ความคิดเห็นที่ 1 ไม่อยากให้สร้างเลย แบบนี้อ่ะดีแล้ว ถือเป็นเสน่ห์ ของพี่ภู เลยนะคะ เรื่องเดินขึ้นเนี่ย จากคุณ : tikhot เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 15:23:35

ความคิดเห็นที่ 2                                                  NO จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 15:31:30

ความคิดเห็นที่ 3 ลูกหาบ ต่อไปจะไปทำอาชีพอะไรครับ ไม่ตรึกตรองตรงนี้ดูบ้าง จากคุณ : แอ๊บแบ๊ว เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 15:33:58 A:125.27.127.158 X: TicketID:294750

ความคิดเห็นที่ 4 หนึ่งในเสน่ห์ และเสียงเล่าขาน คือการขึ้น-ลง เพราะว่าข้างบนเองก็ไม่ต่างจากอุทยานอื่นที่รถถึงมากนัก....คนที่เคยขึ้นแล้วคงรู้ดีว่าควรสร้างหรือไม่ จากคุณ : heang เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 16:48:35

ความคิดเห็นที่ 5 ขอให้รัฐชี้แจงรายละเอียดโครงการก่อนดีกว่าครับ ขึ้นที่ไหน ไปทางไหน ลงที่ไหน ละค่อยมาว่ากัน แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 17:05:35 จากคุณ : jikkaloman เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 17:05:26

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่เห็นด้วยค่ะ เนื่องจากเสน่ห์ของภูกระดึงคือการได้พิชิตภู ลำบากก่อนจะได้สัมผัสความงามตามธรรมชาติ "ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง" จากคุณ : นับหนึ่งไม่ถึงสิบ เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 17:34:28

ความคิดเห็นที่ 7 ทำลายเข้าไป ธรรมชาติ ดีๆ น้ำท่วม ขี้นมา ก็ไม่ต้องถามสาเหตุ จากคุณ : is_หนุ่ม เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 17:51:54

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่เห็นด้วย 1. นิสัยคนไทยบางส่วนไม่มีระเบียบ วินัย ไม่มีจิตสำนึกต่อส่วนรวม  ทิ้งขยะไม่เป็นที่ สร้างกระเช้าให้คนไปง่ายๆแบบนั้น  รับรองขยะเกลื่อนภูกระดึงแน่ๆ ใครลากสังขารขึ้นภูไม่ไหว  ก็ไม่ต้องไป 2. การสร้างกระเช้า  ก็ทำให้การสร้างงานในท้องถิ่นเช่น การเป็นลูกหาบแบกของหมดไป ไม่สร้างอ่ะดีแล้ว  คนในพื้นที่จะได้มีงานทำ 3.  เสน่ห์ของภูกระดึงคือการได้เดินขึ้นเขาเอง จากคุณ : CCE9PASS เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 18:36:30

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าสร้างให้รบกวนธรรมชาติน้อยมาก ก็น่าทำครับ เด็ก คนแก่ คนพิการได้ขึ้นไปชมธรรมชาติบ้าง ไม่ได้เหรอไง อย่าเห็นแก่ตัวชื่นชมแค่กลุ่มเดียวสิจ๊ะ เด็ก ๆ ตอนสร้างเขาไม่ได้ตัดถนนตรงขึ้นเขาแบบนั้นนะครับ แบบนั้นก็คงไม่เห็นด้วย มันมีเทคนิคการสร้างของมันอยู่ จากคุณ : เต่าน้อย/taonoi_@hotmail.com (เต่าน้อย) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 18:37:41

ความคิดเห็นที่ 10 รักษาธรรมชาติบ้าง เค้าก็ไม่ได้ห้ามที่จะให้ขึ้นไป อยากไปก็ไปเองสิ ไม่ต้องเรียกร้องเอาเงินภาษีของประชาชนไปสร้างกระเช้าให้ตัวเองได้ชื่นชม      อย่าเห็นแก่ตัวสิจ๊ะ หนูน้อย ป่าจะหมดเมืองไทยแล้ว จากคุณ : ยืมล็อกอินเค้ามา (จอมยุทธ์น้อยเฉาเฉ่า) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 19:41:42

ความคิดเห็นที่ 11 คนที่ห่วงลูกหาบ ถามเค้าบ้างรึป่าวว่าอยากเป็นลูกหาบรึป่าว อย่ามั่วไปคิดว่าตัวเองเจริญสูงส่งอะไร คนที่นั่นเค้าอยากให้พัฒนาบ้างอะไรบ้าง เค้าได้ได้อยากทำอาชีพลูกหาบ ถ้ามีคนมาเที่ยวเป็นอีกกลุ่มนึง เค้าก็อยากปรับเปลี่ยนไปทำสินค้าหรืองานอย่างอื่น ส่วนกลุ่มที่ไปเดินเนี่ย คนแถวนั้นจริงๆเค้าไม่ได้อยากได้หรอกนะ นักศึกษาเป็นส่วนใหญ่ แต่ละคนใช้จ่ายน้อย เค้าที่นั้นเค้าอยากได้คนทำงาน คนที่มีรายได้ เค้าจะได้ไปทำอาชีพอื่นไม่ใช่ตะบันเป็นลูกหาบชั่วลูกชั่วหลาน อย่าไปมั่วทำตัวสูงส่งให้เค้าเป็นลูกหาบตลอดชีวิต ส่วนถ้ามีกระเช้าแล้วพวกที่เดินน้อยลงไป ยิ่งเยอะยิ่งดี หายไปหมดยิ่งดี แล้วจำนวนไปลงที่กลุ่มคนทำงาน คนมีอายุยังจะดีกว่า เพราะคนพวกนี้ไม่เน้นค้างคืน ไม่เดินไกล เน้นไปกลับ ไม่กินเหล้า ไม่ถ่ายปัสสวะ,อุจาระ บนนั้น อย่าแสดงความสูงส่งอะไรเลย ถามคนที่นั่นรึป่าวว่าเค้าอยากเป็นลูกหาบมั้ย จากคุณ : ตามนั้น เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 20:35:22 A:171.7.111.188 X: TicketID:323196

ความคิดเห็นที่ 12 อย่าาาาาาาาาาาา สร้างงงงงงงงงงงง เลยยยยยยยยยย จากคุณ : เขียนบน iPhone (jink_ja) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 20:50:25

ความคิดเห็นที่ 13 อยากให้สร้างครับ อยากพาลูกๆกับพ่อที่เป็นอัมพฤกษฺ์ขึ้นไปบาง สิบปีก่อนพ่อพาผมเดินและปีนขึ้นไปครับ อยากพาพ่อไปสัมผัสอากาศบรรยากาศเก่่าๆ เพราะเวลาของท่านเหลือไม่มากแล้วครับ จากคุณ : ศรัทธาชาวสวน เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 22:06:41

ความคิดเห็นที่ 14 ตอนที่ได้ยินครั้งแรกว่าจะสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง รีบหันไปบอกลูกเลยว่า เราจะได้ไปภูกระดึงแล้วลูก ตอนเรียนหนังสือไม่มีโอกาสได้ไป พอเริ่มทำงาน วันหยุดก็ไม่ค่อยได้หยุด พอมีครอบครัวจะพาลูกไปก็จะไปยังไงหว่าไหนจะ ข้าวของไหนจะลูก ใจนะอยากไปแต่ไม่อยากกระเตงลูกขึ้นเขาเห็นด้วยนะที่ จะให้สร้างกระเช้า  เหมือนดอยสุเทพ ใครจะขึ้นลิฟท์ก็ขึ้นใครจะเดินเท้าขึ้น เองก็เลือกเอา ^^ สร้างนะ...สร้างเถอะ อยากไปภูกระดึงจริงๆ นะ จากคุณ : ก็โลกมันหนาว เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 23:45:59

ความคิดเห็นที่ 15 คห.14 เป็นอีกตัวอย่างนึงที่ชัดเจนนะว่าควรสร้าง ไม่ใช่เพราะคนอื่นร่างกายหรือใจไม่แกร่ง แต่เค้ามีภาระหน้าที่ ทำงานส่งเสียลูกเรียน ดูแลครอบครัว ลูกบางคนก็ขอเงินพ่อ ขอเงินแม่ ไปพิชิตภูกระดึง พ่อแม่เค้าก็ทำงานหาเงิน พอลูกไปเที่ยวภูกระดึงมา ถึงคราวรุ่นพ่อรุ่นแม่แก่ตัวลงเพิ่งจะมีเวลา อยากไปบ้าง รุ่นลูกๆบอกเฉยเลยว่า ทัวร์อาม่า พวกกลุ่มคนชรา ไม่ไหวก็อย่าเสนอหน้าไปสิ พวกที่สมัยเป็นนักศึกษาแล้วขอเงินพ่อแม่ไปพิชิตภูกระดึง พวกคุณควรรู้จักละอายบ้าง อย่าใจแคบยึดติดแค่รูปถ่ายป้ายอันเดียวเลย จากคุณ : ตามนั้น เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 00:20:13 A:171.7.111.188 X: TicketID:323196

ความคิดเห็นที่ 16 สมัยเรียนก็ขอเงินพ่อแม่ไปเที่ยวภูกระดึง ตอนนี้ทำงานแล้ว เอาเงินตัวเองไปเที่ยวภูกระดึง เวลาจะตอบแทนคุณพ่อแม่ ก็พาไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปไหว้พระที่อยุธยา ไปเที่ยวเกาะ เที่ยวทะเลที่ตราด หัวหิน ชะอำ บางแสน ภูเก็ต เที่ยวดอนหอยหลอด ปากช่อง พระปฐมเจดีย์ ไปลาวเที่ยววังเวียง หลวงพระบาง ฯลฯ ตอนนี้แม่ก็เป็นอาม่าแล้ว บอกว่าอยากไปภูกระดึงเพื่อระลึกความหลังเหมือนกัน กำลังจัดทริปพาแม่ไปภูกระดึงปีหน้านี้แหละ แม่บอกว่ายังเดินไหว แต่ไอ้เราน่ะไม่แน่ใจเท่าไหร่เลยกะจะให้แม่นั่งเสลี่ยง (ไม่รู้แม่จะเขินรึเปล่า อาจจะไม่ยอมนั่งก้อได้) ขึ้นไปแล้วคงต้องจัดโปรแกรมเบาๆ หน่อย เพราะแม่อายุมากแล้วไม่อยากให้เดินรอบใหญ่ คงต้องค่อยๆ เที่ยวไปวันละนิดแบบไ่ม่รีบร้อน จะตอบแทนคุณพ่อแม่ที่แก่ชราทั้งที ไม่เห็นจะต้องรอให้มีกระเช้าก่อนเลย จากคุณ : นกน้อยในสวนม่วง เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 00:47:39

ความคิดเห็นที่ 17 คห.16 แสดงว่าไม่รู้จริง คนอายุมากเอาท่านไปนั่งโยกเยกบนเสลี่ยงมากๆไม่ได้ ยิ่งซำ สุดท้าย 80-90องศายิ่งไม่ได้ใหญ่เลย อันตรายมาก แค่ความกดอากาศอย่างเดียวก็แย่แล้ว ไหวจะเวียนหัวนั่งโยกเยก 4-5 ชั่วโมงก็เหมือนนั่งเรือนั่นแหละคนหนุ่มสาวยังอ้วกเลย ใครคิดจะให้ผู้ใหญ่ไปนั่งโยกไปโยกมา ก็ต้่องไตร่ตรองให้ดี คนแก่ระบบหายใจหรือเลือดลมไม่เหมือนคนหนุ่มสาวนะ จากคุณ : ตามนั้น เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 02:45:41 A:27.130.169.33 X: TicketID:323196

ความคิดเห็นที่ 18 ขออีกนิดนึง คห.16 ถ้าส่วนตัวคุณจะเอาคุณพ่อหรือคุณแม่ ไปนั่งเสลี่ยงก็คงไม่มีใครค้าน แต่เอามาโพสแบบนี้ หากใครนำไปทำอันตรายมากนะ คนเชื่อสัก10 ราย แล้วเกิดมีปัญหาแค่รายเดียวก็ไม่เหมาะสมแล้ว จะสนับสนุนหรือค้านกระเช้าอะไรก็ทำเถอะ แต่อย่างออกความเห็นให้คนอายุมากๆไปนั่งโยกไปโยกมาบนเสลี่ยง 5-6 ชั่วโมงแบบนั้นเลย เกิดอันตรายขึ้นมาระหว่้า่งทาง ยาดมอย่างเดียวช่วยชีวิตคนไม่ได้หรอก จากคุณ : ตามนั้น เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 02:52:13 A:27.130.169.33 X: TicketID:323196

ความคิดเห็นที่ 19 ความคิดเห็นที่ 5 ขอให้รัฐชี้แจงรายละเอียดโครงการก่อนดีกว่าครับ ขึ้นที่ไหน ไปทางไหน ลงที่ไหน ละค่อยมาว่ากัน แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 17:05:35 จากคุณ : jikkalomanฃ ************ เห็นด้วยกะคห. 5 นะ  .. ไหนลองเอาโครงการเต็มๆมากางให้ประชาชนดูซิ  สร้างจากไหนไปไหน สร้างยังไง บริหารยังไงให้คุ้มทุน งบมาจากไหน ...  เห็นแต่กระสันต์อยากสร้าง นอกนั้นปิดเงียบ เอาคนแก่กับคนพิการมาเป็นข้ออ้าง.. การที่ทำกระเช้าแต่ก้เปิดให้เดินขึ้นเหมือนเดิม ป่าก็ยังเป็นป่าเหนือ-ใต้อย่างที่ท่านอธิบดีว่าเหมือนเดิม แต่เพิ่มคนข้างบนภู ป่าข้างบนจะโดนรบกวนมากขึ้นจากจำนวนคน ในที่สุดสัตว์ข้างบนจะโดนไล่ออกไปหมด..   ทางเดินขึ้นก็ยังอยู่ แต่สัตว์ข้างบนหายไปหมด..   อยากรู้ว่ามันจะกลายเป็นสวนสุขภาพทางเดินวงกลม มีทางรถเข็น.. หรือเป็นรีสอร์ต..เก็นติ้งเมืองไทย..หรือเกาะนามิบนภูกระดึง? แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 54 08:56:08 แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 54 08:54:12 จากคุณ : WittyNakhon เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 08:41:14

ความคิดเห็นที่ 20 #17, 18 เรื่องที่โพสไป คือการเล่าสู่กันฟัง แชร์ประสบการณ์ของตนเอง ให้เห็นว่าถ้าอยากไปจริงๆ ก็ยังมีอีกทางเลือกหนึ่งนอกเหนือจากนั่งรอกระเช้า ซึ่งคนอ่านที่มีสติพิจารณา ก็คงจะนำไปประยุกต์กับสถานการณ์ของตนเองได้ ดังนั้น ใน #16 คุณจะพูดว่าเราไม่รู้จริงไม่ได้ค่ะ เพราะเราพูดเรื่องที่จะพาแม่ตัวเองไป ในขณะที่คุณต่างหากที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับแม่เรา นอกจากคำว่าคนแก่ (อายุ ความแข็งแรง สุขภาพ โรคประจำตัว ทัศนคติ การเตรียมตัว และการดูแลเอาใจใส่ของลูกหลาน ฯลฯ) การวิจารณ์ในสิ่งที่ตัวเองก็ไม่รู้ คนมีความคิดเขาไม่ทำกัน จากคุณ : นกน้อยในสวนม่วง เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 11:28:53

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่เห็นด้วยเลยคะ ถ้าคนแก่ไปไม่ไหวไม่ต้องไปภูกระดึงคะ ไปดอยอื่นๆ สวยกว่าสะดวกกว่า เพราะถ้าคุณเดินไม่ไหวขึ้นไปคุณก็จะเจอแต่ความผิดหวัง เพราะต้องเดินเที่ยวไม่ต่ำกว่า 10 กิโลต่อวัน จะนั่งวีลแชร์อะไรไป ไม่ทราบว่าจะไปยังไง ทางเป็นทรายเป็นหิน รากไม้ตลอดทาง ความสวยของภูกระดึงมันคือความลำบากนี่แหละ ถ้าอยากไปสบายไปที่อื่นคะ สวยกว่า คอนเฟิร์ม จากคุณ : It's me PanDy เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 11:47:38

ความคิดเห็นที่ 22 เชียงคานเสียความเป็นเชียงคานไปแล้วครับ ผมไม่อยากให้ภูกระดึงเดินตามรอยแบบนั้นเลย .....คนเลย.... จากคุณ : อสูรกายจำแลง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 01:15:07

ความคิดเห็นที่ 23 คห8- เคยนำขยะแบกลงมาหรือเปล่า เขียนดูดีมากเลย คห3,8 -ลูกหาบเค้ามีงานทำอยู่แล้ว แล้วไอ้ช่วงที่ปิดภู ลูกหาบก็อดตายสิครีบ คห1,4,6,8  - ได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น-ตกหรือเปล่าถ้าไปก็หรอกตัวเองแล้วละ เสหน์ไม่ได้อยู่ที่การเดินขึ้นแล้ว คห 22 เชียงคานเสียความเป็นเชียงคารเพราะใครละไม่ไช่พวกนักท่องเที่ยวหรือไง คห 17 เค้าจะสร้างเสลี่ยงขึ้นภูกระดึงหรือครับ งงงง คห10 รักธรรมชาติดีแต่พูดหรือเปล่าถ้ารักจริงก็ไม่ต้องไปเยียบมันเลยให้ธรรมชาติอยู่ตามธรรมชาติ และอีกอย่างเค้าสร้างเพื่อให้คนทุกเพศ,วัย,พิการ ไม่ใช้เพื่อคนคนเดียว จากคุณ : น้าสิบ (reactor) เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 15:51:53

ความคิดเห็นที่ 24 คห.20 เล่าสู่กันฟังเรื่องที่คุณเองก็ยังไม่เคยนั่งเสลี่ยง ส่วนผมเคยและมีผู้ใหญ่หลายคนเคยและก็เกิดปัญหาสุขภาพเป็นส่วนใหญ่เพราะร่างกายทนการโยกตลอด5-6ชั่วโมงไม่ไหว ในส่วนของคุณ คห.20 ก็ตามสบาย เพราะข้อมูลที่บอกไปก็ให้คนอื่นเค้านำไปพิจราณาว่าหากจะนำผู้ใหญ่อายุมากๆนั่งเสลี่ยง ไม่ได้ห้ามหรือเกี่ยวข้องถึงใครเฉพาะบุคคล ยิ่งเป็นภูกระดึง จะมีความเสี่ยงอะไรบ้าง และความเสี่ยงเป็นเรื่องของชีวิตคน หากจะบอกอะไรที่ไม่เคยนั่งหรือรู้จริงเพราะไม่มีประสบการณ์ ก็น่าจะเป็นเรื่องดีนะที่จะมีคนที่เค้ามีประสบการณ์จริงมาบอกถึงปัญหา ไม่ใช่เพียงจากคำบอกเล่าที่ไม่มีประสบการณ์ เกิดมีใครนั่งเสลี่ยงกลางทางเกิดป่วยหายใจไม่ออกกลางทาง เค้าจะได้รู้ว่าไม่ใช่เรื่อง่ายที่ความช่วยเหลือจะไปถึง ใครคิดจะเอาคนมีอายุมากหรือมีโรคประจำตัว นั่งเสลี่ยงก็ต้องระวังความเสี่ยงจุดนี้ไว้ดีกว่า ส่วน คห. 23 เค้าไม่ได้สร้างเสลี่ยงขึ้นภูกระดึงครับ มีเสลี่ยงอยู่แล้ว แต่ใน คห.16 เค้าเล่าว่าจะสามารถนำคนมีอายุนั่งเสลี่ยงขึ้นภูได้ ซึ่งผมก็จะบอกข้อมูลจริงไปว่ามีความเสี่ยงยังไง เสลี่ยงโยกไปมา ก็คล้ายกับนั่งเรือนั่นแหละ5-6 ชั่วโมง คนปรกตินั่งเรื่อ 3 ชั่วโมงก็เมาแล้ว 5-6ชั่วโมงกับอากาศที่ยิ่งสูงยิ่งน้อยมีความเสี่ยง เกิดอันตรายจะยิ่งช่วยเหลือยาก จากคุณ : ตามนั้น เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 23:11:45 A:14.207.240.176 X: TicketID:323196

ความคิดเห็นที่ 25 #24 นี่ท่าทางจะอ่านภาษาไทยไม่แตก แถมยังชอบทึกทักอะไรไปเองอีก อย่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานแคบๆ แล้วไปเที่ยวตัดสินคนอื่นสิคะ อธิบายอีกรอบเอาบุญละกัน 1) คุณไม่มีสิทธิบอกว่าเรา "ไม่รู้จริง" เพราะคุณไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเราและแม่ของเรา 2) คุณไม่มีสิทธิบอกว่าเรา "ไม่เคยนั่งเสลี่ยง" เพราะคุณก็ไม่รู้ว่าเราเคยนั่งหรือไม่ 3) คุณไม่มีสิทธิบอกว่าเราให้ "คำบอกเล่าที่ไม่มีประสบการณ์" เพราะคุณก็ไม่รู้ว่าเราเคยพาใครนั่งเสลี่ยงมาก่อนหรือไม่ แค่ 3 ข้อนี้ก็แย่แล้ว.... จากคุณ : นกน้อยในสวนม่วง เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 01:18:46

ความคิดเห็นที่ 26 คห25 นกน้อยในสวนม่วง สิทธิอะไรที่ว่า ทุกคนมีสิทธิทุกข้อที่คุณบอกมาเลยนะ ยกเว้นเรื่องมารดาคุณ เพราะก็บอกอยู่แล้วว่า อยากพาท่านขึ้นไปก็เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ผมไม่ได้สนใจอะไร คุณหรือครอบครัวนะ ลองอย่างหลายรอบนะที่บอกว่าคนอื่นไม่เข้าใจ ใน คห.25 ก็บอกแล้วนะว่าตามสบาย ส่วนเรื่องอื่นๆทุกคนมีสิทธินะ เพราะคนที่จะบอกได้ว่าใครมีสิทธิให้ข้อมูลอะไรหรือไม่ คือ webmaster ของบอร์ด์นี้ คุณนกน้อยในสวนม่วง ไม่เกี่ยว ต่างคนก็มีสิทธิเท่ากันในการโพส คุณ นกน้อยในสวนม่วง ต่างหากที่วุ่นวายกันสิทธิของคนอื่นเค้า เอาไว้ คุณ ทำงานเป็น web master ของบอร์ดนี้ก่อนแล้วค่อยเที่ยวไปบอกว่าใครมีสิทธิหรือไม่อย่างไร เพราะข้อมูลก็บอกชัดอยู่ใน คห.25 ว่าให้เป็นข้อมูลสำหรับคนอื่นๆทั่วไปนะ ใครจะทำอะไรล้วนเป็นสิทธิส่วนตัีว หากข้อมูลที่เตือนถึงความเสี่ยงบอกกันไม่ได้ ก็เป็นอติส่วนตัว การที่ข้อมูลตรงนี้ยังโพสได้ก็ชัดแล้วนะว่า สิทธิของทุกคนนั้นมี คุณมีหน้าที่โพสความเห็นของคุณเท่านั้น เรื่องสิทธิของใครเป็นเรื่องของ web master คุณไม่เกี่ยว จากคุณ : ตามนั้น เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 13:33:46 A:27.130.134.83 X: TicketID:323196

ความคิดเห็นที่ 27 #26 มั่วละ แถไปเรื่อยนะ สรุปว่าคุณ "มีสิทธิที่จะพูดส่งเดชอะไรก็ได้ในเรื่องที่ตัวเองไม่รู้" สินะ ย้อนกลับไปอ่าน 3 ข้อใน #25 ให้ดีๆ ก่อนเถอะว่ามันหมายความว่าอย่างไร คนอย่างคุณ ไม่ได้เข้าใจคำว่าสิทธิและหน้าที่จริงๆ หรอกค่ะ จากคุณ : นกน้อยในสวนม่วง เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 15:54:03

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ นกน้อยในสวนม่วง ไม่รู้ระรับความคิดของคุณมีแค่ไหนนะ ก็บอกย้ำชัดๆแล้วว่าไม่เกี่ยวกับคุณ เป็นเรื่องของข้อมูลที่เอาไว้ให้คนอื่น สรุปนั่นสรุปนี้เอาเอง ถ้ายังอ่านความเห็นชัดๆว่าไม่เกี่ยวกับ คุณนกน้อยในสวนม่วง ก็อย่ายุ่งเรื่องสิทธิของคนอื่นเลย ก็อธิบายชัดๆแล้วว่าให้เป็นข้อมูลเพื่อคนอื่นๆใน คห.24 ก็สรุปจบแล้ว ข้อมูลให้คนทั่วไปเอาไว้พิจารณา สำหรับคนที่เค้าใส่ใจผู้ใหญ่ที่เค้ารัก จะได้ไม่ตัดสินใจอะไรไม่รอบคอบเอาผู้ใหญ่ไปนั่งเสลี่ยง 5-8 ชั่วโมงมีความเสี่ยง ซึ่งไม่เกี่ยวกับคุณ จากคุณ : ตามนั้น เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 21:01:18 A:27.130.120.172 X: TicketID:323196

ความคิดเห็นที่ 29 #28 ไม่เกี่ยวกับเราเหรอคะ งั้นคุณลองตอบคำถามง่ายๆ ก่อนนะ 1) ในคห. 17 คุณบอกว่าเรา "ไม่รู้จริง" ใช่หรือไม่? 2) ในคห. 24 คุณบอกว่าเรา "ไม่เคยนั่งเสลี่ยง" ใช่หรือไม่? 3) ในคห. 24 คุณบอกว่าคำบอกเล่าของเรา "ไม่มีประสบการณ์" ใช่หรือไม่? กล้าตอบว่าใช่ทั้ง 3 ข้อไหม? มาว่าเราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเราเลย พอเราทักท้วงก็บอกว่าเป็นสิทธิในการโพสของคุณ ใช้อะไรคิดคะ? ถึงบอกไงว่าคุณไ่ม่เข้าใจเรื่องสิทธิและหน้าที่จริงๆ หรอก จากคุณ : นกน้อยในสวนม่วง เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 21:52:27

ความคิดเห็นที่ 30 คห. 29 นกน้อยในสวนม่วง สิทธิที่จะโพสก็อย่างที่เห็นว่ามีเต็มที่ ไม่ว่าข้อความอะไรก็บอกอยู่แล้วว่าสำหรับคนทั่วไป ไม่เกี่ยวกับใครเฉพาะใน คห.24 ก็บอกชัด ไม่เกี่ยวกับคุณ ส่วนการที่โพสอยู่ตรงนี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ชัดแล้วว่าสิทธิถูกต้องแล้ว ถ้าไม่มีสิทธิ ก็คงไม่ได้โพส ซึ่งสิทธิตรงนี้คุณไม่มีสิทธิตัดสินได้ หน้าที่คือให้ข้อมูลเท่าๆกับ 1 สิทธิ หน้าที่ระงับสิทธิหรือจะให้ใครไม่มีสิทธิ ไม่เกี่ยวกับคุณ น่าจะอ่านภาษาไทยออกนะว่าการยุ่งเรื่องของสิทธิคนอื่น แปลว่าอะไร จากคุณ : ตามนั้น เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 11:57:54 A:14.207.172.99 X: TicketID:323196

ความคิดเห็นที่ 31 #30 ตกลงคำถามใน #29 คุณกล้าตอบว่าใช่ทั้ง 3 ข้อไหม? จากคุณ : นกน้อยในสวนม่วง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 12:03:11

ความคิดเห็นที่ 32 ก็ต้องมาย้ำให้ คุณ นกน้อยในสวนม่วง นะว่าสิทธิต่างๆของใครแต่ละคนคุณจะเข้ามายุ่งไม่ได้ รู้เรื่องรึป่าว? หน้าที่ให้ข้อมูลการถกเถียงเป็นเรื่องปรกติ คุณไม่มีสิทธิห้ามสิทธิหรือบอกว่าใครไม่มีสิทธิ เข้าใจข้อนี้ให้ชัดเจนก่อนนะ ทั้งๆที่ก็บอกชัดเจนมากๆไปแล้วว่าไม่เกี่ยวกับคุณ ยุ่งเรื่องสิทธิของคนอื่นเค้า แปลว่าอะไรก็น่าจะรู้ จากคุณ : ตามนั้น เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 15:09:46 A:27.130.182.85 X: TicketID:323196

ความคิดเห็นที่ 33 ตกลงกล้าตอบว่าใช่ทั้ง 3 ข้อไหมคะ แล้วมันไม่เกี่ยวกับเราได้อย่างไรคะ #32 คุณไม่มีสิทธิห้ามสิทธิหรือบอกว่าใครไม่มีสิทธิ <= แล้วทำไมคุณถึงมีสิทธิมาห้ามเราล่ะเออ งงกับตรรกะของคุณจริงๆ บอกแล้วว่าคุณยังไม่เข้าใจเรื่องสิทธิและหน้าที่หรอก จากคุณ : นกน้อยในสวนม่วง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:03:54

ความคิดเห็นที่ 34 คุณ นกน้อยในสวนม่วง ไม่เห็นว่าจะห้ามตรงไหนเลยนะ เชิญตามสบายเป็นสิทธิของคุณ และไม่เห็นต้องมาบอกอะไร ไม่ได้สนใจอะไรอยากโพสอะไรก็ได้ตลอดอยู่แล้วนี่นา ย้ำอีกนะว่าไม่เกี่ยวกับคุณ บอกใน คห.18 กับ 24 ชัดแล้ว เป็นเรื่องของการระวังคนที่จะเอาคนแก่นั่งเสลี่ยง เป็นเรื่องเสี่ยงจนอาจกลายเป็นเรื่องโง่ๆของใครอีกหลายคนได้ เลยบอกไว้ให้ระวังไว้เพราะชีวิตคนบางครั้งอาจพลาดทำเรื่องโง่มากๆได้โดยไม่รู้ตัว ...ไม่เกี่ยวกับคุณ จากคุณ : ตามนั้น เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 20:14:52 A:27.130.182.85 X: TicketID:323196

ความคิดเห็นที่ 35 คุณพูดถึงเราตั้ง 3 เรื่อง แล้วไม่เกี่ยวกับเราได้อย่างไรคะ? คำถามของเราใน #29 ไงคะ รอนานแล้วนะเมื่อไหร่จะตอบ? ใน #32 คุณบอกว่า "คุณไม่มีสิทธิห้ามสิทธิหรือบอกว่าใครไม่มีสิทธิ" นี่คือคุณใช้สิทธิของคุณมาก้าวก่ายบอกว่าเราไม่มีสิทธิ ใช่หรือไม่คะ? จากคุณ : นกน้อยในสวนม่วง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 21:46:37

ความคิดเห็นที่ 36 คุณ นกน้อยในสวนม่วง ก็ต้องย้ำอีกว่าเป็นเรื่องของข้อมูลที่ให้คนทั่วไป ไม่เกี่ยวกับคุณแม้แต่น้อยตอบครั้งที่เท่าไหร่นับเอาเอง เป็นเรื่องที่ต้องระวังความเสี่ยงจะได้ไม่เกิดเรื่องโง่ๆ จากความรู้เท่าไม่ถึงการหรือเพราะความคิดโง่จริงๆ ตอบชัดเจนอีกครั้งว่าไม่เกี่ยวกับคุณ นกน้อยในสวนม่วง ไม่ตอบแล้วนะ เพราะถ้าตอบก็ย้ำคำเดิมอีก ถ้าถามอีกก็ขึ้นไปอ่านความเห็นเดิมที่บอกไว้นะ ไม่ชอบคุยอะไรซ้ำๆโง่ๆ จากคุณ : ตามนั้น เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:34:49 A:27.130.147.94 X: TicketID:323196

ความคิดเห็นที่ 37 #36 ตอบไม่ได้สินะ งั้นจะสรุปให้ 1) ในคห. 17 คุณบอกว่าเรา "ไม่รู้จริง" เรื่องการนั่งเสลี่ยง 2) ในคห. 24 คุณบอกว่าเรา "ไม่เคยนั่งเสลี่ยง" 3) ในคห. 24 คุณบอกว่าคำบอกเล่าของเรา "ไม่มีประสบการณ์" ทั้ง 3 ข้อ เกี่ยวข้องกับเราโดยตรง แต่คุณกลับยืนยันว่าไม่เกี่ยว พอถามตรงๆ ชัดๆ ก็ยังแถไปข้างๆ คูๆ แบบนี้ถ้าไม่โง่ก็แสดงว่าตรรกะป่วยจนเกินเยียวยาแล้วหละ จากคุณ : นกน้อยในสวนม่วง เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 00:12:28

ความคิดเห็นที่ 38 หลังจากมี กระเช้าขึ้นภูกระดึงแ​ล้ว จากนั้นอีกไม่นาน ตำนานความประทับใจ ในการเดิน​เท้าขึ้นภูกระดึง จะกลายเป็นเพียงเรื่องเล่าสู่กันฟัง คนรุ่นหลังจากนี้ จะมีความประทับใจกับภูกร​ะดึง ได้ลึกซึ้งอย่างที่คนรุ่นนี้และคนรุ่นก่อนได้ประสบ​พบมาแต่ไหน เสน่ห์ของธรรมชาติบนภู​กระดึง จะไม่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว​ ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างไปจ​าก ทุ่งหญ้าป่าสน วิวริมหน้าผา ที่ ภูหลวง ภูเรือ ภูหินร่องกล้า น้ำหนาว และทุ่งแสลงหลวง อยากรู้เหมือนกันว่า ถ้าเมื่อ 25 ปีก่อน มีกระเช้าขึ้นภูกระดึงแล้ว ความรู้สึกที่มีต่อธรรมชาติ​บนภูกระดึงของคนรุ่นปัจจุบั​นนี้ จะเป็นอย่างไร จะลึกซื้ง จะผูกพันได้เท่านี้ห​รือเปล่า สำหรับตัวผมเองแล้ว ต้องขอขอ​บคุณ คนรุ่นก่อนๆ ที่ร่วมคัดค้านการสร้างกระเ​ช้าขึ้นภูกระดึง เอาไว้ได้ ทำให้ภูกระดึง ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น สร้างคุณค่าให้กับผู้คน จำนวนมากมาย ที่ไ​ด้มาสัมผัสธรรมชาติบนภูกระดึง จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ จากคุณ : ระมาด เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 06:30:20