ความคิดเห็นที่ 1 พอได้เต็มลำก็วิ่งเข้าฝั่งมาที่โรงทำกะพรุน ทิ้งไว้นานก็ไม่ได้ น้ำหนักมันจะหายไป จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:08:44

ความคิดเห็นที่ 2 พอขึ้นมาแล้ว ก็จะทำการ ตัดแยกเอาหัวกับหนวดออกจากกัน เพราะสองส่วนนี้ ขายคนละราคา และก็ต้อง ทำความสะอาดดึงขี้ออกจากตัวกะพรุนด้วย ขึ้นตอนนี้ขอบอก เหม็นบรมโคตะระเลยละครับ ผมเข้าไปวันแรก ครั้งแรก กลิ่นปี๊ดขึ้นสมองเลย เกือบสำลักความคาวที่มันฉุนมากๆ จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:11:33

ความคิดเห็นที่ 3 หลังจากตัดแล้ว ก็จะเอามาล้างอีกที เพื่อเอาเมือกและขี้ที่อยู่ในตัวออกให้หมด ถ้าเอาออกไม่หมด พอกะพรุนแห้งแล้ว มันจะมีสีไม่สวย ราคาก็จะตกลง จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:13:57

ความคิดเห็นที่ 4 ล้างจะหมดเมือก หมดขี้แล้ว  ก็จะแยกตัวไว้หนึ่งบ่อ แยกหนวดไว้อีกหนึ่งบ่อ กะพรุนนี้ก็แปลก ในตัวมันจะมีดาวทะเลเข้าไปอยู่เยอะเลยละครับ ล้างน้ำแรกๆ มีปลุดออกมาจากตัวจากหนวดเพียบเลย สังเกตุดูดิๆซิจะเห็นตัวดาวทะเล แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 55 16:18:28 จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:15:41

ความคิดเห็นที่ 5 พอแยกตัวแยกหนวดแล้วก็จะล้างเมือกอีกรอบ จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:20:58

ความคิดเห็นที่ 6 ล้างแล้วก้ล้างอีกรอบ จนน้ำเริ่มใสถึงจะพอ จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:22:11

ความคิดเห็นที่ 7 หลังจากนั้นก็จะเติมน้ำจนเต็มบ่อ แมงกะพรุนที่ได้จะมีกะพรุนไฟติดมาด้วย ก็ต้องเอาไว้ก่อนเพราะว่ายังใช้ได้ แต่เวลาจะส่ง ต้องเอามีดไปแล่หนังที่มี รอยจุดแดงๆนั่นออกเสียก่อน  จริงๆไม่อยากได้หรอกครับ แต่บางทีถ้า ซื้อกะพรุนจากเรือที่เขาช้อนขาย เขาจะช้อนมาหมดอะ ถ้าคนงานที่บ้านเอง จะไม่ช้อนมา จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:26:00

ความคิดเห็นที่ 8 เติมน้ำเสร็จแล้ว เราก็จะใส่ผงฟูกับเกลือลงไป  ถ้ามีใครบอกว่ากะพรุนใส่ สารฟอกสีอะไรต่างๆนาๆเพื่อให้มันขาวละก็ ไม่มีหรอกครับ สารเคมีที่ใส่ มีแค่สองอย่างนี้เท่านั้น แก้ใขนิดนึง วันหยุดนี้เพิ่งไปทำมาทั้งวันมีข้อมูลมาเพิ่ม ในน้ำแรก จะเติมโซเดียมฯกับสารส้มอีกอย่างครับ ในอัตราส่วนบ่อขนาด2X3X0.5 เมตร ใส่ไปอย่างละ2กิโล แล้วก็เกลือ2กระสอบ แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 55 08:13:34 จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:28:09

ความคิดเห็นที่ 9 พอเราเติมเกลือ และผงฟุลงไปแล้ว ก็ทิ้งไว้แบบนั้นแหละครับ แช่ไปกะพรุนก็จะคายน้ำออกมาจากตัว จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:30:28

ความคิดเห็นที่ 10 ทิ้งไว้หนึ่งคืน เช้ามาเราก็จะทำการเปลี่ยนน้ำที่แช่ใหม่ โดยจะทำการกวนน้ำในบ่อ เพื่อไล่เมือกที่เกาะตามตัวแมงกะพรุนแล้วจะจะดูดน้ำออกและก็ใส่เติมสารส้มกับเกลือ ลงไปใหม่ อันนี้ผ่านไปแล้วหนึ่งคืน ปล.ผงฟูจะใส่แค่น้ำแรกน้ำเดียวครับ แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 55 08:16:12 จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:32:06

ความคิดเห็นที่ 11 เปลี่ยนน้ำแล้วก็ทิ้งไว้อีกหนึ่คืน ภาษาชาวบ้านเขาจะเรียกว่า น้ำสอง ดูที่ตัวกะพรุนจะเริ่มแฟบและก็เหี่ยวลง ปล.เหมือนถุงป๋องแป๋งคนแถวๆมีนอะอิอิอิ จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:37:42

ความคิดเห็นที่ 12 หมดจากน้ำสองแล้ว ก็จะแช่น้ำสาม ต่ออีกหนึ่งคืนครับ ตอนนี้ตัสกะพรุนจะ เหี่ยวแฟบลงไปเยอะเลยละครับ จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:39:14

ความคิดเห็นที่ 13 พอครบสามน้ำแล้ว ก็จะเอามาผึ่งลมให้เนื้อกะพรุนมันแห้งลง จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:40:15

ความคิดเห็นที่ 14 ตอนนี้เขาจะเรียกกะพรุนว่าของแห้ง เพราะว่าในตัวกะพรุน น้ำจะออกไปเกือบหมด เหลืออีกไม่เท่าไหร่ นี้อะครับ จากตัวเบ้อเริ่มแห้งแล้วเหลือตัวแค่เนี๊ยะ เอามาวางเรียงกันไว้แบบนี้แหละครับ ให้น้ำมันออกมาอีกหน่อย จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:42:27

ความคิดเห็นที่ 15 วางเรียงผึ่งรมบนแผงแบบนั้นไว้แบบนั้นละครับ ด้านบนก็โรยเกลือทับไว้ มีกฏคือทำกะพรุนอย่าเหนียวเกลือ เพราะถ้าใส่เกลือน้อย น้ำหนักมันจะหายเยอะ จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:44:25

ความคิดเห็นที่ 16 ทิ้งไว้แบบนี้แหละครับ อีกสามวันเป็นอย่างน้อยให้น้ำมันใหลออกมาเรื่อยๆ จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:46:14

ความคิดเห็นที่ 17 พอหมาดๆแล้ว ก็จะเอามาเรียงยัดใส่ลัง โรยเกลือ ทิ้งไว้แบบนี้ รอเยอะก็เรียก ทางห้องเย็นมาเอาไป แต่กว่าจะมาก็นานอะ เพราะยิ่งนานน้ำก็ยิ่งออก นน.ก็จะหาย ห้องเย็นก็จะได้กำไร แต่คนทำนี่ดิ เหมือนตังจะหายเข้าไปเรื่อยๆ  อีกอย่างถึงเขาจะมาเอาไปเร็ว แต่ก้ใช่ว่าไปถึงแล้วจะชั่งเลย ยังจะมีบางที่ใส่หลัววางทิ้งไว้ อีกวันสองค่อยชั่งก็มี จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:50:10

ความคิดเห็นที่ 18 พวกตัวก็ส่งไป ตลาดหลักๆคือทางจีน ไต้หวัน ฮ่องกง และก้ขายในไทย ตัวตอนนี้ราคายังดีอยู่เพราะเพิ่งมีกะพรุนเข้ามา ส่วนตัวจะแพงหน่อย ส่วนหนวดก็จะถูกลง แต่ขอบอก ส่วนหนวดอะ อร่อยกว่าส่วนตัวเยอะ ใหนๆเอาวิธิดองแล้ว ก้จะเอาวิธีทำกินมาให้ดูเลย เริ่มแรกก็เอามาล้างซะก่อน เคยไปทำให้กินแล้วที่บ้านพี่เป๊าเมื่อนานมาแล้ว จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:53:54

ความคิดเห็นที่ 19 ล้างแล้วก็แช่น้ำทิ้งไว้ซักพัก สังเกตุดูว่าจะมีฟองเยอะช่วงแรกๆ จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:54:49

ความคิดเห็นที่ 20 แช่ทิ้งไว้ซักพักก็ขยำและเปลี่ยนน้ำ  สังเกตุดูฟองจะน้อยลง จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:56:21

ความคิดเห็นที่ 21 ล้างและก็แช่น้ำทิ้งไปเรื่อยๆ ให้หมดกลิ่นและหายเค็ม ผมล้างแบบนี้ร่วมๆสิบครั้ง กว่าจะหมดกลิ่น  ที่นี้เราก็จุดไฟต้มน้ำให้เดือด แล้วก็ใส่น้ำกะพรุนลงไปลวก จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:58:30

ความคิดเห็นที่ 22 แมงกะพรุนพอโดนน้ำร้อนก็จะหดแบบนี้และครับ ลวกก็อย่านาน เพราะถ้านาน เนื้อมันจะเหลวลงไม่กรุบกรอบ จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 16:59:28

ความคิดเห็นที่ 23 ตักมาใส่น้ำ+น้ำแข็งเย็นๆทันที เพื่อน๊อคให้เนื้อมันกรอบนานๆ จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 17:01:02

ความคิดเห็นที่ 24 แบบนี้ก็พร้อมกินแล้วละครับ จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 17:02:18

ความคิดเห็นที่ 25 น้ำจิ้ม ถ้าเป็นที่อื่น จะทำน้ำจิ้มซีฟู๊ดมาจิ้มหรือไม่ก็เอาไปยำกินกัน แต่ที่เมืองชล จะทำน้ำจิ้มกะพรุน โดยเอา พริกขี้หนู กระเที่ยม ขนมถั่วตัด ตำให้พอแหลก เติมน้ำปลาหน่อย น้ำมะนาว ให้ออกรถหวานๆเปรี้ยวๆ แบบนี้ครับ จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 17:04:40

ความคิดเห็นที่ 26 หลังจากนั้นก็โซ้ยละครับ กรุบกรอบ หวานๆเปรี้ยวๆๆเผ็ดๆ แปร๊บเดียวเกลี้ยง ผมเอามาเลี้ยงคนที่มาช่วยงานศพยาย3กิโล ไม่ถึงครึ่งชม.เกลี้ยงกาละมัง เลยละครับ ไว้พบปะเจอะเจอกันคราวหน้า จะทำไปให้กินเผื่อมีใครเบื่อ ที่จะกินหอยนางรมผมแล้วนะครับ  ^____^ จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 17:08:27

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณครับ ที่เอามาแนะนำอย่างละเอียด กว่าจะเอามากินได้ ไม่ใช่ง่ายๆเลย จากคุณ : อึ่มคานดิ๊ เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 21:20:34

ความคิดเห็นที่ 28 กบนอกกะลา เยี่ยมไปเลย จากคุณ : robbo เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 22:01:17

ความคิดเห็นที่ 29 เยี่ยมครับ กว่าจะกินได้เหนื่อยเหมือนกัน จากคุณ : jo/jo เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 22:13:19

ความคิดเห็นที่ 30 จำได้ว่าเคยไปกินเหล้ารอเรือตาจือแถวโรงแมงกระพรุน     ตอนนั้นอยู่ในช่วงหมักน้ำแรกหรือน้ำสองนี่อ่ะ ได้กลิ่นเวลาลมพัดมาหาแบบเต็มๆ     เกือบอ๊วกกระจาย      เหม็นสุดๆไปเลย        หาที่ย้ายหลบกลิ่นเกือบไม่ทันอ๊วกแหนะ    เหม็นสุดตรีนจริงๆ แต่คิดว่ามันแปลกอย่างนึง มันเหม็นสุดๆในช่วงกลางวันถึงยามเย็น     แต่พอมืดไปแล้วกลับไม่ค่อยเท่าไหร่      ก็ไม่รู้ว่ามันเหม็นเพราะว่ามีปฎิกริยากับแสงอาทิตย์หรือเปล่า ? จากคุณ : เสือปลาขี้เมา เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 01:03:52

ความคิดเห็นที่ 31 เย็นตาโฟ ใส่แมงกระพรุนเยอะๆ ชามครับ จากคุณ : Newell เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 07:52:10

ความคิดเห็นที่ 32 แห้งๆ แล้วส่งมาซักโลดิ เห็นแล้วอยากกิน จากคุณ : p,pong เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 07:58:33

ความคิดเห็นที่ 33 เอาไปลวกจิ้มที่กาญจน์เลคับพี่หอย ผมก็ชอบเล็กโฟ พรุนเยอะ สุกี้ก็ใส่เลย ลวกให้เหมาะ นุ่มหนึบกรึบกรุบ ทู้นี้สารคดีชัดๆ เยี่ยมมากๆ จากคุณ : บ๊ะย้ง เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 08:11:30

ความคิดเห็นที่ 34 ข้อมูลอาจจะไม่แปะๆเท่าไหร่นะครับ ผมอธิบายเท่าที่รู้ อาจจะมีผิดๆบ้างนิดหน่อย เรื่องกลิ่นนี่สุดยอดครับ เมื่อก่อนทำกะปิว่ากลิ่นติดตัวแรงแล้วนะมาเจอแมงกะพรุน เข้ากะปิชิดซ้ายไปเลยละพี่เสือ เมื่อวานเลิกงานก็ไปส่งหอยเสร็จแล้วก็เข้าไปทำ แมงกะพรุนต่อ ไม่อยากจะบอกว่าตอนนี้กลิ่นยังติดตามนิ้วตามแขนอยู่เลยละพี่ ส่วนที่กลางวันเหม็นกลางคืนไม่เหม็นมันเกี่ยวกับอุณหภูมินะครับเพราะว่า ถ้าอากาศร้อนๆกลิ่นมันจะฟุ้งมากกว่าตอนอากาศเย็นๆอะครับ และที่สำคัญคือ จมูกของเราเองที่มันคุ้นกับกลิ่นเลยเหมือนว่ากลิ่นมันน้อยลง   มีวิธีทำให้จมูกชินโดยเร็วนะครับให้ซื๊ดเข้าจมูกแรงๆซักสามที อาจจะทรมารหน่อย แต่พอทำได้แล้วกลิ่นจะน้อยลงไปทันที ไม่เชื่อลองดูได้ครับ ผมได้สูตรนี้มาจาก เพื่อนที่เป็นกู้ภัยเก็บศพนะครับ ไว้เจอกันจะจัดให้เลยครับไม่ต้องห่วงครับ ไปกาญต้องขอดูใกล้วันไปก่อนอะ ถ้าคนงานขอกลับบ้านผมก็ไปใหนไม่ได้อะ ลำบากแท้แรงงานหายากอะ คนไทยก็ไม่ทำ ต่างด้าวก็ไม่ค่อยมีมา ต้องทำกัน เอาเอง เมื่อคืนทำกะพรุนเสร็จเกือบเที่ยงคืน แม่อุ๊ยถามเหนื่อยใหม ผมบอก เฉยๆ อาอุ๊ยพูดขึ้นมาเลย "รัตน์เสาร์นี้ลงเรือไปกับทิดยง(หัวหน้าคนงาน)ได้ใหม จะได้หัดช้อนหัดขับเรือด้วย" คิดได้ใจ เอาแล้วไงกรู เหอๆๆๆ จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 08:57:43

ความคิดเห็นที่ 35 อนาคตไต๋เรือแมงกะพรุนแน่เลย จากคุณ : อึ่มคานดิ๊ เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 09:48:41

ความคิดเห็นที่ 36 ฝึกไว้ไม่เสียหายครับ เสี่ยหอย ทำเป็นดีกว่า ทำไม่เป็นครับ ที่สำคัญพอทำเป็นแล้ว อาจจะมีของแถมให้ในอนาคตนะ เสี่ย จากคุณ : Mathius เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 09:53:56

ความคิดเห็นที่ 37 มันมีมาแค่ไม่กี่วันเองครับพี่ปอง ปีที่แล้วทำอยู่แค่10วัน ปีนี้ทำมาครึ่งเดือน แล้วยังมีมงกะพรุนให้ช้อนอยู่เยอะเลยครับ รับทรัพย์เละ อิอิอิ หมดจากนี้ก็ กลับไปทำหอยนางรมเหมือนเดิม อนาคตต้องทำเองอยู่แล้วละพี่เมท วางแผนไว้แล้วครับ ทำงานตรงนี้อีกไม่นาน มีทุนซักหน่อยก็ลาออกจะไปทำตรงนั้นละครับ ตอนนี้เป็นเด็กฝึกงานไปก่อน ^__^ จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 14:01:22

ความคิดเห็นที่ 38 เจ๋งว่ะตาหอย อย่างพี่เมธว่าไว้เลย ทำเป็นคนเดียว มีทำเจ้าเดียว โก่งราคาเลย 555 ดูละน่าสนุกอ่ะ อยากลองทำมั่ง ไปสมัครเป็นคนงานดีกว่า แต่...ค่าแรงผมแพงหน่อยนะ อิอิ จากคุณ : บ๊ะย้ง เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 15:26:41

ความคิดเห็นที่ 39 ของแถมอย่างพี่เมธว่าอ่ะ ใครจะได้ของแถมกันแน่ ดูๆ ทรงแล้ว... มีเขยได้หัวหน้าคนงาน ไต๋ เด็กตากพรุน เด็กเก็บหอย เพิ่มแน่ๆ 555 จากคุณ : บ๊ะย้ง เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 15:29:37

ความคิดเห็นที่ 40 น้ำจิ้มแมงกระพรุนดอง   เห็นเจ๊แกทำกินที่หน้าเขียง  ใช้น้ำตาลปี๊บ  น้ำมากรูด  เป็นหลัก      5  ถุงนี่    สาม - สี่  คน  พักเดียว      เกลี้ยง         เห็นแล้วอยากขึ้นมาทันที    ไปดูหน้าหลาดดีกว่า. จากคุณ : กะแต๋ง (ดับเบิ้ลแท็ป) เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 15:32:29

ความคิดเห็นที่ 41 คนทำมีหลายเจ้าอะดิ ทำกันเยอะเลย แต่ราคาเรากำหนดเองไม่ได้ ต้องยอม ยี้ปั้วห้องเย็น   เพราะเราต้องพึ่งเขาเรื่องเกลือกับโซเดียมไบคาบอเนตที่ใช้ ให้เขามาส่งให้ราคาต่ำและเยอะ   แต่ขอบอกมันไม่ได้สนุกอย่างที่คิด แค่เรื่องกลิ่นอย่างเดียวก็แทบสลบแล้วอะ   ยิ่งตอนน้ำสุดท้ายเอาขึ้นมาตากนะ ก้มลงไปหยิบทีนี้แทบสลบอะ    อย่างที่สองคือมันจะคัน ยิ่งคนแพ้ด้วยละก็ ผื่น คันขึ้นเต็มแขนเต็มขาเลยหละ จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 16:32:34

ความคิดเห็นที่ 42 เดี๋ยวจะไปกิน ช่วงสงกรานต์ ดีกว่า ซู้ดดดดดดดดดดแซ่บบบบบบบบ ส่วนกลิ่น หาหน้ากาก ป้องกันกลิ่นดิ คงช่วยได้เยอะ แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 55 17:28:22 จากคุณ : Mathius เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 17:27:11

ความคิดเห็นที่ 43 ความรักทำให้คน     ..............  อะไรดีว๊า จากคุณ : แย้มยิ้ม (ลมหายใจสีชมพู) เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 18:27:35

ความคิดเห็นที่ 44 ความรักทำให้คน มีลมหายใจสีชมพู น่ะสิ จากคุณ : อึ่มคานดิ๊ เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 22:13:26

ความคิดเห็นที่ 45 เยี่ยมครับพี่ เริ่มทำแบบนี้สงสัยไม่นานผมได้เียเงินใส่ซอง อิอิ จากคุณ : ปื้ดคับ เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 55 11:20:50

ความคิดเห็นที่ 46 พี่แย้มพี่ปอง ความรักทำให้คนหื่นครับ อิอิอิ ถ้ารอซองจากเมิง ชาตินี้กรูจะได้แต่งใหมอะอีปื๊ด จากคุณ : boychon เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 08:19:23

ความคิดเห็นที่ 47 ใกล้ แล้ว หล่ะ ผมว่า ........... จากคุณ : robbo เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 09:11:50

ความคิดเห็นที่ 48 ว้าวววววววววววววววววววววววววววววววว ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ .....เด็กฝึกงานผ่านโปรยังค่ะ....... จากคุณ : joy (pasuk-thajean) เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 22:02:47

ความคิดเห็นที่ 49 อื้อ น่ากินวุ้ย จากคุณ : A-tarO เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 08:54:05

ความคิดเห็นที่ 50 อย่างนี้นี่เอง จากคุณ : กระเฉดน้อย เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 11:49:29