ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนจะเริ่มเข้าเนื้อหาที่บางคนอาจดูว่าเป็นปรัชญา  วิชาการไปหรือไม่   มาทำความรู้จักคนที่เขียนหนังสือผ่านคำสารภาพของเค้ากันค่ะ  ^^    นานมาแล้ว  ชายหนุ่มผู้หลงใหลในวิชาการคนหนึ่ง  เป็นผู้ไม่มีศรัทธาในความรัก   เมื่อกาลเวลาแห่งอายุขัยล่วงพ้นวัยเบญจเพส  มิตรสหายผู้ปรารถนาดีเคยถามเขาเสมอว่า เมื่อไรจึงจะรู้จักรักใครสักคน  เขาก็ตอบเล่นลิ้นไปว่ามีแล้ว  เขารักหญิงพร้อมกันทีเดียวสองคน จึงไม่รู้ว่าจะตัดสินใจเลือกคนไหนดี  หล่อนคนหนึ่งนั้นยังไม่เกิด  ส่วนอีกคนหนึ่งตายไปแล้ว   เพื่อนๆ พากันหัวเราะ คงจะด้วยความเวทนามากกว่าขำขันที่เขาเป็นเสมือนคนไม่มีหัวใจ  ถ้าถ้ามีก็คงเต็มไปด้วยความชังแทนที่จะเป็นความรัก  อุทยานแห่งชีวิตของเขาจึงดูประหนึ่งจะเต็มไปด้วยป่าลั่นทมและกอระกำ  มากกว่าต้นกุหลาบหรือพุ่มรัก กาลเวลาล่วงเลยไปอีกหลายปี  จนเขากลายเป็นหนุ่มใหญ่ย่างเข้าสู่วัยกลางคน  คงจะเป็นเพราะความว้าเหว่เปล่าเปลี่ยว  หรือไม่ก็เพราะความเข้าใจชีวิตดีขึ้น  จึงทำให้เขาตัดสินใจว่าควรจะเริ่มรักและรับรักใครสักคน  เขาจึงได้เริ่มค้นและศึกษาเพื่อจะหานิยามของคำว่า ความรัก  บันทึก”ปัญหาความรัก” เล็กๆ เล่มนี้จึงได้บังเกิดขึ้น   ......มนุษย์คนใดก็ไม่อาจหลีกหนีพ้นไปจากความรัก จากคุณ : โบกโบยบินไป เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 55 14:29:13

ความคิดเห็นที่ 2 ความรักคืออะไร.........ในเบื้องต้นเรามาทำความรู้จักกับ “ นิยามของความรัก”  กันค่ะ   วันหนึ่ง ในการเลี้ยงอาหารว่างที่บ้านจินตกวีชาวเมืองเอเธนส์คนหนึ่งชื่อ  อกาธอน  ผู้ได้รับรางวัลที่หนึ่งในการแสดงละครซึ่งท่านประพันธ์ขึ้นเองที่โรงละครกรีกเทียเตอร์  ท่านได้เชิญมิตรสหายสนิทที่สุดมาร่วมฉลองความสำเร็จครั้งนั้นด้วย  ระหว่างการสนทนาอาคันตุกะทั้งหลายได้ถกเถียงกันถึง “ปัญหาความรัก”  ซึ่งเป็นปัญหาที่ชอบพูดถึงกันมากที่สุด  แต่ละคนได้พยายามอธิบายความคิดของเขาว่า  “ความรัก” นั้นคืออะไร “ความรักน่ะหรือ”  พีดรุสกล่าวขึ้นด้วยเสียงอันดัง  “คือเทพเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดและมีอำนาจมากที่สุดพระองค์หนึ่ง  ความรักคืออำนาจที่ทำให้คนหนุ่มสามัญกลายเป็นวีรบุรุษ  ทั้งนี้ก็เพราะว่าผู้ที่ตกอยู่ในความรักย่อมมีความละอายที่จะแสดงความขี้ขลาดต่อหน้าคนที่เขารัก  ดอากองทัพที่สร้างขึ้นด้วยคนตกหลุมรักมาให้ฉันเถอะ  ฉันจะพิชิตโลกนี้ให้ได้....” “ถูกแล้ว”  พอเซเนียส  คนพูดต่อไปรับรอง  “แต่เพื่อนจะต้องแยกความรักบนพื้นโลกกับความรักบนสวรรค์  คือ  แยกความดึงดูดระหว่างร่างกายสองร่างเป็นอย่างหนึ่งกับความปฏิพัทธ์ระหว่างวิญญาณสองวิญญาณเป็นอีกอย่างหนึ่ง  ความรักที่ต่ช้าของร่างกายย่อมมีปีกแล้วก็จะบินหนีไปเมื่อความหนุ่มสาวสิ้นสุดลง  แต่ในขณะเดียวกันนั้นความรักที่สูงส่งของวิญญาณจะคงอยู่ชั่วนิรันดร...” โซเครตีส  ได้ถูกขอร้องให้พูดถึงปัญหานี้สักสองสามคำ  โซเครตีสได้กล่าวอย่างถ่อมตนว่า “ความรักนั้นคือ  ความกระหายของวิญญาณมนุษย์ผู้จะขึ้นให้ถึงความงามอันเป็นทิพย์  ผู้ที่ตกอยู่ในความรักนั้น  ไม่เพียงแต่จะเสาะแสวงหาความงดงามอย่างเดียว  แต่จะสร้างสรรค์ความงดงามขึ้นด้วย  พร้อมทั้งรักษาให้คงไว้  และเพาะพืชพันธุ์แห่งอมฤตภาพลงในร่างที่หลีกไม่พ้นความมรณะนั้น  นี่แหล่ะคือคำตอบที่ว่าทำไมเพศทั้งสองจึงต้องรักกัน  เพราะเขาต้องการก่อให้เกิดร่างขึ้นอีกและสามารถยืดเวลาแห่งชีวิตไปชั่วกัลปาวสาน  และนี่ก็เป็นเหตุที่ทำให้บิดามารดารักบุตร  เพราะว่าวิญญาณของบิดามารดาที่มีความรักนั้น ไม่ได้สร้างสรรค์แต่เพียงบุตร  แต่หากสร้างผู้แสวงหากับผู้ร่วมมือสร้างผู้ร่วมงานกับผู้ที่จะรับงานต่อไป  เพื่อการค้นคว้าหาความงดงามนี้ต่อไป “อันความงดงามที่เราปลงใจจะรักษาไว้ด้วยความรักนี้คืออะไรกัน? มันคือความมีปัญญา  มีคุณธรรม  มีเกียรติยศ  ความกล้าหาญ  ความยุติธรรม  และความศรัทธานั่นเอง  อีกนัยหนึ่ง  ความงดงามคือความจริง  และความจริงก็เป็นหนทางที่จะนำไปสู่พระผู้เป็นเจ้าโดยตรง” ผู้เขียนบอกว่านิยามเหล่านี้มีความถูกต้องเพียงซีกเดียว จากคุณ : โบกโบยบินไป เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 55 14:33:15

ความคิดเห็นที่ 3 ความรักวิวัฒนาการจากสัญชาตญาณของสัตว์ไปสู่ความรักอันเป็นอารมณ์สูงสุดของมนุษย์   ในหมู่มนุษย์ยุคแรกเริ่ม  มนุษย์รวมกันอยู่เป็นกลุ่มและนิยมการสมรสหมู่สับเปลี่ยนกันจนแลดูสับสน  เมื่อกลุ่มมนุษย์ได้แปรผันเป็นชาติพันธุ์  หญิงทุกคนก็กลายเป็นสมบัติสาธารณะของชายทุกคน  ส่วนความเปลี่ยนแปลงซึ่งได้ดำเนินไป  จนที่สุดมีการบังคับให้ฝ่ายชายยอมรับนับถือการมีภรรยาเฉพาะคนเดียว   วิจารณ์ความรัก ---  ความรักกับความใคร่ จากปัญหาความรักที่ดูเหมือนว่าความรักกับความใคร่เป็นสิ่งที่แยกออกจากันได้ยาก  ทำให้เราต้องมาทำความเข้าใจในเรื่องนี้กัน ผู้เขียน  กล่าวว่า “ความรักไม่ใช่ความใคร่  และความใคร่ก็ไม่ใช่ความรัก  สองสิ่งนี้ไม่เพียงจะแตกต่างกันในรูปอักษร  ยังแตกต่างกันทางคุณลักษณะ และมักมีผุ้หลงเอาความรักกับความใคร่ไปปะปนกันอยู่เสมอ  เพราะไม่เข้าใจธาตุแท้และลักษณะแตกต่างระหว่างความรักกับความใคร่จริงๆ  แต่บางคนไม่เป็นเช่นนั้น  เขาจงใจเอาความใคร่ไปปะปนกับความรักโดยเจตนา  นั่นคือ  ชายที่เรียกกันว่าเสือผู้หญิง    แต่หากจะโทษแต่เสือผู้หญิงก็ไม่ใช่  เพราะคนทั่วไปก็มีความใคร่  ซึ่งมีวิธีดับความใคร่ของตนได้  เพราะเขารู้จักเกียรติยศของตนเองและเกียรติยศของผู้อื่น  รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา   และได้เปรียบเทียบความรักกับความใคร่เอาไว้  ดังนี้  (ขอยกตัวอย่างสักเล็กน้อย) ความรัก +++ มีจุดประสงค์ที่จะเทิดทูนอีกฝ่ายหนึ่งมาเป็นเพื่อนร่วมชีวิต  มาเป็นคู่ครองหรือคู่ทุกข์ยาก  แต่ ความใคร่ +++ มีความต้องการเพียงเอาอีกฝ่ายหนึ่งมาปลดเปลี้องความใคร่ที่คุโพลงอยู่ในอก  หากจะมีการเลี้ยงดูหรือรับผิดชอบก็เพียงในลักษณะชั่วคราว ความรัก +++ ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยอารมณ์ชั่วแล่น  หากเกิดขึ้นด้วยการคิด  การไตร่ตรอง  มีเหตุผล  หนักแน่น  และมั่นคงถาวร  ความรักมักจะเริ่มขึ้นด้วยปัญหาว่าเขาเป็นโสดหรือเปล่า  เรารักเขาจริงไหม  เขาดีอย่างไรที่ทำให้เรารัก  เราเหมาะสมกับเขาหรือไม่  รสนิยมของเขากับเราเป็นอย่างไร  วัยและวุฒิเป็นที่พอใจแก่กันหรือไม่  มีอะไรที่ขัดแย้งกันอยู่บ้าง  ฯลฯ ความใคร่ +++ ไม่ต้องการเหตุผล  สุดแต่อารมณ์จะพาไป  ถ้าจะว่ามีเหตุผล  นั่นก็เพียงเนื่องจากฝ่ายหนึ่งสวยเก๋มีเสน่ห์เย้ายวน  หรือสักแต่ว่าขอให้เป็นเพศตรงข้ามที่จะช่วยบำบัดดำกฤษณาแก่ตนได้   แล้วความรักจะเปลี่ยนเป็นความใคร่  ความใคร่จะเปลี่ยนเป็นความรักได้หรือเปล่า  ผู้เขียนได้อธิบายว่า  การเปลี่ยนแปลงกลับกันระหว่างความรักกับความใคร่เป็นสิ่งที่เป็นไปได้  แต่ต้องประกอบด้วยเงื่อนไขที่แน่นอน  อยากรู้ว่าคืออะไร  ติดตามได้ในเล่มค่ะ  อิอิ จากคุณ : โบกโบยบินไป เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 55 14:36:37

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องต่อมา  “กามารมณ์”  กรุณาอย่าเข้าใจผิด  อันนี้เป็นเรื่องเชิงวิทยาศาสตร์  เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั้งในมนุษย์และสัตว์  โดยผู้เขียนได้อธิบายคำนี้ไว้ว่า  หมายถึง  ความต้องการที่จะประกอบและบรรลุการสมสู่ระหว่างเพศ  ที่นอกจากต้องการดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นสุขแล้ว  ยังต้องการสืบขยายและแพร่พันธุ์ออกไป   ผู้เขียนได้กล่าวถึงวิวัฒนาการของเรื่องนี้  เกี่ยวเนื่องกับการรวมกลุ่มทางสังคม  ระบอบทรัพย์สินที่สมัยโบราณคือสินทรัพย์ส่วนรวม  ซึ่งเหมือนการสืบพันธ์ของสัตว์มากกว่าในปัจจุบันที่ได้แยกเป็นครอบครัวที่แยกตัวออกมา  โดยสังคมทั่วไปได้ยอมรับและมีกฎหมายรับรองระบอบผัวเดียวเมียเดียว   ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจ  การเมือง  และวัฒนธรรมของยุคใหม่  ทั้งโดยตรงและอ้อ  ทำให้คนส่วนใหญ่ผู้ยากจนกลายเป็นเครื่องมือบำเรอความสุขอย่างวิตถารของคนรวยไม่กี่คน แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 55 14:41:38 จากคุณ : โบกโบยบินไป เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 55 14:39:44

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องที่เกี่ยวเนื่องกันต่อมา  คือ  “พรหมจารี”  เพื่อนๆ ผู้ชายคงสนใจเรื่องนี้กันมากที่สุด  อิอิ สมัยอดีตหรือปัจจุบันก็อาจมีความเชื่อที่ว่า  ผู้หญิงที่เสียพรหมจารีให้ชายใดแล้ว  ย่อมตกเป็นสมบัติ  จงรักภักดีต่อชายนั้น  บางทีในเรื่องนี้กลับเป็นเรื่องที่สร้างเงื่อนไขในการครอบครอง  และลิดรอนสิทธิผู้หญิงอย่างมากเลยนะคะ  และอีกในทรรศนะหนึ่ง  ที่ถือว่าสาวบริสุทธิ์หรือพรหมจารีนั้นไม่สำคัญ  ลูกเขาเมียใคร  ฉันจะเอาใครจะทำไม (ไม่แรงไปนะคะ)   สร้างค่านิยมที่ผิดทำให้ผู้หญิงต้องกลายเป็นเพื่อนนอนในสต็อกของผู้ชาย  เพื่อบำเรอความสุขความต้องการของคนที่มีอำนาจ  ความมั่งคั่งในมือมากกว่า  แล้วอะไรคือทรรศนะที่ถูกต้อง  ผู้เขียนได้บอกว่า ...”เราควรจะถือว่าพรหมจารีของหญิงนั้นทั้งสำคัญและไม่สำคัญ  ไม่ว่าจะเป็นสาวบริสุทธิ์หรือไม่   ศักดิ์ศรีของหญิงเป็นสิ่งที่พึงรักพึงหวงแหนตลอดไป” ...ธาตุแท้ไม่ได้อยู่ที่มีความเป็นพรหมจารีหรือไม่  แต่อยู่ที่การเข้าใจชีวิต  เข้าใจโลก และเข้าใจความสัมพันธ์ทางเพศในลักษณะต่างๆ กัน  ตลอดจนการวางตัวและ ปฏิบัติต่อมันอย่างเหมาะสมหรือไม่ต่างหาก  สำหรับหญิง  ปัญหาการเสียความบริสุทธิ์   คือ  การก้าวจากการไม่เคยหลับนอนกับชายมาสู่ขั้นหลับนอนกับชายนั้น  ย่อมเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ ช่วงหนึ่งของชีวิต  ต่อไปจะดีขึ้นหรือชั่ว  มีความเกี่ยวพันกับการเริ่มต้นที่ดีหรือไม่  ถูกหรือไม่ถูก... จากคุณ : โบกโบยบินไป เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 55 14:44:08

ความคิดเห็นที่ 6 ขอข้ามมาที่  “ทรรศนะต่อความรัก”  นะคะ ความรักระหว่างหนุ่มสาว  โดยตัวมันเองมีแต่ความสดชื่นเบิกบาน  จรรโลงและรังสรรค์ชีวิตให้สวยงามยิ่งขึ้น  ตัวความรักเป็นสิ่งที่น่าถนอม กล่อมเกลา  โลกย่อมยินดีเมื่อหนุ่มสาวรักกัน รักก็คือรัก  รักจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้  แต่แล้วทำไมรักจึงกลายเป็นทุกข์เล่า  นั่นมิได้อยู่ที่คำว่า “ความรัก”  อันเป็นนามธรรม  หากอยู่ที่คนเรา  คนเราซึ่งมี “ทรรศนะ”  อย่างไรต่อความรักนั้นต่างหาก  มาดูกันว่า  ทรรศนะของเราเหมือนข้อไหนบ้างไหม  คำตอบที่แท้จริงคืออะไร ...ความรักเป็นสิ่งที่มีพลังอย่างน่าอัศจรรย์  ความรักได้จูงใจหนุ่มสาวให้ใฝ่หาสิ่งหนึ่ง ทั้งๆ ที่สิ่งที่เขาใฝ่หากันนั้น  ตนเองยังไม่ทราบเลยว่าจะมีรสขมหรือหวานประการใด   เป็นความจริงอยู่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง ...ความรักคือเหตุผลที่ปราศจากเหตุผล  ข้อนี้ผู้เขียนแย้งว่า  เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ว่าตัวเองรักใครเพราะอะไร  เพียงแต่ต่อคนอื่นอาจพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเท่านั้นเอง ...ความรักคือการเห็นแก่ตัว  การครอบครอง  ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอคนนั้นมา  นั่นไม่ใช่สิ่งที่ควรยึดถือ ...ความรักคือการเสียสละ  ผู้เขียนได้อธิบายว่า ในเงื่อนไขที่แน่นอนเท่านั้นที่ควรมีการเสียสละ  ต้องวิเคราะห์สภาพการณ์ที่เป็นจริงๆ เป็นรายๆ ไป ...ความรักทำให้คนตาบอด  ผู้เขียนบอกว่าความรักไม่เคยทำให้ตาบอด  ความหลงต่างหากที่ทำให้ตาบอด  ความรักมีแต่การชักนำไปสู่การกระทำที่มีเหตุผล จากคุณ : โบกโบยบินไป เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 55 14:48:11

ความคิดเห็นที่ 7 ภารกิจของความรัก ผู้เขียนได้กล่าวถึง  ความจริง 3 ข้อที่เป็นทรรศนะเกี่ยวกับเรื่องนี้ คือ 1. ความคิด  การพูด  และการกระทำ  เป็นสิ่งที่เกี่ยวพันกันประดุจลูกโซ่ที่ไม่อาจแบ่งแยกออกจากกันได้ 2. ความรักไม่ได้อยู่เพียงแค่ลมปาก  สำคัญยิ่งอยู่ที่การกระทำ  มีแต่การกระทำที่พิสูจน์ให้เห็นว่ารักเท่านั้นจึงเรียกว่ารัก  มิฉะนั้นก็ไม่สามารถเรียกได้ว่ารัก  อย่างดีก็เรียกได้เพียงว่ารักที่รักไม่เป็น  ดังเช่นหญิงที่สอนลูกให้เป็นโจร 3. ความรักไม่ใช่อะไรอื่น คือ  การประคับประคอง  ทะนุบำรุงและพิทักษ์รักษา  ให้ความใฝ่ฝันหรืออุดมการณ์ในการสร้างสรรค์เจริญวัฒนาก้าวหน้าไป จากคุณ : โบกโบยบินไป เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 55 14:51:47

ความคิดเห็นที่ 8 อุดมการณ์ของความรัก อุดมการณ์เป็นสิ่งที่เชื่อมชีวิตหนุ่มสาวให้สนิทแน่นแฟ้นยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด  ความสอดคล้องกันในทางความคิด  ความใฝ่ฝันหรืออุดมการณ์  จะทำให้รักนั้นเป็นพลังอย่างที่จะผลักดันให้หนุ่มสาวใช้ชีวิตของตนเป็นประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและสังคม  คนเราจะรักกันก็ต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน  เปิดเผยความดีและความบกพร่องของตน  ไม่บิดบังกลบเกลื่อน  ความเข้าใจกันย่อมเป็นที่มาแห่งการให้อภัยซึ่งกันและกันถ้าหากมีอะไรผิดพลาด  และความเข้าใจซึ่งกันและกัน จะไม่ทำให้ความผิดหวังเกิดแก่ชีวิตรักและสมรสด้วย  จึงควรทำความเข้าใจกันเสียก่อน  ก่อนที่จะมีอะไรอันเป็นที่เสียใจเกิดขึ้น ความรักที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความเคารพซึ่งกันและกัน  คือ  ความรักที่บริสุทธิ์และแท้จริง ขอให้เพื่อนๆ ได้เจอความรักแท้ และรักษากันและกันด้วยหัวใจที่มั่นคงนะคะ  ^__^ @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ ก่อนจากมาแชร์กันดีกว่าค่ะ  เพลงที่เพื่อนๆ ชอบหรืออยากมอบให้ใครสักคนคือเพลงอะไรในเทศกาลแห่งความรักนี้ ขอมอบเพลงนี้ล่ะกันนะคะ  ชอบเป็นการส่วนตัว  มอบให้เพื่อนๆ ทุกคนค่ะ โลกหมุนด้วยความรัก  --  Crescendo จากคุณ : โบกโบยบินไป เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 55 14:58:14

ความคิดเห็นที่ 9 "  เวลากับความรัก  " มีครูกับลูกศิษย์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งใกล้กับสนามหญ้าอันกว้างใหญ่ ทันใดนั้นลูกศิษย์คนหนึ่งก้อถามขึ้นมาว่า ลูกศิษย์:”อาจารย์คับผมสงสัยจังเลยว่า เราจะหาคู่แท้เราเจอได้ไงคับ อาจารย์บอกผมหน่อยได้ไหมคับ? “ อาจารย์:(เงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะตอบ) "อืม มันเป็นคำถามที่ยากนะ ในขณะเดียวกันมันก็เป็นคำถามที่ง่ายเหมือนกันนะ " ลูกศิษย์:(นั่งคิดอย่างหนัก) "อืม?....งงอะไม่เข้าใจ" อาจารย์:"โอเคงั้นเธอลองมองไปทางนั้นนะตรงนั้นน่ะ มีหญ้าเยอะแยะเลยใช่ไหม เธอลองเดินไปหาหญ้าต้นที่สวยที่สุดแล้วเด็ดมาให้ครูสิ ต้นเดียวเท่านั้นนะแต่ว่าเวลาเธอเดินเนี่ย เธอต้องเดินไปข้างหน้าอย่างเดียวนะห้ามเดินถอยหลัง เข้าใจไหม " ลูกศิษย์: "ได้เลยครับจานรอสักครูน่ะครับ "(ว่าแล้ว ก้อวิ่งตรงไปยังสนามหญ้า) หลังจากนั้นไม่นาน.... ลูกศิษย์: "ผมกลับมาแล้วครับจาน " อาจารย์: "อืม...แต่ทำไมครูไม่เห็นต้นหญ้าสวยๆ ในมือเธอเลยหละ " ลูกศิษย์: "อ๋อคืองี้ครับจาน ตอนที่ผมเดินไปแล้วผมเจอต้นหญ้าสวยๆเนี่ย ผมก้อก้อคิดว่าเออเดี๋ยวก้อคงเจอต้นที่สวยกว่านี้ ดังนั้นผมก็เลยไม่เด็ดมันแล้วผมก็เดินไปเรื่อ รู้ตัวอีกทีมันก็สุดสนามหญ้าแล้วครับ จะเดินกลับก้อไม่ได้เพราะจานสั่งห้ามไว้ " อาจารย์: "นั่นแหละคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิตจริงหละ " เรื่องนี้ต้องการที่จะสื่ออะไรกับเรา ต้นหญ้าก็คือคนที่อยู่รอบๆตัวคุณ ต้นหญ้าที่สวยงามก็คือคนที่คุณชอบ หรือคนที่ดึงดูดคุณนั่นแหละ ทุ่งหญ้าก็คือเวลา เวลาที่คุณจะหาคู่แท้ของคุณอย่ามัวแต่เปรียบเทียบแล้ว คิดว่าคงจะมีที่ดีกว่านี้เพราะถ้าคุณ มัวแต่เปรียบเทียบคุณจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ อย่าลืมว่า"เวลาไม่เคยย้อนกลับ" ไม่ใช่แค่ความรักเท่านั้นเรื่องนี้ยังสามารถใช้ได้กับ การหาคนที่จะมาทำงานร่วมกับคุณในชีวิตหรือ แม้กระทั่งงานที่เหมาะสมกับคุณดังนั้น มันจึงเป็นสัจธรรมที่ว่า "จงรักและไขว่คว้าโอกาสที่คุณมีในขณะนี้ อย่ามัวแต่เสียเวลา บางครั้งคนเราก็มีโอกาสเลือกแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น" จากคุณ : LungOum เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 55 15:21:30

ความคิดเห็นที่ 10 " ความรัก สวยงามเสมอ ไม่ว่าเวลาไหน " ยิ้มม.. จากคุณ : เข็มซ่อนปลาย เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 55 22:28:21

ความคิดเห็นที่ 11 ... จากคุณ : gotland เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 55 23:28:11

ความคิดเห็นที่ 12 คุณอุ้ม..........นึกถึงเรื่องเล่าอีกเรื่องที่ว่า  ความรักเมื่อวิ่งตามมันก็วิ่งหนี  แต่เมื่อเมื่อไหร่ที่เราอยู่นิ่งๆ ความรักกลับวิ่งมาหาเรา  ^^ พี่เอ๋............มีการ์ดวาเลนไทน์ยังคะ  เตรียมอะไรไปขายบ้าง  โอกาสดีๆ   เดี๋ยวจะส่งความรักไปหาหรือไปเจอตัวกันดีคะ  ^__^ พี่ยุทธ........เพลงเพราะมากเลยค่ะ  แปลกที่ทุกคนแอบคิดถึงคนที่รัก คนที่แอบรัก  คนที่เคยรักผ่านการเฝ้ามองแต่ดวงจันทร์ในยามค่ำคืน  ดวงจันทร์เป็นตัวแทนที่เราชอบคิดว่าคนที่อยู่ห่างอยู่อีกมุมหนึ่งก็กำลังเฝ้ามองดวงจันทร์ดวงเดียวกันและคิดถึงเราอยู่เช่นกันรึเปล่าคะ  ^^ จากคุณ : โบกโบยบินไป เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 09:00:36

ความคิดเห็นที่ 13 ชอบจังเลยค่ะพี่ตา^^ จากคุณ : arakanji เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 09:30:17

ความคิดเห็นที่ 14 ดีใจที่ชอบจ้า  แล้วหนูเล็กชอบเพลงไหนเป็นพิเศษไหม   เพลงที่กำลังฟังอีกเพลงในนาทีนี้  คือ  ...... เพลงของเบล  สุพล ---  ตอบได้ไหมว่า  ได้ไหม  ^__^ จากคุณ : โบกโบยบินไป เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 09:37:55

ความคิดเห็นที่ 15 ยิ้มม น้องตา ไม่ได้ทำการ์ดเลยคะ ช่วงนี้อ่ะ แง๊วว อิอิ ว่างและสะดวกเชิญได้เลยจ้า มิวสิกข้างบน...ร่มสีสวยมากกก น่าเอามาเป็นแบบในทุ่งเขียวๆ เน๊อะ ยิ้มม จากคุณ : เข็มซ่อนปลาย เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 10:33:31

ความคิดเห็นที่ 16 รัก จากคุณ : คนเป็นตาแพง เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 12:17:31

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณค่ะ  พี่เอ๋........เดี๋ยวไปบุกด่วนจี๋เลย  คิดถึงหอนาฬิกา   เนื้อผัดน้ำมันหอย  และวัดปงสนุกค่ะ  ^__^ คนเป็นตาแพง.........รัก  คำเดียวที่ใครๆ ต้องการ  แต่ยากที่จะเข้าใจ ********************************************** เอาภาพแสตมป์จากเวปสยามแสตมป์มาฝากค่ะ  มี 4 แบบ  จำหน่ายวันพรุ่งนี้ จากคุณ : โบกโบยบินไป เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 13:40:21

ความคิดเห็นที่ 18 ฝากข้อความถึงหนูเล็กค่ะ   พี่ยังเลือกภาพที่ไปเที่ยวอยุธยาไม่เสร็จเลย   แล้วก็ลืมไม่ได้เซฟไฟล์มาด้วยอ่ะ  ต้องเตรียมข้อมูลวัดอีก  55 เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมารีวิวแต่เช้านะจ๊ะ  ขอโทษด้วยนะ  รอชมด้วยนะ  ^__^ จากคุณ : โบกโบยบินไป เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 16:26:12

ความคิดเห็นที่ 19 น้องตา ^__^ พี่แต่งงานมาจะครบ 6 ปีแล้ว ลืมไปเลยว่า "รัก" คืออะไร แค่เราเข้าใจกันก็พอ ยอมรับตัวตนของกันและกันได้ ในชีวิตคนเราก็เจอรักหลายรูปแบบ ตั้งแต่รักจากผู้ให้กำเนิด รักในสายใยพี่น้อง รักฉันท์เพื่อน รักแบบคนรัก รักแบบสามีภรรยา รักผู้ร่วมโลกเดียวกัน รักในสรรพสัตว์ทั้งหลาย รักแต่ละแบบให้ความรู้สึกไม่เหมือนกันเลย ทั้งๆที่ก็เป็นความรักเหมือนกัน จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 00:34:02

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นเพื่อน โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊คว่า ชีวิตคู่ คือการยอมรับความเฮงซวยของอีกฝ่ายได้ พี่ว่าจริงๆนะ 555555555555555555+ จากคุณ : กิ๊บส์ เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 08:18:33

ความคิดเห็นที่ 21 พี่กิ๊บส์.......5555  จริงๆ นะคะ  หนูว่า  ^^ พี่ติ๊ก.......อันนี้ก็จริงอีกเนอะ  ถ้าเข้าใจ  ยอมรับกันและกันได้  ให้เกียรติกันและกัน  ชีวิตก็ไม่ต้องการอะไรไปกว่านี้อีกแล้ว  หนูเองก็ดีใจที่มี "กัลยาณมิตร"  อยู่รอบตัว  มีอะไรแบ่งปัน  ให้กำลังใจกัน  เข้าใจเรา  แนะนำกัน  เป็นเพื่อนที่มีค่าที่เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมค่ะ  ^_____^ ************************************************* ปล.หนูเล็ก  เค้าเรียกประชุมงานด่วนแต่เช้าเลยอ่ะ  รอก่อนนะจ๊ะ  จะรีบมานะ จากคุณ : โบกโบยบินไป เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 08:31:58

ความคิดเห็นที่ 22 ความรักที่น่าเศร้าคือ . .  .  . .                  รักสิบล้อ เป็น  รักเมื่อสาย  เป็นรักที่ไม่สมหวังในรัก เนื่องเพราะ . . ......   รักสิบล้อ ต้องรอสิบโมง แถวบ้านผม สิบโมง ถือว่าสายมากแล้วครับ จากคุณ : gotland เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 15:05:48

ความคิดเห็นที่ 23 หนูว่า....ถ้ารักกันจริง  เค้าคงไม่ทิ้งกันให้รอเก้อกระมังคะ   คนที่รักจริงก็คงจะรัก หวังดีต่อคนที่รักต่อไป  แม้เขาจะไม่รักเราตอบ  หุหุ พยายามคิดตามปรู่อ่ะ   ยัง งง-งง  แต่คิดถึงเพลงหนึ่งของทาทายัง  พรุ่งนี้ไม่สายที่จะรักกันค่ะ ^__^ จากคุณ : โบกโบยบินไป เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 16:14:38

ความคิดเห็นที่ 24 ความรัก คือ การได้รักใครสักคนหนึ่ง นั่นก็ถือว่าเป็นความรักแล้วล่ะค่ะ จากคุณ : แก้วค่ะ (sukanyaนะค่ะ) เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 55 16:19:00

ความคิดเห็นที่ 25 "อาจจะมีใครใคร เด็ดทิ้งเอาไว้ รู้ไหมดอกไม้ยังงดงาม เพราะรักสำหรับฉัน คือความเข้าใจ อย่างไรก็รักเธอ ฉันรออยู่ ฉันรออยู่ รับรู้เรื่องราวผ่านมาได้ทั้งนั้น รักเธอต่างหากที่สำคัญ และฉันจะรักเธอด้วยชีวิต" http://www.youtube.com/watch?v=sdU8uhWzewA&feature=related จากคุณ : r_teenoi เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 13:10:19