19 มกราคม 2555
ใช้เวลาไม่นานก็หลับไป ตื่นมาอีกทีตอนได้ยินเสียงพระสวด เค้าใส่บาตรข้างเหนียวกันแย้ว ไม่ทันเลย ฮือ ฮือ ครั้งที่แล้วก็ตื่นไม่ทัน ตื่นมาปุ๊ปเปิดห้องออกไปเห็นวิวแม่น้ำโขง โอ้โห ชอบจังเลยบรรยากาศแบบนี้ มันบรรยายไม่ถูก อยากอยู่ต่ออีกซักคืน แต่ต้องไปแล้วเพราะเราต้องไปอีกหลายที่ ตอนนั้นสับสนค่ะ เพราะเงียบ สงบ สงายใจมากอ่ะ ทำยังไงดี ตัดสินใจเดินไปหาเจ้าของบ้านแล้วถามว่า
เรา : คุณฟี่ห้องเราข้างบนคืนนี้มีใครมาต่อมั้ย
คุณฟี่ : มีแล้วค่ะ ไม่ว่าง แต่ห้องข้างล่างว่างนะเอามั้ย
เรา : ไม่เอาอ่ะ งั้นออกเลยก็ได้ จะได้ไปพิษณุโลกต่อ (ใจแอบเสียดายเพราะอยากอยู่อีกซักวัน)
คุณฟี่ : กินอะไรหรือยัง ไปกินไข่กระทะมั้ย ข้าวเปียกก็มี . . . พร้อมทั้งให้คูปองอาหารเรา
เรา : ไม่เอา ขี้เกียจไป น้ำก็ยังไม่ได้อาบ
คุณฟี่ : งั้นเดี๋ยวกินข้าวด้วยกันนะ จะทำกับข้าวให้กิน
มาคนเดียวเหรอ ไม่เหงาหรือไง
เรา : มาคนเดียวค่ะ เคยมาที่นี่แล้วครั้งนึงชอบเลยมาอีก
คุณฟี่ : อ้าว แล้วทางบ้านไม่เป็นห่วงเหรอ
เรา : ไม่อ่ะ เพราะไม่ได้บอกใคร มีเรื่องทุกข์ใจนิดหน่อยเลยมา
คุณฟี่ : อยากให้เราอยู่เป็นเพื่อนมั้ย อยากไปไหนหรือเปล่า เดี๋ยวเราพาไป หรืออยากอยู่คนเดียวก็ได้ แต่เห็นว่าอยู่คนเดียวกลัวเหงา
เรา : ไม่ค่ะ ขอบคุณนะ คุณฟี่ ตกลงว่าเราจะอยู่ต่อเอาห้องข้างล่างก็ได้ แล้ววันนี้ถ้าเราจะขี่จักรยานไปแก่งคุดคู้ ได้มั้ย ไกลมากเปล่า
คุณฟี่ : ไม่ไกลนะ ขี่ไปตามถนนใหญ่ ประมาณ 5 กิโล ก็ถึง ไม่น่ากลัว
เรา : ตั้ง 5 กิโล ไหวมั้ยเนี่ย แต่เอาวะ ลองดู (ปั่นจักรยานนะ)