้านชาวเขาขนาดใหญ่ ประกอบด้วย เผ่าลีซอ เป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังมี อีก้อ ม้ง และ มูเซอ ใน เดือนพฤศจิกายนจะเป็นช่วงที่ดอยหัวแม่คำงดงามไปด้วยดอกบัวตองสีเหลือง สดใสสะพรั่งอยู่ทั่วไปตามแนวเขา - วนอุทยานสันพญาไพร - พระขี่ม้ารับบาตร (พระขี่ม้ารับบาตรที่จุดรับบาตรสถานปฎิบัติธรรมถ้ำป่าอาชาทอง)
อ. แม่จัน – กิ่วสะไต (ทางหลวงหมายเลข 1089 เส้นทางไปบ้านท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่) สามารถแวะเที่ยวชม - น้ำพุร้อนป่าตึง - ลานทองวิลเลจ (อุทยานการแสดงหกชาติ, ฆ้องยักษ์, สิงห์สี่ชาติ)
อ. แม่จัน – อ. แม่สาย ชมความงาม ของขุนเขานางนอน - ตลาดแม่สาย (ตลาดการค้าชายแดนไทย – พม่า) - ท่าขี้เหล็ก (ตลาดปลอดภาษีในฝั่งพม่า, เจดีย์ชเวดากองจำลอง) - ถ้ำปุ่ม ถ้ำปลา ถ้ำเสาหินพญานาค ถ้ำปุ่ม อยู่สูงบนยอดเขา ต้องปืนขึ้นไป ในถ้ำมืดมาก ต้องมีผู้นำทาง ถ้ำปลา เป็นถ้ำที่มีน้ำไหลภายในถ้ำ เคยมีปลาชนิดต่างๆ ว่ายออกมาให้เห็นเป็นประจำ ภายในถ้ำยังมีพระพุทธ รูปศิลปะพม่า สร้างโดยพระภิกษุชาวพม่า เรียกว่า “พระทรงเครื่อง” เป็นที่เลื่อมใสของประชาชนในแถบนี้ ถ้ำเสาหินพญานาค อยู่ในบริเวณเดียวกัน เดิมต้องพายเรือข้ามน้ำเข้าไปชม ภายหลังได้ สร้างทางเดินเชื่อมกับ ถ้ำปลา ในถ้ำมีหินงอก หินย้อย และยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมด้วย - วัดถ้ำปลา - ถ้ำหลวง (ความยาวมากกว่า 7 กิโลเมตร) - ขุนน้ำนางนอน - วัดพระธาตุดอยเวา (ชมวิวเมืองแม่สาย และ ท่าขี้เหล็กฝั่งพม่า) พระธาตุดอยเวา พระธาตุที่เชื่อกันว่า เก่าแก่เป็นรองพระธาตุดอยตุง ตามประวัติกล่าวว่า พระองค์เวา หรือเว้า ผู้ครองนครนาคพันธ์โยนก เป็นผู้สร้างเพื่อบรรจุพระเกศาธาตุองค์หนึ่ง เป็นจุดที่สามารถชมทิวทัศน์ของอำเภอแม่สาย และท่าขี้เหล็กทางฝั่งพม่าได้อย่างชัดเจน - ถ้ำผาจม หรือ สำนักวิปัสสนาถ้ำผาจม ถ้ำผาจมเคยเป็นสถานที่ซึ่งพระภิกษุสงฆ์นั่งบำเพ็ญเพียรภาวนา เช่น พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ปัจจุบันมีรูปปั้นของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ประดิษฐานไว้บนดอยด้วย *ทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราวได้ที่ที่ว่าการอำเภอแม่สายที่เดียว ใช้บัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรที่ทางราชการออกให้ ค่าธรรมเนียม 30 บาท*
ดอยตุง - พระตำหนักดอยตุง ที่ประทับของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อทรงงาน และ ปลูกป่าในโครงการพัฒนาดอยตุง สิ่งที่น่าสนใจ 1. หอพระราชประวัติ ด้านหน้าสุดของพระตำหนัก สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จย่า ภายในแบ่งเป็นห้องต่างๆ แปดห้อง ดังนี้ ห้องที่ 1 แผ่นดินไทยฟ้ามืด กล่าวถึงการเสด็จถวายพระเพลิงพระบรมศพ เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2539 ห้องที่ 2 ฉันจะเดินทางด้วยเรือลำนี้ แสดงถึงปรัชญาในการดำเนินพระชนม์ชีพ ที่ประกอบด้วยหลักเหตุผล และ การสร้างสรรค์ทางศิลปะ ห้องที่ 3 ภูมิธรรม ประมวลความสนพระทัยในหลักธรรมคำสั่งสอน ห้องที่ 4 หนึ่งศตวรรษ เป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จย่า และเฉลิมฉลองในวาระ 100 ปีแห่งการพระราช สมภพ เมื่อปีี พ.ศ. 2443 ทั้งนี้ ทรงพระปรีชาชาญ ในการอภิบาลพระธิดา และพระโอรสที่ต่อมาได้เถลิงถวัลย ราชสมบัิติ เป็น พระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ รวมทั้งทรงนำความรู้ใหม่ๆ มาใช้ในงานบำบัดทุกข์บำรุงสุข ของพสกนิกร จนองค์การยูเนสโก ได้ประกาศพระนามในปฏิทินบุคคลสำคัญของโลก ห้องที่ 5 เวลาเป็นของมีค่า กล่าวถึงงานฝีมือต่างๆ ของพระองค์ที่ใช้พระราชทานแก่บุคคลต่างๆ ห้องที่ 6 พระมารดาแห่งการแพทย์ชนบทและการสาธารณสุขไทย ห้องที่ 7 พระผู้อภิบาล บรรยายถึงความเป็นพระผู้อภิบาลธรรมชาติ ห้องที่ 8 ดอยตุงกับการพัฒนาที่ยั่งยืน กล่าวถึงโครงการพัฒนาดอยตุงที่เป็นโครงการพัฒนาระยะยาว เน้นการ อนุรักษ์ธรรมชาติ และคุณภาพชีวิตของประชาชน 2. สวนแม่ฟ้าหลวง เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาว ปลูกดอกไม้หมุนเวียนสลับ ให้ออกดอกไม่ซ้ำกันตลอดสามฤดู ล้อมรอบ ประติมากรรม ชื่อ "ความต่อเนื่อง" เป็นรูปเด็กยืนต่อตัวที่กลางสวน ยังมีสวนหินซึ่งประดับด้วยหินภูเขากลม เกลี้ยงขนาดใหญ่ สวนน้ำอุดมด้วยไม้น้ำพันธุ์ต่างๆ บัว และสวนปาล์มที่รวบรวมปาล์มไว้มากมาย 3. อาคารพระตำหนักดอยตุง พระตำหนักแห่งนี้ ถือเป็นบ้านหลังแรกของสมเด็จย่า สร้างขึ้นโดยใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เน้นความเรียบ ง่าย และการใช้ประโยชน์ ภายหลังสมเด็จย่าฯ สิ้นพระชนม์ พระตำหนักได้ รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี และ์เปิดให้ ประชาชนทั่วไปเข้าเที่ยวชม พระตำหนักเป็นการผสมผสาน ระหว่างสถาปัตยกรรมแบบล้านนา กับบ้านพื้นเมืองของสวิสฯ สร้างบนเนิน มองเห็นได้ไกลสุดสายตา พระตำหนักมี สองชั้น และ ชั้นลอย ชั้นบน แยกเป็นสี่ส่วน ที่โดดเด่น คือ กาแล และ ไม้แกะสลักเป็นเชิงชาย ลายเมฆไหล ภายในตำหนักล้วนใช้ไม้สน และ ไม้ลังที่ใส่สินค้า จุดน่าสนใจอีกจุด คือ เพดานดาว ภายในท้องพระโรง แกะสลักขึ้นจากไม้สนภูเขาเป็น กลุ่มดาวต่างๆ ล้อมรอบ ระบบสุริยะ บริเวณผนังเชิงบันได แกะสลักเป็นพยัญชนะไทย พร้อมภาพประกอบ - พระธาตุดอยตุง พระธาตุประจำปีกุน สร้างโดย พระเจ้าอุชุตราช แห่งนครโยนกนาคพันธุ์ เพื่อบรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย(กระดูกไหปลาร้า) ของ พระพุทธเจ้า เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั้ง ชาวไทย ชาวไทใหญ่จากพม่า และ ชาวลาวจากหลวงพระ บาง และ เวียงจันทร์ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดของเชียงราย ประดิษฐานอยู่บนยอดดอยตุง ชาวเชียงรายมี ประเพณีการเดิน ขึ้นดอยบูชาพระธาตุ จัดเป็นประจำทุกปี สิ่งที่น่าสนใจ 1. พระธาตุดอยตุง อยู่บนดอยสูงแวดล้อมด้วยป่ารกครึ้ม เรียกว่า สวนเทพารักษ์ เชื่อกันว่า เป็นที่สถิตของเทพารักษ์และสิ่งศักดิ์ สิทธิ์ 2. รอยปักตุง เป็นรอยแยกบนพื้น ยาวประมาณ 1 ฟุต อยู่ด้านหน้าพระธาตุ เชื่อกันว่า เป็นรอยแยกที่ใช้ปักฐานตุง บูชาพระ ธาตุ เมื่อ 1,000 ปีก่อน - ศูนย์ผลิตและจำหน่ายงานฝีมือ (ผ้าทอ และ พรมทอกี่, กระดาษสา, กาแฟดอยตุง) - ตลาดชาวไทยภูเขา - สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าดอยตุง - สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง
อ. เชียงแสน – สามเหลี่ยมทองคำ - สบรวก หรือ สามเหลี่ยมทองคำ (พระพุทธนวล้านตื้อเชียงแสนสี่แผ่นดิน, เที่ยวตลาดลาว) เป็นบริเวณที่แม่น้ำโขง และ แม่น้ำรวกมาบรรจบกัน เรียกว่า สบรวก เป็นพรมแดนระหว่างประเทศไทย ลาว พม่า บริเวณนี้เคยมีการค้าฝิ่น โดยแลกเปลี่ยนกับทองคำ ทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงบริเวณนี้มีความงดงามโดยเฉพาะ ยามที่ดวงอาทิตย์ขึ้น ท่ามกลางสายหมอกด้านฝั่งพม่า และ ลาว นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือเที่ยวชมทิวทัศน์จุดบรรจบ ของพรมแดนไทย ลาว และ พม่า พระเชียงแสนสี่แผ่นดิน หรือ พระพุทธนวล้านตื้อ ประดิษฐานกลางแจ้ง ณ สามเหลี่ยมทองคำ พระพุทธนว ล้านตื้น ได้สร้างขึ้นแทนองค์เดิมที่จมลงแม่น้ำโขง ประทับนั่งบน "เรือแก้วกุศลธรรม" ขนาดใหญ่ - หอฝิ่นอุทยานสามเหลี่ยมทองคำ (www.goldentrianglepark.com) เป็นศูนย์นิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมาของฝิ่น ในสมัยที่นำไปใช้ได้อย่างถูกกฎหมาย ตลอดจนผล กระทบของการเสพฝิ่น เป็นศูนย์ข้อมูลเพื่อค้นคว้า และ ศึกษาสารสกัดจากฝิ่นในรูปแบบต่างๆ - พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเชียงแสน - เมืองโบราณเชียงแสน (เมืองเก่า ศูนย์กลางอาณาจักรล้านนา) - วัดเจดีย์หลวง - วัดป่าสัก - โบราณสถานบน ถ.สายสอง และ ถ.หนองมูต - ทะเลสาบเชียงแสน หรือ เขตห้ามล่าสัตว์หนองบงคาย ทะเลสาบขนาดใหญ่ ในฤดูหนาวมีอากาศเย็นสบาย และหมอกลอยปกคลุมทั่วไป เป็นแหล่งดูนกที่มี ชื่อเสียงมาก โดยเฉพาะนกเป็ดน้ำที่ย้ายถิ่นเข้ามาในช่วงฤดูหนาว หลายชนิดเป็นนกหายาก - วัดพระธาตุจอมกิตติ - วัดพระธาตุปูเข้า (ชมวิวสามเหลี่ยมทองคำ) - วัดพระธาตุผาเงา (ชมวิวแม่น้ำโขง) - วัดเจดีย์เจ็ดยอด - พระธาตุสองพี่น้อง - วัดสังฆาแก้วดอนหัน - วัดพระเจ้าล้านทอง
อ. เชียงของ – อ. เวียงแก่น - ท่าเรือบั้ค ด่านพรมแดนไทย – ลาว ข้ามไป เมืองห้วยทราย สปป. ลาว (เที่ยวเมือง ลาว ตลาดพื้นบ้านลาว) - บ้านหาดไคร้ (ประเพณีการจับปลาบึก ช่วงเดือน เม.ย. – พ.ค.) - บ้านหาดบ้าย (หมู่บ้านไทยลื้อ, ผ้าทอพื้นเมือง) - วัดศรีดอนชัย - บ้านทุ่งนาน้อย (หมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง) - แก่งผาได (ชมวิวแม่น้ำโขงจุดสุดท้ายก่อนไหลเข้าสู่เขตลาว)
ภูชี้ฟ้า – ดอยผาตั้ง - ภูชี้ฟ้า การมาเที่ยวภูชี้ฟ้า คือ การได้สัมผัสอากาศหนาว และความสวยงามของทะเลหมอก และการเดินขึ้นชมทะเล หมอกพร้อมกับพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม เป็นช่วงที่ดอกเสี้ยว หรือ ชงโคป่าจะ ออกดอกสีขาวบานสะพรั่งเต็มเชิงเขา ในช่วงปีใหม่จะได้ชมงานปีใหม่ ที่ชาวม้งจะแต่งตัว ม้ง ทั้งหญิง และ ชาย จุดเด่นของงานคือ การโยนลูกช่วง หรือ ลูกหิน ระหว่างหนุ่ม - สาว - ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงดอยผาหม่น - ดอยผาตั้ง (ชมวิวชายแดนไทย – ลาว รำลึกสมรภูมิดอยผาหม่น) เป็นเทือกเขาแนวพรมแดนไทย - ลาว ลักษณะเป็นสันเขาคดเคี้ยว มองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนสวยงาม เป็น ลักษณะเฉพาะของดอยผาตั้ง เป็นจุดชมทะเลหมอกที่งดงาม และอลังการในยามเช้า ชมพระอาทิตย์ยามเย็นก่อนลับ เมฆ ตามแนวเขางดงามน่าประทับใจ สิ่งที่น่าสนใจ 1. จุดชมวิวผาบ่อง ประตูสยาม เป็นช่องหินขนาดใหญ่ที่คนสามารถเดินผ่านได้ ตรงกลางเป็นเนินช่องเขาเหมือนประตู เป็นช่องทางไปยัง สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว 2. ศาลาเก๋งจีน – พระพุทธมังคลานุภาพลาภ สุข สันติ – ป่าหินยูนนาน เนินที่ประดิษฐานพระพุทธมังคลานุภาพลาภ สุข สันติ และ ศาลาทรงเก๋งจีน อนุสรณ์สถานของนายพลหลี่ ผู้นำ ทจช. ในอดีต จากเนินนี้ไปอีก ก็จะพบ ป่าหินยูนนาน เป็นหินรูปทรงลักษณะ คล้ายภูเขาในประเทศจีนที่มีรูปทรง สูงๆ สลับซับซ้อน สวยงามมาก 3. จุดชมวิวช่องผาขาด เป็นผาหิน ที่ขาดแยกจากกัน เป็นช่องมองลงไปเห็น ทิวทัศน์ ประเทศลาวและ แม่น้ำโขงได้อย่างชัดเจน 4. เนิน 102 เป็นเนินเขาลูกหนึ่งบนดอยผาตั้ง เป็นจุด ชมทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม สามารถมอง เห็นทะเลหมอกได้กว้างไกลสุดตา 5. เนิน 103 ลักษณะบนเนิน 103 มีหินขนาดใหญ่อยู่บนเนิน เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม น่าจะเป็น จุดชมทะเลหมอก ที่สวยงามที่ สุด กว่าทุกจุดบนดอยผาตั้ง สามารถเห็นทะเลหมอกได้กว้างไกลแบบพานอรามา
อ. แม่สรวย – ดอยวาวี เที่ยวชม - ดอยช้าง (ไร่กาแฟดอยช้าง) - ดอยวาวี (ดอกซากุระขาวในฤดูหนาว, หมู่บ้านจีนฮ่อ, ชิมชาอู่หลง ชิงชิง, ดูทะเลหมอก) - ดอยเลาลี - ทะเลหมอกที่ดอยกาดผี
อ. พาน – อ. แม่สรวย – อ. เวียงป่าเป้า ย่านนี้จะมี - น้ำตกปูแกง - วัดพระธาตุจอมแว่ - วัดพระเจ้าทองทิพย์ (บนบานขอลูกจากพระโบราณ) - น้ำตกขุนแจ - ดอยลังกาหลวง - ยอดดอยมด - อุทยานแห่งชาติดอยหลวง - น้ำตกแม่โถ (รถขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น) - โป่งน้ำร้อน หรือ น้ำพุร้อนแม่ขะจาน (จุดพักรถ พักคน, แวะพักเหนื่อย อาบน้ำแร่ แช่เท้า) - วัดพระธาตุแม่เจดีย์
ส่วนแหล่ง ของฝาก ของกิน อ. เมือง เชียงราย (ของฝาก) ถนนคนเดินเชียงราย จัดทุกๆ วันเสาร์ สินค้าทุกรูปแบบ ตั้งแต่ แบบพื้นบ้าน จนถึง แฟชั่น และอาหารการกิน เดินเลือก เดินชม ได้เลย ไนท์ บาร์ซาร์ – เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่น ส่วนใหญ่ เป็น สินค้าหัตถกรรม ประเภท ผ้าปัก ผ้าทอ ชุดพื้นเมือง เสื้อผ้า รองเท้าแฟชั่น ฯลฯ เปิดตั้งแต่หัวค่ำจนถึงดึก ร้านหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ – อยู่หน้า บิ๊กซี เชียงราย เป็นศูนย์รวมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของเชียงราย ถ. ธนาลัย – ผ้าทอมือ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย รวมถึง ชุด ผ้าไหม ผ้าฝ้ายสำเร็จรูปด้วย ย่านหอนาฬิกา – อาหารพื้นเมือง เช่น หมูยอ แหนม แคบหมู ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม ผลไม้ดอง ผลไม้อบแห้ง บ้านนางแล – สับปะรดนางแล ภูแล รสชาติดี ตลาดแม่สาย – สินค้าจากจีนและพม่า ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า ของเด็กเล่น อาหารแห้ง ฯลฯ บ้านสันติคีรี อ. แม่ฟ้าหลวง – ศูนย์รวมชาพันธุ์ดี ถนนริมน้ำโขง อ.เชียงแสน – แอปเปิ้ล และ สินค้าจากจีน ในราคาถูก
จุดผ่านแดนจังหวัดเชียงราย - ด่านอำเภอเชียงแสน ฝั่งตรงข้าม คือ ด่านเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้วของลาว ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือ หน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน เป็นจุดเดินทางท่องเที่ยวตามลำน้ำโขงไปถึงเชียงรุ้ง สิบสองปันนา ตอนใต้ของจีน - ด่านอำเภอเชียงของ ฝั่งตรงข้าม คือ ด่านเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้วของลาว ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือบั๊ค เป็นจุดข้ามไปท่องเที่ยว และเดินทางตามลำน้ำโขงไปถึงหลวงพระบาง และ เวียงจันทร์ - ด่านอำเภอแม่สาย ฝั่งตรงข้าม คือ ด่านท่าขี้เหล็กของพม่า ตั้งอยู่เชิงสะพานข้ามแดน ไทย – พม่า เป็นจุดเดินทางไปเชียงตุงได้โดยรถยนต์ อ. เมืองเชียงราย (ของกิน) ย่านหอนาฬิกา – ร้านอาหารขึ้นชื่อที่ได้รับการการันตีจากสำนักชิมชื่อดังหลายๆ เจ้า เปิดตั้งแต่เช้า ไปจนถึงค่ำๆ ถ. พหลโยธิน บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำกก – สวนอาหาร ร้านอาหารริมน้ำ ทั้ง ไทย จีน อาหารพื้นบ้าน บรรยากาศดี ริมน้ำกก ห้าแยกพ่อขุนฯ – ร้านแผงลอย ทั้งอาหารจานเดียว และ อาหารตามสั่ง สี่แยกสะพานดำ – แผงลอยอาหารจานเดียว เปิดช่วงเย็นๆ ไปจนถึงดึก ตลาดสดเทศบาลเมืองเชียงราย – คึกคักตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ ไปจนถึงค่ำ โดยมากจะเป็นอาหารพื้นเมือง
ร้านอาหารขึ้นชื่อต่างๆ อีกหลายร้านที่ไม่ได้เอ่ยถึง เพราะว่าแต่ละท่านอาจชอบไม่เหมือนกัน ไว้ให้ลองชิมด้วยตัวเองดีกว่านะครับ
จากคุณ |
:
ลุงซุป (ln.cnx)
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ก.ย. 54 21:29:46
|
|
|
|
|