ความคิดเห็นที่ 1 จึงขอบรรเลงเพลงการเดินทางฉบับละเอียดยิบ ๆ ๆ ๆ ณ บัดนาว ชะเอิงเงย! เมื่อจะไปอินเดียเมืองแขก สิ่งสำคัญคือตรวงลงตรา หรือเรียกเป็นเชื่อเล่น ๆ ว่า วีซ่า  เนื่องด้วยว่าตอนนี้ มีองค์กรเอกชนที่รับทำวีซ่าอินเดียแล้ว ท่านผู้มีอุปการะคุณทั้งหลายก็คงไม่ต้องถ่อไปถึงสถานทูตอินเดียกันต่อไป เพียงแค่ไปที่ ซอยสุขุมวิท 25 แล้วเข้าไปยังตึกกลาสเฮาส์ ชั้นที่ 15 เดินไปทางซ้ายมือ เท่านั้นก็เรียบร้อย ยื่นได้ตั้งแต่  9 โมงเช้า ถึงบ่าย 2 แต่วันมารับวีซ่ามาได้ตั้งแต่ บ่าย 2 – บ่าย 5 โมงเย็น แต่ ๆ ๆ ๆ ๆ ยังก่อน ท่านจะต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ ไว้ก่อน 1. หนังสือเดินทาง หากมันเดินทางมาโชกโชนแล้วนั้นไซร้ มีหน้าไม่พอแปะวีซ่าหรืออายุเหลือไม่ถึง 6 เดือนก็ไปทำใหม่ซะ 2. กรอกแบบฟอร์มออนไลน์ ในเว็บไซต์นี้ http://www.indianvisaonline.gov.in/visa/ แล้วปรินท์มัน  ท่านควรจะปริ๊นมันมาจากบ้าน ย้ำปริ๊นจากบ้านหรือร้านค้าใกล้เคียงบ้านท่าน เพราะอิชั้นไปปริ๊นแถวนั้น ราคา แผ่นล่ะ 15 บาท ถ้าท่านต้องปรินท์ให้ญาติโกโหติกามากมาย ท่านจะสูญเงินไปเปล่า ๆ ปลีๆ หรือหากท่านลืม จะไปกรอกแบบฟอร์มใน VFS ก็ได้ไม่เป็นไร ราคาประมาณร้อยสองร้อยได้ ฉะนั้นแล้วหากท่านไม่ได้มีเงินถุงเงินถังไว้ผลาญเล่น กรุณากรอกให้เรียบเร้ เรไรแล้วปริ๊นซะ  อ่อ ตอนนี้ทางสถานทูตปรับลดค่าวีซ่า เอาแบบบวกทุกอย่างแล้วเสร็จสรรพ ราคา 1,830 บาท ขาดตัวต่อคนเท่านั้นนะจ๊ะ และวีซ่าเป็น Double Entry ภายในระยะเวลา 6 เดือน แล้วเน้อ ดีใจด้วยจุ๊บ ๆ ๆ ๆ  ถ้าหากท่านจะไป สิกขิม อันดามัน นิกโคบาร์ หรือ พอร์ต แบร์ล ก็ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบกันด้วยนะ ไม่งั้นไปถึงแล้วเข้าไม่ได้ อดหมดกันนะชะเอิงเงย 3. สำเนาหนังสือเดินทาง 2 แผ่น  ท่านควรจะซีร็อกในร้านแถวบ้านท่าน เพราะถ้ามาแถวนี้ แผ่นละ 2 – 5 บาท ท่านควรจะสงสารเงินในกระเป๋าสตางค์ของท่านเอง 4. รูปถ่าย  2 ใบ 2x2 ไม่ต้องสวยมากก็ได้ เพราะรูปไม่โชว์ในวีซ่าเอาแบบพอดี ๆ   เมื่อของทั้ง 4 แค่นี้ ครบถ้วนเราก็เตรียมเรียก เจ้ามังกรออกจาก dragon ball เอ๊ย ! ไม่ใช่ เราก็เอาไปยื่นที่เคาน์เตอร์ข้างหน้าของ VFS เมื่อเจ้าหน้าที่บอกว่า ผ่าน พี่ยามสุดหล่อจะให้ บัตรคิวท่านมา  ก่อนนั้นก็ควรปิดโทรศัพท์มือถือทุกชนิดแล้วเดินเข้าไป  กินน้ำฟรีตรงมุมขวาสุดของห้อง เอ๊ย..ไม่ใช่  นั่งรอเรียกเบอร์ ยื่นเอกสาร ถ้าเกิดว่าพ่อกับแม่ไม่ได้มาด้วย ท่านต้องซีร็อกบัตรประชาชนตัวเอง และไปขอใบมอบอำนาจตรงที่ซีร็อกมาเขียนแล้วยื่นด้วย อิชั้นยื่นให้น้ากับแม่ แล้วแม่กับน้าก็ไม่ได้มา ก็ต้องเสียค่าซีร็อกบัตรประชาชนและใบมอบอำนาจอีก หมดไป 12 บาท กิ้ว ........... แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 14:52:59 จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 14:52:23

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าท่านจะให้แจ้งทางมือถือว่าวีซ่าได้ จะเสียเพิ่ม 30 บาท  จากนั้นท่านก็จ่ายเงิน 1,830 บาท บวกภาษีแล้ว รับใบเสร็จ แล้วอีกสองวันก็มารับวีซ่า เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ หากท่านยังไม่รีบไปไหนแวะ Terminal 21 กินอาหารกลางวัน หรือเย็นก่อนได้   และเมื่อท่านนอนหลับครบสองตื่นพอเป็นพิธีแล้วเรียบร้อยล่ะก็ วันนั้นท่านก็สามารถจรลีไปรับหนังสือเดินทางพร้อมวีซ่าได้ทันที วีซ่าที่ท่านจะได้รับก็จะหน้าตาเป็นเยี่ยงนี้ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:01:09

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อท่านได้วีซ่าครบถ้วนกระบวนความกันแล้วเราก็มาถึงการวางแผนการเที่ยวได้เลย หากท่านอยากไปแบบ สบายใจสบายอารมณ์ มีความสุขไปกันหลายคน ไม่อยากคลุกฝุ่นอะไรมาก สิ่งที่ท่านต้องทำคือการจองรถ และจองที่พัก ขอรายมาถึงเรื่องจองรถก่อน เริ่มแรกอิชั้นก็พยายามหาจองรถ แต่ก็คุยราคากันไม่ถูกใจซะที อันนู่นก็นี่ อันนี้ก็นั่น อันนั่นก็โน่น คุยกันเป็นสิบ ๆ บริษัท + กับคนธรรมดาสามัญชน ก็ไม่ถูกใจ สรุปคือ ไปหาตายเอาดาบหน้า พ่ะย่ะค่ะ แค่ขอเพิ่มในส่วนของรถเช่าไว้สักเล็กน้อย สำหรับบริษัทที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ (เสียค่าโฆษณาเปล่าเนี่ย)   1. TGS เป็นบริษัทรถเช่าที่แพง และแพงมาก แต่ไม่กลัวว่าพนักงานจะพาคุณไปปล่อยเกาะ และพาไปฟัดค่าหัวคิวในร้านแพง ๆ  การันตีได้จากเว็บไซต์ต่างชาติ เช่น โลกเหงา เป็นใบ เอ๊ยต้น 2. TDM ก็เป็นบริษัทที่ถูกดี และคุยกันง่าย   ส่วนเว็บไซต์ถ้าอยากรู้ก็ไปหากันเอาเอง ถ้าคุณไปสามคน รถ Tata indigo กำลังเหมาะกับคุณ  แต่ถ้า 4 นั้น Innova นี่ดีที่สุด อย่าคิดว่า 4 จะมาอยู่ใน Tata indigo ได้นะ เบียดกันสุดฤทธิ์เลยล่ะ ส่วนตัวอิชั้นนั้นเมื่อตัดเรื่องรถเช่าออกไปแล้วนั้น ก็มาถึงรถไฟ การเดินทางโดยรถไฟที่หลาย ๆ คนบอกว่า ง่าย...มากกกก มว๊ากกกก จองผ่านเน็ตตัดบัตรเครดิตได้เลย วิ๊ดวิ๊ว จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:01:54

ความคิดเห็นที่ 4 แต่....มันเปลี่ยนไปแล้วพี่ท่าน ท่าน ๆ อาจจะบอกแบบนั้นแต่เมื่อมันถึงตอนนี้ กฎเกณฑ์มันเปลี่ยนไปแล้ว  ในเว็บไซด์ www.cleartrip.com ต้องสมัครและส่งหมายเลขยืนยัน ถ้าคุณไม่ได้ activate ผ่าน sms ล่ะก็อย่าหวังเลยว่า คุณจะได้สมัคร สมัครกับเว็บ cleartrip อ่ะได้ แต่สมัครกับ   https://www.irctc.co.in/ ไม่ได้อีกต่อไป เพราะเขาเปลี่ยนกฎการสมัครสมาชิก แล้วจะทำยังไงล่ะ ต้องเมลล์ไปหาเขาและบอกว่าเราเป็นชาวต่างชาติ สักพักเค้าจะให้คุณส่งสำเนาหนังสือเดินทางไปให้เขานั่นแหละ แต่เมื่อถึงตาอิชั้นแล้วมันกระชั้นเกินหาทันไม่ จึงต้องตายเอาดาบหน้า  หุหุ  เราจะเล่าในส่วนของการจองตั๋วรถไฟ ในการเดินทางไม่รวมในการเตรียมตัวนะคะ เพราะจะไม่มันพ่ะย่ะค่ะ เอิ้ก ๆ ๆ กลายเป็นว่าการวางแผนการเดินทางของอิชั้นต้องพังลง และต้องจำใจอยู่เดลีหนึ่งวัน เนื่องจาก ไฟล์บินของเรา แอร์เอเชียที่รัก ไปถึงตอนดึกแล้ว จะไปจองตั๋วรถไฟอะไรเถือก ๆ นั้นมันก็เป็นไปไม่ได้ เอาล่ะสิ แล้วจะทำยังไง แค่นี้จิ๊บจ๊อย เราต้องหาที่พักต่อ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:02:40

ความคิดเห็นที่ 5 การจองที่พัก สมัยนี้ไม่ยากไม่เย็นอะไรนิจองผ่านอินเตอร์เน็ตก็แสนง่ายสะดวกที่สุดในโลกเลย โรงแรมที่อิชั้นจองไปนั้นคือ Ginger Hotel สำหรับ นิวเดลี  Sheela hotel สำหรับอักรา และ Hotel Maya Niwas สำหรับจัยปูร์ ใจจริง กะว่าจะจอง Hotel Pear Palace แต่จองช้าไปมันเต็มเสียก่อน  อิชั้นจึงเสียใจอย่างสุดซึ้ง ฮือๆๆๆ แต่ก็พยายามหาโรงแรมที่อยู่ในซอยเดียวกัน ก็มาสรุปลงที่ Hotel Maya Niwas  ซึ่งเราจะมาวิจารณ์กันในตอนถัดไป สำหรับเว็บไซต์ของ Ginger Hotel คือ www.gingerhotels.com ในส่วนของชีล่า คือ www.hotelsheelaagra.com ในส่วนของ  Hotel Maya Niwas    จองผ่าน www.agoda.com ไปค่ะ  ประเด็นที่จองคือ เพราะว่ามีข้าวเช้าฟรี และ Hotel pear palace มันเต็มแล้ว  แง้ๆ เจ็บกระดองใจ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:03:14

ความคิดเห็นที่ 6 การแลกเงิน แนะนำว่าพยายามหาแลกที่แถว ๆ ตรงข้าม Central world เรตดีสุด และพยายามแลกแต่แบงค์เล็ก ๆ มาไม่ควรเอาแบงค์ใหญ่เช่น แบงค์พัน มันจะทำให้ท่านมีความลำบากยากเข็ญในการรับเงินทอนอย่างยิ่งยวด  โดยเฉพาะพวก 1- 5 รูปี ส่วนใหญ่ก็จะไม่ทอน ก็จะเก็บงุบไว้ ร้อยคนก็ร้อยกว่ารูปีแล้ว  ท่านอาจจะได้ลูกอมขนมมาได้ หากเป็นร้านขายของกิน แต่ถ้าซื้ออะไรกินไม่ได้ล่ะก็อดสถานเดียวนะขอรับ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:03:41

ความคิดเห็นที่ 7 อากาศ ตอนที่เราไปเค้าบอกว่าหน้าร้อน ร้อนตับแล่บร้อนจนเป็นไข้หวัดเลย อิชั้น ร้อนจนปากแตกแล้วแตกอีก แตกเป็นเสี่ยง ๆ คือร้อนเค้าก็หนาวเราแหละพี่น้อง จงอย่าคิดว่ามันร้อนชื้นมันร้อนแห้งแล้งนะพี่น้องค๊าบ  ท่านจะได้พบกับความหนาวสั่นแบบไม่เคยเจอมาก่อน  แนะนำว่าควรพกลิปมันหรือ สีผึ้ง (แม่หญิงกรุงเก่ามาก) ไปด้วย เพราะร้อนแห้ง ปากแตกได้ เจ็บมาก เวลายิ้มปากจะแตกไม่สวยเอานะเคอะ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:04:07

ความคิดเห็นที่ 8 เตรียมแผนการเดินทาง ดูกันไปดูกันมาเราก็จะไป สามเหลี่ยมทองคำ Golden Triangle of India เนื่องจากเวลาเราน้อยมาก 9 – 14 มีนาคม 2555 และไปลงที่เดลีอีกต่างหาก เราไม่อยากชะโงกทัวร์ และอยากจะไปสัมผัสกับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกสักครั้งหนึ่ง เลยสรุปลงตัวที่  นิวเดลี – อักรา – จัยปูร์ ตามแผนที่นี้เลย เราก็เริ่มร่ายก่อนว่าเราจะไปไหนบ้างในเมืองไหน ด้วยวิธีอะไร เริ่มต้นกันที่ เดลี เราวางแผนว่า จะไปที่ Qutub Minar , Red Fort , Jama Masjid , Humayun’s Tomb และ Akshamdram อักรา Taj Mahal, Agra Fort, Fatepu Sikri , Akbar’s Tomb  และ Baby Taj จัยปูร์ Amber Fort, Hawama Hal, City Palace และ Jantra Mantra ก็วางแผนไว้เฉย ๆ แต่จะไปได้หมดหรือเปล่าใครจะไปรู้ เพราะก็ต้องเผื่อเวลาไว้ช้อปย่าง เอ๊ย ปิ้งบ้าง (จะฮาไปไหน) คือตัวอิชั้นเองก็ไม่คิดจะซื้ออะไรให้ขนหน้าแข้งมันร่วงหรอกนะ แต่คนอื่นนี่สิ โอยยย วิญญาณนักช้อปเข้าสิง จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:05:18

ความคิดเห็นที่ 9 สถานที่ที่ไปมาจริง ๆ ทั้งหมด แค่เนี๊ยะ - -" จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:06:18

ความคิดเห็นที่ 10 ด้วยความที่เรางกมาก ในนิวเดลี เราจะใช้วิธีต่อรถเมล์ และรถไฟเมโทรเท่านั้น (เสริม คนอินเดียเรียกรถไฟสะเทิ้นเวหา ดำดิ่งพสุธาว่า เมโทร หากท่านผู้มีอุปการะคุณเรียกว่า subway ท่านจะได้ ไปอุโมงค์ลอดใต้ถนนอย่างแน่นอน) และเมโทรที่นี่ขอบอกว่า ไฮโซมาค่า ถ้าท่านอยากเห็นอะไรที่ทันสมัยติดอันดับโลกในอินเดีย ข้าพเจ้าขอแนะนำ เมโทรอินเดีย  สิ่งที่คุณจะต้องทราบสำหรับผู้หญิงคือ 1. ตู้แรกของขบวนจะเป็น ขบวน Lady only  ผู้หญิงสวยเที่ยวคนเดียวจะถูกเพ่งเล็งได้ ถ้ายังไม่อยากป๊อปปูล่ามาก จงมาตู้นี้ซะ คนน้อยปลอดภัย เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ในอินเดียเค้าอยู่บ้านไม่ออกไปไหน อ้าวข้อสองล่ะ ก็ไม่มีไง มีแค่ข้อเดียวโด่เด่ คริกๆ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:09:08

ความคิดเห็นที่ 11 เรามาทำความรู้จักกับแผนที่เมโทรของอินเดียกันก่อน อนุญาตให้ขอเบอร์แผนที่ได้  หนึ่งสถานีก็ 8 รูปีแล้ว ไป Qutub Minar ก็แพง 90 รูปีแล้ว ไปแลก Token ก็เหนื่อย คนเยอะเป็นแสน ๆ  ท่านจะทำอย่างไร เรามีทางออกให้ท่าน สิ่งที่ต้องทำคือ ไปซื้อบัตรวันซะ  หน้าตามันจะเป็นแบบนี้  มือนางแบบหม่อมแม่ของอิชั้นเอง จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:10:19

ความคิดเห็นที่ 12 ราคาก็ไม่ถูกไม่แพงกินข้าวได้มื้อนึง 100 รูปี และค่ามัดจำอีก 50 รูปี ท่านจะได้ค่ามัดจำคืนเมื่อคืนบัตร ราคารวมที่ต้องจ่ายคือ 150 รู12 เดือน เอ๊ย รูปี ไม่ขาดไม่เกิน และถ้าหากท่านมาที่สถานีตรงนิวเดลีล่ะก็นะ ล่ะก็นะ เหอะๆ คนเยอะเป็นบ้าเป็นหลัง ท่านจะงงกับเคาน์เตอร์แลกโทเคน  ก็เป็นเหรียญดำ ๆ เหมือนใช้ในรถไฟใต้ดินบ้านเรานั่นแหละ ไปสักสองถามสถานีก็พอได้ แต่ถ้าไปเยอะๆ ซื้อแบบนี้จะคุ้มค่าทุกนาทีช่องเจ็ดสีมากกว่า   ท่านจงมองไปที่เคาน์เตอร์ด้านหลัง เป็นตู้สี่เหลี่ยม (ถ้าในสถานีนิวเดลีนะ ) ข้างหลังจะเป็นที่ขายบัตรแบบนี้แล  จงไปทางฝั่งขวา ของท่าน เมื่อท่านหันหลังให้เคาน์เตอร์ขายโทเคน  ตอนแรกอิชั้นก็ไปซ้าย พี่แกก็ไล่ให้ย้ายมาขวา  เมื่อซื้อเสร็จถ้าคุณคือผู้หญิงล่ะก็ ช่องทางเข้าจะแยกกับผู้ชาย ซึ่งถ้ามองดูดีๆ แถวมันสั้นมาก เมื่อเดินผ่านเครื่องสแกนด์ตัวเองก็จะถูก  รปภ.หญิงเอาเครื่องมาตรวจก่อน ถ้าหน้าอกใหญ่อาจถูกจับด้วย  แม้อิชั้นจะไม่ได้ใหญ่อะไรมากแต่ก็ถูกจับ Milk ทุกวัน T- T ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าซะนี่กระไร ฮือๆ เมื่อผ่านสแกนด์ตัวเองแล้วก็มาสแกนด์กระเป๋าต่ออีก กว่าจะได้ขึ้นรถไฟเมโทรเนี่ยมันยากเย็นมาก ไม่คิดไม่ฝันเลย และเป็นแบบนี้ทุกสถานี ท่านต้องทำใจถูกจับ น๊ม นม ทุกวันเป็นแน่ กรั๊กๆ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:11:10

ความคิดเห็นที่ 13 เอาล่ะพี่น้องเพื่อนพ้องทุกท่านแฟน ๆ นับหมื่นนับแสน  เราจะเริ่มการเล่าเรื่องการไปเที่ยว สามเหลี่ยมทองคำของอินเดีย เมาท์ล้วน ๆ ณ บัดนี้ เนื่องด้วยความอุปการะคุณของหางแดง ทำให้พวกเราได้ตั๋วเครื่องบินไปกลับ กทม. – นิวเดลี มาในราคา 4,840 บาท ซึ่งทำให้การเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้น ถ้าเป็นไปได้หางแดงอย่ายุบเส้นทางนี้เลยนะ ฮือๆ เค้าอยากไปอีก จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:11:55

ความคิดเห็นที่ 14 จากนั้นเราก็เริ่มวันเดินทางวันแรก 9 มีนามคม 2555  สี่ชีวิต แปดเท้าก็เริ่มบรรเลงเพลง พาเหรดไปอินเดีย ด่านแรก ตม. ที่ยาวเหยียดเป็นหางว่าว ชีวิตไม่นึกไม่ฝันจะได้รอคอยอะไรเกือบชั่วโมงได้แบบนี้ นี่ถ้าไม่เผื่อเวลามีหวังได้ ตกดังตุ๊บจากเครื่องบินแหงแซะ จากนั้นพวกเราก็ค่อย ๆ เคลื่อนย้ายบั้นท้ายอวบ ๆ ไปขึ้นเครื่อง และไฟล์ นี้เป็นเที่ยวบินที่ ดุ เด็ด เผ็ด มัน พ่ะย่ะค่ะมากมาย เริ่มเรื่องตั้งแต่ ผู้โดยสารแขกสองคน แกล้งกวนประสาท พักงานต้อนรับ โดยการกดปุ่มขอความช่วยเหลือเล่น เป็นสิบ ๆ ครั้ง > <” แล้วมันก็ขำ ที่อิชั้นรู้ เพราะมันนั่งข้าง ๆ คนละฝั่งกะอิชั้นนั่นเอง  จนพี่หัวหน้าแอร์ต้องมากำหราบ ขอปรบมือให้ หนึ่งร้อยครั้ง แป๊ะ x 100 จากนั้นก็มีคนต้องการเปลี่ยนที่นั่งอีกมากมาย พร้อมกับการเดินไปเดินมาอันขวักไขว่ของแขกที่เข้าห้องน้ำบ้าง คุยกับเพื่อนบ้าง คุยกันเสียงดังบ้าง และที่หาที่เปรียบไม่ได้คือ เครื่องกำลังลงจอดอยู่ๆ ก็มีแขกลุกขึ้นมาเปิดเอากระเป๋า ....... อั่ยย่ะ เล่นเอาเจ๊แอร์อารมณ์เสียยกใหญ่  หรือจะว่าไปนี่ก็คือการชิมลางความวุ่นวายของเมืองแขกอินตระเดีย ยกแรกแค่นั้นเอง เมื่อเราผ่านตม. อินเดียที่หูดำมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อิชั้นก็พบกับพี่ใจดีคนนึงที่ลูกมาเรียนต่อที่ นิวเดลี และลูกพี่เค้าจึงพาพวกเราไปขึ้นรถ Prepaid – Taxi ในราคา 4 คน 400 รูปี จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:17:28

ความคิดเห็นที่ 15 เราเดินออกมาจากสนามบินแล้วข้ามถนนไปหนึ่งเลน จากนั้นก็เดินไปทางขวาสุดพลัง จะเห็นบู๊ท pre paid taxi รออยู่ บอกไปว่าจะไปไหน ไปกี่คน มีกระเป๋ากี่ใบ ท่านก็จะได้ใบนี้มา  จงเก็บ copy ไว้กับตัวแล้วยื่น ใบจริงให้คนขับรถไป แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าเราต้องไปขึ้นรถตรงไหน ดูตามใบนี้ได้เลย  อันนี้มีเฉพาะตัวสำเนานะ ตัวจริงให้เค้าไปแล้ว ราคานี้ 4 คน กระเป๋า 4 ใบ และบวกค่าชาร์จตอนกลางคืนแล้ว 400 รูปีเน็ต ห้ามจ่ายเกิน ใครจะขอทิปก็ไม่ให้ (ถีบอาจจะได้) จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:18:40

ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อเราได้ใบนี้แล้วเราก็ไปยังรถแท๊กซี่ของเรากันได้เลย   คนขับรถของเราเป็นลุงแก่ ๆ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นนักแข่ง F1 เป็นอาชีพเสริมด้วย ลุงแกสามารถหักเลี้ยวแบบไม่ต้องละชอรถได้และ บีบแตรอย่างไม่ยั้ง หากท่านชอบความตื่นเต้นเร้าใจ และหวาดเสียวไส้ติ่ง ลิ้นปี่ ขอแนะนำ สนามแข่งนิวเดลี ท่านจะได้พบกับความรู้สึกสนุกยิ่งกว่าดรีมเวิล์ด  เมื่อแรกพบสบตากันและกัน อิชั้นก็ไม่คิดว่ารถคันนื้คือรถที่จะพาพวกเราไปยังที่พักที่ Ginger Hotel เป็นอันขาด สภาพภายในดีกว่ารถแท๊กซี่ในย่างกุ้งนิดเดียว  หากท่านไม่เคยไปย่างกุ้ง ท่านลองไปย่างปูดูได้อร่อยไม่แพ้กัน   ในตัวตึกก็มี pre- paid taxi boot นะ แต่น้องคนที่พาเราไปซื้อบอกว่าอันนี้ต่างหาก ก็งงเป็นไก่ตาแตกกันเลย ลืมถ่ายรูปมาให้ดูด้วยขออภัยมณีอย่างลิบลิ่ว เพียงแค่คุณเดินข้ามถนนไปหนึ่งเลนคุณจะถึง Prepaid taxi boot ที่อยู่ขวาสุดๆ และจากนั้นก็เดินไปอีกเลนนึง โดยยังไม่ข้ามนะจ๊ะ นั่นแหละที่ตั้งของรถแท๊กซี่ที่รอคุณ หากใครเข้ามาบอกคุณว่าเขาคือคนขับ จงอย่าเชื่อ มาขอดูสลิปจงอย่าให้ จงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วมันจะแพ้ภัยตัวเองไป จงดูว่ามีป้ายหมายเลขกำกับหรือไม่ ถ้าใช่นั่นแหละ Soul mate เอ๊ย!สารถีของคุณ เมื่อเราได้นั่งรถแล้วไซร้นั้น ความเป็นมือหนึ่งแห่งสนาม F1 ก็ทำให้เรามาถึงโรงแรมขิง ได้ในเวลา ประมาณยี่สิบกว่า ได้  ท่านจะเห็น  Ginger Hotel ตระหง่านอยู่หลัง Metro Station เมื่อพวกเราลงจากรถแท๊กซี่ ลุงนักแข่งก็ขอทิป - -“ เอาเข้าไป แท๊กซี่ทำไมต้องมีทิปจะบ้าเหรอด้วยความที่เป็นคนประหยัด ก็บอกว่า ไม่ค่ะ หนูไม่มีเงิน แล้วรีบแสกนด์กระเป๋าเข้าโรงแรม จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:20:00

ความคิดเห็นที่ 17 อ่อ ...ลืมบอกโรงแรมในนิวเดลีต้องแสกนด์กระเป๋าก่อนนะจ๊ะ ถึงจะได้เข้าไปนอนได้ จากนั้นเมื่อเข้าไปแล้ว ก็จะพบว่าเราต้องกรอกอะไรมากมาย ทั้ง ๆ ที่จริงมันเป็นงานของ พนักงานต้อนรับ - -“ กรอกคนละแผ่นเลยท่านพี่ ง่วงก็ง่วง หิวก็หิว ยังมาให้ตรูกรอกอะไรอีก  เราก็สลึมลสือกรอกไป เอาพาสปอร์ตให้พนักงานต้อนรับไปทำสำเนา แล้วก็กรอกไป เมื่อกรอกเสร็จถึงจะได้ คีย์การ์ดมา  และจงอย่างงกับหมายเลขห้อง เพราะมันมีสองปีก  เนื่องจากเราหาห้องไม่เจอแหละ และถึงบางอ้อว่า อ๋อ มันมีอีกฝั่งนึง  เมื่อถึงห้องเราก็ดูสภาพห้องของโรงแรมขิงกันสักหน่อย รูปภาพน่าจะบรรยายได้มากกว่าคำพูด จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:23:23

ความคิดเห็นที่ 18 ผ้าปูที่นอนสะอาดพอประมาณมีจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ใส่ใจ  ห้องก็กว้างขวางพอประมาณ แต่ผ้าขนหนูแข็งแทบทิ่มแทงผิว  ของในห้องมีน้ำสองขวดเล็ก ๆ  มีกาต้มน้ำ ใครมีมาม่า โจ๊ก หรืออะไรกึ่งสำเร็จรูปเอามากินได้สบายบริ๋อ พร้อมชาและกาแฟผงอย่างละสองซองมีแก้วกระดาษให้พร้อม ราคาห้องก็พอประมาณ (แพงพอประมาณ - -“)  พันสี่กว่ารูปีต่อห้องต่อคืน ข้อควรจำในการจองโรงแรมนี้ในนิวเดลี มันจะมีสองสาขาท่านผู้มีอุปการะคุณต้องจองในส่วนของ  Ginger Delhi (IRCTC)  เพราะถ้าไปจองของ   Ginger Delhi (Vivek Vihar) จะอยู่ไกลจากตรง เมโทรไม่รู้กี่ลี้กี่ไมล์เลยเชียว มาดูที่ห้องน้ำ  ค่อนข้างสะอาด แต่ก็มีคราบบ้างพออภัยให้ได้ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:25:46

ความคิดเห็นที่ 19 ออกจากห้องน้ำมาก็เจอกับตู้เสื้อผ้า และที่นั่งรอหน้าห้องน้ำ  ถ้ามองจากรูปห้องและความสะอาดราคานี้ก็สมน้ำสมเนื้อ สมเส้น สมลูกชิ้น จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:27:09

ความคิดเห็นที่ 20 ง่ะ รูปใหญ่มว๊าก ขออภัยทุกท่าน จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:27:50

ความคิดเห็นที่ 21 แถมยังมีทีวีเอาไว้สร้างความบันเทิงทั้งก่อนนอนและหลังตื่น ให้ท่าน ๆ ได้ซึบซับความเป็นภารตะเข้าไปในทุกอนูรูขุมขน   ช่วงที่อิชั้นไปเพลง sheela กำลังดังมาก เปิดทีวีที่ไรเจอทุกทีสิ พับเผื่อย จากนั้นพวกเราก็สลบไสลเพลียแรง ประหนึ่งดังเพิ่งไปแบกปูนโบกตึกมา  หลังจากอิชั้นถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานในชั้นศาลพระภูมิเจ้าที่แล้ว ก็รู้สึกตัวอีกที่ตอน 7 โมงเช้าวันที่ 10 มีนาคม 2555 พอดิบพอดีเดะๆ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:28:58

ความคิดเห็นที่ 22 วันที่สองของการเดินทาง สิ่งที่ต้องทำในชีวิตวันนี้คือการซื้อตั๋วรถไฟ ซึ่งจะเปิดเคาน์เตอร์ตอน 8 โมงเช้า ถึงประมาณ 2 ทุ่ม จากโรงแรมขิงท่านต้องเดินไปยัง สถานีรถไฟซึ่งท่านจะเห็นอยู่ในระยะสายตา ท่านจะต้องผ่านสถานีรถเมโทร  pre-paid taxi booth และรถออโต้ริกชอว์  พร้อมทั้งห้องน้ำเมืองแขกกลางแจ้งที่ส่งกลิ่นหอมรันจวนซะแทบจะอาเจียน  สิ่งที่ท่านต้องหาในวันนี้คือ Interrnational Tourist information bureau มันไม่ได้อยู่ฝั่งนี้น่ะสิ มันอยู่ฝั่ง  Paharpanj ซึ่งสิ่งที่คุณต้องระวังจะมีสามด่าน จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:30:03

ความคิดเห็นที่ 23 ด่านที่ 1   เมื่อจะข้ามสะพานจะมียามหรือทหาร หรือตำรวจ หรืออะไรสั่งอย่างสั่งห้ามคุณขึ้น สิ่งที่คุณต้องทำคือการเดินไปยังตัวตึก เพื่อจะเข้าไปสแกนด์กระเป๋า ด่านแรกจะมีชายร่างยักษ์ หน้าตาถือว่าเป็นพระเอกหนังตอนเย็นได้พร้อมปากกาหนึ่งด้ามยื่นอยู่ พร้อมถามหาตั๋ว ถ้าเค้าเข้ามา ก็ไม่ต้องตกใจอะไร บอกว่า “No” คำเดียว อิชั้นอ่านคำเตือนจากใครหลาย ๆ คนในนี้แล้วจึงเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด เมื่อผ่านการแสกนด์กระเป๋าแล้ว จงเดินไปขึ้นบันไดเลื่อนด้านขวาสุด เพื่อขึ้นไปบนสะพาน   แต่ตอนนั้นอิชั้นเดินไปทางซ้ายเพคะ กว่าจะหาทางได้แทบตาย เวรของกรรมจริง ๆ เมื่อท่านเดินไปเรื่อย ๆ จะพบกับป้ายนี้ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:31:26

ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อเดินไปเรื่อย  ๆ ท่านจะพบกับป้าย Platform 1 จงลงไปซะ จริง ๆมันมีทางขึ้นจากข้างในมั้ง แต่เผอิญว่าตัวอิชั้นโง่งม เดินตุปัดตุเป๋ จนเจอด่านสอง ด่านที่ 2 ชายหนุ่มร่างเล็กกว่าชายคนแรก เล่นหนังตะลุงพอได้เดินมาบอกว่าคุณ ๆ ลงไปที่ platform ไม่ได้นะคร๊าบบบบ เอาล่ะสิ มาไม้นี้ อิชั้นอ่านมาก่อนจะมาหลอกอะไรตรูเนี่ย เราก็บอกว่าเราจะไปที่ international tourist bureau พี่พระเอกหนังตะลุงก็บอกว่า ต้องไปทางซ้ายนอกสถานีรถไฟนี่ต่างหาก  ด้วยความที่เราก็โง่งมอยู่ เพื่อนเราอีกคนก็เดินตามมันไป เอาล่ะเหวย ทีนี้เสร็จ แต่อิชั้นเมื่อได้สติสัมปะชัญญะ ก็รีบเบี่ยงไปอีกทางทางขวา จำไว้นะคะ ต้องขวา และขวาเท่านั้น เมื่อเดินไปทางขวาตานั่นก็ตามมา เพราะอิชั้นกำลังจะลงจากบันไดของ ไปนอกชานชลาอยุ่แล้ว มันก็มาดักต่อไม่ให้ไปไหน พอขอมันดูบัตร มันก็บอกว่าไม่จำเป็น อิชั้นก็เดินต่อไปสักพักนึง จากนั้นมันก็เรียกให้ดูบัตรไกล ๆ บัตรไรก็ไม่รู้ บัตรดูหนังหรือเปล่าก็ไม่รู้  ขณะที่เรากำลังจะเดินไปทางขวา ๆๆ นั่นเอง ด่านสามตัวหัวหน้ารองมันก็โผล่มา จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:32:23

ความคิดเห็นที่ 25 ด่านที่ 3 หัวหน้ารองที่ขี้เหร่ที่สุด พี่เตี้ยแว่นดำ  เมื่อเรากำลังจะเดินไปยังทางขวา ๆ นั้น พี่เตี้ยแว่นดำก็มาขอดูตั๋วตามเดิม พี่เตี้ยชุดดำใส่แว่นดำ หน้าตามีเครานิด ๆ ดุ ๆ มาขอดูตั๋วอิชั้นและพ้องเพื่อน พี่เตี้ย : You have to show your tickets before entering to the station. อิชั้น : We don’t have tickets, we’re going to buy it at International tourist bureau. พี่เตี้ย: It’s on your left hand side out side the station. อิชั้นคิดในใจ ไอ้นี่นิ มันจะไปอยู่ข้างนอกได้อย่างไร บ้าไปแล้ว ฤ ในขณะนั้นมีชายหนุ่มชาวเกาหลีสองคนเดินมาพอดี อิชั้นก็รีบแจ้นไปขอความช่วยเหลือจากพี่ทั้งสอง อิชั้น : Excuse me , can you help us? สองหนุ่ม : What? อิชั้น : Do you know where we can buy train tickets? สองหนุ่ม : There แล้วชี้ไปที่ทางขวาที่อยู่ในสถานีรถไฟ  (เราหันหน้าออกจากสถานี) อิชั้น : Thank you พี่เดี้ย ได้ยินพอดี เลยบอกว่า : It’s for Indian people not for tourists. อิชั้นเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ไม่สนใจอะไรแล้วค่า เดิน ๆ  ๆ ๆ ๆ ไป ผ่านเคาน์เตอร์ขายตั๋วของคนอินเดีย ไปเจอยามหรือทหารหรือตำรวจนั่งอยู่ก็ถามว่า International tourist bureau อยู่ไหน เข้าก็ชี้ไปทางซ้ายสุด (ตอนนี้เราหันหน้าเข้าสถานีแล้วนะคะ) ในฝั่ง พากันห์ ถ้ามาก็แค่มาในสถานี ตรงใกล้ ๆ เครื่องสแกนด์กระเป๋าเครื่องแรกนับจากทางซ้าย มือแล้วคุณจะเห็น ป้ายชี้บอกว่า International tourist bureau อยู่ข้างบน จากนั้นพี่เตี้ยก็สบถเป็นภาษาฮินดี แบบว่าโกรธจัดมากที่จับหมูไม่ได้ จับอิชั้นไม่ได้ง่ายเหมือนเกม Happy คนเลี้ยงหมูนะจ๊ะ สิบอกให้ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:34:14

ความคิดเห็นที่ 26 ซึ่งนับว่าเป็นโชคดีที่ทุกท่านในห้องบลูได้เตือนอิชั้นเอาไว้ว่าไม่ให้ไปเชื่ออะไรกับพวกนี้ จึงรอดพ้นภัยมาได้สำเร็จลุล่วงทุกประการ ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ  และก็ดีว่าไม่ต้องไปเจอหัวหน้าใหญ่มันที่ออฟฟิศปลอม ซึ่งถ้าไปเจอหัวหน้าใหญ่มันล้มไม่ง่ายเหมือนเกมมาริโอ้ กว่าเราจะมาถึงตรงนี้ได้ก็ปาไปเกือบ ๆ สิบโมงแล้วอ่ะ พี่น้อง  อิชั้นก็หิวข้าวอะนะ เพราะตั้งแต่เช้ากินโจ๊กไปถ้วยเดียว  มันไม่อยู่กระเพาะอูฐอย่างอิชั้น จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:35:07

ความคิดเห็นที่ 27 จากนั้นก็ถึงตอนซื้อตั๋ว  ตามแผนภาพนี้ หมายเหตุ ลูกศรสีแดงแสดงถึงการต่อแถวซื้อตั๋วต้องเลื่อนแถวตามนี้เท่านั้น  และถ้าไปซื้อเค้าอนุญาตให้นั่งแค่คนเดียวพอ คนอื่นนั่งที่อื่นไม่ต้องนั่งในคิว พอถึงคิวค่อยเดินไปพร้อมกัน แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 15:37:20 จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:36:15

ความคิดเห็นที่ 28 อ้าวโพสต์มาตั้งนานเพิ่งเห็นว่าส่งกระทู้ผิดหมวด เค้าจะทำยังไงดี อ่ะ แง๊ว ๆ รูปแผนผัง จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:38:21

ความคิดเห็นที่ 29 วิธีการซื้อตั๋ว 1. เดินไปหยิบใบจองตั๋วรถไฟมากรอก  ใบหน้าตาแบบนี้กรอกตามแบบฟอร์มดังต่อไปนี้ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:40:03

ความคิดเห็นที่ 30 เดินไปถามคุณยายว่า จะไปที่นี่จากสถานีนี้เวลา วันที่นี้ยังว่างมั้ยตอนนี้  หรือถ้าคุณไม่อยากเสียเวลาให้ลองเช็คตารางรถไฟจากเว็บไซต์ www.cleartrip.com ไปก่อน  เช่นจะไปอักราก็จะได้ขบวนนี้ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:41:03

ความคิดเห็นที่ 31 3. เข้าคิวรอไปเรื่อย ๆ ตามที่นั่งที่ค่อย ๆ เลื่อน เรื่อย ๆ 4. เมื่อถึงคิวก็เอาใบให้เขา และหนังสือเดินทางของทุกคน  จ่ายเงินก็จะได้ตั๋วรถไฟมา หน้าตาแบบนี้ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:46:44

ความคิดเห็นที่ 32 เราจองสองใบค่ะ จาก H.Nizamudin >> Agra Cantt กับ Jaipur >> Delhi Rohila จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:48:21

ความคิดเห็นที่ 33 ทั้งหมดทั้งมวลก็เสร็จพิธี จากนั้นกว่าที่อิชั้นจะได้ไปเที่ยว ชีวิตมันมีอะไรมากมายเยอะแยะจริง กว่าจะเสร็จก็ปาไปสิบเอ็ดโมงกว่าเกือบเที่ยง เสียเวลาเที่ยวซะจริง ๆ แนะนำว่าจองผ่านเน็ตมาดีที่สุดจะได้ไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ที่ สถานีรถไฟ แต่อนิจจา พุทโธ ธรรมโม สังโฆ  มีพี่คนที่ที่เจอกันนั้น ในตอนเช้าวันที่เราซื้อตั๋วรถไฟนั่นแหละ พี่เขากำลังจะไปอักราด้วยขบวน สุดฮิต คือ Shatubdi (ชาตับดี)  และปริ๊นตั๋ว e-ticket มา ก็ไม่รู้กลโกงของพวกนี้ มันก็บอกว่าตั๋ว ใช้ไม่ได้ ยื้อกันไปยื้อกันมาจนรถไฟออก ท่าน ๆ ผู้ใดรับทราบ ชายผู้มีปากกาแทงเดียวและใส่ชุดไปรเวท นั้น หาใช่นายสถานีไม่ นายสถานี ใส่สูท ผูกไท และมีป้ายติดนะข่าคะ  จงอย่าเชื่อหามีผู้ใดแอบอ้างเด็ดขาด หรือไม่ก็ให้คุณแต่ตัวหน้าทาขอบตาดำ ติดบินดี แบบแขก จะไม่มีใครย่างกรายมาหลอก แต่จะมาขอถ่ายรูปกันใหญ่ คริกๆ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:48:55

ความคิดเห็นที่ 34 สถานที่แรกที่จะไป   Connaught Place เพื่อไปหาข้าวใส่ท้องกิน  ตรงนี้เราก็มาโฉบ ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นของร้านค้าต่าง ๆ และร้านอาหารต่าง ๆ ซึ่งเท่าที่ดูๆ มา ก็มีอะไรน่าสนใจเยอะอยู่  จากสถานี New Delhi ก็มาลงที่สถานี Rajiv Chock ถ้าซื้อแค่ Token จะราคา 8 รูปี  ส่วนบัตรวันก็ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วเน้อ  มาซื้อของที่นี่ก็ต้องทำใจอย่างส่วนใหญ่จะแพง (อันนี้เทียบแล้วกับที่ จัยปูร์) แต่ของส่วนใหญ่คุณภาพจะดีกว่า  อิชั้นก็มอง ๆ เหล่ ๆ ไปนิดเดียวเพียงเท่านั้น อ่อ ลืมบอกไปว่าที่นี่เค้าแบ่งเป็นบล็อก ๆ  A – N  ตามลายแทงแล้ว เขาบอกว่าร้าน Kake Da Hotel เนี่ยอาหารอินเดียหร่อยสุด ๆ เนื่องในโอกาสมื้อแรกของพวกเราก็ของลองสักตั้ง อาหารส่วนใหญ่มาช้า ถึงช้ามาก  แถบคนอินเดียคนอื่นมาที่หลังได้ก่อน แต่ไม่เป็นไรเรารอได้ แอบเหงือกแห้งไปบ้าง แต่ก็ไม่หวั่น โซ้ยกันไป จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:53:06

ความคิดเห็นที่ 35 อันนี้แปลกดี ลุงขายผลไม้ ที่เห็นขาว ๆ นั่นหัวไชเท้า ก็มีคนซื้อและเคี้ยวกร๊วม ๆ อย่างเอร็ดอร่อย อยากถ่ายข้างหน้าบ้างนะ แต่ลุงไม่ให้ถ่าย เลยเอาข้างหลังมาให้ดูล่ะกัน จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:54:17

ความคิดเห็นที่ 36 จากนั้นก็กลับมาที่สถานรถไฟ เดินมาเรื่อย ๆ นั่นแหละ พยายามตามหาสถานีถรไฟ ถามเค้าเรื่อย ๆ  อาจมีหลงไปบ้างเล็กน้อยถึงปานกลางสถานที่ต่อไปคือ Qutub Minar จากสถานี Rajiv Chock ก็นั่งต่อไปที่สถานี Qutub minar และยังคงใช้ รถไฟสายสีเหลืองอยู่เช่นเคย จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:55:40

ความคิดเห็นที่ 37 เมื่ออิชั้นออกมาจากสถานีก็มีแขกประมาณสิบกว่าคนพยายามเข้ามารุมอิชั้นเยี่ยงซุป’ตาร์ แต่หาไม่เราเตรียมตัวมาแล้วจะนั่งรถเมล์ เราจึงข้ามฝั่งไปรอรถเมล์สาย 604 ที่รอประมาณเกือบ ยี่สิบกว่านาทีมันก็ไม่มา ถามคนแถวนั้นเค้าก็บอกว่า เลยจากนี่ไปกิโลเมตรเดียวเอง เดินไปก็ได้  แต่อากาศมันไม่ขำด้วยสิพี่น้อง แดดส่องฟ้าร้อนตับแล่บแผล่บ ๆ จากนั้นก็มีรถประมาณรถกระป๋องบ้านเราหนึ่งคันมาเทียบ บอกว่าไป Qutub Minar คนละ 10 รูปี  จริง ๆ ถ้าต่อค่ารถ ออโต้ริกชอว์ น่าจะถูกกว่านี้ แต่ทำยังไงได้ รถเมล์ อินเดียมันก็ไม่น่านั่งเท่าไหร่ ไปก็ไป รถมันก็ดีนะกว้างด้วย นั่งไปตดยังไม่ทันหายเหม็น ถึงล่ะ Qutub minar จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:58:50

ความคิดเห็นที่ 38 เมื่อเราไปถึงมันจะมีสองฝั่ง  ฝั่งที่ไม่ต้องข้ามนั่นแหละฝั่งซื้อตั๋ว ราคาเท่ากับคนท้องถิ่นทั่วไปเลยคือ 10 รูปี เท่านั้น  ด้วยอำนาจแห่งกระดาษแผ่นนี้จึงทำให้เราได้ราคานี้มาแบบไม่เหนื่อย ตอนแรกเรายื่นแค่พาสปอร์ต ลุงแขกจะมาเก็บเงิน 250 รูปีต่อคน เราบอกว่ามีสัญญา BIMSTEC นะพี่แกก็ยืนยันว่า  250 รูปี อิชั้นเลยต้องงัดไม้เด็ด คือนี่ๆ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:01:45

ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อยื่นไปลุงแขกก็บอกว่า 10 Rs. Each คืออยากรุ้ว่าจะไม่ต้องให้เหนื่อยได้มั้ยเนี่ย โชคดีที่เตรียมเงินไปพอดี ไม่งั้นอาจจะมีตุกติกต่อไป  ใบนี้เป็นประกาศที่ รัฐบาลอินเดียกับรัฐบาลไทย พม่า ภูฎาน เนปาล  ศรีลังกา  และอินเดีย มีข้อตกลงร่วมกันว่า ประชาชนจากประเทศต่าง ๆ เมื่อมาที่อินเดียนี้ ราคาของค่าเช้าชมสถานที่ต่าง ๆ นั้นจะเท่ากับคนอินเดียทุกประการ ยกเว้นแต่ใคร ๆ จะโดนอะไรบ้าง ก็เอาใบนี้ไปยัน ประหยัดอีกโข ถือว่าใบนี้เป็นใบประกาศิตในทริปเลยที่เดียว ไม่มีไม่ได้ จากนั้นเราก็ได้ตั๋วนี้มาซะที เฮ้อ....อยากจะถอดหายใจยาว ๆ เพราะความเหนื่อยในการปะทะกับลุงแขก จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:05:34

ความคิดเห็นที่ 40 หน้าตาของตั๋วเป็นแบบนี้ และไม่ใช่ที่นี่ที่เดียวยังมีอีก แต่ว่าทริปนี้เราไปมาไม่ครบน่ะ จึงไม่รู้ว่าที่อื่น ๆ เป็นยังไงบ้าง แต่ยังไงซะ เราเข้าชม Qutub Minar ซะหน่อย เริ่มแรกต้องข้ามถนนไปก่อน จากนั้นก็ถึงปากประตูยื่น ตั๋วกับพาสปอร์ตให้เขาฉีกเราเก็บตัวเอาไว้ แล้วก็ไปเฉิดฉายต่อในนั้น  กุตับมินาร์ ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของนิวเดลีเลยก็ว่าได้ หากท่านได้ขึ้นรถไฟเมโทรแล้วล่ะก็ดูที่เหรียญโทเคนที่ใช้ จะมีรูปกุตับมินาร์อยู่ด้านหนึ่งของเหรียญ  ซึ่ง Qutub Minar คือ หอคอยที่สร้างจากหินทรายสีแดง ที่พวกมุสลิมสร้างไว้เพื่อบ่งบอกชัยชนะที่โค่นพวกฮินดูได้สำเร็จ และภายในนี้จะประกอบด้วยโบราณสถานต่าง ๆ ที่รวม ๆ เรียกว่า Qutub Complex จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:07:31

ความคิดเห็นที่ 41 และนี่แหละคือสัญลักษณ์ของนิวเดลี  และตัวหอคอยนั้นเมื่อก่อนสามารถเดินขึ้นไปด้วยนะ แต่ไม่รู้เป็นไงคนขึ้นไปฆ่าตัวตายเป็นประจำ ปัจจุบันจึงทำให้รัฐบาลอินเดียปิดตายการขึ้นไปบนหอคอยและมีรั้วเหล็กล้อมรอบ ทำให้นักท่องเที่ยวรุ่นหลังแบบอิชั้นไม่ได้ขึ้น เออ....ดีเนาะสูงจะตายใครเค้าอยากจะขึ้นมั่ง ตัดกำลังกันชัดๆ จากนั้นพวกเราก็เดินชมในนี้ เป็นเวลาสักพักหนึ่ง จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:10:40

ความคิดเห็นที่ 42 รูปไม่บาลานซ์เลย ขออภัยมณีเด้อ ต่อๆ บรรยากาศภายในก็ดี แต่แดดร้อนไปนิด ติดร่มกับหมวกปีกกว้างไปก็ดีกันฝ้า กันหน้าดำได้ แต่สำหรับหญิงตัวคนเดียวมาเที่ยว กรุณาระวังหนุ่ม ๆ ไว้บ้างก็ดี แต่ละคนมองเรางี้ โห...น่ากลัวเป็นบ้า  เพราะพวกเราแตกต่างจากเขาน่ะ จริงๆ พออยู่ไปหลาย ๆ วันแล้วเค้ามอง ๆ เราก็เริ่มเฉย ๆ ล่ะ ถือว่า เราสวย กร๊ากกกกกกกกกกก ฮ่าๆๆๆๆ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:13:16

ความคิดเห็นที่ 43 เมื่อชมเสร็จ ถ่ายรูปจนหนำใจแล้วเรียบร้อย ก็ค่อย ๆ เคลื่อนย้ายไป สถานที่ที่สอง เลย นั่นคือ Red Fort ออกมาจาก qutub minar (อ่านว่า กูตุ๊บ มินาร์) พี่คนขับออโต้ริกชอว์ ก็ปรี่เข้ามา เพื่อหาลูกค้าทันใด ถ้าคุณต้องการราคาที่ถูกลงจงทำเป็นไม่สนใจจนกว่าราคาจะลดลงเรื่อย ๆ หรือพยายามหาคันอื่น เราฟังสักพักก็ได้ราคาที่ถูกใจ 4 คน 40 รูปี อาจจะแพงไปหน่อยสำหรับระยะทางไม่ได้ไกลแบบนี้ เพราะพวกอิชั้นเพียงแค่จะกลับไปที่สถานีเมโทร แต่ก็นะเอาเหอะซะหน่อย  พอขึ้นรถออโต้ริกชอว์  สักพักด้วยความเบียดเสียดเป็นปลากระป๋อง พี่สามล้อก็เริ่มบรรเลงเพลงฉ่อย พี่สามล้อ : would you like to go to the market? The market is very close, you can buy many things that you need. เรา : - -“ No, thanks. พี่สามล้อ : Why don’t you go there? It’s very good place to go. เพื่อน : We just want to go to Metro station, thanks. พี่สามล้อ (นับถือในความพยายามพี่แกจริงพับเผื่อย) : You know that market is very เรา (เริ่มรำคาญ ชิงพูด) : If you don’t go there right now, we will take a taxi to go instead. พี่สามล้อ : เงียบ................ บึ่งไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ ประเด็นคือ อิชั้นเป็นคนที่หากเขียนขอบตาล่างจะหน้าดุมว๊าก ถึงมว๊ากที่สุด และเสียงที่ก้องกังวาลทำให้ เราก็มาถึงสถานีเมโทรอย่างปลอดภัย จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:14:41

ความคิดเห็นที่ 44 แบบว่าอยากลงรูปของ กุตุ๊บมินาร์อีก จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:16:14

ความคิดเห็นที่ 45 อีกนิด...นึง จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:17:14

ความคิดเห็นที่ 46 จากนั้นก็ถึงเวลาไปที่ Red Fort ได้เลย วิธีการไป ก็ยังคงไปตามสายสีเหลืองเหมือนเดิม โดยที่ย้อนขึ้นไปที่สถานี Channdi Chowk  ตรงจุดนี้ หากเห็นว่าตู้รถไฟยังว่าง ๆ อยู่จงอย่าย่ามใจนั่งตู้ไหนก็ได้ เพราะว่าสถานีตรงนี้เป็นสถานี นอกเมือง ฉะนั้นแล้วคนยังน้อยอยู่ หากท่านผู้มีอุปการะคุณ ไม่อยากถูกเบียดกับผู้ชายเป็นปลากระป๋องแล้วล่ะก็ จงขยับย้ายก้นไปที่ตู้ สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะอย่างเร่งด่วน อย่างมีชัย  และแล้วพอเราถึงสถานี New Delhi คนประมาณ หนื่งล้านแปดแสนคนก็ทะลักเข้ามาในตู้โดยสารอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เห็นแล้วล่ะว่า ถ้าเราไม่ไหวตัวทันล่ะก็ร่างกายของเราจะต้องไหวไปตามแรงมหาชนเป็นแน่ แบบนี้ก็ดีนะ เฉพาะผู้หญิง จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:20:53

ความคิดเห็นที่ 47 และแล้ว เมื่อเราถึงสถานี Channdi Chowk ท่าน ๆ โปรดสูดหายใจให้ลึก ๆ แล้วทำใจ พร้อมรับกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ณ บัดนี้ 1. มหาชน คนเดินถนนที่มีเป็นแสน 2. รถเทียมน้องวัว 3. กลิ่นอันไม่พึ่งประลงค์ 4. เสียงรบกวนที่สะเทือนโสตประสาทแทบจะระเบิดออกมาจากรูหู เมื่อออกมาอาจจะงงว่า เฮ้ย! Red Fort อยู่ไส  ตามหาป้อมแดงยิ่งกว่าจา พนมตามหาช้างใน องค์บากเสียอีก แต่และเมื่อถามใครเขาแล้วก็ไม่มีใครรู้จักสักคน ประเด็นคือ Red Fort ไม่ได้ชื่อ Red Fort งงป่ะ คนแถวนี้เค้าเรียกว่า ลาลกีล่า จงถามเค้าว่า ลาลกีล่า ไปทางไหน แต่หากท่านรู้สึกว่า มันจะหลอกอีกมั้ยล่ะเนี่ย ท่านจงหาคนที่เป็นคนเดินถนนธรรมดาไม่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวนะเพคะ อิชั้นขอบอกเลยว่าคนธรรมดาอัธยาศัยดีมาก ถึงมากที่สุด แต่ตอนนี้ อิชั้นมีตัวช่วยเป็นแผนที่ ที่กลั่นมาจาก สติปัญญาเท่าเมล็ดถั่วของอิชั้นเอง เตรียมรับชม จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:23:28

ความคิดเห็นที่ 48 เข้ามาชมครับบบ................น่าไปมากๆเลย จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:25:26

ความคิดเห็นที่ 49 เวลาไปก็ตามลายแทงไปโลดง่ายซะไม่มีอ่ะจ๊ะ  ตรงแถวนั้นกว่าจะฝ่าออกไปคนจะเยอะมาก และร้านรวงก็เยอะมาก รถก็เยอะมาก เรียกได้ว่าอิชั้นประสาทเสียไปพักหนึ่ง  จากนั้นแล้วเมื่อเราถึงป้อมแดง สิ่งแรกเลยคือซื้อตั๋ว  เราก็มองไปทางซ้ายจะเห็น Ticket counter อยู่ในหลุมใต้ดิน ฮา ๆ จริง ๆ มันเจาะลงบันไดไปหน่อยเดียวเอง  เมื่อไปถึงอิชั้นก็เข้าช่อง Foreigner และยื่นพาสปอร์ตไทยพร้อมใบประกาศิต พี่แขกก็บอกว่า นู่น ๆ ยูไปช่องคนอินเดีย พอต่อช่องคนอินเดีย ยามก็มาไล่ - -“ อะไรจะน่าสงสารแบบนี้ อิชั้นก็บอกว่า ก็เฮียช่องนู่นบอกให้อิชั้นมาต่อช่องนี้ อ่ะ เถียงไปสักพักก็ถึงคิว  ราคาของเราคือตามคนอินเดียเป๊ะ ๆ  เงินนี่พอดีไม่ต้องทอน 10 รูปี ต่อคน 4 คน 40 รูปี ยื่นไป พร้อมพาสปอร์ต และใบประกาศิต   ราคาที่เห็นพิมพ์ไว้ 5 พร้อมภาษีอีก 5 เป็น 10 รูปี ราคาปัจจุบันยังเป็นแบบนี้อยู่นะเจ้าคะ  แพงกว่านี้นี่มิใช่ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:25:57

ความคิดเห็นที่ 50 สวัสดีค่ะคุณสายลมแห่งวิงค์   สนับสนุนให้ไปโล่ดค่าาาาา แล่วววว หลังจากนั้นก็เริ่มสำรวจ กันเลย Red Fort จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:28:11

ความคิดเห็นที่ 51 เมื่อได้แล้วท่านก็เดินเข้าไปทางประตูของป้อมแดงได้เลย ท่านอาจจะเซ็งกับการตรวจตราของโบราณสถานในประเทศอินเดีย แต่ทำใจซะเถอะเพราะมันเป็นแบบนี้ไปซะทุกที่ หลังจากนั้นท่านจะผ่านอุโมงค์ที่ มีรายขายของที่ระถึก เอ๊ย ระลึกเรียงรายเต็มไปหมดทั้งสองฟาก จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:33:13

ความคิดเห็นที่ 52 และแม้แต่ทัชมาฮาลจำลองที่ทำด้วยหินอ่อนยังมีขายที่นี่ แต่อิชั้นก็ไม่ได้ซื้อมาเนื่องจากมันเปราะบางและแตกหักง่าย ใครสนใจซื้อล่ะก็เตรียมกล่องแก้ว หรืออะไรที่แข็งแรงมาใส่ด้วย ทะลุอุโมงค์มาก็เจอมากับท้องพระโรงอันนี้ แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 16:38:29 จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:37:06

ความคิดเห็นที่ 53 บรรยากาศเล็กน้อยๆ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:39:33

ความคิดเห็นที่ 54 เอาแค่นี้พอเป็นน้ำจิ้มก็พอ จากนั้นสิ่งที่อิชั้นทำก็คือนั่งพัก และกินขนม กรั๊กๆ  คือตรงหลังสนามหญ้าที่เห็นจะมีที่นั่ง ฉะนั้นแล้วพวกเราก็ถึงเวลาเติมพลัง พร้อมน้องหมา ที่มาขอกินด้วย อิชั้นจึงกินน้องหมา เอ๊ย ! ไม่ใช่ จึงแบ่งปลาทาโร่ให้น้องหมากินด้วย แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 16:41:46 จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:41:19

ความคิดเห็นที่ 55 เวลาก็เริ่มจะหกโมงเย็นล่ะ เราก็นั่งเอื่อยๆ ไปเรื่อย ๆ จนคุณพี่รักษาความปลอดภัยมาบอกว่า ให้ออกไป พวกเราจึงต้องกลับโดยดี และแล้วพวกเราต้องฝ่าฟันอุปสรรค มากมายกว่าจะกลับได้  แนะนำว่าให้ เดินฝั่งซ้าย(หันหลังเข้าป้อมแดง)  เพราะท่านจะมีเนื้อที่ให้เดินมากกว่าปกติ   ท่านจะต้องผ่านด่านที่มีแขกพยายามโน้มน้าวใจคุณให้เข้าร้านให้จงได้  พวกเราพยายามรีบเดินให้ถึงสถานีรถเมโทรให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เพราะเริ่มมืดแล้ว มีคนเตือนว่านิวเดลีเป็นเมืองน่ากลัวตอนฟ้ามืดสำหรับผู้หญิงนักท่องเที่ยวอย่างยิ่ง   นี่คือบรรยากาศยามเย็น ของตรงข้ามป้อมแดง จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:44:36

ความคิดเห็นที่ 56 แต่จนแล้วจนรอดพวกเราก็ไม่พ้นความน่ากลัวเล็กน้อย ของนิวเดลีไปได้  เหตุการณ์ต่อจากนี้คือ หลังจากที่พวกเรากำลังจะกลับไปที่โรงแรมขิง ตรงสถานีรถไฟนิวเดลีนั่นแหละ เนื่องจากความเอ๋อ บ็องของอิชั้นทำให้ตัวอิชั้นและลูกทริป ออกจากสถานีในทางที่คนเค้าไม่ค่อยออกกัน  ขณะที่พวกเรากำลังจะเดินขึ้นบันไดเลื่อนอย่างสบายใจเฉิบ ๆ อยู่นั่นเอง สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เด็กแวนซ์กลุ่มหนึ่ง มากระโดด ไถล วิ่ง ตรงนั้น ความสูงประมาณ บ่าดิฉัน พวกเราก็ไม่ได้คิดอะไร สักพักขณะที่กำลังขึ้นบันไดเลื่อนนั่นเอง ก็มีเด็กคนหนึ่งส่งเสียงมาทางดิฉันและเพื่อน เด็ก : can  I sleep with you? ดิฉันและเพื่อน : มองหน้ากัน (เงียบ).... เด็ก (ไม่ลดละความพยายาม) : can I sleep with you ? ประโยคเดิม ๆ ซ้ำ ๆ เรื่อย ๆ จนเดินออกจากสถานี เราพบว่ามันเปลี่ยวและไกลจากที่พัก แต่ยังพอมองเห็นอยู่ คงไม่มีอะไรหรอก เด็ก(ไม่ลดละ) : Can I f__k you? ตัวอิชั้นเริ่มจะทนไม่ไหวล่ะ โชคดีที่ตัวสูงกว่าพวกนั้นเยอะเลยไม่มีอะไร ส่วนเพื่อนอิชั้นตัวเท่าพวกนั้น ต่อมามีคนนึงเดินมาหาเพื่อนอิชั้นและ พ่นควันบุหรี่ใส่ เพื่อนอิชั้นจึงเอามือปิดหน้า จังหวะนั้นเอง เด็กคนนั้นจึงเอามือเอื้อมมาจับ น๊มน่ม ของเพื่อนอิชั้น - -“ คืนนั้น พวกเราเสียน้ำไปขวดนึง เนื่องจากไว้ขว้างปาไอ้เด็กพวกนั้น เซ็งจริง ส่วนแม่อิชั้นนั้น ถูกเด็กคนนึงหยิกที่แขน เพราะไม่ยอมให้น้ำขวดที่ถืออยู่กับเด็ก  จากนั้นก็โชคดีที่มีคนเห็นเหตุการณ์ เข้ามาช่วยไล่พวกนั้นไป ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย ซาบซึ้ง จึงต้องเตือน ผู้หญิงที่อยากจะไปเที่ยวในเดลีว่า ไม่ว่า เด็ก คนแก่ หนุ่ม สาว ใด ๆ จงระวังไว้ก่อนเป็นดีที่สุด เห็นท่าไม่ดีหนีก่อน  จากนั้นพวกเราก็ไม่ไหวแล้วพอถึงโรงแรมก็สลบเหมือด  และพรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าเพื่อไปอักรา part I ขอจบลงตรงนี้นะจ๊ะ ขอม้า เอ๊ย ลาไปด้วยรูป กุตุ๊บมินาร์ ตรงนี้ และขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม และเพือน ๆพี่ ๆ ทุกท่านที่ให้ข้อมุล อิชั้นจนรอดปลอดภัยมา ณ ตรงนี้ ขอบคุณเจ้าค่ะ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:49:28

ความคิดเห็นที่ 57 น่าไปเที่ยวจัง  ขอบคุณมากครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 17:14:59

ความคิดเห็นที่ 58 เห็นเเล้วก็อยากไปจังค่ะ เเต่ก็ต้องถอนหายใจกับราคาที่เเพงขึ้น เพราะหางเเดงเลิกบินเเล้ววววว เเงๆ จากคุณ : MoMMaMjAnG เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 17:38:31

ความคิดเห็นที่ 59 ข้อมูลแน่นปึก ละเอียดมากเลยค่ะ   #2 ไปแอบดูvisa ของตัวเองไม่มีปั้มจริงๆค่ะ(ไม่ได้บอกว่าไปสิกขิมด้วย) #56 น่ากลัวมากค่ะ นี่ถ้าไปคนเดียวไม่รู้จะเป็นยังไง โชคดีที่เราไม่เจอแบบนี้ค่ะ แต่ึนมาขอตังค์ ขอขนมเยอะมากเลย (>_<) ปล. เราก้เพิ่งไปใชบริการ3เหลี่ยมทองคำมาตอน กพ. ตอนนั้นยังเย็นๆอยู่เลยค่ะ จากคุณ : กระดูกหมู เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 17:48:45

ความคิดเห็นที่ 60 อินเดียเป็นประเทศหนึ่งที่คนเที่ยวมีความเครียดพอสมควรในการท่องเที่ยว ทั้งคนเยอะ กลโกงสารพัด แตรรถยนต์ตามท้องถนน รถทุกชนิดที่สัญจรไม่มา ฯลฯ แต่นี่ก็เป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนทั่วโลกไปเยือน ขอบคุณที่ทำให้รำลึกถึงอินเดีย,,, จากคุณ : puibussa เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 18:26:31

ความคิดเห็นที่ 61 จขกท. เก่งและกล้ามากเลย เดินทางเที่ยวเอง ตอนเราไปไม่อยากไปตบตีกับแขก เลยเช่ารถเอา แล้วค่อยไปเหนื่อยตบตีตอนไปสถานที่ต่างๆ แค่นั้นพอ กุตุบมินาร์ คนไทยเสียแค่สิบรูปีเหรอคะ ตอนเราไปไม่รู้ นึกว่าต้องเสียเต็มเลยไม่เข้าไป แบบนี้ต้องไปซ่อมมมมมม จากคุณ : นางมารชุดส้ม เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 20:31:04

ความคิดเห็นที่ 62 จขกท บรรยายสนุก ข้อมูลเเน่นดีจัง รออ่านตอนต่อๆไปนะครับ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 20:53:13

ความคิดเห็นที่ 63 เล็กทาโร่ : ยินดีค่ะ MoMMaMjAnG : ลองดูของ Jet airway ม้้ยคะ กระดูกหมู : ตอนนั้นเราจ้องจะกินเลือดกินเนื้อเด็กพวกนี้ค่ะ เลยไม่มีใครกล้ายุ่ง puibussa : ยินดีค่ะ นางมารชุดส้ม : เป็นเพราะรีวิวของคุณด้วยค่ะ เราจึงกล้าไปเอง Traveller Among Mountains : ติดตามตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 22:11:22

ความคิดเห็นที่ 64 CR::::::::สามเหลี่ยมทองคำสุดคลาสิก:::::: นิวเดลี>>>> อักรา >>> จัยปูร์ PART II จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:10:16

ความคิดเห็นที่ 65 ติดตามมาจากกระทู้ที่สอง ยิ่งอ่านยิ่งมันค่ะ จากคุณ : flymom เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 01:39:04

ความคิดเห็นที่ 66 ตามคุณ flymom มาติดๆ   ยิ่งอ่านยิ่งอยากเป็นลม... ตรูไปเองคนเดียวท่าจะไม่รอด..คริ..คริ... สงสัยต้องพกยาดมไปด้วยเป็นแพ็ค... เอิ้กๆๆๆๆๆ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 06:23:58

ความคิดเห็นที่ 67 สุดยอดดดด คุณกุหลาบคิมหันต์เจ๋งอ่ะ ^^' จากคุณ : jily เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 16:26:17