PANTIP.COM : E11933733 ถามคนที่เคยไปเที่ยวมัลดีฟ [ท่องเที่ยวต่างประเทศ]

ความคิดเห็นที่ 10

ขออนุญาตเอาบันทึกของคุณณัฐ สุมนเตมีย์ มาฝากค่ะ

--------------
มัลดีฟ ในระหว่างภาพฝันกับความจริง
โดย Nat Sumanatemeya Fanpage เมื่อ 21 มิถุนายน 2011 เวลา 10:09 น. ·

ทุกครั้งที่ผมเห็นคำโฆษณาการท่องเที่ยวตามงานโชว์ท่องเที่ยวที่จัดตามศูนย์ประชุมต่างๆหรือตามหน้าโฆษณาในนิตยสาร ว่าเชิญไปชม มัลดีฟเมืองไทย ที่เกาะหลีเป๊ะ หรือ กาญจนบุรี ผมมักจะมีความรู้สึกลึกๆว่า คนที่เขียนคำโฆษณานั้นคงจะไม่เคยไปมัลดีฟแน่ๆเลย

โดยส่วนตัวผมไม่ชอบการเปรียบเทียบแบบนี้เลยเพราะมันทำให้รู้สึกว่าเกาะหลีเป๊ะนั้นดูต่ำค่ากว่ามัลดีฟ ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ว หลีเป๊ะนั้นมีอะไรหลายๆอย่างที่มัลดีฟไม่มีและมัลดีฟเองก็อาจจะมีอะไรที่แตกต่างออกไป (ผมใช้คำว่าแตกต่างไม่ได้บอกว่าดีกว่าหรือไม่)
แต่ผมรู้อย่างหนึ่งว่าตอนที่ผมอยู่มัลดีฟไม่เคยเห็นคำโฆษณาว่า หลีเป๊ะแห่งมัลดีฟ หรือ อ่าวพระนางแห่งมัลดีฟเลย

ตลอดเวลาที่ผมอยู่ในมัลดีฟเกือบสิบวัน ผมค้นพบสิ่งหนึ่งที่ทำให้แหล่งท่องเที่ยวเมืองไทยแตกต่างจากมัลดีฟอย่างสิ้นเชิงก็คือคนไทย ผมไปพักในโรงแรมระดับห้าดาวบน Ari Atoll ที่ชื่อว่า DIVA เดิมชื่อ White sand beach ภาพที่เราเห็นในโบรชัวร์คือภาพของหมู่มวลห้องพักบนน้ำที่มองจากทางอากาศ แต่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อเข้าไปดูใกล้ห้องพักที่เรียงรายติดกันนั้นดูไม่ต่างไปจากแพเมืองกาญจน์สักเท่าไร ในราคาคืนละสามถึงสี่หมื่นบาทต่อคืน แต่การบริการนั้นผมว่าโรงแรมระดับสามดาวของบ้านเรายังดีเสียกว่า เท่าที่ผมเห็นมาตลอดสัปดาห์ ผมรู้สึกว่าคนมัลดีฟเป็นคนที่ผมอยากใช้คำว่าเฉยเมยต่อความรู้สึกของคนอื่น มุ่งแต่จะทำหน้าที่ของตนให้เสร็จๆไปตามหน้าที่แต่ละวันเท่านั้นเหมือนหุ่นยนตร์ที่ถูกโปรแกรมขึ้นมา ทำอะไรนอกโปรแกรมไม่ได้ จนบางทีดูเหมือนไม่มีน้ำใจ

ผมยืนคอยรถ cart ที่ขับเวียนรับส่งระหว่างห้องพักไปตามจุดต่างๆของโรงแรมซึ่งโรงแรมเคลมว่ามีทุกๆ 10 นาทีอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงในมือคือ housing 2 ตัวที่แต่ละตัวหนักเกือบ 8 กิโลกรัม ที่ผมไม่อยากวางมันไว้บนพื้นทรายหน้าห้อง พนักงานชาวมัลดิเวียนเดินผ่านผมไปนับไม่ถ้วนแต่ไม่มีใครสนใจอะไร จนกระทั่งมีคนคนหนึ่งแต่งชุดพ่อครัวเดินสวนมากลุ่มใหญ่หนึ่งในนั้นทักผมว่าเป็นคนไทยใช่ไหมครับ เขาแนะนำตัวว่าเขาเป็นพ่อครัวอยู่ที่นี่มาแปดเดือนแล้วตอนนี้เลิกงานแล้วกำลังจะเดินกลับไปบ้านที่อยู่อีกฟากหนึ่งของเกาะ เขาถามผมว่าจะไปไหน ผมบอกว่ารอรถมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว จะไปที่ไดฟ์เซนเตอร์ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของเกาะที่ห่างไปเกือบครึ่งกิโล คำแรกที่ออกมาจากปากของเขาก็คือผมช่วยไหมพี่ ผมยิ้มออกมาและได้คำตอบในใจว่าอะไรที่ทำให้เมืองไทยยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มันอาจจะไม่ใช่ชายหาดที่สวยงาม ไม่ใช่บ้านพักที่อยู่กลางทะเล ไม่ใช่ภาพที่ปรากฏอยู่ในโบรชัวร์การท่องเที่ยวที่ใดในโลก
แต่สิ่งที่คนที่มาเยือนเมืองไทยแทบทุกคนที่อยากจะกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกก็คือ คนไทยครับ คนไทยไม่ได้มองนักท่องเที่ยวเป็นเงินดอลลาห์ ยูโร หรือว่าเยน แต่คนไทยมองเห็นนักท่องเที่ยวทุกคนเป็นเพื่อนที่มาเที่ยวบ้านของเรา

จากคุณ : pla_taklom

เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 20:13:39