 |
เจ้าหน้าที่ไทยในสถานทูตต่างประเทศประจำไทย
|
 |
เมื่อวันที่ 22 มีค.55 ผมและญาติ 3 ครอบครัวรวม 6 คน ประกอบด้วย ผมอายุ 68และภรรยา เจ้าของธุรกิจอยู่ลพบุรี,น้องสาวและสามี อายุ65 เจ้าของธุรกิจอยู่ ราชบุรี,น้องชายภรรยา อายุ 38กับภรรยา ค้าขายโชห่วยอยู่ โคราช ได้ไปยื่นขอวีซ่าเพื่อไปท่องเที่ยวออสเตรียและยุโรปตะวันออกด้วยตัวเองที่สถานทูตออสเตรียโดยทำตามข้อกำหนดในการขอวีซ่าทุกอย่าง เช่นซื้อตั๋วเครื่องบินไปกลับไว้เรียบร้อยแล้ว จองโรงแรมปลายทางไว้แล้ว สเตทเม้นท์แต่ละครอบครัว 7 หลักขึ้น ใบจดทะเบียนธุรกิจ ฯผ่านการตรวจรับเอกสารจากเจ้าหน้าที่คนไทยบอกถูกต้องเรียบร้อย
วันที่26 มีค.ต่อมาภรรยาผมได้รับอีเมล์จากสถานทูตให้ไปสัมภาษณ์เพิ่มเติม 3คนคือ ภรรยาผม น้องสาวผมและน้องชายภรรยาผมในวันที่ 28 มีค. แต่ผมก็นัดไปกันทั้งหมด ตอนสัมภาษณ์กลับเรียกคนที่ไม่ได้นัดให้เข้าไปสัมภาษณ์ ส่วนคนที่นัดกลับไม่เรียก โดยคนไทยเป๋นล่ามและจัดเอกสารให้ฝรั่งสัมภาษณ์ สักพักก็เรียกผมเข้าไปด้วยปรากฏว่าพาสปอร์ตและเอกสารต่างๆที่นำมาซักถามผมมันไม่ใช่ของผมจนฝรั่งหันไปมองเจ้าหน้าที่คนไทยที่จัดเอกสารให้และหาเอกสารจนพบและมีการซักถามกันนิดหน่อยจากฝรั่งจนเสร็จและกลับบ้าน
วันที่29 มีค.สถานทูตได้ส่งอีเมล์มาบอกให้ภรรยาผม น้องสาวผมกับสามีและน้องชายภรรยาผมรวม 4คนไปรับวีซ่าได้ แต่ไม่มีผมและภรรยาของน้องชายภรรยาผม
รอจนถึงวันที่3เมย.ภรรยาผมจึงอีเมล์กลับไปที่สถานทูตว่าทำไมผมและน้องสะไภ้จึงยังไม่ได้เรียกไปรับวีซ่าทั้งๆที่ยื่นพร้อมกันและรวมเป็นกลุ่มเดียวกัน
เช้าวันที่4 เมย.ได้รับอีเมล์ตอบกลับจากสถานทูตว่าได้แจ้งให้ทุกคนในคณะทราบแล้วตั้งแต่วันที่ 29 แต่ในความจริงผมไม่เคยได้รับแจ้งเลยไม่ว่าทั้งทางโทรศัพท์หรืออีเมล์นับแต่วันยื่นวันแรกเป็นต้นมา
ทางภรรยาจึงได้โทรไปถามสถานทูตว่าให้ใครคนหนึ่งคนใดไปรับแทนทั้งหมดได้ไหม เจ้าหน้าที่ไทยตอบมาว่าได้โดยใช้ใบเสร็จรับเงินมาเป็นหลักฐาน สามีน้องสาวผมเลยอาสาไปรับแทนทุกคนในตอนบ่ายวันที่ 4 ขณะที่ขับรถจากราชบุรีมาถึงฝั่งธน น้องภรรยาผมที่อยู่โคราชก็ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่สถานทูตบอกว่าทุกคนต้องไปรับวีซ่าด้วยตัวเองในวันที่ 5 เมย.เวลา 13.30 น.ที่สถานทูตและได้บอกน้องภรรยาผมว่าให้แจ้งให้ทุกคนทราบด้วย หลังผมโทรไปแจ้งสามีน้องสาวผมกำลังจะมาถึงสถานทูตอยู่แล้วงงเลย
ผมเลยตัดสินใจโทรไปถามสถานทูตคนที่รับสายบอกใครในคณะมารับก็ได้ขอให้มีหลักฐานมาแล้วกัน ผมก็บอกว่ามีคนโทรไปบอกว่าต้องมารับเองทุกคนเอายังไงแน่ เขาเลยบอกงั้นคุยกะอีกคนแล้วกันแล้วโอนสายไปอีกคนซึ่งผมถามชื่อคือ ชื่อวิภาพร บอกไม่ได้ต้องมารับเองทุกคน สามีภรรยาก็รับแทนกันไม่ได้แล้ววางหูเลย
จนถึงขณะนี้ผมและคณะยังไม่มีใครไปรับเล่มเลยเพราะอยู่ห่างกันแทบจะคนละภาค ถ้าผมรู้ว่าการขอวีซ่าจากสถานทูตออสเตรียมันยากลำบากหรือมีปัญหาอย่างนี้ผมคงไม่ไปขอจากสถานทูตนี้หรอกครับ แต่ทั้งหลายทั้งปวงนั้นมาจากเจ้าหน้าที่คนไทยครับ
ผมคิดว่าผมจะทำจดหมายร้องทุกข์ถึงสถานกงสุลและกระทรวงต่างประเทศออสเตรีย แต่ผมไม่สันทัดภาษาอังกฤษ อยากขอความช่วยเหลือจากท่านๆช่วยร่างให้ผมทีได้ไหมครับเอาสั้นๆกระชับๆก็ได้ หลังไมค์หน้าไมค์ก็ได้ จะขอบคุณเป็นอย่างสูง หรือท่านทั้งหลายมีความเห็นอย่างไรครับ
| จากคุณ |
:
ทั้งเก่าทั้งแก่ 
|
| เขียนเมื่อ |
:
5 เม.ย. 55 12:34:29
|
|
|
| |
ส่วนใหญ่คนไทยที่ทำงานสถานทูตตำแหน่งก็แค่พนักงานธุรการเท่านั้น คอยรับเรื่องส่งให้เจ้านาย ชีเป็นด่านแรกที่ทุกคนต้องพบก่อน เลยคิดว่าตัวเองสำคัญ