ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากนอนคิด นั่งคิด เปิดพันทิปห้องบลูแล้วคิด ให้กูเกิ้ลช่วยคิดก็แล้ว นั่งดูภาพอันอลังการของน้ำตกทีลอซูไปด้วย (ในกูเกิ้ลภาพน้ำตกมันอลังการจริงๆ นะเออ)จากการที่พยายามนั่งเก็บข้อมูลซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากสมาชิกในห้องบลู ขอกราบขอบพระคุณงามๆ เลยเจ้าค่ะ เพราะหากไม่ได้ข้อมูลต่างๆ ที่ท่านสมาชิกมารีวิวไว้เราคงจะจัดทริปนี้กันไม่ถูก อนึ่งเพราะพวกเราไม่มีรถไปกันด้วย และ 2 การเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยว เราคงจะไม่สามารถนึกจินตนการแล้วเอาไปหลอกล่อหาเพื่อนๆ ไปร่วมความเสี่ยงได้ อิอิ.. อีกอย่างถ้าซื้อทัวร์ไป ซึ่งทัวร์ทริปทีลอซูหาได้ง่ายมั๊กๆ แต่ค่อนข้างมีราคาสำหรับ นศ. จนๆ อย่างเราๆ แต่เพราะไกด์ไลน์จากสมาชิกในห้องนี้ทำให้เราสามารถวางแผนคร่าวๆ ไปกันเองได้ค่ะ  ขอบคุณโลกนี้ที่สร้างอินเตอร์เน็ตและห้องบลูเพเน็ตมาให้ ว่าไปนั่น >.< อ่ะ !~~ แอบดีใจนิดนึง รีวิวทีลอซูของเราเป็นรีวิวแรกในปีนี้ที่ไปทีลอซู (อาจจะมีสมาชิกไปมาแล้วแต่ไม่ได้รีวิว ขอบคุณมากๆ นะคะ 5555555++) เข้าสู่กันรีวิวกันดีกว่าเน๊อะ เราจะบอกทุกอย่างแบบละเอียดเท่าที่จะบอกได้ค่ะ หากมีข้อสงสัยอะไร ถามได้เลยนะคะ ถ้าเรารู้เราจะชี้แจงให้ทราบ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 17:45:24

ความคิดเห็นที่ 2 ตามมาเก็บข้อมูลเที่ยวทีลอซูด้วยคนค่ะ จากคุณ : คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 17:47:26

ความคิดเห็นที่ 3 รอชม.............ขอบคุณครับ จากคุณ : low batt เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 17:50:48 A:223.205.154.231 X: TicketID:329936

ความคิดเห็นที่ 4 เนื่องจากหลายๆ ข้อมูลที่สมาชิกในห้องบลูได้เคยรีวิวไว้นั่น ส่วนใหญ่จะไปเองหรือไม่ก็ซื้อทัวร์ไป แต่เราและเพื่อนร่วมเสี่ยงไม่มีความสะดวกในเงื่อนไขทั้งสอง จึงต้องหาทางดิ้นรนไปกันเองค่ะ ก่อนหน้าที่จะไปสิ่งเดียวที่เราเตรียมไว้แล้วคือ สถานที่พัก เราเลือกใช้บริการของ บุญล่ำรีสอร์ท เราศึกษาจากเว็บและติดต่อโดยตรงค่ะ (ในรีวิวของห้องบลูมีบ้างนิดหน่อย)ส่งเมล์สอบถามกันจนได้ข้อสรุปบริการที่เราจะใช้กับทางรีสอร์ท - เราใช้บริการบ้านพักหลังล่ะ 500 บาท/คืน (นอนกัน 6 คน) - เราเช่าเรือยางและไกด์นำเที่ยว 2000+400 บาท (วันที่ทัวร์ล่องเรือกับไปชมน้ำตกและขึ้นดอย) - เราใช้บริการอาหารตั้งแต่วันแรกจนถึงเช้าวันกลับค่ะ อาหาร 2 มื้อ(เย็นและเช้า) 200 บาท/คน ได้แถมอาหารกลางวันอีกคนละ 1 กล่องในวันที่มีทัวร์ล่องน้ำค่ะ - รถส่งกลับอ.แม่สอด อีกคนละ 100 บาท (อันนี้ได้มาโดยบังเอิญค่ะ) - เช่ารถพารับ-ส่ง น้ำตก และพาขึ้นดอยหัวหมด อีก 2000 บาท เพราะถ้าไปหาเองพวกเราไม่มีเวลาแน่ๆ ค่ะ เลยจัดไปให้เรียบร้อยก่อนเลย มีการผิดแผนนิดหน่อย ตอนแรกพวกเราจะไม่ได้ไปที่ดอยหัวหมดหรอกค่ะ ตั้งใจจะไปนอนเต้นท์ที่น้ำตก 1 คืน แต่วันที่พวกเราไปกันมีฝนตกค่ะ คุณลุงบุญล่ำ จึงไม่แนะนำ กลัวจะนอนหนาวตายกัน(ไม่มีอุปกรณ์กันหนาวไปกันเลยค่ะ เพราะคิดว่าเดือนกุมภาคงไม่หนาวเท่าไหร่แล้ว) กลัวจะไม่มีของกิน กลัวจะอดกัน เพราะเราไม่ได้ไปช่วงเทศกาล ร้านสวัสดิการจึงอาจจะไม่มีอาหารให้เพียงพอต่อนักท่องเที่ยว โปรแกรมของเราจึงเปลี่ยนเป็นพักที่รีสอร์ททั้ง 2 คืน และได้ไปทัวร์ที่อื่นๆ ในอ.อุ้งผางแบบฟลุ้คๆ ซึ่งพวกเราก็โอเคค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร (กลัวอดมากกว่าไม่ได้ไปนอนเต้นท์ค่ะ 5555) ***ราคาที่ปรากฏในที่นี้อาจจะขึ้นอยู่ฤดูกาลท่องเที่ยวนะคะ และขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่าง นทท กับ ทางรีสอร์ทด้วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 55 04:46:00 จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 18:00:21

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นทริปหนึ่งที่สนใจตั้งแต่สมัยเรียนแล้วเหมือนกัน แต่ตอนนี้ทำงานผ่านไป 15 ปีแล้วยังไม่ว่างพอและไม่ลงตัวที่จะได้ไปเลย ซึ่งมานั่งนึกถึงตอนที่เรียนอยู่ได้เที่ยวกับเพื่อนๆมันจะสนุกมากจริงๆ รอติดตามชมครับ จากคุณ : บิ้กเต้ เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 18:06:09

ความคิดเห็นที่ 6 ปูเสื่อรอค่ะ จากคุณ : I trust Severus Snape เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 18:06:17

ความคิดเห็นที่ 7 ตามชมครับ จากคุณ : Kanuman เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 18:08:16

ความคิดเห็นที่ 8 เราเดินทางออกจากหมอชิต ด้วยรถโดยสารกรุงเทพฯ – แม่สอด รอบ 22.00 นาที ราคา 307 บาท เป็นรถบริษัท 99 ขนส่ง มีรอบรถเฉพาะ ช่วงเช้า 8.30 น. และมีรอบเย็นเลยคือหลัง 19.00 เป็นต้นไป มีทั้งรถป.1 จนถึง VIP เลือกนั่งรถป.2 ราคา 307 บาท (รอบเวลารถทุกระดับจะมีเช้าคือ 8 โมงเลย จากนั้นก็เริ่มประมาณ 19.00 อีกครั้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม) รถแวะพักรถครึ่งชม. เมื่อรถเลยตัวเมืองนครสวรรค์มานิดหน่อย ที่ปั๊ม ปตท. ประมาณตอนตีสองกว่าๆ กว่าจะเข้าถึง บขส. แม่สอด เวลาประมาณเกือบ 7 โมงเช้าแล้ว แต่พวกเราก็ยังชิวๆ ไป นอนบนรถก็หลับๆ ตื่นๆ เป็นรถทัวร์ 2 ชั้น เราไปซื้อตั๋วทิ้งไว้แต่เช้า เลือกที่นั่งชั้น 2 แบบหน้าสุดเลยค่ะ รวมๆ แล้วพวกเราใช้เวลา 8 ชม. ในการมาถึงแม่สอด !! (รูปนี้ลืมถ่าย บขส ใหม่ของแม่สอดค่ะ กว่าจะนึกได้ก็ออกมาแล้ว เก็บได้นิดหน่อย) จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 18:09:46

ความคิดเห็นที่ 9 เราเดินทางออกกันตั้งแต่เมื่อคืนวัน 3 ก.พ. มาถึงเช้า 4 ก.พ เมื่อมาถึงแม่สอดแล้ว เราจะพลาดไปชมสุดเขตแดนสยามที่ริมเมยได้อย่างไรกัน ไหนๆ ก็มากันขนาดนี้แล้ว แวะไปริมเมยหน่อยก็แล้วกัน เห็นในรูปรีวิวคนที่ไปแม่สอดต้องไปถ่ายรูปกับป้าย "สุดประจิมที่ริมเมย" วัยรุ่นบ้ากล้องอย่างเราๆ ก็ไม่ควรจะพลาด จับรถสองแถวที่แม่สอดไป เสียคนละ 30 บาท ไป 6 คน ก็เท่ากับ 180 บาท ค่ะ เพื่อไปส่งริมเมยอย่างเดียว ป.ล. เมื่อคุณไปถึง คุณจะเนื้อหอมดังเคน ธีรเดชเลยที่เดียว จะมีคนมามะรุมมะตุ้มหลงรักชักชวนคุณไปกับพวกพี่วินต่างๆ เป็นเหตุการณ์ที่เจอได้ทุกที่ ดังนั้นสติๆ ค่ะ ตอนแรกพวกเราจะโดนเหมาไป 250-300 บาท กับเส้นทางแค่ 6 กิโลเมตร! อ่ะโธ่ คิดว่าพวกเราฉลาดน้อยใช่มั๊ย คิดผิดแล้วล่ะ! ต่อรองกันไปมาได้ถูกสุด 30 บาท/คน คือเราไม่รู้ว่ามันจะมีสองแถวที่เป็นรถโดยสารประจำทางรึเปล่า ไม่มีในคู่มือรีวิวบอกไว้ด้วย(ตอนนั่งรถสองแถวสังขละบุรีไปเจดีย์สามองค์ 20 กว่าโล แค่คนละ 30 บาทเอง -*-) แต่เมื่อสมาชิกในกลุ่มโอเคกลับราคานี้แล้วก็ตกลงไป กลัวเสียเวลาค่ะ ป.ล.2 ถ้าคุณนั่งรถทัวร์ไปเองขอให้ไปเช็คเวลารถกลับด้วยนะคะ เท่าที่เราดูทุกบริษัทรถทัวร์เที่ยวแรกจะออกเช้าๆ คือ 8 โมงกว่าๆ แล้วก็หยุดรถ รถออกอีกทีคือหลัง 19.00 น.ค่ะ มีรถตู้วิ่ง แม่สอด-นครสวรรค์, รถตู้ แม่สอด - อ.เมือง ตาก ควรไปเช็คเวลาด้วยนะคะ จะได้คำนวนเวลากลับได้ถูก เอาล่ะตามไปดูริมเมยต่อเลย ว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร แล้วเป้าหมายป้าย "สุดประจิมที่ริมเมย" ของเราอยู่ตรงไหน ชักช้าอยู่ไย จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 18:20:31

ความคิดเห็นที่ 10 อากาศตอนนั้นเย็นมาก ลมนี่เย็นจนบาดเนื้อเลย รถก็วิ่งเร็วรู้สึกสดชื่นขึ้นมานิดหน่อย ..อ่า...เรามาถึงแม่สอดแล้ว เหลือเส้นทางอีก 165 กิโลเมตรกว่าเอง ก็จะถึงสถานที่ๆ เป็นจุดมุ่งหมายหลักของเรา.. และแล้วเราก็มาถึงริมเมย จากฟีลดีๆ ของเราดับโดยพลัน!! มันช่างต่างกับที่เราคิดไว้มากๆๆ เราจินตนาการไปเองว่าคงจะเป็นเมืองที่คล้ายๆ ด่านเจดีย์สามองค์ แต่มันไม่ใช่เลยยย! ผู้คน บ้านช่อง ดูเจริญมากในระดับนึงที่เดียวตอนที่เราไปนั้นยังไม่ถึง 8 โมงเลย มีคนเต็มไปหมด ทั้งรถ ทั้งคน คน คนๆๆๆๆๆๆ ส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นชาวพม่า เต็ม 10 เราให้ติดลบ -5 เลยค่ะ คือเราทราบนะคะว่าเป็นเมืองชายแดน แต่บรรยากาศคือดั่งกับเราเป็นตัวประหลาดแบกเป้ ถือกล้อง (คือ ณ ตอนนั้นมองไป 360 องศาก็มีแต่กลุ่มเราที่แบกเป้ สะพายกล้อง แต่งตัวแปลกๆ) เราไม่กล้ายืนถ่ายรูปตรงที่เป็นด่านเลยค่ะ รีบเก็บๆ ระหว่างเดินไป มีเด็ก มีผู้ใหญ่ เดินเข้ามาขอทานตลอด จนมีเด็ก ผญ คนนึงเดินตามเราตั้งแต่หน้าด่านจนไปถึงใต้สะพานเลย เราก็บอกเพื่อนว่าอย่าให้! อย่าว่าเราใจร้ายนะคะ เรากลัวถ้าให้ไปแล้วที่นี้จะตามมาอีกเป็นกระพรวน เพื่อนผู้ชายร่วมทริปเราก็สงสารค่ะ เด็กก็ฉลาดหนออ..ไปคลอเคลียแต่เพื่อนผู้ชายเรา คงจะดูออกว่าเพื่อนมันขี้สงสาร พวกเราจึงรีบๆ เดินหาป้ายแล้วถ่ายๆ จากนั้นก็หาข้าวกินกันค่ะจะได้รีบๆ ไป แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 55 04:50:03 จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 18:34:39

ความคิดเห็นที่ 11 รอชมๆๆ จากคุณ : tonhok เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 18:35:33

ความคิดเห็นที่ 12 มื้อแรกของวันที่ 4 ก.พ 2555 ไปฝากท้องไว้ร้านอาหารตามสั่งของชาวพม่าอีกเช่นกัน ไม่อิ่มค่ะ ราคาก็ 35-40-45 แต่ก็กินๆ รองท้องไปก่อน เพราะพวกเราต้องเดินทางอีกยาวนานกว่า 5 ชม. กว่าจะไปถึงอุ้งผาง พวกใช้เวลาถ่ายรูปและกินข้าวประมาณ 1 ชม. แล้วนั่งรถรับจ้างโดยสารประจำทางมาที่ตลาดเพื่อต่อรถไปอ.อุ้งผางคนละ 20 บาท ใช้เวลาเดินเที่ยวเล่นรอบๆ ตลาดอีก 1 ชม. จึงเดินทางหาวินรถที่ไปอ.อุ้งผาง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตลาดเลยออกมาเล็กน้อย เจอแต่ชาวบ้าน ประชาชน แม่ค้าในตลาดที่พูดไทยไม่ชัดกันเลย ที่แม่สอดไม่ได้มีแต่ชาวพม่าปะแป้ง แต่มีออกแนวแขกๆๆ ดูคนหลากหลายมาก กลับมาถึงตลาดแม่สอดค่อยรู้สึกดีขึ้นมาอีกนิดนึง ตรงที่เจอ 7-11 ก็เลยหาขนม เสบียงรองท้องกันระหว่างนั่งรถที่คงจะยาวนาน จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 18:41:03

ความคิดเห็นที่ 13 พวกเราเดินเลยตลาดมานิดหน่อย จากการสอบถามชาวบ้านละแวกนั้น จนไปถึงจุดจอดรถ 2 แถวตอนนั้นก็คงจะ 9 โมงเช้าแล้วล่ะค่ะ เห็นมีรถสองแถวจอดอยู่คันเดียวมีผู้โดยสารและก็ข้าวของเต็มไปหมด พวกเราก็กะจะรอเที่ยวต่อไปแต่ลุงคนขับก็บอกว่าขึ้นเลยดีกว่าเพราะเที่ยวต่อไปอีกนาน เราไม่รู้ว่าตรงจุดที่เราไปมันใช่ที่รับส่งผู้โดยสารจริงๆ รึเปล่า แต่ชาวบ้านเค้าก็ชี้มาตรงนี้ ไม่อยากเสียเวลารอนานอีกเพราะต้องนั่งรถเกือบ 5 ชม. กว่าจะไปถึงคงบ่ายๆ แล้ว สมาชิกในรถก็เอ่อ...ทำให้พวกเราที่แบบบ้านๆ ในกรุงเทพฯ ดูดีไฮโซไปเลยล่ะคะ ก็เลยต้องเบียดๆ กันไป เพื่อนผู้ชายเราคนนึงต้องยืนห้อยท้ายรถตั้งแต่จุดออกรถกันเลย ลุงคนขับบอกว่าให้ขึ้นไปนั่งบนหลังคา อ่ะนะพวกเรามันยังกบในกะลากลัวว่าขึ้นไปนั่งบนหลังคามันจะอันตรายเลยบอกเพื่อนอย่าขึ้นไปนั่งเลยทนๆ เอาหน่อย เดี๋ยวก็มีคนลงแต่หารู้ไหมว่า เส้นทางนี้ยังอีกยาวไกลนัก... จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 18:53:39

ความคิดเห็นที่ 14 เอาสรุปๆ แบบยาวๆ ไปเลยนะคะ ด้วยระยะทางกว่า 165 กิโลเมตรและโค้งต่างๆ ที่เป็นแบบหักศอกทั้งนั้น ทั้งหักศอกขึ้นเขา หักศอกลงเขา รถใหญ่ไปไม่ได้ ใหญ่สุด ที่เห็นคือรถพ่วงพวกบรรทุกการเกษตรประมาณ 6 ล้อ ที่วิ่งสวนกันผ่านไปมา แต่ยิ่งออกไปไกลมากเท่าไหร่รถที่สวนไปก็เริ่มน้อยลง จากแม่สอดจะมีอำเภอพบพระเป็นอำเภอกั้นระหว่างแม่สอดกับอุ้งผาง สถานที่ท่องเที่ยวรายทางเป็นที่รู้จักก็คือน้ำตกพาเจริญและน้ำตกนางครวญซึ่งจะมีทางเข้าแยกจากถนนสายหลักไปไม่ไกลเลย (ช่วงนี้เพื่อนเรา 2 คนขึ้นไปนั่งบนหลังคารถแล้ว) โค้งแต่ละโค้งที่ต้องผ่านเขาไปเรื่อยๆ เป็นเส้นทางขนาบภูเขา จนนับไม่ถูกว่ากี่โค้ง กี่ภูเขาที่เราไต่ระดับกันมา อากาศเริ่มเย็นๆ มากกว่าตอนวิ่งทางราบ จนตอนนี้เพื่อนคนหนึ่งเริ่มเมารถแล้ว ต้องให้ยาแก้เมากันเลย นั่งรถเกือบ 11 โมงแล้ว แต่ก็ยังเหลือระยะทางอีกกว่า 100 กิโลเมตรกว่าจะถึง แถมเส้นทางก็ยังต้องโค้งแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่มีทางราบเลย บร๊ะเจ้าาาาา!! นี่มันยิ่งกว่า 1219 โค้งอีกมั่ง ความรู้สึกตอนนั้นทั้งตัวเราเองและเพื่อนยังพูดออกมาเลยว่า คงจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายแล้วล่ะที่จะมากัน ถ้านั่งรถทัวร์เลยตากไปเรื่อยๆ ในเวลาเดียวกันป่านนี้(หรืออาจจะก่อนบ่ายโมงอีก) เราคงจะถึงเชียงใหม่กันไปแล้ว นี่มันไกลกว่าเชียงใหม่อีกเหรอ?? หลับมา 3 ตื่น ก็ยังไม่ถึงอ.อุ้มผางกันเลย มีแต่วิวข้างทางนี่แหละที่ช่วยพยุงความรู้สึกเอาไว้ ความสวยสีเขียวสดของขุนเขา ธรรมชาติที่ยังมีอยู่ แม้จะมีบางที่ ที่ภูเขาเนินเตี้ยๆ ถูกถอนรากถอนโคนกลายเป็นแปลงเกษตรไปแล้วก็ตามเหอะ สารภาพตามตรงว่ากว่าจะมาถึงที่หมายได้พวกเรา fail อย่างที่สุดเลยค่ะ บ่นกันทุกคนว่าไม่เอาๆ แล้วจริงๆ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 19:00:00

ความคิดเห็นที่ 15 สภาพเส้นทางโหดขนาดไหนคงไม่ต้องอธิบายกันแล้วนะคะ เราอ่านจากของสมาชิกห้องบลูอ่ะคะ ถ้าจำไม่ผิดใช้ชื่อว่า มิราจจ อ่ะค่ะ คุณคนนี้ได้รีวิวเส้นทางไว้เรียบร้อยแล้ว (ขอบพระคุณด้านข้อมูลด้วยนะคะ) ภาพนี้เพื่อนเราถ่ายจากบนหลังคารถค่ะ ยังจะมีอารมณ์ถ่ายอีกเน๊อะ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 19:06:49

ความคิดเห็นที่ 16 ไปด้วยคนค่ะ จากคุณ : มิลลิเมตร เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 19:07:18

ความคิดเห็นที่ 17 เส้นทางโหดพอสมควร แต่ยังดีที่ลาดยางทั้งเส้น ไม่งั้น.... จากคุณ : Civict2003 เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 19:11:01

ความคิดเห็นที่ 18 สถานที่ที่เราผ่านกันมาก็มีตั้งแต่หมู่บ้านธรรมดาจนถึงศูนย์อพยพเรฟรูจี ซึ่งเป็นศูนย์อพยพขนาดใหญ่ระดับนึงเลยคะ ปลูกบ้านติดเขาไล่ๆ กันขึ้นไปเรื่อยๆ พี่ไกด์เค้าเล่าให้ฟังว่ามีส่งไปประเทศที่ 3 ทุกปีค่ะ ไปทีละเยอะๆ ด้วย ทางองค์กรระหว่างประเทศได้อัดฉีดเงินมาให้เรื่อยๆ ในชุมชนก็จะมีให้เรียนภาษา เผยแพร่ศาสนา ใครที่มีทักษะสื่อสารได้ก็ได้บินค่ะ แต่ถ้าไม่มีความสามารถอะไรก็ต้องอยู่ต่อไป เด็กที่เกิดใหม่จะได้ 5,000 บาทต่อหัวค่ะ มีข้าวสาร อาหารทุกอย่างพร้อม ศูนย์อพยพเรฟรูจีนี้ไม่ได้มีแต่ชาวพม่านะคะ พวกกะเหรี่ยง พวกที่เคยเป็นได้ชื่อว่าเป็นกบฎในประเทศเพื่อนบ้านก็อาศัยอยู่ที่นี้กัน เราไม่ได้นำภาพมาลงนะคะ จริงๆ มันก็สวยดีเป็นบ้านสร้างง่ายๆ ด้วยวัสดุธรรมชาติแล้วก็เล่นไต่ระดับไปตามเขา คือจริงๆ แล้วลืมทำภาพมาลงด้วยอ่ะคะ ตอนพิมพ์ๆ แล้วทำภาพอื่นๆ มันงงด้วย 55555555++ ตรงจุดศูนย์อพยพนี้มีผู้โดยสารที่มาด้วยกันลงเยอะเลยค่ะ แต่ก็ใช่ว่ารถจะโล่งเพื่อนเราก็ต้องนั่งบนหลังคารถต่อไป มีคนลงก็มีคนขึ้น เพราะตลอดเส้นทางนี้มีแต่รถสองแถวทีเป็นรถโดยสารประจำทางอย่างเดียว ลืมเล่าไปนิดก่อนจะถึงศูนย์อพยพนี้รถจะแวะจุดจอดรถครึ่งทางอ่ะคะ มีร้านอาหาร ห้องน้ำ มีของของที่ระลึกเป็นจุดพักรถของอ.พบพระ ตรงจุดนั้นวิวดีมากๆ สวยเลยล่ะ แต่สภาพพวกเราที่นั่งรถตรากตรำกันมาหมดอารมณ์ที่จะถ่ายรูปเลยล่ะ ด้วยหนทางยังอีกยาวไกลเช่นเดิม สภาพถนนก็มีตั้งแต่ทางราดยางจนถึงทางขรุขระ แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 55 04:57:45 จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 19:17:13

ความคิดเห็นที่ 19 จากกระทู้ของคุณมิราจจปี 2553 ที่ว่าไฟฟ้ายังเข้าไปไม่ถึงอุ้งผางนั้น ตอนนี้ไฟฟ้าจากเขื่อนเจ้าพระยาถึงอุ้งผางเรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่ได้มีตอเสาว่างๆ ข้างทางแล้ว แต่ก่อนที่จะมีไฟฟ้าจากรัฐเข้าถึง อ.อุ้งผาง มีเครื่องปั่นไฟใช้เองนานแล้วค่ะ เปิดได้ตลอด 24 ชม. พี่ไกด์บอกว่าเป็นเครื่องปั่นไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศแล้ว เวลาบ่ายโมงล่ะ รถก็ค่อยๆ ไต่ระดับลงมาพอถึงด้านล่างก็จะผ่านหมู่บ้านที่ชื่อแปลกๆ ทั้งหลาย ซึ่งเราเองก็จำไม่ได้ ตอนนั้นก็เกือบบ่ายสองแล้ว กับอีก 50 กว่ากิโลเมตร จากที่ราบแปปนึงก็วิ่งขึ้นเขาต่อ การเดินทางช่างยาวนานจริงๆ ก่อนที่จะเส้นทางจะเริ่มปรับสู่ที่ราบเล็กน้อย แล้วในสุดก็อีกไม่เกิน 20 กิโลเมตร ก็จะถึงอำเภออุ้งผางที่พวกเราต้องนั่งรถฝ่าฟันกันมา - -“ ก่อนที่จะถึงอำเภออุ้งผาง พวกเราก็ผ่านแยกทางเข้าไปยังน้ำตกทีลอซู ซึ่งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้งผาง ใจก็เริ่มมาล่ะ หวังว่ามันคงจะมาช่วยทดแทนความรู้สึกที่หมดไปได้กับการเดินทาง ประมาณบ่าย 2 โมงครึ่งกว่าๆ พวกเราก็ถึงจุดหมายคือหน้าออฟฟิสบุญล่ำทัวร์ พวกเรางี้ต้องร้องเฮฮฮ!! กระโดดกันทีเดียวเลย แบบว่านี่เราพิชิต 1219 โค้งได้แล้วใช่ไหม คุณลุงบุญล่ำและพี่อ้อยออกมาต้อนรับ แต่คุณลุงบอกว่าที่พักจริงๆ อยู่ห่างออกไปอีก 2 กิโล .... ฮ่ากันเลยทีเดียว เราจึงนั่งรถกันออกไปอีกหน่อย ก็ถึงรีสอร์ทที่พัก จุดพลุฉลองอีกสักรอบ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 19:24:24

ความคิดเห็นที่ 20 เกือบบ่าย 3 โมงเราก็ถึงหน้าที่พักค่ะ พวกเราเป็นกลุ่มลูกค้าสุดท้ายของรถโดยสาร รถเลยมาส่งให้ถึงตัวรีสอร์ท เดินทางออกตั้งแต่ 9 โมงเช้านิดๆ ค่ารถโดยสาร 120 บาท 6 ชม. บนรถสองแถวกับราคา 120 บาท ขอประกาศว่าเป็นการนั่งรถที่คุ้มค่ารถที่สุดในโลกกกกกกกกกกกกเลยค่ะ!!!!! จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 19:30:46

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณทุกๆ ท่านที่เข้ามาติดตามชมและป้าดมาดีใจมั๊กๆๆ ----------------------- เรามารีวิวที่พักกับสถานที่ บุญล่ำ รีสอร์ทกันเลยนะคะ พวกเราเลือกจองที่พักราคา 500 บาทเอาไว้ ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นบ้าน 1 หลังมี 1 ห้อง แต่สามารถนอนร่วมกันได้ทั้ง 6 คน พอไปถึงจริงๆ ทางรีสอร์ทจัดเป็นบ้าน 1 หลังแต่แบ่งไป 2 ฝั่ง ฝั่งละ 2 ห้องค่ะ ซึ่งพวกเราได้ใช้ทั้ง 2 ห้อง บ้านหลังที่ได้พักอยู่ท้ายสุดรีสอร์ทเลยค่ะ แต่ก็ไม่ได้ไกลมาก ห้องอาหารจะอยู่ด้านหน้าสุด สภาพทั้ง 2 ห้องของเราไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเลย ที่นอนทำเป็นพื้นไม้ยกสูงกว้างมาก นอนกันได้ 6 คนแบบสบายๆ ไม่เบียดกันเลย แต่เมื่อได้ 2 ห้องก็แบ่งกันไปค่ะ มีทีวี พัดลม ห้องจะมีกลิ่นไม้อ่ะคะ ส่วนห้องน้ำกว้างมีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่เราไม่พึงพอใจตรงฝักบัวอ่ะคะ ฝักบัวไม่ได้ทำเป็นแบบกลมๆ แต่เป็นแท่งทรงกระบอกเวลาน้ำไหล (น้ำแรงดีค่ะ) จะเป็นเส้นๆ แล้วมันเจ็บเวลาอาบน้ำอ่ะคะ ด้วยราคาห้อง 500 บาท แล้วหารกัน 6 คน เราก็เลยไม่ซีเรียสเท่าไหร่ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 19:47:31

ความคิดเห็นที่ 22 ตามมาเก็บข้อมูลด้วยสักคนนะคะ พร้อมมาให้กำลังใจสำหรับ "เป็นครั้งแรกสำหรับการรีวิวในห้องบลูครั้งนี้" ^^ จากคุณ : เพราะรัก (blovech) เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 19:50:24

ความคิดเห็นที่ 23 สภาพแวดล้อมอื่นๆ ร่มรื่นดีนะแต่อาจจะรกๆ นิดนึง มีที่พักหลายรูปแบบแบ่งกันไปตามราคา เราก็เลยถ่ายรูปออกมา กว้างขวาง ตามที่ปรากฏในภาพเลยค่ะ มีบ้านพักหลายแบบเลยค่ะ สร้างได้น่ารักดี ถ้าเป็นหลัง ก็จะตั้งแยกห่างกันออกมากำลังดี เราหวังรับรองผู้มาพักได้มากกว่า 100 คนเลยค่ะ พร้อมพื้นที่หากต้องการทำกิจกรรม แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 55 05:02:03 จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 19:52:45

ความคิดเห็นที่ 24 มาเก็บข้อมูลค่ะ  ^ ^ จากคุณ : Phioney เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 20:07:09

ความคิดเห็นที่ 25 พอหลังจากจัดของ ล้างหน้าล้างตา ผมเผ้านี่สังกะตังกินเลยล่ะค่ะ กะว่าขอหาอะไรกินก่อนเพราะหิวมากๆ ซื้อขนมกะว่ามากินในรถแต่จากโค้งๆ ต่างทำให้ไม่กล้ากินอะไรเลย กลัวจะ ออกมาซะก่อน เลยหิวกันมาก กว่ามื้อเย็นจะมาถึงก็เลยกะว่าจะออกไปหาอะไรทานก่อน เมื่อพักเหนื่อยกันแปปนึงแล้ว กว่าแม่ครัวจะทำอาหารเสร็จก็คงจะเย็นๆ 6 โมงไปแล้ว แต่ตอนนั้นเพิ่ง 4 โมงเย็นกว่าๆ พวกเราเลยจะออกเดินเท้ากันไปตลาดซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 2 กิโล ก็คือเดินกลับเข้ามาที่ตัวชุมชนนั่นเอง แต่เส้นทางระหว่างชุมชนกับตัวรีสอร์ทก็ไม่ได้เปลี่ยวมาก เพราะมีทุ่งนาสลับกับบ้านคน พวกเราเลยกะว่าจะเข้าไปเดินสำรวจแล้วหาอะไรทานกันก่อนด้วย เดินกันเพลินๆ เงียบสงบดี เราว่าไกลสุดโพ้นแบบนี้คนไทยยังดูเยอะกว่าที่แม่สอดเลย รีสอร์ทก็มีให้เลือกเยอะค่ะ อันนี้ขอหน่อยนะคะ อยากอวด อิอิ.. ระหว่างทางมีทุ่งนาเห็นสีเขียวสดดีค่ะ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 20:40:09

ความคิดเห็นที่ 26 ในตัวอำเภออุ้งผางก็มีทุกอย่างค่ะ มี internet เข้าถึง มีโรงพยาบาล โรงเรียน ธนาคาร คงมีแต่ 7-11 ที่ยังเข้าไม่ถึง แต่ต่อให้ไม่มี 7-11 อาหารการกินก็มีพร้อมค่ะ น้ำเป็ปซี่ก็มี น้ำแข็งก็มี มีตลาดนัด อุ้งผางเป็นอำเภอที่เงียบๆ ดีค่ะ อยู่ท่ามกลางหุบเขารายล้อม ที่พวกเราชอบมากๆ กันก็พวกร้านของของที่ระลึกค่ะ มีการตกแต่งร้านสวยดี เดินเล่นกันจนลืมหิวเลย แถมได้ของฝากติดมือกันมาแทน แก้ไขคำผิด แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 55 03:42:57 จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 20:53:38

ความคิดเห็นที่ 27 เกาะรถไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : boybam เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 20:54:27

ความคิดเห็นที่ 28 สำรวจดูรอบๆ เมือง เราก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย เพราะตอน 4-5 โมงเย็นร้านอาหารส่วนมากก็ปิดแล้วค่ะ เหลือแต่ขนม ของกินเล่น พวกเราก็เลยเดินกลับกันก่อนดีกว่า พระอาทิตย์ก็เริ่มลับขอบฟ้าแล้ว กว่าจะเดินถึงรีสอร์ทก็คงเกือบๆ 6 โมงเย็นพอดี แม่ครัวที่รีสอร์ทน่าจะทำอาหารแล้ว รูปนี้ก็ระหว่างทางค่ะ ถ่ายจากหน้าสาธารณสุขอุ้งผาง เห็นป้ายสวยดี จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 21:00:13

ความคิดเห็นที่ 29 นั่งรถรยนต์โดยสารประจำทางจากแม่สอดไปอุ้มผาง   สุดยอดมาก  ได้รสชาดครับ ที่พระวอจุดพักรถ   วิวสวยมาก ผมขับรถไปเอง  ได้แผลมาเยอะเลย จากคุณ : ไทยเดิ้ง เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 21:01:17

ความคิดเห็นที่ 30 กลับมาถึงรีสอร์ทตั้งใจว่าจะแวะไปอาบน้ำก่อน มองเข้าไปในโรงอาหาร เห็นเปิดไฟ มองเห็นแก้วน้ำตั้งอยู่ 6 ที่ คิดว่าทั้งรีสอร์ทก็ไม่มีใครเข้าพักนอกจากพวกเรา 6 คน ที่นี้ก็เดินป้าดเข้าไปเลย ปรากฏว่าเป็นที่ของเราจริงๆ น้ำท่ายังไม่ต้องอาบล่ะ เห็นตั้งแก้ว มีจานรอ ประจำที่เลย 55555++ พอนั่งปั๊ปพี่ที่รีสอร์ทก็ออกมาถามเลยค่ะว่าให้เสริฟเลยมั๊ย บอกไป "พี่ค่ะจัดเต็มมาเลยค่ะ" อาหารที่ทางแม่ครัวจัดให้มานั้นก็แบบธรรมดาค่ะ เพราะรีเควสไปว่ามีเพื่อนเป็นอิสลาม และเรากับเพื่อนอีกคนก็ไม่ทานเนื้อ(วัว)ด้วย ทางรีสอร์ทก็จัดผัดผักกูด ไข่เจียว ต้มยำไก่บ้าน น้ำพริกกระปิ ปลาทูทอด แตงกวา ผลปรากฏว่า....อร่อยมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อาจจะบวกด้วยความหิวอยู่แล้ว แต่พอมื้อต่อๆ ไปความอร่อยก็ยังคงเดิม พวกเราเติมข้าวได้ไม่อั้น กับข้าวไม่ได้อั้นเช่นกัน คุ้มมากๆ กินกันจนลืมถ่ายรูปเก็บไว้เลย ฮิฮิ.. กินอิ่มก็แยกย้ายไปพักผ่อนค่ะ รอเดินทางวันพรุ่งนี้ อาบน้ำเสร็จ หัวถึงหมอนหลับเป็นตายยย แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 55 03:45:21 จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 21:12:19

ความคิดเห็นที่ 31 น่าตามรอยมากๆครับ ขอบคุณรีวิวครับ จากคุณ : หนุ่มอุบล คนวาริน เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 21:13:10

ความคิดเห็นที่ 32 รอชมอย่างจดจ่อค่ะ จากคุณ : ขึ้นกับฟ้า เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 21:13:48

ความคิดเห็นที่ 33 ตามไปด้วยคนนะครับ ดูท่าทางสนุกมากเลย ^__^ จากคุณ : chartchy เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 21:14:01

ความคิดเห็นที่ 34 เช้าวันที่ 5 ก.พ แล้วค่ะ ตื่นกันตั้งแต่ 6 โมงเช้ากว่าๆ อากาศดีมากกๆๆๆๆ มีหมอกลงจางๆ ในรีสอร์ท แบบนี้เลยค่ะ ถ่ายระหว่างที่เราจะออกไปทานข้าวเช้ากันตอน 7 โมง จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 21:20:58

ความคิดเห็นที่ 35 ตามมา ตามมาๆๆๆ ได้เลยค่ะ ขอบคุณที่แวะเข้ามานะคะ --------------------------- ภาพบางภาพมันอาจจะแปลกหน่อยนะคะ เพราะว่าลดขนาดลงมาให้ได้ 200KB ยังไม่โปรค่ะ ไว้รอไปเที่ยวใหม่ จะมาทำภาพให้สวยๆ ชัดๆ สีไม่เพี้ยนนะคะ อิอิ... ประมาณ 7 โมง เราเดินเข้ามาในห้องอาหารก็เหมือนเมื่อวานค่ะ ตั้งแก้วน้ำรอเรียบร้อย อาหารเช้าตามที่ปรากฏในรูปเลย มีเครื่องดื่มคือกาแฟ โอวัลติน ให้บริการฟรีด้วย อาหารอาจจะดูธรรมดา ไม่หรูหรานะคะ แต่มันอร่อยมากๆ จริง มี 10 ให้ 100 เลยค่ะ บ้านๆ ดี พวกเราชอบมาก ประทับใจในเรื่องอาหารทุกคน คุณลุงบุญล่ำก็มาดูแลทุกมื้อนะคะ คุณลุงอาจจะไม่ได้พูดเก่งอะไรมาก มาถามพวกเราว่าต้องการอะไรเพิ่มรึเปล่า บริการดีมากๆ ประทับใจค่ะ วันนี้คุณลุงมาบอกโปรแกรมคร่าวๆ ค่ะ ว่าเราจะไปไหนกันบ้าง รอไปผจญภัยเล็กๆ ด้วยกันได้ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 21:34:22

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณครับ อยากไปบ้างจัง จากคุณ : fingleroy เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 21:35:09

ความคิดเห็นที่ 37 แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 55 21:36:28 จากคุณ : fingleroy เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 21:36:17

ความคิดเห็นที่ 38 นี่คือรถที่จะพาเราไปส่งที่ห้วยแม่กลอง และจะพาเราทัวร์วันนี้ทั้งวันเลยค่ะ ห้วยแม่กลองอยู่คนละทางกับรีสอร์ทแต่ไม่ไกลเท่าไหร่ ยังพอมีน้ำอยู่แต่คงไม่เยอะมากเท่าในฤดูฝนค่ะ อากาศดีมากๆ เลยล่ะ ความรู้สึกคนละฟีลกับตอนนั่งรถหลายชั่วโมงเลย ความรู้สึกเป็นบวกมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ ก็บวกมาเรื่อย ตั้งแต่เห็นที่พัก อาหารที่ทางรีสอร์ทจัดให้ ยิ่งมาเจออากาศตอนเช้าๆ แบบนี้ ลมหนาว อากาศที่บริสุทธิ์ ทำให้พวกเราลืมความเหน็ดเหนื่อย ความเซงจากเมื่อวานนี้ปลิดทิ้งเลยล่ะ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 21:40:52

ความคิดเห็นที่ 39 ถึงแล้วค่ะ ห้วยแม่กลอง เห็นเป็นลำน้ำอยู่ใกล้ๆ ล่ะ เริ่มตื่นเต้นกันล่ะ จริงๆ เส้นทางล่องห้วยน้ำแม่กลอง สมาชิกในห้องบลูอาจจะเคยเห็นการีวิวนี้มาเยอะพอสมควรล้วน ซึ่งเส้นทางที่จะไปก็ซ้ำๆ กับในหลายๆ รีวิวล่ะค่ะ แต่ให้พวกเราได้ลองมารีวิวในมุมของตัวเองบ้างนะคะ ว่าที่พวกเราไปเห็นจะเป็นอย่างไรบ้าง อยากอวดแล้วล่ะ !!~~ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 21:47:23

ความคิดเห็นที่ 40 นี่คือพาหนะที่จะพาเราไปส่งในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้งผางวันนี้ค่ะ สีชมพูหวานเชียว นอกเหนือจากนี้ก็พอมีนักท่องเที่ยวอื่นๆ อีกนะคะ อีก 2-3 กรุ๊ป มาขึ้นเรือพร้อมเราเลย นอกจากเรือยาง ก็มีคนพาย 2 คน (หัวท้าย) และพี่ไกด์ค่ะ ซึ่งอยากบอกว่าพี่ไกด์เราแนวมาก คารมเยอะสุดๆ 555555++ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 21:50:49

ความคิดเห็นที่ 41 วิวระหว่างทางค่ะ สวยมากๆ เลยค่ะ เรือไม่ได้พายไวมาก พวกเราก็ถ่ายๆๆๆ รูปเต็มไปหมด ทั้งต้นไม้ข้างทาง โขดหิน นก ต้นไม้ ดอกไม้ คลื่นน้ำ บลาๆๆๆ ณ เวลานั้นพวกเราทุกตื่นเต้นกัน จนแทบจะลืมเวลาไปเลย จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 21:55:52

ความคิดเห็นที่ 42 แงงงๆๆ ภาพไม่ได้ดังใจเลย รูปสวยๆ อัพแล้วไม่สวยเลย --------------------------------- ระหว่างนี้ชมวิวไปก่อนนะคะ มีทั้งล่องแบบสบายๆ เจอน้ำเชี่ยวนิดๆ ผ่านผาหินบ้าง มีโขดหินกลางน้ำบาง ชมภาพเพลินๆ ไปก่อนแล้วกันนะคะ อยากอวดๆๆ อิอิ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 21:59:17

ความคิดเห็นที่ 43 อีกซักรูปนึงก่อนจะถึง hilight ของห้วยแม่กลอง-ทีลอซูแห่งนี้ค่ะ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 22:05:29

ความคิดเห็นที่ 44 อยากไปด้วยยยย  น่าสนุกจังค่ะ  ^^ จากคุณ : Baking Street เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 22:11:44

ความคิดเห็นที่ 45 เอาล่ะ เรามาเข้า hilight ส่วนแรกดีกว่า จุดแรกของลำห้วยแม่กลองนี้จะเป็นช่วงน้ำตกทีลอจ่อ สวยงามมากๆๆๆ เราอาจจะลำดับช่วงน้ำตกไม่ถูกนะคะ คือถ่ายมาเยอะมาก แล้วก็ลืมๆ ไปบ้างแล้วว่าช่วงไหนมาก่อนกัน เอาเป็นว่ามันอยู่ในช่วงกำแพงน้ำตกทีลอจ่อแล้วกันนะคะ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 22:29:28

ความคิดเห็นที่ 46 ทีลอจ่อ ในภาษากะเหรี่ยง แปลว่า น้ำตกสายรุ้งค่ะ (พี่ไกด์บอก) ถ้ามาช่วงปลายฝนหรือช่วงฤดูฝนน้ำจะเยอะกว่านี้มากๆๆ ไหลออกมาเป็นม่านน้ำเลยค่ะ สวยที่สุดของที่สุด น้ำที่ไหลมาตามหน้าผาไม่ได้มีห้วยอะไรอยู่ด้านบนหรอกนะคะ แต่เป็นน้ำที่ไหลมาจากการกักน้ำของดิน ต้นไม้ แหละหินค่ะ สวยมากๆ เลยเน๊อะ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 22:34:35

ความคิดเห็นที่ 47 สวยมากๆ เลยใช่ไหมคะ? จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 22:35:48

ความคิดเห็นที่ 48 จัดไปอีกๆ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 22:36:38

ความคิดเห็นที่ 49 เอาใกล้ๆ กันเลยนะคะ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 22:37:43

ความคิดเห็นที่ 50 จัดอีกๆๆ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 22:39:25

ความคิดเห็นที่ 51 ถ้าใครถ่ายรูปเก่งๆ มือโปรๆ เราว่าต้องถ่ายออกมาได้สวยมากๆ แน่ๆ ในภาพ ภาพอาจจะแปลกๆ นะคะ ต้องไปลองสัมผัสด้วยตาตัวเองจริงๆ ช่วงน้ำตกทีลอจ่อจะยาวมากๆ จากที่เห็นในภาพระดับน้ำไม่สูงมากนะคะ แต่ถ้าหน้าฝนน้ำจะเยอะกว่ามากๆ แล้วเชี่ยวด้วย เหมาะสำหรับการไปล่องแก่งเป็นอย่างยิ่ง จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 22:49:11

ความคิดเห็นที่ 52 ความสวยงามแบบธรรมชาติสร้างสรรค์จริงๆ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 22:52:39

ความคิดเห็นที่ 53 น่าจะพอหอมปากหอมคอกันสำหรับจุด hilight ของเส้นทางห้วยแม่กลองนี้ พายเรือออกไปอีกสักก็จะถึงบ่อน้ำร้อนทีลอโกรนะคะ เป็นจุดพักที่จะมีห้องน้ำ และชาวบ้านมาขายอาหาร เราเดินไปตรงจุดน้ำร้อนกัน แต่ว่าไม่ได้ลงไปหรอกนะคะ มีทัวร์ผู้ใหญ่มาถึงก่อนลงไปเต็มบ่อเลยค่ะ เป็นบ่อเล็กๆ เป็นน้ำพุพุดขึ้น เราเลยไม่ได้ลงไป จะถ่ายรูปก็เกรงใจ เอาเป็นเก็บป้ายมาให้ดูแล้วค่ะ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 22:59:47

ความคิดเห็นที่ 54 หลักจากจุดนี้ไปก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ นอกจากทัศนียภาพข้างทาง ส่วนน้ำไม่เชี่ยวอะไรเลยค่ะ นั่งเรือยางได้อย่างปลอดภัยแน่นอน เรื่อยๆ เอื่อยๆ อีกประมาณเกือบชั่วโมงเราจะไปสิ้นสุดกันที่ผาเลือด เลยไปหน่อยจะเป็นจุดที่ขึ้นไปต่อรถเผื่อเข้าเขตน้ำตกทีลอซูกัน ผาเลือดจากที่พี่ไกด์บอกมาก็คือเกิดจากแร่ธาตุที่อยู่ในหินทำปฏิกิริยาเคมีกับน้ำค่ะ เราจำไม่ได้ว่าเป็นแร่ธาตุชนิดใดซึ่งพอถูกน้ำก็กลายเป็นสีแดงชาวบ้านแถวไหนเลยตั้งชื่อให้ว่าผาเลือดค่ะ อีกเรื่องเราเพิ่งทราบว่าต้นจันทร์ผาที่นิยมนำมาปลูกประดับกันสวยๆ มันจะเกิดตามที่สูงๆ บนหน้าผา โขดหินกัน เพิ่งเคยเห็นต้นจันทร์ผาตามธรรมชาติก็ที่นี้แหละ ระหว่างผาหรือภูเขาข้างทางจะมีถ้ำด้วยนะคะ ซึ่งพี่ไกด์ก็บอกอีกว่าเป็นที่ๆ ชาวบ้านเวลาเข้าป่าไปหาของป่ากันจะนอนพักก็ในถ้ำนี่แหละคะ อยู่ร่วมกับพวกค้างคาว เราแค่เป็นปากถ้ำมองไปแล้วมืดๆ เราก็ไม่กล้าเข้าไปแล้วล่ะค่ะ กลัวอ่ะ >.< ปิดท้ายทัวร์ห้วยแม่กลองกับภาพผาเลือดล่ะกันนะคะ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 23:08:35

ความคิดเห็นที่ 55 หลังจากนั่งเรือยางมา 3 ชม. เต็ม (จริงๆ นะ) การเดินทางยังไม่สิ้นสุดนะคะ เรายังต้องนั่งรถเข้าไปในเขตอีกประมาณ 14 กิโล กับเส้นทางที่บุกป่าฝ่าดงมากๆ พี่ไกด์บอกว่าที่ไม่ทำทางให้สะดวกเพราะว่าต้องการอนุรักษ์เส้นทางไว้ซึ่งธรรมชาติจริงๆ ค่ะ (เพิ่งมาทราบตอนนี้เองว่าพี่ไกด์ของเราเป็น NGO ค่ะ >.<) หากสถานที่ท่องเที่ยวใดๆ ที่เข้าไปง่ายๆ ถนนราดยางพร้อม รถรับจ้างวิ่งไปมา ที่ๆ นั้นคงไม่มีความเป็นธรรมชาติเหลืออยู่ แล้วคุณค่าทางจิตใจก็จะไม่เกิด ธรรมชาติในที่นี้ที่พี่ไกด์แลเจ้าหน้าที่ที่อุ้งผางให้ความสำคัญมากคือสัตว์ป่าค่ะ ถนนมาสัตว์ป่าหนี คนมาสัตว์ป่าหาย ซึ่งอย่างที่ทราบกันว่าถัดจากอุ้งผางไปอีกคือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ที่นั้นมีทั้งช้าง ม้า วัว ควาย แรด เสือ เป็นที่ๆ ถนนราดยางเข้าไปไม่ถึง และไม่มีชุมชนอยู่ (นอกจากชาวเขา ชาวป่า) จึงยังอุดมสมบูรณ์มากๆ (อยากไปดูจังเลย) เส้นทางเข้าไปช่วงนี้เปิดให้รถเข้าแล้ว แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูฝน หึหึ เดินอย่างเดียวค่ะ กว่า 9 กิโลที่ต้องเดิน หากใครเคยไปแล้วก็คงจะนึกภาพออกนะคะว่ามันโหตขนาดไหน จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 23:14:42

ความคิดเห็นที่ 56 หลังจากตลบฝุ่นกันไปเกือบชม. ขึ้นๆ ลงๆ บนทางลูกรัง จะเลี้ยงหักศอกทีต้องบีบแตรบอกก่อน (เรานั่งหน้ารถเลยค่ะ แต่เพื่อนๆ เรานั่งกันท้ายกระบะ เพราะเราได้ยินมาว่าฝุ่นมันเยอะ อิอิ) แล้วเราก็ถึงกันซะทีค่ะ (แต่ยังไม่สุดนะ) ถึงส่วนที่เป็นที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทีลอซู ต้องภาพนี้ก่อนเลย ยืนยันว่าไปเกือบถึงแล้วจริงๆ นะ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 23:25:12

ความคิดเห็นที่ 57 พวกเราไปถึงงเขตฯ เกือบเที่ยงแล้วค่ะ เลยกินข้าวกล่องกันก่อน เพราะข้างในห้ามเอาอาหารเข้าไปเด็ดขาด ถ้าเป็นน้ำก็ได้นะคะ แต่ต้องอยู่ในภาชนะเช่นกระติกน้ำ ขวดน้ำแบบสำหรับเดินป่า (ที่ไม่ขวดน้ำพลาสติกกันแล้วทิ้งเลยอ่ะคะ) ตอนแรกก็ว่าไม่หิว แต่พอลองกินแล้วความหิวมาเลย ตรงศาลาที่พักมีร้านค้าสวัสดิการค่ะ พอมีของขายนิดหน่อย จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 23:27:40

ความคิดเห็นที่ 58 บ้านพักในเขตฯ ก็มีนะคะ อยู่ใกล้กับจุดกางเต้นท์ จุดกางเต้นท์จะแยกส่วน (แต่อยู่ติดกัน) ระหว่างจุดกางเต้นท์ของนักท่องเที่ยวที่มาเองกับนักท่องเที่ยวที่ซื้อทัวร์มา เพี่อป้องกันการปนกันเรื่องข้าวของอ่ะคะ มีห้องน้ำอยู่ใกล้ๆ น้ำเย็นมากๆๆๆ พอไปถึงก็มีแอบเสียดายนิดๆ นะคะ ว่าอยากจะลองนอนกางเต้นท์ดูแต่ก็นะ ไว้โอกาสหน้า อิอิ.. ตอนนี้ความรู้สึกเปลี่ยนแล้วค่ะ อยากจะกลับมาอีกและจะต้องกลับมาให้ได้ แต่มาคร่าวหน้าถ้าไม่ซื้อทัวร์ตั้งแต่ต้นทางก็จะต้องหารถมาเองค่ะ ไม่ไหวแล้วกับการนั่งรถโดยสารอันแสนทรมาน จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 23:31:22

ความคิดเห็นที่ 59 เมื่อทานกันอิ่มเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางต่อค่ะ ช่างยาวไกลจริงๆ พี่คนขับรถบอกว่าต้องออกมาตอนประมาณบ่าย 3 โมงเย็นแล้วจะพาไปสวนส้มค่ะ โอ้วววว ไม่ได้คาดคิดเลย พวกเราเลยได้ไปอย่างงงๆ แต่ยังไม่มาถึง ตอนนี้ไปดูทางสู่น้ำตกกันดีกว่าค่ะ เราไม่ได้ซื้อทัวร์ดังนั้นเราต้องเสียค่าเข้าคนละ 20 บาท แต่พี่ไกด์เราเป็นเจ้าที่ด้วยฟรีค่ะไม่เสีย จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 23:52:42

ความคิดเห็นที่ 60 เส้นทางดีหน่อยที่ทำด้วยปูน เหตุผลที่พี่ไกด์บอกคือป้องกันทางเดินธรรมชาติถูกทำลาย เพราะถ้าไม่มีทางเดินเดี๋ยวคนเดินซ้าย เดินขวา แล้วก็อะไรหว่า..ตอนนึยังนึกไม่ออก เอาเป็นว่าสะดวกสบายดีค่ะ (เดินหน้าฝนก็ไม่ต้องกลัวทากด้วย)ระหว่างทางเดินพี่ไกด์ของเราก็เล่าให้ฟัง ต้นไม้นั้นกินได้ ไส้ของไม้จากต้นนั้นนำมาจุดไฟได้ กิ่งไม้นี่ได้ ไผ่ชนิดนี้กินได้ บลาๆๆ เต็มไปหมด พี่ไกด์ของเราจะค่อนข้างเก่งในเรื่องป่า พี่เค้าเป็นคนในพื้นที่ด้วย เดินป่าเป็นกิจวัตร รู้วิธีเอาตัวรอดในป่า ประมาณว่าหลงป่าก็ไม่ตาย แต่อย่างเราๆ เกิดและเติบโตเมืองอย่างที่เคยได้ยินว่า "คนต่างจังหวัดเอาตัวรอดด้วยการหา แต่คนในเมืองเอาตัวรอดด้วยการซื้อ" อาจจะไม่ได้หมายความถึงคนส่วนใหญ่นะคะ แต่เรายอมรับเลยถ้าเป็นเราหลงป่าวันเดียวไม่รอดแน่ๆ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 00:03:59

ความคิดเห็นที่ 61 ตามมาขอเกาะท้ายรถไปเที่ยวด้วยคนค่ะ จากคุณ : คุณหนูแพนด้าตัวน้อย เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 00:11:22

ความคิดเห็นที่ 62 ธรรมชาติระหว่างเส้นทาง 1.5 กิโลเมตรสู่น้ำตกนั้นก็ยังอุดมสมบูรณ์ ร่มรืนมาก ต้นไม้ต้นใหญ่ ในส่วนนี้เก็บๆ ไว้ให้สมาชิกห้องบลูที่อยากจะไปตามไปเก็บภาพกันแล้วกันนะคะ ทางเขตรักษาฯ ทำสถานที่ดีมาก พอถึงจุดที่จะมีต้นไม้แปลกๆ หรือจุดแวะชมหลายทางก็ทำระเบียงให้แล้วมีป้ายบอก แต่ป้ายค่อนข้างเลือนลางไปบ้างแล้วค่ะ จากในภาพเป็นน้ำตกเล็กก่อนถึงน้ำตกใหญ่ค่ะ พี่ไกด์เราบอกว่านี่แค่หลังบ้าน โอ้วว ..แค่หลังบ้านพวกเราก็กี้สๆๆ กันแล้ว น้ำสีเขียวใสดีมาก น้ำตกตรงนี้เราจำชื่อไม่ได้อ่ะ เสียดายจัง ป.ล เราเคยภาพน้ำตกนี้ในรีวิวค่ะ แต่น้ำเยอะกว่านี้มากๆ อันนี้น้ำเริ่มน้อยแล้ว จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 00:16:17

ความคิดเห็นที่ 63 จากตรงจุดภาพข้างบนไป เราก็เริ่มได้ยินเสียงน้ำตกแล้วค่ะ เดินอีกนิดเดียวเท่านั้นก็จะถึงแล้ว ยิ่งใกล้น้ำตกจะยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ ในใจตอนนี้คิดไปเรื่อยๆ เลยค่ะ มันจะสวยเหมือนในรูปมั๊ยน้า.. จะอลังการงานสร้างมั๊ย...เอ๊ะ อ่านมาในพันทิปบอกว่าเดือนมกราคมมาน้ำก็เริ่มน้อยลงแล้ว... อุ้ย เรานั่งรถมาไกลขนาดนี้ เพื่อสิ่งนี้มันจะคุ้มรึเปล่า..บลาๆๆๆๆ คิดไปเรื่อยเลย . . . และในที่สุด..เราก็ได้มาถึง . . . . ภาพแรกที่เราจะได้เห็นกันดังต่อไปนี้... . . . คือน้ำตกสวยอันดับ 1 ของประเทศไทยและติดอันดับ 6 ของโลก ....ณ ช่วงเวลา 5 กุมภาพันธ์ 2555.... . . . จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 00:22:51

ความคิดเห็นที่ 64 อีกสักรูป ขอแบบแจ่มๆ ของมุมเดิม จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 00:27:49

ความคิดเห็นที่ 65 5555555++ คือก็แอบผิดหวังนิโหน่ยย มีแต่ต้นไม้ขึ้นเต็มไปหมด เพราะอยากเห็นแบบอลังการดั่งในรูปที่ดูๆ มา เนื่องจากเดือนนี้กุมภาแล้วน้ำก็เหลือประมาณนี้ค่ะ และก็จะลดลงเรื่อยๆ ตลอดช่วงฤดูร้อน แต่น้ำที่ทีลอซูจะมีตลอดทั้งปีจากคำบอกเล่าของพี่ไกด์ ไปช่วงไหนก่อนหน้าฝนก็มีน้ำแต่คงจะไม่มากดังเช่นในฤดูฝนโดยตรง แล้วจะแคร์ไปทำไมเส้นทางกว่า 5-6 ร้อยกิโล กว่า 1219 กว่าโค้ง ขึ้นเขาลงเขา บุกฝ่าเข้ามาแล้วจะมานั่งแคร์ทำไมน้ำจะมากน้ำจะน้อย นี่เรามาถึงทีลอซูแล้วนะ แถมไม่ต้องเบียดเสียดแย่งกันถ่ายรูปกับใครๆ มีพื้นที่ให้เล่นน้ำจนเลือกไม่ถูก ไปสนุกกันเลยดีกว่า แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 55 05:13:44 จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 00:37:08

ความคิดเห็นที่ 66 ที่น้ำตกที่ลอซูจะมีโดยประมาณ 3 ชั้นค่ะ ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ดังในรูปนี้ชั้นที่ 1 ค่ะ เป็นชั้นที่สำหรับเล่นน้ำ มีพื้นที่เยอะ อยู่ข้างล่างสุดเลย หลังจากขึ้นไปสำรวจเสร็จพวกเราก็ลงมาเล่นชั้นนี้กันค่ะ มีแต่พวกเรา 6 คน จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 00:42:06

ความคิดเห็นที่ 67 จากนั้นเราก็ขึ้นไปชั้นที่สอง (หรือตรงกลาง) แต่ชั้นนี้ไม่ค่อยน่าเล่นค่ะ คือเป็นพื้นที่น้ำตกไหลเสียมากกว่า แต่ในระหว่างทางขึ้นก็มีน้ำตกข้างทางด้วยนะคะ ถ้าเห็นในภาพช่วงน้ำเยอะๆ พื้นที่ของน้ำตกจะกว้างมากกกกก ประมาณ 9 ร้อยกว่าเมตรเลยทีเดียวในช่วงน้ำมาก แต่เราไปตอนนี้ก็มีน้ำไหลอยู่ แต่ไม่มากค่ะ ดังเช่นในภาพ น้ำตกริมทางขึ้นไปชั้น 2 จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 00:48:11

ความคิดเห็นที่ 68 ภาพนี้คือน้ำตกชั้นที่ 2 ค่ะ ส่วนตรงกลางของทีลอซู เป็นภาพที่ถ่ายตรงออกไปนะคะ ไม่ได้ถ่ายมาที่ทางไหลลงมาของน้ำตก จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 00:50:48

ความคิดเห็นที่ 69 ภาพนี้เป็นส่วนที่น้ำตกไหลลงมาที่ชั้น 2 ค่ะ จะเห็นว่าน้ำไม่มากเท่าไหร่ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 00:53:24

ความคิดเห็นที่ 70 จากนั้นก็ปีนป่ายต่อไป น้ำตกด้านข้างๆ เมื่อเลยชั้นที่สองขึ้นไปอีกหน่อยค่ะ เป็นสายน้ำไหลมาตามหน้าผา จะสังเกตุเห็นรูปร่างของหินตามหน้าผาจะเป็นเหมือนหยดน้ำอ่ะคะ น่าจะเป็นทางน้ำไหลช่วงน้ำหลากเลยโดยกัดเสาะ รูปนี้ถ่ายจากมุมเสยขึ้นไปค่ะ จริงๆ หน้าผาน้ำตกนั้นใหญ่มากนะคะ คนนี้ตัวเล็กเลยแต่ถูกจากมุมนี้ขึ้นไปเลยดูคนตัวใหญ่ค่ะ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 01:00:09

ความคิดเห็นที่ 71 แล้วเราก็มาถึงชั้นบนสุดค่ะ ตรงนี้เราคิดว่าเป็นจุด hilight ของเราเองค่ะ น้ำตกสูงมว๊ากกกกกก พวกเราก็เลยปีนลงไปถ่ายและก็เล่นน้ำกันค่ะ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 01:03:42

ความคิดเห็นที่ 72 REVIEW [CR] ที-ลอ-ซู ขอลองสักครั้งไปพิชิต 1,219 โค้งที่อุ้งผาง ตาก (แบบไปเองไม่มีรถ) ตอนจบ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 01:15:28

ความคิดเห็นที่ 73 แวะเข้ามาชมตอนแรกครับ จากคุณ : เจ้าชายแวมไพร์ เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 02:17:46

ความคิดเห็นที่ 74 สวยสุดๆไปเลยครับ จากคุณ : at_thajak เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 03:56:27

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณทุกๆ ท่านๆ ที่ผ่าน (พลาด) มาชมกระทู้รีวิวของเรานะคะ ภาพเราอาจจะไม่ได้สวยอะไรมาก เราขอทดแทนด้วยข้อมูลแล้วกันเน๊อะ อิอิ... หากใครสงสัยตรงไหนหรืออยากจะแสดงความคิดเห็นอะไรได้ ทำได้เต็มที่เลยนะคะ และขออภัยหากเราไม่ได้เอ่ยชื่อทุกๆ ท่านที่เข้ามาทักทายเรานะคะ เพิ่งทำกระทู้เสร็จอาจจะงงๆ เบลอๆ เราทำเขียนสดไป อัพรูปสดไปด้วยอ่ะคะ ถ้าอย่างไรก็ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาชมกัน ซึ้งง่ะ ลืมไปนิสส เราอาจจะมีพิมพ์ผิดพลาดไป สะกดไม่ถูก เราจะมาตามแก้เรื่อยนะคะ แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 55 05:17:05 แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 55 04:41:43 จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 04:40:59

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : เด็กชายโจ้ เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 04:56:25

ความคิดเห็นที่ 77 ทีลอซู ชื่อนี้ต้องไปสักครั้ง  ขอบคุณสำหรับรีวิวและข้อมูลครับ จากคุณ : เครียดไปก็เท่านั้น เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 07:37:24

ความคิดเห็นที่ 78 รีวิวได้ละเอียดมาก เก็บรายละเอียดทุกขั้นตอนเลย เป็นข้อมูลชั้นเยี่ยมสำหรับคนที่ยังไม่เคยไปได้ดีจริงๆ ครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ น่าสนใจมากๆ จากคุณ : โต้งซัง เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 15:57:58

ความคิดเห็นที่ 79 ตามมาเที่ยวด้วยครับน่าสนุกมาก จากคุณ : Red Fox เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 17:14:04

ความคิดเห็นที่ 80 คุณ :เด็กชายโจ้ , คุณ Red Fox --- ขอบคุณที่แวะเข้ามาชมค๊าา คุณ เครียดไปก็เท่านั้น ---- ใช่ค่ะ ต้องลองสักครั้งจริงๆ ต้องลองไปสัมผัสด้วยตนเองแล้วจะรู้ซึ้งงงงงงงมากกๆๆๆๆ เลยค่ะ คุณ โต้งซัง ----- เราอยากจะเล่าให้ได้ละเอียดมากๆ ค่ะ เผื่อให้สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะไปลองสักครั้งดู เพราะทางเลือกในการเดินทางไม่มากค่ะ เราก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์เมื่อเวลามีคนมาลองหากระทู้ใน smart search ค่ะ จากคุณ : reader@skindark เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 20:42:11

ความคิดเห็นที่ 81 งามค่ะ อยากไปตอนหน้าฝนคงต้องหาเวลาช่วงคนน้อยๆ จากคุณ : Tass (tassamon) เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 55 00:31:41