Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เตือนภัย "ใส่ชูชีพ อย่าคิดว่าปลอดภัยเสมอไป" ความปลอดภัยขึ้นอยู่กับตัวเราล้วนๆ ติดต่อทีมงาน

เมื่อวันที่ 30 กย - 2 ตค ผมและพนักงานบริษัทฯ ได้จัดออก OUTING ที่ เกาะช้าง จ.ตราด

บริษัทผมเป็นบริษัท ประเภทจัดนำเที่ยวอยู่แล้ว ... จึงค่อนข้างคล่องแคล่วพอตัวกันทุกคน

แต่เหตุการที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับพนักงานผมและตัวผมนะครับ แต่มันให้ประสบการณ์มากจริงๆ โดยมีชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวจีนคนหนึ่งเป็นครู

วันที่ 1 ตค ผมได้ออกเรือไปดำน้ำกันครับ เป็นเรือขนาดใหญ่ จอยทริปกันหลายคน วันนี้ระหว่าเรือวิ่งน้ำทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1.5 เมตร ทำให้ผู้โดยสารในเรือที่ไม่สันทัด ต่างให้อาหารปลากันเป็นแถบ

แต่สภาพอากาศพอเปิดอยู่บ้าง ไม่มีฝน มีแดดออกเล็กน้อย

ตัวผมเองรู้จักที่นี่เป็นอย่างดี เพราะเคยลงเรือเดินทางไปดำน้ำที่เกาะรังนี้ไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง เพราะอาชีพผมเป็นไกด์และจัดนำเที่ยว (แอบขับแท็กซี่กลางคืนด้วย)

ลงดำน้ำจุดแรก สภาพน้ำค่อยนข้างเย็นเพราะแดดไม่แรง ที่ตรงนั้น คลื่นลมเงียบสงบ เนื่องจาก เกาะรังได้บัง คลื่นและลมเอาไว้

ขึ้นเกาะเกาะแรก ทุกคนบนเรือทานอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ ที่ทางเรือจัดเตรียมไว้ให้

อิ่มหนำสำราญกันแล้ว จึงมาลงน้ำต่อที่ชาดหาดสวยๆ หน้าเกาะรัง

และเหตุการณ์ต่อไปนี้ จะทำให้ผมไม่ลืมอีกต่อไป

ระหว่างที่ผม กำลังถ่ายรูปเล่นกับเพื่อนๆ อยู่ และคุยทักทายกับไกด์เรือตามภาษาคนคุ้นเคย มีร่างๆ หนึ่งใส่เสื้อชูชีพ ลอยคว่ำหน้าตรงชายหาด

มีเสียงพูดที่ผมได้ยินว่า ทำไมเค้านอนคว่ำแบบนั้น ผมคิดในใจ เค้าเล่นแพลงกิ้งในน้ำหรือเปล่า หรือเค้าจะดำน้ำอะไรจนจะเกยตื้นอยู่แล้ว คนคนนี้ไม่ใช่คนไทยแน่นอน เพราะเค้าใส่ กางเกงว่ายน้ำ กับเสื้อชูชีพ  คนมากคนไทยไม่ใส่ชุดว่ายน้ำบลงทะเลเพราะอาย

จึงเริ่มสงสัย ผมและไกด์เรือ จึงวิ่งเข้าไปดู ไปจับตัวเค้า ไม่มีสัญญาณตอบรับ

เอาหล่ะหว่า ยังงัยกัน ผมและไกด์เรือจึงช่วยกันลากเค้าขึ้นจากทะเล

สถาพเค้า มีน้ำลายพร้อมเศษอาหารฟูมออกมาจากปาก  

ตายหล่ะหว่า ผมเอายังงัยดี พยายามมองหาคนใกล้ตัวที่จะมาช่วย แต่ทุกคนผง่ะถอยหมด .... เค้าคงกลัว

ผมก็กลัวครับ วินาทีนั้น ... ไม่รู้จะทำยังงัย พยายามรวบรวมสตินึกถึงสิ่งที่เคยเรียนมา

ไกด์เรือก้อพยายามปั้มหัวใจ ผมก็เอานิ้วควักเข้าไปในปากเค้า ปรากฎว่ามีเศษอาหารอยู่มาก พยายามล้วงควักออกมาให้หมด

ไกด์เรือก็มือสั่นเพราะเค้าคงไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน ผมจึงลงมือปั้มหัวใจเค้าเองบ้าง  

ทุกครั้งที่ปั้ม มีน้ำและเศษอาหารออกมาจากปากตลอด

ผมพยายาม มองไปด้านหน้า มีเรือ สปีดโบ๊ทของรีสอร์ท รีสอร๋์ทหนึ่ง จอดอยู่ เป็นเรือลำเดียวที่ผมคิดว่าเร็วที่สุด ณ ตอนนั้น

แต่มันก้อคงประมาณ 20 นาที กว่าจะวิ่งไปถึงโรงพยาบาล

และแล้วมีผรั่งคนหนึ่งที่ดูท่าทางว่าคล่องแคล่ว มาช่วยผมอีก พร้อมทั้ง คนเรือ ที่มีประสบกาณณ์เรื่องแบบนี้  

เรือยางเล็กของเรือเจ้าหนึ่ง ขับไปแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยาน ซึ่งผมก็คิดว่า เจ้าหน้าที่คงมีเรือ สปีดโบ๊ท พร้อมรับมือกับสถานการณ์

แต่ เจ้าหน้าที่อุทยานขับเรือยางเล็กติดเครื่องมา  แค่นี้เหรอ

ช่วยกันอยู่ประมาณ 15 นาที เค้าก้อไม่กลับมา

เจ้าของเรือที่พาร่างๆ นี้มา ต้องเข้าไปคุยกับเรือสปีดโบ๊ท ลำเดียวลำนั้น เพื่อให้ยอมพาร่างร่างนี้ ไปที่โรงพยาบาล.... ถ้าไม่เข้าไปคุย เค้าคงไม่ช่วยเหลืออะไรเลย ทั้งๆ ที่เป็นเรือเร็วลำเดียวที่อยู่ ณ จุดนั้น

ผู้โดยสารนักท่องเที่ยวบนเรือ ต่างตกใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้นตามๆ กัน  รวมทั้งเพื่อนของชาวจีนผู้นั้น ที่ตะโกนเรียกเพื่อนให้ตื่นตลอดเวลา

แต่ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเพราะพยายามเต็มที่แล้วแต่เค้าไม่ยอมกลับมา

เมื่อขึ้นบนเรือ ผมก้อต้องทำเหมือนไม่มีอะไร เพราะไม่อยากให้บรรยากาศบนเรือเสียไป ต้องคุยสนุก พาเพื่อนๆ ลงดำน้ำต่อไป ในขณะที่บางคนก็ยังช๊อค และตกใจกับสิ่งที่เกิด ไม่กล้าลงน้ำ

ณ เวลานั้น ถึงผมจะไม่อยากลงน้ำอีก แต่ก็ต้องลง เพราะ ถ้าผมไม่ลงสัก 1 คน เพื่อนๆ ทุกคน ต้องคิดมากแน่แน่

เจ้าของเรือซึ่งค่อนข้างสนิทกันโทรมาหาไกด์เรือสอบถามเรื่องราวและบอกว่า เค้าเสียชีวิตแล้ว แต่ไม่ได้บอกสาเหตุ

ผมมาทบทวนว่า มันเกิดอะไรขึ้น ได้ข้อสรุปกับตัวเองประมาณว่า เกาะแรกชาวจีนคนนั้นไม่ได้ลงน้ำ มาลงเกาะที่ 2 หลังจากที่กินข้าวเสร็จอิ่มๆ เมื่อลงไปในน้ำระหว่างที่กินเข้าไปมากเกิน และพยายามว่ายน้ำเข้าหาชายหาด มวลน้ำมหาศาลมันอาจจะดันให้ของที่เค้ากินเข้าไปสำรอกออก จนติดคอ หมดสติระหว่างอยู่ในน้ำ แต่ด้วยความที่เค้าใส่เสื้อชูชีพ ตัวเค้าเลยหมุนคว่ำหน้าลงในน้ำ เมื่อหมดสติน้ำก้อเข้าไปในตัวทางจมูกปาก จนร่างกายขาดออกซิเจน  

เค้าน่าจะเสียชีวิตก่อนมาถึงชายหาดด้วย เพราะลักษณะของเค้าคือลอยคว่ำหน้าเข้าชายหาดตามคลื่นที่ซัดเข้ามา

ตอนนี้ผมทำบุญให้เค้าไปเรียบร้อยแล้ว และผมหวังว่าจะไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัวผมอีก

ขอไว้อาลัยแก่ชาวจีนผู้นั้น ผู้ที่จากไปด้วย เค้าคือครูที่ใช้ชีวิต 1 ชีวิต สอนประสบการณ์ให้ผม เพราะวันข้างหน้าผมก็ยังต้องทำทัวร์ดำน้ำอยู่เสมอ

และขอให้เพื่อนๆ ในห้อง Blue แห่งนี้ คิดเสมอว่า ในความปลอดภัยที่เราคิดว่าดีแล้ว แต่สิ่งที่ปลอดภัยยิ่งกว่านั่นคือตัวเราที่ต้องไม่ทำอะไรที่เสี่ยงมากเกินไป

ชาวต่างชาติหลายคนต้องเอาชีวิตมากทิ้งที่เมืองไทย เพราะไม่กลัว และ ไม่ฟัง นี่หล่ะครับ

จากคุณ : Jackkrit_P
เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 10:25:22




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com