|
Update การยื่นขอวีซ่าสถานทูตเบลเยี่ยมครับ
|
|
วันนี้พึ่งไปขอวีซ่าที่สถานทูตเบลเยี่ยมมาเห็นหลายๆคนต้องกลับไปใหม่เลยจะมาแจกแจงรายละเอียดกันซักหน่อยครับ
1. ปัจจุบันการจะยื่นขอวีซ่าที่สถานทูตเบลเยี่ยม ไม่สามารถเดินเข้าไปยื่นเอกสารได้เลยเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ ต้องทำการจองวันยื่นวีซ่าผ่าน vfsและจ่ายค่าธรรมเนียมผ่านธนาคารกรุงศรี 2855 บาท (สำหรับวีซ่าท่องเที่ยวระยะสั้น) ให้เรียบร้อยก่อนครับ
เห็นคนที่ไม่ได้จองไปกันหลายคนเลยครับก็ต้องกลับบ้านไปใหม่ทุกคน
โดยสามารถปริ๊นเอกสารเพื่อจ่ายเงินและจองวันยื่นเอกสารได้ที่นี่ครับ
http://www.vfsglobal.com/belgium/thailand/index.html
(อ๊อ สามารถเปลี่ยนแปลงวันนัดได้ 1 ครั้งครับ แต่ต้องเปลี่ยนก่อนหน้าวันนัด 2 วันนะครับ ใครนัดวันใกล้ๆแบบผมก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ครับ)
2.หลังนัดวันแล้วเราก็ต้องมาเตรียมเอกสารกัน ก่อนหน้านี้ผมได้ลองอ่านว่าต้องแปลเอกสาร แต่ปัจจุบันเอกสารที่นำไปยื่นเป็นภาษาไทย อังกฤษ และดัตซ์ ไม่ต้องแปลเอกสารแล้วครับ
จากข้อมูลที่ได้มาจากสถานทูตต้องเตรียมเอกสารดังนี้ครับ
1) หนังสือเดินทาง เหลืออายุเดินทาง 3 เดือน หลังจากวันที่เดินทางกลับ 2) รูปถ่าย 2 นิ้ว 2รูป พื้นหลังขาว 3) ใบคำร้องขอวีซ่า ปริ๊นท์แล้วกรอกข้อมูลเรียบร้อย 4) กรมธรรม์ประกันการเดินทางวงเงิน 30,000 ยูโร (บริษัทประกันตามที่สถานทูตกำหนด) 5) แผนการเดินทาง (Travel plan) (อันนี้ผมไม่รู้เลยไปเขียนสดเอาที่สถานทูต) 6) หลักฐานการเงิน และเอกสารการทำงาน,เรียน 7) สำเนาสำรองที่พักและสำรองตั๋วเครื่องบิน 8) สำเนาเอกสารข้างต้นอย่างละ 1 ชุด 9) ใบจองวันยื่นวีซ่า จำเป็นต้องใช้เพราะมีบาร์โค้ดไว้สแกน (อันนี้ผมปริ๊นท์ไม่ได้มัน error เลยต้องโทรไปให้ vfs ส่งเมล์มาปริ๊นท์แล้วไปยื่นเอกสารเพิ่มเติม)
สิ่งที่ผมเตรียมไปเกินมีบัตรประชาชนกับสำเนาทะเบียนบ้าน (แต่ผมคิดว่าเตรียมไปเผื่อดีกว่าขาดครับ)
3.หลังเตรียมเอกสารครบ เมื่อถึงวันที่นัด ให้ไปถึงก่อนเวลานัด 15 นาที ที่อาคารสาทรซิตี้ ชั้น 17 ครับ ไปติดต่อที่ช่อง reception โดยเอาใบนัดวัน (ที่มีบาร์โค้ด) ยื่นไปให้แล้วรอเรียก เจ้าหน้าที่จะเรียกชื่อแล้วทำการตรวจเอกสาร (พร้อมสัมภาษณ์เล็กๆ) ก่อนที่จะให้จ่าหน้าซองจดหมายถึงตัวเรา สำหรับคืนพาสปอร์ต เมื่อเอกสารครบถ้วนก็เรียบร้อยครับ กลับมารอผลวีซ่าทางจดหมายเหมือนผมตอนนี้
ข้อดีของการยื่นขอเชงเก้นเบลเยี่ยม
1.วันนัดไม่ยาวครับ อย่างของผมจองวันศุกร์ วันนัดเร็วสุดวันอังคาร ประมาณ 2-3 วันก็สามารถยื่นได้เลยไม่เหมือนประเทศที่ฮิตๆที่คิวจองกันข้ามเดือนเลยทีเดียว
ข้อเสีย (อาจจะเยอะหน่อยนะครับ ^^ เผื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาอ่านจะได้นำไปปรับปรุง เพราะผมให้ข้อมูลไปว่าที่มีตั๋วเครื่องบินถูก เหมือนที่ผมได้โปรมา เอ๊ะ ว่าแต่แล้ววีซ่าผมจะผ่านมั๊ยล่ะทีนี้ หุๆๆๆ)
1. vfs และสถานทูต ติดต่อยากพอสมควรครับ แนะนำให้โทรช่วงเช้าจะดีที่สุดจากประสบการณ์ (สถานทูตมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายนี้คนเดียว ทั้งหมดมีแค่ 3 คนครับ และต้องรับเรื่องด้วย จากที่ไปนั่งอ่านคนอื่นเขียนมาอาจจะหงุดหงิดไปบ้างต้องเข้าใจครับ ส่วน vfs ไม่รู้ครับ)
2. การจองวันในเว็ปไซด์ และการปริ๊นท์ใบจอง ทำได้ยากมากครับ อีกทั้งใบจองไม่ได้ส่งเข้าอีเมล์ ทำให้ไม่สามารถปริ๊นท์ซ้ำได้ (รบกวนเช็คระบบดูหน่อยครับ หรือคอมบ้านผมเป็นบ้านเดียวก็ไม่รู้นะครับ ใครมีประสบการณ์บอกผมด้วยก็ดีครับ แล้วถ้าเป็นไปได้ส่งเข้าเมล์เลยน่าจะดีกว่าครับ)
3.เจ้าหน้าที่อาจจะพูดห้วนๆไปหน่อย แต่ต้องเข้าใจเรื่องเจ้าหน้าที่น้อยด้วยครับ (แต่ก็ให้คำปรึกษาได้ดีครบถ้วนครับ ^^)
4. จริงๆแล้วจ้าง vfs แล้วก็น่าจะให้เค้าจัดการให้หมดเลย เหมือนวีซ่าญี่ปุ่นเลยจะดีกว่าครับ (แต่จำนวนคนยื่นขอมันก็แตกต่างกันเยอะ อันนี้ผมก็เข้าใจครับ)
ถ้ามีใครมีคำถามเพิ่มเติมก็ถามมาได้ครับ จะพยายามตอบให้ครับ หวังว่าจะได้วีซ่านะคร้าบบบบบ ^^ แล้วจะมาอัพเดตว่าใช้เวลากี่วันถึงจะได้พาสปอร์ตคืนนะครับ
จากคุณ |
:
jiwyeefun
|
เขียนเมื่อ |
:
13 มี.ค. 55 19:55:11
|
|
|
| |