PANTIP.COM : E11506127 เช่ารถในอเมริกา จ่ายเงินตอนไหน? และอีกหลายปัญหา (ไม่เคยเช่ารถเลยครับ) [ท่องเที่ยวต่างประเทศ]

ความคิดเห็นที่ 3

จองรถเช่าจาก Hertz มาครับ
เป็นรถ Ford Escape 7 วัน รวมนู่นนี่ทุกอย่างแล้วประมาณ 19000 ครับ
รับรถใน Las Vegas แล้วคืนที่ LA ครับ (กะขับเที่ยวไปแอลเอ)

Pick up and drop off at a different location ทางบริษัทคิดค่าส่งคืนรถระยะทางไกลแบบนี้เพิ่มอยู่ที่ $150

ค่าเช่ารถของคุณไม่ไ้ด้ถูกอะไร เป็นราคาเช่าปกติ
จขกท.จำเป็นต้องเช่ารถล่วงหน้าอยู่แล้ว อย่าไปหาเช่าแบบ Walk-in ค่าเช่าจะแพงกว่าเช่าออนไลน์

๑. เราสามารถเลือกรับรถตรงจุดไหนก็ได้ใช่มั้ยครับ แต่ที่ดูๆแต่ละจุดราคาไม่เท่ากัน เพราะอะไรหว่า - -*

Pick up location รับรถ ต้องระบุไว้เลยว่าจะไปรับรถที่ไหน... ความสะดวกในการไปรับรถ "สำคัญ" ในเมือ่จขกท.ไม่รู้จักทาง และจะเดินทางไปรับรถยังไงถ้าไม่มีรถ นอกจากต้องจ้างรถแท้กซี่ไปส่ง ซึ่งค่าจ้างก็แพง

ปกติแล้วคนรับรถที่ใกล้สะดวกที่สุดเช่น รับรถที่สนามบินไปเลย

๒. เมื่อทำการจองเสร็จแล้ว เราต้องทำอะไรอีกไหมครับ ผมได้ Confirmation Number มา เราต้อง Reconfirm อะไรไหมครับ

หน้าสุดท้ายของการจองรถ จะเป็นหน้าที่จขกท. ต้องพิมพ์เก็บไว้ นั่นคือ Confirmation number และทางบริษัทจะส่งอีเมลคอนเฟิมสมทบ ที่ต้องพิมพ์หน้าคอนเฟิมทางอีเมลติดตัวไปด้วย

การจองมีแบบจองแล้วเสียเงินเลย (จ่ายด้วยบัตรเครดิต) และแบบจอง แต่ยังไม่ต้องจ่ายด้วยบัตรเครดิต และมีการ Modify reservation, or cancellation ได้ โโยไม่เสียเงิน โดยเข้าไปเว้บบริษัทและหาช่องที่เขามีให้โมดิฟายเลปี่ยนแปลงวันรับรถ ส่งรถ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ตอ้งการโมดิฟาย... แม้แต่ยกเลิกการเช่า

ถ้าไม่ต้องการโมดิฟาย กแน่ใจว่าจะเช่ารถก็เข้าไปคอนเฟิมได้หน้าเดียวกัน

โมดิฟายอะไรก็ตาม ต้องใส่เบอร์คอนเฟิมเช่ารถ

๓. หลังจากนั้นมันจะมีหน้าให้เรา Check In เราต้องทำการเช็คอินไปเลยไหมครับ หรือว่า ยังไม่ต้องทำอะไร ไปจ่ายตังแล้วก็เช็คอินที่นู่นเลย จองกั๊กไว้เฉยๆ

จแต่จขกท. ต้องอ่านให้ละเอียดเอง มันมีกฏบังคับ Condition อะไร ถามแบบนี้คนมีประสบการณ์ให้คำตอบไม่ได้เพราะ มันขึ้นอยู่กับข้อผูกมัด... จองก๊กก็ได้ แต่ถ้ามันบังคับว่าต้องจ่ายหักเงินจากบัตรเครดิตเลยก็มี ขึ้นอยู่กับว่าไปเข้าดูเช่ารถจากเว้บไหน ที่มีโปรโมชั่น หรือจากเว้บเช่ารถโดยตรง ปกติจองกั๊กได้โดยไม่ต้องลงเบอร์บัตรเครดิต แต่ต้องยกเลิกการเช่านะ ถ้าไม่คิดจะไปเอารถ ถึงแม้ว่าเขาจะเอาเงินไม่ได้ก็จริง แต่ควรมีความเป็นสุภาพชน ยกเลิกการเช่าทางออนไลน์ด้วย... อย่าปล่อยทิ้งไปเฉยๆ... มันไม่งาม

๔. ตอนแรกผมกะจะไม่จองไป แต่กลัวว่าไปหน้างานแล้วรถเกิดไม่มีขึ้นมา ตามปกติแล้วเราควรจองไปก่อนไหมครับ หรือว่าค่อยไปหาเอาที่นู่น หรือว่าจองไว้แล้วยังไม่ต้องทำอะไร ไปเช็คราคาดูที่นู่นอีกที

ควรจองล่วงหน้าไปก่อน โดยมองหาโปรโมชั่น ลดราคาแบบ weekly rate special

ปกติคนจองล่วงหน้ากันทั้งนั้น ถ้าจะไปจองเมอื่ถึงที่นั่น ค่าเช่าแพงลิ่วววววววว

๕. เท่าที่อ่านดู ราคายังไม่รวมประกัน เราสามารถไปซื้อเอาตอนรับรถได้ไหมครับ

นั่นเป็นแค่ "ค่าเช่ารถ" เท่านั้นยังไม่รวมภาษีปลีกย่อยอีกเยอ ะซึ่งจะออกมาก็เพิ่มไปอีกเท่าตัวของค่าเช่า ขึ้นอยู่กับแต่ละเมืองเขาคิดภาษีอะไรบ้าง จากรถที่ช่ามาจากมเืองนั้น... ค่าเช่าจะสูงขึ้นอยู่กับว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวมากน้อยแค่ไหน

ประกัน Collision Damage Liability นั้นจะบวกเพิ่มเมือ่ตอนเซ็นสัญญาเช่า หรือจะซื้อเลยก็ได้ตอนเช่านทางออนไลน์ มันจะมีปลีกย่อยขึ้นมาว่าต้องการซื้อประกันไหม หรือยังไม่ซื้อแล้วไปเซ็นสัญญาตอนนเช่า

สำหรับคนที่มีบัตรเครดิตที่มีครอบคลุมจากอุบัติเหตุที่เกิดกับรถ... จะไม่ซื้อประกันกับบริษัท แต่อาจจะซื้อประกันในส่วนคนขับ และผู้โดยสารเมือ่เกิดอุบัติเหตุกับคนในรถ Injury insurance

สำหรับคนต่างชาติที่ใช้บัตรเครดิต ควรเช็คกับทางธนาคารที่ออกบัตรด้วยว่า บัตรที่จะใช้เช่ารถนั้น มีครอบคลุมประกันอุบัติรถชนไหม และมีปีะกันอะไรบ้างเกี่ยวกับ Automobile Rental Insurance ต้องถามธนาคารเอง

ตัวอย่างดิฉันใช้บัตรวีซ่า ทีี่เป้นบัตรออกในอมเริกา (ชนิดของบัตรวีซ่ามีหลากหลายประเภท ที่มีครอบคุมแตกต่างกัน)

ดิฉันเคยมีอุบัติเหตุกับรถเช่าคนอื่นมาชนรถเรา... กว่าเรือ่งจะสะสางได้ ที่ทางวีซ่ารับประกันใช้เวลา ๘ เดือนเต็มๆ ที่ต้องติดต่อและคอยส่งเอกสารสำคัญๆไปให้ทางประกัน... เราต้องให้ความร่วมมือกับทางประกัน ไม่งั้นเราก็ต้องจ่ายค่าเสียหายเอง

บัตรวีซ่าของดิฉันที่ี ครอบคลุมประกันรถเช่าอุบัติเหตุ Collision Damage ฉะนั้นเมือ่รถเช่าไปเกิดมีอุบัติเหตุชนกับรถอื่น ทางวีซ่ารับเรือ่งไปต่อรองกับคู่กรณี แต่คนเช่าต้องทำหน้าที่ให้ข้อมูละลเอียดมากกกกกกกกกก ต้องถ่ายรูปรถเสียหายมากน้อยแค่ไหน และติืดต่อกับทางวีซ่าทันทีที่เกิดอุบัติเหตึุ และต้องโทรเรียกตำรวจให้มาเขียนรายงาน Accident Police report ที่เสียเวลานานมากกกกก และต้องรอวันต่อมาเพื่อไปรับเอกสารรายงานอุบัติเหตุที่สถานีโรงพักที่ตำรวจนายนั้นมาทำรายงาน เสียค่าธรรมเนียมรับเอสการรายงาสนอุบัติเหตุ และต้องส่งสำเาเอกสารรายงานอุบัติไปหใ้ทางวีซ่า และต้องติดต่อกับบริษัทเช่ารถส่งเอกสารไปอีกชุดให้กับบ.เช่ารถ

ดิฉันไม่ซื้อประกันกับทางบ.เช่ารถ เพราะบัตรวีซ่าของดิฉันมีประกัน Collision damage for car rental ในกรณ๊ของดิฉัน จึงต้อง ไม่เซ็นสัญญาซื้อประกันใดๆเรียกว่า CDW = Collision Damage Waiver เพื่อทางวีซ่ารับประกันเต็ม... และถ้าไปเซ็นซื้อประกันสักอย่างก็จะเป็น โมฆะ การรับประกันของทางวีซ่าไปเลย... จึงต้องไม่ซื้อประกันอะไรจากทางเช่ารถ

รายละเอียดปลีกย่อย "ปวดหัว" มีเยอะมาก และใช้เวลาประมาณ "หนึ่งปี" กว่าจะเคลียร์เรือ่งประกันนนี้ได้... เจ้าทุกข์คือคนเช่า ต้องมให้ความร่วมมือกับทางประกัน และทางเช่ารถ

ถ้าชื่งหนีคืนรถโโยไม่แจ้ง ทางบ.เช่ารถรู้อยู่ดีเพราะคู่กรณีจะเอาเรือ่งเมือ่มีการชนกัน และสภาพรถเสียหาย ทางฐงเช่ารถเช็ครถดูก็รู้และจะเสียค่าเสียหาย และเงินค่ามัดจำจะถูกยึด และปัญหาอื่นๆจะตามมาอีกมากมาย

๖. มีใบขับขี่สากลไปก็ใช้ได้ใช่ไหมครับ

ใช้ได้

เพิ่มเติม
การเช่าทั่วๆไป ทางบ.เช่ารถ จะล้อคเงินค่ามัดจำจากบัตรจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นประกันในกรณีรถเสียหาย หรือรถถูกโขมย อะไรก็แล้วแต่ที่จะมีผลเสียกระทบกับรถ.... เมือ่นำรถไปคืน บ.เช่ารถถึงจะปลดล้อคค่ามัดจำออกจากบัตรเครดิต
แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 02:27:59
แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 00:00:02

จากคุณ : JidNince

เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 23:55:28