ความคิดเห็นที่ 1 เช้าวันที่ 3 หลังจากเราไปสักการะพระธาตุอินทร์แขวน ในตอนเช้า ซึ่งครบ 3 รอบพอดี เราก็ออกจากโรงแรม ลงเขาตั้งแต่เช้า เพราะวันนี้ต้องเดินทางไปเที่ยวชมเมืองหงสาวดีต่อ แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 55 09:23:02 จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 09:22:46

ความคิดเห็นที่ 2 เมืองหงสาวดี หรือ พะโค หรือ บาโก Bago ในภาษาพม่า อยู่ห่างจากเมืองย่างกุ้ง 80 กิโลเมตร  อดีตเคยเป็นเมืองหลวงของพม่ามาก่อน เมืองหงสาวดีเจริญรุ่งเรืองสุดขีด ในรัชสมัยของพระเจ้าบุเรงนอง หงสาวดี เรามาถึงเมืองหงสาเวลาราวๆเที่ยง คนขับรถของเราเลยแวะพาทานข้าวเที่ยงกันก่อนจะทัวร์เมือง ผมสั่งเป็ดย่างไปตอนแรกเข้าใจว่าจะมาเป็นแบบราดข้าว แต่พอยกมา โอววว มาเกือบทั้งตัว กินกันพุงกางเลย ราคา 5000 จ๊าด จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 09:28:46

ความคิดเห็นที่ 3 หลังทานข้าวเสร็จเราก็มาที่พระมหาเจดีย์ชเวมอดอร์ หรือพระธาตุตะรุเตา ซึ่งเป็นพระธาตุที่บุเรงนอง มากราบไหว้ขอพรก่อนจะออกศึกสงคราม รวมถึงพระนเรศวรมหาราชก็เคยมาไหว้ขอพระที่นี้เมื่อครั้งที่ยังเป็นเชลยศึกด้วยครับ สิงห์คู่หน้าทางขึ้นเจดีย์ ใหญ่โตมากก ใหญ่จนต้องเดินมาอีกฟากถนนถึงจะถ่ายได้ครบทุกมุม จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 09:34:11

ความคิดเห็นที่ 4 แวะมาชมครับ ตามเที่ยวพม่าต่อครับผม ภาพสวยมาก ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 09:56:47

ความคิดเห็นที่ 5 พะโค มีตำนานเล่าว่า เมืองพะโคเดิมเป็นเกาะเล็ก ๆ ในอ่าวเมาะตะมะ เล็กจนมีที่ พอให้หงส์ร่อนลงมาพักได้เพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น หงส์เพศเมียหรือนางหงส์จึงต้องอาศัยเกาะอยู่บนหลังคู่ของมัน เมื่อเดินทางถึงเมืองหงสาวดีจะสังเกตเห็นหงส์สองตัว ซึ่งอาศัยอยู่บนหลังของหงส์ตัวผู้ และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองหงสาวดี เอาตำนานมาจากเว็บเค้าอีกทีครับ ^^ แต่เราก็ไม่ได้ถ่ายรูปหงษ์คู่อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมานะครับ จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:00:03

ความคิดเห็นที่ 6 ปลายเดือนกุมภา อุณหภูมิที่พม่าร้อนมาก แดดแรง ราวๆ กับอยู่กลางทะเลทรายเลยก็ว่าได้ เราก็เลยต้องถ่ายรูปแบบรีบๆ ทั้งร้อนทั้งแสบตา จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:03:52

ความคิดเห็นที่ 7 เดินผ่านเข้ามาข้างใน ด้านหน้าของพระมหาเจดีย์ จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:07:43

ความคิดเห็นที่ 8 ตามมาเที่ยวพม่าต่อด้วยคนครับบบบบบบบบบบบ จากคุณ : tao-tao2 เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:14:37

ความคิดเห็นที่ 9 ชาวพม่าเข้ามากราบไหว้สักการะ จากคุณ : mytohn เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:15:28

ความคิดเห็นที่ 10 ซุ้มประตู ทางเดินที่เดินขึ้นมา จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:16:49

ความคิดเห็นที่ 11 ที่เที่ยวในเมืองหงสาวะดี คือ พระราชวังบุเรงนอน พระมหาเจดย์ชเวมอดอร์ พระนอนชเวตาเหลียว เจดีไจ้ปุน ทั้งหมดสามารถเที่ยวจบได้ในครึ่งวันครับ ตั๋วราคาเข้าชมสถานที่จะเป็นแบบจ่ายทัวร์ทั้งเมือง 10 US ต่อคน ส่วนที่เจดีย์ชเวมอดอร์ต้องจ่ายค่ากล้องเพิ่มด้วย 1 US ครับ แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 55 10:20:26 จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:20:10

ความคิดเห็นที่ 12 มุมทางเดิน ซุ้มประตูหลักที่เข้ามาครับ แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 55 10:21:23 จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:21:11

ความคิดเห็นที่ 13 พระมหาเจดีย์ชเวมอดอ ใหญ่โต มโหฬารมาก เจอแดดตอนกลางวัน เปรี้ยงๆ เข้าไปแล้ว แสบตาเหลือเกิน แต่ความงามก็ทำให้ความร้อนนั้นไม่เป็นอุปสรรคต่อการเยี่ยมชม จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:26:51

ความคิดเห็นที่ 14 ยิ่งใหญ่และงดงาม เสียจริง จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:28:58

ความคิดเห็นที่ 15 ลืมรูป ^^ จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:29:25

ความคิดเห็นที่ 16 ใบไม้ร่วงโรย ดูๆไปก็สวยไปอีกแบบ จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:40:10

ความคิดเห็นที่ 17 แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 55 10:41:35 จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:41:23

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าอากาศเย็นๆ หน่อย ก็น่าจะโรแมนติกได้เหมือนกันน่ะ จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:41:54

ความคิดเห็นที่ 19 ตามมาเที่ยวพม่าต่อค่ะ ติดต่อไกด์ที่พม่าไว้แล้วค่ะ จากคุณ : beaulek เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 11:08:35

ความคิดเห็นที่ 20 ตามมาไหว้พระยามก่อนเที่ยงนะครับ จากคุณ : TeeChoco เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 11:30:58

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ beaulek ถ้าติดต่อไกด์พม่าไว้แล้วก็ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วล่ะ ก็จะมีแต่ที่ต้องเตรียมส่วนตัวคือ 1.ร่ม หาไปด้วยก็ดี เพราะที่นู่นร้อนมากกก แดดเหมือนอยู่กลางเทะเลทราย 2.กันแดด ซัก SPF 80 ถึงจะเอาอยู่ 3.รองเท้าแตะ เอาไว้ใส่เดินรอบ ๆ เพราะต้องถอดรองเท้าตลอดเวลาที่เข้าวัด ถ้าผ้าใบจะได้ใช้เฉพาะตอนอยู่บนรถเท่านั้น รองเท้าแตะจะสะดวกกว่า 4.เงิน US แลกไปเผื่อไว้เลย เพราะที่นู่นไม่มี ATM ไม่มีบัตรเครดิต ถ้าเงินขาดขึ้นมาจะลำบาก 5.เผื่อเวลาเช็คอินที่บ้านเราอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ไม่งั้นอาจตกเครื่อง เพราะที่ตม.บ้านเราตนนี้มีปัญหาอยู่ 6.เผื่อเวลาตรวจด่านตมที่พม่าขาเข้าไว้ด้วยซัก 2 ชั่วโมง 7.ถ้านั่งแอร์เอเชีย ที่พม่าทำเช็คอินผ่านเว็บไม่ได้ เค้าต้องใช้บอร์ดดิ้งพาส ที่ออกจากเค้าเตอร์เท่านั้น เพราะฉะนั้น จะต้องไปเช็คอินที่เคาท์เตอร์เท่านั้น ถ้ามีอะไรเผื่อเพิ่มเติมจะมาอับเดทข้อมูลให้ครับ จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 11:34:50

ความคิดเห็นที่ 22 เดินไปรอบๆ จะเจอยอดเจดีย์องค์เดิมที่หักลงมา และตั้งคว่ำอยู่ครับ จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 11:40:00

ความคิดเห็นที่ 23 11 จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 11:41:18

ความคิดเห็นที่ 24 สวยงามครับ  ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 11:47:18

ความคิดเห็นที่ 25 อีกมุมภายในวัด จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 11:57:56

ความคิดเห็นที่ 26 ระฆังในวัด ส่วนใหญ่จะเดินผ่านกันหมด เพราะร้อนมาก จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:00:28

ความคิดเห็นที่ 27 อีกมุม ได้ยินเสียงแม่ชีสวดมนตร์ ดังลั่นระงมไปทั้งวัดเลย จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:02:17

ความคิดเห็นที่ 28 น่าไปเที่ยวครับ จากคุณ : เจ้าชายวังหลัง เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:21:19

ความคิดเห็นที่ 29 ตามอ่านทุกตอนเลย จากคุณ : mementototem เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:30:34

ความคิดเห็นที่ 30 งามดีแท้ครับ ตามมาเที่ยวต่อครับ ชายกลาง จากคุณ : Hero11147 เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:32:52

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณทุกคห . ที่ตามมาเที่ยวด้วยกัน เดี๋ยวเราไปทัวร์ทำบุญไหว้พระกันต่อดีกว่าครับ ยังเหลืออีกครึ่งทางและวันสุดท้ายที่สิเรียมครับ จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:43:46

ความคิดเห็นที่ 32 ยอดซุ้มศาลาภายในวัด จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:46:12

ความคิดเห็นที่ 33 ซุ้มประตู จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:47:15

ความคิดเห็นที่ 34 ที่เดียวกัน แต่ต่างกันที่ "มุมมอง" จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:48:05

ความคิดเห็นที่ 35 มุมต่่างๆ ภายในวัดก็มีพระประจำอยู่ทุกด้านให้เราได้กราบไหว้ขอพร จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:49:29

ความคิดเห็นที่ 36 19 จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:51:33

ความคิดเห็นที่ 37 เดินชมและไหว้พระรอบๆเจดีย์เสร็จ เราก็ออกเดินทางไปยังพระราชวังบุเรงนองกันต่อ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากครับ จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:53:48

ความคิดเห็นที่ 38 19#  คห.36    งามจังเลยครับ แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 55 12:56:26 แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 55 12:55:38 จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:54:48

ความคิดเห็นที่ 39 นั่งรถมาจากพระมหาเจดีย์ชเวดามอร์ สิบกว่านาที ก็มาถึงวังบุเรงนอง ด้วยแดดยามบ่าย ที่ร้อนระอุ แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 55 12:58:18 จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:55:44

ความคิดเห็นที่ 40 เล็กทาโร่ แสดงว่าชอบพระ อย่างนี้น่าจะไปไหว้พระที่พม่าซักทริป น่าจะดี พระพุทธรูปแต่ละที่นี่ งดงามมากครับ จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:57:28

ความคิดเห็นที่ 41 หงสาวดีเจริญรุ่งเรืองสุดขีดในรัชสมัยของพระเจ้าบุเรงนอง เนื่องจากพระองค์ให้ทรงสร้าง พระราชวังของพระองค์ที่ชื่อ กัมโพชธานี ซึ่งนับเป็นพระราชวังใหญ่โตมีประตูทางเข้าออกถึง 10 ประตู สร้างโดยเกณฑ์ข้าทาสจากเมืองขึ้นต่าง ๆ โดยหนึ่งในนั้นมีเมืองเชียงใหม่และอยุธยารวมอยู่ด้วย จนถึงสมัยพระเจ้านันทบุเรงที่ เสด็จหนีพระนเรศวรไปเมืองตองอู และพวกยะไข่เผาทำลายหงสาวดี หลังจากนั้นไม่นาน เมืองอังวะก็กลายมาเป็นเมืองหลวงของประเทศพม่าโดยสมบูรณ์ก่อนที่พม่าทั้งประเทศ จะเสียเอกราชให้อังกฤษ ซึ่งทิ้งให้พระราชวังแห่งนี้รกร้างลงเป็นเวลาร่วม 3 ศตวรรษ จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 13:09:11

ความคิดเห็นที่ 42 แปลกตามากครับ ทองอร่ามไปหมด จากคุณ : TOSHy เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 13:09:51

ความคิดเห็นที่ 43 ปกติแล้วพระราชวังจะเป็นสีเหลืองทองครับ แต่ด้วยความที่แดดแรงจ้ามาก จนทำให้มองเป็นสีส้มไป จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 13:10:35

ความคิดเห็นที่ 44 พระราชวังบุเรงนอง หรือ บะเยงนอง ,บะยินนอง ในภาษาพม่า ครับ จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 13:29:05

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณที่พาเที่ยวพม่าครับ ชอบมากๆ จากคุณ : boy next door เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 14:47:36

ความคิดเห็นที่ 46 เสาที่เป็นฐานอันโออ่าภายในพระราชวัง จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 15:41:36

ความคิดเห็นที่ 47 ปี พ.ศ. 2533 ได้มีการค้นพบ เสาและกำแพงเดิมที่ถูกฝังอยู่ใต้ดิน รัฐบาลพม่าจึงได้ทำการขุดค้น และสร้างพระราชวังบุเรงนองขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นสถานที่ ท่องเที่ยว โดยถอดแบบจากของเดิม ซึ่งบางส่วนได้สร้างแล้วเสร็จไป แต่ยังคงมีอีกบางส่วนก็กำลังรอทุนในการก่อสร้าง จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 15:43:47

ความคิดเห็นที่ 48 ตามมาอ่านแทบไม่ทันเลยค่ะคุณชายกลาง (mytohn) จากคุณ : ryjarja เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 18:19:49

ความคิดเห็นที่ 49 ู^ ^ เร็วไปหรือครับ นี่ว่าจะเร่งๆ ให้จบอีกวันเลยนะครับเนี่ย เหมือนจะยังเหลือข้อมูลอีกเยอะ ยังไงจะสรุป ข้อมูล เดินทางและการเตรียมตัวทั้งหมดให้อีกที ในรีวิวตอนจบนะครับ ^^ แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 55 18:38:34 จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 18:37:41

ความคิดเห็นที่ 50 ประตูอันเป็นทางเข้า ในวัง แต่ปิดไว้ห้ามเข้านะครับ จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 18:45:34

ความคิดเห็นที่ 51 อะไรๆ ก็เหลืองเป็นทองไปหมด จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 18:46:36

ความคิดเห็นที่ 52 ราชรถจำลอง ที่ใช้ในการเสด็จออกว่าราชการต่างๆ ของบุเรงนองครับ จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 18:48:07

ความคิดเห็นที่ 53 อีกฟากฝั่งที่ห่างกันออกไปไกล เป็นที่ออกว่าราชการของบุเรงนอง บัลลังก์ผึ้ง ในเขตจะมีอยู่เพียงแค่ วังบุเรงและที่ว่าราชการเท่านั้นทีบูรณะสร้างขึ้นมา ส่วนตัวผมคิดว่า ยังมีหลายส่วนมาก ที่ไม่ได้รับการบูรณ มีทั้งที่เป็นวังของ พระสุพรรณกัลยา ที่เห็นเพียงแค่เสาเดียวตั้งอยู่เท่านั้น และยังมีบริเวณรอบๆ ที่กว้างขวางอีก ความยิ่งใหญ่คงจะไม่ได้มีเพียงแค่วังบุเรงนองที่เราเห็นเท่านั้นครับ (Bee throne hall)    พระเจ้าบุเรงนองทรงโปรดปรานผึ้งมาก และใช้การต่อสู้ของผึ้งมาใช้เป็นยุทธวิธีในการรบ   และเมื่อพระเจ้าบุเรงนองสร้างพระราชวังนี้เสร็จ ก็มีฝูงผึ้งมาทำรังอยู่หลายร้อยปี แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 55 18:56:17 จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 18:53:01

ความคิดเห็นที่ 54 คุณชายกลางจะมาต่อไหมน๊า รอชมต่อนะคะ จากคุณ : nasaae เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 15:24:40