รายงาน สถานการณ์น้ำท่วม ที่บ้านผม (16 พ.ย.54)
|
 |
วันที่ 15 พ.ย. โทรสอบถามพี่ข้างบ้าน ทราบว่าน้ำเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังคงสูงอยู่ และบอกผมว่าประตูบ้านผมชั้น 2 มันเปิดออก ซึ่งพี่เขาก็กังวลใจ ผมเองก็เหมือนกัน แต่ผมพอทราบสาเหตุว่าทำไมมันถึงเปิดออก เนื่องจากเป็นประตูไม้ ที่มีเฉพาะลูกบิดล๊อก ไม่มีกลอนประตู และด้วยอากาศแห้ง ความชื้นน้อย ทำให้ไม้หดตัว ตัวล๊อกลูกบิด ก็พ้นจากร่อง ทำให้มันเปิดออกเอง แต่ด้านในยังมีประตูเหล็ก ซึ่งล๊อกกุญแจอยู่ แต่เพื่อความไม่ประมาท ต้องกลับไปจัดการปิด
วันที่ 16 พ.ย. ออกจากที่ทำงาน บ่ายโมงวิ่งเส้นสุวินทวงศ์ ผ่านหมู่บ้านปรีชา ของเสี่ยเป๊า เห็นน้ำท่วมทุ่งด้านหน้า และถนนทางเข้าเต็ม 100% ไม่รู้ด้านในหมู่บ้านเป็นยังไงบ้าง
ก่อนถึงมีนบุรี ตรงสามแยกราษฎร์อุทิศ (เส้นไปหนองจอก) มีป้าย บอกน้ำท่วมสูง 1 เมตร แต่ใจผมไม่เชื่อ เลยตรงดิ่งไปสุดท้ายน้ำท่วม สูงมากจริงๆ น้ำเข้ามาที่วางเท้าผมแบบปิ่มๆ อีกเรื่องคือผมไม่ได้ใส่ 4WD แต่แรก ต้องเลี้ยงครัชไปด้วยเกียวร์ 2 ไปจนครัชใหม้ควันเหม็นมาก จะหยุดรถ ใส่ 4WD ก็ไม่ได้ ต้องเดินหน้าอย่างเดียว กลัวน้ำเหม็นจะเข้า ห้องโดยสารมากกว่าเดิม (Hub แบบ Auto ต้องหยุดรถจึงจะใส่ 4WD ได้)
ก่อนถึงบ้านแวะเรียบทางด่วนหาซื้อกางเกงกันน้ำ ที่มีขายมากมาย หลายแบบ และหลายราคา รวมถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับน้ำมีเยอะแยะ (และที่ไม่เกี่ยวกับน้ำก็มีขายบ้างเหมือนกัน) ผมซื้อกางเกงกันน้ำแบบธรรมดา มียางยืด ราคา 200 บาท ไม่โหด เกินไป แต่มีหลายๆ เจ้าขายที่ 350 บอกว่าเป็นราคาที่ลดแล้ว จาก 500 450 จนเหลือ 350 แต่ผมดูข้อมูลมาก่อนแล้ว เลยไม่ซื้อ (ที่จริงผมก็ขอต่อเหลือ 300 แต่ไม่ได้เลยไม่อุดหนุน)
ใครจะซื้อ ให้ขับไปกลางๆ จนถึงเกือบเส้นรามอินทรา ราคาจะค่อยๆ ถูกลง อย่าซื้อร้านแรกๆ จะแพงมาก
มาถึงแยกที่เข้าบ้านผม คือ 4 แยกเสนานิเวศน์ หาที่จอดรถตรงแยกนั่นแหละ ไม่ได้ไปจอดที่ เกษตรนวมินทร์ซิตี้อเวนิว เพราะเขาคิดค่าจอดรถ ผมเดินเข้าไปจากเกษตรนวมินทร์ซิตี้อเวนิว ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยงานต่างๆ ที่มาให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะอย่างยื่งจากกองทัพบก มีทั้งเรือและรถ ขาเข้าไม่ได้รอรถหทาร หรือเรือบริการทั้งฟรีและไม่ฟรี ผมขอเดินเข้าไป เพื่อสำรวจความลึกของน้ำ สิ่งที่ต้องระวังคือ บางจุดของพื้นถนนจะมีความลื่น เดินลุยน้ำไป ราวๆ 500 เมตรถึงหน้าบ้าน น้ำดำดีมาก ช่วงเข้าซอยบ้าน ก็ได้บรรยากาศแบบห้วยหนองคลองบึง มีนกกระยางลงมาหาปลากิน ก็มันส์ไปอีกรสชาดหนึ่งของชีวิต
ถึงหน้าบ้าน โอ้วววว เละครับ เพราะผมมีของวางอยู่ที่จอดรถมาก โดยเฉพาะขวดทั้งหลาย กระจายเกลื่อนเลย คราบตะใคร่น้ำขึ้นเขียว เต็มที่จอกรถแต่ที่ผมดีใจกว่านั่นคือ น้ำไม่ได้เข้าบ้านผม โล่งงงง อก
หลังจากนั้นก็ทำการซ่อมประตู อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อย ปิดไฟชั้นล่าง ถอดปลั๊กปั๊มน้ำ เดินทางไปที่แปดริ้ว เส้นมอเตอร์เวย์ สะดวกตลอดทาง ไม่ต้องจ่ายค่าผ่านทาง ถึงตัวเมืองแปดริ้ว ก็หาที่ชิวๆ จนดึก
ขากลับเข้าที่ทำงาน อีกแล้วหนอตู รถสิบล้อเบียดหน้าซ้ายมาขวา ซึ่งผมวิ่งขวามา ด้วยความเร็ว ทำให้ต้องหักออกขวา ซึ่งมีเกาะกลาง ผมเห็นรถจะปีนเกาะกลาง จึงหักเบี่ยงขวานิดหนึ่ง ล้อหน้าแค่เบียดเกาะ แต่ล้อหลังกระแทกเต็มๆ ยางใหม่ๆ แตกฉีก กระทะเป็นรอย ต้องคลานไปเข้าปั๊มข้างหน้า เอายางอะไหล่ ใส่แทน แล้วคลานต่อไปที่ทำงาน
วันที่ 17 พ.ย. ตอนเช้าเข้าเมืองไปหายางใหม่ เพราะยางอะไหล่ที่ใส่คนละเบอร์กัน ตระเวนหาทั้งแปดริ้วไม่มียางที่ผมใช้เลย Maxxis MT764 ขนาด 235/75R15 ต้องหายาง % มาใส่ชั่วคราว ยาง% ก็หายากเหมือนกันมีเจ้าหนึ่ง เส้น 1500 โอยไม่ไหว สุดท้ายมาเจอร้านใกล้ที่ทำงาน 900 บาท ค่อยยังชั่ว โทรไปหาร้านที่เคยซื้อ บอกยางคงมาประมาณสิ้นเดือน แต่ตอนนี้ถึงจะมีของ ผมก็ไม่ไปซื้อครับ เพราะร้านอยู่ในซอยพระยาสุเรนทร์ รามอินทรา 109 น้ำท่วมเหมือนกัน จบข่าวววววววว
ขอบคุณที่มาดูรายงาน (หรือคำบ่น) ของผมครับ
จากคุณ |
:
Mathius
|
เขียนเมื่อ |
:
17 พ.ย. 54 16:03:31
|
|
|
|