ความคิดเห็นที่ 1 ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 13:53:51

ความคิดเห็นที่ 2 เอาล่ะ สิ่งที่เราต้องพึงทราบและพึงระวังเกี่ยวกับพิธ๊การทางศุลกากรในการเดินทางเข้าสู่ประเทศชิลี มีให้ท่านอ่านในเว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชฑูตอยู่แล้ว แต่ผมขอยกเอามาเล่าเป็นบางเรื่องก็แล้วกันครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายๆประเทศก็มี แต่ที่นี่เน้นเป็นพิเศษ ทางสถานฑูตย้ำแล้วย้ำอีกตั้งแต่เราติดต่อกันทางอีเมล นั่นคือ อย่าให้มีผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร หรือส่วนประกอบที่แปรรูปแล้วก็ตาม ติดมาในสัมภาระของท่านเด็ดขาด เมล็ดพืช ถั่วต้ม มัคคาเดเมียอบเกลือ หรือแม้แต่ของที่ระลึกประเภทที่เอาลูกไม้แห้งมาประดับหมวก ฯลฯ เนื่องจากชิลีเป็นประเทศที่มีผลผลิตทางเกษตรกรรมค่อนข้างน้อย เค้าจึงต้องระมัดระวังภัยจากผลผลิตทางการเกษตรจากต่างถิ่นเป็นพิเศษ ที่เห็นในรูปนี่ กุหลาบท้องถิ่นครับ เอามาลงแก้ขัด กล้องผมแบตหมดตั้งแต่ที่ปารีสแหล่ว จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 14:00:00

ความคิดเห็นที่ 3 คุณเล็กทาโร่ปาดเร็วมาก อิอิ จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 14:00:35

ความคิดเห็นที่ 4 .. รออ่านรีวิวต่อจากตอนที่แล้วมาหลายวันเชียวครับ .. ตามต่อครับ .. จากคุณ : MRBIG173 เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 14:14:34

ความคิดเห็นที่ 5 ก่อนที่จะมีใครลืม พวกเราเปล่ามาเที่ยวนะครับ เรามาราชการตามการขอความอนุเคราะห์ของสถานเอกอัครราชฑูต ประจำกรุงซานติอาโกนะครับ แม้ว่าตอนที่แวะเปลี่ยนเครื่องที่ปารีส เราจะสนุกกันจนขาแทบหักก็ตาม....แหะ แล้วท่านที่ปรึกษาเอกอัครราชฑูตก็มารับเราครับ... แต่ช้าก่อน เรายังไม่เข้าที่พักครับ ตามกำหนดการ เราเริ่มต้นวันแรกในซานติอาโกด้วยการเข้าพบคณะผู้บริหารของ Centro Cultural Palacio Lamoneda หรือเรียกง่ายๆว่า ศูนย์วัฒนธรรมแห่งชิลี เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องการจัดแสดงศิลปวัตถุและนิทรรศการศิลปะไทย เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยกับประเทศในกลุ่มละตินอเมริกาได้ขยายความร่วมมือในหลายๆด้าน จึงเป็นโอกาสอันดีในการเผยแพร่ประเทศของเราให้เป็นที่รู้จักยิ่งขึ้น ศูนย์วัฒนธรรมแห่งนี้ ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับ Palacio Lamoneda หรือ ทำเนียบประธานาธิบดี โดยสร้างเป็นชั้นใต้ดิน อยู่ใต้ลานด้านหน้าอาคารทำเนียบประธานาธิบดีนั่นแหละครับ เห็นมะ อย่าไปเชื่อที่เค้าเล่าลือแบบเหมารวมว่าข้าราชการชอบหาเรื่องเอาเงินภาษีไปละลายเล่นในต่างประเทศนะครับ ข้าราชการตัวเล็กๆที่ทำงานงกๆแบบพวกผมก็ยังมีครับ เยอะด้วย ส่วนไอ้พวกอย่างว่า...มันก็มีจริงๆแหละครับ เหอะเหอะ ขี้เกียจพูดถึง... Palacio Lamoneda ครับ ส่วนศูนย์วัฒนธรรมอยู่ใต้พื้นที่เห็นลงไปครับ บอกแล้วว่ากล้องผมแบตหมด ท่านวิศวกรก็ดูท่าจะมึนๆอยู่เหมือนกัน ถ่ายรูปมาได้เท่าเนี้ย แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 54 14:18:07 จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 14:15:27

ความคิดเห็นที่ 6 ความรู้สึกเมื่อได้มองไปรอบๆตัว ชิลีเป็นประเทศที่ดู...เรียกว่าไงดี...แห้งๆอ่ะครับ คือ อากาศก็แห้งครับ ผมลืมเอาสีผึ้งทาปากไปด้วย หลังจากคุยงานกันเสร็จปากงี้แห้งจนเริ่มแตกเลยทีเดียว ส่วนตึกรามบ้านช่อง เท่าที่เห็น ดูสะอาดสะอ้าน แต่ต้นไม้ใบหญ้าออกจะน้อยๆไปบ้างด้วยสภาพภูมิอากาศที่ต่างจากบ้านเรา ทำให้สีสันบรรยากาศดูไม่คุ้นตาอย่างน่าแปลก อีกอย่างหนึ่งก็คือ เทียบกับตึกและถนนหนทางแล้ว คนดูน้อยๆแหละครับ เทียบกับบ้านเราแล้ว เหมือนคนจะเหยียบกันตาย ประเทศชิลีมีประชากรแค่ราวเกือบ 17 ล้านคน แต่เฉพาะที่อยู่ในแคว้นเมืองหลวงก็ปาเข้าไปตั้งครึ่งประเทศแล้วมั้งถ้าจำไม่ผิด ที่นี่ คนน้อยจริงๆครับ จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 14:28:18

ความคิดเห็นที่ 7 มีดอกมาฝากแบบนี้ เห็นที่ต้องตามอาจารย์ไปเที่ยวชิลีด้วยละ จากคุณ : SkylineKip เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 14:29:22

ความคิดเห็นที่ 8 กลางเดือนนี้ ที่ทำงานก็กำลังจะไปราชการดูงานเหมือนกัน แต่อยู่ในไทยนี่แหละค่ะ ตามไปเที่ยวชิลี ด้วยยยย ^^ จากคุณ : I'll be happy เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 14:30:00

ความคิดเห็นที่ 9 ชอบภาพดอกไม้แรกค่ะ สวยจัง ^^ จากคุณ : แม่น้องบูม เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 14:40:03

ความคิดเห็นที่ 10 อีกส่วนหนึ่ง คงเป็นเพราะบรรยากาศของผู้คนด้วยครับ ท่านที่ปรึกษาฯเล่าให้เรา(ซึ่งอย่างที่บอกไปแล้วว่า เราแทบไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับชิลี)เพิ่มเติมว่า ก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดนั้น ชิลียังอยู่ในการปกครองของรัฐบาลที่มีสายใยทางอำนาจกับทหารที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยนายพลปิโนเชต์ ทำให้คนชิลีมีบุคคลิกลักษณะในแบบ....แบบไงดีล่ะครับ...แบบคนที่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของทหารน่ะครับ เออแฮะ ชื่อนายพลปิโนเช่ต์ นี่เคยได้ยิน.... เอาล่ะ เราเริ่มตามทันเล็กน้อยละ ข้อสังเกตอย่างหนึ่งก็คือ คนที่นี่แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นคนเชื้อสายสเปนหรือยุโรปก็ตาม แต่นิสัยใจคอจะขรึมๆกว่าเยอะครับ เค้าว่างั้น แต่กระนั้นก็ตาม ท่านที่ปรึกษาก็ได้สอนธรรมเนียมการทักทายแบบคนที่นี่ให้เราครับ นั้นคือการ เอาแก้มแตะกัน!!!! ซ้าย แล้วก็ขวา อะไรประมาณนั้น แต่กระนั้นก็ขอให้ดูปฏิกิริยาของฝ่ายตรงข้ามก่อนก็แล้วกันว่าเขาอยากแตะกับเราหรือเปล่า เพราะเราเป็นชาวต่างประเทศ ไม่ใช่ว่าเค้าจะรังเกียจนะครับ แต่เค้าก็อาจกลัวว่าเราจะไม่คุ้นก็ได้ แต่ด้วยการที่มีกัน3คนสุภาพบุรุษ จะซ้อมเอาแก้มแตะกันเองก็กระไร เลยต้องไปลุ้นเอาครับ เอาเป็นว่า ที่แรกนี่ ทีมงานสุภาพสตรีล้วนครับ บางคนหน้าตาดีด้วย แต่เค้าจับมือทักทายอย่างเป็นทางการครับ แหะแหะ จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 14:42:33

ความคิดเห็นที่ 11 ผมพิมพ์ไม่ผิดนะครับ เอาแก้มแตะ"กัน" ใช้ไม้หันอากาศนะครับ ไม่ใช่ไม้โท จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 14:46:06

ความคิดเห็นที่ 12 หลังจากที่หารือร่วมกับทางศูนย์วัฒนธรรม และชมนิทรรศการศิลปกรรมสมัยใหม่ของศิลปินละตินอเมริกาที่กำลังจัดแสดงอยู่แล้ว เราก็เดินทางไปยังบ้านพักท่านฑูตครับ เรียกว่า เราแอบไปกินข้าวบ้านท่านฑูตดีกว่า อิอิ เพราะท่านไปอยู่ครับ ไปราชการที่ประเทศใกล้ๆกัน ท่านที่ปรึกษาฯคงเกรงว่า ร่วมสองวันที่ผ่านมาจะทำให้เราคิดถึงบ้าน อาหารมื้อที่สองของเราในชิลี ,โดยฝีมือแค่ครัวของท่านฑูต, จึงเป็น... อาหารไทยครับ จากการสังเกตและสอบถาม เราจึงได้ความรู้เพิ่มอีกว่า บ้านพักในย่านบ้านท่านทูต ซึ่งจะว่าไปก็เป็นย่านของคนมีฐานะซักหน่อยนั้น รั้วบ้านเค้าไม่มีลวดหนาม เหล็กแหลม หรือแม้แต่เศษขวดแตกปักไว้เพื่อป้องกันขโมยหรอกนะครับ แต่เค้าใช้ลวดไฟฟ้าเลยล่ะตัวเอง..... ที่นี่ ลวดไฟฟ้า ไม่ผิดกฏหมายครับ น้ำพุหน้าบ้านพักที่เห็น ทราบมาว่าปิดไว้เพราะรั่วมาตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ครั้งก่อนหน้าครับ แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 54 14:57:50 แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 54 14:52:23 จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 14:52:04

ความคิดเห็นที่ 13 ตามไปราชการด้วยค่ะ จากคุณ : golove2 เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 15:01:37

ความคิดเห็นที่ 14 เสร็จจากมื้ออาหารแล้ว ท่านที่ปรึกษาจึงพาเราไปหาซื้อของกินของใช้สำหรับในช่วงที่พักอยู่ในซานติอาโก ที่ห้างจำพวกห้างขายส่งบ้านเราครับ แต่ดูเหมือนที่นู่นเค้าเรียกว่าโฮมเซ็นเตอร์ อะไรทำนองนี เกร็ดความรู้ที่เราได้จากการซื้อของครับ - น้ำเปล่าที่นี่มีสองประเภท คนที่นี่นิยมกินน้ำเปล่าแบบอัดแก๊ส ซึ่งเห็นว่าไม่ใช่โซดานะครับ ดังนั้น หากท่านต้องการกินน้ำเปล่าธรรมดา ต้องแบ๊ะๆบอกคนขายว่าเอาแบบ "ซิน ก๊าซ" (Sin Gas) หรือ ไม่มีแก๊ส - เนื่องจากประเทศแถบละตินมีความสัมพันธ์ทางการค้ากันค่อนข้างแน่นแฟ้น เราจึงสามารถพบสินค้าที่มีที่มาจากสารพัดประเทศได้ในร้านค้าแห่งเดียว ซึ่งโอริโอ้ที่ผมซื้อมา ผลิตในกัวเตมาลา (ถ้าจำไม่ผิด เพราะกินหมดไปแล้ว) - เครื่องดองของเมา จำพวกไวน์และเบียร์ของที่นี่ ถูกมาก มีให้เลือกหลายยี่ห้อ แถมขวดสวยด้วย แต่ผมไม่ดื่มครับ เลยไม่ตื่นเต้นอะไรมากนัก ส่วนท่านวิศวกร จัดเบียร์ไป2ขวด อ้างว่าเพื่อการศึกษา แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 54 15:14:33 จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 15:12:25

ความคิดเห็นที่ 15 เพิ่งเห็นคุณgolove2นี่แหละที่จะไปราชการกับผม คนอื่นจะเที่ยวกันอย่างเดียว อิอิ ผมโพสช้าหน่อย ท่านใดที่ตามชมก็อดทนกันหน่อยนะครับ จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 15:14:13

ความคิดเห็นที่ 16 ใครจะไปเชื่อครับ ว่า ในชิลี ซึ่งคนที่นี่จำนวนมากก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่า ประเทศไทยอยู่ตรงไหนบนโลกนี้ แต่ในห้าง จะมีมุมสินค้าอาหารไทยด้วย!! ที่ชิลี อาหารไทยเริ่มเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆครับในช่วงหลายปีมานี้ เครื่องปรุงต่างๆ รวมถึงซอสและเครื่องเทศแบบอบแห้ง แม้ว่าจะมีไม่มากนัก แต่ก็ถือว่าไม่ธรรมดาทีเดียว ยิ่งข้าวหอมมะลิไทยนี่ จัดว่าเป็นของแพงเลยล่ะครับ จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 15:32:51

ความคิดเห็นที่ 17 เราไม่ลืมขอแวะซื้อลิปบาล์มด้วย ผมเริ่มปากแตกนิดๆแล้วครับ อากาศแห้งจริงๆ เสร็จจากซื้อของ ท่านที่ปรึกษาก็จะพาเราไปเดินห้างใกล้ๆกัน ส่วนนี่คือ ของกินเล่นท้องถิ่นครับ ถั่วเคลือบช็อคโกแล็ต เนื่องจากเป็นวันแรก ผมเลยยังไม่ได้ลอง กะลองวันหลัง กลายเป็นว่า วันหลังๆเราไม่มีโอกาสได้ลองขนมข้างทางแบบนี้เลย อย่าหวังน้ำบ่อหน้าครับ เวลาไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ไม่ได้ไปกันง่ายๆ ถ้าไม่ใช่อะไรอันตรายหรือสิ้นเปลือง อยากลองก็ลองครับ แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 54 15:38:31 จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 15:38:00

ความคิดเห็นที่ 18 ผมเพิ่งทราบอีกว่า โรงแรมที่เราพักก็อยู่ใกล้ๆห้างนี่แหละ ท่านที่ปรึกษาเลยอยากให้เราคุ้นเคยกับพื้นที่รอบๆเอาไว้ เผื่อจะได้ออกมาเที่ยวเล่นหาอะไรกินเองได้.... ห้างที่นี่ รวมๆก็ดูจะไม่ต่างจากบ้านเรานัก แต่เราสังเกตเห็นว่า การก่อสร้างของที่นี่ค่อนข้างมีมาตรฐานสูงพอสมควร รายละเอียดต่างๆของอาคารเลยดูเนี้ยบน่าดู สิ่งนึงที่ต่างจากบ้านเรา ก็คงเป็นเรื่องสินค้านี่แหละครับ โดยเฉพาะพวกเสื้อผ้า เรื่องยี่ห้อ เดี๋ยวนี้บ้านเราก็มีคงไม่ต่างกัน แต่ที่นี่จะมีรุ่นมีแบบให้เลือกมากกว่าเยอะเลยครับ แน่นอนว่า เป็นเพราะอากาศที่แห้งและหนาวกว่า บ้านเราจะเอาเสื้อผ้าแบบกันหนาวมาขายเยอะแยะก็คงเจ๊ง แต่ที่นี่ผมว่าคงไม่ต่างจากร้านเสื้อผ้าในฝั่งยุโรปและอเมริกา เรื่องราคา คิดว่าคงราคาถูกกว่าในบ้านเราไม่มากนัก แต่ก็น่าสนใจหากจะมองหารุ่นที่ไม่มีขายแถวบ้านเราครับ ท่านวิศวกรเหล่ไว้หลายร้านทีเดียว จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 15:49:11

ความคิดเห็นที่ 19 ชอบใจสวนแนวตั้งบนรูปด้านของอาคารนี่แหละครับ ให้ความรู้สึกชุ่มชื้นขึ้นเยอะสำหรับอากาศแห้งๆแบบนี้ จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 15:51:13

ความคิดเห็นที่ 20 แล้วเราก็เดินมาถึงโรงแรมครับ Grand Hyatt Santiago สัมภาระนั้นรถของสถานฑูตนำมารอไว้ที่โรงแรมแล้ว ที่นี่เป็นโรงแรมหนึ่งที่ทางสถานฑูตมักใช้สำหรับรับรองแขก ซึ่งทีแรกเค้าส่งลิสต์มาให้เราเลือกด้วยจำนวนหนึ่ง แต่เราก็โยนกลับว่า แล้วแต่ทางสถานฑูตจะจัดให้ ซึ่งเค้าก็บอกว่าที่นี่แหละ มาตรฐาน ผมก็เข้าใจว่าคงจะกลางๆ ที่ไหนได้ หรูจังเลยครับ ขอบพระคุณทางสถานเอกอัครราชฑูตเป็นอย่างสูงอีกครั้งครับที่ดูแลเราเป็นอย่างดี ^ ^ จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 16:04:29

ความคิดเห็นที่ 21 เนื่องจากบนเครื่อง เรานั่งที่นั่งตรงกลาง เลยไม่มีโอกาสได้ดูวิว นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เราได้ดูภาพมุมสูงของซานติอาโก แต่ก็อาจจะเป็นทางด้านชุมชนพักอาศัยสักหน่อย สิ่งแรกที่พอจะสรุปได้ แน่นอนคือความความเรียบร้อยแกมความแห้ง ทั้งในแง่อากาศและบรรยากาศครับ แต่แน่นอนว่า นี่เพิ่งวันแรกของเราจึงไม่ควรด่วนสรุปไป ที่เราเห็นก็แค่พื้นที่ศูนย์ราชการกลางเมือง ห้างสรรพสินค้า และภาพริมทางที่เราแทบไม่ทันได้เก็บรายละเอียดอะไร แต่ก็คงเพราะความกรอบของผมที่จัดหนักมาร่วมสองวัน อะไรๆเลยดูชาๆไปหมด ฝ่ายท่านวิศวกรยังเหนียวอยู่ครับ ผมซึ่่งเชื่อว่าตัวเองคงไม่เกิดอาการ "เจ๊ทแหลก" สลบคาเตียงไปตั้งแต่สี่โมงเย็น ในขณะที่ท่านวิศวกรกลับไปสำรวจห้างอีกรอบ แบบเดี่ยวๆ ไม่แคร์ภาษาสเปนด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 54 16:27:31 จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 16:25:14

ความคิดเห็นที่ 22 เจ็ทแหลกครับ ผมกระเด้งตื่นจากเตียงตอนตีสองตามเวลาท้องถิ่นในขณะที่นาฬิกาข้อมือชื้ที่เลขสี่ ก็คงหมายถึงสี่โมงเย็นที่บ้านเรา นอนไม่หลับแล้วครับ และหิวด้วย แต่ของฝากจากบ้านท่านฑูตยังอยู่ นั่นคือกับข้าวที่เหลือจากมื้อเที่ยง ห่อมาอย่างดี ท่านวิศวกรตื่นตามหลังมาราวหลังตีห้า พร้อมเล่าถึงวีรกรรมการลุยเดี่ยวที่ห้างจนปิดตอนสามทุ่ม มีของติดไม้ติดมือมาสองชิ้น เป็นเสื้อกับเต๊นท์สนาม... เต๊นท์สนาม??? อุตส่าห์ถ่อมาซื้อถึงชิลีนะ พี่แกบอกยี่ห้อนี้บ้านเราไม่มีขาย สั่งทางเน็ทก็แพงกว่านี้เยอะ ว่างั้น คุยตลกกันไปเรื่อย จนพระอาทิตย์ขึ้นครับ เราจึงได้เห็นเสน่ห์ประการแรกของซานติอาโกแล้ว เส้นขอบฟ้าที่ขีดด้วยเทือกเขาแอนดีส หรือ อันเดส ตามสำเนียงสเปน จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 16:36:36

ความคิดเห็นที่ 23 สนุกดี รออ่านต่อนะคะ จากคุณ : ชาตะไคร้ เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 18:52:28

ความคิดเห็นที่ 24 เป็นประเทศที่น่าสนใจมากเลย และดูจากการเดินทางแล้ว คงยากที่ใครจะคิดไปเที่ยว ถ้าไม่อยากไปจริงๆ บินไกลเหลือเกินค่ะ จากคุณ : ++nadda++ เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 19:13:13

ความคิดเห็นที่ 25 เป็นอีกประเทศที่ใฝ่ฝันอยากไปครับ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 00:36:49

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่เห็นมีใครให้ไปราชการที่นั่นมั่งเลยอ่า ฮือ อยากไป T^T ตามไปด้วยค่ะ ^^ ปล. เวลาเราไปราชการ ไม่เคยมีใครมารับและดูแลเลยค่ะ งกๆ วิ่งทำทุกอย่างตัวคนเดียวอย่างแท้จริง โครตตตตตเหนื่อย ข้าราชการยิ่งตำแหน่งเล็ก ยิ่งทำงานหนัก ไปราชการตปท.นี่เหนื่อย + เข้าเนื้อทุกรอบ T^T จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 15:52:23

ความคิดเห็นที่ 27 กลับมาแล้วครับ ขออภัยทุกท่านที่หายไปนานทำให้ไม่ต่อเนื่อง อันเรื่องความยุ่งยากของการไปราชการต่างประเทศนี่ ก็เป็นอย่างนั้นแหละครับ ถ้าไปกับตัวใหญ่ใจดำ ไอ้ตัวเล็กๆมักโดนใช้ให้เป็นคนเตรียมการทำนั่นทำนี่เกือบหมด แต่ถ้าไปกับผู้ใหญ่ใจดี ซึ่งมีน้อย ก็จะขันอาสาช่วยกันทำสนุกสนาน ว่ากันไป กรณีหนนี้ของผม คณะเดินทางมีกันแค่สองคน รุ่นไม่ต่างกันมาก แต่ที่โชคดีก็คือ เป็นงานที่ทางสถานเอกอัครราชฑูตเป็นเจ้าภาพ ก็เลยมีคนดูแลเป็นอย่างดีครับ วันหลังผมมีอีกรีวิวนึง ไปดูงานที่ญี่ปุ่น อันนี้แหละครับดูแลกันเอง ไว้เสร็จอันนี้จะเอามาลงต่อครับ จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 16:59:04

ความคิดเห็นที่ 28 กลับมาที่โรงแรมกันต่อครับ นี่คือเบียร์ที่ท่านวิศวกรซื้อมาเพื่อการศึกษา ดังกล่าวไปแล้วข้างต้น ขวดสวยครับ ว่าจะเอากลับมาเมืองไทยด้วยก็กลัวแตก เสียดาย ทราบมาอีกว่า ตำรับเบียร์ของที่ชิลี ยี่ห้อที่มีชื่อเสียงเป็นฝีมือของชาวเยอรมันที่มาตั้งโรงเบียร์ที่นี่เมื่อหลายปีก่อน ก็ไม่รู้ว่ากี่ปีนะครับ เดาว่าคงร่วมร้อยปีแหละมั้ง ต่อมาก็ค่อยๆแพร่หลาย เพิ่มยี่ห้อมากขึ้น ทั้งโดยฝีมือของชาวยุโรปที่มาตั้งรกราก และชาวชิลีเชื้อสายสเปนเอง แต่ก็กล่าวได้ว่า เบียร์ที่นี่ เป็นสูตรเยอรมันครับ เล่ามาเป็นคุ้งเป็นแควนี่ บอกไว้อีกทีว่าผมไม่ดื่มนะครับ แต่ฟังท่านที่ปรึกษาฯเล่ามา ส่วนท่านวิศวกร ดื่มอย่างเดียวครับ ไม่ค่อยได้ฟังเท่าไหร่ อิอิ แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 54 17:07:28 จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 17:05:01

ความคิดเห็นที่ 29 ก่อนเดินทางไม่กี่วัน ผมไปซื้อคู่มือสนทนาภาษาสเปนฉบับพกพามาด้วยครับ และเช้านี้เป็นการเปิดดูครั้งที่สาม นับแต่ซื้อมาครับ - -" เช้านี้ เรามีนัดหารือกับผู้แทนเทศบาลเขต Las Condes เกี่ยวกับโครงการของสถานเอกอัครราชฑูต โดยท่านที่ปรึกษาจะมารับเราหลังอาหารเช้า อาหารเช้าโรงแรม พวกแฮม แซลมอนรมควัน ออมเล็ต สลัด อร่อยตื่นตาตื่นใจตามประสาคนนานๆออกนอกราชอาณาจักรซักทีครับ แต่หลังจากมืออาหาร ผมซึ่งถูกท่านวิศวกรผู้ไม่เอาภาษาอะไรทั้งนั้นนอกจากภาษาไทยภาคกลาง มอบให้ดูแลเรื่องการสนทนา จึงออกจะตื่นๆเป็นพิเศษ ตอนนี้ ภาษาสเปนเท่าที่พอจะจำได้คือ.....อูโน (หนึ่ง) , โดส (สอง) , เตรส (สาม) ... อะกัว (น้ำ) โอลา (สวัสดี) , อาดิโอส (ลาก่อน) โซกอรโร!!! (จ้วยด้วยยยยยยยย!!!!!) ประมาณเนี้ยะแหละ น่าจะพร้อมล่ะนะ... จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 17:33:21

ความคิดเห็นที่ 30 ตามไปด้วยคนนะคะ ̉^ ^ จากคุณ : escate เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 01:35:27

ความคิดเห็นที่ 31 เรามีนัดกับทางเทศบาลที่ Parque Araucano สวนสาธารณะกลางเมืองครับ สวนสาธารณะพื้นที่ 30 เอเคอร์นี้ ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง โดยอยู่ติดกับห้างสรรพสินค้าที่พวกผมได้เดินเมื่อวาน หรือว่ากันง่ายๆ ก็ใกล้กับโรงแรมที่เราพักด้วยแหละครับ เดินมาได้สบายๆ สวนแห่งนี้ นอกจากกว้างขวางแล้ว ยังมีความร่มรื่นและทิวทัศน์สวยงาม จึงเป็นที่นิยมของชาวเมืองที่จะมาพักผ่อนหย่อนใจ แต่จุดที่เรานัดพบกันนั้น สำคัญเป็นพิเศษสำหรับเราครับ เพราะเป็นที่ตั้งของ Plaza Thailandia จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 08:18:15

ความคิดเห็นที่ 32 เรียกว่า เป็นสวนในสวน ละกันนะครับ ทางเทศบาลได้กันพื้นที่ส่วนนี้ สำหรับทางสถานเอกอัครราชฑูต สร้างสวนขนาดย่อม เพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและชิลี ในโอกาสฉลองครบรอบเอกราช 100 ปี จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 08:20:16

ความคิดเห็นที่ 33 เอ้า ใครแปลได้ แปล จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 08:23:30

ความคิดเห็นที่ 34 นอกจากลานปูด้วยอิฐและการตกแต่งต้นไม้ สระน้ำขนาดน่ารักจุ๋มจิ๋มสวยงามแล้ว จุดเด่นอีกประการก็คือ ป้าย Plaza Thailandia ทำด้วยไม้ และช้างหล่อสำริด ที่ทางไทยจัดสร้างขึ้นสำหรับสวนแห่งนี้ครับ ทำในไทย แล้วส่งขึ้นเรือมาติดตั้ง ช้างน่ารักเหมือนกะท่องกี่หรือช้างน้ำในตำนานที่เป็นข่าวเมื่อหลายปีก่อนเลยทีเดียว ท่านที่ปรึกษาฯเล่าให้ฟังว่า ทางสถานฑูตมีแนวคิดว่า จะนำสัญลักษณ์สามประการของประเทศไทยมาตั้งไว้ที่นี่เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้คนชิลีได้สัมผัสความเป็นไทยส่วนหนึ่งแบบง่ายๆ ประการแรกก็ช้าง ก็ได้ช้างมาแล้วคู่หนึ่ง ประการที่สอง ก็ ศาลาไทย กำลังดำเนินการอยู่ ประการที่สาม ต้นราชพฤกษ์ อันนี้คงต้องหารือกันต่อ เพราะอย่างที่บอกครับ ชิลีเค้าค่อนข้างระวังเรื่องพันธุ์พึชต่างถิ่นมาก ก็ต้องดูกันอีกทีว่าจะเป็นยังไง จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 08:30:15

ความคิดเห็นที่ 35 ลืมใส่รูปซะงั้น จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 08:30:51

ความคิดเห็นที่ 36 เพื่อยืนยันว่า เรามาทำงานจริงๆนะครับ แหะ บรรยากาศการหารือ เป็นไปอย่าง... หนาวเย็นครับ...ผมว่าสิบกว่าๆไม่สูงกว่าสิบเจ็ดองศา ส่วนเรื่องการสื่อสาร ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ไอ้ที่ผมเตรียมมาไม่ได้ใช้หรอก เค้ามีล่ามภาษาอังกฤษด้วยครับ แล้วก็มีท่านที่ปรึกษาฯช่วยอีกแรง ท่านวิศวกรเลยปล่อยผมลุยไป แล้วถอยมาห่างๆเน้นเก็บภาพเสียมากกว่า แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 54 08:34:53 จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 08:33:02

ความคิดเห็นที่ 37 เนื่องจากวันนั้นเป็นวันทำงานครับ จะให้เห็นบรรยากาศจริงก็คงไม่ได้ แต่กระนั้นเราก็ยังเห็นคนมาพักผ่อนหย่อนใจอยู่บ้าง อาจเป็นนักท่องเที่ยว คนเกษียนแล้ว คนโดดงาน ฯลฯ ที่นี่เข้าฟรีครับ แต่เห็นเค้าว่า มีบางส่วนที่เปิดให้บริการแบบเก็บเงิน เช่น สระว่ายน้ำ และเครื่องเล่นอะไรซักอย่าง แต่ผมก็ไม่ได้เดินไปดูนะครับ ไม่รู้หน้าตาเป็นยังไง กรุงซานติอาโก ให้ความสำคัญกับเรื่องพื้นที่สีเขียวมากครับ ยิ่งเมื่อเทียบกับปริมาณประชากรและความหนาแน่นของเขตเมือง สวนสาธารณะแทบจะมีอยู่ในทุกเขต อย่างสวนแห่งนี้ก็เป็นของเขต Las Condes เขตอื่นๆก็มี เล็กใหญ่ก็ต่างกันไป แต่ที่แน่นอนก็มี มีมากอย่างเห็นได้ชัด ผมว่า ถ้าหากบรรยากาศจริงคนจะโหรงเหรงไปซักหน่อยจากการคาดเดาและความคุ้นเคยของเรา ก็คงไม่แปลกหรอกครับ แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 54 11:37:55 จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 08:41:18

ความคิดเห็นที่ 38 ส่วนสวนมิตรภาพไทย-ชิลี ของเรา ทราบมาว่า ได้อยู่ในตำแหน่งที่ดีพอสมควรในสวนสาธารณะแห่งนี้เลยล่ะครับ เสียอยู่นิดเดียว คือ แม้ว่าจะอยู่ใกล้ประตูใหญ่ประตูนึง แต่ด้านหน้าประตูนั้นดันมีศูนย์สอบใบขับขี่ของเมืองอยู่ ทำให้มีรถมาจอดหนาแน่นไปซักหน่อย แต่พอเข้ามาถึงข้างใน ก็เจอPlaza ของเราทันที นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับการตกแต่งโดยรวมของสวนสาธารณะแล้ว หน้าตาของPlazaเราก็สวยน่ารักน่าดูทีเดียวครับ จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 08:45:00

ความคิดเห็นที่ 39 ส่วนหนึ่งที่ยืนยันความเป็น"สวนกลางเมือง"และการให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวของซานติอาโกก็คือ พื้นที่ถัดไปจากสวนนี้ ด้านหนึ่งก็คือ ย่านธุรกิจกลางเมืองนั่นเองครับ ดูจากสภาพทั่วไปแล้ว เรียกว่าเขตเมืองใหม่ก็ยังได้ เพราะแม้แต่ในตอนนี้ก็ยังคงมีการก่อสร้างอาคารใหม่ๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เวลาที่เมืองเพิ่งเริ่มเกิด อะไรๆมันก็ดูดีครับ อย่างน้อยที่สุด เราก็สามารถวางแผนและจัดการสิ่งต่างๆได้ตั้งแต่เริ่มต้น มองย้อนกลับมาดูเมืองใหญ่บ้านเรา โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เราสูญเสียโอกาสในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีไปนานแล้ว แต่อย่าให้ความเก่าแก่เป็นข้ออ้างเลยครับ ไอ้ที่แล้วก็แล้วกันไป แต่วันข้างหน้าก็ต้องทำให้ดีขึ้น ไม่ใช่วันหลังมาอ้างอะไรประเภท เศรษฐกิจ ความเจริญ ฯลฯอะไรอีก เพื่อจะได้เอาเรื่องสิ่งแวดล้อมไปจัดไว้ในลำดับหลัง สร้างเมืองที่คุณภาพชีวิตมันแย่ เพื่อจะได้มีเงินมีทอง แล้วก็เอาเงินที่ได้มาบำบัดความทุกข์ที่เราสร้างขึ้นเอง แปลกดี จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 09:55:37

ความคิดเห็นที่ 40 ถ้าเป็นอาคารพักอาศัยในเขตเมืองหน่อย ก็มักเป็นอาคารพวกอพาร์ตเมนท์หรือคอนโดนี่แหละครับ แต่สังเกตได้ว่า เค้ามีรสนิยมเรื่องสีของอาคารอยู่อย่างนึง เค้าชอบสีน้ำตาลแบบเอิร์ทโทนกับอาคารพักอาศัยครับ อาจประดับด้วยกระเบื้องสีดินเผา อะไรทำนองนั้น ซึ่งผมว่า มันเข้ากับบรรยากาศดีนะครับ ท้องฟ้าที่นี่ค่อนข้างแจ่มใสตลอดทั้งปี อาคารสีน้ำตาลจึงตัดกับสีฟ้าเข้มสดใส แซมด้วยสีเขียวเข้มของต้นไม้ที่แม้ว่าจะไม่ได้ร่มครึ้มอย่างเมืองร้อน แต่ก็ดูเข้มแข็งด้วยความพยายามในการแทรกความเป็นธรรมชาติเข้าไว้ในเมืองที่อยู่บนพื้นที่แห้งแล้ง ถ้ามองไปแล้วเจอตึกไหนสีน้ำตาล เดาไว้เลยว่าอพาร์ทเมนท์ จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 10:15:17

ความคิดเห็นที่ 41 คุยงานเสร็จ ท่านที่ปรึกษาก็ถือโอกาสพาเราเดินชมเขตเมืองกันซะหน่อย ซีกโลกเหนือ กำลังจะหน้าร้อน ซีกโลกใต้กำลังใบไม้ร่วงครับ จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 10:16:59

ความคิดเห็นที่ 42 ตึก ตึก ตึก ทั้งเสร็จแล้วและกำลังสร้าง จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 10:17:50

ความคิดเห็นที่ 43 กลับมาที่เรื่อง Plaza กันอีกทีนะครับ อาจเพราะการให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวของซานติอาโกนี่เอง จึงคล้ายๆจะกลายเป็นธรรมเนียมนิยมในการสร้าง Plaza ของหลายๆประเทศเพื่อเป็นที่ระลึกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในโอกาสต่างๆ อย่าหาว่านินทาอะไรเลยนะครับ พอมาเห็นPlazaของปากีสถานแล้ว ของไทยเราอย่างโก้น่าดูเลยครับ เพราะของเค้าได้แค่พื้นที่ฟุตบาทริมถนนช่วงหนึ่ง ทำเป็นแค่ทางเดินแทรกกลางสนามหญ้าเท่านั้นเอง แค่นี้ก็ได้ละ Plaza เห็นเค้าว่า ปากีเค้าดูจากของเราเป็นตัวอย่างแหละครับ เลยเอามั่ง แต่ดูยังไงก็ไม่รู้ เหมือนขอให้ได้มีPlaza ติดป้ายชื่อประเทศก็พอ - -" หรือมองอีกด้าน อาจเป็นเพราะการทำงานอย่างหนักของทางสถานฑูตเพื่อให้ได้มาซึ่งโลเกชั่นแจ๋วขนาดนั้นก็ได้ครับ ไหนใครลองมองดีๆ จะเห็นป้ายชื่อPlazaด้วยนะครับ จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 10:31:51

ความคิดเห็นที่ 44 อันนี้อีกPlaza ของปาเลสไตน์ครับ เกาะกลางสามแยก ก็เป็นPlazaได้ จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 10:32:55

ความคิดเห็นที่ 45 เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ เราก็ไปถึงตึกที่เป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชฑูตของไทยครับ มาเยี่ยม และมาประชุมสรุปกันนิดหน่อย ประตูบานซ้ายมือ ที่เห็นว่าไม่มีตราครุฑอยู่ เพราะบานเก่าแตกไปเมื่อแผ่นดินไหวใหญ่ครั้งก่อนหน้าครับ ส่วนป้ายข้างหน้านี่ โปรโมทอาหารไทยครับ เดี๋ยวเราจะได้ไปดูอิทธิฤทธิ์อาหารไทยกัน จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 10:35:40

ความคิดเห็นที่ 46 อย่างที่เล่าให้ฟังไปแล้วว่า มาตรฐานการก่อสร้างที่นี่ค่อนข้างสูงทีเดียว อาคารใหม่ๆหน้าตาหวือหวาก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่มีเรื่องอยู่ว่า เมื่อคราวแผ่นดินไหวใหญ่ครั้งก่อนหน้านี้ ปรากฏว่า ในขณะที่อาคารหลายๆหลังซึ่งออกแบบและก่อสร้างเพื่อป้องกันความเสียหายจากแผ่นดินไหวเป็นอย่างดีแล้ว รอดจากเหตุครั้งนั้นมาได้ อาคารหลายอาคารที่สร้างโดยผู้รับเหมารายหนึ่ง กลับเกิดความเสียหายค่อนข้างมาก ทำให้ต้องมีการปิดตึกและตรวจสอบกันใหม่หลายหลังเลยครับ จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 11:06:54

ความคิดเห็นที่ 47 คราวนี้ เราจะได้ลองหาอะไรกินแบบชาวบ้านชาวช่องเค้ามั่งครับ ท่านที่ปรึกษาพาเราไปย่านร้านค้าเล็กๆแต่ดูไฉไล ประมาณว่า เป็นแหล่งรวมร้านค้าสารพัด แต่อยู่ใต้สวนหย่อมเล็กๆ ติดกับทางลงสถานีรถไฟฟ้า สวนอีกแล้วครับ ตอนนั้นเป็นมื้อเที่ยง แต่เวลาบ่ายโมงนะครับ ที่นู่นกินมื้อเที่ยงกันบ่ายโมงถึงบ่ายสอง คนกำลังเยอะเลย จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 20:26:38

ความคิดเห็นที่ 48 แต่ก็นั่นแหละครับ ไอ้เราก็ไม่รู้เรื่องอาหารเลย ก็ต้องให้ท่านที่ปรึกษาฯเลือกให้อีก ท่านเลยแนะนำให้ลอง อาหารญี่ปุ่น!? ครับ อาหารญี่ปุ่นครับ ที่นี่เค้านิยมอาหารญี่ปุ่นกันมานานนม หลายท่านอาจพอทราบแล้วว่า ญี่ปุ่นเค้ามีสายสัมพันธ์กับประเทศในอเมริกาใต้มานานแล้วหลายสิบปีครับ เอาเข้าจริงๆ ก็เป็นอาหารญี่ปุ่นออกแนวฟิวชั่นเล็กๆ ประยุกต์เข้ากับวัตถุดิบท้องถิ่นแหละครับ แหะ แต่ที่น่าสนใจก็คือ ที่กำลังมาแรงสุดๆตอนนี้ อาหารไทยไงครับ ขนาดว่า ร้านนี้ชื่อว่า Sushi Now พอจะมีอาหารไทยกับเค้าบ้าง ก็ตั้งชื่อชุดเมนูใหม่นี้ว่า Thai Now อะไรเป็นอะไร เชิญทัศนาได้ครับ จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 20:46:32

ความคิดเห็นที่ 49 เราก็เลยจัดมาทั้งญี่ปุ่นและไทยซะเลย อาหารญี่ปุ่นของที่นี่ ก็รสมือแบบคนท้องถิ่นครับ ยิ่งใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเข้าไปด้วย เลยยิ่งแปลกลิ้น คนชิลีโปรดปรานอาโวคาโดมากครับ กินอะไรก็พาลจะมีอาโวคาโดผสมไปซะหมด ข้าวปั้นแบบมากิหรือแบบม้วนก็เลยมีอาโวคาโดไปด้วย ไอ้ผมนี่ไม่ถนัดอาโวคาโดนัก กินไปก็เลยปุแล่มปุแล่ม แต่อื่นๆก็ไม่เลวครับ ทีนี้ก็อาหารไทยล่ะ เราลองดีเลือกไก่สเต๊ะมา อย่างที่เห็นครับ เรื่องหน้าตาผมว่าใช้ได้เลย แต่เรื่องรสชาติ ผมว่าทั้งกลิ่นทั้งรส จะอ่อนไปซักหน่อย จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 20:58:08

ความคิดเห็นที่ 50 ลืมรูปครับ จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 20:59:38

ความคิดเห็นที่ 51 ภารกิจหลักของเรา ถือว่าบรรลุตามเป้าหมายครับ ตกบ่ายเราก็พักผ่อนอยู่ที่โรงแรม ผมใช้เวลาในการเรียบเรียงข้อมูลที่ได้จากการหารือทั้งสองวัน รวมไปถึงจัดหมวดหมู่รูปถ่ายและเอกสารที่ได้รับมา โดยรวมของวันนี้ ถือว่าเราได้เห็นหน้าตาบรรยากาศของเขตเมืองใหม่ของซานติอาโกไปแล้ว ตอนเย็นเรามีนัดทานข้าวที่อาพาร์ตเมนท์ของท่านที่ปรึกษา ซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของเมือง เป็นอาหารไทยๆหน่อยครับ ฝีมือภรรยาของท่านที่ปรึกษาซึ่งไม่ใช่คนไทย แต่รสชาติใช้ได้เลย สองวันผ่านไป อาหารไทยสี่มื้อครับ เหอะเหอะ ไม่มีโอกาสได้คิดถึงบ้านหรอก ปิดท้ายกระทู้ด้วยทิวทัศน์ซานติอาโกอีกด้านหนึ่งจากระเบียงอพาร์ตเมนท์ ซึ่งมีเทือกเขาอันเดสตระหง่านง้ำค้ำฟ้า ราวกับกลัวเราลืมไปว่า เราอยู่ที่ไหน ขอบพระคุณทุกท่านที่ยังตามมาอ่าน แม้ว่ากระทู้จะโดนถีบตกลงมาไกลเหลือเกิน พักนี้ไม่สบายครับ เลยโพสกระทู้ได้กระท่อนกระแท่นไม่ทันใจ ต้องขออภัยด้วยครับ พบกันกระทู้ถัดไปครับ คราวนี้เราจะได้ไปชมสารพัดพิพิธภัณฑ์กัน ใครอยากดูโมอาย ผมบอกไปแล้วว่ามันไกลหลายพันกิโล แต่ผมมีญาติห่างๆของพวกเค้ามาให้ดูด้วยล่ะเออ จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 21:10:50

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณสำหรับรีวิวรูปสวยๆพร้อมข้อมูลค่ะ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมไทย 54 22:02:08

ความคิดเห็นที่ 53 สารพัดพิพิธภัณฑ์มายังคะ อยากดูๆ จากคุณ : ชาตะไคร้ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 17:01:58