ความคิดเห็นที่ 1 อะพิมม์ยังไม่เสร็จเผลอกดส่งไปก่อน ต่อนะครับ พอถึงตอนกลางคืนสิ้นปีก็ตามที่ท่องเที่ยวทั่วไป มีการยิงพลุกันมากมายทุกรีสอร์ท โคมก็ลอย กันเต็มท้องฟ้า สวยงามมากเห็นแล้วประทับใจ ขณะที่กำลัง ชื่นชมพลุอยู่นั้นก็ได้ยินคนตะโกนว่าไฟไหม้ เราก็หันไปดู ก็เห็นว่ามีควันและไฟกำลังไหม้อยู่ห่างจากที่กางเตนท์ ประมาณ 50 เมตร จากคุณ : เหมียวน้อย มู๊ด..มู๊ด เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 14:08:00

ความคิดเห็นที่ 2 เวรกรรม จากคุณ : น้องวัวลาย เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 14:16:15

ความคิดเห็นที่ 3 ทีนี้ก็โกลาหลแล้วละสิ เพราะจากตอนแรกเห็นเป็นกลุ่มไฟเล็กๆ มันเริ่มใหญ่ขึ้นๆ คนที่กางเตนท์อยู่ตรงนั้นก็ตกใจกันแล้ว เริ่มมีการคุยกันว่าจะอพยพหนีออกจากที่กางเตนท์ จะขับรถหนีออกแล้ว แต่การจะเอารถออกก็ยากมากเพราะ คนมาจอดรถปิดทางกันเต็มไปหมด รถผมก็เป็นคันแรกที่ปิดทางออกอยู่ พี่ที่อยู่เตนท์ข้างๆก็เริ่มประกาศให้ขยับรถออกหนีกันได้แล้วเพราะไฟมันเรื่มลามใหญ่มาก ตอนนั้นก็เรื่มวุ่นวายกันแล้ว เด็กๆที่อยู่แถวนั้นก็ร้องไห้กลัวกันใหญ่ เพิ่งได้รู้อารมณ์หนีตายก็คราวนี้แหละครับ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ช่วยกันขยับรถแล้วก็ค่อยๆออกมาทีละคัน ตอนที่ผมขับออกมา ก็เห็นคนจากรีสอร์ทข้างๆเรื่มหนีเหมอืนกัน แล้วก็เห็นพนักงานเดินต่อสายยางไปเพื่อจะไปดับไฟ ข้างบนก็ยังสนุกสนานยิงพลุกันต่อไป ไม่ตกใจกันเลย ได้ยินเค้าพูดกันว่าไม่ต้องกลัวไหม้กันทุกปี เค้าทำคันดินกั้นไว้แล้ว ถางหญ้ารอไว้ไม่ลามมาถึงหรอก แต่ตอนนั้นผมไม่สนแล้วละว่าจะเอาอยู่รึป่าวมันใกล้มาก จากคุณ : เหมียวน้อย มู๊ด..มู๊ด เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 14:16:25

ความคิดเห็นที่ 4 พอออกมาได้ก็ขับหนีต่อไปสักกิโล ก็ไปพักตรงสถานีตำรวจตรงเขาค้อ เจอพี่ที่กางเตนท์อยู่แถวนั้นก็เล่าให้เค้าฟังว่าไฟไหม้ แล้วก้คุยกับเค้าสักพัก เวรกรรม หันไปดูขวามือ ก็เห็นไฟไหม้อีกจุดเหมือนกัน พี่ที่กางเตนท์อยู่แถวนั้นก็ตกใจดิ ตื่นมาเฝ้าระวังกันใหญ่ ยังดีที่ผ่านไปสักพักมันก็ดับไปเอง ผมก็รอจนถึงตีสองถึงได้กลับไปที่ที่พักดูสถานการณ์อีกที พอไปถึงถามพี่ตำรวจ ก็รู้ว่าเค้าดับได้แล้ว พี่เค้าก็บอกว่า ทางรีสอร์ทเตรียมรถน้ำไว้แล้วแต่ตอนนั้นไม่รู้คนขับรถไปไหน พอเห็นว่าดับได้แล้วผมกก็ขับรถลงไปที่จุดกางเตนท์ จากที่เคยมีเตนท์เยอะแยะ เหลือกางกันอยู่ แค่ห้าหกหลัง ทุกคนที่อยู๋ที่นั้นก็ยังดูตื่นเต้นกันอยู่ จับกลุ่มคุยกันเรื่องไฟไหม้ บางคนก็นอนไม่หลับทั้งคืนเพราะไม่รู้ว่ามันจะมีไฟไหม้อีกเมื่อไหร่ จากคุณ : เหมียวน้อย มู๊ด..มู๊ด เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 14:22:44

ความคิดเห็นที่ 5 โห .. ถ้าเป็นอย่างในภาพ คห.3 ผมก็เผ่นล่ะครับ   เล่นอะไรเล่นได้  น้ำกับไฟ เนี่ย ห้ามท้าทาย จากคุณ : 3/1 (สามทับหนึ่ง) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 14:23:40

ความคิดเห็นที่ 6 โหวต ให้ก่อนค่ะ ปล่อยโคมเหมือนปล่อยเคราะห์ แต่กลายเป็นสร้างเคราะห์ให้คนอื่นเนี่ยไม่ไหวเหมือนกันนะคะ จากคุณ : Pun-Pun Mania เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 14:26:14

ความคิดเห็นที่ 7 น่าจะที่เดียวกับน้องสาว น้องโทรมาเล่า บอกว่ายังโชคดีที่ลมพัดควันไปอีกด้าน ไม่งั้นนอนไม่ได้แน่ แถมไฟไหม้ขนาดนั้น เต้นท์ข้าง ๆ ยังปล่อยลูกเล่นพลุ ดอกไม้ไฟอยู่เลย พ่อแม่มันแน่มาก พอเช้าน้องสาวเลยรีบเก็บของกลับ บอกว่าไม่ไหว กลัว! จากคุณ : มนอุ๊งอิ๊ง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 14:27:45

ความคิดเห็นที่ 8 ตื่นเช้ามาก็ไปถามดูกับที่รีสอร์ทว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ได้ยินมาว่าเมื่อคืนมันไหม้เพราะมีโคมลอยไปติดตรงหญ้า แล้วก็สะเก็ดพลุที่จุดกันแถวนั้น อันนี้เป็นรูปบริเวณที่ไฟไหม้เมื่อคืน จากคุณ : เหมียวน้อย มู๊ด..มู๊ด เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 14:28:17

ความคิดเห็นที่ 9 ตามกระแส......อากาศแห้งๆๆๆ....ถ้าลมแรง ๆๆๆๆ... ด้วยละก้อ....นึกภาพไม่ออก....คิดแต่สนุก จากคุณ : onfly เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 14:32:50

ความคิดเห็นที่ 10 เราชอบโคมลอยสวยดีเวลาฟ้ามืด อยากลองปล่อยสักครั้งเหมือนกัน แต่ก็กลัวเรื่องไปติดตามบ้านเรือนและไฟไหม้นะแหละ คิดเอาไว้แล้วว่าถ้ามีโอกาสจะไปปล่อยโคมลอยแถวริมหาดดีกว่าให้ลมหอบลงทะเลไปสะ จากคุณ : crazyviolet เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 14:35:15

ความคิดเห็นที่ 11 พอเจออย่างนี้เข้าไปผมก็คิดแล้วสิว่าไอ้ที่เค้าบอกว่าไฟไหม้เพราะโคมลอยเนี่ยเออ มันจริงแหะ ตอนเราลอยเราก็ไม่คิดอะไรเพราะว่ามันลอยขึ้นที่สูงคงไม่ตกมาไหม้ข้างล่างหรอก แต่มันก็จะมีบางอันที่โคมมันยังลอยไม่เต็มที่ก็ปล่อยกันไปแล้วมันก็จะไม่ลอยนะสิ มันก็จะตกลงมาเรื่อยๆ แล้วก็มาติดกับต้นไม้แล้วก็เกิดไฟไหม้ขึ้น พอเจออย่างนี้ผมก็บอกกับแฟนผมเลยว่าต่อไปนี้ไม่ต้องลอยโคมกันอีกเลยนะ กลัวว่ามันจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีก อันนี้ยังดีที่เค้าดับได้แล้วไฟก็ไม่ได้ลามมาจนติดที่พัก ถ้าดับไม่ได้จะทำยังไง คนที่อยู่ตรงบริเวณนั้นไม่มีทางออกมาได้เลย เพราะคืนสิ้นปี รถจอดกันเยอะมาก แทบจะออกไม่ได้ ดีที่วันนั้นยังพอมีทางให้เราออกมาได้ ถ้าออกไม่ได้จะทำยังไง ผมก็รู้ว่าต่อให้ผมไม่ลอยยังไงก็ยังมีคนลอยต่ออยู่ดี และผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการลอยโคมเนี่ยมันผิดมั้ย แต่จากเหตุการณ์ที่ผมเจอมาเนี่ย ผมคงจะเลิกลอยไปตลอดชีวิตแล้วละครับ เพราะเราไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าโคมที่เราลอยเนี่ยมันจะไปทำให้ป่า หรือบ้านของใครไฟไหม้รึป่าว อันนี้ยังดีที่ไหม้ที่รีสอร์ทมีคนดับได้ แล้วถ้ามันไปไหม้ในป่าที่ไม่มีใครรู้ใครเห้น ใครจะไปดับมันละครับ ก็อยากฝากกระทู้นี้ให้ทุกคนได้เห็นถึงอันตรายแล้วก็ให้คิดให้ดีก่อนจะลอยโคมด้วยละกันครับ จากคุณ : เหมียวน้อย มู๊ด..มู๊ด เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 14:38:56

ความคิดเห็นที่ 12 น่ากลััวจังค่ะ จากคุณ : nuch9981 เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 14:50:20

ความคิดเห็นที่ 13 จากประเพณียี่เป็งของจังหวัดทางเหนือ โคมลอยเดี๋ยวนี้มันกลายเป็นกระแสแฟชั่นไปแล้วครับ ลอยมันทุกที่ทุกงาน     ถามได้เลยไอ้ที่ลอยกันโครมๆน่ะ มีซักกี่คนที่รู้ว่าลอยทำใม เหมือนแกะ เหนือยันใต้อยากดึงดูดคนมาเที่ยวต้องมีฟาร์มแกะ  จากคุณ : dayong เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 14:55:14

ความคิดเห็นที่ 14 ถึงมันจะไม่ไปไหม้บ้านของคน แต่ที่ไหม้ก็เป็นบ้านของสัตว์หลายชนิดเลย..เศร้า. จากคุณ : TAY_B เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 15:00:32

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นเค้าลอยกันก็ว่าสวยดีจริงๆ ค่ะ แต่เคยได้ยินว่า มันอันตราย และอาจตกลงมาเป็นขยะต่อไป ก็เลยไม่เคยได้ลอยเลยค่ะ ลูกก็อ้อน อยากลอย แต่ก็บอกว่า ถ้ามันลอยขึ้นไปสูงๆ จุดกันเยอะๆ อาจเข้าไปในใบพัดเครื่องบิน แล้วเกิดอุบัติเหตุได้นะลูก เห็นภาพแล้ว ยิ่งตัดสินใจได้ว่า จะไม่ลอยโคมดีกว่าค่ะ ขอบคุณที่นำเรื่องราวมาแชร์นะคะ ^ ^ จากคุณ : VOCALIST เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 15:08:48

ความคิดเห็นที่ 16 โหวตให้เห็นกันทั่วๆครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 15:12:13

ความคิดเห็นที่ 17 อันตรายจริงๆ ปกติการลอยโคมก็ทำกันเฉพาะเทศกาล แต่นี่เล่นจุดกันไปทั่วเลย อดเสียวไส้ไปด้วย กับภาพที่เห็น... จากคุณ : aacr3 เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 15:17:38

ความคิดเห็นที่ 18 ลอยกันมากขึ้นทุกปี เพิ่มขึ้นทุกที่ ทุกจังหวัด ทุกเทศกาล ถ้าเลิกได้ก็เลิกเถอะครับ เห็นข่าวไฟไหม้หลายที่แล้ว เพราะโคมนี่แหละ จากคุณ : ดีเกินก็ไม่ดีอีก (ดีเกินก็ไม่ดีอีก) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 15:27:26

ความคิดเห็นที่ 19 ช่วยบอกต่อๆ กันด้วยครับ  อย่าปล่อยเลยโคมไฟ อันตรายมาก โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้ง จากคุณ : ชาวทัวร์ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 15:27:59

ความคิดเห็นที่ 20 มันก็เหมือนกับเป็นประเภณี ลอยโคม , ยิงปืน ก็เห็นทำกันอยู่ทุกเทศกาล บ้านเราเคยโดนโคมที่นิยมลอยกันนี่ตกหลังบ้าน ดีอย่างแถวนั้นเป็นพท.ว่าง ไม่งั้นไฟได้ไหม้แน่ ๆ จากคุณ : เด็กน้อยตัวแสบ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 15:33:13

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณ เจ้าของกระทู้ค่ะ ที่บ้านเราตกใส่หลังคาเลยค่ะ ตอนกลางวัน และใน กรุงเทพด้วย ฝั่งธน วันที่ 31 ธค.ดีที่คนแถวบ้านเห็น รีบปีนขึ้นไปดับไฟให้ เราอยู่ในบ้านไม่รู้ว่าอะไรตกใส่หลังคาบ้าน เกือบไปแล้ว ไฟลุก ขี้เถ้าว่อนเลย ไม่เข้าใจใน กทม. เล่นได้ยังไง ตกดึกนับถอยหลังไม่เป็นอันนอน หวาดระแวงเลยต้องออกมาดูหน้าบ้าน เห็นคนลอยกันเยอะเลย กว่าจะได้นอน ตีสาม ไปแล้วววว น่าจะออกมาตรการเด็ดขาดห้ามลอยใน กทม. นะ เพราะเป็นพื้นที่ชุมชน ตามตัวคนลอยก็ไม่ได้ จากคุณ : กุ๊กแอลกิ๊ก เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 15:45:48

ความคิดเห็นที่ 22 อย่าลอยโคมเลย  อันตรายจริงๆ   ต่อให้ลอยไปตกทะเล  ก็เป็นขยะในทะเลอยู่ดี จากคุณ : อ้วนน้อยศิษย์เจ้าแม่ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 15:52:52

ความคิดเห็นที่ 23 น่าจะรณรงค์ให้เลิกลอยโคมได้แล้ว คงไว้แต่ประเพณียี่เป็งอย่างเดียว ลอยแล้วจะตกไปไหนก็ไม่รู้กลายเป็นขยะไปอีก สวยก็จริงอยู่แต่อันตรายแบบนี้ไม่ไหวนะ จากคุณ : apple a day เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 16:05:42

ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อยี่สิบปีก่อนเคยลอยใน งานยี่เป็ง ที่เชียงใหม่ แต่หลังๆมานี่ เห็นลอยกันทุกเทศกาล  ทั่วไปเลยอ่ะ อันตรายจริงๆ  ตั้งใจจะสอนลูกหลานไม่ให้ลอยโคมเล่นเช่นกันค่ะ ร่วมรณรงค์ต่อต้านการลอยโคมไม่เป็นที่ทาง ไม่มีกาละเทศะดีกว่านะคะ จากคุณ : my_tabo เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 16:08:28

ความคิดเห็นที่ 25 ขากลับจากเชียงใหม่ แฟนบอกว่าตอนเครื่องบินขึ้นนี่เห็นซากโคมที่ชาวบ้านปล่อยลอยอยู่ข้างบนเต็มเลย เหลือแต่โครงลวดแล้วน่ะ ยังหวาดเสียว กลัวมันจะเข้ามาพันเครื่องยนต์ เดี๋ยวเครื่องบินจะขัดข้องอะไรทำนองนั้น จากคุณ : ข้าวปั้น เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 16:19:57 A:122.111.0.249 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 26 ขอร่วมโหวตกระทู้นี้คะ ตอนนี้ลอยโคมกันเปรอะไปหมด ทุกที่ ทุกเทศกาลซะละ จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 16:22:51

ความคิดเห็นที่ 27 น่าจะมีจุดลงทะเบียน เขียนชื่อที่อยู่ตนลอยน๊ะ จะได้รับผิดชอบกันบ้าง โคมอันไหนไปทำความเดือดร้อนให้ ใคร ที่ไหน อย่างไร ผู้ลอยจะได้รับผิดชอบไป จากคุณ : nadiea เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 16:30:15

ความคิดเห็นที่ 28 สมัยก่อนๆ  โคมลอยไม่มีขาย  ต้องทำกันเอง ขี้เทียน ต้องไปขอที่วัด ซื้อกระดาษทิชชูมาตัดครึ่ง  ต้มขี้เทียนให้ละลาย  พอละลายเอาทิชชูจุ่มลงไป ติดกระดาษว่าว กาวลาเท็กก็ไม่ใช้มันแพง ซื้อแป้งมันมาต้มเอา กว่าจะได้แต่ละ ลูก ม่วนหลาย ตอนปล่อย ก็เอา ไข่มังกร ประทับก๋าเจ็ก น้ำตก  ใส่ไปด้วย   ต้องปล่อย ลานกว้างๆ  เดี๋ยวจะไปติดสายไฟฟ้า ขึ้นไป น้ำตกตกลงมา สวยยย  แล้วโคมก็ลอยอยู่บนฟ้านานมากก แต่สมัยนี้ โคมขึ้นไป เพลงยังไม่ทันจบ ก็ตกซะละ  (ใส่น้ำมันเยอะ ขี้เทียนน้อย) ไปเที่ยวที่ สะพานนวรัฐ ก็ปล่อยไม่เป็นกัน  ประทัดตกใส่หัวคน โคมค้างต้นไม้ แทบจะไม่มีที่เดิน ก็ดันมาปล่อยโคมกัน สรุป เล่นกันไม่ถูกที่ ถูกทาง  คนอยากปล่อยก็ปล่อยไม่เป็น แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 16:34:56 จากคุณ : babyfresh เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 16:33:38

ความคิดเห็นที่ 29 เราไปงานเคาท์ดาวน์ที่เชียงรายเค้าก็ประกาศโครมๆ ว่าอย่าปล่อยโคมบริเวณที่จัดงาน แต่คนก็ปล่อยกันตรึม มีโคมลอยตกลงมาครอบหัวมังกรที่เค้าแห่ด้วยนะ   แล้วอีกอันยังมีไฟอยู่ไปติดที่สายไฟฟ้า น่ากลัวมาก เกิดเหตุขึ้นมาจะมีใครรับผิดชอบมั้ยน่ะ.. จากคุณ : หมูหวานกับกะปิ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 16:48:53

ความคิดเห็นที่ 30 เห็นการลอยโคมในช่วงปีใหม่เหมือนกันค่ะ...มองดูด้วยความเป็นห่วง กลัวไปตกใส่บ้านของใครเข้า หรือไปตกในป่าทำให้เกิดไฟไหม้ป่า ได้เห็นการลอยโคมในพิธีเปิดงานของอำเภอแห่งหนึ่ง(ขอไม่เอ่ยชื่อนะคะ) เป็นความคิดของผู้ใหญ่คนหนึ่งในอำเภอแห่งนั้น ทั้งที่มีคนทัดทานแล้วก็ยังไม่ฟัง ยืนยันว่าเป็นความคิดสร้างสรรค์และจะทำให้ได้(ละเหี่ยใจมาก) และก็เกิดเหตุจริงๆด้วย คือโคมยังไม่ได้ลอยไปไหนก็ไหม้ซะแล้ว ดีแต่เจ้าหน้าที่ดับไฟทัน ไม่งั้นก็คงเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้แล้ว... ไม่เห็นด้วย และไม่คิดจะทำ ถ้าเห็นคนในครอบครัวและญาติพี่น้องทำก็จะห้ามไม่ให้ทำเลย คือ ลอยโคม และ ยิงปืนขึ้นฟ้า ค่ะ... แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 16:52:54 จากคุณ : ดอกโสนบานเช้า เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 16:51:38

ความคิดเห็นที่ 31 ถึงจะไม่ไหม้ แต่มันก็เป็นการปล่อยขยะค่ะ  เราเองคนเหนือแท้ๆยังไม่เคยปล่อยโคมลอยเลย กลัวจะไปตกใส่บ้านคนอื่น  ปล่อยเพื่อลอยเคราะห์ลอยโศกของเราไปโยนทิ้งไว้บ้านคนอื่น ไม่น่าจะใช่เรื่องดีจริงไหมคะ =w=  ยิ่งเดี๋ยวนี้เห็นหลายๆที่เอะอะก็ปล่อยโคม สวยดี   เห็นใจคนมาคอยเก็บขยะน้อ  จากคุณ : ใบเตย (-minivet-) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 16:51:48

ความคิดเห็นที่ 32 ลอยที่ชายหาดก็ใช่จะดี ตกลงทะเลก็กลายเป็นขยะ ปลา เต่า กินเข้าไปก็ตายอีก เลิกเหอะ จากคุณ : แฟนสวย เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:05:08

ความคิดเห็นที่ 33 เราเคยนั่งมองแม่น้ำเจ้าพระยาในวันลอยกระทง สังเกตเห็นโคมที่เขาลอยบนสะพานพระราม 7 ทุกๆสิบนาทีจะมีโคมที่ไหมตกลงมาอย่างน้อย 1 อันเสมอ .. ยังดีที่ตกลงน้ำ แต่ถ้ามันไม่ลงน้ำหละ แย่เลยนะ -*- จากคุณ : น้องนู๋ปุ๊กก้าจัง (น้องนู๋ปุ๊กก้าจัง) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:07:54

ความคิดเห็นที่ 34 มีบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับโคมไฟ เขียนโดยคุณ Chubby ถ้าเคยอ่านกันแล้วก็ขออภัยด้วยค่ะ --------------------------------------------------------------------------- นกเหล็กกับโคมไฟ posted on 22 Nov 2010 00:41 by chubby  in Social-Review ย้อนกลับไป 2 ทศวรรษก่อน กิจกรรมหนึ่งที่เด็กๆ ในโรงเรียนประถมประจำจังหวัดอย่างผมตื่นเต้นมาก คือ การปล่อย "โคมลอย" ขนาดใหญ่ในช่วงเวลากลางวัน ลักษณะเป็นลูกบาศก์ขนาดใหญ่ (โคมลอยแบบทรงกลมก็มี แต่การทำค่อนข้างยุ่งยากมากกว่า ผมจึงไม่ค่อยได้พบเห็นเท่าไรครับ) ลอยขึ้นด้วยอากาศร้อนจากไฟที่จุดเอาไว้ต่างหากด้านล่าง โดยไม่มีเชื้อเพลิงติดขึ้นไปด้วย (แตกต่างจาก "โคมไฟ" ที่มีเชื้อเพลิงติดขึ้นไปด้วย) ตามความเชื่อที่ว่าเป็นการเปล่อยเคราะห์กรรมไม่ดีให้ออกไปจากเรา ในทางตรงข้าม ก็ถือเป็นความซวยอย่างยิ่งถ้าเห็นโคมนี้ลอยเรี่ยๆ ใกล้จะตกใส่บ้านใครเข้า เจ้าของบ้านจะรีบหาไม้มาเขี่ยไปให้พ้นๆ . ชัดเจนนะครับว่า "โคมลอย" ดั้งเดิมนั้นไม่สามารถทำให้บ้านใครไฟไหม้ได้เพราะมีแต่ลมร้อน . ทว่า การปล่อยโคมลอยเป็นกิจกรรมที่ขายนักท่องเที่ยวลำบาก (ในยุคสมัยนั้น) จึงเกิดการโปรโมท "โคมไฟ" ในช่วง 1 ทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยขนาดที่เล็กลง ทำให้ขายได้ในปริมาณที่มากขึ้น (สอดคล้องกับการผลิตแบบอุตสาหกรรม) และภาพโคมไฟในเวลากลางคืนก็ดูน่าตื่นตาตื่นใจต่อนักท่องเที่ยวมากกว่าโคมลอยใหญ่เทอะทะแบบเก่าในเวลากลางวันเป็นไหนๆ "โคมไฟ" จึงเข้ามาแทนที่ "โคมลอย" นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และเผลอเพียงแป๊บเดียว มันก็กลายเป็นวัฒนธรรมกระแสหลักไปเสียแล้ว ที่คนต่างถิ่น ไม่ว่าชาวไทยหรือชาวต่างประเทศ เมื่อมาเยือนภาคเหนือต้องไม่พลาดการลองปล่อย "โคมไฟ" พร้อมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก . อย่างไรก็ตาม เวลาปล่อยโคมไฟพร้อมกันจำนวนมาก มันก็ได้ภาพที่สวยงามจริงๆ แหละครับ . และเพื่อให้กลายเป็นสินค้าทางวัฒนธรรมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น จึงเรียก "โคมไฟ" เป็น "โคมลอย" แทน พร้อมนำเอาความเชื่อดั้งเดิมของโคมลอยที่ปล่อยในเวลากลางวันมาร่วมใช้อย่างแนบเนียนไร้รอยต่อ ซึ่งปัจจุบันดูเหมือนไม่มีใครสนใจเรื่องนี้อย่างจริงจังแล้ว ดูได้จากการปล่อยโคมลอย (ที่จริงๆ แล้วคือโคมไฟ) กันอย่างตะพึดตะพือ ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นช่วงเทศกาลหรือไม่ ครั้นจะห้ามก็ถูกด่าว่าล้าหลัง ไม่ยอมปรับตัว หรือทำให้เสียบรรยากาศการท่องเที่ยว ครั้นจะปล่อยเลยตามเลยก็ถูกด่าว่าไม่รักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมอีก (ทั้งๆ ที่ป้ายทะเบียนรถที่มาเที่ยวปล่อยโคมลอยกันให้พรึ่บนั้นยกขบวนมาจากที่ไหนก็เห็นๆ กันอยู่) เอาใจยากชะมัดเลยครับ ---------------------------------------------------------------------------- อ่านตัวเต็มได้ที่ http://chubby.exteen.com/20101122/entry ค่ะ จากคุณ : นกน้อยในสวนม่วง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:16:53

ความคิดเห็นที่ 35 สมัยเรียนเชียงใหม่ ไปลอยโคมที่สันทราย สวยมากค่ะ ตอนกลับ กำลังเดินมาที่รถ โคมตกลงมาเฉี่ยวหัวไปหน่อยเดียว กลัวมากเลไม่กล้าปล่อยโคมอีกเลย จากคุณ : Massmedia เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:28:31

ความคิดเห็นที่ 36 คืนเคาท์ดาวน์ที่ร้านอาหารริมน้ำปิงที่เชียงใหม่ โคมลอยมันลอยมาตกบนโต๊ะอาหารข้างๆโต๊ะเราด้วยค่ะ ^^" จากคุณ : สันกาลาคีรี เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:32:56

ความคิดเห็นที่ 37 โหวตให้แล้วค่ะ จากคุณ : ตีนโต เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:50:39

ความคิดเห็นที่ 38 โคมลอยตกใส่หลังคาบ้าน ตอนงานลอยกระทง ดีที่เราอยู่บ้าน มีเพื่อนบ้านมาช่วยดับไฟ ไม่งั้นคงไฟไหม้บ้านไปแล้ว จากคุณ : redclick เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 18:29:57

ความคิดเห็นที่ 39 แต่ก่อนเคยเห็นเวลาไปบ้านแม่ที่พะเยา  ทางเหนือนานๆเค้าจะลอยกันที  แต่เค้าไม่ค่อยมีลมแรงเลยไม่ไปตกให้ไหม้กันเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวนี้ลอยกันทั่วเลยค่ะ  แทนที่จะลอยเคราะห์เป็นรับเคราะห์กับซะเอง จากคุณ : คุณนายช่างคอม เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 18:47:26

ความคิดเห็นที่ 40 ไม่เคยลอยโคมกับเขาสักครั้ง อยากไปลอยมากๆเลย แต่อ่านเจอแบบนี้แล้ว คงไม่ลอยดีกว่าค่ะ เพราะถ้ามันเกิดกับเรามั้ง มันคงไม่สนุกแน่ๆ จากคุณ : Dos_diosas เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 18:48:46

ความคิดเห็นที่ 41 ที่ขอนแก่น ช่วงงานลอยกระทงมีการปล่อยโคม ปรากฏว่ามาตกที่หน้าบ้านเราตั้ง 3 อัน เลิกเถอะ เราว่ามันให้โทษมากกว่า ถ้าไฟไหม้บ้านใคร มันหมายถึงชีวิตเขาทั้งชีวิตเลยนะ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 18:57:03

ความคิดเห็นที่ 42 ยังดีที่ไม่หนีเหยียบกันตาย จากคุณ : อยากเขกหัวตัวเอง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:02:19

ความคิดเห็นที่ 43 ไปทะเล ก็ไม่ควรลอยโคมค่ะ ลมพัดเข้าหาฝั่งได้เหมือนกัน และโคมตกในทะเล ก็เป็นขยะเหมือนกัน จากคุณ : Halimeda Lover เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:04:15

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่เห็นด้วยกับโคมลอย อย่างประเพณียี่เป็ง ผมไม่สนใจไปเที่ยว และไม่ชอบเทศกาลนี้เป็นการส่วนตัว อะไรก็ตามที่หาความสุขบนความทุกข์ หรืออันตราย ไม่สนับสนุน จากคุณ : องค์ประกอบศิลป์ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:13:01

ความคิดเห็นที่ 45 เคยลอยครั้งนึงแล้วไม่ขึ้นเพราะกระดาษที่ใช้ทำมันขาด เกือบไหม้มือดีที่ดับทัน ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่คิดจะลอยอีกเลย ปล.รูป คห.3 น่ากลัวนะนั่นใกล้นิดเดียว แถมรถก็จอดปิดทางเข้าออกด้วย โชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บ จากคุณ : ดูยูอิ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:16:02

ความคิดเห็นที่ 46 เรื่องธรรมดาครับ บ้านเราจะเริ่มล้อมคอกกันตอนที่วัวหายไปแล้ว เรื่องนี้ก็คงต้องมีสังเวยกันครั้งใหญ่ก่อน ถึงจะเริ่มรู้สึกกัน เห็นแล้วความคิดแวบแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว เกิดขึ้นในช่วงฉลองปีใหม่เหมือนกัน ก็คือเรื่องทางหนีไฟ กว่าจะจริงจังกันได้ก็ต้องมีผู้ถูกสังเวยก่อน เรื่องโคมนี้ก็เหมือนกัน คงได้แต่ภาวนาไม่ให้ตัวเราหรือคนใกล้ชิดต้องตกเป็นเหยื่อของการสังเวย เพียงเพื่อให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองรู้สึกว่า...มันอันตราย จากคุณ : ซูซูเกะ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:20:36

ความคิดเห็นที่ 47 เป็นคนนึงค่ะที่ไม่เคยคิดจะลอยโคมแม้แต่ครั้งเดียว แล้วทุกวันนี้ก็ไม่เคยลอย กลัวเหตุการณ์แบบนี้แหล่ะค่ะ เราลอยทุกข์ แต่คนที่ไม่รู้เรื่องกลับต้องมารับทุกข์แทน จากคุณ : เดือนสิงหา เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:23:04

ความคิดเห็นที่ 48 เห็นเค้าลอยโคมที่ชายหาดหัวหินเยอะมาก แต่ลมพัดโคมลอยเข้าฝ้่ง ไม่ออกทะเลเลย หวาดเสียวมาก ตกหลังคาบ้านใคร คงงานเข้า จากคุณ : ฝนในใจ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:30:39

ความคิดเห็นที่ 49 โหวตค่ะ จากคุณ : sierra whiskey charlie เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:31:58

ความคิดเห็นที่ 50 เขาค้อทะเลหมอก เป็นรีสอร์ทที่โดนขึ้นบัญชีดำไม่ใช่เหรอครับ จากคุณ : BlueRanger เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:38:06

ความคิดเห็นที่ 51 แสดงว่าเอาอยู่นะเนี่ย (ดับไฟทัน) จากคุณ : toyota (toyota1) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:39:00

ความคิดเห็นที่ 52 เสริมความเห็นที่ 34 ครับ ลิงค์นี้มีภาพ ว่าวฮม(โคมลอย) แบบดั้งเดิม ของคนเหนือ ที่เคยปล่อยกัน เมื่อก่อนจำได้ว่า มันคือความตื่นตาตื่นใจมากๆ ที่ได้เห็นว่าวฮมแบบนี้  ต้องร่วมแรงร่วมใจกันอย่างมาก ในการปล่อยปีละครั้งแบบนี้ แต่เดี๋ยวนี้ ผมกลับบ้านที่เชียงใหม่ แทบไม่ค่อยเห็นแล้วครับ http://www.chiangmaiparamotor.com/forum/index.php?topic=2431.0 จากคุณ : Jr.800si เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:53:23

ความคิดเห็นที่ 53 ปล่อยโคมเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปเยอะ แต่ที่แน่ ๆ มันจะตกที่บ้านใครมั่งน๊อ มันจะกลายเป็นขยะได้นะ นอกซะจากว่าติดป้ายที่โคมว่าใครเก็บได้ให้มารับตังค์ด้วย..อิอิ.. ขำขำ..มั๊ย..คะ จากคุณ : Deomim เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:59:21

ความคิดเห็นที่ 54 ไปเชียงใหม่มาค่ะ ที่ประตูท่าแพ มีลอยโคมตรงกลางงานที่เค้าจัดเลยค่ะ เราเห็นยังตกใจ เพราะคนก็เดินไปมาตรงนั้น เค้าให้คนที่จะปล่อย ยืนบนเก้าอี้ ซึ่งแถวนั้นเค้าขายอาหารกันค่ะ โคมก็ไม่ใช่ถูกๆ แพงมากๆ จากคุณ : nating เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 20:17:41

ความคิดเห็นที่ 55 คืนวันที่ 31 ก็มีโคมลอยมาติดหลังคาบ้านของน้าที่รั้วอยู่ติดกัน โชคดีที่ที่บ้านกินฉลองปีใหม่ เลยเห็นโคมที่กำลังลุกไหม้และลอยมาติดที่หลังคา พี่ๆ ผู้ชายรีบปีนหลังคาบ้านชั้นล่างและหาไม้เขี่ยโคมจากหลังคาชั้นที่ 2 แต่ไม่ถึง คนอื่นๆ ได้แต่ร้องและลุ้นกันเสียงดัง จนโคมมันลอยมาติดหลังคาบ้านชั้น 1 และเอาลงมาได้ ไฟยังไม่ดับเลย พี่ๆ เลยรุมกระทืบโคมซะไฟดับและโคมยับเยิน เห็นอย่างงี้แล้ว ไม่อยากจะคิดว่าถ้าบ้านไม่มีคนอยู่ อะไรจะเกิดขึ้น ปล่อยโคมว่าอันตรายแล้ว ยิ่งคนที่ปล่อยทำไม่ถูกวิธี โคมมันมีโอกาสตกลงมาหลังคาบ้านคนได้ง่ายๆ เลย เสียดายตอนเช้าไม่ได้ถ่ายรูปโคมที่ถูกกระทืบซะยับไว้ดูต่างหน้า ประเพณีและความเชื่อมันก็ดีนะคะ แต่เล่นไม่เป็นและไม่ถูกที่ก็ก่อความเดือดร้อนให้คนอื่นได้เหมือนกัน จากคุณ : Dorara เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 20:46:55

ความคิดเห็นที่ 56 บ้านผมไฟไหม้ ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม เมื่อหลายปีก่อน ก็เพราะสิ่งนี้เหมือนกันครับ ... จากคุณ : ลุงซุป (ln.cnx) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 20:47:53

ความคิดเห็นที่ 57 เราคนเหนือโดยกำเนิด สาบานได้ว่าตอนเด็ก ๆ ไม่มีโคมจุดไฟลอยไปบนท้องฟ้าตอนกลางคืนแบบนี้ให้เห็น มาเห็นตอน ททท. เป็นคนคิดนี่หล่ะ สมัยก่อนจะเป็นแบบ คห.34 คือแต่ละซุ้มวัดช่วยกันทำ แล้วก็อัดเอาก๊าชเข้าไปปล่อยขึ้นไปบนฟ้า ถือว่าเป็นการลอยเคราะห์ลอยโศกค่ะ เรายังแปลก ๆ ทุกครั้งมีคนบอกว่าลอยโคมไฟเป็นประเพณีของคนเหนือ (ตรงไหนฟระ คงเหมือนคนเหนือในโฆษณาท่องเที่ยวมั้งที่ผู้ชายถอดเสื้อ ใส่โจงกระเบนแดง แล้วโพกหัวตลกๆ นั่นหล่ะ) จากคุณ : mayny the kop เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 20:48:36

ความคิดเห็นที่ 58 ผมคนเหนือตั้งแต่เกิด สมัยผมเป็นเด็ก โคมลอยบ้านผมเรียกว่า กลมลอย ส่วนใหญ่แต่ละวัด จะทำขึ้นมา ลูกหนึ่งหนึ่งจะมีขนาด ประมาณสีเหลี่ยม 2 ลูกบาศเมตร  ภายในบรรจุควันไฟ ให้โคมลอยขึ้น เืพื่อลอยเคราะห์ ผมเห็นตอนนี้ ปล่อยโคมลอยอันเล็ก จุดไฟ ยังนึกว่าใครเป็นคนคิด ถ้าหล่นใส่บ้านคงไฟใหม้  ให้ตายเถอะ ผมเป็นคนเหนือยังไม่เคยปล่อยโคมลอย ผมว่าทำบุญอย่างอื่น สะเดาะเคราะห์ยังดีกว่า จุดโคมลอยให้ไฟใหม้บ้านคนอื่น จากคุณ : Ton999 (Ton999) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 21:40:31

ความคิดเห็นที่ 59 โห น่ากลัวมากๆค่ะ เราจะทำอย่างไรดีเพื่อจะหยุดยั้งกิจกรรมอันตรายนี้ได้ สื่อน่าจะประโคมให้มากกว่านี้ หรือสื่อไม่กล้าลง เพราะกลัวอิทธิพลแม่ค้าไม่ดูละครช่องที่เสนอข่าว จากคุณ : prajoa เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 21:48:11

ความคิดเห็นที่ 60 นี่ คงไม่ใช่เหตุการณ์ครั้งแรก และก็ครั้งสุดท้ายค่ะ  ปีหน้าก็จะมีกระทู้แนวนี้อีก http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2010/12/E10021109/E10021109.html จากคุณ : จะไปลาสา เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:11:41

ความคิดเห็นที่ 61 เหตุการณแบบนี้เคยพบมา 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกงานลอยกระทงที่ มศว องครักษ์ ช่วงค่ำๆ มีนิสิตบางกลุ่มแอบปล่อยโคมไฟ ซึ่งมหาลัยห้ามไว้ พอตื่นเช้ามาเปิดทีวีมีข่าวไฟไหม้สนามกีฬาภายใน มศว องครักษ์แต่สามารถดับได้ก่อนจะลุกลามเป็นวงกว้าง สาเหตุเกิดจากโคมลอย อีกเหตุการณ์นึ่ง เดือนที่แล้วไปเที่ยวปางอุ๋งกับเพื่อนๆ ช่วงดึกเพื่อนๆเอาโคมลอยมาปล่อยตรงบริเวณที่พักโฮมสเตย์ (ผมไม่ค่อยสนับสนุนเลยยืนดูอยู่ห่างๆ) พอโคมไฟลอยไปเกือบขึ้นไปติดชั้น 2 ของชาวบ้าน ผมเลยรีบวิ่งไปตักน้ำกะว่าจะออกมาดับไฟ พออกมามันลอยไปแล้ว ชาวบ้านแถวนั้นเขาหัวเราะผมกันใหญ่เลย จากคุณ : Pikachu ร่าง 5 เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:15:14

ความคิดเห็นที่ 62 ควรจะเลิกจริงๆ นะ เก็บไว้ให้แค่ประเพณียี่เป็งของทางเหนือก็พอ ภาคอื่นแค่เห็น เป็นแฟชั่น แต่มันอันตรายจริงๆ ไปตกบ้านใครบ้างก็ไม่รู้ อีกอย่างที่ควรเลิกก็คือยิงปืนขึ้นฟ้า ใครที่ไหนมันเป็นคนคิดนะ เดือดร้อนชาวบ้าน ยิงเสร็จไม่ได้ตกใส่หัวคนยิงบ้างให้มันรู้ไป จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:19:07

ความคิดเห็นที่ 63 บ้านตอนเราอยู่มัธยมเป็ฯบ้านไม้ ช่วงที่มีการลอยโคมทีไร ต้องระวังไฟไหม้บ้านทุกทีค่ะ TT เพราะอยู่ทางเหนือ ช่วงลอยเคราะห์ลอยโศก เราว่าเป็นการร่วมสร้างทุกข์โศกให้คนมีบ้านไม้น่ะค่ะ เชียงใหม่ก็เคยมีคนบ้านไฟไหม้เพราะโคม แต่ผ่านไปเป็นสิบๆปีแล้วค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 22:29:04 จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:28:20

ความคิดเห็นที่ 64 ไม่เคยคิดอยากจะลอยครับ ไม่รู้จะลอยไปทำไม สักแต่ว่าทำตามกันไป จากคุณ : เล็กลูกแม่ลัย เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:30:31

ความคิดเห็นที่ 65 ต้องให้รัฐ รณรงค์อย่างจริงจัง สื่อทุกสื่อช่วยกันบอกให้ยกเลิก ห้ามขายถือเป็นของผิดกฎหมายเหมือนดอกไม้ไฟ เอาให้้เหมือนให้เหล้าเท่ากับแช่งซึ่งได้ผลมาก จากคุณ : เขียนบน iPhone (tan_www) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:32:47

ความคิดเห็นที่ 66 สมัยก่อนประเพณียี่เป็งเค้าก็ไม่ได้นิยมลอยโคมไฟกันขนาดนี้ค่ะ ที่ลอยกันจะเป็นโคมควัน ลูกสี่เหลี่ยมติดกระดาษว่าวกันเป็นสีๆ ลอยตอนกลางวัน ไม่ค่อยอันตรายเท่าไหร่ เพราะใช้ควันทำให้โคมลอยขึ้น ร่วงลงมาก็ไม่ทำให้ไฟไหม้ แถมลอยตอนกลางวัน มันไปตกตรงไหนตอนไหนก็มีคนเห็น แต่เดี๋ยวนี้เกิดฮิตลอยโคมไฟตอนกลางคืนขึ้นมา ไฟลุกวาบๆ แถมบางคนยังสะใจไม่พอ ผูกประทัดติดขึ้นไปด้วย ปกติ โคมไฟเค้าต้องทำลูกใหญ่ๆ แรงลอยตัวมันจะได้เยอะๆ ไม่ร่วงลงมาก่อนไฟดับ แต่พักหลังเน้นขาย เริ่มมีโคมราคาประหยัด แบบ 4 ลูก 100 ลูกกระจิ๋วเดียว แทบไม่มีแรงลอยขึ้น เห็นนักท่องเที่ยวซื้อแบบนี้กันเยอะมาก จุดแล้วมันก็ลอยต่ำๆระไปกับหลังคาบ้าน บ้านเราปีหลังๆมานี้ช่วงคืนลอยกระทงทิ้งบ้านไม่ได้เลยค่ะ ต้องมีคนอยู่เฝ้า จากคุณ : ouiya เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:41:57

ความคิดเห็นที่ 67 สมัยก่อนจำได้ว่าการปล่อยโคมลอยมันเป็นพิธีของชาวเหนือ หลังๆมาไม่รู้ฮิตอะไรนักหนาทุกภาคล้วนแล้วแต่ปล่อยโคมลอยกันให้เกร่อ แล้วปัญหาคือบางทีปล่อยในที่ชุมชนโดยไม่รู้ว่ามันอันตราย ตกใส่บ้านคน ตกบนถนน ตกใส่กอหญ้า ไฟไหม้ใครรับผิดชอบ เมื่อไหร่จะเลิกประเพณีแบบนี้ อันตรายนะคะ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:56:40

ความคิดเห็นที่ 68 ขอเลิกด้วยคนเจ้า จากคุณ : Happy_Jeab เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:57:03

ความคิดเห็นที่ 69 เราต่อต้านมาหลายปีแล้วค่ะ และไม่เคยปล่อยโคมเลยในชีวิตนี้ (ทั้งที่อยู่เมืองเหนือ) ปล. แต่เราทันการเห็นปล่อยโคมลอยใหญ่ๆ บรรจุลมร้อนแบบ คห.34 ^^ จากคุณ : ไม่มีใคร เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:58:41

ความคิดเห็นที่ 70 เคยลอยนานมากแล้ว 10กว่าปี แถมตอนลอยตัวครั่งที่จุดหยดใส่มือร้อนมากๆๆๆๆ ร้อนกว่าเทียนเยอะเลยเข็ดเลิกเล่น และไม่มีโอกาสด้วยกลัวไฟไหม้นั่นแหละ แต่ตอนที่เราเล่นไม่รีบปล่อยนะ เพราะอัดควันให้เต็ม และตัวที่จุดจะมีเวลาน้อยจะดับเร็วมันจะลอยขึ้นสูงดับแล้วยังลอยอยู่เลย แถมเมื่อก่อนไปลอยต่างจังหวัดไม่มีอะไรให้ไหม้มากมาย แต่ก็กลัว ดังนั้นควรจะระวังละกันนะ จากคุณ : บาทเดียว สิบหมื่น เงินแสน เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:59:12

ความคิดเห็นที่ 71 เห็นภาพแล้วรู้สึกดีใจ เที่ยวแม่ฮ่องสอนปีที่แล้วเราตัดสินใจไม่ลอยโคม เพราะมันเป็นแค่กระแส มีสักกี่คนที่ตั้งจิตอธิษฐานจริง เห็นดีแต่ตามแฟชั่น มีวิธีอื่นอีกมากมาย จากประเพณีอันดีงาม กลายเป็นสินค้าไปหมด แต่รัฐควรมีกฎหมายควบคุมการขายอุปกรณ์ลอยโคมด้วยนะ ไม่ต่างกับประทัด ดอกไม้ไฟเลย จากคุณ : ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:14:16

ความคิดเห็นที่ 72 เรื่องแบบนี้ อย่าหวังจะพึ่งรัฐ เพราะอะไรที่มันเป็นเสรี(โดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงขอบเขต) ที่ยังไม่มีกฎหมายห้าม รัฐไม่กล้าแตะ เพราะกลัวคะแนนเสียงจะหายท่าเดียว แถมเสียงหายแบบไม่คุ้มด้วย เพราะวัดผลอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน เอามาเป็นผลงานไม่ได้ ครั้นจะมีผลประโยชน์ร่วม ก็ไม่มี เพราะมันเป็นการกวดขันห้ามคนเล่นเฉยๆ แล้วเรื่องอะไรจะไปทำล่ะครับ คงต้องรอให้โคมไปตกใส่รีสอร์ทของนักการเมืองหลายๆ ที่พร้อมกันก่อนล่ะมั้ง ถึงจะคิดทำ แบบนี้ต้องคำนวณทางลม กะระยะตกให้ดี จะได้กำหนดจุดปล่อยให้ลงรีสอร์ทได้ถูก 555+ จากคุณ : Redrum เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:17:16

ความคิดเห็นที่ 73 คห.72 ประเทศไทย วัวหายล้อมคอก จริงจริง ไอ้เรื่องคิดสร้างสรรค์เพื่อส่วนรวมไม่เคยมี จากคุณ : ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:20:38

ความคิดเห็นที่ 74 งานไหลเรือไฟที่นครพนม ปีที่ผ่านมา  ก็มีคนไม่มีสมองเอาโคมกระดาษมาขาย เห็นแล้วอยากด่าจริงๆ  ลอยโคมไปแล้วจะตกไปในน้ำโขง  เป็นขยะ สกปรก อีกอย่าง  กลัวมันจะลอยใส่บ้านคนอื่น แล้วไฟไหม้ จากคุณ : CCE9PASS เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:38:46

ความคิดเห็นที่ 75 ยกมือเห็นด้วยสุดแรงสำหรับกระทู้นี้เลยละคะ เราเกิดและโตมาที่เชียงใหม่ ในสมัยเด็กๆ เท่าที่จำความได้ แทบจะไม่เห็นโคมลอยตอนกลางคืนเลย ที่จะเห็นคือกลมลอยตอนกลางวันที่เป็นสีสันต่างๆ และรู้สึกเศร้าใจที่เดี๋ยวนี้มันกลายเป็นการค้า การพาณิชย์ ที่สักแต่ว่าจะขายนักท่องเที่ยวโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบอื่นๆ ในช่วงลอยกระทงที่ผ่านมา อากาศที่เชียงใหม่มีแต่กลิ่นควัน กลิ่นเหม็นไหม้ลอยเต็มไปหมด เลยเกิดคำถามในใจว่า...มันใช่วัฒนธรรมที่ดีงามและควรค่าต่อการอนุรักษ์จริงหรือ? และเดี๋ยวนี้ไม่ว่าเทศกาลไหนก็ต้องมีโคมไฟลอยอยู่ตอนกลางคืน คือ...ลืมไปหรือเปล่าว่า...การปล่อยโคมลอยเป็นพุทธบูชา ไม่ใช่การปล่อยทุกข์ปล่อยโศก ตามที่เข้าใจกัน  :( จากคุณ : zariel เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:40:51

ความคิดเห็นที่ 76 ทีนี้เข้าใจรึยัง ทำไมเค้าไม่อยากสร้างกระเช้าที่ภูกระดึง คนไทยที่ขาดจิตสำนึกต่อสังคมยังมีมาก จากคุณ : CCE9PASS เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:45:57

ความคิดเห็นที่ 77 ที่เชียงใหม่ปล่อยโคมกันสวยมากๆเลย แต่สงสัยอยู่ว่ามันจะไปตกที่ไหน แล้วถ้าไปตกที่บ้านไม้นี่จะเป็นยังไง เวรกรรมจริงๆเน้อ จากคุณ : Always wrong เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 00:34:28

ความคิดเห็นที่ 78 ออกเป็นกฎหมายไปเลย ห้ามลอย ไม่ยาก คงไว้ประเพณีของยี่เป็งก็พอ จบข่าว คนไทยมีจิตสำนึกน้อย ต้องบังคับแบบนี้แหละ จากคุณ : หัตถาครองพิภพ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 00:55:17

ความคิดเห็นที่ 79 ประเพณี่ลอยโคมอันสวยงามนี้ เค้าลืมนึกถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นเลยเหรอ ผมเคยเห็นที่วัดพระศรีมาหาธาตุ บางเขน ตอนงานลอยกระทง คนจุดโคมลอย ยังลอยไม่ถึงไหน โคมลอยไปติดที่หม้อแปลงไฟฟ้าซ่ะแล้ว ดีที่ไม่เกิดเพลิงลุกไหม้ ส่วนคนจุด วิ่งหนีหายไปซ่ะแล้ว คงนึกว่าเป็นเรื่องสนุก ผมว่าประเพณีนี้ควรจะเลิกได้แล้ว ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม เหมือนการจุดประทัดในช่วงลอยกระทงอ่ะ เลิกซ่ะที จากคุณ : tottui เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 00:57:31

ความคิดเห็นที่ 80 เล่นอย่างไร้สำนึก ขาดสติ ไม่มีความเข้าใจ ผมคนนึงไม่สนับสนุนเลย จุดประสงค์ดั้งเดิมของเขาก็มี แต่เดี๋ยวนี้เล่นกันจนเป็นแฟชั่น ขาดสำนึก ขาดความเข้าใจ จากคุณ : แมลงภู่บนหูกระต่าย เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 01:08:02

ความคิดเห็นที่ 81 โหวตค่ะ  เศร้าอ่ะ T^T จากคุณ : เธอคนนั้น เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 01:15:08

ความคิดเห็นที่ 82 เลิกลอยด้วยคนค่ะ.... ถ้าเราเห็นคนอื่นลอย...จะเตือนได้ไหมหนอ??? จากคุณ : บ้านดอกชวนชมสารพัดสี เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 01:22:36

ความคิดเห็นที่ 83 ก็ไปลอยในที่ ที่เค้าลอยกันเป็นงานประเพณีซิครับ ผมเห็นธุดงคสถาน ก็โล่ง มีเจ้าหน้าที่ดูแลด้วย ส่วนที่ ๆ เค้าไม่ได้ไว้ให้ลอย ก็ยังไปลอยกัน เฮ้ออ เห็นแล้วเหนื่อยใจ จากคุณ : uthaneku เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 01:25:01

ความคิดเห็นที่ 84 ถ้าจะแก้ก็ต้องแก้ที่ นักท่องเที่ยวนี่แหล่ะ พฤติกรรมพวกนี้มันก็เริ่มจาก  และมันอยู่ได้ก็เพราะนักท่องเที่ยวแหล่ะ  จะไปโทษรัฐโทษเจ้าหน้าที่อย่างเดียวก็คงไม่ได้  ถ้าสังคมยังคิดเองกันไม่เป็น ก็เหมือนการยิงปืนขึ้นฟ้า ห้ามก็แล้ว ข่าวก็มี แต่ก็ยังทำกันเยอะจนไม่รู้จะจับกันยังไง ถ้าไม่โดนใครตายขึ้นมาก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆ สังคมก็ไม่มีใครกล้าทำอะไร  เรื่องนี้ก็เหมือนกัน  ถ้ามีใครไปจับหรือห้าม ก็จะมีคนมาบอกว่าทำลายการท่องเที่ยวอีก     ถ้าจะรณรงค์ ก็คงต้องเหมือนอย่างกระทู้นี้แหล่ะ ครับที่มีรูปให้เห็นชัดเจน เริ่มจากกลุ่มคนที่ไปเที่ยวนี่แหล่ะ แต่สังคมเราเป็นอะไรที่ลืมไวหมดเทศกาลนี้ เดี่ยวก็มีอย่างอื่นมาอีก   ถ้าให้ดีลองเปลี่ยนจากการฟอร์เวิร์ดเมลล์ไร้สาระ  ประเภทส่งแล้วจะมีโชค หรือเรื่องโจมตีกันทางการเมือง เปลี่ยนมาฟอร์เวิร์ดเมลล์รณรงค์สิ่งพวกนี้  เริ่มจากส่งให้ เพื่อนฝูงญาติพี่น้องตัวเองนรู้จัก ให้เห็นถึงอันตราย และคิดกันให้เยอะขึ้นกว่าเดิมดีไหมครับ จากคุณ : Deknon22 เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 01:56:36

ความคิดเห็นที่ 85 ที่เขาค้อนี่แหละ ปี 53 ที่ที่เราไปพัก เค้าเป็นไร่ส่วนตัว อยู่กลางหุบเขา ข้างบนเป็นรีสอร์ทดังทั้งหลาย เวลามองขึ้นไปกลางคืนจะเห็นแสงไฟของรีสอร์ทเป็นแนวทั้งเขา มีคนลอยโคมลอย แล้วมันตกลงมาตรงที่เราพัก โชคดีที่ไปติดต้นไม้สูงก่อนแล้วดับ ใครที่คิดว่าโคมลอยจะลอยขึ้นไปในอวกาศเลย ก็ให้คิดเสียใหม่นะ โคมไปตกตรงไหน ถ้าไม่ไฟไหม้ก็เป็นขยะอยู่ดี จากคุณ : เป๋าตุง เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 02:05:19

ความคิดเห็นที่ 86 มันต้องให้มีข่าวไฟครอกนักท่องเที่ยวตายหมู่ละมั้ง ถึงจะเริ่มคิดกันได้ จากคุณ : .พูดอีกก็ถูกอีก. เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 02:21:20

ความคิดเห็นที่ 87 3  ปีที่แล้วเคยไปหลงทางอยู่ในปาย แบบไม่มีรถขับ เลยได้เที่ยวแบบแบบแพคตลอดทริป ได้พูดคุย กินนอนอยู่กับชาวบ้าน... ในคืนเค้าท์ดาวน์ ที่นักท่องเที่ยวในปาย ต่างพร้อมใจกันปล่อยโคมลอยไปทั่วท้องฟ้า เราคนเมืองกรุงฯที่ไม่เคยเห็นการลอยโคมมาก่อน ก็คิดในใจว่าสวยงามมากจริงๆ (ไม่เคยไปงานยี่เป็ง) โคมนับหมื่นดวงถูกปล่อยออกไปในท้องฟ้า ต่างดาว ... ชาวบ้านเมืองปายเล่าให้ฟังในคืนเดียวกันนั้นเองว่า "ปาย" ไม่เคยมีประเพณีการลอยโคม ... คนที่เอาโคมมาลอยในปายคือคนจากที่อื่น.... จนทุกวันนี้ทุกปีจะต้องมีคนเอาโคมลอยมาขายเกลื่อนปาย ที่ในวันต่อมา โคมเหล่านั้นก็จะกลายเป็น เศษกระดาษสีดำ ตกอยู่ทั่วเมืองปาย รอ...คนปายมาเก็บทำลายต่อไป... แต่ที่น่าแปลกคือ ปีก่อนเรากลับไปปายอีกรอบ คราวนี้เจองานประจำเทศบาลจัดเป็นงานลอยโคมกันเลยทีเดียว คงอยากปลักดันให้เป็นประเพณีของปายเข้าแล้วจริงๆ... เราเชื่อว่ากรณีแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่เขาค้อ แบบที่คุณเจ้าของกระทู้กล่าว แต่นี่คงเป็นสิ่งที่ห้ามได้ยาก เพียแต่รัฐคงต้องทำงานกันหนักขึ้นเท่านั้นเอง ในเมื่อรัฐฯ สนับสนุน รัฐฯก็ต้องมีมาตราการณ์ควบคุมที่ดีด้วย ส่วนคนลอยนั้น ไม่อยากสร้างภาระให้กับรัฐหรือ เพิ่มความเสี่ยง... ก็หยุดลอยโคม นอก "ประเพณี" กันเถอะ.... จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 03:14:37

ความคิดเห็นที่ 88 ต่อต้านมานานแล้วแต่กลับย่ิงเห็นอะไรบ้าๆ บอๆ หนักขึ้น ผู้คนหลงแสงสีความสวยงามและหน่วยงานท่องเที่ยวก็ส่งเสริมกันไม่ลืมหูลืมตา เอะอะก็ลอยมันทั้งปี แขกไปใครมาจัดงานลอยโคมสงสัยต้องให้ไฟไหม้ทั้งหมู่บ้านก่อนถึงสำนึก ไหนจะเชื้อเพลิงเผาไหม้ทำลายบรรยากาศ ไหนจะขยะและอันตรายสารพัด จากคุณ : สติหน่ะมีไหม เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 03:45:15 A:90.224.230.252 X: TicketID:159141

ความคิดเห็นที่ 89 ไม่เคยเห็นด้วยเลยครัย ลอยกันไปเรื่อย ไม่ใช่บ้านตัวเองไหม้ก็ลอยกันต่อไป ขนาดทางเหนือเองที่เป็นแหล่งยังไหม้ซ้ำไหม้ซากเลยครับ จากคุณ : หมูทำไรก็อร่อยยกเว้นข้าวมันไก่ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 03:57:36

ความคิดเห็นที่ 90 โคมยี่เปง ถ้าคนทำทำเป็นไม่งกไข โคมจะลอยสูง จนไขหมดไฟดับถึงจะตกครับ แล้วต้องลูกใหญ่ด้วยจะได้ลอยนาน แต่เดี๋ยวนี้ ลูกใหญ่ขายกันแพงมาก คนไม่ค่อยซื้อเลยทำลูกเล็กออกมาขาย แล้วไขก็ไม่ค่อยดี จุดแล้วหยดลงมาได้ ที่ตกตอนไฟยังไม่ดับนี่ พวกลอยลูกเล็ก ลอยไม่เป็น ไฟยังลามไขไม่ทั่ว ไอร้อนยังไม่เต็มโคม ก็ปล่อยกันแล้ว บางลูกปลาอยแล้วไม่ลอยหรอกครับ ตกลงหน้าคนปล่อยนั่นหละ ปกติ ถ้าไอร้อนเต็มโคม มันจะพุ่งขึ้นเร็วมากครับ จากคุณ : นายสบายสบาย เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 04:00:12

ความคิดเห็นที่ 91 ขนาดไปทะเลมา ยังมีคนปล่อยโคมเลยค่ะ เดี๋ยวนี้ที่ไหนๆ ก็ขยันปล่อยกันทั้งนั้น แต่ไม่ได้คิดเล้ยย ว่าแล้วมันจะไปตกที่ตรงไหน มันเป็นความสนุกของคนบางคนชั่วคราว แต่อาจเป็นความทุกข์แสนสาหัสของหลายๆคน ที่ไฟไหม้บ้านเค้าก็ได้ จากคุณ : โอลีพ/แม่น้องเซ้นต์ (olives) เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 04:42:01

ความคิดเห็นที่ 92 บรรยากาศช่วงปีใหม่ บางคนขนาดนอนอยู่กะบ้านแท้ ๆ ลูกปืนยังหล่นใส่บ้าน แล้วออกไปเที่ยวข้างนอก ยังต้องวิ่งหนีไฟไหม้อีก ไม่รู้จะไปหลบที่ไหนดี หุ ๆ ๆ จากคุณ : sa_bkk เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 05:28:52

ความคิดเห็นที่ 93 บ้านผมอยู่ริมทะเล ทุกเทศกาลต้องทนฟังเสียง พลุ ประทัดยักษ์ และ ไฟจากพวกโคมลอย เมืองไทยเป็นเมือง ที่ขาดสภาพการเคารพสิทธิของผู้อื่นไปแล้ว เช้าวันหนึ่งหลังเทศกาลลอยกระทง ซากโคมลอยอยู่บนหลังคาบ้าน 2 ลูก จากคุณ : โต้คลื่น เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 06:04:57

ความคิดเห็นที่ 94 บนหลังคาของศาลาริมน้ำอีก 1 ลูก จากคุณ : โต้คลื่น เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 06:08:23

ความคิดเห็นที่ 95 พูดไม่ออกเลยครับ ผมก็เคยลอย ตอนงานลอยกระทงที่ปาย แต่เค้าบอกว่า มันจะไปตกที่แม่น้ำปายอย่างเดียวเลย แล้วก็จะมีคนคอยเก็บ แต่ผมไม่เชื่อหรอกครับ ตั้งแต่นั้น คิดว่า ถ้ามันไปตกแถวๆรีสอร์ทของใครเข้าสักคน ก็จะได้รู้แน่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แม่ผมก็ถามนะครับว่ามัน จะไม่ไปรบกวนเซกเม๊นท์ ของเครื่องบินหรอ ทหารแถวปาย ก็บอกมีส่วน แล้วคิดอิกที ผมว่ามันคือขยะดีๆนี่เอง เวลามันตกอ่ะครับ ผมเลยคิดเลิกลอยตั้งแต่ที่ปายเลยครับ ทำลายธรรมชาติมากเลย ยิ่งมาเห็นที่เขาค้อแล้วพูดไม่ออก เพราะเขาค้อ สมัยเด็กๆ ผมชอบไปมากๆเลย มาเห็นแบบนี้แล้วอึ้ง ว่าสถานที่ ที่ผมรักมาก ของเขตหนาว โดนขนาดนี้เลย พูดไม่ออกครับ ขอบคุณ จขกท.มากๆครับ ที่เอามาให้ดู โหวดและดันให้เรียบร้อยแล้วครับ จากคุณ : Lusif (Lusif) เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 06:43:45

ความคิดเห็นที่ 96 ได้มีโอกาสได้เห็นสิ่งที่เจ้าของกระทู้พูดถึง เพราะเราพักอยู่ที่ด้านล่างบริเวณ อ่างเก็บน้ำ รัตตนัย มองขึ้นมาตอนจุดพลุสวยมาก ปล่อยโคมกันมากมาย สวยจริง ๆ แต่หลังจากนั้นไม่นาน สิ่งที่ผิดปกติก็เกิดขึ้น เรามองจากมุมไกล ๆ ยังดูออกว่าไฟไหม้ เช้าวันรุ่งขึ้น แวะไปหาที่พักที่เขาค้อทะเลหมอก บริเวณที่เจ้าของกระทู้กางเต้นท์ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ ความงามการปล่อยโคมลอย มันสวยก็จริงอยู่แต่ความเสียหายรออยู่ข้างหน้า ปีนี้เป็นปีแรก และคงเป็นปีสุดท้าย แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 55 09:07:34 จากคุณ : แม่น้องเต็ม เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 09:07:08

ความคิดเห็นที่ 97 จริงค่ะ  เป็นคนนึงที่เมื่อปีที่แล้วเห็นกับตา (อันนี้ไม่ไ้ด้เป็นคนลอยเองนะคะ มาจากไหนไม่รู้) ถนนคนเดินเชียงราย โคมตกลงบริเวณหม้อไฟฟ้าแรงสูงหน้าร้านสเวนเซ่น มีเสียงระเบิดดังขึ้นค่ะ แต่โชคดีีที่มันหยุดแค่นั้น ไม่ลุกลามต่อไป (มันดับเองค่ะ) จากคุณ : ต่ายน้อย (Rabbit03) เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 09:29:38

ความคิดเห็นที่ 98 ผมไปคืนวันที่ 30 ธ.ค. ยังแอบเสียดายไม่เจอทะเลหมอกเลย อากาศก็ไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่ ยังดีที่เหตุการณ์ไม่บานปลายสร้างความเสียหายมากกว่านี้ เห็นด้วยครับเรื่องการงดลอยโคม จากคุณ : Soda_O2 เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 09:30:50

ความคิดเห็นที่ 99 เมื่อก่อนก็ชอบลอยเหมือนกันรู้สึกมันสวยดี แต่ช่วงที่ไปเรียนหนังสือที่เชียงใหม่ 3 ปีพอได้เห็นซากวัฒนธรรมหลังจากการโคมยี่เป็งแล้วทำให้ไม่อยากปล่อยโคมอีกเลย มีซากโคมที่ตกลงมาเกลื่อนเต็มถนน บ้านคน สถานที่ต่างมากมาย ขยะเต็มเมืองเลย บ้านเมืองสกปรกมาก จากคุณ : moddmd เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 09:38:39

ความคิดเห็นที่ 100 พึ่งจะมาสั่งเกตช่วงต้น พย. ที่เชียงใหม่ สักสองสามทุ่มเป็นต้นไป ยืนหน้าบ้านมองท้องฟ้าหันหน้าเข้าเมือง ต้องเห็นอย่างน้อย คืนละ 1-2 ลูกขึ้นฟ้า คืนไหนไม่เห็น อุปทานว่าจะนอนไม่หลับ :P ล่าสุดเมื่อคืนก็เห็นขึ้นเป็นสายเลยครับ หลายาสิบลูก ไม่รู้ปล่อยกันทำไม ไม่ใช่เทศกาลอะไรแล้ว หรือปล่อยส่งท้ายนักท่องเที่ยวกลับ จากคุณ : Arc_ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 10:04:44

ความคิดเห็นที่ 101 นี่เราเข้าใจอะไรผิด ตอนแรกคิดว่าลอยโคมมันเป็นประเพณี่ยี่เป็งของทางเหนือไม่ใช่เหรอ ทำเฉพาะวันลอยกระทงเป็นความเชื่อน่ะ แต่ตอนนี้เค้าทำกันทุกที่ทุกเทศกาลเลยเหรอ มันออกจะผิดวัตถุประสงค์ไปหน่อย อันตรายด้วย จากคุณ : VIPhottest เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 10:10:52

ความคิดเห็นที่ 102 จริง ๆ เรื่องลอยโคมนี่ควรรณรงค์อย่างจริงจังซะทีนะคะ ตอนลอยกระทง น้องที่รู้จักกันเค้าก้อเอาโคมลอยมาขาย   เราเตือนด้วยความหวังดีว่าอย่าขายเลย   เค้ากลับบอกว่าไม่เป็นไรหรอกพี่   แล้วก้อขายเหมือนเดิม  T_T" จากคุณ : soonja เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 10:12:07

ความคิดเห็นที่ 103 ผมก็เจอครับ ปีใหม่เขาค้อเช่นกันเต้นท์ด้านบน จุดที่เดียวสี่ลูกผูกติดกัน..แป๊บเดียวยังไม่ทันไปไหน..ไหม้ลาม ล่วง ลงมาที่ละลูก ดีไม่ลงเต้นท์ วิ่งตามดับกันจ้าละหวั่น.. เห็นด้วยที่ให้จุดนะ(สวยดี)แต่ขอให้ใช้วัสดุย่อยสลายได้แบบสมัยก่อนที่ใช้ทำเถอะนะแต่ต้องปล่อยที่ละลูกนะครับ ฮาๆๆ จากคุณ : mr.nammon เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 10:16:09

ความคิดเห็นที่ 104 จริงๆ เค้ารณรงค์ไม่ให้ปล่อยแล้วนะคะ (เหมือนจะเคยได้ยินหน่ะค่ะ) เพราะว่ารบกวนการบินด้วย ถ้าสถานที่ปล่อยอยู่ใกล้สนามบิน ปล่อยแล้วถ้าไปตกบ้านใครก็แย่ ยิ่งถ้าไปตกในป่าก็เป็นไฟไหม้ป่าอีก น่าจะมีคนคิดเทียนที่ดับเร็วๆ ไฟไม่ต้องติดนาน ถ้าโคมตกจะได้ไม่ต้องมีใครเดือดร้อน จากคุณ : yunjaelove เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 10:34:22

ความคิดเห็นที่ 105 ผมต่อต้านการปล่อยโคมลอยมานานแล้วครับ ปีใหม่ เห็นลอยกันเต็มท้องฟ้า เคยคิดกันหรือไม่ว่า ลอยแล้ว มันจะไปที่ไหน มันคงไปตกเป็นขยะสักที่หนึ่ง หรือถ้าร้ายหน่อย ก็ก่อให้เกิดเพลิงไหม้ คนปล่อยสบายใจ แต่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น มีอยู่ปีนึง มีโคมไฟลอยมาตกที่บ้านผม กลายเป็นขยะที่ผมต้องรับผิดชอบ พอเสียทีเถอะครับ กับการปล่อยโคมลอย จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 10:34:36

ความคิดเห็นที่ 106 บ้านอยู่ในกทม.ก็ยังไม่วายมีโคมมาหล่นเหมือนกัน แต่ดีที่มันดับแล้ว ตื่นเช้ามานับได้ห้าหกโคม เมื่อช่วงลอยกระทงสงสัยทางโรงแรมริมน้ำจัดงานให้ลูกค้าแน่ๆ จากคุณ : UNNjiSUNG เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 10:45:59

ความคิดเห็นที่ 107 เอาตัวอย่างมาให้ดู ลอยโคมหน้าแล้ง....อันตรายมากๆๆๆๆๆ.....หญ้าแห้ง....ลมแรง ถ้าเป็นแบบนี้....ตกบนหญ้าแห้ง....ในทุ่งหญ้าใหญ่ๆๆ....นึกเอาเถอะ....จะลุกลามอย่างไร... จิตสำนึกในการเที่ยวป่า....รณรงค์กันเถอะครับ ....ออกทีวี....ก่อนวันหยุดยาวก็ได้.....คนที่ลอยส่วนใหญ่ไม่ได้ดู Pantip หรอก.... แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 55 10:58:56 จากคุณ : onfly เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 10:58:06

ความคิดเห็นที่ 108 พึ่งเจอซากโคมลอยมาหล่นอยู่ที่บ้าน ตกอยู่ข้างเตาแก๊สเลย ไม่อยากคิดว่าถ้ามันหล่นมาตอนมีไฟจะเกิดอะไรขึ้น เราว่าตอนลอยอยู่บนฟ้าตอนกลางคืนมันสวยก็จริงนะ แต่มันทั้งสิ้นเปลืองทรัพยากรแล้ว ก็สามารถทำให้เกิดอันตรายได้มากกว่าที่เราคิด ไม่เคยลอยโคมและไม่คิดว่าจะทำด้วยอ่า จากคุณ : ปุ๊กก้าการอก (ปุ๊กก้าการอก) เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 11:29:22

ความคิดเห็นที่ 109 คืนนั้นเราพักที่บ้านกลางหมอกค่ะ ถ่าย clip เหตุการณ์ไว้ได้พอดี จากคุณ : ธัญลดา เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 11:50:50

ความคิดเห็นที่ 110 ประเพณีบางอย่าง ถึงยุคสมัยหนึ่งที่เราพบว่ามันมีอันตรายมากกว่าที่คิด ก็สามารถเลิกได้ จะยึดติดอะไร ยิ่งประเพณีอันนี้ทำกันเยอะมากจนกลายเป็นแฟชั่นไร้สติไปแล้ว ผมว่ายิ่งสมควรยกเลิกครับ จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 11:54:07

ความคิดเห็นที่ 111 ไม่เคยสนับสนุนประเพณีเช่นนี้ ไม่เคยคิดอยากไปร่วม ให้ความสวยงามบังตาชัดๆ แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 55 11:59:05 จากคุณ : sueko เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 11:58:12

ความคิดเห็นที่ 112 ต่อไปมาตราฐาน การสร้างบ้าน 1. เลิกหลังคากระเบื้อง ทำดาดฟ้าปูน หนาอย่างน้อย.... ซม.   ป้องกันกระสุนปืน 2. บ้านใช้วัสดุทนไฟอย่างน้อย..... นาที 3. มีจุดต่อสายยางดับเพลิง บริเวณสวน ทุกๆ.... ตร.วา หรือ ตบกระโหลก ไอ้พวกที่ทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้านชาวช่องพวกนี้ดี จากคุณ : ส้มตัดเทา เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 12:39:44

ความคิดเห็นที่ 113 ช่วยโหวต อีกแรง ครับ จากคุณ : ซังกุงที่ปรึกษา เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 12:55:55

ความคิดเห็นที่ 114 เมื่อวานกลับบ้านมาหลังจากไปเที่ยวต่างจังหวัด  เห็นโคมลอยมาตกหน้าบานเรา แต่คงโชคดีที่ไฟน่าจะดับก่อนแล้วจึงตก ไม่เช่นนั้นกลับมาจากเที่ยวปีใหม่ คงจะไม่มีบ้านอยู่แล้วเหมือนกัน เพราะว่าช่วงนี้หน้าแล้ง หญ้าแห้งเยอะมากเป็นเชื้อไฟอย่างดี (เราอยู่ปากช่อง)   เห็นโคมลอยอยู่บนฟ้าทีไร ใจนึงก็ว่าสวยแต่อีกใจก็แอบหวาดเสียวว่าจะลงบ้านเราไหมหนอ  โคมลอยเราว่าน่าจะเหมาะกับลอยแถมทะเลนะคะ ตกลงทะเลไฟก็ดับ แต่ก็นะ เพิ่มขยะในทะเลอีก จากคุณ : บ้านหลังน้อยกะเจ้าตูบ10ตัว เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 13:06:43

ความคิดเห็นที่ 115 ผมก็พักอยู่บริเวณที่ เจ้าของกระทู้พักเหมือนกันครับ เป็นเต็นใหญ่ๆ 3 หลัง ถัดจากป้าย "เขาค้อทะเลเพลิง" เอ้ย....... เขาค้อทะเลหมอก ที่ขับแจ็สกันหลายคันอ่ะครับ แต่รถผม ลงไปจอดด้านล่าง ตอนจะหนีตายกัน ผมก็ทิ้งเต้นไว้ที่เดิมครับ แล้วเอาแต่ลูก และของสำคัญไปครับ เช่นผ้านวม ,เตาแก๊ส แห่ะๆ แต่ก็ไม่ได้ไปไหนครับ ก็อยู่แถวนั้นเหละ เพราะปีที่แล้วผมก็เห็นไหม้ เหมือนกัน แต่อยู่ด้านล่างๆ ลงไปเยอะ พอลงไปดูรถ กลับมา เต้นเราไหงล้มซ่ะขนาดนี้ แต่พี่ๆ เค้ายังช่วยยกให้หลบก่อนที่จะขับรถทับ ไม่งั้นเสาเต้น พังหมดแน่เลย ผมตอนก่อนที่ไฟจะลุก ผมชี้ให้ลูกดู "ดูสิ เหมือนใน ราพันเซล เลยป่าว ลูก"  สวยงามมากๆๆๆ ไม่นาน ก็หมดบรรยากาศเลย แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 55 13:41:44 จากคุณ : Jazzpooh (paksinda) เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 13:36:57