ความคิดเห็นที่ 1 นั่งรถไฟไปซักพัก วิวที่เราเคยเห็นในบูดาเปสเริ่มเปลี่ยนไปคะ เหมือนความเจริญไปรวมอยู่แค่ที่บูดาเปสจริง โดยที่รอบนอกนั้นถนนยังเป็นดินลูกรังอยู่เลย บ้านสีค่อนข้างจะทึมๆ ดูเหงาๆ จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 17:31:14

ความคิดเห็นที่ 2 หลังจากงงๆไปหาโรงแรมอยู่นาน ก็ได้เวลาของกิจกรรมที่สามารถกระชากอิชั้นและเพื่อนๆมาจากบูดาเปส ชิชิ ถ้าไม่อยากเล่นจริงไม่จากบูดาเปสมาเร็วนะเนี่ย งานนี้คือ Vienna Ice world คะ โดยจะจัดขึ้นเมื่อ 20 มกราคม ถึง 4 มีนาคม 2012 ที่ผ่านมา  ที่ City Hall Square(Rathausplatz)โดยที่เค้าจะสร้างลานน้ำแข็งขนาด 7,000 ตร.ม. ขึ้นมาเพื่อให้เราได้ไปเล่นกัน ตอนแรกที่เจอว่าอยู่ในช่วงที่เราไปเวียนนาพอดี ไอ่หย่ะ สวยมากกกก ต้องไปเล่นให้ได้ เห็นแค่รูปก็เพ้อแล้ว จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 17:47:46

ความคิดเห็นที่ 3 เพื่อนคนที่เล่นเป็น ก็เล่นอย่างสนุกสนาน ปล่อยเราไว้กับขอบลานสเก๊ต ^^ เพื่อนบอกว่า "แกก็หาหนุ่มแถวๆนี้ สอนแกเล่นดิ" ย่ะ คุณเพื่อนฉันวนมาสิบรอบแล้ว จนจะไปแข่งฮอกกี้น้ำแข็งได้แล้ว ยังไม่เห็นมีใครเข้ามาสอนเลย มาแต่เป็นคู่ ว้ายยยจะล้ม จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 17:51:31

ความคิดเห็นที่ 4 งั้นแนะนำให้จขกท ไถลไปใกล้ๆเป้าหมายแล้ว ทำเป็นลื่น นะคะ นอกจากสร้างโอกาสแล้ว ยังได้ สัมผัส 555+ จากคุณ : ขีดเขียนถาปัด เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 18:08:11

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นการเล่นที่เกร็งกล้ามเนื้อที่สุด พอกลับถึงโรงแรมก็หลับสนิทกันทุกคน ตอนแรกว่าจะวางแผนเที่ยวพรุ่งนี้ต่อ เพราะยังอยู่เวียนนาต่ออีกหนึ่งวัน เป็นไงละว่าจะนอนยกขาซักสิบนาที เพื่อนบอกว่าไม่ถึงห้าวินาทีแกก็ขุดหลุมจำศีลไปเลย คุณเพื่อนก็เลยได้วางแผนคนเดียวเลย ขอโทษษษษ TT-TT แต่ก็ได้บอกเพื่อนไปคร่าวๆแล้วอยากไปไหนบ้าง คุณเพื่อนจัดให่ครบทุกที่จริงๆ ตื่นเช้ามา ก็มาเริ่มที่นี่เลย St Stephens Cathedral เค้าบอกว่าเป็นโบส์ถที่มีชื่อเสียงที่สุดของออสเตรีย จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 18:15:29

ความคิดเห็นที่ 6 @ ขีดเขียนถาปัด : เป็นความคิดที่มีเข้ามาในหัวเหมือนกัน แต่กลัวว่าแกล้งลื่นไปแล้วเค้าไม่รับเนี่ย ใบหน้าอาจกระแทกกับน้ำแข็ง เก็บเงินตัดหัวทิ้งกันเลยที่เดียวนะคะ ----------------------------------------- เอาละเข้าไปดูข้างในโบส์ถกันซักหน่อย เสียตังค์อีกแล้ว ที่นี่เค้ามี audioguide ให้เราเดินดูแล้วก็ฟังเครื่องนั้นเล่าเหมือนเป็นไกด์ส่วนตัวให้เราคะ โบส์ถนี้ได้รับการบูรณะหลายครั้งเนื่องจากไฟไหม้และสงคราม โดยส่วนแรกของโบสถ์นี้สร้างขึ้นประมาณกลาง คศ.1100 จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 18:27:07

ความคิดเห็นที่ 7 เงียบสงบดีจริงๆ พอเดินเข้าไปก็จะพบกับประติมากรรมและรูปปั้นของนักบุญคนสำคัญต่างๆ ที่น่าประทับใจมากๆคือ ธรรมาสน์(Pulpit)แกะสลักจากหินที่ตั้งอยู่ใกล้ๆประตูใหญ่ โดยแกะเป็นรูปของ Saints Gregory, Jerome,และ Augustine. จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 20:59:51

ความคิดเห็นที่ 8 ...คุณหมอหนีคนไข้ไปแอ่ว...อิอิ... จากคุณ : bainuankaew เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 21:24:48

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าวันนี้เป็นวันอาทิตย์เราก็จะมีโอกาสได้ฟังคอนเสิร์ตจากออนแกนกันคะ วันนี้ก็อด 55 นอกจากประติมากรรมทางศาสนาแล้ว ที่นียังมีห้องสวดภาวนาแยกเป็นสัดส่วนอีกหลายๆจุดด้วยกัน  เป็นที่ประทับหลุมฝังศพของ Prince Eugene of Savoy, Frederick III, Holy Roman Emperor (เป็นหลุมฝังศพที่อยู่ในภาพ)และเป็นที่เก็บร่างบางส่วนของ St. Valentine อีกต่างหาก พอมารู้ขนาดนี้เข้าใจถึงความเงียบสงบและความเย็นของโบสถ์ขึ้นมาทันที จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 21:28:16

ความคิดเห็นที่ 10 เดินเข้ามาเรื่อยๆก็แอบทึ่งกับงานศิลปะต่างๆที่อยู่ในโบสถ์ แต่ก็ยังแอบกลัวอยู่นิดๆ เพื่อนอีกคนพอรู้ประวัติของที่นี่ไม่เดินเฉียดอะไรก็ตามที่เป็นห้องเลย (--") ไม่เป็นไร เราไม่กลัวอยู่แล้วมาทั้งทีต้องดูให้ครบ 55 อ้อ ที่นี่เคยเป็นที่จัดพิธีฝังศพของ Mozart เมื่อ 6 December 1791 อีกด้วย เชื่อแล้วค่า ว่าโบสถ์นี้สำคัญจริงๆ แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 55 21:42:24 จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 21:40:40

ความคิดเห็นที่ 11 @ bainuankaew : สวัสดีคะ ตามมาเที่ยวด้วยกันนะคะ -------------------------- เอาพอดูภายในรอบๆจนครบ ก็ถึงเวลาขึ้นไปบนหอคอย ?? ที่มีอยู่สองหอด้วยกันคะคือ north tower และ south tower ตอนแรกก็ยังไม่รู้อะไรหรอก เห็นคนเดินเข้าไปเยอะๆก็เดินตาม เอ้ามีที่ให้ซื้อตั๋วอีกต่างหาก พวกเราก็เอ๊ะ ที่นี้คืออะไรหว่า ลุงผู้ใจดีมาแตะๆข้างหลัง(อีกแล้ว) "พวกยูขึ้นไปเถอะ ไปดูระฆังบนยอดหอคอย พวกยูจะไม่ผิดหวังเลย มันสวยมากๆ" พวกเราก็เชื่อคนง่ายกันอีกแล้ว ซื้อตั๋วรอลิฟท์ขึ้นไปชั้นบนกันเลย เมื่อคนเข้ามาอัดกันจนแน่นแล้วในลิฟท์กลมๆเล็กๆ ก็ถึงเวลาเคลื่อนพอลิฟท์ แอบหายใจกันไม่ออก ก็พวกเราตัวเล็กกันนี้หน่า คุณฝรั่งเล่นสูงกันหมดแบบนี้ก็แย่นะสิ แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 55 21:58:54 จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 21:57:22

ความคิดเห็นที่ 12 พอประตูลิฟท์เปิด ลมเย็นๆก็พัดเข้ามา เห้อ หายใจออกซักที ออกจากประตูลิฟท์ได้อะไรทำให้ก้มมองพื้นก็ไม่รู้ พื้นเป็นตะแกรง!!!! ใช่แล้ว มันเป็นตะแกรง พูดง่ายๆคือพื้นเป็นรูเล็กๆมองเห็นพื้นข้างล่าง จิตว่าง วิญญาณออกจากร่าง ก้าวขาไม่ออก เพื่อนก็ตกใจว่าแกทำไมไม่เดินต่อ คนข้างหลังเค้ารออยู่นะ โอเค ท่องไว้พุทโธ พุทโธ ค่อยๆเดินไปทีละก้าว ลมก็แรงพัดกันจัง ฮือๆคุณระฆังอยู่ไหน สรุปว่าคุณระฆังมีชื่อว่า St. Mary อยู่ในโดมกระจกของ north tower เป็นระฆังหนัก 20,130 kg ซึ่งเป็นระฆังที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรียและใหญ่เป็นอันดับสองของยุโรป รองจากระฆังของโบสถ์ที่ Cologne แต่วิวข้างบนสวยจริงๆจะเห็นวิวของ old town เกือบทั้งหมดเลย อ่ะถ่ายรูปซักหน่อย คิดภาพตามนะคะ มือนึงเกาะกำแพง อีกมือนึงสั่นๆยื่นออกไปถ่ายรูป จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 22:42:18

ความคิดเห็นที่ 13 เดินไปอีกหน่อย เป็นบันไดห่างๆอีกแล้วขอบคุณมากก็ยังน่ากลัวอยู่ดี เฮ้อ พอขึ้นมาได้พื้นค่อยเป็นพื้นหน่อย ถ่ายรูปกันได้ซักพักก็ชวนกันลงไปข้างล่างกัน แต่ก็ต้องผ่านตะแกรงอีกแล้ว เดินตามช่องทางพื้นตะแกรงไปกดเรียกลิฟท์ คือลิฟท์จะไม่ค้างรอเราไว้ข้างบน ลิฟท์ก็ยังไม่มา คนก็มายืนต่อแถวแล้วจะหลบไปรอข้างบนจนกว่าลิฟท์จะมาก็ไม่ได้ ヽ(`Д´)ﾉ พอลงข้างล่างได้ ไม่เอาแล้ว south tower ไปที่อื่นต่อดีกว่า เดินมาอีกหน่อยก็เจอ St. Peter's Church เชื่อกันว่าเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในเวียนนา สร้างขึ้นในช่วงต้นๆของยุคกลาง จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 23:12:20

ความคิดเห็นที่ 14 พอเข้าไปข้างในก็มีคนสวดภาวนากันอยู่ ย่องเข้าไปเงียบๆ โบสถ์นี้ดูอบอุ่นดีนะคะ ที่เห็นอยู่ตอนนี้คือโบสถ์ที่บูรณะขึ้นมาใหม่หลังจากถูกไฟไหม้ในปี คศ.1661 ให้เป็นแบบ Baroque คนออกแบบได้แรงบัลดาลใจมาจาก St. Peter's Basilica ของวาติกันคะ จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 23:26:03

ความคิดเห็นที่ 15 ทุกโบสถ์จะมีเทียนให้จุด โดยที่เราต้องบริจาคคะ ทริปนี้เสียค่าจุดเทียนไปกันเยอะมากๆ จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 23:27:46

ความคิดเห็นที่ 16 มองขึ้นไปข้างบนบ้างดีกว่า P.S. ที่เห็นสัญลักษณ์ในรูปข้างบนเค้าให้ถ่ายรูปได้คะห้ามใช้แฟลช จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 23:32:38

ความคิดเห็นที่ 17 ประวัติตามห้องมันน่ากลัวเหรอ ถึงไม่กล้าส่องเข้าไปอ่ะ? จากคุณ : ขีดเขียนถาปัด เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 23:56:04

ความคิดเห็นที่ 18 ออกจาก St. Peter มาหันไปทางซ้ายก็จะพบกับ The Pestsäule หรือที่เราเรียกกันว่า plague column เป็นอนุเสารีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงการระบาดครั้งยิ่งใหญ่ของกาฬโรคในปี คศ.1679 มองดีๆจะเห็นว่ามีตาข่ายคลุมอยู่ เค้าเอาไว้กันนก ?? จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 00:37:03

ความคิดเห็นที่ 19 @ ขีดเขียนถาปัด : ก็ไม่น่ากลัวหรอกแต่เพื่อนเรากลัวเฉยๆ ก็เล่นเป็นที่ฝังศพของบุคคลสำคัญเยอะขนาดนั้นนะ ^^ ---------------------------------- กลับหลังหันจาก plague column เดินไปอีกนิดหน่อย ก็จะเจอ Hofburg Palace ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของราชวงค์ Habsburg ราชวงค์นี้เคยปกครองอาณาจักรออสเตรีย-ฮังการี (Austro-Hungarian empire) มาก่อน ซึ่งที่แห่งนี้จะใช้เป็นที่ประทับในช่วงฤดูหนาว จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 00:49:48

ความคิดเห็นที่ 20 จุดนี้เรียกว่า Hofburg Neue Burg section วันนี้มีคนเอารถมาจอดเต็มไปหมด เหมือนจะมีประชุมอะไรกันซักอย่าง ทำให้ถ่ายรูป Prince Eugene of Savoy ไม่ได้เลย หนาวก็หนาวไปพิพิฒภัณฑ์กันดีกว่า จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 00:54:32

ความคิดเห็นที่ 21 เดินกลับเข้าไปข้างในเพื่อไปชม treasury museum กัน ที่นี่ให้ถ่ายรูปได้แต่ว่าห้ามใช้แฟลช ในนี้ก็จะเป็นพวกเครื่องประดับต่างๆ มงกุฏ ไม้คฑา อะไรประมาณนั้นดูจนตาลาย อัญมณีเยอะดีจริงๆ จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 00:59:52

ความคิดเห็นที่ 22 มาดูเสื้อผ้ากันบ้าง ดูใกล้ๆลายละเอียดเยอะมาก เค้าก็จะมีเขียนไว้ว่าเสื้อนี้ทำจากขนสัตว์ ปักด้ายทองเสริมด้วย !@#^^&&#& อะไรก็ไม่รู้เยอะเเยะไปหมด ท่าทางคงหนักน่าดู จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 01:02:43

ความคิดเห็นที่ 23 อันนี้ก็ชุดอีกแบบนึง ก็ยังดูหนักเหมือนเดิม จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 01:03:47

ความคิดเห็นที่ 24 มาต่อกันที่ Sisi Museum (ที่นี่มี museum ค่อนข้างเยอะ) Sisi คือ Empress of Austria และ Queen of Hungary พระองค์ได้สมรสกับ Franz Joseph I ซึงพระนางเป็นบุคคลสำคัญของราชวงค์ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความงาม (พระนางสูง 172 cm หนักประมาณ 50 kg ว่ากันว่าพระนางใช้เวลาในการตกแต่งทรงผมหลายชั่วโมงต่อวัน)และยังเป็นสัญลักษณ์แทนโศกนาฏกรรมอีกด้วย เพราะพระนางโศกเศร้าจากบุตรชายที่เสียชีวิตทำให้พระนางสวมชุดดำไว้ทุกข์ตลอดชีวิตของพระองค์ และพระองค์โดยลอบปลงพระชนม์ขณะเดินเล่นในกรุงเจนีวาอีกด้วย เข้าไปก็จะผ่าน Silver Collection ซึ่งเป็นเครื่องเงิน เครื่องแก้วและเครื่องครัวต่างๆที่เคยใช้ในราชวงค์ (เค้าไม่ให้ถ่ายรูปมา) เดินขึ้นชั้นสองก็จะเป็นรูปภาพต่างๆของพระนาง Sisi และก็ชุดที่พระองค์เคยสวมและของใช้ต่างๆของพระนาง เช่นเครื่องประดับ (สวยมากๆ เค้าไม่ให้ถ่ายรูปมาเหมือนกัน) เดินต่อไปก็จะพบกับ Imperial Apartments จัดเป็นห้องแสดงต่างๆ เช่นห้องนอน ห้องน้ำ ห้องจิบน้ำชายามบ่าย เดินดูกันจนเพลินเลยเวลาอาหารเที่ยงกันเลยทีเดียว ออกมาหาอะไรทานกันดีกว่า จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 01:30:05

ความคิดเห็นที่ 25 ตอนแรกจะทานอาหารกันจริงๆ เดินหลงไปยังไงก็ไม่รู้เดินไปเจอ Damel เฉยเลย เอาละลองซักหน่อย คนในร้านค่อนข้างเยอะ ต้องเข้าไปหาที่นั่งก่อน ได้ไปนั่งใกล้ๆตู้ที่เค้าทำเค้กให้ดูด้วย ด้วยความหิวก็เลยออกมาเป็นเช่นนี้ อันนี้ไม่ได้กินคนเดียวนะ ^^ รสชาติก็ดีนะคะ ไม่หวานจนเลี่ยน แต่ที่ชอบที่สุดคือ hot chocolate มันเนียนจริงๆ P.S. จะมาต่อให้วันหลังนะคะ แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 55 01:28:12 จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 01:34:27

ความคิดเห็นที่ 26 ตามไปเที่ยวด้วยครับ จากคุณ : วางแผนดีๆแล้วจะรักยุโรปครับ เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 02:00:24

ความคิดเห็นที่ 27 สวยงามมากครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 11:56:26

ความคิดเห็นที่ 28 @ วางแผนดีๆแล้วจะรักยุโรปครับ : ตามมาเลยคะ ช่วงนี้มีงานตลอด อาจช้านิดนึงนะคะ @ เล็กทาโร่ : สวัสดีคะ ขอบคุณที่ชอบนะคะ จะพยายามอัพเรื่อยๆเลยคะ ^^ ----------------------------------- และก็ไปกันที่ที่ประทับของราชวงค์ Habsburg ในช่วงฤดูร้อน ที่ที่ทัวร์ไทยไปเวียนนาที่ไรจะต้องพามาที่นี่ตลอด Schönbrunn Palace (Schloß Schönbrunn) นั่นเอง เดินเข้ามาก็เจอทัวร์คนไทยกรุ๊ปใหญ่เลยยคะ จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 00:06:43

ความคิดเห็นที่ 29 สวนที่นี้ค่อนข้างกว้าง คิดว่าถ้ามาตอนอากาศอุ่นๆกว่านี้หน่อย ดอกไม้น่าจะสวยกว่านี้คะ จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 00:08:44

ความคิดเห็นที่ 30 แต่ก็ดูสวยไปอีกแบบ ที่สวนของพระราชวังมีสวนสัตว์แล้วก็สวนเขาวงกตด้วยนะคะ แต่ว่าเค้าปิดไม่ให้เข้าช่วงหน้าหนาวค่ะ จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 00:10:32

ความคิดเห็นที่ 31 ในพระราชวังก็จัดแสดงเป็นห้องต่างๆกันคะ บัตรเข้าชมก็มีสองแบบคะจะชมแบบเต็มๆทั้งหมดเลย หรือว่าจะชมแค่เป็นพิธีก็ได้คะ พอดีบีเวอร์กับเพื่อนซื้อเป็นแพคเกจซึ่งเค้าให้เข้าชมแบบเต็มคะ(เค้าไม่ให้ถ่ายรูปมาอีกแล้ว) สมัยก่อนเค้าเชื่อกันว่าใครมีเครื่องเซรามิคจากจีนจะถือว่ารสนิยมดีคะ ที่นี่เลยจัดไปเลยสองห้องแยกเป็นห้องแจกันเซรามิคแบบกลมกับแบบมีเหลี่ยม อารมณ์ประมาณแจกันบ้านอากงอาม่ามาจัดเรียงตามรูปทรงบนหิ้ง ข้างๆมีรูปวาดออกจีนๆหน่อย คิดภาพกันออกไหมคะ บางห้องก็เป็นสีขาวๆมีเถาวัลย์มากมายเลื้อยไปมา สวยเหมือนอยู่ในป่ารกไปหน่อย จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 00:21:59

ความคิดเห็นที่ 32 ที่ว่าเป็นแพคเกจคือ ซื้อบัตรเข้าชม Schönbrunn Palace + อาหารเย็น 1 คอร์สทานในร้านอาหารในเขตSchönbrunn Palace + classical concert ที่Schönbrunn Palace Hall อันนี้จองผ่านทางอินเตอร์เนตคะ มีหลายราคาขึ้นอยู่กับแถวของที่นั่งในคอนเสิร์ต จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 00:32:26

ความคิดเห็นที่ 33 ค่าเครื่องดื่มคิดต่างหากนะคะ อาหารวันนั้นก็จะมีซุปใส่แพนเค้ก เนื้ออบสไตล์เวียนนา แล้วก็ apple strudel อิ่มกันเลยทีเดียว จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 00:37:23

ความคิดเห็นที่ 34 ทานกันอิ่มแล้วก็พาเดินกันไปที่ concert hall ฟ้ามืดแล้ว หนาวจัง รีบเดินดีกว่า จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 00:39:40

ความคิดเห็นที่ 35 มาเวียนนาทั้งทีก็ต้องฟังเพลงคลาสสิกจริงๆกันหน่อย มีคนเข้าชมค่อนข้างเยอะคะ สามารถซื้อตั๋วคอนเสิร์ตแยกก็ได้ มีร้องโอเปร่า การเต้นแสดงประกอบดนตรีด้วยนะคะ ฟังเพลินจนคุณลุงคนข้างๆแอบกรนใส่ ^^ ไม่เป็นไรคะคุณลุง เข้าใจว่าเพลงมันเพราะ กลับไปที่โรงแรมเพลง Mozart ยังติดหูอยู่เลยคะ แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 55 01:30:56 จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 00:43:45

ความคิดเห็นที่ 36 ตื่นมาตอนเช้า พยากรณ์บอกว่าฝนจะตกประมาณ 60% เอาแล้วไง แค่นี้ก็หนาวจะแย่ละ ฝนตกอีกต่างหาก อยากเล่นหิมะมากกว่า ไม่เอาแค่ฝนได้ไหม?? ตอนเดินๆไปก็มีเกร็ดน้ำแข็งปนมากับฝนบ้าง เอาละเป้าหมายวันนี้คือ The Belvedere คะ เอากระเป๋าไปฝากที่ wein westbahnhof กันก่อนแล้วก็นั่งรถรางหน้าสถานีไปลงที่ south bahnhof เดินข้ามถนนไปอีกนิดหน่อยก็จะเจอ The belvedere เลยคะ ที่นี้เป็นที่ประทับช่วงหน้าร้อนของ Prince Eugene of Savoy โดยแบ่งออกเป็น upper และ lower belvadere แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 55 01:31:40 แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 55 01:26:00 จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 00:58:06

ความคิดเห็นที่ 37 เสียค่าเข้าชมอีกตามระเบียบ ซึ่งที่นี่กลายเป็นที่จัดแสดงนิทรรศการภาพวาดและงานประตืมากรรมต่างๆ ดูดีๆว่าสระข้างหน้ายังเป็นน้ำแข็งอยู่เลย จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 01:01:34

ความคิดเห็นที่ 38 คุณเพื่อนที่โดนลากมาร่วมทริปด้วย (^V^) จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 01:02:41

ความคิดเห็นที่ 39 ตอนแรกคุณเพื่อนจะตัดที่นี้ออก ไม่จริงนะ อยากเห็นภาพ The kiss (Der kuss)ที่เค้าบอกว่าสวยมากๆกันซักครั้ง อ้อนวอนอยู่นาน มีเสียงเพื่อนอีกคนเห็นด้วยๆ 55 ในที่สุดก็ได้มา ห้องในพระราชวังที่นี่ดูสวยแบบไม่เยอะมากเหมือนที่อื่น ช่วงที่ไปมีการซ่อมแซมบางส่วนอยู่ เอาสีขาวมาทาทับผนังไม้ แอบเสียดายผนังเดิม เดินดูภาพจนจะครบทุกห้องแล้ว ยังไม่เจอภาพที่อยากดูซักที เดินเข้าไปในห้องสุดท้ายมีภาพนึงส่องแสงออกมาจากผนังสีแดงที่ตั้งอยู่กลางห้อง The kiss นั่นเอง เหมือนเวลาหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น เป็นภาพที่สวยมากๆไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีชื่อเสียง ยืนเพ้อ(อีกแล้ว)นานอยู่เหมือนกัน อยู่ได้ซักพักก็ต้องเดินทางต่ออีกแล้ว ถ้าพลาดรถไฟ เดี๋ยวพลาดเรือไม่มีที่นอนคืนนี้อีก ไปเล่นหิมะกันต่อกระทู้หน้านะคะ --------------------- P.S. ภาพ The kiss อยู่ข้างหลังคะ credit ภาพจาก internet คะ แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 55 01:22:47 จากคุณ : xyoxyo เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 01:21:12

ความคิดเห็นที่ 40 คิดถึงเค็กที่damel จังเลย ตามดูต่อนะคะ ขอบคุณที่พาเที่ยวค่ะ จากคุณ : น้ำตาลกะข้าวตัง เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 03:15:07