ความคิดเห็นที่ 1 ต้องขอบอกว่า ณ ปัจจุบัน ตัวเองก็ไม่มีบ้านไม่มีรถ อายุ 19 ไม่ได้เรียนแต่ต้องทำงานหาเลี้ยงพ่อแม่ที่ไม่สบาย เพิ่งไปต่างประเทศเองครั้งแรก คืิอฮ่องกง-มาเก๊า เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มีแพลนจะไปเกาหลีอีกเดือน พ.ย. ที่จะถึงนี้ เราว่ามันเป็นความฝันคะ ความฝันตั้งแต่ยังไม่เคยไปที่ใดมาก่อน เราอยากเที่ยวไปรอบโลก อยากไปทุกๆที่ อยากสร้างประสบการณ์ทั้งด้านดีและด้านไม่ดี กลับมาจากฮ่องกงนั้น พอถึงบ้าน รู้สึกอบอุ่น รู้สึกสบาย แต่ก็ยังอยากที่จะออกไปสู่โลกกว้างอยู่เสมอ แต่ถ้าจะให้ไปอยู่ที่อื่นถาวร คงไม่ไปค่ะ ส่วนเรื่องเงินๆทองๆนั้น ต้องแยกแยะให้ดีค่ะ เราหามาได้เท่าไหร่ หลังจากจ่ายค่าใช้จ่ายในบ้านแล้ว เราแบ่งเก็บไว้ซื้อบ้าน+รถให้พ่อแม่ แบ่งเก็บไว้เป็นเงินเก็บของตัวเอง การทำตามความฝัน ก็เหมือนมอบของขวัญให้กับชีวิต หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยเป็นปีๆ จริงๆก็อยากเอาพ่อแม่ไปด้วย แต่ท่านไม่สบาย เดินไม่ไหว แหะๆ จากคุณ : Milkki เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 01:38:44

ความคิดเห็นที่ 2 เิดินทางไปต่างประเทศคนเดียวครั้งแรก ตอนอายุ 18 ปีค่ะ ไปเรียนต่อ หลังจากนั้นก็ได้เดินทางเรื่อยๆ ถึงตอนนี้เวลาก็ผ่านมาเป็นสิบๆปีแล้ว ได้เดินทางก็เรียกว่ารอบโลกแล้วค่ะ แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่อยากไปเห็น คิดว่าการเดินทางท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นภายในประเทศ หรือต่างประเทศ เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้น ได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ เห็นความแตกต่างของการดำเนินชีวิต เห็นวิถีชีวิตและมุมมองที่ต่างออกไปของแต่ละเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ เป็นการเพิ่มประสบการณ์ที่มีคุณค่าให้แก่ชีวิต และบางครั้ง การเดินทางก็ทำให้เราได้เห็นว่า ถึงแม้ชีวิตเราจะไม่ได้มีทุกอย่าง แต่เราก็ยังโชคดีกว่าคนอีกหลายๆคน ในโลกใบนี้ เนื่องจากจุดมุ่งหมายในชีวิตของแต่ละคน ไม่เหมือนกัน สำหรับตัวเองนั้น คิดว่าบ้าน รถ ทรัพย์สินเงินทอง ตายไปก็เอาติดตัวไปไม่ได้ สิ่งเดียวที่เอาไปได้ ก็คือ ความทรงจำ เท่านั้นค่ะ (ขอโทษค่ะ แ้ก้เยอะ) แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 54 01:52:38 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 54 01:46:59 จากคุณ : Miss_Behaving เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 01:40:34

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนตัวเป็นคนชอบเที่ยว ไม่ว่าในประเทศไทยหรือต่างประเทศ อยากรู้ว่าที่ไหนมีอะไรแตกต่างบ้านเรา คิดเหมือนคุณ Miss_Behaving เที่ยวต่างประเทศครั้งแรกไปญี่ปุ่นค่ะ ตอนนั้นอยากไป disneyland คงเป็นความฝันของเด็กหลายๆคน มันเป็นความทรงจำวัยเด็ก กลับมาก็ยังไม่คิดอะไร จนกระทั้งถึงวัยทำงานเริ่มเที่ยวอีก ประกอบกับเราโตแล้วไปในที่ๆเราอยากไปอยากรู้อยากเห็น คิดว่าหลายท่านในห้องบูล คงมีโครงการท่องเที่ยวอีกแยอะ และขอบคุณ แอร์เอเซียที่ทำให้หลายท่านได้ไปเที่ยวต่างประเทศ ในราคาโปรที่ทุกคนเที่ยวได้ และข้อมูลที่ดีที่สุดในห้องบูลไม่ว่าจะเป็นสถานที่เที่ยว โปรโรงแรมดีๆช่วยให้ประหยัดเงินได้แยอะ ในกระทู้ยอดฮิต คุยสบายๆ เที่ยวไม่จำเป็นต้องหรูหรา หรือแพง แค่ใจเราอยากเที่ยวก็พอค่ะ ^^ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 54 02:02:14 จากคุณ : Tikgazza เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 02:00:42

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้ามีความสุข ก็ทำไปเถอะค่ะ บางคนไม่เคยไปเที่ยว ตปท ไม่มีอะไร ก็ยังมี มันขึ้นอยู่กับคนหรือเปล่าคะ บางคนเที่ยวได้เที่ยวดี แต่ก็ยังมีรถ มีเงินเก็บ บางคนเที่ยวในไทย หมดเยอะกว่าไป ตปท เสียอีกแหนะ แต่ตอนนี้ เราอยู่ ตปท อยากบอกว่าคิดถึงเมืองไทยมาก จากคุณ : นิรันดร ศรสวรรค์ (enduresexy) เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 02:04:01

ความคิดเห็นที่ 5 ความคิดเราเป้นผู้ใหญ่มากขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น เปลี่ยนความคิด ที่เราเคยมีมากขึ้น เหมือนกับว่า เราอยู่ชนบทหลังหนึ่งเท่านั้นเอง พอออกมาเจอโลกกว่า ทำให้รู้หลายๆๆสิ่งหลายๆๆอย่าง บ้างครั้งก็ทำให้เราเปลี่ยนไป เปลี่ยนโลกทัศน์ใหม่ ต้องลองกับตัวครับถึงจะรู้ แล้วก็ ผมว่าทำหใ้ชีวิตมีสีสรรค์มากขึ้น แต่มีอยู่ครั้งนึง ได้ไปอินเดีย คิดได้อย่างเดียวเลยครับ ว่าเราโชคดีมากนะที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย ... จากคุณ : kololado1 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 02:06:07

ความคิดเห็นที่ 6 เปิดโลกทัศน์จริงๆนะคะ  บางที่เปลี่ยนความคิดเราไปอย่างมากเลยนะคะ อย่างเราไปบางที่ๆเค้ามีความเชื่อบางอย่าง ที่เค้าเชื่อมั่นและศรัทธา แต่เรามองแบบคนนอกแล้วมันไม่จริงเลย  แต่มันจริงมากในสังคมประเทศอื่น และคนในประเทศนั้ๆนก็จะมีความเชื่อแบบนั้น แล้วทีนี้เราก็มองย้อนกลับมาที่ตัวเรา แ้ล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าสิ่งที่เราเคยเชื่อมาตลอดชีวิตในสังคมแบบบ้านเรามันเป็นเรื่องจริง   มันอาจจะเป็นแค่ความเชื่อที่บอกต่อๆกันมา แล้วเราก็เลยเชื่อเพราะเราเกิดและโตขึ้นมาในสังคมที่ทุกคนเชื่อแบบนี้ก็ได้ มันทำให้เรารู้สึกเหมือนออกจากะลา ออกไปจากความคิดและความเชื่อเดิมๆ ทำให้มองอะไรแบบอิศระมากขึ้นและหาเหตุผลกับสิ่งต่างๆมากขึ้น เมื่อก่อนเราเคยคิดว่าเวลาไปเที่ยวนี่คือการไปพักผ่อนนะคะ แต่เดี๋ยวนี้เราไม่คิดแบบนั้นแล้วค่่ะ มันเหมือนไปหาประสบการณ์ เหมือนออกไปเห็นโลกในมุมอื่น ที่ทำให้เรามีความคิดกว้างขึ้น ปล ไม่จำเป็นต้องเมืองนอกเท่านั้นนะคะ ในประเทศเนี่ยบางทีแค่เรานั่งรถไฟออกไปต่างจังหวัด เราก็ได้มุมมองใหม่ๆ  จากวิถีชีวิตผู้คนที่แตกต่างจากสังคมเมืองที่เราเคยคุ้นชินแล้วค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 54 02:46:55 จากคุณ : aonlin เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 02:29:58

ความคิดเห็นที่ 7 สำหรับผม เคยไปต่างประเทศสองครั้ง แม้จะใกล้บ้านมากๆ คือ ปีนัง กับ สิงค์โปร์ แต่เมื่อกลับมา จะมีความรู้สึกเหมือนกลับจากดวงจันทร์เลยครับ คือรู้สึกเหมือนได้ไปเห็นอะไรที่ บางคนที่บ้านเราไม่เคยไป โดยเฉพาะการขึ้นเครื่องบิน รู้สึกเหมือนเกิดใหม่เลยละครับ โดยเฉพาะการไปครั้งแรก ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 02:54:52

ความคิดเห็นที่ 8 ผมเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกตอน 7-8 ขวบครับ แน่นอนว่าตอนนั้นยังเด็กมาก ไปแบบไม่ค่อยรู้อะไร   ผู้ใหญ่เขาพาไปไหนก้ไปๆตามเขา   พออายุ 14 ได้มีโอกาสไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวครั้งแรก(มาเลเซีย) ได้เห็นบ้านเมือง ผู้คน แปลกๆใหม่ๆ แล้วรู้สึกตื่นเต้น อยากรู้อยากเห็น ในวัฒนธรรมของเขาไปซะหมด พอเห็นแล้วก็เอามาคิดเปรียบเทียบกับบ้านเรา ว่า เอ.. ไอของแบบนี้ ถ้ามาอยู่ในบ้านเราบ้าง คงจะดี ทำไมเราไม่ทำบ้าง แบบนี้ถ้ามาทำในเมืองไทยคงโดนด่าไปนานแล้ว ฯลฯ ของพวกนี้ ถ้าอยู่เมืองไทย ยังไงก็ไม่มีโอกาสได้คิดแน่   หลังจากได้ไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก ทีนี้ล่ะ ติดใจแล้วครับ ครั้งที่สอง สาม สี่ก็ตามมา กลายเป็นว่า พอปิดเทอมเมื่อไหร่ หาเรื่องไปเที่ยวได้ตลอด ถึงตอนนีผ่านไป 6 ปี  ไปเพิ่มมานับรวมได้ 9 ประเทศแล้วครับ ที่บ้านก็สนับสนุนเต็มที่เลยครับเรื่องนี้ คุณพ่อบอกปิดเทอม ให้ไปเที่ยว หาประสบการณ์ดีกว่ามานั่งเรียนพิเศษไปวันๆ จากคุณ : sanamluang เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 03:26:20

ความคิดเห็นที่ 9 ได้เดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกคือ Hong Kong และ Macau ซึ่งเป็นยุคแรกๆของโปร 0 บาท ด้วยโปรนี้เราสามารถพาแม่ไปเที่ยวต่างประเทศได้ ซึ่งช่วงนั้น เพิ่งเรียนจบ ทำงานได้ไม่ถึงปี และเป็นลูกคนเดียว  พ่อและแม่เค้าก็มองว่าเรายังเป็นเด็ก แต่การพาแม่ไปเที่ยวครั้งนั้นทำให้เราได้พิสูจน์อะไรหลายๆอย่างว่าเราโตขึ้น และสามารถดูแลเค้าได้ ด้วยจุดเริ่มต้นนี้เอง ทำให้เราได้ย้อนรอยพาคนในพ่อและแม่ไปกินอาหาร ใหว้พระที่ Hong Kong, Macau, พาแม่และป้าไปดู Merlion ทื่ Singapore และพาครอบครัวไปสำผัสหิมะที่ Nikko พาเพื่อนไปเดินผ่าฝูงมอเตอร์ไซด์ที่ Hanoi และพาตัวเองไป Texas & New York ทุกๆการเดินทาง ทุกๆการท่องเที่ยว ทุกๆการพบป่ะผู้คนที่ต่างภาษาต่างวัฒนธรรม มันให้มากกว่าความสนุก ความสุข นั่นคือประสบการณ์ ไม่ว่ามันจะดีหรือเลวร้าย มันก็ทำให้เราได้เรียนรู้โลกใบนี้มากขึ้น และมันจะได้เอาประสบการณ์เหล่านั้นมาปรับใช้ได้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง มากกว่านั้นได้ได้รับความเชื่อมั่นจากพ่อแม่และญาติว่าเรามีความสามารถให้เค้าพึ่งพาเราได้ (มันเป็นความภูมิใจลึกๆ) ทุกวันนี้เราก็ยังเก็บเงิน หาเวลาว่าง เพื่อให้ได้ไปเที่ยวอีก ตั้งความหวังอย่างน้อยปีละ 1 ที่ เพื่อเป็นการเพิ่มพลัง พักผ่อน เป็นของขวัญให้ตัวเองและพ่อแม่ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว จากคุณ : สะพายเป้...ชวนหลง เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 03:49:23

ความคิดเห็นที่ 10 ไปครั้งแรกเมื่อปีนี้เองค่ะ อายุก็31แล้ว แหะๆ บังเอิญว่า สามีเราก็ไม่เคยไปเหมือนกัน สรุปไปกันครั้งแรกทั้งคู่ เป็นความทรงจำที่ดีจริงๆ ได้เปิดโลกกว้าง ดูวัฒนธรรมที่ต่างกัน สำหรับเรา สนุกและโรแมนติคมากๆค่ะ (^____^) จากคุณ : หม่อมแม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 04:17:09

ความคิดเห็นที่ 11 เราไม่ได้ชอบไปต่างประเทศ แต่เราชอบเที่ยว555 สมัยวัยรุ่นก็เที่ยวในประเทศกับเพื่อนฝูง พอทำงานมีเงินบ้างประกอบกับใครๆก็บินได้ เลยได้ไปตปท. กับเค้า ยิ่งช่วงหลังๆพาครอบครัวไปเที่ยวค่ะ ด้วยราคาโปรฯสายการบินแฮ้ปปี้ทั้งบ้าน เราก็ไม่มีอะไรเหมือนรุ่นพี่คุณ มีแค่เงินเก็บ มีบ้านที่ต้องผ่อนกับพ่อแม่ ไม่มีรถเพราะไม่จำเป็น แต่การไปตปท. ทำให้เรามุ่งมั่นกับการเก็บเงิน ใช้จ่ายที่รอบคอบมากขึ้น การไปตปท. ทุกครั้งเหมือนเปลี่ยนสถานที่ สิ่งแวดล้อม ผู้คน ความคิดเห็น สอนให้เรากล้า เจอต่างชาติเข้าไปให้ความช่วยเหลือไม่ใช่เดินหนี ให้เราเก่งขึ้น แหม้ ก็ต้องคุ้ยข้อมูลการเที่ยวยิ่งกว่าทำรายงานวิชาการซะอีก ให้เราเข้าใจวัฒนธรรมที่แตกต่างกันและเข้าถึงมิตรภาพที่ได้รับจากการเดินทาง สรุป อยากบอกว่าคนไปต่างประเทศไม่จำเป็นต้องรวย ต้องมีตังค์กันทุกคน ไม่ชอบเลยเวลาที่มีคนรู้ว่าไปตปท. เพราะคำแรกที่พูดคือ 'แหม้ รวยจริงน่ะ' จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 04:19:47

ความคิดเห็นที่ 12 17 ค่ะ เหมือนได้หนีไปอีกโลก ที่จะทำอะไรก็ไม่มีคนห้าม ก็เลยอยากไปอีกเรื่อยๆ >.< ลองไปด้วยกันไหมคะ ทำอะไรให้สุดเหวี่ยงไปเล้ยยยย จากคุณ : lieben_35 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 07:15:37

ความคิดเห็นที่ 13 ไปครั้งแรกมาปีนี้ครับ ครั้งแรกคือที่เกาหลี ไปกับทัวร์ (ไม่บอกอายุ 555+ เพราะไม่ใช่น้อยๆแล้ว) ไปมาแล้วก็เห็นถึงความแตกต่างของวัฒนธรรม ไม่ใช่แค่สิ่งปลูกสร้าง แต่รวมถึงวัฒนธรรมการใช้ชีวิต ผู้คนที่แตกต่างออกไป แต่ๆๆๆๆ เมื่อต้นเดือนได้ไปประชุมที่ Sweden เป็นการประชุมที่มีคนมาร่วมจากทั่วโลก ได้เห็นความแตกต่างของผู้คนหลากหลายกว่าเดิม เพื่อนรักผมคนนึงใช้คำว่า " Different colors" ซึ่งผมก็เห็นด้วยครับ ที่สำคัญกว่าผมได้เพื่อนใหม่จากหลายๆประเทศ ที่มีความสนใจร่วมกัน อยากไปอีกไหม อยากไปอีกครับ ไปเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ไปรู้จักอะไรที่บ้านเราไม่มี แล้วเอามาใช้เท่าที่จะใช้ได้ แต่เก็บเงินก่อนครับ ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : Bazophil เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 07:40:48

ความคิดเห็นที่ 14 ไปครั้งแรกตอนอายุยังน้อยค่ะ แต่ว่าเรียกได้ว่าไปเองจริงๆ ตอนอายุ 28แล้วค่ะ ไปกลับมา ได้อะไรเยอะจริงๆค่ะ ได้ฝึกทักษะการเอาตัวรอด การแก้ปัญหา การดูแลทรัพย์สินของเรา เรียนรู้ที่จะระวังตัวในประเทศอื่น ไม่เชื่อใจคนง่ายเกินไปค่ะ ไม่งั้นจะลำบากค่ะ สำคัญสุด กลับมาปุ๊บ กลายเป็นติดเที่ยวระเบิดเลยค่ะ 555 ทุกวันนี้หาเงินมาเที่ยว จากคุณ : torta เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 07:49:32

ความคิดเห็นที่ 15 จากครั้งแรก และ ครั้งต่อๆมา....ของการไปเที่ยว  (ทั้งใน และ ตปท.).... ได้รอยยิ้มของภรรยาและลูกๆมาเก็บไว้ใน ไฟล์รูป มากกว่าปกติ.... เพราะเวลาปกติจะไม่ค่อยยอมมาเข้ากล้อง.... จากคุณ : LVP@HEART เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 08:09:03

ความคิดเห็นที่ 16 ไป ตปท (อังกฤษ) ครั้งแรก ตอนอายุ 24 ค่ะ   ไปเรียนต่อ  แล้วก็เที่ยวด้วยเลย ประมาณ 3 ปีค่ะ รู้สึกตัวเองเป็นผู้ใหญ่ขึ้น โตขึ้น   แต่เดิมเลย ก่อนหน้านี้อยู่ไทย  เป็นคนติดบ้าน ติดพ่อแม่ ลูกแหง่ ไปไหนคนเดียวไม่ได้   พอจะไปอังกฤษ ก็มีแต่คนนบอกว่าเราอยู่ไม่ได้หรอก เดี๋ยว 2 เดือนก็ร้องไห้กลับบ้าน    แต่จริงๆ แล้วไม่เป็นอย่างนั้นเลยค่ะ    เราค้นพบตัวเองได้เยอะ ว่าเราเหมาะกับอังกฤษจริงๆ เราชอบทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น อากาศ ผู้คน สิ่งแวดล้อม บ้านเมือง กฎระเบียบต่างๆ เนื่องจากเราเป็นคนไม่ขี้เหงา โลกส่วนตัวสูงบ้าง  เราเลยอยู่ในเมืองเหงาๆ อากาศขมุกขมัวได้อย่างสบายใจค่ะ    ทำให้เราเป็นคนแกร่งขึ้น และอีกนัยนึงคือแข็งขึ้น กล้าพูดเหตุผล กล้าเถียง กล้าแสดงออก  (แต่เอามาใช้ที่เมืองไทยไม่ได้นะคะ มีหวังโดนแบน) เราได้ทำงานร้านอาหาร ทำงานโรงแรม และเรียนไปด้วย เป็นเวลา 3 ปี ฉะนั้น พ่อแม่เราภูมิใจค่ะ ที่ลูกหาเงินได้เอง อดทนทุกอย่าง เก็บเงินเป็น แล้วคิดว่าชีวิตข้างหน้าก็คงได้อยู่ที่นู่นกะแฟนค่ะ จากคุณ : aimeramm เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 08:15:36

ความคิดเห็นที่ 17 ตั้งแต่จำความได้ อายุ 2 ปีผมก็ไปเวียดนามแล้วครับ จำอะไรไม่ได้แล้วครับว่ารู้สึกอะไร นอกจากรู้ว่าอ้วกบนเครื่องบิน จากคุณ : tem142857 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 08:29:56

ความคิดเห็นที่ 18 ไปต่างประเทศครั้งแรก...ยังจำความไม่ได้เลยครับ ฮ่าๆ ไม่นับละกันนะ ถ้าไปเองก็ตอนอายุ 21 ทำงานปีแรกน่ะครับ...ไปสิงคโปร์ใกล้ๆ ที่ทำงานนี่เอง ก็รู้สึกว่าสนุกกับการได้เห็นอะไรที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ลองกินอาหารแปลกๆ ธรรมเนียมปฏิบัติที่ต่างกัน วิถีชีวิตผู้คน ประกอบกับมีเพื่อนเป็นคนต่างชาติเยอะ...ก็เลยได้คุยแลกเปลี่ยนกันเยอะด้วยครับ ทำให้รู้สึกว่าโลกนี้มันกว้างใหญ่และหลากหลายกว่าที่เราคิด จากคุณ : Into the Groove เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 08:38:51

ความคิดเห็นที่ 19 ไปครั้งแรกที่สิงคโปร์  ตอนอายุ  20 ค่ะ ไม่เคยโหยหา  ขนาดเป็นความใฝ่ฝัน  ไม่ได้คิดจะเที่ยวทุกปี  มันแล้วแต่จังหวะและโอกาส  ตอนยังไม่มีลูกได้เที่ยวบ่อยหน่อยค่ะ    พอมีลูกเล็ก ไม่ได้ไปไหนหลายปีเหมือนกัน   ผ่านมาอีกพักใหญ่  ตอนนี้ลูกโตแล้ว  ก็เริ่มไปเที่ยวอีกค่ะ    แต่ก็สลับ ไปต่างประเทศบ้าง   เที่ยวในประเทศบ้าง     ไม่เจาะจงหรือวางแผนนานๆค่ะ ถ้าถามว่า  จำเป็นไหมที่ต้องเที่ยว  ตอนนี้     สำหรับตัวเรา  ถ้ามีโอกาสและพร้อมก็ไปค่ะ    เพราะถ้ารอแก่ค่อยเที่ยว  ถึงเวลานั้นร่างกายไม่อำนวยแน่นอนค่ะ    ถ้าได้เห็นอะไรแปลกใหม่ สวยงาม  ก็เก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆ  ได้ดูรูปย้อนหลัง    ว่าเราเคยไปตรงนั้นตรงนี้    มันก็มีความสุขนะคะ จากคุณ : เฮ้าส์1 (เฮ้าส์1) เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 08:39:22

ความคิดเห็นที่ 20 ป้าไปเที่ยวเมืองนอกครั้งแรก ตอนอายุ 23มั้ง ไปนิวซแลนด์ ตื่นเต้นมาก สมัยนั้น ข้อมูลไม่สามารถหาได้ง่ายๆอย่างสมัยนี้ (ตอนนั้น 1 ดอลล่าห์นิว ประมาณ14-15บาท วีซ่าก็ไปขอ on arrival เอา คิดดู)สิ่งที่ได้จากการไปเที่ยวตปท.คือ การได้ไปเห็นสิ่งที่แตกต่างจากบ้านเรา หลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร อากาศ ผู้คน  ตั้งแต่นั้นมา ป้าก็เที่ยวเรื่อยๆ ตามแต่จะมีโอกาส ส่วนบั้นปลาย  ถ้าแก่จนนั่งเครื่องบินยาวๆไม่ไหว จะเก็บสแปร์ที่เมืองไทย 555 อีกอย่าง การได้ไปเที่ยว ตปท. สำหรับตัวป้า ทำให้มีจิตใจที่กว้างขึ้น การที่เรา ไปพบสถานที่แตกต่าง ผู้คนหลากหลาย ทำให้เรามีมุมมองที่กว้างขึ้น ตอนนี้ ป้ามีหลานชาย เป็นเพื่อนเที่ยวแล้ว เสียแต่ต้องออกเงินให้ @___@ จากคุณ : หัวเดียวกระเทียมลีบ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 08:59:54

ความคิดเห็นที่ 21 เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตและการคิดของเพื่อนๆ บ้าง หลังจากกลับจากไปเที่ยวต่างแดนครั้งแรกครับ..... ต้องยอมรับครับว่า  การเดินทางครั้งแรกที่ได้ไปต่างประเทศนั้น นอกจากจะทำให้เราตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจ กับสิ่งใหม่ๆที่ได้พบเห็นแล้ว ยังมีสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเราก็คือ ความคิดและมุมมองที่แปลกใหม่ ที่กว้างไกลมากกว่าเดิม ผมไม่รู้ว่าหลายคนเป็นเหมือนผมไหม? หลังจากกลับจากเดินทางกลับจากต่างประเทศครั้งแรกนั้น ผมคุยกับเพื่อนที่ทำงานไม่รู้เรื่อง จากคนที่เคยคุยในทิศทางเดียวกัน คุยถูกคอ แต่กลับกลายเป็นว่าคุยกันคนละเรื่อง จนเพื่อนๆไม่อยากคุยด้วย สาเหตุหรือ........ ก่อนที่จะได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศ มุมมองของผมนั้นแคบมาก เห็นโน่นเห็นนี่ในบ้านเราเราก็ว่าสุดยอดแล้ว ดีมากแล้ว เยี่ยมแล้ว แต่พอได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศ เราได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่าง บางสิ่งมันก็เหมือนกับบ้านเราแต่มันดีกว่าบ้านเรา บางอย่างมันคล้ายบ้านเราแต่มันแปลกกว่าบ้านเรา ซึ่งสิ่งเหล่านี้นี้เองที่ทำให้เราคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่อง และไม่ค่อยมีใครอยากคุยกับเรา หากมีวงสนทนาแล้วคุยกันเรื่องเที่ยว หรือเรื่องทั่วไปเพื่อนๆก็จะพูดตามแต่ที่เคยเห็น หรือที่จินตนาการไว้ แต่พอเราคุยด้วยเราก็จะบอกว่าสิ่งที่เพื่อนๆพูดมานั้นบางอย่างเราเห็นแล้ว และสิ่งที่เราเห็นนั้นที่ไหน มันเป็นอย่างไรถ้าบ้านเรานำเอาแบบอย่างบ้านเขามาทำคงดีกว่านี้  หรือบางครั้งนั่งคุยงานพอให้เรานำเสนอเราก็เริ่มที่จะคิดแปลกๆแหวกแนวออกไปเพราะบางอย่างนั้นเราเคยเห็นจากที่เราเคยไปเที่ยวต่างประเทศและคิดว่ามันดีถ้าเราจะนำมาประยุกต์ใช้ แต่ทุกครั้งผมก็จะเจอสายตาของเพื่อนๆที่บอกถึงความไม่พอใจ บางครั้งถ้าที่ทำงานพูดถึงเรื่องเที่ยว เราก็อยากจะร่วมพูดคุยด้วยแต่ทุกครั้งเพื่อนๆก็มักจะวงแตกเพราะไม่อยากคุยแถมมีคำกระแหนะกระแหนว่า "อย่าไปพุดกับเขาเลย เราคนจนเที่ยวเมืองไทย คนรวยชอบเที่ยวเมืองนอก"  ผมเคยบอกเพื่อนๆว่า "ลองไปเที่ยวต่างประเทศแล้วจะติดใจ และจะรู้ว่ากบในกะลานั้นเป็นอย่างไร" ทุกวันนี้หากได้คุยกับเพื่อนที่ชอบเดินทาง ที่ชอบเที่ยวเหมือนกันคุยกันทั้งวันก็ไม่เบื่อ คุยจนน้ำไหลไฟดับกันเลยทีเดียว บางครั้งยังคิดเลยว่า สงสัยฉันมีโรคประจำตัว "โรคอยากเที่ยว"  ว่างเป็นไม่ได้เป็นต้องวางแผนเที่ยวตลอด จากคุณ : vnapt1 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 09:03:16

ความคิดเห็นที่ 22 มันเหมือนกับตอนคุณเรียนหนังสือ  ในรั้วมหาวิทยาลัยคุณคิดว่า สิ่งที่มี ที่ได้ สุดยอดแล้ว  แต่ครั้นคุณจบออกมา  โลกภายนอกมันกว้างใหญ่มาก  มีอะไรที่ต้องศึกษา ค้นคว้า ไม่รู้จบ  และต่อๆ ไปอีกเรื่อยๆ ตราบเท่าคุณมีชีวิต  ท่องโลกก็เช่นเดียวกัน จากคุณ : lucky_nop เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 09:11:04

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่มีรถ ไม่มีบ้าน มีแต่ความสุขสนุกทุกครั้งที่ได้ไปเที่ยวอ่า..... คิดว่า ต่อไป ไม่มีแรงเที่ยว ค่อย หารถหาบ้านก็ได้... ตอนแรกก็คิดว่าเปลือง แพง...ยังไม่พร้อม ครั้งแรกที่ไปก็อายุ 29 ได้ หลังจากนั้น ...มาความคิดเริ่มเปลี่ยน ไม่พร้อมตอนนี้จะพร้อมตอนไหนฟ่ะ เที่ยวไปเรื่อย บางครั้ง ไปหลายวัน คิดว่า ถูกกว่าเที่ยวไทยบางที่อีกนะ ไม่ได้ไปหรูหราไร เที่ยวแบบลุยๆ แต่ก็ไม่ได้เที่ยวนอกอย่างเดียวนะ ส อา ก็ เที่ยวไทยด้วยอ่า ตามปกติ ....... ลองดูแล้วจะรู้ว่า โลกของเรา กว้างใหญ่ และมีเรื่องราว มากมายจิงๆๆ... จากคุณ : tuman47 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 09:27:50

ความคิดเห็นที่ 24 เคยไปสิงคโปร์ตอนอายุ 18 กลับมาก้อรู้สึกเฉยๆ พอเริ่มทำงานเก็บเงินเอง  ได้ไปเที่ยวอเมริกา  โอโห  มันให้ความรู้สึกแตกต่างจริง  รู้สึกว่าโลกนี้ช่างกว้างใหญ่เหลือเกิน  เรามันแค่มดที่อยู่ในซอกหลืบของโลก  555  ประมาณนั้นเลย ตอนนี้กลายเป็น เดินทางไป ต่างประเทศปีละ 5 รอบเลย สะสมได้หลายประเทศละ มันทำให้เราได้เรียนรู้อะไรเยอะมากๆเลย จากคุณ : cool_girlgang เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 09:51:41

ความคิดเห็นที่ 25 ผมไปต่างประเทศครั้งแรกตอนอายุ 6 ขวบ ไปอัมสเตอร์ดัม ฮอลแลนด์กับแม่และพี่สาว ชอบบ้านเมืองและอากาศเย็นๆของเค้ามาก หลังจากนั้นก็ได้ไปเรื่อยๆ จนมาหยุดตอน ม.1 และได้ไปอีกทีตอนเรียนจบมหา'ลัย ไปสิงคโปร์และฮ่องกง หลังจากนั้นความฝันก็หายไป 4-5 ปี (มัวแต่เที่ยวผับ) จนมาเข้าห้องนี้แหล่ะ ความฝันในวัยเด็กที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศ ไปหาอากาศเย็นๆ ได้นั่งเครื่องบินก็กลับมา และหางแดงก็มาเติมเต็มความฝันให้เราได้สำเร็จกลับการไปต่างประเทศด้วยตัวเองครั้งแรก (ไปฮ่องกง มาเก๊าด้วยโปรหางแดง) ตอนนี้กำลังเก็บเงินไปเที่ยวเกาหลีช่วงต้นปีหน้าอยู่ (เก็บตังค์เติมฝันให้ตัวเองและแฟน) ผมก็อยากรู้ว่าผมบ้ารึป่าว ที่ไม่ยอมเก็บเงินซื้อบ้าน เก็บเงินซื้อรถ อย่างที่หลายๆคนทำกัน แต่ดันเก็บเงินเพื่อไปเที่ยว ก็ใจมันรักนี่หว่า ทำไงได้ !!!! จากคุณ : tottui เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 09:59:18

ความคิดเห็นที่ 26 มีคนรู้จักคนนึง เป็นคนประหยัด และมองว่าการท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นเรื่องสิ้นเปลือง และไม่ใช่สิ่งจำเป็นของชีวิต แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เขาจำเป็นต้องไปเที่ยวต่างประเทศ    ตั้งแต่ครั้งนั้น คนรู้จักคนนี้ ก็ชื่นชอบการเที่ยวต่างประเทศมาก เพราะ   1.  เป็นอิสระจากหน้าที่การงานโดยสิ้นเชิง เพราะไม่มีโทรศัพท์จากลูกน้อง ไม่ต้องคิดว่าพรุ่งนี้จะวางแผนงานทำอะไร อิสระเช่นนี้ เขาชอบมาก และการไปเที่ยวต่างประเทศเท่านั้นที่เขาจะพบอิสระเช่นนี้ได้ (เพราะเที่ยวเมืองไทย ที่ทำงานโทรหาตลอดเวลา)  2. พบเจอสิ่งแปลกใหม่ ที่หาไม่ได้ในเมืองไทย ทั้งเรื่องดี เรื่องไม่ดี ทำให้ชีวิตที่จำเจ ซ้ำซาก เปลี่ยนเป็นชีวิตที่ตื่นเต้นและกระตือรื้อร้นอยากรู้อยากเห็น  เหมือนชีวิตสมัยวัยรุ่นกลับมาอีกครั้ง  3. เจอสิ้นค้าที่ชื่นชอบ ราคาถูก และหาซื้อไม่ได้ที่เมืองไทย ป.ล. ไปเที่ยวครั้งแรก เขาเจอหิมะตก ตกหนักพอสมควรด้วย หิมะวันนั้นทำให้เขารู้ว่า ยังมีอะไรอีกมากมายบนโลกใบนี้ ที่ต่อให้ใครมาพูดให้ฟัง หรืออ่านหนังสือสักกี่เล่ม ดูภาพถ่ายสักกี่ร้อยรูป ก็ไม่เหมือนมาสัมผัสด้วยตัวเอง  คนที่รู้จักคนนั้น ก็คือแฟนดิฉันเองค่ะ  ^^ ส่วนตัวดิฉันเอง ชอบไปเที่ยวหมดทั้งเมืองนอก เมืองไทย โอกาสไหนมาก็รีบคว้าหมด  ^^ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 54 10:22:31 จากคุณ : พฤติกรรมดีเด่น เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 10:17:34

ความคิดเห็นที่ 27 เราไปต่างประเทศครั้งแรกตอนอายุ 12-13 ค่ะ ตอนนั้นไปสิงคโปร์กับที่บ้าน ไปทัวร์ แต่แทบจำอะไรไม่ได้ เพราะว่าไม่สบาย ท้องเสียตลอดทริป เฮ่อ.. ครั้งต่อไปก็คือตอนอายุ 17 ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนค่ะ หลังจากนั้นพอจบมหาลัยก็แทบไม่ได้อยู่เมืองไทยเลย ไปเรียนต่อ ไปทำงาน จนพึ่งได้กลับไทยถาวร (ณ เวลานี้) เมื่อปีที่แล้วเอง แต่ก็ยังเที่ยวตลอด ทั้งในไทย และไปต่างประเทศ สำหรับเราการได้ใช้ชีวิตในต่างประเทศ รวมถึงการไปเที่ยวด้วย นอกจากจะทำให้เรามองโลกได้กว้างขึ้น ได้รู้วัฒนธรรมใหม่ๆ มากขึ้น และเปิดรับความแตกต่างมากขึ้นแล้ว มันทำให้เราหันกลับมามองประเทศไทย เราเองด้วยนะ ได้มองเห็นข้อดี ข้อเสียของประเทศตัวเองจากมุมมองของคนในที่อยู่ข้างนอก แล้วมองกลับมา ด้วยสายตาที่มีอคติน้อยลง อ้อ แล้วก็รู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่มีคนเข้ามาพูดถึง your king และความจงรักภักดี ของคนไทยที่มีต่อพระมหากษัตริย์ของเราค่ะ มันเป็นอะไรที่หาไม่ได้อีกแล้วในชาติอื่นนะ ปล. ชอบคคห. 2 คุณ Miss_Behaving จัง เสียดายกีบหมด ไว้ขึ้นเดือนใหม่จะกลับมาให้นะคะ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 10:25:24

ความคิดเห็นที่ 28 เอาจริงๆนะครับ ตั้งแต่เกิดมาผมก็ได้ไปแต่ พม่า ลาว...จนเมื่อปีก่อนมีโอกาสเก็บเงินได้ ก็เลยตัดสินใจไปเที่ยวฮ่องกงกับมาเก๊า ครั้งแรกในชีวิตต่างแดนเลย ไปเที่ยวด้วยตัวเอง สิ่งที่ผมได้กลับมา (ไม่ได้จะมาโยงการเมืองนะครับ) เมื่อก่อนผมภูมิใจในประเทศไทยมาก เราช่างเจริญเหลือเกิน ทำไมต่างชาติจึงมองว่าเราเป็นประเทศกำลังพัฒนา อาจจะเพราะว่าเราเทียบไม่ได้กับอังกฤษ อเมริกา อะไรไปโน่นก็พอรับได้ แต่พอกลับจากฮ่องกงมา บ้านเมืองเขาดีมากเลยครับ มีระบบระเบียบดีมาก ถนนเรียบ เขตก่อสร้างก็ป้องกันอันตรายได้อย่างดี ทางคนเดินก็กว้างขวาง ทุกๆอย่างเขาดีจริงๆ จนผมไม่แปลกใจเลยที่จะบอกว่าประเทศเราเป็นประเทศกำลังพัฒนา ผมกลับมาคิดว่าคนไทยเราหลายๆคนอาจจะคิดเหมือนผมก็ได้ เลยปล่อยชีวิตเราไปวันๆ เพราะภูมิใจในสิ่งที่เรามองเห็น แต่ไม่ได้ไปมองเห็นภายนอก ผมอยากให้ทุกคนได้มีโอกาสคิดได้แบบนี้ แต่พยายามทำตัวเองให้ดี ขยันขันแข็งมีระเบียบวินัยแบบต่างชาติ การได้ไปท่องเที่ยวมันสอนอะไรผมมากเลย ทำให้ผมพยายามผลักดันตัวเองมากขึ้น และ ผมจะเก็บเงินเพื่อไปท่องเที่ยวต่างแดนอีกแน่นอน ไม่เฉพาะประเทศเจริญนะครับ ถึงประเทศที่ไม่ได้เจริญเทคโนโลยีไปกว่าเรา ผมก็จะไปเพราะเขาอาจจะเจริญในทางด้านจิตใจมากกว่าเราก็ได้ ผมอยากที่จะไปเรียนรู้ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากมาย จากต่างแดน จากการท่องเที่ยว ที่ในตำราเรียนบ้านเราไม่มีสอนครับ จากคุณ : KapomMan เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 10:29:19

ความคิดเห็นที่ 29 ไปต่างประเทศครั้งแรก ก็เป็นสิงคโปร์ 5 วัน ทั้งเที่ยวทั้งดูงานบ้าง รู้สึกตื่นตาตื่นใจมาก แต่เนื่องจากไปเดือนเมษายน จึงร้อนมาก สมัยนั้นบ้านเรายังไม่มีรถไฟฟ้า เราได้ขึ้นรถไฟฟ้าก็สนุกมาก จำได้ว่าพี่ที่นำทีมไป รวม 4 คน ได้แนะนำการซื้อตั๋ว และการขึ้นรถเมล์       หลังจากนั้นผ่านมาหนึ่งปี ก็ได้มีโอกาสไปเที่ยวบาหลีกับเพื่อนสองคน ไปแบบไม่ง้อทังร์ แต่ไปซื้อทัวร์ที่บาหลี ทัวร์ก็ดีมาก รู้ว่าเป็นคนไทย ก็ใช้รถเก๋งพาเที่ยวรอบเกาะบาหลี ออกนอกโปรแกรมตลอด เราก็ให้ทริป บางวันก็เที่ยวเอง นั่งรถเมล์บ้าง สนุกดี      ที่หนาวสุดๆคือ Harbin ประเทศจีน(ไปกับกลุ่มทัวร์พิเศษ 30 คน) ไปทั้งหมด 9 วัน หนาวมาก ได้เห็นการแกะสลักน้ำแข็ง ในช่วงนั้น ยังไม่มีทัวร์ไทยไป จำไม่ได้ว่าปีใด กลางคืนอุณภูมิ  -16 องศา เดินทางทั้งรถไฟหัวกระสุน รถไฟ เครื่องบินในประเทศ ประทับใจมาก เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นหิมะ       ปีต่อมาได้ไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นกับคณะของที่ทำงาน รวม 30 คน ครั้งละ 9 วัน และ 7 วัน เที่ยวตั้งแต่ Osaka จนถึง Hokkaido แต่ก็ขอยู่เที่ยวต่ออีกหลายวันก่อนกลับบ้าน       เกาหลี 2 ครั้ง       เวียตนาม 2 ครั้ง       ยุโรป 1 ครั้ง Netherlands,Germany,Swiss and Luxemberge       หลังจาก Early Retired แล้ว ก็ไม่มีเพื่อนเที่ยว จึงได้ตัดสินใจเที่ยวเองคนเดียว ก็มีความรู้สึกไปอีกแบบหนึ่ง คื่อต้องเตรียมข้อมูลจากpantipและอื่นๆ       เนื่องจากโปร 0 บาท ของแอร์เอเซีย ทำให้ลองเที่ยวเองคนเดียว เพราะในการทำงานก็เดินทางคนเดียวอยู่แล้ว เพียงแต่เป็นในประเทศเท่านั้น จึงไม่หนักใจ ดังนั้นจองตั๋ว เที่ยว โฮจิมิน มาเลเซีย มาเก๋า สนุกมาก ภาษาอังกฤษ ก็สื่อสารได้เล็กน้อย แต่ก็พูดคุยกันรู้เรื่อง        แต่ที่ตื่นเต้นที่สุดก็คือ การขอวีซ่าไปประเทศแคนาดา เนื่องจากได้อ่านตามเวปต่างว่า Vancouver เป็นเมืองที่สวยงาม ประกอบกับประเทศแคนาดามีความปลอดภัยมาก ผู้คนใจดี มีน้ำใจ จึงไปขอวีซ่าแคนาดา เมื่อวีซ่าผ่าน ก็รีบหาข้อมูลเพิ่มเติม จนในที่สุดเมื่อเดือนกันยายน ปีที่แล้วได้มีโอกาสไป Vancouver 9 วัน ก็เหมือนกับที่ได้อ่าน ผู้คนใจดีมาก เราหาHostel ไม่พบ อันที่จริงก็อยู่ข้างหน้านั่นแหละ แต่ไม่เห็นป้าย เนื่องจากต้นไม้บัง ก็ถามคนที่เดินจูงสุนัขมา เค้าก็ชี้ให้ พอเข้าไปที่พัก ก็ประทับใจกับพนักงานที่อธิบายอย่างชัดเจน พูดเข้าใจง่ายๆ รู้สึกประทับใจกับผู้คน สถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม การหาข้อมูลจากรถเมล์ รถไฟฟ้า ดีมาก สิ่งใดไม่เข้าใจก็ถามจากเจ้าหน้าที่ ประทับใจมากที่สุดในทริปนี้ ถ้ามีโอกาสจะไปอีก เป็นครั้งแรกที่เดินทางไกลมาก เพียงคนเดียว ไม่มีคนรู้จักเลยแม้แต่คนเดี่ยว แต่เราต้องเตรียมตัว ข้อมูลให้พร้อม       สิ่งที่ลุ้นมากเมื่อปีที่แล้ว เป็นวีซ่าที่มีปัญหามากกับหลายๆคน ก็คือวีซ่าอเมริกา แต่เนื่องจากการหาข้อมูลจากเวปต่างๆ ทำให้ผ่านไปได้ด้วยดี แต่ในขณะขอวีซ่านั้น ไม่สามารถตกลงกับญาติที่อยู่อเมริกาได้ จึงไม่ได้เดินทางไปตามวัน เวลาที่ได้ระบุในวีซ่า จนมาปีนี้วางแผนได้แล้ว จึงได้จองตั๋วเครื่องบิน Itinerary และตั๋วเครื่องบินที่ญาติจองไป  Las Vegas ประกอบการเดินทาง เพราะรู้ว่าที่ Los Angeles ต้องถามคำถามมากมาย ก็เกรงว่าจะฟังไม่รู้เรื่อง จึงเตรียมเอกสาร เพื่อแนบกับหนังสือเดินทาง และเตรียมข้อมูลที่ได้ให้ไว้ใน ds 160 และคำถามที่ได้ข้อมูลจากในพันทิป นี่แหละ เตรียมไว้สำหรับการเดินทางปลายเดือนตุลาคมนี้       พูดมาเสียยืดยาว ในความเห็นของเรานั้น เมื่อครั้งแรกที่ไปประเทศสิงคโปร์ก็ได้เห็นความเจริญก้าวหน้า ความเป็นระเบียบ  ความสะอาด ความหลากหลายของประชากร ทำให้หันกลับมามองบ้านเรา และยังเป็นแรงจูงในให้เดินทางไปประเทศอื่นอีก ดังนั้นหากเรามีทุนทรัพย์พอ เราก็จะได้ประสบการณ์ในต่างประเทศอีกมากมาย เติมชีวิตให้มีความสุข จากคุณ : olderperson เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 11:02:27

ความคิดเห็นที่ 30 ทำให้รุ้ว่า โลกนี้กว้างใหญ่ และเราใช้ชีวิต คุ้มแล้วรึยัง?? จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 11:03:36

ความคิดเห็นที่ 31 ทำให้เห็นว่า เมืองไทยน่าอยู่ที่สุด จากคุณ : คนหัวฟู เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 11:20:04

ความคิดเห็นที่ 32 ไปต่างประเทศครั้งแรก ไปดูงานที่ญี่ปุ่น ตอนอายุ 20 ครับ สิ่งที่ได้รู้คือ ผมไม่ได้แพ้อากาศ แต่แพ้ฝุ่นและเกสรดอกไม้ เพราะหนาวกว่าไทย แต่ไม่มีปัญหาเรื่องการหายใจเลย ช่วงที่ได้เดินทางมากที่สุด ประมาณว่าเดือนละ 2-4 หน ทุกเดือน ปีหนึ่งอยู่ไทยไม่ถึงครึ่งปี เนื่องจากไปในเรื่องงาน ดังนั้นการรับผิดชอบตัวเองสำคัญที่สุด จะป่วยจะอะไร ก็ต้องไปทำงานให้เสร็จตาม Schedule ช่วงนี้ไปเที่ยวต่างประเทศปีละประมาณ 2 ครั้ง แต่ไม่ค่อยได้ไปไกล ๆ จากคุณ : jerry-t เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 11:46:54

ความคิดเห็นที่ 33 ไปเห็นแล้วอิจฉาระบบขนส่งสาธารณะของฮ่องกง ทำไมถึงได้ยอดเยี่ยมอย่างนี้ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้รถส่วนตัวเลย จากคุณ : Sand Canyon เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 11:48:48

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่ได้สร้างแรงบัดดาลใจขนาดนั้นครับ เพราะเสพติดการไปเที่ยวนานแล้ว แต่เวลานึกถึง ฮ่องกง สิงคโปร์ ประเทศที่ไม่มีอะไรเลย ทำไมถึงเจริญกว่าไทย เพราะเค้าไม่คอรับชั่น จากคุณ : เขียนบน iPhone (tan_www) เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 11:49:56

ความคิดเห็นที่ 35 ยังไม่เคยไปต่างประเทศเหมือนกัน  ถ้ามีโอกาสต้องไปแน่ ๆ  วางแผนไว้ปีหน้านี้ล่ะ  คงจะได้อะไรใหม่ ๆ แน่นอน จากคุณ : แตนนี่ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 11:51:21

ความคิดเห็นที่ 36 ตอนนี้อายุ 19... ไปต่างประเทศครั้งแรกตอนอายุสิบเดือนค่ะ จำอะไรไม่ได้เลย 55555+ รู้สึกว่าไปจีนนะ ต่อมาก็ไปฮ่องกงทุกปี ไปเยี่ยมญาติทั้งนั้นเลย ไปเที่ยวจริงๆก็ไปเกาหลีตอน 4 ขวบ แล้วก็ญี่ปุ่นตอน 12 ขวบ แต่เราว่าไปเที่ยวแล้วรู้สึกว่าได้อะไร ก็ไม่มากอ่ะ...สำหรับเรานะ มาได้มุมมองชีวิตจริงๆ ตอนไปอยู่เยอรมนีทั้งปีตอนอายุ 16 นี่ล่ะ Mind set เปลี่ยนไปพอควรเลย เราคิดว่าเราคงไม่เที่ยวถึงขั้นไม่มีเงินซื้อบ้านซื้อรถ แต่เราก็อยากไปหลายๆประเทศนะ ตอนนี้ได้ 13 ประเทศละ เดือนหน้าจะไปอีกสองประเทศ สโลวีเนียกับโครเอเชีย.... และก็อยากจะไปอีกเรื่อยๆค่ะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (fern-eva) เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 13:15:22

ความคิดเห็นที่ 37 หลาย ๆ ท่านได้พูดกันไปหมดแล้ว ขอเสริมนิดหน่อย ผมไปต่างประเทศจริง ๆ ครั้งแรกตอนอายุประมาณ 16-17 ปี ไปปีนัง กัวลาลัมเปอร์ สิงคโปร์ ไปรถไฟจากกรุงเทพฯ แล้วบินกลับจากสิงคโปร์ เห็นบ้านเรือนสวย ๆ ต้นไม้เยอะ ดูร่มรื่นในปีนังและสิงคโปร์สมัยโน้นแล้วกลับมาผมเกลียดกรุงเทพฯ เป็นเดือนเลยครับ นั่งรถไปเรียนหนังสือก็รู้สึกว่าทำไมบ้านเราไม่ปลูกต้นไม้เยอะ ๆ จะได้ร่มรื่น กว่าจะทำใจชินกับเมืองไทยก็ผ่านไปเป็นเดือน จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 13:15:35

ความคิดเห็นที่ 38 ไปต่างประเทศครั้งแรกตอน 25 ครับ...ตอนนี้ก็ไปเที่ยวบ่อยๆ ปีนี้ไป 3 ประเทศครับ ไม่ได้ไกลมากมายอะไร ลาว บาหลี และเกาหลี ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ไม่มีอนาคตครับ แต่ชอบเที่ยว อยากทำอะไรที่มีความสุข และก็รู้สึกว่าไม่เสียใจ รวมทั้งไม่เสียดายเงินที่ใช้กับการท่องเที่ยวครับ เพราะมันสนุก และมีความสุขจริงๆ ฮ่า ฮ่า จากคุณ : color_to เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 14:06:23

ความคิดเห็นที่ 39 ไปตปท ครั้งแรกตอนอายุ 17 ค่ะ ไปนิวซีแลนด์ โดนส่งไปซัมเมอร์เดือนนึงค่ะ ตอนแรกไม่อยากไปเลยเพราะไม่มีเพื่อน แต่แม่ก็บอกว่าไปเถอะมันเป็นกำไรชีวิต(แต่เงินพ่อออกค่ะ 5555) หลังจากกลับมาก็หลงรักการไปเที่ยวตปทมากเลยค่ะ หาเรื่องไปเที่ยวได้เกือบทุกปีเลย ได้ไปเจออะไรใหม่ๆเห็นอะไรใหม่ๆ เหมือนไปอยู่โลกใหม่ที่ไม่มีใครรู้จักเรา มีความสุขที่สุดด ตอนนี้ 21 แล้ว กำลังจะได้ไปแบกแพคครั้งแรกที่มาเลเซียค่ะ ตื่นเต้นมากกกกก ^.^ จากคุณ : มิสชาลอตต์ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 14:12:04

ความคิดเห็นที่ 40 ไปครั้งแรกตอนเด็ก ๆ คือมาเลเซีย แต่ถือว่าไม่นับละกันครับ เพราะไม่ได้นั่งเครื่องบินไป เอาเป็นว่า พอโตขึ้นมาแล้วไปเองครั้งแรก คือ ญี่ปุ่น ครับ ได้เดินทางออกต่างประเทศครั้งแรกเอง ต้องผ่าน ตม. ที่สนามบิน ได้เห็นประสบการณ์ใหม่ ๆ ตื่นเต้นมาก ยิ่งตอนแอร์ประกาศว่า เราได้นำท่านสู่สนามบินนานาชาตินาริตะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เรียบร้อยแล้ว ตอนนั้นขนลุกเลยครับ แอบน้ำตาซึม เพราะเป็นประเทศในฝันตั้งแต่เด็ก มองออกไปนอกเครื่องบินเห็นต้นซากุระบานเต็มเลย ก็ยิ่งดีใจ แล้วพอกลับมา รู้สึกยังไง ? ของผมกลับมาก็ "เพ้อ" เลยครับ อาจเพราะ ความแตกต่างอย่างสุดโต่ง ระหว่าง เมืองไทย กับ ญี่ปุ่น ทั้งความมีวินัย มารยาท ความเป็นระเบียบ ทุก ๆ อย่างเลย ผมเลยประทับใจมาก ตอนนั้นเลยรู้เลยครับ ว่า ประสบการณ์แบบนี้ มันหาไม่ได้ตามห้องสมุด หรือ อินเตอร์เนต มันต้องออกเดินทางไปเจอด้วยตัวเองครับ จากคุณ : zaxofone เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 14:39:57

ความคิดเห็นที่ 41 ตอนไปเที่ยวก็ตื่นเต้น แต่ตอนกลับ ปรับเวลาไม่ได้ซะที ง่วง จากคุณ : .. (ดิรวัช) เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 14:43:06

ความคิดเห็นที่ 42 ต้องบอกก่อนคะว่า ประสบการณ์ในต่างประเทศนี้ยังไม่จบคะเนื่องจากได้ทุนมทำงานวิจัยในต่างประเทศ1ปี อยู่มา 4 เดือนแล้วคะ ตอนนี้อยู่ที่ญี่ปุ่นคะ ประเทศในฝัน (แอบคิดว่าคงแค่ในฝันตลอดกาล) มาถึงแล้วยังคิดว่าฝันอยู่นะคะ ถึงจะต้องทำงานไปด้วยแต่ก็เที่ยวได้เรื่อยๆคะ มันเป็นประสบการณือีกแบบหนึ่งเลยคะ ก่อนมาก็คิดว่าทำไมเพื่อนๆที่เค้ามาก่อนหน้าเนียเค้าดูแปลกๆ ชอบพูดอะไรแปลกๆ อย่าให้เค้าจับกลุ่มกันเชียวนะคะ เป็นต้องคุยกันสนุกสนามน่าดู เรากับเพื่อนที่ยังไม่เคยออกมาก็เออไปเลยคะ แต่พอมาอยู่เองก็เค้าใจเลยคะ ว่าทำไมเค้าถึงเป็นแบบนี้กัน การทำงานที่นี้ก็เหมือนได้อิสระคะ ที่บ้านเราการทำงานวิจัยต้องดูว่าเรามีของแค่ไหนอันไหนใช้เงินมากก็ต้องตดทิ้งแม้จะเป็นเรื่องสำคัญ แต่การอยู่ที่นี้เราได้อิสระเต็มที่คะ สามารถทำงานได้หลายๆอย่างเครื่องมือครบครัน ถ้าของจากต่างประเทศราคาแพง ที่นี้เค้ามีญี่ห้อในประเทศราคาถูกกว่ากันมากคะ มันทำให้เราชอบนะคะ อีกอย่างคือทำให้เราคิดว่าการท่องเที่ยวมันไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากอย่างที่คิดคะ ตอนนี้ก็เริ่มคิดคะว่ากลับไปจะเที่ยวบ้านเราซักพัก เรียนจบแล้วพอมีเงินจะกลับมาที่นี้อีกคะ ออกเที่ยวอีกครั้งช่งแรกที่เค้าห้องนี้ก็คิดว่าเค้าไปหาเงินเที่ยวได้ไงนะ พอเริ่มอ่านมากขึ้นทำให้เราเห็นว่ามันไม่แพงอย่างทีคิดคะ ตอนนี้ก็กะลากเพื่อนที่อยู่ด้วยกันออกเที่ยวเกาหลีคะ (เพื่อนยังไม่เคยไปคะเค้ายังอยู่ที่ไทยนะคะ) จากคุณ : siri-kmutt เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 14:50:55

ความคิดเห็นที่ 43 แต่ก่อนไม่เคยคิดไปต่างประเทศค่ะ...เนื่องจากคิดว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก ค่าใช้จ่ายสูง...จนกระทั่งมีโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศกับน้า อายุก็เยอะแล้วหล่ะ...เป็นการเปิดโลกทัศน์มากๆเลย ตั้งแต่นั้นก็มีความฝัน และก็เก็บเงิน (ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้เดือดร้อนในส่วนอื่นนะคะ ก็ยังคงมีรถ มีบ้านอยู่ มีเงินกินข้าว) ไปเที่ยวกลับมาแล้วก็คิดว่า...เอ ทำไมที่เค้าเดินทางไปดูงานกันโครมๆ นี่ทำไมไม่เอากลับมาพัฒนาบ้านของเราบ้างนะ (หรือเค้าไปเที่ยวอย่างเดียว 555+) ความสุขของคนเราต่างกันค่ะ...พี่สาวของเรา มีความสุขกับการได้สะสมทรัพย์สิน ซึ่งเขาบอกว่าให้ไปเที่ยวเหมือนเรานี่เค้าไม่ชอบนะ เค้าเสียดายเงิน และอีกอย่างคือกลัว กลัวเครื่องบินตก555+...เพราะลูกเค้ายังเล็ก และกลัวสามีจะสบาย (คือมีภรรยาใหม่) แต่เค้าก็ไม่ว่าให้เราเพราะความชอบและความสุขของคนเรานั้นต่างกันค่ะ... แต่ความสุขของเราคือการท่องเที่ยว...ไม่ว่าจะเป็นในประเทศ หรือต่างประเทศ ถ้ามีโอกาสและเงินในกระเป๋าเอื้ออำนวยค่ะ จากคุณ : ดอกโสนบานเช้า เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 14:53:12

ความคิดเห็นที่ 44 คห37  คิดถึงตอนเราไปสิงคโปร์เลยค่ะ เมื่อก่อนเราคิดว่า มลภาวะมันมาพร้อมความเจริญค่ะ เหมือนมีแนวคิดว่า ความเจริญกับสิ่งแวดล้อมนี่มันสวนทางกัน เราต้องเลือก  ว่าจะเอาความเจริญหรือสิ่งแวดล้อมดีๆ  พอไปสิงคโปร์ตอนนั้นไปตปทครั้งแรก ไปเห็นประเทศเค้า ทั้งเจริญ ทั้งสภาพแวดล้อมดีมาก ในเมืองต้นไม้ใหญ่ๆเต็มไปหมด อากาศก็ดีแม่น้ำกลางเมืองก็สะอาด   บางคนบอกสิงคโปร์ไม่มีอะไรเที่ยวเลย แต่เราเนี่ยประทับใจสิงคโปร์มาก เราไม่ได้ชอบสิงคโปร์เพราะสถานที่ท่องเที่ยวค่ะ แต่เราชอบบ้านเมืองเค้าที่มีระบบการจัดการที่ดีค่ะ อยากให้เมืองไทยพัฒนาทั้งความเจริญและสิ่งแวดล้อมไปคู่กันให้ได้แบบเค้า แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 54 15:20:34 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 54 15:17:31 จากคุณ : aonlin เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 15:17:21

ความคิดเห็นที่ 45 ชอบภาษาและวัฒนธรรมที่หลากหลายค่ะ ตอนเด็กๆพอเริ่มชอบภาษาอังกฤษก็พยายาม(ถีบ)ตัวเองไปต่างประเทศ(ฮ่า) ด้วยการไปสอบพวก AFS แต่พอสอบได้แล้วพ่อไม่ให้ไปเพราะกลัวเราจบช้า เค้าก็เลยปลอบใจด้วยการส่งไปซัมเมอร์แทนค่ะ ตอนนั้นไปออสเตรเลีย ไปอยู่เดือนครึ่ง สนุกมากกกกกกกกก ไปตอนแรกเหงาที่สุด นั่งกาปฎิทินรอวันกลับทุกวันค่ะ ผ่านไปอาทิตย์นึงได้เที่ยว ได้เจอเพื่อน ได้ทำนู่นทำนี่ ลืมหมดเลยว่าอยากกลับบ้าน สำหรับเรามันเป็นอะไรที่เป็นประสบการณ์ชีวิตมากๆ ได้ลองไปทำงานที่ไม่เคยทำ(เราขอโฮสไปลองทำงานในฟาร์มสตรอเบอร์รี่ค่ะ) ได้ไปในสถานที่ที่ไม่เคยไป ลองใช้ชีวิตอยู่กับคนอื่น ฝึกเรื่องการปรับตัว ต้องทำเองเกือบทุกอย่าง ต่อมาช่วงมหาลัยมีโอกาสไปเรียนภาษาเพิ่มเติมที่อังกฤษสองเดือน คราวนี้เที่ยวเองเลยค่ะ กางแผนที่ จองรถไฟ วางแผน เที่ยวแบบลุยๆ บินก็บินโลว์คอส เราได้ประสบการณ์กลับมาทุกครั้งนะคะ ทั้งหัดวางแผนล่วงหน้า ต้องคอยระวังความปลอดภัย จองรถไฟแบบ advance แล้วมัน fixed route แล้วตกรถต้องซื้อตั๋วใหม่ราคาเต็มก็เคยมาแล้วค่ะ ตอนนี้ก็ยังอยากออกไปโลกกว้างทุกครั้งที่มีโอกาส อย่างว่าเน๊อะ ความสุขคนเราไม่เหมือนกัน ระหว่างได้ไปเที่ยวกับกระเป๋าแบรนด์เนม เป็นเราคงเลือกอย่างแรกก่อนค่ะ (แต่ถ้าได้อย่างหลังก็ไม่ปฎิเสธ อิอิ) จากคุณ : เจ้าหญิงเท็ดดี้แบร์ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 15:33:28

ความคิดเห็นที่ 46 เราก็ไม่มีหนี้ ไม่มีบ้าน (อยู่บ้านพ่อแม่) ไม่มีหนี้ผ่อนรถ ไม่มีภาระ ไม่มีครอบครัว ดังนั้นเก็บตังค์เที่ยวอย่างเดียว อ้อ เนื่องจากไม่มีครอบครัวก็เลยได้แต่ชวนพ่อแม่เที่ยวซะเลย   พ่อเราเมื่อก่อน ก็มองว่าเที่ยวต่างประเทศมันไกลตัวนั่นแหละ สิ้นเปลืองบ้าง บลา ๆๆๆๆ แต่ขอโทษ ตัวเองเปลียนรถและก็หมดเงินไปกับค่าทำรถตั้งเท่าไหร่แล้ว เล่นรถ เปลียนรถมาทั้ง 20 ปี มันก็ก็อยู่แค่นั้น ประสบการณ์เดิม ๆ เทิร์นรถ ซื้อใหม่ แก้ไข เปลียน ขาย ซื้อใหม่ ตั้งแต่พาไปเที่ยวสวิสมา เริ่มเปลียนเป้าหมายใหม่ อยากไปเที่ยวต่างประเทศปีละ 1 ครั้ง (แบบตั้งใจเที่ยวจริง ๆ 10 วันขึ้นไป) ไม่นับพวกไป 2-3 วัน แถบเอเชียนะ  แม่เราก็ตั้งแต่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศนี้ ทัศนคติตรงกับเราเลย ไม่เคยเสียดายเงินกับการเที่ยวต่างประเทศเลย จากคุณ : Freedom of Life เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 16:32:39

ความคิดเห็นที่ 47 ขอลอกคำตอบ 2ข้อแรกของ คห26นะคะ ...................................................... 1.  เป็นอิสระจากหน้าที่การงานโดยสิ้นเชิง เพราะไม่มีโทรศัพท์จากลูกน้อง ไม่ต้องคิดว่าพรุ่งนี้จะวางแผนงานทำอะไร อิสระเช่นนี้ เขาชอบมาก และการไปเที่ยวต่างประเทศเท่านั้นที่เขาจะพบอิสระเช่นนี้ได้ (เพราะเที่ยวเมืองไทย ที่ทำงานโทรหาตลอดเวลา) 2. พบเจอสิ่งแปลกใหม่ ที่หาไม่ได้ในเมืองไทย ทั้งเรื่องดี เรื่องไม่ดี ทำให้ชีวิตที่จำเจ ซ้ำซาก เปลี่ยนเป็นชีวิตที่ตื่นเต้นและกระตือรื้อร้นอยากรู้อยากเห็น  เหมือนชีวิตสมัยวัยรุ่นกลับมาอีกครั้ง .......................................................... นอกจากนั้น สถานที่บางแห่ง มีมนต์ขลังทำให้เรามีความรู้สึกที่เปลี่ยน คือยุโรปตะวันออก สวยมาก อยู่หลายๆวันแล้วเคลิ้ม โรแมนติกซะมากมาย  จากที่ไม่เคยสนใจอะไรโรแมนติกมาก่อนเลย  ไม่เคยฟังเพลงคลาสสิคมาก่อน ตอนนี้กลับหามาฟังเป็นบ้าเป็นหลัง จากคุณ : ฮิวเยียก เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 20:22:38

ความคิดเห็นที่ 48 เคยไปเที่ยว มาเก๊า รู้สึกทำไม มันสะอาด และน่าอยู่จัง ไม่มีสายไฟระโยงระยาง ห้อยไปห้อยมาเหมือนบ้านเรา       ที่สำคัญ มองไปทางไหน มีแต่บ่อน คาสิโน  การพนันเต็มไปหมด  แต่บ้านเมืองเขากลับพัฒนา มีระเบียบ เราไปนั่งในสวนหน้า  โรงแรมนึง ยุงยังไม่มีสักตัว  ยังแซวกับพี่สาวเลยว่า  มันคงบินข้ามทะเลมาไม่ไหวมั้ง 5555          แต่ทีบ้านเรา มองไปทางไหน ก็มีแต่การพนัน  เหมือนกัน แต่ไม่เห็นร่ำรวยอย่างเขา  จนเอา จนเอา  จนปล้นกันแล้ว ทั้งขี้ขโมย ขี้โกง และ ไร้ความรับผิดชอบอย่างแรง จากคุณ : NooPooK เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 21:49:54

ความคิดเห็นที่ 49 ไปเมืองนอกครั้งแรก อืม 2-4 สค 2002 นะไปเพราะว่า คนรอบข้างพูดถึง ฮ่องกง ก็เลยอยากไปสักครั้งคิดว่า แค่สักครั้งจริงจำได้เลยค่าตํ๋วไปกลับ พร้อมที่พักมาเจสติก รถรับส่ง 10,900 + 500 ภาษี และเราก็เดินทาง เป็นอะไรที่ตี่นเต้น ได้ท่องโลกกว้าง ประทับใจ และก็คิดว่าคงครั้งเดียว เพราะเงินเดือนน้อย 7000 เอง แต่ไม่น่าเชื่อเวลาผ่านมา 9 ปีให้หลังมา นับกันดีกว่า ฮ่องกง 7 ครั้ง บางปีไป 3 ครั้ง เลย อะไรหนักหนา สิงค์โปร์ 1 ครั้ง ตอนนั้น ซ่าร์ ลง ถูก 5000 รวมทุกอย่างไปก็ไปวะ มาเลเซีย 2 ครั้ง ฟรี ทั้งคู่ เล่นเกมส์ได้ไปพักคลับเมด 4 วัน 3 คืน ที่สุด ครั้งที่ 2 ฟรี อีก ได้รางวัลไปพักผ่อน 5 วัน 4 คืน ญ๊่ปุ่น อันนี้ต้องบอกว่าไม่เคยคิดว่าจะได้ไป 6 ครั้งเพราะว่าคิดว่าไม่มีปัญญา เพราะมันแพง แต่ นี้ 6 ครั้ง ปี 2010 ไป 2 รอบ อเมริกา 1 ครั้ง ไม่เคยคิดไม่เคยฝันจะได้ไปแพงอีก 7 หมื่นคอมมิชชั่นออก มาอย่าได้แคร์ เก็บ 12 เดือน ไปโลด เกาหลี 4 ครั้ง ไปแบบ งง 2 ครั้งไป ฟรี ค่ะ มาเก๊า 2 ครั้ง ไป งง อีก โปร 4 พัน ไปก็ไป ฟิลิปินส์ 1 ครั้ง ฟรี อีก รางวัลจากออฟฟิศอีก จีน 1 ครั้ง 8 วัน ปักกิ่ง เซียงไฮ้ หางโจว ซูโจว อู๋ซี จัดเองเพราะไม่ได้ไปญป และทุกครั้งมันได้ประสบการณ์ที่เราหาไม่ได้ วินัย การเตรียมตัว ได้เพื่อน และวิสัยทัศน์การมองโลกแบบกว้างเป็นผู้ใหญ่ การตัดสินใจ และใจเย็น การวางแผน เงินทองตายไปเอาไปไม่ได้แต่ ความทรงจำมันอยู่กับเรา เราก็ไม่มี รถ นะ มีแต่คอนโด ไว้ซุกหัวนอน พอแล้วเพราะไม่ค่อยได้นอน ชอบแบบไหนเลือกแบบนั้นแต่การเที่ยวคือประสบการณ์ทีคุณหาไม่ได้ ที่ไหนก็ไม่มีขายค่ะ จากคุณ : แป้งตัวเล็ก เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 22:19:36

ความคิดเห็นที่ 50 ได้ไป ตปท.ครั้งแรกในชีวิต อายุ40 กับลูกสาวอายุ 14 ไปพร้อมๆ กัน ครั้งแรกในชีวิตเหมือนๆ กัน แต่ก็มีคนพูดว่า ไปเที่ยว ตปท.ทำไม ไม่เที่ยวเมืองไทย ไม่เห็นมีอะไรที่เราไป งั้นๆ อือ์ม เค้าพูดแบบไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่เคยเป็นครั้งแรกในวัยที่ฝรั่งเรียกว่า เพิ่งเริ่มต้น 40 ปีทีเดียว เรารอมานานขนาดนี้ได้ยังไง ในโลกใบนี้ ที่ยังมีอะไรๆๆๆๆๆ อีกเยอะให้เราได้พบเห็นและเรียนรู้ กลับมาเมืองไทยแล้วก็อยากกอดบ้านเราที่ซู๊ดดด แต่ก็ยังอยากไป ตปท.อีกถ้ามีโอกาส เพราะอยู่บ้านเรา สบายที่สุด ตามใจตามสบายคือไทยแท้ๆ จริงๆ สมคำร่ำลือ และอีกไม่กี่วัน ผ่านวันที่เป็นครั้งแรกมาเกือบครบปี เราก็กำลังจะไป ตปท.อีกครั้งแล้ว สองแม่ลูกเหมือนเดิม แต่คราวนี้ จะไปกันแบบ ไม่ง้อใครไม่เดินตามใคร เดินตามใจและไฟฝันของตัวเอง ^.^ เฮ๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หลงแง๋มๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : ขอพิมพ์ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 11:08:34

ความคิดเห็นที่ 51 ไปต่างประเทศ ถ้านับเอาแบบครั้งแรกจริงๆ คือไป ปีนังครับ ตอนอยู่ ม ต้น ที่บ้านไปเบตง แล้วก็เลยนั่งรถเลยไปเลย ตื่นเต้นนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้จดจำอะไร ตอนเรียน ไม่เคยมีเรื่องไปเที่ยวต่างประเทศอยู่ในหัว เรียนจบทำงาน ได้ไปต่างประเทศครั้งแรก คือฟิลิปปินส์ ครับ ไปมะนิลา ไปทำงาน ไปฟรี ไม่ได้มีความทรงจำติดค้างอะไรมาก ตามมาด้วย ไปดูไบ ก็ไปทำงานอีกเช่นกัน เริ่มได้เห็นอะไรมากขึ้น ตื่นตาตื่นใจมากขึ้น กลับมา เพื่อนสิงคโปร์ ชวนไปเที่ยวบ้านเค้า ตัดสินใจ จองแอร์เอเชีย (ในช่วงที่ยังไม่ฮิตติดลมบนขนาดนี้) บินไปมาเล- กลับจากสิงคโปร์ ทริปนั้น 9 วัน เป็นความทรงจำที่ประทับใจไม่รู้ลืมครับ มาเล เที่ยวเองคนเดียว มีเพื่อนมาบ้าง รู้สึกเป็นอิสระ สิงคโปร์ มีเพื่อนมาดูแล ซึ้งในน้ำใจ สภาพหลังจากทริปนั้น ไปต่างเที่ยวต่างประเทศทุกปี ปีละหนสองหน เท่าที่จะมีปัญญาไปได้ และจากที่เคยสิงตามห้องอื่นๆ ของพันทิป ทุกวันนี้สิงอยู่ห้อง Blueplanet ห้องเดียวครับ ส่วนตัวผมเองก็อายุ 30 กว่าๆ นะครับ ไม่มีรถ (ของตัวเอง ผ่อนให้ที่บ้านใช้) ไม่มีบ้าน (เพราะอยู่กับพ่อแม่ และคงจะเป็นไปเช่นนี้) มีเงินเก็บ (ที่เก็บจริงๆ ไม่ใช้อะไรทั้งสิ้น ไม่มากครับ เรียกว่าน้อยเลยล่ะครับ) มีภาระ (เรียกง่ายๆ แบบหยาบคายว่า "หนี้") ที่เกิดจากค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก และ ฯลฯ พอตัวครับ ใครจะว่าประมาทกับชีวิตก็คงใช่นะครับ เพราะผมเที่ยวก่อน ตามจ่ายทีหลัง 5555 จากคุณ : ออนไลน์ยันสว่าง เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 12:56:02

ความคิดเห็นที่ 52 มายินดีกับคนชอบเที่ยวค่ะ เพราะตอนนี้กลายเป็นอาชีพไปแล้วเหมือนกันต่ะ จากคุณ : nadiea เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 23:51:55