ความคิดเห็นที่ 1 ข้อจำกัดของการเดินทางครั้งนี้ของพวกเราคือ “เวลา” เพราะแต่ละนางคิวทองกันเหลือเกินกว่าจะว่างได้พร้อมกัน ก่อนที่จะเป็นทริปนี้คิดกันว่าจะไปลาวกัน แต่ด้วยอุปสรรคหลายอย่างก็ได้แค่เชียงใหม่นี้แหละใกล้ดี ขอแนะนำสมาชิกของการร่วมทริปนี้หน่อยนะค่ะ พวกเราแก็งค์ 3ส (3 สาวเฒ่า) ประกอบด้วย สิริ (ช่างภาพ 1) สุทธี (ช่างภาพ 2) และสำอาง (คนขับรถ+นางแบบ) ทริปนี้เราเดินทางกันวันที่ 25 ธ.ค. 54 ตรงกับวันคริสมาสของฝรั่งพอดี ส่วนคนเมืองลูกข้าวนึ่งอย่างพวกเรา ขอขึ้นดอยไปร้องเพลงจิงกาเบลร็อคบนดอยกันซะหน่อยเจ้า... ***งานนี้!! รูปไม่สวยโทษช่างภาพเพราะมือใหม่ นางแบบไม่สวยโทษช่างภาพถ่ายออกมาไม่ได้เรื่อง รีวิวไม่เข้าท่าโทษช่างภาพเพราะถ่ายรูปไม่ดีเลยถ่ายทอดอารมณ์มาร้อยเรียงไม่สมบูรณ์ โอเคป่ะ *_* จากคุณ : ยัยสำอาง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:23:53

ความคิดเห็นที่ 2 กำหนดการคร่าวๆ คือ ต้องตื่นตีสี่ เพื่อออกเดินทางตีห้า แต่ผิดแผนเล็กน้อยเลยออกตัวช้าไปครึ่งชั่วโมง เพราะมัวรอสำอางเขียนคิ้ว แหะๆๆ!! ที่วางแผนไว้ว่าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ม่อนอิงดาว (หรือถ้าขับรถอยู่ขึ้นที่ไหน ก็จอดที่นั้น) แล้วย้อนกลับมากินข้าวเช้าที่ม่อนแจ่ม หลังจากนั้นค่อยว่ากันไปเรื่อยๆ แล้วแต่สถานการณ์ มาที่สถานที่แรกกันเลยแล้วกัน “ม่อนอิงดาว” เป็นการมาเยือนครั้งแรก เพราะเห็นเพื่อนเอารูปลงบน facebook กันหลายคนเลย ก็อยากลองไปสักครั้ง ทีแรกว่าจะไปพักสักคืน แต่ตัดสินใจไม่นอนดีกว่า อ่ะ หนาววววว!! จึงเป็นการขับรถขึ้นดอยตอนเช้ามืดที่น่ากลัวมาก เพราะหนทางข้างหน้าไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง (มันมืดมาก) สถานีที่ 1 >>> “ม่อนอิงดาว” เพิ่งเปิดทำการได้ 3 เดือน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เปิดบริการที่พักสำหรับใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศแบบธรรมชาติตัวเป็นๆ เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนเพราะจุดขายอยู่ที่บ้านพักและลานกางเต็นท์ (Camping and Resort) สามารถทำอาหารไปทำกินกันเองได้ด้วย ตั้งอยู่ ต.แม่แรม อ.แม่ริม ขับรถมาเรื่อยๆ ผ่านสวนพฤกษศาสตร์พระนางเจ้าสิริกิต์ แล้วเลี้ยวขวาแยกเข้าทางโครงการหลวงหนองหอย แล้วขับขึ้นมาเจอทางแยกขึ้นม่อนแจ่ม แต่ไม่ตรงให้เลี้ยวซ้าย ขึ้นไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร พอมาถึงแล้วประทับใจจริงๆ อากาศดี ลมเย็น หนาวมาก เห็นเต็นท์ตั้งกันเรียงราย พร้อมทั้งเศษซากอารยธรรมของอาหารและอุปกรณ์ประกอบอาหาร ผู้คนกำลังทยอยกันตื่นมาเพื่อรอดูพระอาทิตย์ขึ้นหรือว่าเสียงของชะนีอย่างพวกเรากรีดร้องเพราะอากาศหนาวก็ไม่รู้ แต่วันนี้ท้องฟ้าช่างไม่เป็นใจซะจริงๆ เมฆ หมอก เต็มไปหมดก็เลยได้รูปบรรยากาศ อารมณ์ประมาณนี้แหละจ้า จากคุณ : ยัยสำอาง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:24:29

ความคิดเห็นที่ 3 พอเต็มอิ่มกับอากาศหนาวแล้ว รีบเผ่นดีกว่า เพราะอยู่ไปเริ่มจิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวหลังจากเห็นชายหนุ่มออกจากเต็นท์กันมาทีละคนสองคน แอร๊ยยยย!!! (หันบ่าวหล่อละใจ๋บะดี) เก็บมาให้ดูภาพบรรยากาศเบื้องล่างอีกสักภาพ จะเห็นภาพได้ชัดเลยถึงลักษณะการใช้ที่ดินแบบผสมผสาน มีทั้งการใช้ที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย เพื่อการเกษตรกรรม และยังมีพื้นที่ป่าอีกด้วย (โอ๊ะ!! สำอางวิชาการ) ***ช่างภาพดิฉันมือสั่น แย่ๆ จากคุณ : ยัยสำอาง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:25:18

ความคิดเห็นที่ 4 สถานีที่ 2 >>> “ม่อนแจ่ม” จากม่อนอิงดาวก็รีบขับรถลงมาเพื่อที่จะไปม่อนแจ่ม ขอสารภาพตรงนี้เลยว่า การมาในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้วสำหรับตัวเอง แต่เพื่อนทั้งสองนางยังไม่เคยมาก็เลยต้องจำเป็นพานางไปถ่ายรูปจ้า ซึ่งม่อนแจ่มก่อตั้งมาแล้วประมาณปีกว่าๆ เป็นพื้นที่สันเขาอยู่ในเขตหมู่บ้านม้งหนองหอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ด้านหนึ่งมองเห็นที่ราบรอบเขต อ.แม่แตง ถ้าวันที่ฟ้าเปิดก็จะเห็นดอยหลวงเชียงดาวและเทือกเขาอีกหลายๆ เทือกได้ สำหรับอีกด้านหนึ่งจะเห็นวิวแปลงเกษตรของชาวบ้านและดอยอินทนนท์ ม่อนแจ่มเคยเป็นไร่ฝิ่นมาก่อนแต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นแค้มป์ปิ้งรีสอร์ท มีร้านอาหาร และสวนดอกไม้ให้ดูชมกัน จากคุณ : ยัยสำอาง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:26:12

ความคิดเห็นที่ 5 สามารถมาเที่ยวชมม่อนแจ่มได้ทุกฤดู ฤดูฝน (ก.ค.-ต.ค.) จะสวยที่สุดเกือบทุกเช้าจะมีทะเลหมอก (สวยจริงๆ เคยมาตอนช่วงบ่ายทะเลหมอกก็ยังมีอยู่เลย) ฤนูหนาว (พ.ย.-ก.พ.) ก็คือฤดูปัจจุบันนี้ ท้องฟ้าจะปิด อากาศหนาวจัด คนเยอะ แต่ดอกไม้ในสวนจะโตเต็มที่ ส่วนฤดูร้อน (มี.ค.-มิ.ย.) ในขณะที่อากาศด้านล่างร้อนจัด ม่อนแจ่มก็ยังคงมีอากาศปลอดโปร่ง เย็นสบาย หนีร้อนได้ดีในระดับหนึ่งเลย ม่อนแจ่มเป็นที่พักแนวใหม่ที่พยายามจะคงธรรมชาติไว้ให้มากที่สุด จุดขายของที่นี้คือร้านอาหารมากกว่า ซึ่งจะเน้นการปลูกผักสมุนไพรใช้เอง หรือส่งเสริมการใช้ผลผลิตของชาวบ้านในพื้นที่และของโครงการหลวง ส่วนมากเป็นผักสมุนไพรเมืองหนาวที่หากินไม่ได้ทั่วไป (ยอมรับว่าผักสดจริงๆ) อีกหนึ่งจุดเด่นคือชาสมุนไพรสดเจ็ดชนิด แต่มาทุกที่ไม่เคยจะได้กิน เพราะสั่งแต่ชาเย็นตลอด ก็ไม่ได้อร่อยแบบเทพ แต่ที่เลือกดื่มเพราะชอบ (อิอิ) แต่มาครั้งนี้ไม่ได้กินเหมือนเช่นเคย เจออุปสรรคเข้าอย่างจัง คือ ช้า ไม่พอ เจ้าของร้านกำลังอบรมลูกน้องอย่างดังเป็นภาษาถิ่น เราฟังแล้วก็เข้าใจอ่ะนะ แต่ก็อยู่ไปก็ไม่สนุกแล้วสิ หิวก็หิว น้ำก็ไม่ได้กิน เดินลงไปด้านล่างหาข้าวเหนียวหมูปิ้งกินกันดีกว่า จากคุณ : ยัยสำอาง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:27:14

ความคิดเห็นที่ 6 ระหว่างทางเดินลงไป มีร้านค้ามากมาย ส่วนมากขายอาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า และของที่ระลึก ภารกิจตามล่าหาข้าวเหนียวหมูปิ้งจ้า>>>ไม่มีสักร้าน แปลกใจ!! ที่มีไม่กินข้าวเหนียวกันหรือไร ?? สุดท้ายก็ลงเอยกันที่ “ลูกชิ้นทอดม่อนแจ่ม” ระหว่างทางก็เจอเด็กหนุ่มสาว ทั้งวัยเด็ก วัยรุ่น วันนี้พากันแต่งตัวสวยเชียวนึกแปลกใจ เอ!! เขาแต่งมาต้อนรับเรารึเปล่า...ไม่ใช่จ๊ะ วันนี้มีงานคริสมาสที่โรงเรียนประจำหมู่บ้าน ชาวเขาเลยต้องแต่งชุดประจำตำแหน่ง และเสื้อผ้า หน้า ผม ต้องดูดีที่สุดสำหรับวันนี้ กินอิ่มละ หากิจกรรมทำดีกว่าโดยการไปขับรถอะไรสักอย่างจำชื่อไม่ได้ เอาเป็นว่า เรียกชื่อให้มันว่า “โกคาร์ตไม้” ละกัน ค่าเช่าก็ถือว่าไม่แพงนะ 50 บาทต่อคัน ด้วยระยะทางการขับขี่ 200 เมตร จากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ มีรถบริการส่งคนและรถไม้ขึ้นไปด้านบนและคอยแนะนำวิธีการขับ แต่เอาเข้าจริงๆ สุทธีนางในรูปก็สะดุดก้อนหินไปหลายก้อนเลยที่เดียวทำให้รถไม่ยอมไป กว่าจะขับลงดอยมาได้ รถยนต์ติดกันเป็นขบวนเพื่อให้นางเล่นของเล่นได้อย่างสมใจอยาก แต่ที่แน่ๆ สำอางก็เจอรถมอเตอร์ไซด์ในฝันพร้อมคนขับแล้วเหมือนกัน >>> น่ารักอ่ะ จากคุณ : ยัยสำอาง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:27:48

ความคิดเห็นที่ 7 สถานีที่ 3 >>> “สวนเอเดน” พอเต็มอิ่มกับม่อนแจ่มแล้วก็ขับรถลงมาเรื่อยๆ อันนี้เริ่มคิดหนักแล้ว ว่าจะพากันไปไหนดี? เลยเห็นข้างๆ ทางมีไร่องุ่นพร้อมทั้งเปิดให้เข้าชมสวนได้ด้วย ก็ดีเลยขอโดนสักหน่อยเถอะไหนๆ ก็มาแล้ว ค่าเข้าชมสวน 20 บาท แต่วันนี้ทางสวนห้ามเก็บองุ่น และสตรอเบอรี่ อาจจะเป็นเพราะมันยังไม่โตเต็มวัย ก็เลยได้แต่ชักภาพองุ่นลูกกระจิ๊ดริด พร้อมทั้งสตรอเบอรี่ลูกเขียวๆ กัน แถมยังได้ลองชิมองุ่นลูกโตๆ โห....มันอร่อยจริงๆ ของไทยก็สู่ของนอกได้สบายเลยค่ะ ก็เลยอุดหนุนมา 1 แพ็ค (555+ พูดซะเหมือนจะซื้อเป็นพัน) และน้ำองุ่นอีกคนขวด พบว่า หวานมาก จะหวานเอาโล่เลยหรือไง (คือขอให้ได้ติทุกครั้งไป) ก็เลยรีบๆ กินเพื่อที่จะได้ล้างมือล้างปากก่อนขึ้นรถ แล้วเราก็ได้ทราบที่มาของความหวานแล้วหลังจากที่เอาขยะไปทิ้งที่ร้านค้า พ่อค้า: น้ำองุ่นไหมครับ เย็นๆ ชื่นใจ ลูกค้า: ขวดเท่าไรครับ พ่อค้า: 20 บาทครับ ลูกค้า: แล้วน้ำองุ่นนี้ผสมอะไรบ้างครับ พ่อค้า: น้ำตาลครับ #$%^*&(*@#$%^ ลูกค้า: อ่ะๆๆๆครับ ลองดูสักขวด สำอาง: //me จะเตือนแล้วแต่ไม่ทัน 555+ (อ่าแซวเล่นน่ะ) จากคุณ : ยัยสำอาง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:28:17

ความคิดเห็นที่ 8 สถานีที่ 4 >>> “สะเมิง” ออกจากสวนเอเดนแล้วย้อนกลับทางเดิม เพื่อจะหาร้านกาแฟ+เค้กนั่ง เพราะสถานการณ์ตอนนี้ง่วงมาก ขับมาเรื่อยๆ ก็เลยร้านตลอด พอออกเส้นหลักตั้งใจว่าจะไม่กลับทางเดิม ก็เลยแยกไปอีกทางซึ่งก็คือมุ่งหน้าไป อ.สะเมิง ซึ่งเป็นอำเภอเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังดอยสุเทพ เส้นทางนี้เน้นไปทางที่พักเป็นส่วนใหญ่ เคยอ่านรีวิวมามีคนตั้งชื่อให้ว่าเป็น “หุบเขาไฮโซ” เพราะที่พักทางนี้ค่อนข้างที่จะมีราคาสูง บรรยากาศดี ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเส้นทางท่องเที่ยวนี้มีจุดชมวิวที่สวยงาม และป่าสะเมิงจะมีความสมบูรณ์และมีภูเขาสลับซับซ้อนกันไป ถ้าจะให้แนะนำเส้นทางนี้เหมาะสำหรับการขับรถเที่ยวชมบรรยากาศรอบข้างอย่างเดียวเลยคะ เพราะขับมาตั้งนานยังหาร้านข้าว ร้านกาแฟที่บรรยากาศดีไม่เจอเลย หิวๆ มาก เลยพักรถที่จุดชมวิวอำเภอสะเมิงเพื่อชมทิวทัศน์ป่าสะเมิงและก็ชักภาพกันอีกสักหน่อย แต่ช่างภาพ 2 (น.ส.สุทธี) โฟกัสดีมากจ้า ถ่ายแต่ผู้ชายตาน้ำขาว พอเขาเข้ามาคุยด้วยนิเงียบเลย ปล่อยให้สำอางเลยพูดกับฝรั่งจนเจ็บมือหมด!!! จากคุณ : ยัยสำอาง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:28:49

ความคิดเห็นที่ 9 สถานีที่ 5 >>> “ม่อนม่วนใจ๋” ขับมาเรื่อยๆ เข้าเขตอ.หางดงแล้วก็ยังไม่ได้กินข้าวกับกาแฟเลย พอดีเหลือบไปเห็นโครงการบ้านม่อนม่วนใจ๋ข้างทาง เห็นบรรยากาศน่าจะดีก็เลยขับรถเข้าไป ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ ทางเข้าโครงการร่มรื่นไปด้วยพันธุ์ไม้ดอกนานาชนิด บ้านโครงการในลักษณะไม่เหมือนบ้านของไทย น้ำตก มีช้างด้วยนะเลี้ยงทางด้านหลัง และที่ประทับใจคือเหมือนยกโซลทาวเวอร์มาอยู่ที่เชียงใหม่เลยจ้า มีทั้งหอคอย ที่คล้องกุญแจ เก้าอี้หักกลาง สนามเด็กเล่น นึกว่าได้กลับไปเกาหลีอีกครั้ง ถ้ามีโอกาสก็แวะมาชมนะค่ะ เดี่ยวจะหาว่าสำอางพูดเรื่อยเปื่อย ^_^ จากคุณ : ยัยสำอาง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:29:21

ความคิดเห็นที่ 10 สถานีที่ 6 >>> “วัดพระธาตุศรีจอมทอง” พวกเรามาไกลเกินไปแล้วนะเนี้ยะ จากทางเหนือ ตอนนี้กำลังลงไปทางใต้ของจังหวัดเชียงใหม่โดยเส้นทางสายเชียงใหม่-ฮอด ซึ่งมีความหวังว่าต้องไปกิน pizza ของพี่เอ้ รงค์ สักครั้ง แต่คนสวยก็ขอเข้าวัดก่อนนะค่ะ ทำบุญก่อนปีใหม่ เผื่อผลบุญเหล่านี้จะส่งผลให้พวกเรามีคู่กับเขาสักที วัดนี้มีสถานที่ปฏิบัติธรรมด้วยสำหรับใครที่สนใจทางด้านนี้เชิญได้เลยจ้า จากคุณ : ยัยสำอาง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:29:48

ความคิดเห็นที่ 11 สถานีที่ 7 >>> “ร้าน Pizza ต้นไม้” ครั้งหนึ่งนานมาแล้วได้เคยอ่านกระทู้ในพันธุ์ทิพย์แล้วก็คิดว่าต้องมาลิ้มลองให้ได้ ร้านนี้เป็นของพี่เอ้ รงค์ สุภารัตน์ ผู้ที่ขับร้องเพลงห้องสุดท้าย ที่ทำให้ใครหลอนไปหลายต่อหลายคน แต่กว่าจะมาถึงถามทางแล้วถามอีก ร้านเข้าไปค่อนข้างลึก ถ้าเข้าทางหลังวัดจอมทองจะต้องผ่านสถานปฏิบัติธรรม อ่างเก็บน้ำ แต่ถ้าเข้าอีกทางตรงสี่แยกไฟแดงก็จะผ่านป่าแพะ ถนนลูกรัง แต่เมื่อมาถึงแล้วก็ทำให้หายเหนื่อยเลยที่เดียว เพราะบรรยากาศร้านเงียบสงบมาก ร่มรื่น เย็นสบาย เลยคิดว่าวันอาทิตย์ร้านปิดแต่ที่ไหนได้ลูกค้ายังไม่เข้า 555+ แต่พิซซ่าของร้านนี้ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังจริงๆ เราจะไม่โอ้อวดสรรพคุณจนกว่าคุณจะได้ไปลองเองแล้วค่อยเอาประสบการณ์มาแบ่งปันกัน สำหรับราคาก็กันเองสมน้ำสมเนื้อ สมกับราคาคุยจริงๆ อิอิ จากคุณ : ยัยสำอาง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:30:11

ความคิดเห็นที่ 12 สถานีที่ 8 >>> “Small Farm” หลังจากอิ่มหนำสำราญกับพิซซ่าหน้าเธอกันเรียบร้อยแล้ว ก็ขับรถย้อนกลับไปทางเส้นที่ขึ้นไปทางดอยอินทนนท์ ได้ยินชื่อเสียงของ Small Farm มาได้ระยะหนึ่งแล้วว่ามีฟาร์มเลี้ยงสัตว์สไตล์คาวบอยอยู่ก็เลยอยากไปดู ระยะทางไม่ไกลมาก พอมาถึงแล้วก็ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว ลักษณะเป็นฟาร์มเล็กๆ แต่ครบครันไปด้วยบรรยากาศชีวิตฟาร์มที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาใหญ่ที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ทำเลที่ตั้งก็โดดเด่นไปด้วยต้นตาล แนวรั้วสีขาว กังหันลมธรรมชาติ โรงนา รวมไปถึงสัตว์นานาชนิด โดยภาพรวมแล้วทำให้ได้อารมณ์แบบบ้านไร่ และวิถีชีวิตคาวบอยอย่างแท้จริง แต่งานนี้ต้องเสียค่าเข้าชมนะค่ะ คนละ 50 บาท แต่สามารถเอาคูปองไปแลกขี่ม้า นั่งรถม้าชมฟาร์ม และยังนำไปแลกเครื่องดื่มได้ แต่พวกเราไม่รู้เลยว่ามีสิทธิประโยชน์เหล่านี้ด้วย เพราะมาถึงก็มัวแต่เดินๆๆ ถ่ายรูปๆๆ นู้น นี่ นั่น กว่าจะรู้ก็จะกลับละเอาไว้โอกาสหน้ามาใหม่ไม่พลาดขี่มาแน่นอน!! จากคุณ : ยัยสำอาง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:30:47

ความคิดเห็นที่ 13 สถานีที่ 9 >>> “ชามุกหลังอำเภอ” เรากำลังจะกลับเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่แล้ว แต่ยังไม่จบทริปนะค่ะ เพราะพระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน ขอไปแวะดื่มอะไรเย็นๆ ก่อนกลับ ร้านอะไรก็ไม่รู้ ไม่ได้ถามชื่อ ตั้งอยู่แถวหลัง อ.สันป่าตอง (หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วย เพราะเริ่มจำผิดซอยแล้วหลังจากไปมาหลายที่) ถ้ามีโอกาสได้เดินทางมาทางสายใต้ของ จ.เชียงใหม่เมื่อไรก็จะต้องแวะซื้อชาไข้มุกร้านนี้ตลอด ด้วยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบดื่มชาอยู่แล้วถ้าได้ไข่มุกเพิ่มขึ้นมาก็ชอบกว่าเดิมเป็นสองเท่า 555+ จึงต้องไปซื้อก่อนกลับแต่....อีกแล้วครับ!! มาตอนเย็นทีไร มุกหมดทุกที ยังไงถ้ามีโอกาสก็แวะมาชิมได้นะค่ะ จากคุณ : ยัยสำอาง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:31:11

ความคิดเห็นที่ 14 สถานีที่ 10 >>> “Robinson Central Airport Chiang Mai” เกือบจบทริปแล้ว แต่ยังไม่อยากกลับบ้านขอแวะช้อปปิ้งหน่อยนะจ๊ะ!! 555+ ช่วงสิ้นปีเป็นช่วงเทศกาลแห่งการจับจ่ายใช้สอยจริงๆ สินค้าก็แข่งกันลดราคาเกือบทุกแบรนด์ จนแทบไม่มีโอกาสได้เก็บเงิน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อของฝาก ของพื้นเมือง ของที่ระลึก ที่นี้ก็รวมทุกสรรพสิ่งไว้หมดเลย “หมาใจดำ” ก็มีนะเออ จากคุณ : ยัยสำอาง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:33:04

ความคิดเห็นที่ 15 สถานีที่ 11 >>> “Warm up Café Chiang Mai” หิวๆๆๆ จะได้กลับบ้านแล้วแวะกินข้าวสักหน่อย สำหรับค่ำคืนนี้ก็คงต้องยาวไป ยาวไป อีกเช่นเคย สำหรับนักท่องเที่ยวถ้าเกิดจะมาให้ถึงเชียงใหม่เห็นมีแต่คนแนะนำที่นี่ เอ้อ!! ก็ถือว่าโอเคน่ะ ลองมากันดูนะจ๊ะ รับประกันความมันส์ แบบไม่ไล่ไม่เลิกแน่นอน!! จากคุณ : ยัยสำอาง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:33:32

ความคิดเห็นที่ 16 จบทริปแล้วจ้า กลับบ้านโดยสวัสดิภาพ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชมนะค่ะ ถ้าใครกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวแบบครบวงจรอยู่ละก็ “เชียงใหม่” ช่วยท่านได้ ยังไงก็ฝากไว้ เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า กระทู้แนะนำเขาทำกันยังไงเหรอค่ะ ช่วยลองทำให้ดูหน่อยสิ รักนะ กรึบ กรึบ จากคุณ : ยัยสำอาง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:34:37

ความคิดเห็นที่ 17 แวะมาชมนะครับ จากคุณ : stupidine เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 20:51:59

ความคิดเห็นที่ 18 มาขอชมด้วยคนจ้ะ จากคุณ : อ้วนน้อยศิษย์เจ้าแม่ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:55:57

ความคิดเห็นที่ 19 ได้เลยค่ะ จากคุณ : ยัยสำอาง เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 15:11:48

ความคิดเห็นที่ 20 รีวิวน่ารักจังเลยค่ะ อ่านแล้วรู้สึกเป็นเพื่อนสนิทกะสาว 3ส เรย จากคุณ : GABINL เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 22:41:15