 |
ตะลุยอินเดียกับ 2 G ตอน 2 Mumbai - Pune{แตกประเด็นจาก E11307685}
|
 |
พอลงเครื่อง เราตรงแน่วไป Pune เลย ส่วนหนึ่งเพราะไม่ค่อยชอบ Mumbai เท่าไร อึกกะทึก อากาศเป็นพิษ
เหตุผลที่ไป Pune (Poona) เพราะอยากกลับไปดูเมืองมหาวิทยาลัยที่ผมเคยไปเรียนว่าสภาพบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน แต่บอกแล้วอาจไม่เชื่อ เหนืออื่นใดผมอยากกลับไปชิมอาหารแขกเก่าแก่ร้านที่อร่อยที่สุดเท่าเคยกินมาร้าน Good luck ที่ Deccan Gymkhana, Pune เปิดร้านปี 1937 หรือ 70 กว่าปีก่อน ร้านนี้ดังระดับประเทศนะครับขอบอก ใครมีโอกาสไป Pune ต้องแวะไปชิมให้ได้ วันที่ไปถึงเกือบ 3ทุ่ม ฝนตกหนักน้ำท่วมก็มีลูกค้ารอโต๊ะอยู่ข้างนอกเพียบ Chicken Bryani สวดยอด ไม่เชื่อลองถามนักเรียนไทยที่นั่นได้
ย้อนกลับเรื่องวิธีการเดินทางจากท่าอากาศยาน Mumbai ไป Pune ดีกว่า ตอนเก็บข้อมูลในเน็ตรู้มาว่ามีรถรัฐบาลมหาราษฎรไป Pune ขึ้นที่หน้าสนามบินโดยตรง แต่เอาเข้าจริงๆ หาไม่เจอ ถามหาใครก็ไม่รู้เรื่อง Plan A ไม่ได้ผลก็เลยปรับเปลียนเป็น Plan B (การเดินทางในอินเดียสมควรแผนสำรองไว้เสมอนะครับ) ก็เลยซื้อตั๋วเหมารถแท๊กซี่หน้าสนามบินไปขึ้นรถต่อที่ Dadar ราคา 150 รูปี เพื่อต่อรถบัสไป Pune อีกต่อหนึ่ง ปัจจุบันหน้าสถานีขนส่งของรัฐเช่น สนามบิน ท่ารถ จะมีบริการ Prepaid Taxi - Rickchaw โดยจ่ายที่เคาร์เตอร์ แล้วให้รถไปส่งตามสถานที่ต้องการ ก็ดีครับป้องกันการโกง ซึ่งคงเจอกันบ่อยทั้งนักท่องเทียวและแขกต่างแดน ที่ผมเห็นก็มีที่ Agra, Jaipur จากนั้น โชเฟอร์จะจับนักท่องเที่ยวอย่างไร ก็เหยื่อใครก็เหยื่อมันละครับ หลวงเขาส่งลูกให้เตะต่อแล้ว ตอนซื้อตั๋วแท็กซี่ไป Dadar พวกชวนให้เหมารถไป Pune สะดวกรวดเร็วกว่า 3 คน 1500 รูปี เราเลยใช้ให้เขาคำนวนดูซิว่าถ้าไปขึ้นรถบัสที่ Dadar จะเป็นเงินเท่าไร พวกโชว์เครื่องคิดเลขบอกว่าห่างกัน 500 รูปี เราคิดในใจ โหยเงินจำนวนนี้กินข้าวหรูๆ ได้เป็นมื้อเลยนะพวก เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แสดงสีหน้าอารมณ์เสียนิดๆ (แต่ที่สุดเราก็เสียท่าแขก โดยลืมเงินทอน 500 รูปี ที่ Agra จนได้)
ออกจากสนามบินประมาณเที่ยงไปถึง Dadar ประมาณบ่ายสองโมง ซื้อตั๋วในราคา 275 รูปี ระหว่างทางไป Pune สวยนะครับเพราะเป็นเมืองตากอากาศของพวกอังกฤษสมัยยึดครองอินเดีย รถผ่านอุโมงค์ลอดภูเขาหลายลูก ตื่นตาตื่นใจพอสมควร
บางคนอาจเห็น Pune เป็นเมืองนอกเส้นทางท่องเที่ยว แต่ถ้าคุณไปถามนักท่องเทียวแบบ Hard core ฝรั่งจริงๆ จะรู้จักเมืองนี้ดี นอกจากจะเป็นเมืองการศึกษาจนได้ชื่อว่า Eastern Oxford แล้ว(ในสมัยผมเรียนถอดหลักสูตรจากออกฟอร์ดมาทั้งดุ้นเลย เดียวนี้ได้ยินว่าปรับปรุงเข้มข้นขึ้นไปอีก) จะมีใครรู้บ้างว่าเมืองนี้ให้กำเนิด Hippie เป็นรุ่นแรก ในสมัยสงครามเวียตนามที่วัยรุ่นตะวันตกเริ่มสงสัยคำสอนเดิมๆ ว่าเหมาะสมเพียงใดกับพวกเขา พวกเริ่มออกแสวงหาคุณค่าชีวิต และปัญญาใหม่ แบบตะวันออก แล้วก็มาเจอ Osho (Bhagwan Shree Rajneesh) ซึ่งมาตั้งนิคมที่เมือง Poona นี้เอง มีการแบ่งการปฎิบัติธรรมไว้เป็นกลุ่มๆ เช่นกลุ่มเล่นเซ็ก กลุ่มพี้กัญชา กลุ่มสมาธิ ธรรมะ สมาชิกจะเข้ากลุ่มไหนก็ทำได้อย่างเสรี แต่เท่าที่ได้ยินมาจากรุ่นพี่บอกว่ากลุ่มเซ็กมีเยอะสุด คงมีเข้าไปมั่วบ้างแหละผมว่า เสียดายตอนผมไปพวกย้ายไปอเมริกาแล้ว อดเข้ากลุ่มเลย เพราะคนอินเดียโดยรวมทนไม่ไหวขอให้ย้ายออก สานุศิษย์ของท่านมีเป็นล้าน มีบางคนถึงขนานนามว่าเป็นศาสดาองค์ใหม่ สมัยก่อนถ้าเห็นคนนุ่งกางเกงเสื้อยาวสีส้ม ผมเผ้าหนวดเครายาวรุงรังมีประคำห้อยคอนั่นแหละเป็นสานุศิษย์ของ Osho ทั้งนั้น สมัยก่อนผมเห็นเดินท่อมๆ แถวสวนลุมบ่อย คิดเล่นๆ ว่า Jobs ก็น่าจะอยู่ในกลุ่มก๊วนนี้บ้างแหละ ปัจจุบันอาศรมของ Osho ยังเปิดอยู่ มีหนังสือศาสนา ปรัชญาที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนี่ง
คณะที่น่าสนใจเรียนที่นี่ก็คือ ปรัชญา โบราณคดี คอมพิวเตอร์ ฟิสิก
แผงหนังสือคลาสสิกมีขายอยู่ทั่วไปใน Pune ราคาถูกมากครับอยู่ที่ประมาณ 100 -200 รูปี เป็นเงินไทยก็ประมาณ 150 บาท การพิมพ์อาจไม่ค่อยดีนัก แต่เนื้อความครบถ้วน ถ้าซื้อเมืองไทยเล่มหนึ่งไม่ต่ำกว่าพัน
จากคุณ |
:
นกเถื่อน
|
เขียนเมื่อ |
:
9 พ.ย. 54 14:38:21
|
|
|
|  |