ขอแชร์ประสบการณ์ สิบวันในเซี่ยงไฮ้ Shanghai
|
 |
ตั้งแต่สองสัปดาห์ก่อนมีโอกาสได้ไปBusiness tripมาครับ เป็นการไปเซี่ยงไฮ้เป็นครั้งแรกในชีวิตเลย ทั้งหมดรวมสิบวันแต่ได้เที่ยวจริงๆแค่เสาร์อาทิตย์สองวันเท่านั้น เรื่องดีๆหรือสถานที่ท่องเที่ยวในเซี่ยงไฮ้นั้นคิดว่าคงมีคนแชร์เยอะแล้ว เลยขอแชร์เรื่องไม่ค่อยดีที่เจอมาเป็นหลักแทนละกันครับ
1.อาการแพ้ (อากาศ? ของกิน?) ตั้งแต่วันแรกที่ไปถึงเซี่ยงไฮ้ อยู่ๆผมก็มีอาการคันโดยไม่ทราบสาเหตุ ผิวจะแห้งมากโดยเฉพาะบริเวณปาก แห้งแบบเห็นๆเลยครับน่ากลัวมาก แล้วตอนกลางคืนจะคันทั้งตัว ยิ่งเกายิ่งคัน แต่ไม่มีผื่นขึ้น เป็นอย่างนี้ตลอดสิบวัน นอนไม่ค่อยหลับเพราะคันมาก จนกระทั่งบินไปฮ่องกง อาการก็เริ่มดีขึ้น แล้วเมื่อคืนกลับถึงบ้าน(ที่ญี่ปุ่น)ก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยในหนึ่งวัน จึงค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นอาการแพ้อะไรสักอย่างในเมืองจีน แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าคืออะไร - -; เพราะฉะนั้นขอแนะนำว่าให้เอาพวกยาแก้แพ้ไปด้วยครับ ทั้งแบบกินและทา โดยเฉพาะคนที่แพ้ง่ายแบบผม
2.การหลอกเอาเงิน เรื่องหลอกนักท่องเที่ยวนั้นคงเคยได้ยินกันมาเยอะ ที่ได้เจอกับตัวเองก็คือจะมีคนแต่งตัวดีๆเหมือนเป็นพนักงานบริษัทธรรมดาเดินเข้ามาหา สามารถพูดภาษาอังกฤษง่ายๆได้ แล้วบอกว่าตัวเองมาจาก"หนานจิง (นานกิง)"แล้วไม่มีเงินกลับบ้าน จะขอเงินสัก20 เชื่อไหมว่าผมเจอทั้งหมดสามคนครับในระยะเวลาสิบวัน ทุกคนมาแนวเดียวกันหมด ขนาดมุกนานกิงก็ยังเหมือนกัน (ไม่คิดจะใช้เมืองอื่นเลยนะ) เจอที่หนานจิงตงลู่คนนึงแล้วก็เจอที่สถานีMaglevอีกสองคน (อันนี้มีการใช้กระเป๋าเดินทางเป็นออปชันเสริมด้วย) ถ้าเจอแบบนี้ไม่ต้องหยุดฟังหรือใจอ่อนอะไรทั้งสิ้น เดินหนีอย่างเดียวครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนทำอะไร เค้าไม่กล้าทำมากไปกว่านั้น
3.แก๊งชวนขึ้นแท็กซี่หลังรถไฟหมด พอรถไฟใกล้หมดจะมีพวกนี้ขึ้นมาหาลูกค้าในรถไฟเลย ตะโกนเสียงดังมาก และจะจ้องนักท่องเที่ยวเป็นหลัก(พูดอังกฤษได้บ้าง) ผมโดนเดินตามจนกระทั่งออกจากประตูสถานี แต่พอออกมาจากสถานีก็เจอพวกนี้เข้ามารุมอีกราวๆสิบคนพร้อมกัน ตะโกนใส่รัวๆแถมเดินตาม คิดในใจว่าถ้าเราเป็นผู้หญิงคนเดียวอาจร้องไห้ไปแล้ว เพราะมันน่ากลัวจริงๆ มันดูไร้อารยะมากๆ กรณีแบบนี้ให้แนะนำเหมือนเดิมคือต้องใจแข็ง ทำเหมือนไม่ได้ยินแล้วเดินออกไปเรียกแท็กซี่ปกติแถวนั้นๆ อย่าตามพวกคนพวกนี้ไปเด็ดขาด (จริงๆผมเองก็ไม่ได้ตามไปเลยไม่รู้ว่าถ้าตามไปแล้วจะเป็นไง)
ยอมรับอย่างนึงว่าแท็กซี่ที่นี่ดีมากครับ(ที่เป็นแท็กซี่แท้) ไม่อ้อมและไม่มีการอมเงินทอนแม้แต่หยวนเดียว แต่ที่แย่คือภาษาอังกฤษได้น้อยมาก ต้องอธิบายชัดๆเป็นภาษาจีนไม่ก็เอาที่อยู่โรงแรมเป็นภาษาจีนให้ดู
4.ห้องน้ำ คิดว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินมาเยอะเกี่ยวกับห้องน้ำในจีน แต่สำหรับเซี่ยงไฮ้นี่ค่อนข้างพัฒนาไปมากเลยทีเดียว ห้องน้ำแบบยุคหินนี่ไม่เห็นเลย ไม่เหมือนปักกิ่ง อันนี้วางใจได้ครับ
5.ขาก:-) อันนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง :-)ทุกที่แม้กระทั่งในสถานีรถไฟไต้ดิน (อันนี้รับไม่ได้ที่สุดแล้ว) ไม่รู้จริงๆว่าทำไมถึงไม่คิดจะพัฒนาตรงนี้แบบจริงจังสักที
6.ร้านสะดวกซื้อ มีร้านสะดวกซื้อเยอะดี ไม่ลำบาก ไม่เหมือนปักกิ่งที่มีแต่โชว์ห่วย
จากประสบการณ์ที่เคยไปเที่ยวปักกิ่งและไปทำงานเซี่ยงไฮ้ ทำให้ผมบอกตัวเองชัดเจนว่าชาตินี้ไม่ขออยู่ประเทศนี้นานเกิน1สัปดาห์นอกจากจะเป็นbusiness trip ทนอยู่ไม่ได้จริงๆครับเป็นโรคประสาทแน่ๆ จริงๆก่อนหน้านี้วางแผนที่จะไปเรียนภาษาจีนที่เซี่ยงไฮ้สักปีนึง แต่ตอนนี้ตัดสินใจแล้วว่าขอไปไต้หวันดีกว่า อยู่แบบมีความสุขดีกว่า ตัวเมืองเซี่ยงไฮ้นั้นพัฒนาแบบสุดยอดจริงๆ อันนี้ต้องยอมรับ แต่น่าเสียดายที่ว่าจิตใจของคนนั้นไม่สามารถพัฒนาตามได้ทัน และผมยังไม่เห็นวี่แววว่ามันจะตามทันได้เลย นอกเสียจากว่าเด็กรุ่นใหม่จะถูกส่งไปอยู่เมืองที่มีอารยะเยอะๆมากๆกว่านี้ จะได้ซึมซับวัฒนธรรมและมารยาทที่ครอบครัวของตนไม่เคยรู้จักแล้วเอากลับมาใช้กัน
หลังออกจากเซี่ยงไฮ้ได้มีโอกาสไปทำงานฮ่องกงต่ออีกสองวัน คนที่นั่นเองก็ค่อนข้างไม่พอใจอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับคนจากแผ่นดินใหญ่ที่ทะลักเข้ามาฮ่องกงเหมือนกันครับ โดยเฉพาะเรื่องที่รัฐเอาภาษีคนฮ่องกงไปดูแลคนจากแผ่นดินใหญ่ จนมีแคมเปญต่อต้านกันเลยทีเดียว
แม้ว่าตัวเองจะเป็นคนเชื้อสายจีนเหมือนกันแต่รู้สึกโชคดีจริงๆที่เกิดในไทย ถ้าต้องเกิดมาในสังคมแบบนั้นชีวิตคงเศร้ามากๆ ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ถ้าไม่ถูกใจใครต้องขออภัยด้วยครับ
จากคุณ |
:
- Lost in Translation -
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ก.พ. 55 14:27:55
|
|
|
|