Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ความในใจของหัวหน้าทัวร์ยุโรป : เมื่อไหร่ไอ้ชะโงกทัวร์มันจะหมดไปซะทีวะ... ติดต่อทีมงาน

ขอผมบ่นหน่อยเถอะครับ...
บ่นอะไร ? ก็บ่นทั้งไอ้บริษัททัวร์ ที่มันจัดทัวร์ห่วยๆแบบนี้ออกมาขาย
และบ่นลูกค้าผู้มีอุปการะคุณ ที่มาซื้อทัวร์ห่วยๆแบบนี้
เลิกซื้อทัวร์แบบนี้กันซะที !

เพราะในนามของคนที่ทำทัวร์ยุโรปมาจะเข้ายี่สิบปี...
มันน่าเบื่อสุดๆ ! ทั้งสงสารลูกค้า และสงสารตัวเอง เพราะมันเหนื่อยโคด โคด !

ลองดูเส้นทางยอดฮิต ที่ผมต้องเจออยู่แทบทุกเดือนนะครับ
แต่นแต๊น...ภูมิใจเสนอ ทัวร์อียิปต์ - อิตาลี - สวิส - ฝรั่งเศส 9 วัน

วันแรก บินจากกรุงเทพฯ ไปไคโร เครื่องออกกลางคืน เมนูมีปลา กับเนื้อ

วันที่สอง เช้าถึงไคโร...ตีรถไปกิซ่า ดูปิรามิด ทะเลาะกับพ่อค้าหาบเร่ขายของที่ระลึก แล้วพาลูกค้าไปขี่อูฐ แวะดูสฟิงส์ แล้วกลับมาในกิซ่า ไปโรงงานน้ำหอม กินอาหารกลางวันบุฟเฟ่ท์ห่วยๆ บ่ายแวะโรงงานกระดาษปาปิรุส แล้วกลับเข้าไคโร นั่งหลับกันทั้งรถ
ไปตื่นเอาที่มิวเซียม เข้าไปดูห้องตุตันคามุน (ใช้เวลาทั้งหมด 45 นาที) แล้วไปตลาดข่าน อัล คาลิลี คนเป็นหมื่น เหม็นทั้งนั้น ให้เวลา 1 ชม.
แล้วไปกินข้าวจีนห่วยๆ แกงจืดไข่ใส่มะเขือเทศ แล้วกลับไปเช็คอินที่โรงแรมในกิซ่าประมาณ สามทุ่มครึ่งเป็นอย่างดี...สลบ

วันที่สาม เช้าตื่นตี 4 กินข้าวแล้ว รีบตีไปแอร์พอร์ต จับเครื่องไปโรม กว่าจะออกมาจากสนามบินได้ร่วมบ่าย 3 ทำอะไรมั่ง...ต้องพาไปวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ที่วาติกัน
เอ้า...ขวามือดูรูปแกะเพียต้าครับ ของมิเคลแองเจโล ตรงไปดูงานหินอ่อนและสำริดของเบอร์นินี่ บลา บลา บลา เจอกันที่น้ำพุ กลับมาขึ้นรถภายใน 1 ชม. นะครับ
รีบไปโคลอสเซียม ให้แวะได้ 15 นาทีจริงๆครับท่าน ถ่ายรูปประตูชัยของจักรพรรดิ์คอนสแตนติน และโคลอสเซียม แล้ววิ่งมาขึ้นรถ รถจอดรอไม่ได้นะครับท่าน อย่าซื้อไอติมมากินบนรถนะครับท่าน แพงโคด...และคนรถมันจะดุเอา บลา บลา บลา

ไปนำพุเทรวี เอ้า ต้องจอดหน้าอุโมงค์นี้นะครับ แล้วเดินเข้าซอยนี้ไป เกาะกลุ่มกันด้วย เดินตามธงของผม  เอ่อ...ห้องน้ำต้องรอเข้าที่ห้องอาหารครับคุณยาย...เอ้า โยนเหรียญให้แรงๆนะครับ ไม่งั้นเหรียญตกใส่กบาลลูกทัวร์คนจีน
เอ้า ใครจะกินไอติม ร้านหัวมุมนี่ห่วยสุด แต่คนโคดเยอะ เสียเวลาสุดๆ...เดินครับ เดินไปบันไดสเปนครับ เอ้า ข้ามทางม้าลายครับ ฟุตปาทจิ๊ดเดียว ชิดขวาสุดๆเลยครับเฮีย ถึงแล้วครับบันไดสเปน คนเป็นหมื่นระวังล้วงกระเป๋านะครับ ไปถ่ายรูปแล้วเจอกันตรงอนุสาวรีย์นี้นะครับ ตรงข้ามออฟฟิศเอเม๊กซ์ ให้เวลา 15 นาทีครับ
เอ่อ...กุ๊ชชี่ คงต้องเอาไว้ซื้อที่เวนิสนะครับ ปราด้าด้วยเหมือนกันครับ โอ...ลองชองป์นี่ต้องรอไปซื้อที่ปารีสครับ บลา บลา บลา...ห้องน้ำเขาไม่ให้เข้าฟรีครับ คุณยาย...เอ้า ไปเข้าที่แม๊คโดแนลด์นู่นเลยครับ เสร็จแล้วรอผมตรงนั้นนะครับ
พาเดินไปกินข้าวร้านเทียนสิน (จีน) แก้วดื่มน้ำพลาสติค กินแล้วเดินขึ้นเขาไปปาร์คกิ้ง ลิ้นห้อย...คนรถเอามือเคาะนาฬิกาข้อมือ ทำปากขมุบขมิบ เข้าโรงแรม นอกกรุงโรม ลูกค้าสลบตั้งแต่ในรถ...

วันที่ 4 ตื่นหกโมง กินอาหารเช้าที่ห่วยที่สุดของยุโรป คุณป้าครับ โต๊ะของกรุ๊ปเราตรงนี้ครับ ต้องกินรวมกันเพราะโรงแรมรับหลายกรุ๊ปครับ
มีครัวซองต์ใส่ถุงแร๊ปไว้คนละ  1ชิ้น ชีส กับ แฮมบางๆวางใส่จานไว้ เครื่องดื่มอยู่ที่โต๊ะยาว พนักงานประจำห้องอาหารเช้าหน้าตาเป็นตะหลิวทุกวัน
เอ่อ...ไมโลไม่มีครับคุณยาย แม๊กกี้ก็ไม่มีครับ เดี๋ยวผมไปขอเค๊ทชัพให้นะครับ กาแฟกดปุ่มนั่น นำร้อนกดปุ่มนี้ครับ มาม่าเก็บไว้ก่อนดีไหมครับ ไอ้โรงแรมนี้ มันบอกว่ามันทำให้ห้องเหม็นครับ บลา บลา บลา...
อนึ่ง ผมไม่เคยได้กินอาหารเช้าทันเลย แต่ผมจะจิ๊กครัวซองต์ไว้ สองสามอัน เอาไปเลี้ยงนกพิราบที่เวนิส
รถออก 8 โมง ตีไปปิซ่า เกือบ 4 ชั่วโมงครึ่ง
ถึง parking ในปิซ่า นั่งชัทเทิ้ลบัสเข้าไปกินข้าวจีน ห้องนำเล้กๆและสกปรกสุดๆ
ดูหอเอน 40 นาที  ถ่ายรูปกัน แล้วกลับมาที่จุดนัดพบเวลา บ่ายสองครึ่งนะครับ...ผมไปนั่งกินกาแฟที่ Mc Cafe...เฮ้อ...

เอ้า มากันครบไหมครับ ...ยัง ยังต่อราคาของอยู่...งั้นต้องรอชัทเทิ้ลบัสรอบถัดไปครับ เอ้า คราวนี้ ครบไหมครับ ...ยังอีก อาม่าไปเข้าห้องน้ำ...งั้นต้องรอชัทเทิ้ลบัสรอบถัดไป รวมรอทั้งหมดครึ่งชั่วโมงฟรีๆ

ตีไปเวนิส ตุเลง ตุเลง ไปอีก 5 ชั่วโมง
ถึงเมสเทร่ (เวนิส) สองทุ่มครึ่ง กินอาหารฝรั่งที่โรงแรม เออ...ที่นี่ทำคาร์โบนาร่าอร่อย ค่อยยังชั่วหน่อย เข้าห้องสี่ทุ่ม น้ำท่าไม่ต้องอาบมันละวะ...สลบดีก่า

วันที่ 5 ตื่น 6 โมง กินข้าว 7 โมง รถออก 8 โมง เรากำลังจะไปเวนิสครับพี่น้อง เมืองที่งดงามโรแมนติดที่สุดในโลก เอ้าลงเรือนะครับ
ระหว่างนั่งเรือถ่ายรูปกันใหญ่ เอ่อ...ในเรือไม่มีห้องน้ำครับคุณยาย เรือไปจอดที่จตุรัส ซาน มาร์โก...เดิน เดิน เดิน...อ้าว คุณยาย ผมบอกแล้วไงครับต้องเข้าห้องน้ำที่โรงแรมมาให้เรียบร้อย หา...ด่วนด้วยหรือครับ ตาย 5... ต้องมีอีก เกือบกิโลครับ

ด้วยความที่คุณยายปวดฉี่ ผมจึงจำต้องอธิบายเรื่องคุกหลวง พระราชวังดอดจ์ และวิหารเซ็นต์มารค์ด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ
ถึงห้องน้ำแล้วครับคุณยาย...ค่าใช้ห้องน้ำ 1.5 ยูโรครับ ไม่มีเศษตังค์ไม่เป็นไรครับ เขาทอนให้ อ้าว...กลัวจะเกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ  เข้าไปหมดทุกคนเลยเหรอครับ...งั้นผมรอหน้าร้านหลุยส์ครับ

ผมยืนดูดบุหรี่รออยู่ ครึ่งชั่วโมง กว่าท่านๆจะใช้ห้องน้ำกันครบทุกคน
เอ้าไปล่องเรือกอนโดล่าครับ เดินตามผมมาครับ
ลูกค้าได้ล่องเรือกอนโดล่า ประมาณ ครึ่งชั่วโมง...ผมรอที่ท่าเรือ หน้าร้าน Hard Rock Cafe...
ลูกค้ากลับมาครบ เอาล่ะครับ ผมให้เวลาท่าน หนึ่งชั่วโมง ให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย สะพานริอัลโต้เดินซอยนี้เลยครับ ร้านกุ๊ชชี่ซอยนี้ครับ ร้านหลุยส์อยู่หน้าห้องน้ำตะกี้ครับ เจอกันที่ หน้าวังดอดจ์ 11 โมงนะครับ
หา ! โอ...บ่ายโมงไม่ได้หรอกครับ บ่ายนี้ต้องเดินทางด้วยรถอีก เกือบ 7 ชั่วโมง บลา บลา บลา...

ผมงัดเอาขนมปังที่จิ๊กมาวันแรกไปเลี้ยงนกพิราบด้วยความเซ็ง ที่โดนลูกค้าคอมเพลนเรื่องเวลาน้อยไป...ก็จริงของเขา

เวนิสเป็นนครที่สวยที่สุดในโลกก็ว่าได้ แต่ลูกค้าผมกลับมีเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ในการซึมซับบรรยากาศสุดโมนติคที่สุดในโลก ทั้งยังต้องซื้อกุ๊ชชี่อีกด้วย
บ้าที่สุด !

บ่ายเดินทาง...นั่งรถ ...นั่งรถ...นั่งรถ กว่าวิวจะเริ่มสวยก็เย็นแระ แถวๆ โคโมเป็นต้นไป บรรยายเรื่องราวสวิตเซอร์แลนด์ไปเรื่อยๆ ลูกค้าก็หลับๆตื่นๆ ไปจนถึงลูเซิร์น ตอน 3 ทุ่มครึ่ง กินอาหารฝรั่ง แล้วสลบอีก น้ำไม่อาบอีกแล้วครับ

วันที่ 6 ก็ 6-7-8 เหมือนเดิม แล้วตีรถไปแองเกิลเบิร์ก 50นาที  ขึ้นรถกระเช้าไปยอดเขาทิตลิส วันนี้แต่งตัวกันเต็มยศ เหมือนหมีขั้วโลก หลังจากเปลี่ยนรถกระเช้าสองสามรอบก็ถึงสถานียอดเขา เอ้า คลุกคลีตีโมงกับหิมะซะให้สะใจ หนาวก็มาเข้าพักข้างในนะครับคุณยาย วันนี้กินข้าวเที่ยง 11 โมง เพราะต้องกลับไปที่ลูเซิร์น และเดินทางเข้าฝรั่งเศส ที่พักอยู่ที่ ดิจอง

ลงเขามาแล้ว ก็เข้าลูเซิร์น  พาไปดูอนุสาวรีย์สิงห์โต ดูสะพานไม้เก่าแก่ แล้วจอดที่หน้าร้านนาฬิกา ให้เดินเล่นในตัวเมืองเก่า ซื้อโรเล๊กซ์ ซื้อช๊อคโกแล๊ต และของที่ระลึก ได้ถึงแค่ บ่าย 3 โมง
ต้องตรงเวลานะครับทุกคน รถจอดรอไม่ได้ ระวังกะเป๋าสตางค์ให้ดีนะครับ

เซ็งมั๊ยครับ เมืองสวยน่ารักแบบลูเซิร์น แทนที่ลูกค้าจะได้มีเวลา chill chill จิบกาแฟ ชมทะเลสาป ดูโลกให้มันหมุนช้าๆ กลับต้องมาวิ่งซื้อของกันหูตูบ สะพง สะพานอะไร กรูไม่มีเวลาไปถ่ายรูปทั้งนั้น !

ได้เวลาเดินทาง รถออกได้บ่าย 3
นั่งไป เกือบ 5 ชม. ถึงดิจอง ทุ่มครึ่ง กินข้าวโรงแรม ไก่ทอดแห้งๆครึ่งตัว กับเฟรนช์ฟรายส์...นั่งเบลอๆอยู่ ว่าจะอาบน้ำซะหน่อย ...สลบ

วันที่ 7 ก็ 6-7-8 อีกนั่นแหละ เช้านั่งรถลูกเดียว นั่งไป..นั่งไป เกือบ 500 กิโล ถึงเมืองแวร์ซายตอนบ่าย สองโมง กินข้าวจีน แล้วชมพระราชวังแวร์ซาย
มีไกด์ไทยบรรยายเหมือนเดิมทุกครั้ง ดูห้องพระจันทร์ ถึงพระอาทิตย์ ห้องนอนหลุยส์ 16 ห้องนอน มารีอังตัวแนท ห้องท้องพระโรง ถ่ายรูปกับสวนหลังวัง...ออกมาสู้รบปรบมือกับพ่อค้าของที่ระลึกตัวดำๆ ตัวเหม็นๆ
มันชอบยื่นแขนดำๆเข้ามาในรถ มีพวงกุญแจรูปหอไอเฟลเต็มมือ สี่อันหนึ่งยูโร ๆ ๆ ๆ ๆ... มันพูดไทยชัดกว่าคนใช้พม่าของผมอีก หึ หึ...

แล้วรีบกลับไปในปารีส เอ้าแวะร้านน้ำหอม เอ่อ...หลุยส์ไม่มีครับพี่ร้านนี้ พี่ต้องซื้อในห้างวันพรุ่งนี้ครับ ลองชองป์มีครับร้านนี้ น้ำหอมยี่ห้อนี้ผมไม่รู้จักครับคุณป้า ลองถามคนขายดูครับ คนไทยครับ พูดไทยได้ บลา บลา บลา
วันนี้ได้กินข้าวร้านไทย ไม่อร่อย ผมว่า ...แต่ลูกค้าชอบ ก็โอเค

หลังอาหารค่ำ ไปลงเรือล่องแม่น้ำแซนน์ (ครั้งที่หนึ่งร้อยแปดมั๊ง..ของผม)
แอบงีบอยู่ชั้นล่างของเรือ ลูกค้าอยู่บนดาดฟ้าเรือ...หนาวตาย 5.. ผมนึก
ล่องเรือ  1 ชม. 15 นาที กลับมาที่รถ เอ้ากลับโรงแรมซะที
ถึงโรงแรมเกือบ 4 ทุ่ม...จ่ายทิปคนรถ เพราะค่าทัวร์เขารวมทิป (ขืนไม่รวม คนรถอดตายแน่ๆ) จ่ายไปวันละ 2 ยูโร ต่อคน ต่อวัน  เพราะพรุ่งนี้ต้องใช้รถของปารีส แล้วขึ้นไป สลบ อีกเหมียนเดิม

วันที่ 8 ก็ 6-7-8 อีก เช้ารีบไปถ่ายรูปหอไอเฟลกันอีกที่ทรอคคาเดโร ถ่ายๆ ๆ ๆ ๆ  ย้อนแสงก็จะถ่าย แล้วรีบไปจอดที่ประตูชัย มีเวลา 15 นาที ถ่ายๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
แล้วไปห้างกาเลอลี่ ลาฟาแยตต์
เอาเลยครับคุณป้า จัดให้หนัก โน่นครับ ร้านหลุยส์ ลงบันไดไปแล้วเลี้ยวขวา เดินไปสุดทางเลย ครับ นั่นแหละตรงคนจีนเข้าแถวรอซื้ออยู่นั่นแหละครับ ลองชองป์อยู่นู่นครับ เดินตรงไปสุดเกือบถึงทางออกมุมถนนโน่น อ๋อ..Nespresso อันนี้อยู่ตึกของผู้ชายครับ ชั้นล่าง กลับมาทำแบบฟอร์มคืนภาษีที่เคาน์เตอร์นี้นะครับ นัดไว้ 11 โมงครึ่ง ล้อหมุนตอนเที่ยงตรงนะครับ ไม่งั้นตกเครื่องนะครับ วันนี้ต้องไปแอร์พอร์ตครับ ได้กลับบ้านแล้วครับ

ผมตั้งข้อสังเกตเอาจากประสบการณ์ และขอแอบ "บ่น" เรื่องคนไทยซื้อ "หลุยส์" หน่อยเถอะ
อะไรมันจะเป็นความจำเป็นขนาดนั้น หยั่งกะเป็น "ภาระกิจ" เป็นวาระแห่งชาติ
เวลามันมีค่ามาก ท่านลองเอาจำนวนเงินกับจำนวนนาที ที่เราไปเที่ยวมาหารกันดู แล้วท่านจะรู้ว่า เวลามันมีค่าขนาดไหน นาทีละเท่าไหร่
และการซื้อหลุยส์สักใบ มันทำให้ท่านเสียเวลาขนาดไหน...
แหะ แหะ...พอดีก่าคับ เดี๋ยวจะมาหาว่าผมบ้า

เออ...เที่ยงตรง ตรงเวลาแฮะ ไอ้วันแบบนี้ เอาล่ะ ไปสนามบินซะที ได้เวลากล่าวคำอำลา คำอวยพร และสวัสดีลูกค้าอย่างเป็นทางการ
อ้อ...แหม ขอบคุณครับคุณยาย ที่อุตส่าห์ไปรวบรววสินน้ำใจมาให้ผมซองเบ้อเริ่ม...ผมก็จะเอาไปทำบุญในบวรพุทธศาสนา ว่า จะไปสร้างกุฏิให้พระท่านเช่า... เฮ้ย...

เครื่องออกจากปารีส บ่าย 3 โมง เปลี่ยนเครื่องที่ไคโร

วันที่ 9 เที่ยงกว่า เวลาบ้านเรา ก็ถึงเมืองไทยซะที .... ฮ่วย !

ไงครับ ดูเหมือนจะสนุก ว่าไหมครับ ?
แล้วมันน่าเหนื่อยไหมครับพี่น้อง ?

นี่แหละครับ ความจริงแสนเศร้าของวงการทัวร์
ที่พลักดันขีดความสารถทั้งร่างกายและจิตใจของมนุษย์ไปจนถึงขีดสุด
ทั้งลูกค้า และหัวหน้าทัวร์
ไม่มีอะไจสามารถ "ชะโงก" ได้มากไปกว่านี้แล้วครับ นอกจากนอนมันในรถทัวร์ !
ต้องขอบคุณพระเจ้าที่วันหนึ่งมี 24 ชั่วโมง
หาไม่แล้วไอ้พวกทัวร์มันอาจจะทำทัวร์ โรม ไปลูเซิร์นได้ภายใน 1 วัน !
และทัวร์แบบนี้ก็ยังจะขายได้ เพราะลูกค้าไม่มีความรู้ใดๆทางด้านภูมิศาสตร์
ดูแต่ว่า ราคาถูก ได้เที่ยวเยอะๆ หลายๆประเทศ
โดยลืมไปว่าวันหนึ่ง มี 24 ชั่วโมง !

ยิ่งเที่ยวเยอะเท่าไร  ก็แปลว่า ยิ่ง"ชะโงก" เท่านั้น
ไปได้แค่ "ดม" หรืออย่างดีก็ได้ถ่ายรูปให้มันได้ชื่อว่าไปมาแล้วเฟ้ย !

ผมทำกระทู้นี้ขึ้นมาด้วย ความสมเพช สงสาร ทั้งต่อตัวกระผม และต่อลูกทัวร์ที่น่ารักของกระผม

และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการ"บ่น" ของผมครั้งนี้จะพอให้ข้อคิดอะไรแก่ผู้ที่จะเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะในทวีปยุโรป ซึ่งผมถือเป็น "สนามหลังบ้าน" ของผม
อยากจะบอกแบบไม่เกรงใจใคร ว่าถ้าจะเที่ยวน่ะ อย่าไปซื้อทัวร์ครับ ลงทุน ลงแรงศึกษาหน่อย ใช้เวลาให้มันพอสมควร เที่ยวเองมันกว่าเยอะ

แต่ไม่ใช่มีเวลาอยู่อาทิตย์เดียว แต่อยากไปอิตาลี ยันสแกนดิเนเวีย และแวะซื้อของที่ลอนดอน มันไม่ได้ !
ถ้าไม่ไหวจริงๆต้องไปกะทัวร์ก็กรุณาพิจารณาอะไรให้รอบด้าน
อย่าดูแต่ราคา อย่าดูแต่สักว่าเที่ยวเยอะ
ยิ่งไอ้ทัวร์ที่ผมยกตัวอย่างมานี่ ทรมานสุดๆครับ ขอบอก
และดันเป็นทัวร์ยอดฮิตซะด้วย ไอ้อิตาลี สวิส ฝรั่งเศสเนี่ย...
15-20 ปีที่แล้ว ทัวร์ 3 ประเทศนี่ ใช้เวลา 12 วันครับ คิดดูเอาแล้วกัน ทุกวันนี้มันทำกันยังไง 9 วัน และเจือกรวมอียิปต์ไว้ด้วยอีก 1 คืน !

กลับมาถึงเมืองไทยแล้ว ท่านต้องมานั่ง"คลี่" หู อีกพักใหญ่
หู ที่มัน "ตูบ" เป็นสุนัขลาบราดอร์
วันหนึ่งน่ะ มันมี 24 ชั่วโมงมาเป็นพันปีแล้วครับ เชื่อผมเถอะ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่านที่คิดจะเดินทางท่องเที่ยวยุโรป ใน high season ที่จะถึงนี้ครับ


กระทู้นี้ยาวมาก ขอบคุณที่ทนอ่านจนจบครับ

จากคุณ : รักจริงหวังแต่ง
เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 22:50:00




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com